ตำนานรักแห่งสายลม

9.0

เขียนโดย นิกซ์

วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 23.38 น.

  34 ตอน
  13 วิจารณ์
  33.32K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 20.00 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

21) บทที่ 18 ด่านพรายน้ำ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

หลังจากที่เจ้าชายเซตนอนพักเอาแรงพอสมควรแล้ว จึงหันมามององครักษ์คนสนิทที่ยังคงเมาค้างอยู่ เค้าทำได้เเต่ส่ายหน้า"ยังคออ่อนไม่เปลี่ยนเลย"แต่ต้องยอมรับว่า เหล้าของอาณาจกรโคเทียนี่เยี่ยมจริงๆ

เซตลงมาจากชั้นสองก็พบว่าท่านผู้รู้กำลังนั่งอ่านตำราอยู่

"ขออภัยที่ต้องรบกวนเวลาอ่านตำราของท่าน ท่านผู้รู้"

ผู้รู้ละจากตำรา"มีอะไรกับข้ารึ เจ้าชาย"

"เด็กผู้หญิงที่มากับข้านางอยู่ไหนแล้ว"

"นางออกไปเดินเล่นที่ชายหาดแล้ว อากาศกำลังสบาย"

เซตมองออกไปนอกประตูก็พบว่าเด็กสาวผู้ใช้มนตรากำลังเดินเล่นอยู่ริมหาดอยู่ไม่ไกล ในตอนนี้นางได้ปลดผ้าคลุมยาวออกแล้วนำมาถือไว้แทน และได้ปลดกระดุมคอเสื้อไปสองเม็ดเพื่อคลายร้อน เจ้าชายเเห่งเฮลเทียจึงเอ่ยถามผู้รู้"ท่านผู้รู้ ข้าขอถามอะไรหน่อยสิ"

"ว่ามาสิ ท่านเซต ข้ายินดีจะตอบท่าน"

เซตสูดลมหายใจไปทีหนึ่ง"ผู้ใช้มนตรากับคนธรรมดาจะรักกันได้รึเปล่า จะอยู่ร่วมกันได้รึไม่"

ผู้รู้ปิดตำรา"ได้สิ ความรักน่ะมันชอบเล่นตลก หากแต่ทุกๆคนย่อมมีบ้านเกิด  และไม่อาจจะบ้านเกิดมาได้ จนเกิดความกลัวเมื่อเปลี่ยนสภาพแวดล้อมที่ตนอยู่"

"งั้นเหรอครับ ถ้าหากเราสามารถก้าวข้ามความกลัวนั้นได้ล่ะครับ"

"ก็มีโอกาสอยู่แล้ว ทำไมเจ้าชายถึงถามข้าเช่นนี้"

"ไม่มีอะไรหรอกท่านผู้รู้ ข้าขอไปเดินเล่นสักหน่อยกว่าเพื่อนของข้าจะสร้างเมาคงอีกสักพัก"

ทางด้านอาเรนเทียที่ตอนนี้กำลังเดินเล่นริมหาดรับลมทะเล 

เจ้าหญิงแห่งแดนมนตรายืนนิ่งรับฟังบทเพลงที่คลื่นน้ำและกำลังบรรเลงบทเพลงจากธรรมชาติ ลมทะเลได้พัดมากระทบตัวทำให้คลายร้อนได้มาก เจ้ามังกรสีดำตัวน้อย บันบันก็บินเข้ามาคลอเคลียไม่ต่างจากแมวเลย มันกลายเป็นภาพที่น่ารักสำหรับเซต ที่ตอนนี้ได้ปลดผ้าคลุมของตนแล้วนำมาถือไว้ เค้ามองมาที่เด็กสาวผู้ใช้มนตราด้วยสายตาที่เปี่ยมสุข

"ท่านเซต"เสียงหวานของร่างบางที่กำลังเล่นกับมังกรร้องเรียกทำให้เจ้าชายเซตหลุดจากภวังค์

"มีอะไรรึเทีย"

"ท่านพักผ่อนพอแล้วเหรอ"

"ยังไม่พอมั้ง ก็เห็นอยู่ว่าข้าพักผ่อนพอแล้ว"

อาเรนเทียหน้าหงิกเล็กน้อย"ข้าถามท่านดีๆนะ แล้วท่านวินเนียสยังไม่สร่างเมารึ"

"ยังหรอก คงอีกสักพัก"

"ท่าทางจะคออ่อนน่าดู ไม่เหมือนท่านนะ"

"ก็ข้าแค่จิบไปหน่อยเดียวแต่เจ้านั่นเล่นกระดกเสียหมดแก้ว"

อาเรนเทียไม่ได้เอ่ยอะไร จึงหันไปเล่นกับบันบันแทน แล้วลอยๆขึ้น"ความจริงข้าอยากจะออกเดินทางหลังเที่ยงนะ เพราะท่านผู้รู้บอกว่าเราต้องผ่านด่านพรายน้ำ"

"ด่านพรายน้ำ?"

อาเรนเทียเอ่ยเสียงเคร่ง"ด่านนี้ทำให้พวกผู้ชายเอาชีวิตไปสังเวยมามากมายแล้ว"

"ทำไมต้องผู้ชายล่ะเทีย"

อาเรนเทียเดินเข้าไปกระซิบ"ก็เพราะพรายน้ำพวกนั้นเป็นผู้หญิง มันต้องการพลังชีวิตของผู้ชายยังไงล่ะ"ว่าจบก็ตรงเข้าไปในกระท่อม

สักพักหลังจากที่วินเนียสสร่างเมา ทั้งสามก็รับประทานอาหารร่วมกับท่านผู้รู้แล้วออกเดินทางต่อในการเดินทางนั้นลมเป็นใจ ทำให้เรือสำเภาลำน้อยแล่นได้เร็วขึ้น อาเรนเทียมองทิศทางลมแล้วเอ่ยขึ้นพลางมองแผนที่"ถ้าลมเป็นใจให้อย่างนี้เราจะผ่านด่านพรายน้ำได้ก่อนค่ำแน่"

วินเนียสในตอนนี้ทำหน้าที่บังคับเรือ โดยมีเซตคอยใช้กล้องส่องทางไกล"วินเนียสระวังด้วยข้างหน้ามีโขนหิน"

สักพัก..สำเภาน้อยก็แล่นมาสู่หน้าด่านพรายน้ำ เป็นช่องแคบที่เต็มไปด้วยโขดหิน ซากเรือและโครงกระดูกของเหล่ากะลาสีที่เอาชีวิตมาทิ้ง เวลานี้ก็เย็นแล้ว...

เซตหันมาถามเด็กสาวผู้ใช้มนตรา"เราอ้อมไปได้ไหม"

อาเรนเทียมองเเผนที่"ไม่ได้ หากเราอ้อม เราได้ไปเจอพวกโจรสลัดแน่ มันไม่อันตรายกว่ารึ แถมเราต้องเสียเวลาตั้งสองวันอีก"

วินเนียสจึงแบ่งหน้าที่"งั้นข้าจะเป็นคนขับเรือเอง ส่วนท่านเซตและเทียก็คอยดูข้างๆว่ามีโขดหินรึไม่ ดีไหม"

"ดี/เห็นด้วย"

เมื่อทั้งสามตกลงกันแล้วจึงแยกย้ายกันทำตามหน้าที่ของตน ในการแล่นเรือผ่านด่านพรายน้ำนั้นถือว่าผ่านลำบากพอสมควรเพราะสองข้างทางมีแต่โขดหินและซากเรือเก่าๆมากมาย องครักษ์ผิวเข้มต้องใช้สมาธิและพละกำลังมากมายในการบังคับเรือให้หลบโขดหินที่อาจทำความเสียหายกับตัวเรือได้  พอแล่นผ่านเข้าไปในช่องแคบเซตก็พบกับร่างบอบบางของสตรีที่นั่งอยู่บนโขดหินโดยไม่รู้สึกตัว เจ้าชายเซตก็ทำท่าจะกระโจนพรวดลงน้ำ แต่ยังดีที่ จอมเวทย์สาวได้จับบ่ารั้งไว้ก่อน

อาเรนเทียเอ่ยเสียงเครียด"พวกมันมาแล้ว"

วินเนียสที่บังคับเรืออยู่ถาม"พวกมัน?"

"พรายน้ำ"ว่าจบอาเรนเทียก็จูงมือเซตมาที่พังงาเรือ แล้วถามด้วยความห่วง"ท่านเป็นยังไงบ้าง ท่านเซต"

"ไม่เป็นไร ผู้หญิงพวกนั้นเหรอคือพรายน้ำ แยกไม่ออกเลยนะ เหมือนคนจริงๆ"ว่าจบเจ้าชายแห่งเฮลเทียก็มองไปยังสองข้างทางที่ตอนนี้เต็มไปด้วยดรุณีโฉมยงที่ไร้อาภรณ์ปกปิดกายมีเพียงเส้นผมที่ยาวเท่านั้นที่คอยปกปิดของสงวน กำลังส่งยิ้มหวานอย่างเชิญชวน

อาเรนเทียส่ายหน้า"งั้นพวกท่านมาดูร่างจริงของมันไหมล่ะ"ว่าจบเด็กสาวก็ร่ายมนต์สั้นๆ สองหนุ่มต่างฐานะจึงได้เห็นร่างจริงของนางพรายน้ำนั้นจากดรุณีโฉมงามก็กลายเป็นนางปีศาจที่มีใบหน้าที่อัปลักษณ์และน่ากลัวกำลังฉีกยิ้มให้ เซตหันมาถามจอมเวทย์สาวทันที"ทำไมเจ้าถึงไม่เป็นอะไรเลยล่ะ"

"เพราะข้าเป็นผู้หญิง มันไม่สนใจหรอก พวกมันกินพลังชีวิตของผู้ชายเป็นอาหาร นี่เป็นสาเหตุที่พวกกะลาสีเอาชีวิตมาทิ้งยังไงล่ะ"

วินเนียสออกความเห็น"ข้าว่าเรารีบออกไปจากที่นี่เถอะ"

"คงจะยากนะวินเนียส"

วินเนียสถามทันที"ทำไมรึเทีย"

เซตเป็นผู้ตอบเสียเอง"วินเนียสข้าว่าเราเจอปัญหาซะเเล้ว"ว่าจบก็ชักดาบออกมา

องครักษ์ผิวเข้มมองไปข้างหน้าก็พบปีศาจที่ท่อนบนเป็นหญิงสาวผมสีดำตาสีเหลืองผิวขาวซีด ท่อนล่างเป็นงูสีแดง มันมาขวางทางออกไว้เสียแล้ว

"ฮี่ๆๆๆ ไม่นึกว่าจะเจอเหยื่อชั้นดีเยี่ยงนี้"

เซตดึงแขนเด็กสาวผู้ใช้มนตราให้หลบหลังตนหากแต่จอมเวทย์สาวกลับก้าวเข้าไปประจันหน้า และนำมีดสั้นสีเงินออกมา เซตร้องเตือนด้วยความห่วง"เทียมีดสั้นปราบมันไม่ได้หรอก"

"ข้าจะจัดการเอง วินเนียสท่านคอยบังคับเรือนะ ส่วนท่านเซตท่านคอยช่วยคุ้มกันข้าด้วยข้าด้วย ข้าต้องการสมาธิ"

"ได้"

จากดาบเงินสั้นในมือของเด็กสาวก็แปรเปลี่ยนเป็นคฑารูปมังกรสีเงินแทน อาเรนเทียกระชับคฑาในมือ ส่วนเซตก็มายืนข้างๆ ทำหน้าที่คุ้มกัน 

นางปีศาจงูใช้หางงูเข้าจู่โจม งูมากมายพุ่งเข้ามาเซตต้องใช้ดาบสังหารเจ้างู ส่วนอาเรนเทียในตอนนี้กำลังรวบรวมสมาธิแล้วเริ่มร่ายเวทย์ 

เซตต้องคอยต้านงูร้ายที่นางปีศาจส่งมา วินเนียสต้องเข้าช่วยผู้เป็นนาย

วินเนียสตะโกนถามในขณะที่มือกำลังฟาดฟันเจ้างูร้าย"เทียเร็วเข้าหน่อย พวกเราจะต้านไม่ได้แล้ว"

อาเรนเทียจึงร่ายมนต์ให้ตัวเองลอย แล้วบินหลบหลีกการโจมตีของนางปีศาจแล้วจัดการฟาดคฑาตัดคอนางปีศาจร้าย จอมเวทย์สาวเปลี่ยนคฑาเป็นมีดสิ้นอย่างเดิม แล้วถอยออกมาที่พังงาแล้วร้องตะโกน"หาที่ยึดเร็ว!" อาเรนเทียรีบหักเรือหลบร่างของนางปีศาจที่ล้มลง เมื่อร่างของนางปีศาจล้มลงทำให้คลื่นน้ำกระเพื่อมเป็นแรงส่งให้เรือสำเภาแล่นออกจากช่องแคบได้เร็วขึ้น พอออกมานอกด่านพรายน้ำได้ ทำเอาจอมเวทย์สาวแทบหมดเเรง เซตหันกลับไปมองด้านหลังพบว่าซากงูนั้นได้กลายเป็นก้อนเนื้อเหลวๆและน้ำทะเลแทบนั้นถูกย้อมด้วยสีแดงของโลหิตของนางปีศาจร้าย วินเนียสเข้าไปพยุงจอมเวทย์สาวที่นั่งเข่าอ่อนของตรงพังงา"ไม่เป็นไรนะ"

"อืม ข้าไม่นึกว่าต้องใช้พลังมากมายขนาดนี้"

เซตอาสา"เดี๋ยวข้าพาเทียไปพัก ส่วนเจ้าก็บังคับเรือต่อก็แล้วกันนะ วินเนียส"

"พ่ะย่ะค่ะ เจ้าชาย"

เซตจึงประคองเด็กสาวผู้ใช้มนตราไปพักที่ห้อง เจ้าชยแห่งเฮลเทียสังเกตว่าสีหน้าของจอมเวทย์สาวดูอิดโรยจึงไม่อยากซักถามอะไรอีก"พักสักหน่อยนะเทีย"

ร่างบางไม่เอ่ยอะไรเดินเข้าห้องไปแต่โดยดี พอเข้าห้องมาแล้ว เจ้าหญิงแห่งคาลาสต้องล้มตัวลงบนเตียง เรี่ยวแรงแทบไม่เหลือ"ไม่นึกว่าจะใช้พลังเวทย์มากขนาดนี้"...เหตุมาจากท่านพี่อาเรสคนเดียว...คอยดูนะถ้ากลับไปเมื่อไหร่จะเอาคืนให้เข็ด...

ทางด้านซูม่า ที่ตอนนี้ได้ติดตามคอยอารักขาเจ้้าหญิงแห่งคาลาส เค้าเอ่ยขึ้น"ไม่นึกว่าพลังของเทพมังกรจะมากขนาดนี้ ท่าทางเจ้าหญิงอาเรนเทียจะหมดแรงแล้ว อย่าว่าแต่นางเลย ต่อให้เป็นข้า ถ้าต้องร่ายเวทย์ชั้นสูงแบบนั้นก็แย่แน่"เค้ารู้เพราะเค้าเฝ้าดูเหตุการณ์มาโดยตลอด เค้าไม่สามารถสอดมือเข้ามาช่วยได้เพราะหากเค้าสอดมือเข้ามา เจ้าหญิงอาเรนเทียก็จะจับได้ เวทย์ที่เจ้าหญิงแห่งคาลาสใช้ปราบเจ้าปีศาจร้ายนั้นเป็นเวทย์ระดับสูงที่ท่องได้ยาก ห้ามท่องคาถาผิดต้องการสมาธิสูง จอมเวทย์หนุ่มจึงเรียกม้าบินสีขาวพาหนะคู่ใจมาแล้วควบตามเรือสำเภาน้อยไป

"ด่านต่อไปไม่ง่ายแน่"

 

เม้นบ้างนะค่ะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา