ปีศาจแสนกล กับคนจากฟ้า

-

เขียนโดย minerva

วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 12.10 น.

  4 ตอน
  4 วิจารณ์
  6,442 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) เคลือบแคลง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Section 4

Doubt

(เคลือบแคลง)

     สถานการณ์ยิ่งแย่ลงเมื่อฉันตื่นขึ้นมาในห้องเดิม พร้อมกับร่างกายที่ดูคล้ายกับมัมมี่ มีผ้าพันแขนพันขาเต็มไปหมด เหลือแค่ส่วนหัวกับลำตัวที่ยังปกติดี ซะเมื่อไหร่! จริงๆแล้ว ฉันรู้สึกระบมไปทั้งตัวเลย แผลเก่ายังไม่ทันหาย ดันได้แผลใหม่มาประดับบนตัวเต็มไปหมด ขาข้างซ้ายนี่แย่สุด ถึงกับโดนพันผ้าแล้วขึงห้อยไว้กับเพดานห้องเลยทีเดียว ภาษามนุษย์คงเรียกว่า ผู้ป่วยขั้นโค่ม่า!

     "ตื่นแล้ว...รับข้าวเช้าเลยไหม คุณไคลที"

     และอีกหนึ่งสถานการณ์ที่ฉันต้องเคลียให้เร็วที่สุด ในขณะที่เมื่อคืนฉันเจอเหตุการณ์เลวร้ายจนร่างกายแทบพิการ แต่เจ้าของปราสาทกลับเดินเข้ามาทักทายด้วยสีหน้าเรียบนิ่งสนิทอย่างกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาเดินเข้ามาและออกไปอีกครั้งเพื่อลากโต๊ะอาหารเข้ามาเสริฟถึงที่ ซึ่งทุกอย่างอยู่ในสายตาจับผิดของฉันทั้งสิ้น เบลเปิดสำรับที่มีข้าวสวยหนึ่งจานกับแกงจืดอีกสองอย่าง เขาจัดการวางช้อนกับซ้อม เตรียมน้ำเปล่ากับรินน้ำส้มด้วยท่าทางใจเย็นสุดๆ

     "อาหารวันนี้ผมก็ทำเองอีกเช่นเคย แต่ดูจากสภาพ คุณคงทานไม่สะดวก ถ้างั้นผมจะ..."

     "พูดอะไรของคุณน่ะ คุณเบล ทำไมถึงทำเหมือนเมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คุณรู้ใช่ไหมว่าทำไมฉันถึงมีสภาพแบบนี้ แล้วคุณยังทำราวกับว่าตัวเองบริสุท"

     เบลไม่แม้แต่จะมีอาการหยุดชะงัก เขาเพียงยิ้มเล็กๆแล้วตักอาหารใส่จาน จากนั้นก็ทำท่าจะป้อนข้าวให้ แต่ฉันเม้มปากแน่นแถมด้วยการจ้องตาเขาเขม็ง

     "ผมไม่ได้ทำร้ายคุณก็แล้วกันไคลที ผมเพียงแต่ต้องการช่วยคุณก็เท่านั้น"

     เขาวางช้อนลงแล้วเปลี่ยนไปหยิบน้ำส้มมาให้แทน แต่ฉันก็เม้มปากแน่นอีกเช่นเคย จนในที่สุดเบลก็ถอดใจ เลื่อนโต๊ะอาหารออกห่าง รวมถึงตัวเขาที่ขยับไปนั่งทรุดนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียง และเช่นเคย ฉันไม่รู้ว่ามันโผล่มาตอนไหน

     "เลิกแสดงละครแล้วสารภาพกับฉันมาเดี๋ยวนี้ คุณเป็นใครกันแน่"

     ฉันถามออกไปด้วยสีหน้าจริงจัง หากเขาเป็นปีศาจร้ายจริงๆถึงฉันจะเดี้ยงแบบนี้ก็ขอสู้ตาย ดีกว่าอยู่ให้ปีศาจปั่นหัวเล่น

     "เป็นคนที่หวังดีกับคุณ นี่คิดว่าผมไม่หวังดีกับคุณหรอ ถ้าผมคิดร้ายจริงๆคงไม่ช่วยคุณถึงสองครั้งสองคราหรอก"

     "แต่คุณไม่ใช่...มนุษย์ใช่มั้ย"

     ฉันกลั้นใจถามออกไปในที่สุด แน่ล่ะ กับหลายๆเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีบ้านมนุษย์หลังไหนหรอก ที่ปีศาจจะออกมาอาละวาดอย่างอุกอาจแบบนี้ แถมเจ้าของบ้านยังไม่ทุกข์ไม่ร้อนอีกด้วย

     "แล้วคุณล่ะ ไคลที คุณเป็นอะไร"

     เบลถามด้วยสีหน้าเรียบเฉยเช่นเคย มือทั้งสองยื่มออกมาประสานกันที่หน้าตัก แต่ที่ต่างไปคืออากาศรอบตัวที่เย็นยะเยือกขึ้นมาอีกแล้ว

     "คุณไม่ใช่เหมือนที่ฉันคิดไว้จริงๆด้วย งั้นเราคงไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว เผยตัวมา เจ้าปีศาจ!"

     ฉันตะโกนก้องแล้วฝืนง้างกริดเงินบริสุทธิ์ขึ้นมาด้วยแรงอันน้อยนิด เรียกมาใช้ก็ยากแล้ว ตอนต้องใช้จริงเห็นทีจะยากกว่า ไคลทีเอ๋ย กรรมอะไรของเธอนะที่ต้องมาสู้ด้วยสภาพนี้

     "555 คุณพูดว่าไงนะคุณไคลที ปีศาจอะไร ไปกันใหญ่แล้ว ผมไม่เป็นได้ถึงขั้นนั้นหรอก"

     แล้วจู่ๆผู้ชายตรงหน้าก็หัวเราะออกมาซะงั้น เล่นเอาฉันเขวไปเลยทีเดียว

     "คุณเป็นพวกลัทธิคลั่งศาสนาใช่ไหมเนี่ย มาหาว่าคนหล่อๆอย่างผมเป็นปีศาจได้ไง ถ้าเป็นงั้นจริงป่านนี้ผมฉีกเนื้อคุณกินไปแล้ว จะมานั่งช่วยนั่งรักษากันอยู่แบบนี้ทำไม ไม่ใช่เรื่อง"

     เบลพูดยิ้มๆก่อนบิดตัวแล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่าทางสบายสุดๆ เอาล่ะสิ มาไม้ไหนล่ะเนี่ย แถมไอ้บรรยากาศยะเยือกเมื่อกี้ก็หายไปสิ้นซะงั้น พลังปีศาจอะไรก็สัมผัสไม่ได้ แต่เมื่อคืน...

     "คิดว่าฉันจะเชื่อง่ายๆหรอ ไม่มีทางที่คุณจะไม่รู้เห็นกับเรื่องเมื่อคืนหรอกนะ นี่บ้านคุณ แล้วฉันก็บาดเจ็บ คุณจะไม่รู้ได้ไงว่าฉันไปโดนอะไรมา แล้วอย่าได้มาอ้างเชียวว่าฉันเดินละเมอตกบันไดเพราะฉันไม่ใช่พวกสมองฟั่นเฟือนที่จะจำไม่ได้ว่าตัวเองไปบาดเจ็บเพราะอะไรมา!"

     "โอเค ผมจะบอกความจริงกับคุณก็ได้ แต่ขอแก้ข้อกล่าวหาก่อนว่าผมไม่ได้เป็นปีศาจร้ายอย่างที่คุณกล่าวหา ผมเป็นมนุษย์เดินดินคนหนึ่งเท่านั้น"

     เบลยกมือยอมแพ้แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง ซึ่งฉันรอฟังอยู่

     "แต่ตระกูลผม เรียกว่าตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษเลยก็ว่าได้ พวกเขาเป็นสาวกลัทธิปีศาจ บูชาซาตาน และชอบทำพิธีกรรมแปลกๆ แต่นับมาจนถึงสมัยพ่อผม ท่านเป็นคนสมัยใหม่ ล้มเลิกการบูชาปีศาจที่ทำต่อกันมาช้านาน จนในที่สุดท่านก็ได้รับอุบัติเหตุเป็นการตอบแทน เสียชีวิตไปตั้งแต่ผมยังเด็ก ผมเองก็เพิ่งย้ายกลับมาอยู่ที่นี่ ไม่นึกเลยว่าพวกมันจะตามมาด้วย และทำร้ายแขกของผม อันนี้ผมเสียใจมาก ไคลที ผมช่วยคุณได้เพียงเท่านี้ ผมต่อกรกับพวกมันไม่ได้หรอก อันนี้คุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตามนะ แต่ที่ผมยอมเล่าให้คุณฟัง เพราะผมเห็นแล้วว่าคุณเจอกับพวกมันมาแล้วและคงไม่คิดว่าผมบ้าที่เล่าเรื่องเหนือธรรมชาติให้คุณฟัง"

     เล่าจบ เบลมีสีหน้าเศร้าลงอย่างถนัดตา ฉันเองที่พูดไม่ออก เพราะกำลังประมวลผลว่าสิ่งที่เขาเล่ามามีความจริงมากน้อยแค่ไหน

     "แล้วทำไมคุณถึงไม่สารภาพกับฉันตั้งแต่เเรก ทำตัวน่าสงสัย"

     "ก็ผมกลัวคุณว่าผมบ้า เรื่องแบบนี้เป็นใครก็เชื่อยาก"

     "ฉัน...ควรทำยังไง จะช่วยคุณยังไง"

     ถามออกไปได้นะไคลที ช่วยตัวเองยังไม่ได้เลย แต่จะให้ทำไง ถ้าเรื่องที่เขาเล่ามาเป็นเรื่องจริง มันก็น่าเป็นห่วงไม่ใช่น้อยที่ต้องปล่อยให้ผู้มีพระคุณต้องเจอกับด้านมืดเพียงลำพัง โดยที่ไม่ได้ยื่นมือไปช่วยอะไรเลย

     "ขอบคุณนะที่เชื่อผม แต่คุณยังลำบากอยู่เลย และผมมีคำถามที่สงสัยเหมือนกัน"

     "จะถามว่าฉันเป็นใครสินะ คงบอกอะไรตอนนี้ไม่ได้ เพราะฉันก็ไว้ใจใครไม่ได้เหมือนกัน เอาเป็น ฉันเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ดวงกำลังดวงตกอย่างแรง ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้อีกแล้ว และเอ่อ...ถ้าฉันหายดีเมื่อไหร่จะรีบจากไปทันที คงไม่รบกวนคุณอีก"

     ฉันพูดออกไปพร้อมค่อยๆลดกริดลงไปซุกไว้ใต้หมอนตามเดิม เบลลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเดินมาท้าวแขนค่อมร่างฉันไว้เพื่อมองหน้าฉันใกล้ๆ

     "ผมว่า...ผมมีทางออกให้เราแล้วล่ะ"

     "ยะ ยังไงหรอ"

     จะเอาหน้ามาใกล้ทำไมก็ไม่รู้ หายใจไม่สะดวก >///<

     "หนีกัน!"

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา