Gogyo no gadian no dense ตำนาน 5ผู้พิทักษ์แห่งธาตุ

6.3

เขียนโดย Ormsin2541

วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.04 น.

  10 ตอน
  4 วิจารณ์
  11.92K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2559 03.46 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) การพบกันของโชคชะตา (Rewrite)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

"นี้ฉัน......อยู่ที่ไหนกันเนี่ย??" ในสถานที่ที่มืดสนิดแห่งหนึ่งมีชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ทามกลางความมืด ซึ่งหลังจากยืนหันซ้ายหันขวาอยู่นาน เขาก็ลองเดินไปดูว่าจะทางออกรึบ้าง 

เขาเป็นเด็กหนุ่มผมน้ำตาลยาวถึงหลังคอนิดๆ ดวงตาสีเขียวมรกตที่แฝงไปด้วยความอ่อนโยนและอบอุ่นจนทำให้ผู้คนที่มองมันต่างพากันหลงไหล หน้าตารูปไข่ผิวอ่อนๆหน้าคล้ายผู้หญิง  สวมชุดนอนสีเขียวลายใบไม้สีเขียวอ่อน มองรอบๆด้วยสีหน้าและท่าทางวิตกกังวล

'ทำไมมันถึงได้มืดขนาดนี้กันละเนี่ย' เขาถามตัวเองอยู่ในใจ เพราะพูดไปยังไงก็ไม่มีใครตอบได้เขาหรอก เขามองไปเรื่อยๆจนกระทันตาเขาก็เห็นอะไรบ้างอย่าง 

'หือ นั้นมันแสงอะไรนะ?' เขาคิดในใจอย่างสงสัยแล้วสักพักหน้าของเขาค่อยๆแสดงความดีใจออกมาช้าๆ 'ถ้าทางนั้นมีแสง.......ก็หมายความว่า นั้นคือทางออก!!' 

เขาไม่รอช้าแล้วรีบออกตัววิ่งไปทางแสงสว่างนั้นทันที่ด้วยรอยยิ้มกว้างแต่ว่าไม่กี่นาทีต่อมาเขาก็ต้องหุบยิ้มลงทันที เพราะว่าเขาพยายามวิ่งเท่าไรก็ยังไม่ถึงแสงนั้นสักที เขาเริ่มมีเหงื่อไหลเต็มหน้าพร้อมเริ่มหอบหายใจติดขัด ซึ่งแสดงว่าเขาวิ่งมานานมากแค่ไหน จากนั้นเขาก็หยุดวิ่งลงแล้วเอามือยันเข่าไว้พร้อมหอบหายใจด้วยความเหนื่อย

"แฮกๆๆๆ ทำไมยังไม่ถึงอีกล่ะเนี่ย!" เขาตะโกนด้วยความหงุดหงิด เพราะไม่ว่าจะพยายามวิ่งเท่าไรก็ยังไม่ถึงสักที จากนั้นเขารู้สึกแปลกๆกับแสงนั้น เพราะมันแทบไม่ขยับไปไหนเลยซะนิดมันยังคงส่องแสงอยู่กับที่แท้ๆแต่ทำไมเขาถึงวิ่งไม่ถึงซักที จนเขาเกิดฉุดคิดขึ้นมาได้อย่างนึง

"หรือว่า.......มันจะไม่ได้อยู่กับที่ตั้งแตแรก?" เขาถามตัวเองด้วยความสงสัย จากนั่นเขาก็ลองพยายามสังเกตแสงนั้นดีๆและให้แน่ใจว่าเขาคิดถูกหรือเปล่า เขามองสักพักก็จับสังเกตได้ว่าแสงนั้น....มันสั่นนิดๆเหมือนถูกบางอย่างเขย่าอยู่

'สายลม '

'เอ้ะ!!? นั้นเสียงใครน่ะ!!!?' แต่เขาไม่ทันได้คิดอะไรต่อก็มีเสียงปริศาดังขึ้นมาจากรอบทิศทาง เขาหันซ้ายหันขวามองหาที่มาของเสียงนั้นด้วยความสงสัยและตกใจ แต่ก็ไม่เจออะไร 'มาจากทางไหนกัน?'

'เธอต้องให้สายลมนำทาง '

"ใครน่ะ!! ออกมาเดียวนี้นะ" เขาตะโกนเรียกบุลคลปริศาให้แสดงตัวออกมา แต่ไม่เสียงตอบกลับมาแต่อย่างใด เขาเริ่มมองหาเจ้าของเสียงอีกครั้งแต่สุดท้ายก็หาไม่เจอ เท่าที่เขาฟันเสียงเมื่อกี้ดูแล้ว เขาคิดว่าเจ้าของเสียงน่าจะเป็นผู้หญิงอย่างแน่นอน

"ให้สายลมนำทางอย่างงั้นเหรอ?" เขาพึมพำเบาๆอย่างสงสัย จากนั่นเขาหลับตาลงพร้อมยื่นมือขวาไปข้างหน้า จากนั่นจู่ๆก็เกิดสายลมพัดมาล้อมรอบตัวเขาไว้เบาๆ เขาตั้งสมาธิแล้วฟังเสียงกระซิบจากสายลมรอบๆอย่างนิ่งสงบ หลังจากนั้นสักพักนึงสายลมสลายหายไปจากรอบๆเขาอย่างไร้รองรอย ดวงตาที่หลับอยู่ก็ค่อยๆลืมขึ้นมาช้าๆพร้อมยิ้มมุมปากนิดๆอย่างรู้ทันทั้งหมดแล้ว

"ที่แท้ก็อย่างงี้นี้เอง" เขาพึมพำเบาๆด้วยใบหน้าเข้าใจพร้อมยิ้มมุมปากนิดๆจากนั้นเขาก็เดินไปข้างหน้าสองสามก้าว ในขณะที่เขาเดินไปนั้นเองที่มือซ้ายกำลังแอบกำบ้างอย่างไว้เป็นลูกกลมๆสีเขียวใสๆเหมือนแก้ว ข้างนั้นก็มีพายุลูกเล็กๆพัดอยู่ ขนาดเท่ากับลูกเบสบอลลูกนึงสิ่งที่เขาถือไว้ก็คือ ลูกบอลพลังที่บรรจุพลังธาตุลมไว้เต็มพิกัด

"ฮึบ!!!" เขากระทืบเท้าซ้ายสุดแรงแล้วเอนตัวไปข้างหน้าพร้อมปาลูกกลมๆนั้นไปที่แสง  ลูกบอลนั้่นพุ่งไปทางแสงสว่างด้วยความเร็วสูงเกือบสามเท่าของคนธรรมดา 

ตึง!! ตุ๊บ ลูกบอลพลังงานกระแทกใส่แสงสว่างเต็มแรงจนเสียงดังสนั่นไปทั่วแล้วแสงนั้นก็หายไปพร้อมเสียงอะไรบ้างอย่างตกลงพื้น จากนั้นไม่สักพักสถานที่ที่เคยมืดสนิทก็มีแสงสว่างขึ้นมาทันตาเห็นจากรอบทิศทาง เขามองรอบสักัพกแล้วเดินเข้าไปดูสิ่งที่อยู่ตกลงบนพื้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย

"แสงสว่างนั้นมาจากเจ้านี้เอง" เขามองหิ่งห้อยที่ขนาดใหญ่กว่ากวา่ปกติสองเท่า ตัวมันเป็นสีม่วงอ่อนตัดกับม่วงเข้มจนเกือบดำสนิท ปีกของมันใสราวกับกระจกจนมองแทบไม่ออก ด้วยสีหน้าเรียบเฉย เขาลองเอาเท้าเขี่ยตัวมันดูสองสามครั้งแล้วปรากฏว่ามันนอนตายสนิท

"โฮซารุ*(หิ่งห้อย) แถมเป็น Nightmare ซะด้วย ระดับก็คงประมาณ 5-7 ได้มั้ง เกือบตายแล้วไหมละเรา" เขาพูดด้วยความโล่งอก แล้วเขาลองจินตนาการดูว่า.....ถ้าตอนนั้นเขาไม่ใช้วิชา"อิสบานิง • คูวิง (เสียงกระซิบสายลม)"ตรวจสอบดูละก็เขาคง........ไปแล้วแน่ๆ

"แต่เดี๋ยวก่อนนะ! ถ้ามีเจ้าอยู่ที่นี่ละก็......หมายความว่าที่นี้ก็คือความฝันของเรานะสิ!!" เขาพึมพำอย่างตกใจแล้วหันไปมองรอบๆตัวด้วยความรู้สึกแปลกใจ ไม่ว่าจะหันไปทางไหนมันก็เป็นสีขาวทั้งหมด "แต่ทำไมมันถึงเป็นสีขาวอย่างนี้ละเนี่ย?"

"ที่ฝันของเธอกลายเป็นสีขาวเป็นเพราะฉันเองแหละจ๊ะ" แล้วจู่ๆก็มีเสียงผู้หญิงดังมาจากข้างหลัง เขาสะดุ้งโหยงรีบหันกลับไปดูข้างหลังของตัวเองสิ่งที่เขาเห็นคือ

ผู้หญิงวัยรุ่นอายุประมาณ 22-24 ปี ผมสีเขียวเรียบเนียนของเธอมัดเป็นทรงทวินเทล ใส่ชุดนักเรียนสีเขียวสลับขาวบริสุทธื สวมกระโปรงสั้นเหนือเข่าสีนำ้ตาลอ่อน สวมถุงเท้าสีขาวและรองเท้านักเรียนสีดำ ยืนยิ้มสดใสอยู่ข้างหลังเขาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้

"คุณเป็นใคร? แล้วเข้ามาในฝันผมได้ยังไง? และที่บอกว่าที่ฝันผมกลายเป็นสีขาวนี้เป็นฝีมือคุณเนื่อหมายความว่าไงกันครับ?" เขาถามเด็กสาวคนนั้นอย่างสุขภาพด้วยความสงสัย เขามองเธอโดยไม่กระพริบเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงแม้เขาจะพูดสุภาพแต่มือซ้ายเขาก็ไขว้ไว้ข้างหลังแล้วแอบรวบรวมพลังไว้ที่มือจนกลายเป็นลูกบอลแบบเดียวกับก่อนหน้านี้

เผื่อว่าเธออาจจะเป็นเจ้าโฮซารุอกตัวที่แปลร่างมาหลอกเขาให้ตายใจก็ได้ เพราะปกติพวกมันจะอยู่กันเป็นฝูงอยู่แล้วเขาจึงต้องระวังตัวไว้ก่อน แต่ไม่แน่ว่าเจ้าโฮซารุที่นอนอยู่ข้างๆขาเขาอาจจะเป็นครามที่มันลอกทิ้งไว้เพื่อที่จะทำให้เขาเชื่อว่ามันตายแล้วจริงๆ

ระหว่างที่เด็กหนุ่มกำลังคิดวิเคราะห์ว่าควรจะโจมตีใส่เธอดีไหม หญิงสาวคนนั้นก็ยืนมองเด็กหนุ่มคนนั้นอย่างสนอกสนใจอย่างไม่ละสายตา

'อือ เด็กคนนี้มีประสาทสัมผัสที่เร็วดีแต่ยังไม่เร็วพอต่อฝึกอีกเยอะเลยแฮะ การคิดวิเคราะห์ก็ถือว่าผ่าน แล้วจากที่เห็นเมื่อกี่นี้ทักษะการใช้พลังของเขาก็คงอยู่ระดับกลางสินะ พอได้อยู่ ด้านความคิดสร้างสรรค์ในการใช้พลังก็พอดูเป็นเด็กฉลาดอยู่ ส่วนหน้าตาของเด็กคนนี้ก็....น่ารักดีเหมือนกันแฮะเหมือนผู้หญิงมากกว่าจะเป็นผู้ชายซะอีก' หญิงสาวคิดประมวลผลที่เกี่ยวกับเด็กหนุ่มคนนั้นอย่างละเอียดอยู่ในใจ โดยไม่สนใจท่าทางของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเท่าไรนัก

'เอาละ! ตัดสินใจแล้ว!! เอาเด็กคนนี้ละกัน!!!' เด็กสาวคนคิดตัดสินใจบางอย่างอยู่ในใจ แล้วก็กลับไปสนใจชายหนุ่มที่กำลังจ้องเธออย่างจะกินเลือดกินเนื้อเธอราวกับเธอพึ่งไปฆ่าครอบครัวเขามาอย่างนั่น

แต่หญิงสาวไม่สนใจสายตาของชายหนุ่มเลยแม้แต่นิดเดียวแต่เธอกลับรู้สึกแปลกใจตรงที่เด็กหนุ่มแทบไม่เรียกให้เธอตอบคำถามของเขาหรือถามเธอเลยสักนิด 

ถ้าเป็นคนอื่นละก็คงจะตะโกนใส่เธอเพื่อเรียกให้เธอตื่นจากภวังค์ความคิดมาตอบคำถามของตัวเอง หรือไม่ก็เดินเข้ามาสกิดแขนเธอไปแล้วสิ แต่เขากลับไม่ทำแบบนั้น ทำไมกันนะ?

'หืม นี้อย่าบอกนะว่าเด็กคนี้ยืนรอเรานะ?' หญิสาวงมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตาแปลกใจ ที่ชายหนุ่มไม่ยอมเรียกเธอ เหมือนกับว่าเขารอให้เธอคิดให้เสร็จก่อนยังไงอย่างงั้นแหละ นั้นทำให้เธอรู้สึกถูกใจชายหนุ่มคนนี้มากเลยทีเดียว

"แหมๆ เธอถามมาซะเป็นชุดเลยนะ เอางี้ละกัน ฉันจะตอบคำถามของเธอทีละข้อนะจ๊ะ เริ่มจากที่ ข้อที่1.ชื่อของฉันคือ วาตะ โอโซระ วาตะ ข้อที่2.และ3.นี้ข้อตอบแบบรวบลัดละกันนะ ที่ฉันทำทั้งหมดได้นั้นก็เพราะว่าฉันเป็น"สบิริตส์ โนะ โยโซะ (วิญญาณแห่งธาตุ)" ไงจ๊ะ ที่นี้หมดข้อสงสัยแล้วใช้มั้ยจ๊ะ" หญิงสาวหรือวาตะตอบคำถามของเขาหมดทุกข้อด้วยรอยยิ้มสดใสราวกับดวงตะวัน

เปรี้ยง!

ส่วนชายหนุ่มพอได้ยินคำตอบของเธอปุ้บก็เหมือนราวกับมีฟ้าผ่ามากลางกบาลของเขาเลยที่เดียว ชายหนุ่มยืนตัวแข็งโป๊ก แล้วเหตุผลที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้นั้นก็เพราะไอ้ที่เธอบอกว่าตัวเองวิญญาณแห่งธาตุนั้นแหละ 

"คะ...คุณเนี่ยนะ? เป็นวิญญาณแห่งธาตุ?" ชายหนุ่มถามเด็กสาวหรือวาตะด้วยสีหน้าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เป็นใครเขาจะเชื่อกันก็ในเมื่อวิญาญณแห่งธาตุสำหรับเขาและคนทั่วไปแล้วนั้นเป็นวิญญาณอันศักสิทธิ์ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันกว้างใหญ่และเป็นผู้มอบพลังให้กับบรรพบุรุษของพวกเขา

แล้วจู่ๆก็มีคนแปลกหน้าที่ไหนไม่รู้มาบอกว่าตัวเองเป็นวิญญาณแห่งธาตุแบบนี้เนี่ยนะ? แล้วจะให้เขาเชื่อได้ยังไงกัน

"อือ ใช้แล้วจ๊ะ ฉันนี้ละวิญญาณแห่งธาตุตัวจริงเสียงจริง ว่าแต่เธอชื่ออะไรเหรอจ๊ะ?" วาตะเอียงคอถามชายหนุ่มด้วยแววตาที่เป็นประกายระยิบระยับและความรู้สึกสนใจ ชายหนุ่มลังเลว่าจะบอกชื่อของเขาให้เธอรู้ดีหรือเปล่า แต่เขาก็ส่ายหน้าเบาๆพร้อมสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วค่อยๆปล่อยออกมาช้าๆ

"ฟู่ ผมชื่อ "คาเสะ สึบาสะ" ครับ วาตะซัง" ชายหนุ่มหรือสึบาสะพูดชื่อของตัวเองเบาอๆแต่ดังพอให้วาตะได้ยิน วาตะพยักหน้าพร้อมยิ้มสดใสให้เขาอย่างเป็นมิตร แต่สักพักจู่ๆวาตะก็แสดงสีหน้าเสียดายออกมาอย่างเห็นได้ชัดจนสึบาสะเกิดสงสัย

"เออ...มีอะไรเหรอครับ? ทำไมถึงทำหน้าอย่างนั้นครับ?" สึบาสะถามวาตะอย่างอดสงใสไม่ได้ วาตะรีบเปลี่ยนหน้าเสียดายเป็นยิ้มสดใสให้สึบาสะทันที 

"ก็ไม่มีอะไรมากหรอกจ๊ะ แค่มันหมดเวลาแล้วนะ"

"หมดเวลางั้นเหรอครับ? หมดเวลาของอะไรงั้นเหรอครับ? วาตะซ-" สึบาสะถามยังไม่จบเมื่อจู่ๆวาตะได้ยกปลายนิ้วชี้ขึ้นมาแต่ะริมฝีปากของเขา เป็นการบอกอ้อมๆว่าให้สึบาสะ 'เงียบ' สึบาสะสบตากับวาตะที่กำลังมองเขาด้วยสายตาอ่อนโยนและอบอุ่น

'สายตาแบบนี้.....คล้ายๆกับ"เธอ"คนนั้นเลย' สึบาสะคิดในใจแล้วนึกถึงผู้หญิงอีกคนที่มีสายตาเหมือนกับวาตะไม่มีผิดแต่เขาต้องหยุดคิดเมื่อวาตะยกปลายนิ้วชี้ออกจากริมฝีปากเขา

"อย่าฉันเรียกว่าซังเลยนะจ๊ะ เรียกแค่ว่าวาตะจังพอแล้วละจ๊ะ" วาตะพูดด้วยเสียงอ่อนโยนพร้อมยิ้มบางๆ แก้มสึบาสะค่อยๆกลายเป็นสีแดงจางๆจากนั่นเขาก็ค่อยๆพยักหน้าช้าๆ 

"ถ้างั้นเอาไว้พบกันคราวหน้านะจ๊ะ ไม่ใช้ในโลกความฝันแบบนี้.....แต่เป็นที่โลกแห่งความจริงนะจ๊ะ สึ-บา-สะ-จัง บายบ๊ายจ้า" วาตะพูดด้วยท่าทางเหมือนเด็กๆแล้วเธอก็กระโดดเบาๆจากนั่นตัวของเธอก็ค่อยๆค่อยๆจางลงเรื่อยๆจนหายไป

"วาตะซั- เอ้ย! วาตะจังเดียวก่อนคร้าบบบบบบบบบบบ!!!" สึบาสะพยายามที่ยื่นมือออกไปเพื่อจะจับขาวาตะแต่จู่ๆรอบตัวขาก็มืดสนิทและเขาก็ล่วงลงในความมืดที่ไร้ก้นบึ่ง แหละนั้นคือภาพสุดท้ายที่สึบาสะเห็นก่อนจะหมดสติไป

แถมท้ายจ้า

"วาตะจัง!!" สึบาสะตะโกนพร้อมเด้งตัวขึ้นมานั่งบนเตียนไม้เดี่ยวด้วยสีหน้าตกใจสุดขีด เขาหันซ้ายหันขวาแล้วที่เขาเห็นคือห้องนอนที่จัดอย่างเรียบร้อย เตียงที่เขานั่งอยู่ว่างไว้ชิดกำแพงมุมล่างขวา ที่มุมบนซ้ายของห้องมีโต๊ะไม้แบบมีลิ้นชักและชั้นหนังสือที่เก็บหนังสือมากมายไว้อยู่ ที่มุมบนขวาเป็นหน้าต่างที่มองออกจะเห็นท้องฟ้าได้อย่างชัดเจน มุมล่างซ้ายเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่จนเกือบชิดเพดานห้องของตัวเอง

แสดงว่าเขากลับมาจากโลกความฝันแล้ว สึบาสะหันไปมองนาฬิกปลุกที่วางไว้หัวเตียงปรากฏว่าตอนมันพึ่งจะ 5.20 เท่านั่น

"เฮ้อ" สึบาสะถอนหายใจเบาๆแล้วลุกขึ้นจากเตียน เขาหันไปมองหน้าต่างแล้วเดินไปยืนมองเส้นขอบฟ้าที่เริ่มจะเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีส้มอ่อนซึ่งแสดงว่าพระอาทิตย์เริ่มขึ้นแล้ว

"เป็นฝันที่ประหลาดชะมัดเลยแฮะ" สึบาสะพึมพำอย่างไม่อย่างเชื่อ จากนั่นเขาก็หันหลังเดินออกห่างจากหน้าต่างไปที่ตู้เสื้อผ้า โดยที่เขาไม่ได้สังเกตุที่หลังมือซ้ายของเขาที่มึสัญลักษณ์รูปสายลมกำลังเปล่งแสงสีเขียวอ่อนๆออกมา มันส่องแสงอยู่สักพักแล้วสัญลักษณ์ก็หายไปโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย 

ส่วนวาตะหลังจากที่เธอออกมาจากความฝันของสึบาสะ เธอนั่งไขว่ห้างมองเขาที่เมื่อกี้ยืนอยู่ตรงหน้าต่างเมื่อกี่จากบนหลังคางบ้านฝั่งตรงข้ามด้วยสายตาร่าเริงปนซุกซนราวกับเด็กได้ของเล่นใหม่ เธอยกมือขึ้นมาแล้วมองไปที่นิ้วชี้ที่เคยแตะปากสึบาสะด้วยรอยยิ้มแปลกๆรวมทั้งสายตาด้วย

"คาเสะ สึบาสะเหรอ? เป็นเด็กที่น่าสนใจจริงๆและก็......" วาตะหยุดเว้นช่วงการพูดไว้แล้วเธอเอานิ้วชี้ที่เคยแตะปากสึบาสะขึ้นมาแตะริ้มฝีปากตัวเองพร้อมหลับตาช้าๆ

"น่ารักมากจริงๆ"

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา