Gogyo no gadian no dense ตำนาน 5ผู้พิทักษ์แห่งธาตุ

6.3

เขียนโดย Ormsin2541

วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.04 น.

  10 ตอน
  4 วิจารณ์
  11.92K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2559 03.46 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) พลังที่ซ่อนอยู่ภายใน (Rewrite)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ณ ห้างโดกิโดกิ

Oki Takl

ติ้ง ติ้ง ติ้ง 

"อืม∼" ฉันค่อยๆลืมตาอย่างมึนๆแล้วมองไปรอบๆ เท่าที่เห็นตอนนี้ฉันนอนอยู่บนกองซากหินที่ไม่รู้มาจากไหนและรอบๆก็เต็มไปด้วยซากกำแพงหรือเพดานเต็มไปหมด 'นี้ฉัน.......มาอยู่ที่นี้ได้ยังไง?' ฉันถามตัวเองในใจแล้วค่อยๆพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งช้าๆ

"โอ๊ย เจ็บจัง" ฉันพูดพร้อมยกมือขึ้นกุมหัวอย่างรู้สึกเจ็บ 'จะ เจ็บหัวเป็นบ้าเลยอ้ะ' ฉันคิดอยู่ในใจอีกครั้ง จากนั่นนั่งสักแป๊บพอให้ความเจ็บน้อยลง ฉันก็ปล่อยมือออกจากหัวแล้วหันไปมองรอบๆอีกครั้ง แล้วนึกย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

'จริงสิ เกิดระเบิดขึ้นนี้น้า'

ไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้

ตอนนั้นฉัน พี่ซากุระและคารินจังกำลังจะไปจ่ายเงินค่าเสื้อผ้า เครื่องครัว และตุ๊กตาน่ารักที่เลือกมาหลายๆตัว ฉัน พี่ซากุระและคารินจังคุยกันว่าจะมาช้อบปิ้งใหม่คราวหน้า แต่จู่ๆพี่ซากุระก็หยุดเดินชะงักไปแล้วก้มมองพื้น ฉันกับคารินหยุดเดินแล้วหันมามองพี่ซากุระที่จู่ๆก็นิ่งไปอย่างแปลกใจปนสงสัย พี่เขาคุกเข่าลงพร้อมว่างของที่ซื้อมาลงพื้นแล้วว่างมือทาบกับพื้น สักพักนึงพี่ซากุระก็เงยหน้าขึ้นแล้วลุกขึ้นวิ่งไปโดยไม่สนข้าวของที่ว่างไว้

"พี่ซากุระค่ะ! จะไปไหนนะค่ะ!?" คารินจังตะโกนถามพี่ซากุระอย่างตกใจ แต่พี่เขาไม่ตอบแถบไม่หันกลับมามองเลยด้วย ฉันกับคารินไม่มีทางเลือกนอกจากจะช่วยกันเก็บข้าวของที่พี่ซากุระทิ้งไว้ขึ้นมารวมกันแล้วเอามาวางที่ม้านั่ง รวมของฉันกับคารินจังด้วยแล้วพวกเราก็วิ่งตามพี่ซากุระไป

'พี่ซากุระเป็นอะไรของพี่เขานะ?' ฉันถามตัวเองอยู่ในใจ สักพักพวกเราก็ตามพี่ซากุระทันแต่ไม่ทันที่ฉันหรือคารินจังจะถามอะไร พี่ซากุระก็หยุดวิ่งไปตรงหน้าห้องนึง ฉันกับคารินจังเห็นอย่างนั้นก็รีบหยุดวิ่งแล้วหันกมามองพี่ซากุระที่จ้องไปที่หน้าห้อง........กระเสียง? 

พี่ซากุระมาทำอะไรที่กัน? ไม่ทันที่ฉันหรือคารินจังจะถามอะไร พี่ซากุระก็เปิดประตูเข้าไปอย่างวิสาสะ ฉันกับคารินเห็นอย่างนั้นก็กำลังจะเข้าไปห้ามพี่เขาแต่ปรากฏว่าในห้องกลับไม่มีใครอยู่เลย 

'แปลกจัง? ปกติในห้องกระจายเสียงต้องมีคนคอยคุมสิ? แต่นี้กลับไม่มีใครอยู่เลยสักคน? ทำไมกันล่ะ?' ฉันถามตัวในใจอย่างสงสัย แต่ไม่คิดจะพูดเพราะพี่ซากุระหรือคารินจังคงตอบคำถามของฉันไม่ได้แน่ๆ พี่ซากุระเดินไปที่ปุ่มสัญญาณฉุกเฉินสำหรับเตือนภัยตอนที่มอนสเตอร์บุกรุกเข้ามา พี่เขาจะทำอะไรกับปุ่มสัญญาณกันล่ะ?

เพล้ง! กรี้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!!

ยังไม่ทันที่ฉันจะถาม(อีกแล้ว)พี่ซากุระก็ทุบปุ่นสัญญาณเต็มแรงจนกระจกที่คลอบปุ่มอยู่ก็แตกกระจายออกเป็ยชิ้นๆ จากนั้นเสียงสัญญาณก็ดังไปทั่วห้างซึ่งมันดึงความสนใจของลูกค้าในห้างทุกคนได้อย่างดี จากนั้นพี่เขาก็เดินไปที่เครื่องกระจายเสียงแล้วกดปุ่มเปิดไมค์แล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ

"ผู้ที่อยู่ในห้างทุกท่านค่ะ! ขอแจ้งเหตุฉุกเฉินค่ะ! ตอนนี้ได้มีมอนสเตอร์บุกรุกเข้ามาในห้างแล้วค่ะ!! ขอให้ทุกคนที่อยู่ในห้างรีบไปจากห้างเดียวนี้เลยค่ะ!!!!" พี่ซากุระตะโกนใส่ไมท์อย่างสุดเสียงแบบไม่กลัวว่ามันจะพังเลยสักนิด ฉันกับคารินจังหันมามองหน้ากับแบบงงๆแล้วหันกลับมามองพี่ซากุระที่กำลังพูดย้ำอีกครั้งด้วยสีหน้าจริงจัง 

มอนสเตอร์บุกรุกเข้ามาในห้างงั้นเหรอ? จะเป็นไปได้ไงกันละก็ในเมื่อที่ทางประตูเข้าก้ไม่เห็นมีตัวอะไรหน้ากล้วๆหรือตัวใหญ่ๆบุกเข้ามาเลยนะ หลังจากประกาศเสร็จพี่ซากุระหันมองพวกเราสองคนด้วยสายตาขอโทษและเสียดายเล็กน้อย

"ขอโทษนะทั้งสองคน ทั้งๆที่อุตส่าห์ช่วนพี่มาเที่ยวห้างแท้ๆ แต่กลับต้องมาเจออะไรแบบนี้นะ พี่ต้องขอโทษจริงๆนะ" พี่ซากุระพูดแค่แล้วยิ้มให้พวกฉันอย่างอ่อนโยนเพื่อหวังให้ฉันกับคารินจังผ่อนคลายลงแต่ดูยังก็เป็นการฝืนยิ้มชัดๆ พี่ซากุระเดินผ่านเราสองคนไปราวกับไม่เห็นเราสองคนอยู่ในสายตาแล้วออกจากห้องไปเฉยๆ

"พี่ซากุระ....รอหนูด้วยค่ะ!!!" คารินจังตะโกนเรียกก่อนจะวิ่งตามพี่ซากุระออกจากห้องไปอีกคนไปอีกคน ส่วนฉันก็ยังยืนอยู่ที่เดิมพร้อมกับกำลังคิดไปด้วยว่า ถ้าฉันสู้กับพวกมอนสเตอร์ตอนนี้.......ฉันมีโอกาศจะชนะไหมนะ? หรือจะปกป้องใครได้ไหมน่ะ? ฉันรีบสะบักหัวไล่ความคิดแบบนั้นออกไปแลัวหันไปทางประตูแล้วก้าวออกมาจากห้องกระจายเสียงไป เป็นไงเป็นกัน!!! ต้องปกป้องทุกคนให้ได้!!!!

ตู้มมมมมมมมมมมมม!!!!!!! 

แต่ฉันก้าวเท้าไปได้แค่ก้าวเดียว จู่ๆก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นจากใต้ดินห้างจนทั้งห้างสั่นสะเทือนอย่างแรงแล้วจากนั้นทางเดินและเพดานที่อยู่ตรงหน้าฉัน.........ก็ถล่ม นั้นเป็นภาพสุดท้ายที่ฉันจำได้ 

ปัจจุบัน

โอเคที่นี่เราก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นและเรามานอนอยู่ที่นี้ได้ยังไง เหลือก็แค่หาทางออกไปจากที่นี้ว่าแต่ที่นี้มันส่วนไหนของห้างละเนี่ย? หันไปมองรอบๆเพื่อหาทางออกแต่ก็ไม่เห็นวี่แววของทางออกหรืออะไรเลย แล้วจะออกไปยังไงละเนี่ย?

ติ้ง ติ้ง ติ้ง 

"หืม?" ฉันไปรีบหันไปมองตามเสียงหยดน้ำที่ดังมาจากทางซ้ายแต่ก็ไม่เห็นจะมีแอ่งน้ำตรงไหน จะว่าไปตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ? เสียงหยดน้ำมาจากไหนกัน? ฉันหันซ้ายหันขวาหาต้นกำเนิดเสียงของหยดน้ำแต่ก็หาไม่เจอแล้วตกลงมันหยดอยู่ตรงไหนละเนี่ยฉันยกมือขึ้นมาเช็ดเหงื่อบริเวณผาก พอฉันเอามือลงก็ได้กลิ่นบางอย่าง กลิ่นมันคล้ายๆ

กลิ่นคาว? มาจากไหนกัน? ฉันหันซ้ายหันขวาพร้อมลองดมกลิ่นดูแล้วปรากฏว่าต้นต่อของกลิ่นคาวก็คือ.....มือฉัน? ฉันก้มลงมองมือตัวเองแล้วเห็นเลือดเปื้อนเต็มหลังมือ ฉันก็รู้แล้วว่าเสียงหยดน้ำและกลิ่นคาวมาจากไหน มือฉันมีเลือดแบบนี้หลังจากเช็ดเหงื่อก็แปลว่าฉัน....หัวแตกค่า!!!!

"กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!" ฉันกรี้ดออกมาสุดเสียงอย่างตกใจแล้ววิ่งวนไปรอบๆอย่างกับคนสติแตก(ก็แตกจริงๆ) ฉันวิ่งวนไปมาแบบไม่ดูทางให้ดีจนชนเข้ากับกำแพงที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนเข้าเต็มๆแล้วล้มลงนอนกลับพื้นอีกครั้ง 

แต่เพราะแบบนั้นฉันถึงกลับมามีสติเหมือนเดิมและกำแพงตรงหน้าก็แตกออกจนมองเห็นสิ่งที่อยู่หลังกำแพง ที่อยู่ข้างหลังกำแพงคือประตูหนีไฟที่กลายเป็นซากไปแล้วแต่ยังพอมีไฟให้มองเห็นข้างในอยู่น่ะ 

พอฉันเห็นอย่างนั้นก็รีบฉีกกระโปรงนักเรียนออกมาพันแผนที่หัวไว้ก่อน อย่างน้อยก็ดีกว่าปล่อยให้เลือดออกเฉยๆละนะ จากนั้นฉันก็เดินเข้าไปในประตูหนีไฟโชคยังดีที่ทางมันยังไม่มากจนพอเดินไปได้ล่ะน่ะ

"เอาละ เราต้องตามหาพี่ซากุระกับคารินจังก่อน" ฉันพึงพำกับตัวเองเบาๆ เมื่อมีเป้าหมายแล้วฉันก็ก้าวเดินเข้าไปตามทางหนีไฟอย่างระวัง โดยที่ในหัวฉันตอนนี้คิดอยู่แค่สองอย่างเท่านั่นคือ อย่างที่หนึ่ง รีบตามหาพี่ซากุระกับคารินจังให้เจอให้เร็วที่สุดและรีบพาออกไปจากซากห้างนี้ซะ และอย่างที่สองคือ........หากระโปรงตัวใหม่มาใส่ให้เร็วที่สุด เพราะใส่แบบนี้มันน่าอายแปลกๆน่านะและที่สำคัญมันรู้สึกเย็นขาแปลกๆด้วยค่ะ

 Oki Stay speech

ตัดมาทางฮิคาริ

"อะ อืม" ฮิคาริค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆแล้วสิ่งแรกที่เธอเห็นคือ ดาวมากมายบนฟ้า เธอกระพริบตาสองสามครั้งเพื่อปรับสายตาแล้วพอสายตากลับมาปกติ ก็เห็นเพดานที่อยู่เหนือขึ้นไปที่ถูกบ้างเจาะทะลุไปถึงดาดฟ้าจนสามารถมองเห็นดาวได้เลยทีเดียว

"นี้เรา...ยังไม่ตายงั้นเหรอ?" ฮิคาริพูดอย่างแปลกใจ เธอค่อยๆพยุงตัวขึ้นนั่งช้าๆแล้วก้มมองตัวเองปรากฏว่ามีรอยถลอกเล็กๆตามแขนและขาและเสื้อกับกระโปรงขาเล็กน้อย ฮิคาริมองตัวเองด้วยความแปลกใจยิ่งขึ้น 

'ทำไมเรามีแผลแค่นี่ละ? ทั้งๆที่โดนระเบิดเข้าไปเต็มๆแบบนั้นแล้วแท้ๆ?' ฮิคาริคิดในใจอย่างสงสัยแต่แล้วเธอก็แสดงสีหน้าตกใจออกมาเมื่อนึกอะไรออก 

"พี่ซากุระ!!!" ฮิคาริตะโกนอย่างจกใจแล้วรีบลุกขึ้นหันซ้ายหันขวามองหาซากุระโดยคาดหวังว่าเธอน่าจะนอนหมดสติอยู่ใกล้ๆ แต่ก็ไม่เจอ สีหน้าของฮิคาริซีดลงแล้วเริ่มคิดไปต่างๆนาๆ

"พี่ซากุระ!! พี่อยู่ไหนค่ะ!!!" ฮิคาริตะโกนสุดเสียงเท่าที่จะทำได้แล้วเดินตามหาซากุระ เธอมองรอบๆด้วยสายตากังวล เธอจำได้แล้วว่าทำไมเธอถึงมีแผลแค่นิดเดียวทั้งๆที่โดนแรงระเบิดเข้าไปเต็มๆแบบนั้น 

สิ่งสุดท้ายที่เธอจำได้ก็คือ....เธอเดินตามซากุระไปติดๆแล้วจากนั่นก็เกิดระเบิดขึ้นมาจากพื้นตรงหน้าพวกเธอ ตอนนั่นฮิคาริมวลแต่ตะลึงจนไม่ทันได้ป้อนกันตัว ส่วนซากุระที่เห็นแบบนั้นก็หันมาหาฮิคาริพร้อมปล่อยเพลิงทิวาออกจากตัวจนเหมือนกำลังถูกเปลวเพลิงปกคลุมตัวไว้ จากนั่นเพลิงค่อยๆกางออกเป็นโล่เพลิงทรงกลมขนาดใหญ่ที่พอจะป้อนกันคนได้ถึงสี่ถึงเจ็ดคน และสิ่งสุดท้ายที่เธอจำได้คือ....อ้อมกอดของซากุระที่กอดเธอไว้อย่างอ่อนโยนแล้วเธอก็หมดสติไป

"ถ้าตอนนั้นเราไม่มัวแต่สนใจพี่ซากุระละก็...." ฮิคาริพึมพำเบาๆอย่างกังวลแล้วเดินมองไปเรื่อยๆ สักพักสายตาเธอก็เหลือกไปเห็นปลายผมสีน้ำตาลตรงช่องระหว่างหินใหญ่สามก้อนทับซ้อนอยู่ ฮิคาริมองซากหินอย่างตกใจแล้วรีบวิ่งไปที่หินสามก้อนนั้นอย่างร้อนรน

"พี่ซากุระ!! อยู่ในนี้หรือเปล่าค่ะ!!!! ถ้ายังมีสติอยู่ก็ช่วยตอบด้วยค่ะ!!!!" ฮิคาริตะโกนสุดเสียงอย่างร้อนรนแล้วทุบหินแรงๆเพื่อหวังให้เสียงทุบปลุกคนที่อยู่ข้างในให้ตื่นขึ้นมา แต่ก็ไม่มีเสียงใดๆส่งตอบกลับมาเลยแม้แต่น้อย นั้นยิ่งทำให้ฮิคาริร้อนรนมากขึ้น 

"พี่ค่ะ!!! ตอบหนูหน่อยสิค่ะ!!!!!" ฮิคาริยังคงพยายามตะโกนต่อให้คนที่อาจเป็นซากุระได้ยิน แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมาเช่นเดิม ฮิคาริเงยหน้ามองซากหินตรงหน้าด้วยสีหน้าร้อนรนแล้วกางมือซ้ายและมือขวาจากนั่นก็ปล่อยเพลิงทิวาขนาดเท่าปืนกระบอกนึงและเท่าลูกธนูออกมา 

จากนั่นเธอค่อยๆเปลี่ยนรูปร่างเพลิงในมือซ้ายให้เป็นไปตามที่เธอจินตนาการไว้ เพลิงค่อยๆเปลี่ยนรูปร่างกลายหน้าไม้ขนาดเล็กสีขาวสะอาดมีช่องใส่ลูกธนูทั้งหมดสามช่อง ส่วนมือขวาเพลิงค่อยๆเปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นธนูหน้าไม้หัวระเบิดขนาดเล็กสีขาวสามลูก 

'ต้องรีบแล้ว!!' ฮิคาริคิดในใจแล้วรีบขึ้นสายหน้าไม้แล้วใส่ลูกธนูเข้าช่องทั้งสามโดยพยายามให้มือนิ่งที่สุด จากนั่นเธอก็กระโดดถอยออกมาจากจุดนั่นเล็กน้อยแล้วยกหน้าไม้ขึ้นเล็งซากหิน ฮิคาริค่อยๆถอนหายใจเบาๆเพื่อปรับอารมณ์ของเธอให้สงบลง จากนั่นก็กลั้นหายใจหายเพื่อให้มือนิ่งเหมือนนักแม่นปืนมืออาชีพ

"ไลท์บอม!" ฮิคาริตะโกนเบาๆแล้วลั่นไกหน้าไม้ ลูกธนูหน้าไม้ทั้งสามพุ่งออกไปเป็นเส้นสีขาวสามเส้น ตูม!! เข้ากระแทกก้อนหินทั้งสามแล้วระเบิดออกอย่างรุงแรงจนไม่เหลือซากอะไรนอกจากฝุ่นควันที่ปกคลุมไปทั่วพื้นที่ตอนนี้ ฮิคาริสลายหน้าไม้ในมือให้หายไปแล้วรีบวิ่งเข้าไปดูในกลุ่มควันด้วยท่าทางร้อนรน

'ขอร้องละ!! อย่าเป็นอะไรเลยนะค่ะ!!! พี่ซากุระ!!!!'

ตัดกลับไปมาทางโอกิ

Oki Will Come back toTalk agian

'นี้ฉันเดินไปตามทางมาตั้งหลายนาทีแล้วนะ? เมื่อไรจะถึงทางออกซะที?' ฉันบ่นกับตัวเองในใจอย่างหงุดหงิด จะไม่ให้บ่นได้งั้นล่ะค่ะ เดินไปเท่าไรก็ไม่ถึงทางออกสักที ฉันหันซ้ายหันขวาเพื่อหาทางไปต่อ.......แต่มันดันไม่มีทางให้ไปต่อให้น่ะสิ แถมแสงไฟก็ค่อยๆเหรี่ลงทีละนิดแล้วด้วยสิ ต้องรีบเดินออกไปหน่อยแล้วล่ะ

"................."

"หืม?" ฉันหยุดเดินแล้วหันมองไปรอบๆด้วยความสงสัย ฉันได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังอยู่ไม่ห่างมากนัก ว่าแต่มันเสียงอะไรล่ะ? ฉันหลับตาลงแล้วรวบรวมสมาธิไว้ที่หูทั้งสองข้างเพื่อจะได้ยินเสียงนั้นได้ดีขึ้น หวังคงไม่ใช้เสียงมอนสเตอร์นะ

"......ระ.......กุระ......."

"เสียงเด็กผู้หญิง? ใครกันน่ะ?"

".......กุระ........ซา......กุระ......."

"เสียงมันคุ้นๆหูจัง.......เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนเลย?" ฉันพึงพำกับตัวเองเบาๆอย่างสงสัย เสียงมันคุ้นมากจริงๆ ฉันคิดอย่างนั้นแล้วค่อยๆเดินไปอย่างระมัดระวังโดยที่หลับตาอยู่พร้อมกับมือก่ายกำแพงไปด้วย ที่ฉันทำอย่างนี้เพราะจะได้ระบุที่อยู่ของเจ้าของเสียงได้ เสียงเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆจนะเริ่มฟังออกบ้างแล้ว

".......ซา......กุระ.......พี่.....ซากุระ......ค่ะ"

"ใกล้แล้ว.......อีกนิดเดียว" ฉันพึงพำกับตัวเองอีกครั้งแล้วเดินเร็วขึ้นเพราะเสียงนั้นอยู่ไม่ไกลนัก แถมอยู่ห่างแค่ไม่ก้าวเอง ฉันพอมั่นใจแล้วว่าเจ้าของเสียงเป็นใครแต่ยังไม่แน่ใจเท่าไรนัก แต่ถึงยังก็ต้องไปดูให้แน่ใจก่อนจะดูว่าใช้คนเดียวกับที่เราคิดหรือเปล่า?

".........พี่ซากุระ.........พี่ซากระค่ะ! พี่ซากรุะ!! ทำใจดีๆไว้นะค่ะ!!! พี่ซากุระ!!!" ฉันหยุดเดินเพร้อมกับลืมตาขึ้นแล้วหันมามองกำแพงที่คาดว่าเจ้าของเสียงจะอยู่อย่างกตกใจ เสียงของคารินจังนี้น่า!! เกิดอะไรขึ้น!!! แล้วพี่ซากุระเป็นอะไรไป!!!! ฉันรีบตรงไปหากำแพงทุบตัวกำแพงไปมาเบาๆเพื่อหาจุดที่เบาะบางที่สุดจะได้ทำลายได้เลยที่เดียว

กึก 'ตรงนี้ไง!!! เจอแล้ว!!!!' ฉันหยุดมือที่จุดๆนึงของกำแพงคาดว่าน่าจะเบาะบางที่สุด พอฉันเจอจุดเบาะบางแล้วก็ไม่รอช้า ฉันรีบรวบพลังเพลิงแห่งวารีไว้ที่มือซ้ายโดยที่กะระดับพลังให้พอเหมาะและแน่ใจว่าจะไม่ไปโดนพวกคารินจังที่อยู่หลังกำแพง รอสักพักมือซ้ายของฉันก็ลุกเป็นเพลิงสีฟ้าใสขึ้นมาซึ่งแสดงว่าพลังพอเหมาะแล้ว เอาล่ะน่ะ!!!!

"ย้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!" ฉันปล่อยหมัดออกไปอย่างสุดแรงไปที่กำแพงตรงหน้า ตูม!!!!!!!!  หมัดของฉันสัมผัสกับกำแพงมันก็ระเบิดออกและแตกกระจายออกเป็นชิ้นๆ แหละฝุ่นก็ลอยคลุมไปทั้งทางหนีไฟ ฉันรอให้ฝุ่นจางลงสักพักแลัวฉันก็รีบวิ่งเข้าไปในช่องว่างทันทีโดยไม่รอให้เสียเวลาไปมากกว่านี้ พอเข้าฉันเห็นคารินจังนั่งจับมือพี่ซากุระที่นอนหมดสติอยู่ในกองเลือด!!

"คารินจัง!! นี้มันเกิดอะไรขึ้น!?" ฉันถามคารินจังด้วยสีหน้าร้อนรน คารินจังเงยขึ้นมามองฉันด้วยสายตาร้อนรนและรู้สึกผิดไปะในตัว หน้าของคารินจังตอนนี้มีแต่คราบน้ำตา แปลว่าเธอต้องร้องไห้มากนานมากแล้วแน่ๆิ คารินจังมองฉันสักพักเธอก็ลุกขึ้นแล้ววิ่งเข้ามากอดฉันด้วยอาการตัวสั่นอย่างตื่นกลัว ที่นั่งจ้องฉันเมื่อกี้คงอยากให้แน่ใจก่อนว่าใช้ฉันตัวจริงหรือเปล่า...มั้งนะ?

"พี่โอกิ ฮึก ค่ะ ฮึก ช..ช่วยพี่ซากุระ ฮึก ด้วยค่ะ" คารินพูดขอให้ช่วยพร้อมกับสะอื้นไปด้วย ฉันพยักหน้าให้คารินจังฉันดันเธอออกเบาๆ แล้วรีบเดินไปนั่งข้างๆพี่ซากุระแล้วตรวจอาการของพี่เขาดูว่าอาการสาหัสแค่ไหน

'อาการของพี่ซากุระ ตอนนี้มีแผลอยู่ที่หัวเล็กน้อย แผลแค่นี้เอาผ้ามาพันไว้ก่อนได้ ส่วนแผลใหญ่สุดอยู่ที่หัวไหล่ซ้ายยาวลงมาถึงข้อศอกดูเหมือนจะถูกของมีคมหรืออะไรสักอย่างมาสินะ อันนี้ตอนรักษาด่วนเลย ก่อนอื่นต้องรีบห้ามเลือดก่อน.......แต่ตอนนี้เราไม่มีอุปกรษ์อะไรเลย แล้วทำยังไงดีล่ะ?' ฉันถามตัวเองในใจ แผลของพี่ซากุระหนักมากแถมเลือดยังไหลไม่หยุดแบบนี้........ถ้าไม่รีบรักษาละก็จะเสียเลือดตาย 

ถ้าฉันสามารถใช้พลังเพลิงแห่งทิวาได้ละก็อาดจะบรรเทาอาการลงได้บาง แต่ฉันไม่มีแถมไม่มีอะไรพอจะใช้ห้ามเลือดได้เลยสักชิ้น ฉันอุตส่าห์หาทั้งสองเจอแล้วแท้ๆแต่กลับมาไร้ประโยคตอนนี้เนี่ยน่ะ! แต่ในระหว่างที่ฉันคิดอยู่นั้นก็มีภาพนึงเด้งขึ้นมาในหัว ถ้าคนที่ใช้เพลิงทิวาได้ล่ะก็.........มีอยู่อีกคนนึงนี้น่า!!! คารินจังเองก็เป็นผู้ใช้เพลิงทิวานี้งั้นก็น่าจะช่วยพี่ซากุระได้!

"คารินจัง พี่ขอยืมพลังของเธอหน่อยนะ" ฉันรีบหันมาพูดกับคารินจังที่ยืนอยู่ข้างหลังฉันด้วยสายตาคาดหวัง แต่คารินจังยังยืนอยู่ที่เดิมด้วยสีหน้าลังเลและหวาดกลัวในเวลาเดียวกันแถมน้ำตาก็ครอเบ้าพร้อมที่จะไหลออกมาตอนไหนก็ได้อีกต่างหาก 

เธอกำลังกลัว.........กลัวจนไม่มั่นใจใตัวเองว่าจะทำได้ไหม ฉันเข้าใจคารินจังอยู่นะ เพราะในสถานะการอย่างนี้เป็นใครก็กลัวและยิ่งมีคนที่รู้จักกันมานานมาบาดเจ็บอยู่ตรงหน้าด้วยแถมตัวเองที่ไม่เคยมีประสบการณ์รักษาใครมาก่อนจู่ๆต้องมารักษาคนแบบนี้.......ก็สมควรที่จะกลัวอยู่หรอกน่ะ 

แต่ถ้าปล่อยไว้แบบนี้พี่ซากุระก็จะตาย!!! และคนที่จะเสียใจมากที่สุด...........ก็คือ "เขา" คนนั้น...........ฉันไม่อยากจะเห็นน้ำตาและสีหน้าเศร้าสร้อยของเขาด้วย ฉันคิดอย่างนั้นแล้วลุกขึ้นเดินไปหาคารินจังแล้วกุมมือเธอเบาๆ คารินจังมองหน้าฉันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความลังเลและหวาดกลัวอยู่ข้างใน

"คารินจัง พี่รู้น่ะ ว่าเธอไม่มั่นใจในตัวเองและหวาดกลัว.......แต่คนที่จะช่วยพี่ซากุระเขาได้ ตอนนี้ก็มีแต่เธอเท่านั้นน่ะ" 

"ตะ แต่ว่า หนู....."

"เชื่อมั่นในตัวเองเข้าไว้.........เราจะช่วยพี่ซากุระได้แน่........เชื่อพี่สิ" ฉันพูดให้กำลังใจกับคารินจังอย่างอ่อนโยนแล้วบีบมือที่กุมอยู่เบาๆเพื่อยืนยันในคำพูด คารินจังมองหน้าฉันด้วยสีหน้าที่ดีขึ้นแถมความหวาดกลัวในแววตาของเธอก็หายไปแล้วเหลือแต่ความลังเลที่น้อยลงไปมาเท่านั้นเอง ลงไปได้หน่อยก็ยังดีล่ะน่ะ

"จะให้หนูทำอะไรค่ะ? รีบบอกมาเลยค่ะ พี่โอกิ" คารินจังถามฉันหลังจากยกแขนขึ้นมาเช็ดน้ำตาที่ครอเบ้าออก ฉันพยักให้แล้วดึงเธอมานั่งข้างๆ ฉันแล้วเริ่มอธิบายวิธีช่วยพี่ซากุระให้เธอฟัง

"เอาละ เราจะแบ่งหน้าทีกัน เริ่มจากให้คารินจังรวมเพลิงทิวาไว้ที่มือทั้งสองข้าง จากนั้นให้เอามือที่รวมเพลิงทิวาไว้แล้วมาทาบที่แผลของพี่ซากุระเพื่อให้แผลมันสมานกัน ส่วนฉันจะใช้เพลิงวารีค่อยควบคุมเลือดไม่ให้ไหลไปมากกว่านี้เอง เข้าใจนะ?"  ฉันพูดพร้อมถามคารินจังไปด้วยสีหน้าจริงจัง  คารินจังพยักหน้าแล้วจุดเพลิงทิวาขึ้นที่มือทั้งสองข้าง เธอหลับตาลงแล้วเริ่มรวมพลังไว้ที่มือทั้งสองข้างอย่างใจเย็นและช้าๆเพื่อไม่ให้ใช้พลังมากเกินจำเป็นเพราะมันอาจส่งผลเสียกับพี่ซากุระได้

ฉันมองจนแน่ใจว่าคารินจังโอเคก็เริ่มรวมพลังเพลิงวารีไว้ที่ปลายนิ้วทั้งห้านิ้วทั้งสองข้างจนไฟลูกเล็กๆสีฟ้าลุกมาขึ้นตามหัวนิ้วทั้งสิบ ฉันก็สะบัดมือทั้งสองข้างไปที่แผลของพี่ซากุระจากนั่นเลือดของพี่ซากุระที่ไหลอยู่ก็ค่อยๆหยุดไหลช้าๆแล้วก็นิ่งอยู่กับที่

'คงอยู่ได้ประมาณ 10 - 15 นาทีสิล่ะ' ฉันคิดในใจแล้วเหล่มองคารินจังที่ตอนนี้ตั้งสมาธิรวบรวมพลังเพลิงทิวาให้อยู่ที่มือทั้งสองข้างเสร็จเรียบร้อย เธอว่างมือข้างหนึ่งลงไปที่ไหลซ้ายพี่ซากุระเบาๆ ส่วนอีกข้างก็เลื่อนมาอยู่เหนือแผลที่ข้อศอกแล้วจากนั้นแสงสว่างสีขาวก็ส่องแสงออกมาจากมือทั้งสองข้างของคารินจัง 

ฉันก้มมองแขนซ้ายของพี่ซากุระที่แผลค่อยๆสมานลงช้าๆ พลังพอดีเป๊ะและไม่มีอาการต่อต้านด้วย.........ถ้าปล่อยไว้แบบนี้สักพักพี่ซากุระหายดีแน่ๆ แต่คงทำให้แค่รักษาพื้นฐานเท่านั้น ต้องรีบพาพี่เขาไปหาหมอด่วนที่สุด 

ครืนๆๆๆ แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่ฉันคิดเมื่อจู่ๆรอบๆตัวพวกเราก็เกิดแผ่นดินไหวไม่ใช้แค่นั้นเพดานที่อยู่เหนือหัวพวกเราก็ถล่มลงมา ฉันเงยหน้ามองไปที่เพดานที่กำลังตกมาสลับกับคารินจังที่ตอนนี้มียังคงมีสมาธิกับการรักษาแขนของพี่ซากุระจนไม่รู้สึกตัวว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันอยากเรียกเตือนแต่ทำไม่ได้เพราะถ้าคารินจังเสียสมาธิเมื่อไหร่......แขนพี่ซากุระก็คงกลับมาแย่หรือหนักว่าเดิมแน่ๆ 

แล้วฉันควรทำยังดีละ? จะหยุดมือที่หยุดเลือดพี่ซากุระอยู่แล้วหันไปจัดการเศษเพดานที่กำลังถล่มลงมา แต่ถ้าทำแบบนั้นเลือดของพี่ซากุระก็จะไหลออกมาจนหมดตัวก่อนที่คารินจังจะรักษาเสร็จก็ได้หรือว่าบอกให้คารินจังเปลี่ยนจากรักษาเป็นป้อนกันแท้แต่ถ้าทำแบบนั้นคารินก็เสียทั้งพลังเพลิงและเวลาไปเปล่าๆนะสิ ทำยังไงดี? ถ้าเป็นพี่มิสึกิจะทำยังไง? ถ้าเป็นพี่ซากุระใช้วิธีไหน?  ฉันควรทำยังไงดี.......ใครก็ได้บอกที........สึบาสะคุง

"ไม่เป็นไรค่ะ โอกิ เดียวดิฉันจะช่วยคุณเองค่ะ" จู่ๆฉันก็ได้ยินเสียงของใครบางคนมากระซิบข้างหู ยังไม่ทันทีฉันจะหันไปมองเมื่อจู่ๆไหลขวาของฉันก็มีสัญลักษณ์รูปเหมือนสายน้ำสามเส้นโผล่ขึ้นมาแล้วส่องแสงสีฟ้าขึ้นมาจนน่าแสบตา แต่ฉันกลับไม่รู้สึกแสบตาเลยสักนิดกจากนั่นฉันก็รู้สึกเหมือนมีพลังมากมายมหาศาลกำลังไหลเข้ามาในตัวฉัน ไหลเข้ามามันเหมือนสายน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากมายังไม่มีวันที่สิ้นสุด 

นะ นี้มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย!? ฉันถามตัวเองในใจด้วยความสงสัยแต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พูดอะไร แขนขวาของฉันจู่ๆมันก็ยกขึ้นข้างบนโดยที่ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย ขะ แขนมันขยับไปเอง!? จากนั้นแสงที่ไหล่ขวาก็ไหลมาที่มือจากนั้นก็เกิดแสงจ้าสีฟ้าใสพุ่งใส่เศษเพดาน เศษเพดานที่โดนแสงสีฟ้าใสจากมือฉันเข้าไปมันก็กลายเป็นของเหลวสีหินแล้วลอยมารวมกันอยู่เหมือนหัวฉัน 

จากนั่นมือฉันมันก็สะบัดไปทางอื่นเองโดยที่ฉันไม่ทำอะไรเลย จากนั่นของเหลวที่ลอยอยู่เหนือหัวฉันก็ลอยไปตามทางที่มือฉันสะบัดไป ฉันมองทางที่เศษเพดานที่กลายเป็นของเหลวลอยไปด้วยความรู้สึกตะลึงแลัวจากนั้นฉันก็หันมามองสัญลักษณ์ที่ไหล่ขวาฉันตอนนี้ได้หายไปแล้ว ฉันหันไปมองทิศทางที่เศษเพดานที่กลายเป็นของเหลวนั้นลอยไปอีกครั้งด้วยความรู้สึกที่ยังไม่หายตะลึง ฉันค่อยๆก้มมองมือของตัวเองด้วยความสงสัยและสับสน สัญลักษณ์เมื่อตะกี้และพลังที่ฉันใช้ไปเมื่อกี้นี้มันคืออะไรกัน???

"พี่โอกิค่ะ?" ฉันสะดุ้งแล้วเงยหน้าฃมองคารินจังที่กำลังจ้องฉันด้วยสายตาสงสัยและเป็นห่วง โดยที่เธอยังปล่อยเพลิงทิวารักษาพี่ซากุระไม่หยุด

"เป็นอะไรเหรอค่ะ? หนูเห็นพี่มองมือตัวเองมาได้สักพักแล้วนะค่ะ?" คารินจังมองมาที่มือฉันด้วยสายตาสงสัย ฉันรีบส่ายหน้าแล้วสะบัดมือกลับไปที่แผลของพี่ซากุระอีกครั้ง ดูเหมือนคารินจังจะไม่เห็นตอนที่เราใช้พลังประหลาดเมื่อกี้นะ?

"ไม่มีอะไรจ๊ะ ไม่มีอะไรจริงๆ" ฉันพูดแล้วก็ยิ้มบางๆให้คารินจังเพื่อให้เธอสบายใจขึ้น คารินจังมองฉันด้วยสายตาจับผิดอยู่สักพักเธอก็ก้มหน้ารักษาพี่ซากุระต่อ ฉันแอบก้มมองมือของตัวเองอีกครั้งฉันอดคิดและสงสัยไม่ได้จริงๆว่าพลังเมื่อกี้นี้มันคืออะไร มาจากไหนและมายังไงกัน แต่ที่น่าคิดกว่าก็คือเสียงกระซิบเมื่อกี้นี้เป็นของใครกันนะ????

Oki Takl End

แถมท้ายจ้า

กลับมาทางสึบาสะตอนเขากำลังวิ่งไปทางห้างที่พวกโอกิอยู่ด้วยสภาพชุดนักเรียนที่ถอดเสื้อสูทออกแล้วและข้างๆเขาคือวาตะที่บินอยู่ตามเขาอย่างใกล้ชิดพอดีไม่ใกล้ชิดจนเกินไป

"พี่ ฮิคาริจัง โอกิจัง ขอให้อย่าเป็นอะไรเลยนะ" สึบาสะพึมพำกับตัวเองเบาๆ แต่ดังพอที่วาตะจะได้ยินแล้ววาตะก็บินมาสะกิดแขนของสึบาสะ สึบาสะหันไปมองวาตะ

"สึบาสะจัง ถ้ายังวิ่งอยู่อย่างนี้ละก็คงอีกนานละกว่าจะถึง" วาตะพูดด้วยท่าทางสบายๆได้เร่งรีบอะไร สึบาสะได้ยินสิที่วาตะพูดเขาก็หยุดวิ่งแล้วทันทีแล้วหันมามองวาตะด้วยสายตาไม่พอใจเล็กน้อย

"แล้วจะให้ผมทำยังไงครับ? จะให้บินไปหรืองั้นกันครับ" สึบาสะถามวาตะด้วยน้ำเสียงประชดประชัน แต่วาตะพอได้ยินก็ยิ้มที่มุมปากขึ้นมาอย่างพอใจอะไรบ้างอย่าง

"ใช้ ฉันจะให้เธอบินไป"

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา