วัยรุ่นหิมพานต์

7.9

เขียนโดย โชจัง

วันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 19.15 น.

  20 บท
  38 วิจารณ์
  23.12K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 20.23 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

12) วันๆ กับไอ้หล่อ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”

               เสียงกรีดร้องด้วยความเขินอายจากหญิงสาว ผสมปนเปไปกับเสียงโห่ร้องแห่งความยินดีของชายหนุ่ม ดังสนั่นหวั่นไหวอย่างกึกก้องไปทั่วทุกหนแห่ง ณ โรงเรียนสุวัฒนา สายตาทุกคู่ต่างจดจ้องไปยังที่เดียวกัน นั่นคือบริเวณลานกว้างใจกลางอาคารทั้งสี่ ที่ซึ่งกันกับเอ็กซ์กำลังประสานมือกันเอาไว้อย่างแนบแน่น ท่ามกลางนักเรียนนับสิบที่เฝ้าดูอยู่อย่างใจจดใจจ่อบนอาคาร

นั่นหมายความว่าทุกคนที่นี่ต่างเป็นสักขีพยานแห่งเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์นี้ เมื่อทายาทแห่งหนุมานและพระลักษณ์ กันกับเอ็กซ์ได้ร่วมจับมือเป็นพันธมิตรกัน ก่อกำเนิดเป็นทีมอันไร้เทียมทานทีมใหม่แห่งสุวัฒนา เสมือนคลื่นลูกใหม่ที่พร้อมจะถาโถมใส่ทุกคนในไม่ช้า

“กันกับเอ็กซ์จับมือกันแล้วว๊อย!!!”

               ขณะที่บนชั้น ๔ บริเวณอาคารเรียนตึกหลังสุด บริเวณหน้าห้อง ม.๔/๘ ก็อต ผู้เป็นเหมือนนักข่าวประจำโรงเรียน ถึงกับหยิบกล้องที่วางไว้เมื่อครู่ขึ้นมาถ่ายแทบไม่ทัน เพราะหากเขาพลาดเก็บช็อตเด็ดสำคัญนี้ไป ก็คงนับว่าพลาดมหันต์เลยทีเดียว เขารัวชัทเตอร์อย่างต่อเนื่องด้วยความตื่นเต้น ไม่ยอมพลาดทุกท่วงท่าในเหตุการ์นี้แม้แต่วินาทีเดียวเลย

“...”

               ทว่า ถึงแม้เหล่านักเรียนนับร้อยจะร่วมกันแสดงความยินดีด้วยการส่งเสียงดังกึกก้องออกมาซักเท่าไร แต่มีเพียงหนึ่งคนเท่านั้นที่ไม่มีอารมณ์ร่วมเลยแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำ ยังมีท่าทีหวั่นไหวและวิตกังวลโดยไม่แสดงออกอีกตะหาก เขาคือติ๊กที่กำลังยืนดูอยู่ห่างๆ ข้างๆ กับก็อต ซึ่งภายใต้ใบหน้าอันแน่นิ่งและเย็นชานี้ คงมีอะไรบางอย่างซ่อนไว้ในใจเป็นแน่แท้

 

วัยรุ่นหิมพานต์

บทที่ ๑๒ วันๆ กับไอ้หล่อ

 

               หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นภายในโรงเรียนสุวัฒนา และข่าวคราวนั้นเล็ดลอดถึงหูของก็อต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยหรือเรื่องใหญ่โตเพียงใดก็ตาม เชื่อได้เลยว่า ไม่เกินวันรุ่งขึ้น ทุกๆ คนในโรงเรียนก็ได้รู้ได้เห็น เฉกเช่นเดียวกับเขาอย่างแน่นอน

               ยกตัวอย่างง่ายๆ จากนักเรียนหญิง ม.ต้น ธรรมดาๆ สองคนนี้ พวกเธอกำลังเดินไปตามทางเดินของอาคารเรียนในเวลาพักเที่ยง พลางสนทนากันอย่างสนิทสนมตามประสาเด็กนักเรียน และหัวข้อการสนทนานี้เอง ก็คือประเด็นร้อนเมื่อวานก่อน เรื่องของกันกับเอ็กซ์นั่นเอง

“แล้วมันไปสนิทกับพี่เอ็กซ์ตอนไหนวะ?” นักเรียนหญิงผมสั้นหน้าม้าทางซ้ายถาม "กูไม่เห็นได้ข่าวเลย"

“กูก็ไม่รู้เหมือนกัน”" อีกคนเกล้าผมม้าสั้นๆ ตอบ "อยู่ๆ ก็สนิทกันซะงั้น”

“โห แต่กล้ามากเลยนะเนี่ยที่มาตีซี้เข้าพวกกับเซเลบโรงเรียนอย่างเงี้ย"

“กูว่าไม่นะ เห็นหลายคนบอกอยู่ว่าพี่เอ็กซ์อยากได้มันเข้าพวกแต่แรก จะได้เอามาเป็นกำลังเสริมอ่ะ”

“จะเสริมทำไมวะ แค่นี้ก็... เดี๋ยวนะ? ทั้งๆ ที่ไอ้กันมัน..." แต่ก่อนที่สาวน้อยจะพูดจบประโยค เธอก็ถูกเพื่อนของเธอร้องตะโกนด้วยความดีใจขัดจังหวะเสียก่อน

“เฮ้ย! นั่นไงมาแล้ว!"

               ช่างบังเอิญยิ่งนัก ที่บุคคลที่พวกเธอกำลังมาถึงได้ปรากฏตัวให้เห็นแล้ว สิ่งที่สาวน้อยผูกผมชี้นิ้วให้เพื่อนอีกคนดูด้วยความตื่นเต้นนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นกลุ่มของนักเรียนชาย ม.ปลาย เกือบๆ สิบคน ที่กำลังเดินสวนทางตรงมาทางพวกเธอโดยไม่ทันให้ตั้งตัวนั่นเอง

               ที่สำคัญคือ พวกเขาแต่ละคนล้วนแล้วแต่ไม่ธรรมดาเสียเอาเสียเลย เพราะถึงระยะทางจะอยู่ห่างออกไปไกล แต่แสงออร่าแห่งความหล่อเย้ายวนใจที่เปล่งประกายออกมาดั่งไฟสปอตไลท์ ก็เจิดจ้าเสียจนทำให้ทั้งสองถึงกับต้องหลบไปอยู่ข้างหลังเสาด้วยความเขินอายเลยทีเดียว            

"พี่เอ็กซ์!!!"

               ผู้ที่เดินนำหน้าทั้งหมดนั้นคือเทพบุตรสุดหล่อประจำโรงเรียน เอ็กซ์นั่นเอง ในวันนี้ เขามาพร้อมใบหน้าอันเปล่งปลั่งกับผมที่จัดทรงเป็นระเบียบเช่นเคย แถมยังมีเสื้อแจ็คเก็ตหนังสีดำตัวใหม่ด้วยอีกตะหาก ท่าทางรวมถึงอิริยาบถต่างๆ ช่างสง่างามยิ่งนัก การก้าวเท้าช้าๆ ดั่งนายแบบ บวกด้วยสีหน้าสุขุมแฝงด้วยความเย่อหยิ่ง ยิ่งเพิ่มความเท่ห์ให้กับตัวเขาขึ้นอีกเป็นทวีคูณ ถึงกับทำให้สองสาวที่ได้แต่แอบมองอยู่หลังเสา ต้องเขินอายจนหน้าแดงก่ำทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว

"คนอะไรวะ แม่งหล่อสัสยังกับเทพบุตร"

"เขิน เขิน! กูเขินจนทำอะไรไม่ถูกแล้วเนี่ยยยยย"

               และเมื่อถึงระยะทางที่ใกล้พอ เอ็กซ์ก็ไม่ลืมที่จะตอบแทนเหล่าแฟนคลับตัวน้อย ด้วยการขยิบตาซ้ายพร้อมกับรอยยิ้มกระชากใจให้ทั้งสอง เป็นเหมือนคาถาพิชิตใจสาวน้อยวัยบ้าผู้ชายให้อยู่ในอาณัติ ก่อนที่เขาและพรรคพวกจะค่อยๆ เดินผ่านพวกเธอไปช้าๆ ในที่สุด

"นั่นไง พี่เค้ายิ้มให้กูด้วย" สาวผมเปียอวดเพื่อนด้วยความดีใจ

"บ้าเหรอ เค้าขยิบตาให้กูตะหาก" สาวน้อยผมสั้นเถียง

"ใช่ที่ไหนเล่า ให้กูสิ"

"หน้าอย่างมึงเนี่ย เค้า...."

               แต่ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังโต้เถียงกันเรื่องรอยยิ้มกระชากใจจากชายในฝันอยู่นั้นเอง ชายในโลกแห่งความจริงก็ดูเหมือนจะมาปรากฏต่อหน้าพวกเธอเสียแล้ว

              คงเป็นเพราะออร่าแห่งความหล่อของเอ็กซ์นั้นเจิดจ้าเสียจนคนอื่นๆ ถูกบดบังชนิดที่ว่าแทบจะไม่เหลือตัวตนเลยแม้แต่น้อย สองสาวคงลืมไปแล้วว่า ผู้ที่เดินนำหน้าควบคู่มากับเอ็กซ์เมื่อครู่นี้คือกันนั่นเอง

               บัดนี้ เขาก็ได้ละทิ้งกลุ่มเพื่อนที่กำลังเดินไปข้างหน้าออกมา ก้าวถอยหลังมาอยู่ต่อหน้าพวกเธอ สองมือล้วงกระเป๋า หันหน้าใส่ด้วยรอยยิ้มที่พยายามเก๊กให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หวังจะได้รับความสนใจแบบเดียวกับที่เอ็กซ์ได้ โดยไม่ดูภาพรวมของตนเองเลยแม้แต่น้อย

"..."

               ยิ้มอย่างเดียวคงไม่พอ ชูนิ้วเป็นรูปปืน แล้วยกขึ้นมาตั้งฉากกับคางเหมือนกำลังจะถ่ายรูป พวกเธอคงจะสนใจเป็นแน่

"..."

               สงสัยความพยายามยังน้อยไป ยักคิ้วสองข้างพร้อมกันแบบนี้ หน้าตาของกันคงจะหล่อขึ้นเป็นกอง ที่เหลือ ก็หวังแต่สองคนนี้จะพอมีไมตรีจิตเข้าใจความรู้สึก

"..."                                        

               แต่ถึงจะพยายามเก๊กหล่อเพียงใด กิริยาท่าทางที่เขาแสดงออกมากลับเหมือนคนโรคจิต เรียกร้องความสนใจเสียมากกว่า และด้วยความอับอายที่แสดงออกมาจากใบหน้าของกัน สองสาวจึงอดรู้สึกเห็นใจเป็นไม่ได้ จำเป็นต้องทำตามที่เขาต้องการอย่างเลี่ยงไม่ได้

"กรี๊ด พี่กันนี่หล่อจังเลยเน๊อะ" สาวน้อยผมสั้นขึ้นเสียงสูงชมกัน แสดงถึงความจริงใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

"ต๊ายตาย หน้าตาเหมือนพี่เอ็กซ์เปี๊ยบบบบบเลย" สาวน้อยผมเปียพูดด้วยน้ำเสียงโคตรจะจริงใจให้

"..."

               ทว่า ถึงจะได้รับคำชมตามที่ต้องการแล้วก็ตามที แต่เขากลับไม่มีความรู้สึกภูมิใจในคำชมอันแสนจะจริงใจเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย ดูท่า คงมีแต่ต้องยอมรับความจริงได้แล้วว่า ระหว่างเขากับเอ็กซ์ มันก็ไม่ต่างอะไรจากนรกชั้นต่ำสุดกับสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เลยแม้แต่น้อย

"ขอบใจจ่ะ"

 


 

 

               ล่วงเลยมาจนเวลาอาหาร กันก็ยังไม่อาจทำใจลืมความอัปยศที่ได้รับจากรุ่นน้องสองคนนี้ได้เลย ถึงกับต้องระบายตัดพ้อกับเพื่อนๆ กลุ่มใหม่ บนโต๊ะที่แน่นขนัดด้วยนักเรียนชายนับสิบใจกลางโรงอาหาร ทุกคนต่างมีจานข้าวเป็นของตัวเอง จะมีก็เพียงแต่เขาคนเดียวกระมังที่มีเพียงแท่งหวานเย็นในมือสองข้างเท่านั้นเอง

"กูว่านะ กูแม่งไม่เหมาะกับพวกมึงจริงๆ นั่นแหละ" คำพูดของกันเล่นเอาทั้งโต๊ะฉงนไปตามๆ กันทีเดียว

"เฮ้ย" เอ็กซ์ดูจะตกใจที่สุด "ไหงงั้นวะ"

"โอเค งั้นมึงออกไปเลย" มาร์คที่อยู่ข้างๆ แสดงท่าทียียวนอย่างเห็นได้ชัด

"ขอบใจมากที่ให้คำแนะนำ" กันทำทีจะลุกขึ้นตามคำพูดของมาร์คทันที

"มาร์ค อย่าปากหมา" เอ็กซ์เตือน "เกิดไรขึ้นวะ?"

"มึงก็ดูหน้าพวกมึงแต่ละคนกันสิวะ" กันชี้นิ้วหาเพื่อนคนอื่นๆ ทั้งหลาย ซึ่งหน้าตาแต่ละคนก็หล่อไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย " กูจะว่าไงดีวะ คือกูก็ไม่ได้ไรมากนะ แต่กู..."

"ง่ายๆ คือมึงเหี้ยไง" หลังจากเงียบมาตั้งนาน มิคก็เพิ่งจะมีโอกาสพูดเสียที และถึงจะเป็นเพียงคำพูดสั้นๆ แต่นั่นก็สร้างความเสียหายแก่จิตใจกันอย่างสาหัสเลยทีเดียว

"มึงพูดถูก สหายมิค!" กันลุกพรวดขึ้นมาอย่างไม่บอกกล่าวใครในทันใด "ได้! กูไปล่ะ"

"เฮ้ย ใจเย็นกูล้อเล่น" มาร์คยิ้มเยาะ

"แต่กูพูดจริงนะ" มิคยิ้มเยาะ

"เอาน่าๆ มึงนั่งลงก่อน" เอ็กซ์กล่อมกันจนสำเร็จ "มึงอย่าคิดสิวะว่าแค่นี้จะทำให้มึงแตกต่าง พวกกูก็แค่นักเรียนธรรมดาๆ ทั้งนั้นแหละ"

"แต่คนอื่นมันคิดงั้นน่ะสิวะ" กันบอกด้วยความเคร่งเครียด "แก๊งไอ้หล่อบ้างแหละ ดาวโรงเรียนบ้างแหละ เซเลบเงี้ย? หน้าอย่างกูอ่ะเศษเล็บไม่ว่า!!!”

"โธ่ มึงอย่าไปฟังเลย มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญทั้งนั้นนี่หว่า"

"เรื่องบังเอิญ?"

"คือมึงเลือกเกิดไม่ได้หรอกว่าหน้าตามึงจะออกมาเป็นไง กูก็แค่บังเอิญมีพ่อหล่อ แม่สวยก็เท่านั้นเอง มันเป็นเรื่องบังเอิญของกรรมพันธุ์ กฎแห่งเมนเดลล้วนๆ" เอ็กซ์อธิบาย "ว่าง่ายๆ ก็เป็นเพราะพ่อกับแม่มึงล้วนๆ เลยไง หรืออาจเป็นกรรมของชาติปางก่อนก็ได้ใครจะรู้"

"..." แทงใจดำไปเต็มๆ "นี่มึงหลอกด่ากูเหรอ?"

"เปล่าๆ นี่ไม่ได้ด่าเลย" เอ็กซ์ยิ้มบอก "พูดเรื่องจริงเค้าไม่เรียกว่าด่าหรอก"

"..." กันอึ้งไปอีกซักหน่อย และเริ่มครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

"แล้วก็ที่สำคัญนะ หน้าตามึงก็ไม่ได้เหี้ยขนาดนั้นซักหน่อย" อยู่ๆ เอ็กซ์ก็ยื่นมือขวาเข้ามาจับมือกันเอาไว้อย่างแนบแน่น เล่นเอากันสะดุ้งด้วยความไม่ชอบมาพากลไปเลยทีเดียว "ที่มึงเป็นอย่างนี้ก็เพราะภาพลักษณ์ของมึงเองไม่ใช่รึไง แต่กูรับประกันได้เลยนะ ถ้าอยู่กับพวกกู ทั้งชื่อเสียง ทั้งภาพลักษณ์แย่ๆ ของมึงจะต้องหายไปอย่างแน่นอน มึงจะยอมเป็นแค่ไอ้บ้าหัวแหลมที่มีแต่คนกลัวรึไง หรือมึงจะเปลี่ยนตัวเองให้กลายมาเป็นแบบพวกกู เป็นคนที่ทั้งโรงเรียนรู้จัก กลายเป็น "ชายผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโรงเรียน" แบบที่มึงฝันไว้ยังไงล่ะ"

"ยิ่งใหญ่งั้นเหรอ..." กันเริ่มคล้อยตามคำพูดของเอ็กซ์จนเขินลอยไปเลยทีเดียว "มึงนี่พูดได้โดนใจกูจริงๆ"

"ใช่ ก็เพราะเราเป็นเพื่อนกัน"

"กิ๊งก่อง กิ๊งก่อง"

 


 

               เวลาพักทานอาหารเที่ยงได้หมดลงไปตามเสียงกริ่งที่ดังขึ้นมาเสียแล้ว เพราะฉะนั้น เมื่อได้เวลาเริ่มคาบเรียนคาบบ่าย กันจึงจำต้องแยกกับเอ็กซ์และเพื่อนใหม่ทั้งหลายเหล่านี้ กลับมานั่งยังห้อง ม.๔/๘ ของเขา กับเพื่อนๆ ที่รู้จักกันมาแต่แรกแล้วนั่นเอง

 "กูว่าสหายเอ็กซ์มันก็เป็นคนดีเหมือนกันนะ" จู่ๆ กันก็พูดขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

"..." ติ๊กที่นั่งข้างๆ จึงเป็นอันสงสัยว่าเขาพูดกับใครอยู่กันแน่

"ว่างั้นมั้ยสหายติ๊ก" เขารู้คำตอบแล้ว

"..." แต่ติ๊กก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าจะตอบกลับไปว่าอย่างไร "แล้วไหงอยู่ๆ ถึงมาถามกูล่ะวะ?"

"ก็พวกมึงสองคนเคยรู้จักกันมาก่อนไม่ใช่รึไง?" กันหันหน้ากลับไปถาม "ท่าทางสนิทกันด้วยนี่"

"ก็ไม่ถึงขั้นว่าสนิทกันหรอก..." ติ๊กตอบกลับไปแบบงงๆ "ก็พอ พอรู้จักน่ะ..."

"..." กันจ้องหน้าติ๊กด้วยความสงสัย "นี่มึงโกรธกูเหรอวะ?"

"เรื่องเหี้ยไรเนี่ย!?” ติ๊กปฏิเสธทันควัน "อยู่ๆ มึงก็ถามกูเรื่องไอ้เอ็กซ์ แล้วนี่ยังคิดว่ากูโกรธมึงอีก วันนี้มึงเป็นเชี่ยไรเนี่ย"

"ก็ไม่รู้ดิ" กันตอบ "ก็วันนี้กูไม่ได้ไปแดกข้าวกับมึงไม่ใช่รึไง?"

"เฮ้ย มึงฟังกูก่อนนะ" ติ๊กเถียงเสียงดัง "อย่างแรกคือมึงเห็นว่าระหว่างมึงกับกูมีอวัยวะส่วนไหนติดกันรึไง อย่างที่สองคือ ก่อนที่มึงจะย้ายมากูก็แดกอย่างงี้ทุกวันอยู่แล้ว แล้วสุดท้าย ไม่มีมึงมาคอยถามนู่นถามนี่ตอนกูกำลังแดก กูแม่งโคตรมีความสุขเลยว่ะ"

"..." กันดูเหมือนจะยังไม่เข้าใจอะไร "สรุปก็คือมึงโกรธกูสินะ"

"เออ แล้วแต่มึงจะคิดเหอะ" ติ๊กหันหน้ากลับไปด้วยความงุนงง "ต่อไปมึงก็ไปแดกกับไอ้พวกนั้นจนจบ ม.๖ เลยละกัน"

"แต่กูว่ามึงก็สนิทกับมันพอควรนะ" กันบอก "ไม่มาแดกด้วยกันวะ?"

"ฝันไปเหอะ" ติ๊กดูจะไม่สบอารมณ์อย่างแรง "ถ้าให้แดกกับมันนะ กูคง..."

"ถ้าไอ้คนไร้ตัวตนอย่างมึงเข้ากลุ่มแก๊งดาวโรงเรียนนั่นได้นะ..." อยู่ๆ ก็อตก็เดินตรงเข้ามาหาพวกเขาในห้องเรียนโดยไม่ทันให้ตั้งตัว "กูคงอยากโดดตึกตายไปเลยล่ะ"

"มึงอีกแล้วเหรอก็อต?" ติ๊กเริ่มรำคาญเวลามันผลุบๆ โผล่ๆ แบบนี้เต็มทนแล้ว

"อ้อ เมื่อกี้คงพูดแรงไปหน่อย" ก็อตหัวเราะเยาะเบาๆ "เอาเป็นว่าถ้ามีเด็กมากรี๊ดมึงกูยอมเอาหัวจุ่มโถส้วมเลยเอ้า"

"มึงพูดแล้วนะ" กันย้ำ "กูจะรอวันนั้นละกัน"

"ว่าแต่มึงเหอะ" ก็อตลากเก้าอี้ข้างหลังมานั่งคุยกับกัน "หมู่นี้เห็นไปไหนมาไหนกับไอ้พวกแก๊งหล่อนั่นตลอดเลยนี่หว่า"

"ก็จะเป็นไรไปวะ?" กันยิ้มถาม "ดูๆ ไปพวกมันก็คนดีทั้งนั้นเลยไม่ใช่รึไง?"

"เออ อยู่แค่ในโรงเรียนมึงคงไม่รู้ไรนักหรอก" ก็อตหัวเราะเบาๆ

"หมายความว่าไงวะ?" กันถาม

"มึงอย่าคิดว่าไอ้พวกนั้นเป็นแค่ไอ้พวกขายหน้าตา เดินไปเดินมาให้หญิงกรี๊ดนะเว้ย" ก็อตเตือน "ความจริงแม่งมีไรเยอะกว่าที่ใครคิดอีกน่ะ"

"ยิ่งพูดยิ่งงง" กันเริ่มสงสัยขึ้นเรื่อยๆ "มึงบอกมาตรงๆ เลยดีกว่าเหอะ” “ง่ายๆ คือมึงได้มีเรื่องทุกวันสมใจแน่”

               เป็นดังที่ก็อตว่าไว้จริงๆ ด้วย นับจากที่กันได้เข้าร่วมกับกลุ่มเพื่อนใหม่ซึ่งเต็มไปด้วยชื่อเสียงและความโด่งดังอันล้มหลาม ความเชื่อมั่นและความไว้ใจที่มีต่อเอ็กซ์ในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง ได้ทำให้ชีวิตของเขาไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไป

 


 

พื้นที่พักสายตา


 

วันอังคาร

               ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นในเย็นวันถัดมา เอ็กซ์ได้ชักชวนให้พรรคพวกของเขา ไม่ว่าจะเป็นมิค มาร์ค หรือแม้กระทั่งตัวกันเอง รวมแล้วทั้งสิ้น ๗ คน ยกพวกมายืนรอบนสะพานลอย หน้าโรงเรียนวัดสุวรรณเมฆา โรงเรียนที่มีชื่อเสียงด้านนักเลงอีกโรงเรียนหนึ่งในเมืองขีดขิน

               ดังนั้น จุดประสงค์ของเอ็กซ์จึงไม่ใช่อื่นใด มันคือการหาเรื่องกันซึ่งๆ หน้านั่นเอง และเมื่อนักเรียนชายฉกรรจ์ทั้ง ๓๐ คน ของโรงเรียนนี้มาถึง บรรยากาศแห่งความดุดันก็แผ่ไปทั่วสะพานลอยนี้ในที่สุด

               สีหน้าของเอ็กซ์และพรรคพวกอันดุดันนั้น แสดงถึงการเตรียมใจในการต่อสู้ได้เป็นอย่างดีทีเดียว ก็คงมีกันเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยังงงๆ กับสิ่งที่อยู่ต่อหน้า และเมื่อครุ่นคิดไปถึงบทสนทนาเมื่อวานก่อน เขาก็คงรู้เสียทีว่าสิ่งที่ก็อตพูดถึงนั้นคืออะไรกันแน่

/นี่กูมาทำเหี้ยไรแถวนี้วะเนี่ย.../ กันนึกคิดด้วยความงุนงง

"ไง" เอ็กซ์ที่อยู่ข้างๆ ถาม "พร้อมจะลุยกันยัง"

"หะ? อ๋อ.. เอ่อ.. ใช่!" สภาพเหมือนพึ่งจะตื่น "ลุย? ลุยเหี้ยไรวะ?"

/โง่จริงๆ ให้ตายเถอะ/ เอ็กซ์เอามือขวากุมขมับแล้วจึงหันกลับมาเพื่ออธิบายความรู้ขั้นพื้นฐานให้แก่กัน "มึงเห็นไอ้พวกที่อยู่ตรงหน้าป่ะ นั่นแหละที่มึงต้องทำ"

"..." สมองกันคงจะต่ำตมเกินกว่าที่เอ็กซ์จะคิดแล้ว

"โอเคดูนี่นะ"

               ละอองแสงสีทองปกคลุมร่างของเอ็กซ์อย่างรวดเร็ว เมื่ออยู่ในร่างเทวพิภพกายสีเหลืองเช่นนี้ เขาจึงใช้พลังของนารายณ์พร รวบรวมละอองแสงสีม่วงนับล้านมาไว้รอบๆ ท่อนแขนซ้ายจนเปล่งประกายงดงาม ยิงลำแสงสีม่วงออกจากมือขวา เข้าใส่นักเรียนของอีกฝ่ายคนหนึ่งจนกระเด็นออกไปในเวลาอันรวดเร็ว นั่นคงพอทำให้กันเข้าใจได้เป็นอย่างดี

"ตามนี้แหหละ"

"อ๋อ!" กันยิ้มรับพร้อมละอองแสงสีทองที่เข้ามาปกคลุมร่างของเขา ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังวิ่งกรูเข้ามาหานั่นเอง "อย่างงี้ค่อยเข้าใจง่ายหน่อย"

"ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

               ถึงแม้จำนวนจะต่างกันลิบลับ แต่สุวัฒนานั้นก็ยังมีทีเด็ดที่คนเก่งๆ อย่างกันกับเอ็กซ์ ในขณะที่คนอื่นๆ ที่เหลือใช้วิธีสู้กันตัวต่อตัว ลิงขาวและหนุ่มหล่อกายสีเหลืองทองสองคนนี้ กลับสามารถจัดการศัตรูจำนวนมากมายได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว ด้วยวาโยพรของกันที่สามารถบุกเข้าประชิด และโจมตีศัตรูจนล้มได้ในพริบตาเดียว และนารายณ์พรของเอ็กซ์ ที่แค่การโจมตีระยะไกลทีเดียวก็มีประสิทธิภาพพอแล้ว ดังนั้น การต่อสู้นี้จึงจบลงภายในชั่วอึดใจ

               ผลการต่อสู้นั้นเป็นไปตามคาด วัดสุวรรณเมฆายังไม่มีใครที่พอจะมีฝีมือเทียบเท่าสองคนนี้ ร่างอันไร้สติของนักเรียนผู้เคราะห์ร้ายนับสิบ ที่นอนกองอยู่บนสะพานลอยนั้นสามารถแสดงถึงความน่ากลัวของสุวัฒนาได้เป็นอย่างดีทีเดียว

 


 

วันพุธ

               วันต่อมา ก็เหมือนกับวันก่อนหน้า เพียงแต่สถานที่ในคราวนี้เปลี่ยนมาเป็นบริเวณหน้าปากซอยแทน คู่ต่อสู้ในคราวนี้ก็คือโรงเรียนอิสลามศรีธรรมราชทั้งหมด ๔๒ คน ที่กันเคยประมือมาแล้วนั่นเอง เพราะฉะนั้นหัวหน้ากลุ่มจึงไม่ใช่ใครอื่น เขาคือบังยี่ คนแคระบนส้นตึกอันหลอกลวง ผู้เคยโดนกันจัดการมาแล้วครั้งหนึ่งนั่นเอง

               ทว่า ถึงแม้เหล่านักเรียนจากสองโรงเรียนจะมาถึงสนามรบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่พวกเขากลับได้แต่ยืนจดจ้องหน้าใบหน้าของอีกฝ่ายบนทางเท้าอยู่อย่างเดียว โดยไม่มีท่าทีว่าจะเริ่มสู้กันเสียที

               อาจเป็นเพราะเหตุผลด้านสมาชิกของสุวัฒนาก็เป็นได้ ฝ่ายของเอ็กซ์นั้นถึงจะมีจำนวนถึงสิบคนแล้วก็ตาม แต่ก็ดูเหมือนจะขาดสมาชิกใหม่อย่างกันไปหนึ่งคน ดังนั้น ปลายสายที่เอ็กซ์กำลังใช้สังข์แนบหูคุยอยู่ จึงมีความเป็นไปได้ว่าที่ปลายสายต้องเป็นเขาแน่นอน

"เฮ้ยเอ็กซ์!!!" มิคที่อยู่ข้างๆ ตะโกนเรียกเสียงดัง "เสร็จยังวะ!!!"

"เออ รอเดี๋ยวน่า แม่งยังไม่รับเลยเนี่ย" เอ็กซ์ตอบด้วยความหงุดหงิด "มาแระ เฮ้ย! อยู่ไหนแล้ววะ!!!"

"หา? ถึงแล้วก็รีบมาสิวะ"

"ไรนะ?"

               เอ็กซ์ชะโงกหน้ามองออกไปยังเบื้องหลังของฝ่ายอิสลามศรีธรรมราช และสิ่งที่เขาเห็นก็คือ กันที่กำลังยืนเอาสังข์แนบหู พร้อมโบกมือขวาเรียกอยู่หน้าปากซอย กับวินมอเตอร์ไซค์ที่กำลังจอดรออยู่ข้างๆ ไกลออกไปจากพวกเขาประมาณ ๑๐ ม. นั่นเอง

"..." เอ็กซ์นิ่งเงียบไปชั่วครู่ด้วยใบหน้าที่แสดงถึงความอนาถใจ ก่อนจะตอบกลับไปว่า "ไม่มีตังค์จ่าย?"

"เสร็จยังวะ เร็วๆ สิโว้ย ห่าราก" เสียงก่นด่าดังมาฝ่ายอิสลามศรีธรรมราชอย่างต่อเนื่อง "มึงจะสู้ไม่สู้เนี่ย อย่าชักช้าดิ๊!!!"

"เร็วเข้าสิวะเอ็กซ์!" มิครีบเร่งเข้าไปใหญ่

"อ๋อ ไม่มีแบงค์ย่อย วินก็ไม่มีทอนเหรอ...? มึงก็เป็นลูกเจ้าเมืองไม่ใช่รึไงวะ จ่ายค่าวินซักร้อยเบี้ยมันจะเป็นไรไป?" เอ็กซ์เริ่มเดินไปเดินมาด้วยความเคร่งเครียดเหมือนคุยธุรกิจอยู่นาน "อ่ะๆ กูยอมมึงก็ได้ แล้วทีนี้จะให้ทำไง?"

               หลังจากเจรจามากันซักพัก เอ็กซ์ก็วางสายแล้วเก็บสังข์เข้าไปไว้ในกระเป๋าโจงกระเบนตามเดิม จากนั้นจึงหันหน้าไปหาเพื่อนๆ ทั้งหลายเพื่อขอร้องอะไรบางอย่าง

  "คือ..." เอ็กซ์ทำท่าเกรงใจนิดหน่อย "ใครมีพดด้วงยี่สิบมั่ง สิบเบี้ยสองเหรียญก็ได้"

"เกิดไรขึ้นวะ?" มิคสงสัย

"กูว่ากูน่าจะมีนะ" มาร์คล้วงเข้าไปในกระเป๋าของเขาเพื่อตรวจสอบ "มีๆ"

"โอเค เพราะฉะนั้นมึงต้องเอาเงินไปให้กับกันตรงหน้าปากซอย..." เอ็กซ์แตะไหล่มาร์คด้วยความวางใจ "...เพื่อให้มันจ่ายค่าวิน แล้วจะได้มาสู้ตรงนี้ซะที... โอเคนะ?"

"เดี๋ยวๆ ให้เดินฝ่าไอ้พวกนั้นไปเนี่ยนะ!?" มาร์คเริ่มตื่นตระหนก "มึงบ้าป่าวเนี่ย!?"

"เร็วๆ น่า" เอ็กซ์กำชับ "กูรอจนจะรากงอกแล้วเนี่ย" "คือนะ เอ็กซ์" มิคบอก "ไม่มีเราก็ลุยได้เหมือนก่อนไม่ใช่รึไงวะ?"

"ไม่ จำนวนมันมีผลในการต่อสู้ ขาดคนเดียวมันก็อาจมีผลได้" เอ็กซ์บอก "รีบไปเลย มาร์ค"

"..." มาร์คคิดซักพักนึง "ก็ได้ เพื่อมึงเลยนะเนี่ย"

"ต้องให้ได้งี้สิ"

"เฮ้ย!!! เอ่อ... พวกมึงอ่ะ... ช่วยไรหน่อยได้มั้ย!!!" มาร์คตะโกนใส่อีกฝ่ายเสียงดัง "คือเพื่อนกูอีกคนมันมาถึงนี่แล้วแต่แม่งไม่มีตังค์จ่ายค่าวินน่ะ เพราะฉะนั้นกูขอเดินเอาตังค์ไปให้มันหน่อยได้ป่าว!?"

"..." เล่นเอาเหล่าอิสลามศรีธรรมราชถึงกับงงไปหมดเลยทีเดียว

"..." ในฐานะที่บังยี่เป็นหัวหน้า เขาจึงจำต้องเป็นคนตัดสินใจเอง "ได้ นี่เห็นว่าพวกมึงมีน้อยกว่านะเนี่ย"

"เออ ขอบใจมาก"

               เมื่อได้ยินดังนั้น มาร์คจึงรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี ค่อยๆ ย่างเท้าเดินเข้าไปในฝูงคู่ต่อสู้นับสิบเบื้องหน้า ผ่านสายตามากมายที่จดจ้องใบหน้าของเขาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อไปช้าๆ แต่ก็ถือเป็นโชคดี ที่เหล่านักเรียนอิสลามพวกนี้ไม่ลงมือทำอะไร รักษาคำสัตย์จริงได้ทุกคนเลยทีเดียว แต่กระนั้นก็ตาม พวกเขาทั้งหลายก็อดที่จะขำในตัวมาร์คไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

"ฮิๆ ดูมันทำสิ อะไรวะเนี่ย" เสียงนินทาดังขึ้นมาเป็นระยะๆ

"เฮ้ย! อย่าขำดิวะ!" มาร์คตะโกนห้ามเสียงดัง

"กูล่ะอนาถจิต" มิคถึงกับต้องเอามือกุมขมับ

"หึๆๆ" บังยี่หัวเราะเยาะ ก่อนจะหันหลังกลับไปหาต้นตอ  "อยากเห็นหน้าไอ้เหี้ยตัวที่ทำเสียเวลานี่จริงๆ"

"โอ้ ใจมากสหายมาร์ค!" ในที่สุด มาร์คก็สามารถส่งเงินถึงมือกันจนได้

"เออ รีบๆ มาได้แล้ว!!!" มาร์คกำชับในขณะที่กันส่งเงินให้วินมอเตอร์ไซค์อีกทอด "เสียเวลาจริงๆ"

"..." สิ่งที่บังยี่เห็นนั้น ถึงกับทำให้เขานึกถึงภาพในอดีตเมื่อไม่นานมานี้ได้ในทันทีเลยทีเดียว

"อ้าว นั่นมันบังยี่ไม่ใช่รึไง?" กันเรียกเสียงดัง ก่อนที่เขาและมาร์คจะค่อยๆ เดินกลับมา พร้อมกับละอองแสงสีทองที่เข้าปกคลุมร่างของทั้งสอง

" รู้จักกันมาก่อนเหรอ?" เมื่อการต่อสู้ใกล้มาถึง เอ็กซ์กับมิคก็เรียกละอองแสงสีทองออกมาด้วยเช่นกัน

"ยังไงๆ วันนี้ก็..." กันในร่างลิงสีขาวค่อยๆ เดินผ่านเหล่าอิสลามศรีธรรมราชนับสิบที่พร้อมใจหลีกทางให้ด้วยความกลัว แล้วจึงมาหยุดอยู่ต่อหน้าบังยี่ด้วยรอยยิ้มแสยะในที่สุด "มาฟาดปากกันให้สนุกกว่าวันนั้นก็แล้วกันนะ"

"ว๊ากกกกกกกกกกกกกก"

               ด้วยความกลัวปนตกใจ บังยี่จึงรีบง้างหมัดขวาเตรียมต่อยกันในทันควัน แต่มีหรืออย่างกันจะพลาด ด้วยลูกเตะเหมันต์ทะยานเวหาที่พุ่งตรงเข้าใส่ใบหน้าของอีกฝ่าย พลังแห่งสายลมเชี่ยวกรากที่เสริมมายังแรงเตะ ก็สามารถทำให้ชายร่างแคระคนนี้ ถึงกับกระเด็นลอยออกไปไกลเลยทีเดียว

"แว๊กกกกกกกกกกกกกกกก"

               เมื่อเห็นแกนนำถูกจัดการลงได้อย่างง่ายดายต่อหน้า เหล่าพรรคพวกคนอื่นๆ มีหรือจะกล้าหือ ความหวั่นเกรงถึงพลังของวานรขาวผู้นี้ ถึงกับทำให้ส่วนใหญ่ต้องทิ้งบังยี่ไว้ที่นี่ แล้วรีบวิ่งหนีตายออกจากการต่อสู้นี้ด้วยความหวาดกลัวให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เลยทีเดียว แต่กระนั้น คาดว่าฝ่ายของสุวัฒนาคงไม่อยากเสียเที่ยวเป็นแน่ เอ็กซ์จึงนำเพื่อนๆ ที่เหลือไล่ต้อนเหล่าศัตรูผู้ขี้ขลาดพวกนี้อย่างไร้ความปราณีให้หมดสิ้นไป

               ผลการต่อสู้คงรู้ๆ กันอยู่ ถึงแม้อีกฝ่ายจะมีจำนวนมากกว่าคราวที่แล้วอยู่พอสมควร แต่ด้วยความสามารถด้านการต่อสู้อันมากมายของเอ็กซ์กับกัน ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว สุวัฒนาก็สามารถเอาชนะอิสลามศรีธรรมราชได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว ส่วนหนึ่งคงต้องขอบคุณเศษเหรียญและความกล้าของมาร์คด้วยที่สามารถส่งกันมายังสนามรบได้โดยสวัสดิภาพนั่นเอง

 


 

วันศุกร์

               เวลาพักเที่ยง อีกสองวันถัดมา ณ โรงเรียนสุวัฒนา บริเวณกลางสนามบาสของโรงเรียน ในคราวนี้ กัน เอ็กซ์ มิค และมาร์คต้องพบกับคู่ต่อสู้ภายในโรงเรียน พวกเขาคือสิงห์ตึกห้าทั้งสี่คนนั่นเอง

"ไง" เอ็กซ์ ยิ้มทัก "วันนี้จะเย็บซักกี่แผลดีล่ะครับพวกพี่ๆ"

"นั่นมันคำพูดของห้าสิงห์ตึกห้าอย่างพวกกูตะหากล่ะเว้ย ไอ้พวกเด็กหน้าเหี้ย" หนึ่งในนั้นเย้ยหยันโดยไม่เกรงกลัว

"หึ" ละอองแสงสีทองค่อยๆ ปกคลุมร่างของเอ็กซ์ "งั้นก็..."

"เดี๋ยวๆๆๆ" กันขัดจังหวะไว้เสียก่อน "คือ ก็ไม่ไรมากหรอกนะ แต่ผมขอถามไรหน่อยนะ?"

"..." สิงห์ตึกห้านิ่งไปชั่วขณะ "ว่ามาๆ"

"ไหงมีกันสี่คนเองอ่ะ?" กันถามได้ตรงประเด็นมาก

"..." พวกเขาก็คงไม่รู้จะตอบว่าอย่างไรเช่นกัน "ก็ถ้าเรียกสี่สิงห์ตึกห้ามันจะเท่ห์ตรงไหน...!!!"

ยังไม่ทันขาดคำ ชายคนนั้นก็กระเด็นลอยออกไปไกลด้วยลำแสงสีม่วงของเอ็กซ์เสียแล้ว

"อย่าไปสนแม่งเลย" เอ็กซ์ตอบสั้นๆ แต่ได้ใจความ

"ว๊ากกกกกกกกกกกกก"

               เอ็กซ์พูดถูก เพราะเมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น แค่เพียงหมัดขวาของมาร์คในร่างลิงที่ตรงเข้าใส่กลางใบหน้า หมัดเขวี้ยงซ้ายของมิคในร่างเทวพิภพที่ฟาดเข้าไปที่กกหู และลูกถีบเหมันต์ฟาดปฐพีของกันที่ไม่ต้องบรรยายอะไรให้มากนัก ห้าสิงห์ตึกห้าที่ดันมีกันอยู่แค่สี่คนก็ถูกจัดการเรียบในพริบตาเดียวเท่านั้น ไม่มีค่าให้จดจำเลยแม้นซักคนเดียว

               อาจเป็นเพราะสถานที่เกิดเหตุนี้บังเอิญเกิดขึ้นที่สนามบาสข้างหน้าโรงอาหารพอดี นักเรียนจำนวนมากภายในโรงอาหารจึงกับรีบวิ่งกรูออกมาข้างหน้าเพื่อรับชมการประลองนี้ด้วยความตื่นเต้นเลยทีเดียว นักเรียนหญิงบางส่วนถึงกับกรี๊ดทันทีที่พวกเขาหันหน้ามาให้เลยทีเดียว ช่างเป็นกลุ่มนักเลงที่เปี่ยมไปด้วยสเน่ห์ดึงดูดใจจนใกล้เคียงกับดาราเสียจริงๆ

               ผู้ที่ออกอาการเคลิบเคลิ้มที่สุดเห็นจะเป็นกัน เพราะตั้งแต่ย้ายมายังสุวัฒนา นี่คงเป็นครั้งแรกที่เขาได้รับกระแสตอบรับอันล้นหลามขนาดนี้ ดังที่เอ็กซ์พูด ทั้งชื่อเสียงและภาพลักษณ์เขาได้พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากผู้ที่ไม่มีอะไรเลย กลายมาเป็นนักเรียนผู้โด่งดังจากบารมีของเพื่อนๆ ช่างเป็นชีวิตใหม่ที่เขาปรารถนาจริงๆ และนี่คงเป็นทางผ่านสำหรับความยิ่งใหญ่ก็เป็นได้

               ทว่า ในขณะที่กำลังเคลิ้มอยู่นั้นเอง สายตาของกันก็ได้บังเอิญเหลือบไปเห็นเอ็กซ์ ที่กำลังนั่งยองลงมาคุยกับหนึ่งในสิงห์ตึกห้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียดปนโกรธเกรี้ยว นั่นจึงทำให้เขาอดเคลือบแคลงในการกระทำนี้ไม่ได้ และคงต้องนึกย้อนถึงคำพูดของติ๊กบ้างแล้ว

/อย่าไปยุ่งกับไอ้เอ็กซ์มันเลยจะดีกว่า/

 

โปรดติดตามบทถัดไป

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา