Blood Game: Messenger of death and Contract

7.7

เขียนโดย JustDream

วันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 00.11 น.

  4 chapter
  1 วิจารณ์
  6,257 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 กันยายน พ.ศ. 2557 01.01 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) Chat

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Blood Game: Messenger of death and Contract

1
Chat

[Near]

 

กริ้ง...กริ้ง...
เสียงนาฬิกาปลุกบนหัวเตียงผมที่กำลังส่งเสียงเรียกร้องความสนใจผมอยู่ เพราะนี้คือวันปกติผมจึงต้องลุกจากเตียงเพื่อมาทำจากตารางเวลาที่ถูกกำหนดไว้แล้ว...
เสื้อนักเรียนที่ถูกสวมใส่หลังจากผมอาบน้ำเสร็จ ผมจัดเตรียมตัวเองในกระจกอีกสักพักก่อนจะลงไปชั้นล่างเพื่อกินอาหารเช้า ก่อนจะไปถึงห้องครัวผมก็ไปสะดุดกับโทรศัพท์บ้านที่กำลังแสดงว่ามีคนมาฝากข้อทิ้งไว้ตอนผมไม่อยู่ ผมจึงเลือกกดฟัง
‘ท่านมีหนึ่งข้อความเสียง...’นี้คือเสียงเครื่องตอนรับ ‘...เนียร์นี้แม่นะ แม่ขอโทษแม่ว่าวันนี้คงไม่กลับและแม่จะไม่อยู่หลายวันเลย อยู่บ้านดีๆล่ะ แม่ระ...’
ปี้ด!
ผมกดตัดไปทันทีอย่างไปต้องรอฟังให้จบเพราะทุกอย่างมันก็เหมือนเดิม เหมือนเดิมอย่างนี้ไม่เปลี่ยนไป
ที่จริงเมื่อก่อนทุกอย่างในชีวิตผมก็ไม่ใช่อย่างนี้หรอก มันดีกว่านี้เยอะ ไม่น่าเบื่อ ทุกอย่างรอบตัวของผมดูน่าสนใจไปหมดไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ ผู้ครอบตัว เพื่อน หรือแม้แต่ครอบครัว ทุกอย่างดีไปหมดสำหรับเด็กวัยอย่างผม ก่อนมันจะเริ่มบัดสบ

 

ตอนนั้นน่าจะเป็นช่วงระหว่างผมขึ้นม.ปลาย ครอบครัวที่ประกอบด้วย พ่อ แม่ พี่ชายและน้องสาว ที่เหมือนครอบครัวปกติทั่วไป เลิกงานหรือเลิกเรียนก็จะกลับบ้านทันที เมื่อมาอยู่พร้อมหน้าก็มักจะมีเรื่องมาพูดคุยกันเสมอ มีเสียงหัวเราะตลอดเวลาบนโต๊ะกินข้าว เสียงเรียกและเสียงเตือนของพ่อแม่เวลาผมตื่นสาย ใช่มั้ย ทุกอย่างมันดีหมด...จนกระทั้ง เวลานั้นก็ได้มาถึง...
วันนั้นเป็นวันที่ฝนตก ผมก็เลยต้องติดอยู่ที่โรงเรียนแม้จะเลิกเรียนนานแล้วก็ตาม จนกว่าพ่อหรือแม่จะมารับ ผมก็รอแล้วรออีก จนกระทั่งเสียงมือถือผมดังขึ้น
‘พี่เนียร์ค่ะ...’นั้นคือเสียงฟาร์น้องสาวของผมเอง
“ไงฟาร์”ผมตอบทักต้นเสียงนั้น “พ่อแม่อยู่ไหนล่ะ”
‘แม่กำลังจะไปรับพี่นะค่ะ ส่วนพ่ออยู่กับหนูที่บ้านนะค่ะ พี่เนียร์เหงามั้ยค่ะ’ฟาร์น้องสาวที่น่ารักของผมถึงอายุพวกเราจะห่างกันแค่สองปีแต่ฟาร์ก็ขี้อ้อนเหมือนตอนเรายังเป็นเด็กๆ
“ครับ เหงามากด้วย ไม่มีใครอยู่กับพี่เลย”
‘คิกๆๆ น่าค่ะอีกเดี๋ยวแม่ก็ไปรับแล้วรอหน่อยนะค่ะ...’
ปิ้งป่อง!
ทันใดนั้นเสียงกริ้งประตู่ที่น่าจะดังมาจากฝังของฟาร์ดังขึ้น ทำให้ผมสงสัยว่าจะมีใครมาตอนนี้ 
‘ฟาร์คุยกับพี่เค้าไปนะ พ่อจะออกไปดุเอง’นั้นคือเสียงของผม ก่อนทุกอย่างจะเงียบไปสักพักทั้งผมและฟาร์ต่างไม่ใครพูดอะไร 
‘พี่ค่ะ...โครม!!!’เสียงเหมือนบางอย่างหล่นทำให้ผมตกใจ
“ฟาร์ ฟาร์! ฟาร์!!!”ไม่ว่าผมจะเรียกอย่างไรดุเหมือนฟาร์จะไม่ได้อีกซะแล้ว นั้นทำให้ผมร้อนรนมากขึ้น ไม่นะ ไม่นะ ความคิดในหัวของผมมันตีกันไปหมดจนผมเลยตั้งสติไม่ได้
‘กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!’ 
“ฟาร์!!!”
ก่อนที่ผมจะเริ่มคุทสติไม่อยู่ก็ได้เสียงเครื่องยนต์ที่คุนเคย จึงรู้ทันว่าแม่มาแล้ว ผมจึงรีบวิ่งตรงไปหาผู้เป็นแม่ในทันที
“เอ้า...เนียร์ไม่ต้องรีบก็ดะ...”
“รีบกลับบ้านเร็วๆครับ! เร็วสิ ครับ แม่!!!"
"จ้าๆ" ถึงแม่จะไม่เข้าใจอะไรแต่ก็ยอมทำตามที่ผมพูด 
ทั้งที่แม่เองก็เหยียบจนสุดแล้ว แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันช้าและร้อนรนมา ไม่รู้ว่าทำไม แต่ มันเป็นความรู้สึกที่ไม่ชอบเลย 
และเมื่อมาถึงบ้าน ประตู่หน้าบ้านมันก็ถูกเปิดเอาไว้แล้ว ซึ่งปกติพ่อจะไม่ทำ เมื่อเหมือนจะเอ่ยถามผมว่าอะไร ผมก็รีบวิ่งเข้ามาในบ้านทันที ด้วยความรู้ที่ไม่เข้าใจ...
เมื่อมาถึงหน้าประตู่ กลิ่นคาวคะคลุมที่ลอยออกมา ของเหลวเหนียวนืดที่ไหลกองออกมายังพื้นหน้าบ้าน รอยลากที่เกิดเป็นรอยครืนบนพื้น แล้วเมื่อคนไป ร่างสองที่โดนจับฉีกกระชากเอาชิ้นส่วนกระจายเต็มพื้นห้อง ไม่ใช่แค่แขน ขา หัวหรือตัวเท่านั้น แม้แต่เครื่องในก็ถูกนำมาระบายเต็มกำแพง แต่ที่ติดอยู่ใจของผมตลอด คือส่วนหัวของน้องสาวที่ถูกทิ้งอยู่ไม่ไกลนั้น 
ดวงตาที่เต็มความกลัว แต่ผมกับรู้สึกว่าดวงตานั้นมันเหนือนจะส่งอะไรบางอย่างมาให้ผม...อะไร บางอย่าง ที่ชั่วชีวีตนี้ ผมจะไม่มีวันได้รู้...
แล้วเมื่อแม่เดินเข้ามา...
"กรี๊ดดดดดดดดดด!!!!"
ในที่สุดมันก็พรากเอาทุกอย่างจากผมไป...ไอ้สิ่งที่เรียกว่า'ความตาย'นั้น

พ่อและน้องสาวของโดนฆ่าตายอย่างโหดร้าย โดย ฆาตกรต่อเนื่อง ที่กำลังเป็นข่าวอยู่ตอนนี้ แต่ที่ทำให้ผมช็อคที่สุด คือ ความทรมานก่อนตายของพวกเขาที่เราได้รับรู้จากปากของนิติเวช 
เรื่องนี้ทำให้พวกเรา แม่ ลูก ไม่สามารถประคองสติได้ แม่จะมีอาการเหม่อลอยและบางครั้งอยู่จู่ๆก็กรี๊ดร้องออกมาเมื่ออยู่ในที่คนเยอะๆ ส่วนหวาดกลัวทุกอย่าง ผู้คนและสิ่งรอบตัวอย่างบางจนขังตัวเองไว้ในห้องและก็ไม่ที่จะรับสักครั้งเลย เพราะกลัวจะเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความกลัวนั้นในความฝัน 
...ในที่สุด...
พวกเราก็ต้องเข้าพบจิตแพทย์ และนั้นล่ะ คือ จุดเริ่มต้นของทุกสิ่งที่พังทลายลงมา และไอ้ชีวิตบัดสบที่มันได้เริ่มต้นขึ้น
แม่ขายบ้านที่เคยอยู่ทิ้งไป เปลี่ยนงานที่ทำงาน ย้ายไปอยู่ต่างจัดหวัดเพื่อหนี้...
หนี้ว่าเคยมีเรา...

แม่ได้งานใหม่ แต่แม่ก็ไม่เคยมีเวลาว่างเลย ผมถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวจนผมเริ้มชินชา ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นและผมก็หลงลืมไปว่า'ครอบครัว' คืออะไร

วันใหม่ของสัปดาห์เรียน อาหารทำเองรสจืดชืดฝีมือตัวเอง ข่าวยามเช้าที่มีแต่ข่าวฆาตรกรรม และ ข่าวพยากรณ์อากาศที่บอกว่าฝนจะตกเหมือนทุกวัน 
...เป็นไรล่ะ ชีวิตผมบัดสบมั้ย...

การคุยพูดและเล่าเรื่องของตัวละครที่ฟังดูน่าเบื่อ และ ไม่น่าสนใจ แต่ใครจะรู้ว่าเรื่องน่าเบื่อ คือ จะคือจุดเริ่มต้นของเกมที่นองไปด้วยเลือดและความตาย

 

 

Blood Game: Messenger of death and Contract 

1
Chat

[Near]

กริ้ง...กริ้ง...
เสียงนาฬิกาปลุกบนหัวเตียงผมที่กำลังส่งเสียงเรียกร้องความสนใจผมอยู่ เพราะนี้คือวันปกติผมจึงต้องลุกจากเตียงเพื่อมาทำจากตารางเวลาที่ถูกกำหนดไว้แล้ว...
เสื้อนักเรียนที่ถูกสวมใส่หลังจากผมอาบน้ำเสร็จ  ผมจัดเตรียมตัวเองในกระจกอีกสักพักก่อนจะลงไปชั้นล่างเพื่อกินอาหารเช้า ก่อนจะไปถึงห้องครัวผมก็ไปสะดุดกับโทรศัพท์บ้านที่กำลังแสดงว่ามีคนมาฝากข้อทิ้งไว้ตอนผมไม่อยู่ ผมจึงเลือกกดฟัง
‘ท่านมีหนึ่งข้อความเสียง...’นี้คือเสียงเครื่องตอนรับ ‘...เนียร์นี้แม่นะ แม่ขอโทษแม่ว่าวันนี้คงไม่กลับและแม่จะไม่อยู่หลายวันเลย อยู่บ้านดีๆล่ะ แม่ระ...’
ปี้ด!
ผมกดตัดไปทันทีอย่างไปต้องรอฟังให้จบเพราะทุกอย่างมันก็เหมือนเดิม เหมือนเดิมอย่างนี้ไม่เปลี่ยนไป
ที่จริงเมื่อก่อนทุกอย่างในชีวิตผมก็ไม่ใช่อย่างนี้หรอก มันดีกว่านี้เยอะ ไม่น่าเบื่อ ทุกอย่างรอบตัวของผมดูน่าสนใจไปหมดไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ ผู้ครอบตัว เพื่อน หรือแม้แต่ครอบครัว ทุกอย่างดีไปหมดสำหรับเด็กวัยอย่างผม ก่อนมันจะเริ่มบัดสบ

ตอนนั้นน่าจะเป็นช่วงระหว่างผมขึ้นม.ปลาย ครอบครัวที่ประกอบด้วย พ่อ แม่ พี่ชายและน้องสาว ที่เหมือนครอบครัวปกติทั่วไป เลิกงานหรือเลิกเรียนก็จะกลับบ้านทันที เมื่อมาอยู่พร้อมหน้าก็มักจะมีเรื่องมาพูดคุยกันเสมอ มีเสียงหัวเราะตลอดเวลาบนโต๊ะกินข้าว เสียงเรียกและเสียงเตือนของพ่อแม่เวลาผมตื่นสาย ใช่มั้ย ทุกอย่างมันดีหมด...จนกระทั้ง เวลานั้นก็ได้มาถึง...
วันนั้นเป็นวันที่ฝนตก ผมก็เลยต้องติดอยู่ที่โรงเรียนแม้จะเลิกเรียนนานแล้วก็ตาม จนกว่าพ่อหรือแม่จะมารับ ผมก็รอแล้วรออีก จนกระทั่งเสียงมือถือผมดังขึ้น
‘พี่เนียร์ค่ะ...’นั้นคือเสียงฟาร์น้องสาวของผมเอง
“ไงฟาร์”ผมตอบทักต้นเสียงนั้น “พ่อแม่อยู่ไหนล่ะ”
‘แม่กำลังจะไปรับพี่นะค่ะ ส่วนพ่ออยู่กับหนูที่บ้านนะค่ะ พี่เนียร์เหงามั้ยค่ะ’ฟาร์น้องสาวที่น่ารักของผมถึงอายุพวกเราจะห่างกันแค่สองปีแต่ฟาร์ก็ขี้อ้อนเหมือนตอนเรายังเป็นเด็กๆ
“ครับ เหงามากด้วย ไม่มีใครอยู่กับพี่เลย”
‘คิกๆๆ น่าค่ะอีกเดี๋ยวแม่ก็ไปรับแล้วรอหน่อยนะค่ะ...’
ปิ้งป่อง!
ทันใดนั้นเสียงกริ้งประตู่ที่น่าจะดังมาจากฝังของฟาร์ดังขึ้น ทำให้ผมสงสัยว่าจะมีใครมาตอนนี้ 
‘ฟาร์คุยกับพี่เค้าไปนะ พ่อจะออกไปดุเอง’นั้นคือเสียงของผม ก่อนทุกอย่างจะเงียบไปสักพักทั้งผมและฟาร์ต่างไม่ใครพูดอะไร 
‘พี่ค่ะ...โครม!!!’เสียงเหมือนบางอย่างหล่นทำให้ผมตกใจ
“ฟาร์ ฟาร์! ฟาร์!!!”ไม่ว่าผมจะเรียกอย่างไรดุเหมือนฟาร์จะไม่ได้อีกซะแล้ว นั้นทำให้ผมร้อนรนมากขึ้น ไม่นะ ไม่นะ ความคิดในหัวของผมมันตีกันไปหมดจนผมเลยตั้งสติไม่ได้
‘กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!’  
“ฟาร์!!!”
ก่อนที่ผมจะเริ่มคุทสติไม่อยู่ก็ได้เสียงเครื่องยนต์ที่คุนเคย จึงรู้ทันว่าแม่มาแล้ว ผมจึงรีบวิ่งตรงไปหาผู้เป็นแม่ในทันที
“เอ้า...เนียร์ไม่ต้องรีบก็ดะ...”
“รีบกลับบ้านเร็วๆครับ! เร็วสิ ครับ แม่!!!"
 "จ้าๆ" ถึงแม่จะไม่เข้าใจอะไรแต่ก็ยอมทำตามที่ผมพูด 
 ทั้งที่แม่เองก็เหยียบจนสุดแล้ว แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันช้าและร้อนรนมา ไม่รู้ว่าทำไม แต่ มันเป็นความรู้สึกที่ไม่ชอบเลย 
และเมื่อมาถึงบ้าน ประตู่หน้าบ้านมันก็ถูกเปิดเอาไว้แล้ว ซึ่งปกติพ่อจะไม่ทำ เมื่อเหมือนจะเอ่ยถามผมว่าอะไร ผมก็รีบวิ่งเข้ามาในบ้านทันที ด้วยความรู้ที่ไม่เข้าใจ...
 เมื่อมาถึงหน้าประตู่ กลิ่นคาวคะคลุมที่ลอยออกมา ร่างสองร่างที่นอนนิ่งเหมือนตุ๊กตาที่โดนแยกชิ้นส่วน จนจำไม่ได้เหลือเพียงส่วนหัวเท่านั้นที่ยังคงสภาพดีอยู่เหมือนก่อนจะโดนจับแยกชิ้นส่วน... ความหวาดกลัวในดวงตาทั้งสองคู่ยังทำให้ผมจดจำมาจนทุกวันนี้
แล้วเมื่อแม่เดินเข้ามา...
 "กรี๊ดดดดดดดดดด!!!!"
 ในที่สุดมันก็พรากเอาทุกอย่างจากผมไป...ไอ้สิ่งที่เรียกว่า'ความตาย'นั้น

พ่อและน้องสาวของโดนฆ่าตายอย่างโหดร้าย โดย ฆาตกรต่อเนื่อง ที่กำลังเป็นข่าวอยู่ตอนนี้ แต่ที่ทำให้ผมช็อคที่สุด คือ ความทรมานก่อนตายของพวกเขาที่เราได้รับรู้จากปากของนิติเวช 
เรื่องนี้ทำให้พวกเรา แม่ ลูก ไม่สามารถประคองสติได้ แม่จะมีอาการเหม่อลอยและบางครั้งอยู่จู่ๆก็กรี๊ดร้องออกมาเมื่ออยู่ในที่คนเยอะๆ ส่วนหวาดกลัวทุกอย่าง ผู้คนและสิ่งรอบตัวอย่างบางจนขังตัวเองไว้ในห้องและก็ไม่ที่จะรับสักครั้งเลย เพราะกลัวจะเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความกลัวนั้นในความฝัน 
...ในที่สุด...
พวกเราก็ต้องเข้าพบจิตแพทย์ และนั้นล่ะ คือ จุดเริ่มต้นของทุกสิ่งที่พังทลายลงมา และไอ้ชีวิตบัดสบที่มันได้เริ่มต้นขึ้น

10 coming soom

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา