The Mysterious…หนียังไงก็ไม่พ้นเธอ

8.0

เขียนโดย Illusion

วันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 19.35 น.

  6 ตอน
  6 วิจารณ์
  8,942 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 กันยายน พ.ศ. 2557 02.21 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) ตอนที่1: เธอคือใคร

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

  ( โปรดอ่านบทนำ)

เช้าวันใหม่และไม่อยากให้มาถึงเช้าวันนี้เอาซะเลย เพราะว่าโรเยลหน่ะสิ เธอจะต้องไปเรียนที่โรงเรียนประจำและไม่มีวันกลับมาเลยตั้งสามปี ฉันตื่นแต่เช้าเพื่อมาส่งเธอขึ้นรถ หน้าตาเธอดูรื่นเริงผิดปกติกว่าวันอื่นๆเพราะเธอเป็นเด็กที่ไม่ชอบอยู่บ้านเอาสะเลย ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมของฉันแต่อีกไม่กี่วันก็จะเปิดเทอมแล้วแหละคะ โรเยลเธอต้องถูกส่งตัวไปเรียนที่โรงเรียนประจำของต่างประเทศ ซึ่งมันก็เป็นความต้องการของโรเยลเอง เธอดันทุลังที่จะไปเรียนให้ได้ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เธอชอบอยู่คนเดียวมากๆ ชอบการเรียนรู้ด้วยตนเอง ไม่ชอบให้ใครมาบังคับ เธอเป็นเด็กหัวรั้น ถึงคุณน้าจะขัดใจยังไงเธอก็ไม่ยอม เธอไปเรียนในระดับชั้นมัธยมปลาย ส่วนฉันกำลังก้าวเข้าสู่รั้วมหาลัยเป็นครั้งแรก… ตอนนี้โรเยลเข้ามากอดและหอมแก้มฉันพร้อมกับบอกลาคุณน้าและยัยนั่นก่อนที่จะขึ้นรถออกไปจากบ้านหลังนี้ บรรยากาศเงียบลงไปทันที เพราะในบ้านของฉันตอนนี้เหลือแค่ฉัน คุณน้าและก็ยัยนั่นกันอยู่สามคนถ้าไม่รวมคนรับใช้อีกสี่คน

 

                          “ยัยควีนน้าฝากดูแลทาม เขาด้วยนะลูกเพราะน้าจะต้องไปดูงานที่ต่างจังหวัดสักหน่อย น่าจะกลับมาอีกทีประมาณสองวัน

 

                         “ห๊ะ?”

 

                         “ช่วงนี้น้างานยุ่งมากๆเลย ฝากดูแลทามเขาด้วย

 

                         “หมายความว่าไงคะคุณน้าทำไมมาทิ้งกันแบบนี้อะ

 

                         “ควีนหนูโตแล้วนะลูก อีกอย่าง น้าก็หาเพื่อนมาให้หนูไม่ต้องเหงาอีกต่อไปแล้ว เดี๋ยวน้าจะเรียกคนมาดูแลความปลอดภัยอีกทีนึง ดีไหม

 

                         “ไม่ควีนจะไปกับคุณน้าด้วย

 

                         โถ่ไอเด็กน้อย น้าไปทำงานนะคะ เข้าใจน้าหน่อย อีกสองวันน้าก็กลับมาแล้วนะลูกนะ

 

เห้อออคุณน้า ทำไมทำกับควีนแบบนี้ T^T ฉันเดินหนีคุณน้าไปอย่างรวดเร็วแสดงออกให้เห็นถึงความไม่พอใจของฉันที่มีต่อคุณน้าโดยทันที ฉันเดินมานั่งอยู่ที่สวนหลังบ้านของฉันเอง สวนนี้เต็มไปด้วยหญ้าเขียวขจี น่านั่งเล่นมาก เหมาะสำหรับการ picnic เป็นที่สุด บรรยากาศรอบๆเต็มไปด้วยเสียงลำธารที่ดังเป็นระยะๆให้ฉันสบายใจได้มากขึ้น สวนหลังบ้านของฉันอยู่ติดกับลำธารที่ใสสะอาด มีที่สำหรับนั่งให้ชมบรรยากาศรอบๆข้างอีกด้วย บริเวณที่นั่งนั่นเป็นซุ้มไม้ขนาดเล็กโดยซุ้มนี้จะยื่นออกไปจากสวนของฉันอยู่นิดนึง ทำให้ฉันสามารถนั่งเอาเท้าจุ่มน้ำได้อย่างสบายใจ หรือเรียกง่ายๆว่าศาลาริมน้ำนั่นเอง มันถูกตกแต่งด้วยสีขาวทั้งหมด เป็นที่ๆฉันชอบมานั่งพักผ่อนหย่อนใจเป็นที่สุด เพราะมันสงบ ร่มเย็น แถมเวลาฝนตกยังไม่เปียกอีกด้วย ฉันนั่งมองทิวทัศน์ที่ไกลออกไปอยู่คนเดียว เสียงคำดูถูกจากผู้หญิงคนนั้นก็ดังขึ้นมาอยู่ในหัวของฉันโดยทันที แววตาที่ดูหมิ่นคำพูดที่ดูถูกพวกนั้น ฉันยังจำมันได้อย่างดี

 

                          เด็กมีปัญหา…”

 

เสียงใครคนนึงดังขึ้นขณะที่ฉันนั่งเหม่ออยู่คนเดียว ฉันหันไปก็พบกับยัยนั่นที่ยืนกอดอกมองฉันด้วยสีหน้าที่เรียบนิ่งอยู่เช่นเคย ฉันลุกขึ้นยืนและเดินเข้าไปชนเธอนิดนึงก่อนที่จะเดินจากไป

 

                          นี่เธออยากลองดีกับฉันงั้นหรอ

 

เสียงที่ดุดันของเธอทำเอาฉันหยุดชงักฝีเท้าลงทันที ฉันหันหลังกลับไปหาเธอก็พบว่าเธอยืนอยู่ตรงหน้าฉันแล้วและก็ใกล้มากๆด้วย ทำให้ฉันตกใจเล็กน้อยและเสียหลักล้มหงายหลังลงไป แต่โชคดีที่เธอมารับฉันไว้ได้ทันไม่อย่างนั่นฉันคงล้มลงไปอย่างไม่เป็นท่าแน่นอน ความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนกำลังเริ่มต้นขึ้น จมูกของเธอดันมาโดนแก้มฉันเข้าอย่างจังใจฉันเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก ไม่กล้าที่จะสบตากับเธอได้เลยอ้อมกอดอันเยือกเย็นของเธอทำให้ฉันเกิดสงสัยทุกครั้งว่าทำไมเธอถึงตัวเย็นได้ขนาดนั้นนะ ฉันลองยกมือขึ้นมาจับแขนของเธอ ก็ถึงกับสะดุ้งความเย็นที่ผิวหนังของเธออย่างทันที เธอรีบผละออกจากฉันและทำท่าทีที่เรียบนิ่งอย่างเช่นเคย

 

                          เธอหนาวหรอ ฉันถามยัยนั่นไป

 

                          อืมฉันเป็นคนหนาวง่าย

 

ฉันสังเกตไปที่แววตาของเธอที่ตอนนี้ดูจะหลบสายตาของฉันอยู่ เธอเดินจากฉันไปอีกครั้ง ทิ้งให้ฉันสงสัยกับลักษณะนิสัยของเธอเข้าให้แล้ว เธอเป็นคนแปลกจัง บางครั้งก็ดี บางครั้งก็ร้าย โรคจิตปะเนี่ย

 

                          กริ้งงง กริ้งง~                     

 

เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้น ฉันจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู โชว์ให้เห็นกับบุคคลที่กำลังโทรเข้ามา ฉันเลยเกิดการยิ้มกว้างขึ้นมาโดยอัตโนมัติพร้อมกับกดรับสายโดยเร็วที่สุด

 

                          ฮัลโหล…”

 

                          “ควีนไปเที่ยวกันไหม เย็นนี้

 

                          “เลย์จะมารับควีนหรอ…”

 

                          “อืมมไปเดินถนนคนเดินกัน วันนี้อากาศดี

 

                          “โอเคว่าแต่ จะมากี่โมงอะ

 

                          “เดี๋ยวประมาณห้าโมงเลย์ออกจากบ้าน กว่าจะถึงบ้านควีน น่าจะประมาณทุ่มนึงแหละมั้ง

 

                          “อืมมมรีบมานะ

 

                          “ครับ…”            

 

นี่นายเลย์ เพื่อนสนิทที่สุดของฉันเอง สาเหตุที่ฉันยิ้มกว้างเพราะว่าเขาชอบชวนฉันออกไปข้างนอก นิสัยของฉันกับเขาเหมือนกันมาก หลายๆคนคิดว่าเขาเป็นเกย์เพราะว่าภายนอกเขาดูหยิ่ง สุขุม นิ่งๆ สะอาดแต่จริงๆแล้วเขาตลกและเป็นกันเองชะมัด ความชอบระหว่างเขากับฉันมีเรื่องเดียวที่ไม่เหมือนกันก็คือ เขาเป็นพวกชอบเรื่องเหนือธรรมชาติ ยิ่งเรื่องแวมไพร์ทนะเขาจะชอบมากกกก ผิดกับฉันที่ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้เลยสักนิด ถ้าเจอจริงๆฉันว่า ฉันคงชอคอะ ฉันคบกับนายเลย์มาได้สามปีแหละตอนเรียนมัธยมปลายมาด้วยกัน ฉันรู้นะว่าเขาคิดยังไงกับฉันแต่ฉันอยากได้ความสัมพันธ์ที่มั่นคงและยาวนานกับนายเลย์ ฉันเลยเลือกที่จะเป็นเพื่อนกับเขาน่าจะดีกว่า บางครั้งเขาดีเกินไปจนทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก บางครั้งเขาหวงฉันเกินไปทั้งๆที่ฉันไม่ได้เป็นแฟนกับเขาสักหน่อย แต่จะทำไงได้ ฉันคิดว่านายเลย์นี่แหละที่สามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง พอฉันปฏิเสธที่จะคบเขาเป็นแฟน เขาก็ยังทำตัวเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ฉันไม่เคยบ่น หงุดหงิด ลำคาน ใส่นายเลย์เลยเพราะว่าทุกการกระทำของเขามันไม่ได้ทำให้ฉันเสียหายนิ๊ เขาดีกับฉันแล้วทำไมฉันถึงต้องไม่ดีกับเขาด้วย ความสัมพันธ์แบบนี้ฉันจะรักษามันให้ดีเลยแหละเพราะว่ากว่าจะหาเพื่อนจริงใจได้สักคนนึงเนี่ย นับเป็นสิ่งที่ยากกว่าการทำข้อสอบเข้ามหาลัยเลยตั้งเยอะ ฉันเดินผ่านคุณน้าและยัยนั่นที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ในบริเวณห้องรับแขกอย่างไม่สนใจ ฉันรู้ว่าคุณน้าจะต้องไม่พอใจการกระทำของฉันอยู่แน่นอน จะทำไงได้ ก็คุณน้าเล่นทิ้งให้ฉันอยู่กับยัยนั่นสองคนเองนี่หน่า เชอะ!

 

                        ควีนหยุดก่อนพรุ่งนี้น้าไม่อยู่ ใกล้จะเปิดเรียนแล้วด้วย พาทามเขาไปสมัครเรียนและก็พาไปซื้อชุดนักศึกษาใหม่ด้วย

 

                        ห๊ะมะ หมายความว่าไง

 

                       “ก็ทามเขาอายุเท่าลูกน้าเลยส่งชื่อไปให้เพื่อนน้ารับเขาเข้าไปเรียนที่มหาลัยเดียวกับควีนด้วย ควีนจะได้มีเพื่อนกลับบ้านไง

 

                       ห๊ะ! ยัยนี่เอ่อทามเนี่ยหรอคะ อายุเท่าควีน

 

                      “ใช่สิควีน น้าฝากดูแลทามเขาด้วยนะลูก ทามเขาไม่เคยได้ออกไปไหนมาไหนสักเท่าไหร่ น้าเป็นห่วงเขา

 

นี่มันอะไรกันเนี่ย เจอยัยนั่นที่บ้านไม่พอ ยังจะต้องไปเจอเธอที่มหาลัยอีกด้วยงั้นหรอ จะบ้าตายฉันเกิดอาการคิ้วชนกันขึ้นมาทันทีที่คุณน้าพูดแบบนั่นกับฉัน ตอนนี้ยัยนั่นลุกขึ้นยกมือไหว้คุณน้าก่อนที่จะเดินขึ้นห้องของตัวเองไป ซึ่งฉันเองก็ตามเธอไปด้วยเหมือนกัน เพราะฉันอยากรู้ว่าเธอโกหกเรื่องอายุของเธอรึเปล่า เธอกำลังจะปิดประตูห้องเมื่อเห็นฉันตามขึ้นไป แต่เผอิญมือฉันเร็วกว่าจึงรีบดันประตูนั่นไว้ได้ทัน ฉันรีบเข้าไปในห้องของเธอและกดล็อค กลัวว่าคุณน้าจะได้ยิน

 

                      เธออายุเท่าฉันจริงๆหรอ

 

                      “ใช่ทำไมหรอ

 

                      “ขอดูบัตรประชาชนหน่อย…”

 

                      “ไม่มี…”

 

                      “งั้นแสดงว่าเธอโกหก…”

 

                      “แล้วเธอรู้ได้ไงว่าฉันโกหกถ้าไม่มีหลักฐานก็อย่ามาพูดมั่วๆแบบนี้ ฉันไม่ชอบ

 

                      “แล้วทีเธอละ ไปว่ากษัตริย์ท่านแบบนั้นได้ยังไงกัน ในเมื่อเธอเองก็ไม่มีหลักฐาน

 

                      “หลักฐานฉันมีแต่เธอคงไม่อยากเห็นมันหรอก เพราะมันไม่เหมาะกับลูกคุณหนูอย่างเธอ

 

                      “ฉัน อยากเห็น ไหนเอามาสิที่เธอว่าพวกท่านว่า หัวสมองมีแต่ขี้เลื่อน ชอบดูถูกเพศผู้หญิงไหนละหลักฐาน

 

                      “ฉันไม่มีคำพูดหรือการกระทำของพวกเขาหรอก แต่ฉันมีบางอย่างที่ไม่สามารถแสดงออกมาได้

 

                      “เหอะๆ เธอมันก็แค่ ผู้หญิงที่ชอบพูดจาเพ้อเจ้อไปวันๆ                  

 

                      อย่ามาว่าฉันแบบนี้ฉันไม่ชอบ

 

                     “ฉันก็ไม่ชอบเหมือนกันที่เธอมาว่ากษัตริย์แบบนั้น!”

 

                     “ฉันชักสงสัยกับอาการของเธอซะจริงๆเลย เธอเป็นญาติตระกูลของคนพวกนั้นหรือยังไงกัน ถึงมาไม่พอใจแบบนี้

 

                     “………”

 

                     “หึ หึ! ฮ่า ฮ่า~ในที่สุดฉันก็เจอ!”

 

ฉันรู้สึกงงกับคำพูดของเธอมากขึ้นทุกครั้งที่เธอพูดกับฉัน แต่ความโมโหของฉันกลับมีมากกว่าอาการสงสัย

 

                     นี่เธอพูดบ้าอะไรของเธอ! …”

 

                     “เธอเป็นเชื้อกษัตริย์ใช่ไหม…”

 

                     “เธอจะมายุ่งเรื่องส่วนตัวของฉันทำไม

 

                     “เพราะว่าฉันเกลียดตระกูลนี้ยังไงละ!”

 

                     “ทำไม…”

 

                     “ฉันไม่จำเป็นต้องบอก!”

 

พอเธอพูดจบ เธอก็ออกไปจากห้องนี้โดยทันที ทิ้งให้ฉันต้องมานั่งแก้ปมกับเรื่องที่เธอพูดไว้เมื่อกี้อย่างสงสัย ว่าทำไมเธอถึงต้องจงเกลียดจงชังกับตระกูลของฉันเป็นหนักหนา หรือว่าคุณพ่อฉันไปทำผู้หญิงท้องแล้วไม่รับผิดชอบ เธอคือลูกอีกคนของคุณพ่อฉันงั้นหรอ เห้ออ…เธอคือใครกันนะ

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา