เล่ห์มัสมีน

9.0

เขียนโดย kunzi

วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 18.40 น.

  1 บท
  2 วิจารณ์
  3,131 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2557 18.49 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) เล่ห์มัสมีน บทที่ 1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เล่ห์มัสมีน

 

แสงสีในบ่อนคาสิโนกลางทะเล มันไม่ได้สิวิไลน้อยไปกว่าหรือด้อยไปกว่าเสียงเพลงและลีลาในย่านผับดังใจกลางเมือง ท่ามกลางผู้คนมากมายทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เรือสำราญลำนี้สามารถการรันตรีได้เลยว่า แขกที่อยู่ในงานย่อมไม่ใช่พวกธรรมดาแน่นอน

 

เหมือนกับพวกนั้น ปรมี ในวัยหนุ่มคะนองสั่งเหล้ารสอ่อนมาดับร้อนและดับอาหารสายตา ในฐานะลูกชายฟาร์มไข่มุกรายใหญ่ และหลานชายร้านขายจิวเวลรี่ชื่อดัง ปรมี มีสิทธินั่งอยู่ตรงนี้ นั่งด้วยความรู้สึกเหงาๆ และยากเกินอธิบาย มันบอกไม่ถูกหรอกว่าการมีเพื่อนฝูงมากมายที่ต่างมาให้ช่วยกันแก้ไขปัญหา ปรมี มีความสุขหรือว่าสนุกกับมันกันแน่ บางทีในค่ำคืนนี้หากไม่ได้มานั่งละเลียดน้ำสีอัมพันอยู่ในเรือสำราญ บางทีปรมีอาจจะกำลังช่วยเพื่อนบ้างคนทะเลาะวิวาทหรือกำลังไปประกันตัวเพื่อนฝูงขี้เมาออกมาจากโรงพักที่ไหนสักแห่ง

 

ชายหนุ่มคิดไปแล้วยิ้มให้กับตัวเอง นี่เขากลายเป็นที่พึ่งพาให้กับคนอื่นได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วนี้ถ้านานๆ ไป เขาไม่ต้องโสดไปตลอดชาติเพียงเพราะมัวแต่เจ้ากี้เจ้าการช่วยคนอื่นจนไม่มีเวลาหาแฟนให้ตัวเองเลยอย่างนั้นรึ?

 

“..เตกีร่ามีไหม ถ้ามีขอ 2 ช็อต ”

 

เสียงจากผู้มาใหม่ดังใกล้ใกล้กัน ปรมี หันไปยิ้มกับหญิงสาวที่แต่งตัวตามสบาย อาจจะตามสบายจนเกินไปกว่าที่จะอยู่ในเรือสำราญลำนี้ เมื่อเสื้อผ้าที่เธอใส่มันเป็นชุดง่ายๆ ที่พอถ้าได้มองแล้วมันง่ายเสียจน ปรมี ไม่อาจละสายตา

 

“สายตาคุณกำลังด่าฉันทางอ้อมนะคุณไหมไทย”

 

น้ำเสียงเธอกดต่ำลงแบบไม่ใส่ใจนัก ซ้ำยังเรียกชื่อแทนเขาด้วยเครื่องดื่มไร้สมองของนักดื่มหน้าใหม่ แต่ก็เรียกความสนใจให้ปรมีขยับเข้าไปนั่งใกล้เธอ เธอชื่อมีน มีนเป็นหญิงสาวที่ได้สิทธิ์เข้ามาร่วมงานบนเรื่อสำราญนี้ด้วยความที่โชคเข้าข้าง โชคที่เธอเรียกมันว่าค่าตอบแทนก่อนเดินทางไกล มีนเป็นหญิงสาวทั่วไปที่ปรมี เคยเห็นผ่านตา หญิงสาวธรรมดาที่ไม่ได้จัดว่าสวยใสอะไรนัก สิ่งที่มีเสน่ห์ที่สุดของ มีน ที่ ปรมี สั่งเกตเห็นคือคำพูดคำจาและความคิด พอได้นั่งคุยกัน มีนมีหลายอย่างที่ทำให้ ปรมี สามารถนั่งฟังเรื่องราวเรื่องเล่าหลากหลายจากปากเธอ มีนช่างคิดและช่างคุย คุยและทำนายทายทักได้อย่างหาตัวจับยาก สามารถทำนายทายทักและตักเตือนได้อย่างที่แม้แต่บริกรที่ชงเครื่องดื่มเอง เองยังยอมหยุดที่จะฟังเธอ

 

“เหงาหรือ?”

 

คราวนี้ปรมีน นั่งเท้าคางมองเธอกำลังเล่าเรื่องตำนานอะไรสักอย่าง เขาแค่ฟังผ่านๆ ฟังมันไปอย่างนั้นเพียงเพราะชอบในตอนที่เธอนั่งขยับปาก แก้มป่องๆ เหมือนปลาท้องที่พ่นฟองอากาศ ‘ปั๊บๆๆๆ’    

  

“สายตาคุณกำลังด่าฉันทางอ้อมนะคุณไหมไทย”

 

น้ำเสียงกดต่ำและสายตาวิบวับที่เธอมองมาเหมือนจะต่อว่าแล้วกลับไปหัวเราะร่วน ก็ไม่เลวร้ายนักสำหรับค่ำคืนสุดท้ายในเรือสำราญที่ต่างคนต่างใส่หน้ากากเข้าหากัน และคืนนี้ก็ดูช่างยาวนานเมื่อปรมี พบกับมีน

 

“..ฉันมีน้องชายอยู่คนหนึ่ง ชื่อมัทนา สนใจจะรับไปเลี้ยงดูปูเสือไหม?”

 

หลังจากคุยไปได้สักระยะ มีนเธอก็วนเข้าเรื่องได้อย่างไม่อ้อมค้อม ปรมี ถึงกับเลิกคิ้วถามแต่มีนกับยิ้มพราวแล้วกระดกดื่มเตกีร่าช็อตที่ห้าของเธอ ก่อนจะฟุบหน้าซีกหนึ่งลงแนบบนเคาน์เตอร์ สายตาวิบวับที่จับจ้องมาเหมือนมีแววความหวังปนกับอะไรบางอย่างที่ ปรมี เดาไม่ออก ชั่วเสี้ยวหนึ่งปรมีเห็นว่า เธอกำลังร้องไห้แต่มันก็แค่ชั่วเสี้ยวเดียวจริงๆ

 

“ผมไม่ใช่เกย์ ถึงจะยังไม่มีแฟนแต่ก็รับรองละว่าไม่คิดจะเคลมเด็กผู้ชาย”

 

ปฏิเสธได้อย่างตรงไปตรงมา ปรมี ไม่คิดจริงๆ ว่า มีนจะเป้นผู้หญิงที่หาโอกาสขึ้นเรือสำราญมาเพียงเพื่อประกาศเร่ขายน้องชาย

 

“ถ้าขัดสนเรื่องเงิน บอกผมได้นะ ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงอะไร บางทีผมอาจให้หยิบยืมโดยไม่คิดค่าเสียเวลา”

 

“คุณไม่เข้าใจ..”

 

เธอว่าในขณะที่ยังแนบแก้มป่องๆ ข้างนั้นลงบนเคาน์เตอร์เย็นเฉียบ ดวงตากลมวาวจ้องมาที่เขาอย่างมีความหวัง จดจ้องมาอย่างไม่หลบตา

 

“มีนบอกแล้วใช่ไหม ว่าการได้ขึ้นมาบนเรือสำราญนี้มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของค่าตอบแทน ค่าตอบแทนที่ มีนต้องเดินทางไปยังที่ที่ไกลมากๆ ไกลมากจนคุณเองคิดไม่ถึงเชียวล่ะ”

 

เธอว่าแล้วถือวิสาสะเอามือเขาไปวางที่แก้ม ปรมีสะดุ้งเมื่อสัมผัสได้ว่าแก้มป่องๆ นั่นมันเย็นพอๆ กับน้ำแข็งในโถเครื่องดื่ม

“ฉันแค่ฝากไว้ก่อน นึกเสียว่าเอาลูกนกลูกกาไปเลี้ยงสักตัว แล้วหลังจากนั้น ถ้าคุณทนมันไม่ไหวจริงๆ สักวันฉันจะกลับมาเอาคืน”

 

“ผมคิดดอกแพงนะถ้ายืนยันว่าจะขายจริงๆ ”

 

“อืมส์..”

 

“..แต่เชื่อเถอะว่าผมไม่ได้เป็นเกย์หรือมีรสนิยมชอบผู้ชายไม่มีรสนิยมกระทั่งการเลี้ยงต้อยเด็ก”

ปรมีพูดกระเซ้าแหย่ ฝ่ามือข้างที่แนบแก้มของมีนมันอบอุ่นจนหญิงสาวถือโอกาสยึดมันไว้อย่างนั้นแล้วหลับตา

 

“รู้ไหม? บางทีหญิงหรือชายมันก็ไม่ต่างกัน ”

 

“ต่างสิ ถึงสมัยนี้สังคมจะไม่ค่อยถือสา แต่ผมก็ว่ามันต่าง หญิงกับหญิงผมยังเห็นความงดงาม แต่ชายกับชายนี้บอกตามตรงว่าผมทำใจไม่ได้จริงๆ โอเคถ้าเพื่อนฝูงจะเป็นผมก็ไม่ว่า แต่ถ้าให้คิดภาพตัวเองนอนกอดกับผู้ชาย ผมบอกตามตรงว่าผมคิดไม่ออก”

 

ปรมี ตอบแย้งเธอไปอย่างที่ใจคิด ซ้ำยังอดขนลุกไม่ได้เมื่อบังคับให้สมองคิดภาพตัวเองเปลือยกายก่ายกับผู้ชายหน้าไหนสักคน

 

“คุณเชื่อเรื่องเงือกไหม?”

 

เธอเปลี่ยนเรื่องแต่ยังไม่วายยึดมือเขาไว้แนบแก้ม

 

“..เล่าสิ”

 

อีกครั้งที่ปรมี ขยับเข้าไปใกล้เธอ ครั้งนี้เขาใกล้เสียจนหญิงสาวสามารถเอนศีรษะซบไหล่เขาได้อย่างไม่กลัวหล่น

 

“พวกเงือก..บางตัวสงเสียงก็ไม่ได้ดีเด่อะไรนักหรอก มันก็เหมือนกับเล่าเรื่องไก่ มันก็ใช่ว่าไก่ทุกตัวจะไข่ได้สักหน่อย อ้า..ไม่สิ..นี้ฉันนอกเรื่องอีกล่ะ เอาเป็นว่าเข้าประเด็นเลยแล้วกันมันมีเรื่องเล่าว่าพวกเงือกก็เหมือนกับปลา แล้วปลาบางพวกตัวเมียจะกลายเป็นปลาตัวผู้ได้ ถ้าหัวหน้าฝูงตัวผู้ตายลง..”

 

“..แล้วมันเกี่ยวกันยังไง?”

 

ปรมียังถามด้วยความไม่เข้าใจอยู่ดี

 

“หมายความว่าทุกสิ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ แม้แต่เพศ ร่างกาย หรือเผ่าพันธุ์ ถ้ามีโอกาสหรือระยะเวลาอันเหมาะสม”

 

“คงแปลกพิลึก..แต่ผมก็ยังยืนยันนะว่าผมไม่ชอบผู้ชาย”

 

คราวนี้ปรมีตอบเธอไปพร้อมๆ กับก้มลงหอมหน้าผากเย็นๆ มีนหัวเราะเสียงใส หญิงสาวกำลังเมามายได้ที่ และก็คงจะเมาจนเกินความพอดีเมื่อเธอเอียงคอรอรับสัมผัสจากริมฝีปาก ปรมี อย่างไม่ขัดขืน เหล้ารสอ่อนอย่างไหมไทยถูกสั่งอย่างต่อเนื่องปรมีเลือกที่จะละเลียดรสเหล้าไป ละชิมรสชาติริมฝีปากเธอไป ในขณะที่ มีน ยังคงสั่งเตกีร่ารสเข้มมาสาดใส่กระเพาะของเธออย่างกับว่า นี้มันจะเป็นการดื่มครั้งสุดท้าย

 

“..ถ้าขึ้นฝั่งแล้ว เรามาลองคบกันดูไหม?”

 

ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ปรมีเอ่ยปากถามเธอออกไปอย่างนั้น แต่คำตอบมันก้ไม่ได้เลวร้ายอะไร เมื่อหญิงสาวหันมาแนบริมฝีปากเย็นๆ ชื้นๆ กับแก้มสากๆ ของปรมี

 

“..มีนบอกแล้วว่า มีนต้องเดินทางไกล”

 

“ไอ้การอ้างการเดินทางไกลนี้ถือว่าใช้เป็นคำปฏิเสธได้หรือเปล่า?”

 

ปรมีเอียงคอถาม ถืออีกนัยหนึ่งเขากำลังเอียงคอให้เธอซุกไซ้ปลายจมูกลงกับผิวเนื้อเขาได้อย่างใจชอบ

 

“มีนต้องไปที่ที่ไกลมากจริงๆ ไกลเหลือเกิน..”

 

เสียงเธอจมหายไปกับลำคอ

 

“โทรมาได้ไหม? หรือไม่ก็อีเมล สมัยนี้ติดต่อสื่อสารกันง่ายจะตาย คุณไม่ได้ไปอยู่ในคุกอัซคาบันสักหน่อย หรือไม่จริง? ”

 

ปรมีพยายามลากทุกอย่างให้มาเข้าเรื่องตลกขบขัน เพียงเพราะไม่อยากให้ความเงียบที่เป็นกำแพงกั้นมันยิ่งทำให้ทุกอย่างห่างไกล แต่สุดท้ายมันก็ได้แค่นั้น หญิงสาวได้แค่เค้นยิ้มออกมาแล้วโอบกอดรอบลำคอปรมี

 

มีน กำลังร้องไห้ ปรมี รู้สึกอย่างนั้น สัมผัสที่กระชับผ่านร่างกาย มันกำลังฟ้องต่อเขาว่าเธอกำลังร้องไห้ ร้องโดยที่ไม่กล้าให้น้ำตาสักหยดไหลหรือหล่นลงมาจากหางตา

 

***

 

“มัทนา เป็นเด็กดี หัวอ่อนแต่ออกจะงี่เง่าไปสักหน่อย นอกจากนั้นเด็กนั่นก็แรงเยอะใช่เล่น ถ้าจะสั่งหรือจะสอนกันก็ต้องใช้เหตุผลแล้ววางอารมณ์ลง เด็กคนนั้นจะเชื่อฟังคนที่ทำตัวเป็นผู้ใหญ่กว่า เชื่อว่าคุณรับมือได้สบายๆ”

 

“ให้ตายเถอะคุณผู้หญิง ผมว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ ว่าผมไม่เลี้ยงต้อยแน่นอนและถึงผมจะเลี้ยงผมก็ไม่ได้มีรสนิยมชอบผู้ชายอะไรมากมายแบบที่คุณกำลังพรีเซ้นต์เพื่อที่จะขายน้องชายให้ผมขนาดนี้ ”

 

ปรมีบ่นกลายๆ แล้วย้ายตัวเองขึ้นมาคร่อมทับหญิงสาว ดวงตาคมในตอนนี้กำลังจ้องจับอยู่ที่ลูกแก้วสีเทาวาวเมื่อคำว่ารักเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนเขาได้ถวายให้เจ้าของดวงตานี้จนหมดสิ้น ปรมี รัก มีน รักหญิงสาวที่เพิ่งรู้จักได้เพียงคืนเดียวจนหมดใจ ชั่วเสี้ยวแรกที่ได้ลิ้มรสรักในห้องสวีต ปรมี คิดว่านั้นเป็นแค่อาการหลงใหล หากแต่เมื่อได้กอดร่างกายหญิงสาวไว้ ในสมองของปรมีกับมีภาพอนาคตฉายออกมาอย่างช้าๆ

 

สำหรับมีน ปรมีจะเป็นคุณพ่อ หนึ่ง สอง หรือสาม ไม่สิ สี่ ห้าก็ได้ เมื่อฟาร์มไข่มุกกับร้านจิวเวลรี่ มันทำกำไรได้ขนาดจะเลี้ยงเด็กหลายคนได้อยู่ ปรมี เคยไม่ชอบเด็กๆ แต่พอคิดว่าเด็กที่ว่า คือลูกของเขา ปรมีก็ไม่มีอะไรจะปฏิเสธให้ไม่ชอบหรือรู้สึกแบบเก่าได้

 

“ฝากมัทนาที.. ”

 

เธอว่าแล้วโน้มใบหน้าเขาลงไปจูบแผ่ว แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ มีน กอดเขาแน่นเหมือนทุกครั้งที่มีนคว้าตัวเขาไว้ได้ กอดที่เหมือนจะถ่ายทอดความรู้สึกทุกอย่าง แม้กระทั่งความรู้สึกรัก ที่เธอไม่เคยเอ่ยออกมาสักครั้ง

 

“..ถ้าเราแต่งงานกัน บ้างทีผมอาจจะรับน้องคุณมาเลี้ยงได้โดยที่คุณไม่ต้องทำแบบนี้นะมีน”

 

ปรมี เอ่ยปากยื่นข้อเสนอ แต่หญิงสาวไม่ได้ตอบอะไร เธอยังคงกอดเขาไว้แล้วเบียดกายให้ยิ่งแน่นแนบชิดเข้าไปอีก

 

“..แน่ใจหรือว่าจะไม่มีทางชอบผู้ชาย?”

 

เสียงใสส่อแววหยอกเย้าแต่จริงจังในน้ำเสียง จนปรมีชักจะหวั่นไหว

 

“ถ้าคุณจะบอกผมว่า คุณเป็นผู้ชายแปลงเพศมาอย่างนั้นก็โอเค ไม่รู้สิ ผมแค่อยากมีชีวิตร่วมกับคุณ อยากอยู่ด้วยกัน อยากก้าวเดินไปพร้อมๆ กัน ถ้ามันมีวีทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนั้นได้ ถึงคุณจะเป็นกะเทยแปลงเพศมาผมก็ถือว่าหยวนๆ ”

 

“..ปรมี..”

 

“หือ?”

 

“..มีน..”

 

“..ทำไมเงียบไปล่ะ?”

 

“..มีนกำลังคิดคำสาปอยู่..”

 

“สาปใคร?”

 

“สาปคุณ..อ้า..สาปให้คุณรักใครไม่ได้อีก นอกจากมีน ..อ่ะ ไม่ดีกว่าคำสาปแบบนั้นมันเหมือนกำลังเห็นแก่ตัว..ไม่ดีไม่ดี..”

 

“..ถึงไม่สาป..ผมก็รักได้แค่มีน”

 

“..แล้วรักผู้ชายได้ไหม?”

 

“..ไม่มีทาง”

 

ปรมีตอบพรวดออกมาแบบไม่ต้องคิด มีนเงียบไปนานแล้วหลังจากนั้นเธอก็ใช้ฝ่ามือประคองหน้าเขาเบาๆ

 

“ถ้า..แล้วสมมุติถ้ามีนกลายเป็นผู้ชาย เป็นผู้ชายที่ดูดีจนทำให้คุณมองได้อย่างไม่เบื่อเลย..คุณจะรักมีนอีกครั้งได้ไหม? ”

 

ปากเธอถามแต่สายตาที่มองมามันคล้ายอ้อนวอน ปรมี ได้แต่ยิ้มพราย เมื่อสิ่งที่มีนกำลังทำมากมายอยู่ในตอนนี้มันเหมือนยืนยันได้ว่า หล่อนเองก็รักและหลงใหลในตัวเขาเหมือนกัน

 

“ก็ไม่แน่ ถ้าลีลาดี รสชาติจัดจ้าน ติดปากติดใจ ..ถ้ามีนกลับมาอีกครั้งในร่างผู้ชายแล้วเป็นอย่างที่ผมว่า บางทีเราอาจได้กลับมารักกันอีกครั้ง.. ”

 

ปรมี เล่นไหลไปตามน้ำกับสิ่งสมมุติที่หญิงสาวสร้าง แล้วก็ลืมมันทุกอย่างเมื่อ มีน กำลังกระตุ้นให้เขาเริ่มเกมรักอีกครั้งอย่างเต็มใจ

 

“อย่าลืมที่พูดไว้นะ..”

 

มีนจับใบหน้าเขาประคองแล้วจ้อลึกเข้าไปในตา..

 

“จำมีนให้ได้ ..หามีนให้เจอ แล้วจับไว้ ก่อนที่โอกาสจะหายไปตลอดกาล..ปรมี..ที่รัก..”

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา