Friendship กูเมะ มึงเมะ แล้วใครจะเคะวะ!? [ํYaoi]

-

เขียนโดย Nice40

วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 22.51 น.

  3 chapter
  1 วิจารณ์
  10.68K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2557 23.51 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) FS02: คิดอกุศลได้ไงวะ (?)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 
 


(เฮียตินกับเฮียแทน อร๊ายยยฟิน >.<)


FS2: คิดอกุศล...ได้ไงวะ

 

เอี๊ยด!!

เสียงล้อเสียดสีกันพื้นดังขึ้นทันทีที่ผมเหยียบเบรก ตอนนี้ผมจอดรถอยู่หน้าโรงยิมร้างแห่งหนึ่งแถวๆ ชานเมือง ผมมองเข้าไปในโรงยิมก็พบว่ามีแสงไฟสปอร์ตไลท์เปิดสว่างจ้าไปทั่วบริเวณ

หึ! พวกหมาหมู่!

ผมเดินเข้ามายังโรงยิมร้างแห่งนี้ช้าๆ ใช่! ในเวลานี้ ผมควรจะโวยวาย บ้าคลั่งที่มีคนมาทำร้ายไอ้ติน แต่ไม่หรอก นั่นมันไม่ใช่ผม

พึ่บ! เคร้ง!

จู่ๆ ก็มีไอ้พวกกุ้ยประมาณห้าคนกระโดดลงมาจากลังไม่จำนวนมากมายืนดักหน้าผมไว้ ที่สำคัญพวกมันยังเตะท่อนเหล็กใส่ผมอีกด้วย หึๆ ก็แค่พวกลูกหมาล่ะวะ!

“หึๆ ขอบใจที่ต้อนรับนะพวกลูกหมา” ผมแสยะยิ้ม พร้อมกับใช้มือล้วงกระเป๋ากางเกงด้วยท่าทางกวนโอ๊ย

ใช่! ผมยอมรับว่าตอนนี้ผมกำลังสร้างอารมณ์ให้ตนเองและศัตรู เพราะเวลาเอาคืน มันจะได้ตายคาตีนยังไงล่ะ!

แปะๆ

เสียงปรบมือดังมาจากด้านหลังของผม ก่อนที่จะปรากฏร่างของใครคนหนึ่งซึ่งผมรู้ดีว่ามันเป็นใคร

แน่นอนว่าไม่มีใครทำผมสีแดงแสบตานอกจากไอ้คู่อริสุดซ่าของผม มันชื่อฮิวโก้ หึๆ ผมกับมันไม่กินเส้นกันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมนู่น จนขึ้นปีสามแล้วมันยังไม่เลิกหาเรื่องผมอีก

“ปากดีเหมือนเดิมนะมึง” ไอ้ฮิวโก้มันเดินมาตบบ่าผมแรงๆ แต่ผมรีบไหวไหล่หนีมันและปัดมือมันออกด้วยความเร็วแสง (เว่อร์ละ) 

มันแสยะยิ้มชั่วๆ ก่อนจะเดินไปรวมกลุ่มกับลูกน้องมันที่ยืนอยู่ด้านหน้าผม

“ไง ไม่เจอกันนาน ได้ยินข่าวว่ามึงเลวกว่าเดิมนี่” ไอ้ฮิวมันพูดด้วยน้ำเสียงยียวนกวนประสาท แต่มีเหรอผมจะบ้าจี้ตามมัน

“แต่ก็ว่านับวันมึงยิ่งหมากว่าเดิมอีกนะ หึๆ” ผมตอกกลับ ซึ่งปฏิกิริยาของไอ้ฮิวก็ไม่ผิดไปกับที่ผมคิดไว้มากนัก มันกัดฟันกรอด พร้อมกับหายใจดังฟึดฟัดด้วยความโมโห ก่อนจะกวาดสายตาหาร่างของไอ้ติน แต่ก็ไม่พบแม้แต่เงา

“หาอะไร? อ่อ หาเพื่อนมึงอยู่เหรอ หึๆ ใจเย็นๆ สิ แหม...ดูมึงเป็นห่วงมันเหลือเกินนะเพื่อนคนนี้น่ะ”

“มันเรื่องของกู มึงจะเอาไงก็รีบๆ พูดมา อย่าเยอะ แม่-ง...เสียเวลาเคาท์ดาวน์กู!” ผมบ่น ก่อนจะยืดเส้นยืดสายด้วยการยืดแขนยืดขา

“เพื่อนมึง...จะออกไปได้ ก็ต่อเมื่อมึงล้มพวกกูให้ได้” ไอ้ฮิวมันแสยะยิ้มชั่วอีกครั้ง ก่อนที่มันจะส่งสัญญานบอกลูกน้องมันเพื่อให้ทำอะไรสักอย่าง

“กูจะไม่ถามมึงอีก แต่กูจะถามมึงแค่ข้อเดียว มึงทำเพื่ออะไร ต่างคนต่างอยู่มึงไม่ชอบ? หรือมึงไม่อยากให้กูสงบสุข?”

ผมถามมันด้วยความรำคาญสุดๆ บ้าเอ้ย!...ผมไม่ได้ถอดใจหรอกนะแค่ล้มพวกมันน่ะ แต่ที่ผมเบื่อมันก็คือ...นี่มันเรื่องไร้สาระป่ะวะ โคตรไม่มีเหตุผลบ้าๆ อ่ะ

แต่! ที่ผมจะยอมต่อยกับมันมีอยู่เรื่องเดียวในตอนนี้คือ มันทำร้ายไอ้ตินเพื่อนของผม ผมยอมไม่ได้!

“มึงกับกู...มาจบเรื่องราวที่ผ่านมากันเถอะ กูขี้เกียจยกพวกตีกันกับมึงละ แม่-ง...ยิ่งต่อยกูก็ยิ่งแพ้ มึงมัน...ควายโง่ๆ อ่ะ”

โธ่! ไอ้ควาย ด่ากูนี่แบบ...สุดๆ อ่ะ =_=

แต่คุณว่ามันปัญญาอ่อนไหมครับ หึ! เด็กชิบหาย ไอ้บ้านี่

“มาเริ่มเลยดีกว่า ป่านนี้ไอ้ตินมันจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ บ้าเอ๊ย! มึงมาลงกับเพื่อนกูทำเพื่อไรวะ!

พลั่ก! ตุบๆๆๆ!

ผมพุ่งเข้าใส่ไอ้ฮิวโดยไม่รีรอ ไม่รู้สิ พอพูดเรื่องไอ้ตินถูกทำร้ายทีไร ผมก็นึกอยากจะฆ่าพวกมันขึ้นมาทันที ผมโดนลูกน้องของไอ้ฮิวรุมถีบ ชก ต่อย แต่มีเหรอแค่นี้ผมจะแพ้ ไม่มีทาง!

ผมชกลูกน้องมันที่ไม่รู้ออกมาจากไหน จำนวนพวกมันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ บ้าชิบ!...มึงเป็นมอนสเตอร์หรือไงนะ ถึงผลิตลูกหมาออกมาได้ตลอดเวลาเนี่ย!

ผมระดมหมัดใส่ลูกน้องมันแต่ละคน ซึ่งตอนนี้ผมจัดการไปได้เกินครึ่งแล้ว หึๆ ผมบอกแล้วว่าพวกมันด๋อย!

“เฮ้ย! จัดการมันสิวะ มันมาแค่คนเดียว พวกมึงตั้งสามสิบคนจะแพ้ไม่ได้นะโว้ย!

ไอ้ฮิวโก้ตะโกนบอกลูกน้องมัน โดยที่ตัวเองยืนสั่งการอยู่บนลังไม้ที่ตั้งอยู่ด้านหลัง หึ! ไอ้ขี้ขลาด!

ตุบๆ พลั่ก!

ผมถูกไอ้กุ้ยคนนึงชกเข้าเต็มๆ ที่ใบหน้า อา...เห็นดาวเลยครับท่าน @_@

“ไอ้เชี่ย! แค่หมัดเดียวมึงคิดว่าจะทำอะไรกูได้หะ!” ผมระเบิดอารมณ์ในที่สุด ก่อนจะระดมชกพวกมันด้วยความโกรธ ยิ่งเมื่อนึกถึงใบหน้าและร่างกายของไอ้ตินที่เต็มไปด้วยบาดแผล ผมยิ่งโมโห!

พลั่ก!

“อั่ก”

“ฮะ...เฮ้ย! พะ...พวกมึง”

O[]O!

วี้ วอ วี้ วอ (เสียงไซเลนรถตำรวจ)

“พ่อมา หนีเร็ว!

เสียงตะโกนดังมาจากหน้าโรงยิม ทำให้ทุกคนที่นอนระเนระนาดอยู่บนพื้นรีบลากสังขารตัวเองให้ลุกขึ้น เสียงไซเลนจากรถตำรวจดังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ทำให้ผมหยุดชะงัก ก่อนจะหันไปหาไอ้ฮิวโก้ที่กำลังเตรียมเผ่น

ผมรีบวิ่งไปคว้าคอเสื้อมันไว้ด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะบรรจงสายตาโหดเหี้ยมใส่มัน

“เพื่อนกูอยู่ไหน” ผมกดเสียงต่ำ ซึ่งตอนนี้ใบหน้ามันถอดสีเลยครับ หึๆ เล่นกับใครไม่เล่น

“ตรงนู่น กูไปละนะ เจอกันโอกาสหน้า โชค!

พลั่ว!

ผมชกเข้าที่ใบหน้าผมด้วยความโมโห ซึ่งมันเป็นหมัดที่หนักติดอันดับหนึ่งในห้าของผมแน่นอน

“นั่นสำหรับกู”

พลั่วๆๆๆ!

“และนั่น! สำหรับเพื่อนกู!” ผมระดมหมัดใส่มัน ก่อนที่ผมจะผลักมันให้พ้นทาง แล้วรีบวิ่งตรงไปที่ๆ ไอ้ฮิวมันบอกเมื่อครู่

ทันทีที่ผมวิ่งมาถึงบริเวณหลังลังไม้ สิ่งแรกที่ผมเห็นคือร่างของคนๆ หนึ่ง มีผมสีดำสนิท ผิวขาวซีด ร่างสูงและกำยำ เสื้อผ้าขาดเป็นริ้วๆ และมีคราบเลือดเต็มไปหมด ใบหน้าอันหล่อเหล่าของเขาตอนนี้ถูกแต่งแต้มไปด้วยรอยบาดแผลและเลือดเปรอะไปหมด

“อ๊ากกกก อย่าให้กูเจอพวกมึงอีกนะโว้ย!” ผมคำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะค่อยๆ พยุงร่างของไอ้ตินที่อ่อนปวกเปียกขึ้นมา ก่อนจะยกรร่างของมันขึ้นขี่หลังด้วยความทะลักทุเล

“ไอ้บ้านี่...ตัวใหญ่ชิบ หนักเท่าควาย” ประโยคเดิมที่ผมชอบพูดเวลาที่ผมพยุงร่างของไอ้ตินขึ้นขี่หลังตอนที่มันถูกทำร้ายแล้วหมดสติ

ตอนนี้ตำรวจยังคงวุ่นวายอยู่กับลูกน้องของไอ้ฮิวอยู่หน้าทางเข้าโรงยิมร้างอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าผมสามารถหนีออกไปได้ เพราะผมจอดรถอยู่ข้างใน และสามารถขับรถฝ่าออกไปด้วยความเร็วสูง รับรอง รอด!

แจ๋ว นั่นแหละความคิดผม!

 

“อื้อ” ไอ้ตินครางในลำคอ ในขณะที่ผมวางมันลงที่เตียง

“อ่ะ ปวดไหล่ชะมัด” ผมว่า ก่อนจะใช้มือนวดไหล่ตัวเอง

เฮ้อ! ลำบากกูอีกแล้วนะมึง ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมทุกครั้งที่ไอ้หมอนี่มีเรื่อง มันจะต้องหมดสติทุกที แล้วถ้าถามว่าใครลำบากดูแลมัน

หึๆ กูนี่แหละครับ =_=

“มึงตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยไอ้ติน อย่ามาสำออย” ผมพูด พลางถอดแจ็คเก็ตตัวเองออก

“อื้อ อืม” ดูหน้ามันสิครับ แผลเต็มจนจะไม่เป็นรูปหน้าคนแล้ว มันยังหลับสบายอีก แหวะ! หมั่นไส้ว่ะ ขอจิ้มหน่อยเหอะ

จึก!

“โอ๊ย! เจ็บ!” ไอ้ตินสะดุ้งลุกขึ้นพร้อมกับนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด มันกุมท้องตัวเอง ก่อนจะล้มตัวลงนอนเหมือนเดิม

“แกล้งกูเหรอ”

“ไม่! คนอย่างมึงมันสมควรเจอบ้าง ใครใช้ให้มึงไปต่อยกับไอ้พวกนั้นหะ!” ผมขึ้นเสียงใส่มัน พร้อมกับยืนกอดอก จ้องตามันเพื่อเค้นความจริง เพราะผมรู้ว่ามันจะไม่บอกความจริงผมแน่ๆ

“ก็...กูบังเอิญเจอตอนขับรถเล่น” ไอ้ตินมันหลบสายตาผม หึ! กูเชื่อตายแหละ

“ขอความจริง อย่ามาแถกับกู” ผมถามเสียงเข้ม พร้อมกับนั่งลงข้างๆ เตียง ไอ้ตินจ้องผมนิ่ง ก่อนจะถอนหายใจออกมาแรงๆ

“กูแค่อยากจัดการเรื่องนี้”

“แต่มันเป็นคู่อริกู”

ของมึงก็ของกูนั่นแหละ

O_O!

ผมถึงกับสตั๊นไปสามวินาที บ้าจริง! มันพูดเชี่ยไรของมันวะเนี่ย =_=

“ตะ...แต่มึงก็ควรบอกกู ไม่ใช่ไปคนเดียวแบบนี้ แล้วผลมันออกมาเป็นยังไง สถาพมึงตอนนี้ไม่ต่างอะไรก็ศพ!” ผมขึ้นเสียงใส่มันอีกครั้ง และเราสองคนก็ต่างเงียบ ไม่พูดอะไรเลย จนผมเริ่มรู้สึกอึดอัด ผมจึงลุกขึ้นเดินไปหยิบกล่องปฐมยาบาลเบื้องต้นมาทำแผลให้ไอ้ติน

“ถอดเสื้อสิ กูจะได้รีบๆ ทำ”

“ถอดให้หน่อย กูเจ็บอยู่นะ”

“นี่มึงอย่าเรื่องมากได้ไหม”

“หึๆ”

“ไอ้ตูดเอ๊ย! มึงจะตายอยู่แล้วยังมาทำหน้าระรื่นอีก”

“กูขอโทษ แต่กูแค่เป็นห่วงมึง...เท่านั้นเอง”

“....”

ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก

หัวใจผมเต้นแรงผิดปกติ กับคำพูดเมื่อสักครู่ของไอ้ติน ผมรู้นะว่าผมกับมันอยู่ด้วยกันสองคนมาตลอด แต่ไอ้ตินมันไม่เคยพูดอะไรซึ้งๆ แบบนี้กับผมมาก่อน มันเพิ่งจะมาเริ่มพูดวันนี้นี่เอง

มันเลยทำให้ผม...รู้สึกเขินชอบกล

“เออ ห่วงก็ห่วงดิวะ พอๆ จบๆ อย่าทำแบบนี้อีกนะเว้ย! มึงไม่ใช่ฮีโร่จะมาคอยปกป้องกู โด่ว ไอ้บ้าเอ๊ย!” ผมค่อยๆ ถอดเสื้อออกให้มันอย่างช้าๆ แล้วเบามือ ด้วยกลัวว่ามันจะกระทบบาดแผลบริเวณหน้าท้องและลำตัวของมัน

ทันทีที่ถอดเสื้อเสร็จ สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าผมคือ...รอยช้ำขนาดใหญ่ที่เกิดจากการเตะซ้ำๆ หนักๆ บริเวณหน้าท้อง ส่วนบริเวณหัวไหล่ของไอ้ตินก็เป็นรอยแผลขนาดใหญ่ที่มีเลือดไหลออกมาไม่หยุดเช่นกัน

แต่...ทำไมหัวนมมันถึงเป็นสีชมพูและตั้งด้วยวะ แถมมันยัง...เชิญชวนให้เราเข้าไปสัมผัสอีกต่างหาก

เอิ่ม...แล้วทำไมมึงต้องมองด้วยเนี่ยไอ้แทน นี่มึงอย่าบอกนะว่ามึงเกิดมีอารมณ์อีกแล้วอ่ะ =_=

“มองอะไร ทำแผลให้กูดิ เจ็บจะตายอยู่แล้วเนี่ย” ไอ้ตินมันพูด นั่นทำให้ผมถึงกับสะดุ้งจากพะวัง ก่อนจะก้มหน้าไม่กล้าสบตากับไอ้ติน

แม่ง...กูคิดอกุศลกับผู้ชายที่เป็นเพื่อนแท้ๆ ได้ไงวะเนี่ย!>O<

“มึง...มองหัวนมกูทำไม”

เชี่ย! แล้วแม่งจะถามขึ้นมาทำเพื่อ >O<

“ปะ...เปล่า ไม่มีอะไร”
         กูแค่รู้สึกอยากดูดหัวนมมึงเท่านั้นเอง
=O=

 

“ถ้าไม่มีอะไร ก็รีบทำแผลให้กูดิ เจ็บจะตายอยู่แล้วเนี่ย” ไอ้ตินมันตีสีหน้าสำออย ก่อนจะขยับตัวนั่งให้ถนัด

“อย่ามาสำออย” ผมเบ้ปาก พร้อมกับเอาสำลีชุบแอลกอฮอล์ ก่อนจะทำการล้างแผลสดๆ ให้ไอ้คนเจ็บ

“ซี้ดดด มะ...มึง กรอดดด”

“ฮ่าๆ ไม่เห็นจะเจ็บตรงไหนเลย” ผมพูดหน้าตาเฉย พร้อมกับทาสำลีชุบแอลกอฮอล์ไปให้ทั่วบริเวณปากแผล ทำให้ไอ้ตินมันต้องกัดริมฝีปากตัวเองและจิกผ้าห่มอย่างแรง เพราะต้องอดทนกับความเจ็บและแสบที่ผมจงใจสร้างให้มันโดยเฉพาะ

หึๆๆ สะใจกูจริงโว้ยยยยยย ^O^

“มึงลองมาเป็นกูไหมล่ะ อย่าๆ มันแสบ ซี้ดดด”

“อดทนหน่อยน่า จะเสร็จละ”

“กูเสียว แสบ และเจ็บมากกกกกก ซี้ดด”

=_=+

ไอ้บ้านี่ ใครใช้ให้มันพูดอะไรพิลึกแบบนั้นกันฟะ!

 อ่ะๆ ถึงแม้คำพูดที่ผมกับมันพูดเมื่อครู่จะเข้าข่าย 18+ แต่ความจริงคือผมกับมันแค่ล้างแผลเท่านั้นนะครับ อย่าแบนผมน้า พลีสสสส T_T

“พอๆ มึงมันบ้า เจ็บแล้วยังปากดีอีก โวะ! กูไปอาบน้ำละ” ผมว่า ก่อนจะทำการจัดการเก็บกล่องยาให้เรียบร้อย

หมับ!

ทันทีที่ผมลุกจากเตียง ก็มีอีกมือมาฉุดมือผมไว้ทันที

“อะไร” ผมถาม

“มึง...หายโกรธกูแล้วใช่ไหมแทน” เจ้าของร่างเจ็บถามผมด้วยน้ำเสียงฟังดูเป็นกังวลมาก

“อืม แต่อย่าทำแบบนี้อีก เข้าใจ๊” ผมชี้หน้ามันด้วยสีหน้าทะเล้น ซึ่งแน่นอนว่ามันเรียกรอยยิ้มโล่งอกจากอีกคนได้ดี

          “อือ” ไอ้ตินตอบรับในลำคอ แต่ยังไม่ปล่อยข้อมือผม

“มึงมีอะไรก็รีบๆ พูดมา กูเริ่มง่วงละ”

“ขอบใจนะ...ที่อยู่ต่อกับกูอีกปี”

O_O!

“กูดีใจนะ ที่ได้อยู่กับมึง

“ไอ้บ้า! มึงพูดอะไรว่ะเนี่ย เอียนชิบหาย แหวะ อย่าพูดแบบนี้อีกนะมึง พิลึก!” ผมสะบัดมือมันออก ก่อนจะเดินออกมาด้วยหัวใจเต้นรัว

ดะ...เดี๋ยว นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ! ทำไมช่วงนี้ไอ้ตินมันถึงได้พูดอะไรแปลกๆ แบบนี้อยู่เรื่อยเลย

แล้วนี่กูจะเขินทำเพื่อ!?

>////<

ไม่ๆ อาจจะเพราะว่าผมไม่เคยได้ยินอะไรแบบนี้มากกว่ามั้ง ที่สำคัญผู้ชายแมนๆ อย่างผมกับมันไม่ค่อยได้พูดอะไรแบบนี้ มันก็ต้องเขินบ้างแหละวะ ใช่ๆ มันต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ

End Tan’s part.

หลังจากที่แทนเดินออกไปจากห้องนอน ตินก็ได้แต่นั่งนิ่ง และคิดอะไรบางอย่างอยู่ตามลำพัง ก่อนจะมองไปยังประตูอีกครั้ง

กูแค่อยากจะพูดในสิ่งที่ไม่เคยพูดกับมึง ก่อนที่กูจะไม่มีโอกาสได้พูด...ก็เท่านั้นเอง



 

ฝ่ายแทนที่เดินออกมาด้วยหัวใจที่เต้นรัวและสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง ก็ได้แต่นั่งกุมขมับอยู่ในห้องน้ำ บ้าที่สุด! ทำไมเขาต้องมานั่งคิดเห็นแต่ภาพสรีระอันเย้ายวนของมาร์ตินด้วย!

“กรอดดด นี่มึงต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ แทน!” แทนก่นด่าตัวเอง พร้อมกับยกมือทึ้งผมตัวเองแรงๆ

ภาพสัดส่วนร่างกายทุกๆ ส่วน ยังคงติดตาของเขาไม่หาย หุ่นกำยำที่สุดแสนจะเพอร์เฟ็กซ์และเย้ายวนนั่น ริมฝีปากหยักสีอมชมพูได้รูปนั่น และหัวนมที่ตั้งชูชันสีชมพูที่เชิญให้เข้าไปสัมผัสนั่น ช่างเป็นอะไรที่ทำให้...น้องชายของเขาตั้งอีกแล้วจริงๆ

“อ๊ากกก! กูต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ กูคิดบ้าอะไรวะเนี่ย สงสัยกูจะเจอผู้หญิงปฏิเสธบ่อยเกินไป ถึงได้คิดบ้าๆ แบบนี้ ให้ตายเถอะ! ขยะแขยงชิบ! L

ว่าแล้วแทนก็เปิดฝักบัวรดตัวเองด้วยน้ำเย็นจัด เพื่อเป็นการเรียกสติตัวเอง และจะได้ไม่ต้องไปคิดเรื่องอกุศลและอัปมงคลกับมาร์ตินแบบนั้นอีก

 

Rrrr

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในยามเช้าของวันจันทร์ที่แสนจะสดใส คืนข้ามปีผ่านไปแล้ว ส่วนวันนี้ก็คงหนีไม่พ้นวันปีใหม่สินะ

สองหนุ่มเพื่อนรักยังคงนอนหลับเป็นตายอยู่บนเตียงขนาดคิงไซส์ที่ตั้งอยู่ใจกลางห้องนอน หลังจากเมื่อคืนนี้ที่พวกเขาต้องเสียแรงกับการใช้พลังงานและเจ็บตัวกันมากเกินไป (?)

ร่างสูงเจ้าของเสียงริงโทนอันเป็นเอกลักษณ์ เริ่มขยับตัวงัวเงียและกวาดมือหาโทรศัพท์เจ้าปัญหาไปทั่ว

“โทรศัพท์กูอยู่ไหนวะเนี่ย” แทนกล่าวด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ทั้งๆ ที่มือของเขายังคงคลำหาโทรศัพท์ไปทั่วเตียง ลามไปถึงคนที่นอนร่วมเตียงด้วยอีกคน ซึ่งขานั้นหลับเป็นตายไม่รู้เรื่องรู้ราวเลยสักนิด

Rrrr

“เออๆ กูรู้แล้ว แต่ว่ามึงอยู่ไหนครับคุณโทรศัพท์ ปรากฏตัวให้กูเห็นทีดิ =_=

แทนดันตัวเองลุกขึ้นนั่งแล้วกวาดสายตามองหาโทรศัพท์ที่ยังแผดเสียงดังไม่หยุด

“อะไรกันนักกันหนาวะ ไอ้คนโทรมันไม่มองนาฬิกาหรือไงฟะ มันจะโทรมาทำบ้าอะไรเช้าขนาดนี้” แทนบ่นงึมงำพร้อมกับกดรับโทรศัพท์หลังจากที่หามันเจอแล้ว

“มึงโทรมาแต่เช้าทำบ้าอะไรไม่ทราบ คนจะหลับจะนอน” แทนกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์ด้วยความหงุดหงิด

[แหม อย่าเพิ่งหงุดหงิดสิครับเฮียแทนสุดหล่ออออ]

คนที่อยู่ปลายสายลากเสียงยาวอย่างประจบ ทันทีที่ได้ยินเสียงแทนก็อ๋อทันทีว่าคนที่โทรมานั้น ก็คือน้องรหัสสุดที่เลิฟของเขานั่นเอง

“มึงไม่ต้องมาประจบเลยเมล รำคาญอ่ะ”

[อย่าเพิ่งรำคาญสิครับเฮียแทน ผมมีธุระอยากให้เฮียช่วยอ่า ^O^]          คาราเมลพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน จริงๆ เลยเด็กคนนี้ ทำไมมันถึงขี้อ้อนนักวะ

“แต่วันนี้มันวันหยุด” แทนแกล้งทำเป็นพูดเล่นตัว

[หยุดก็ช่างหัวมันสิครับ ผมรู้ว่าเฮียไม่มีอะไรทำมากนักหรอก ใช่มั้ย?]

“เฮ้อ! จริงๆ เลยนะมึงเนี่ย อยากให้ช่วยอะไรก็ว่ามา”

แทนจำต้องถอนหายใจยอมกับน้องรหัสคนนี้ นอกจากมันจะเป็นผู้ชายที่ตัวเล็กผมกะหร่องแล้ว มันยังขี้อ้อนให้เขาช่วยนั่นช่วยนี่อยู่ตลอด ก็ทำไงได้ เด็กมันน่ารักนี่หว่า ^O^

[วันนี้เฮียไปเป็นผู้ช่วยพาผมไปเดทกับสาวหน่อยสิ ผม...ไม่รู้จะเริ่มยังไงว่ะ โคตรเขินอ่ะ >///<] เสียงปลายสายกระดี๊กระด๊าใหญ่ ทำเอาคนเป็นพี่ถึงกับส่ายหน้าระอา

“มึงจะเอากูไปเป็นก้างหรือเอาไปแย่งซีน?” แทนถามเสียงสูง

[ผู้ช่วยๆ โวะ เฮียนี่มัน...ถ้าเฮียไม่ไปเอาเฮียตินมาแทนได้ป่ะล่ะ คึๆ] คาราเมลหัวเราะด้วยน้ำเสียงฟังดูเจ้าเล่ห์สุดๆ ก่อนจะเงียบเพื่อรอฟังคำตอบ

“มึงจะบ้าหรือไง ไอ้ตินมันนอนเดี้ยงอยู่บ้านเนี่ย จะให้มันถ่อสังขารที่ไหนไปไม่ทราบ”

[เฮ้ย! เฮียตินเป็นอะไรอ่ะเฮีย] คาราเมลตะโกนสุดเสียง

“มันโง่ไง ช่างหัวมันเหอะ ปล่อยให้มันนอนไป ส่วนมึง...มาต่อกับกูนี่







...........................................................................
จ๊ะเอ๋ สุดท้ายก็ครบหนึ่งร้อยแล้วจ้าาา อ่า จะเห็นได้ว่ามีตัวละครใหม่โผล่มาอีตัวแล้ว รับรองค่ะ ว่าคาราเมลนี่แหละคือตัวแปรสำคัญที่ขาดไม่ได้จ้า เดี๋ยวตอนหน้าไรท์จะเอาอิมเมจคาราเมลมาฝากนะจ๊ะ แต่เอ๊ะ! เฮียแทนจะไปต่ออะไรกับน้องรหัสน้ออ อย่าลืมติดตามนะคะ ^O^


เขียนไปยิ้มไป แบบว่า...เฮียตินนนนนนนนนนน ตกลงเฮียแกล้งโง่ใช่มั้ยหะ!
แล่วๆๆๆ เกิดอาหยั๋งขึ้นกันแน่นะเฮียแทน เริ่มหวั่นไหวแล้วล่ะสิ คึๆ XD
อัพทีละนิดจิตแจ่มใสนะคะ ฮ่าๆ ที่สำคัญอย่าลืมดูแลสุขภาพนะคะ ไรท์ไม่สบายไปหลายตลบแล้วอ่ะค่ะ TOT
ขอบคุณทุกคนค่าาา ^O^

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา