P.P.Rising The Bullet Time อภินิหารพลังจิตเหนือโลก

8.1

เขียนโดย Spy442299

วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 10.54 น.

  46 chapter
  28 วิจารณ์
  42.04K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2557 17.28 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

25) เมื่อพลังจิตผงาด บทที่ 11 [การ์เดี้ยน]

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

P.P. Rising: The Bullet Time

เดอะบูลเลตไทม์ อภินิหารพลังจิตเหนือโลก

  1. Ch.21 เมื่อพลังจิตผงาด บทที่ 11 [การ์เดี้ยน]

Rewrite V.3

 

◊◊◊

 

[03:15] [03/01/2058]

[ในความฝัน]

 

‘ฝันถึงเธออีกแล้ว...เมงุมิ

 

ตอนนี้พีนั่งอยู่บนแผ่นดินที่มีต้นไม้ขนาดห้าคูณห้าเมตรที่ลอยกลางอากาศได้เหนือมหาสมุทรเหมือนกับฝันคร่าวก่อนที่สถาบันวิจัยลับเก่าของด็อกเตอร์ซิส และมีเมงุมินั่งอยู่ข้างๆ ด้วย

 

‘ถึงรู้ว่าเป็นแค่ฝัน...

แต่ฉันก็ไม่กล้าสบตา

ไม่มีหน้าจะมองเธอด้วยซ้ำไป’

 

“ในที่สุดพีคุงก็กลับมาหาแล้ว...”

 

เมงุมิพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงที่ไม่เหมือนคนเดิม และเธอก็พูดประโยคที่ทำให้เขารู้สึกขนลุกแทน

 

“ฉันรอคุณนานมากเลยรู้ไหมคะ” เมงุมิเข้ามากอดคอกระซิบข้างหู “อยู่ที่นี่คนเดียวมันเหงามากเลย มาอยู่กับฉันตลอดไปนะคะ”

 

เมงุมิพูดจบ พีรีบใช้มือทั้งสองข้างจับไหล่เมงุมิดันออกไปเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะก้มหน้าตัวสั่นพูดในสิ่งที่เขาอยากจะพูดออกมา

 

“เมงุมิ...ขอโทษ...”

“ขอโทษ?”

“...”

“ขอโทษเรื่องอะไรคะ?”

“...”

“งืมมมมม ไม่ว่าพีคุงทำเรื่องอะไร ฉันยกโทษให้เสมอค่ะ”

“แต่ว่า...ฉันเป็นคนทำให้เธอตายนะ...”

“ตาย!? พูดเรื่องอะไรกันค่ะ?”

“เมงุมิ!? นี่เธอ...”

 

พีตัดสินใจไม่พูดต่อ เพราะเห็นท่าทางสับสนของเมงุมิ

 

‘ลืมไป นี่เป็นแค่ฝัน

พูดกับภาพที่ฉันสร้างขึ้นมาเอง คงไม่ช่วยอะไรนักหรอก

ถึงเป็นอย่างนั้น ฉันก็สู้หน้าเธอไม่ได้อยู่ดี เมงุมิ’

 

เมงุมิที่เอียงคอสงสัยอยู่ เธอก้มลงมาดูใบหน้าที่เขาพยายามหลบซ่อนก่อนที่จะนอนหงายลงไปกับพื้นหญ้า ชูมือข้างขวาขึ้นฟ้าแล้วแบมือออกไป ราวกับว่าจะคว้าดวงอาทิตย์ไว้ในกำมือ

 

“พีคุง เคยได้ยินเรื่องป้อมปราการลอยฟ้า...ชินโคเซ็นไหมค่ะ?”

 

‘หา!? อะไรเซ็นๆ นี่อีกแล้วเหรอ?’

 

พีรู้สึกคุ้นชื่อที่เมงุมิบอกมา แต่ก็นึกไม่ออกเลยส่ายหัว เมงุมิพอเห็นแล้วเธอก็เริ่มเล่าเรื่อง

 

“มันเป็นเรื่องที่มนุษย์อย่างเราๆ ใฝ่ฝันมานานแล้วค่ะ ว่าสักวันจะสร้างปาฏิหารย์ให้เกิดขึ้นจริง ปู่ของฉันก็เช่นกันค่ะ เขาอยากสร้างเมืองลอยฟ้าให้ได้ เลยรวบรวมนักวิจัยวิศวกรหัวกะทิทั่วสารทิศมาช่วยกันสร้างมันขึ้นเมื่อสิบปีที่แล้วค่ะ ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีจนกระทั่งวันทดสอบขั้นสุดท้าย ระหว่างที่เมืองลอยขึ้นฟ้า ระบบเกิดขัดข้องขึ้นมาค่ะ ห้องควบคุมหลักเกิดเพลิงไหม้ เมืองลอยฟ้ากำลังร่วงลงเมืองที่มีคนอยู่พันกว่าคน แต่ปู่ฉันสละชีวิตตัวเองฝ่าเข้ากองไฟไปเพื่อทำให้มันลอยฟ้าอีกครั้ง จนสำเร็จค่ะ...แต่ปู่ฉันก็ไม่รอด พวกเขาต่างยกย่องปู่ของฉัน...แต่ถ้าเลือกได้ ฉันอยากให้ปู่ฉันอยู่ดูความสำเร็จของตัวท่านด้วยค่ะ”

 

พีเผลอมองเมงุมิระหว่างที่เธอเล่าเรื่องอยู่ เขาสัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นแรงกล้าจากสายตาของเธอ

 

‘ไม่เคยเห็นเธอแบบนี้เลยแฮะ’

 

ระหว่างที่พีมองเมงุมิอยู่ เกิดมีภาพทับซ้อนระหว่างเมงุมิที่เป็นปกติท้องฟ้าสดใสกับเมงุมิที่มีตาแดงที่ส่องแสงข้างซ้าย ครึ่งหน้าซีกซ้ายกลายเป็นสีดำกับท้องฟ้าที่อึมครึม สลับกันไปมาจนเขาต้องขยี้ตาหลายรอบ สุดท้ายแล้วภาพสลับนั่นก็หยุดลง แต่หยุดตรงที่เมงุมิมีตาส่องแสงสีแดงนั่น เธอหันมามองพีและยิ้มที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย

 

“อยู่กับฉัน...ตลอดไปนะคะ พีคุง”

 

‘อีกแล้ว!’

 

พีตกใจผงะถอยหลังไปจนกลิ้งตกลงจากแผ่นดินที่ลอยอยู่ เขากำลังร่วงลงสู่มหาสมุทรที่สูงมาก

 

‘ไม่!’

 

◊◊◊

 

[09:31] [03/01/2058]

[Area TH-7 เขตกลาง, Blue Zone, บนเวที หอประชุมที่สอง ณ สำนักงานหอสมุดแห่งชาติ]

 

“เทล!! ข้อมูลที่ให้เตรียมมาพร้อมฉายหรือยัง?”

 

เสียงผู้หญิงโทนสูง ผมสีเขียวมรกตที่ยาวจนปิดตาข้างขวา นัยน์ตาสีเขียวตาตี่ ใบหน้ากว้าง อายุสิบแปดปีอยู่ในชุดนักเรียนสีขาวและสวมเสื้อคลุมสีเขียวทับกำลังสั่งลูกน้องของเธอบนเวที ซึ่งลูกน้องของเธอที่ชื่อเทลเป็นผู้ชายที่ไว้ผมสั้นสีทองนัยน์ตาสีดำอยู่ในชุดนักเรียนเช่นกันเดียวกับผู้หญิงที่เป็นคนสั่ง อายุราวๆ สิบห้าปี เขาเอามือปัดคร่าวๆ ดูข้อมูลไปมาบนหน้าจอข้างเวที ก่อนที่จะตะโกนบอก

 

“พร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วเจ๊”

 

ป๊าง!

 

แท็บเล็ตขนาดเท่าเอสี่อยู่ในมือของผู้หญิงผมเขียวที่ถูกเรียกว่าเจ๊ ถูกปาลอยเข้าหัวของเทลจนล้มลงไป ก่อนที่เธอจะตวาดใส่เพราะไม่พอใจที่ถูกเรียกแบบนั้น

 

“อย่าเรียกเจ๊สิโว้ย!”

“ขอโทษครับ!” เทลบอกทั้งน้ำตาเพราะความเจ็บ แล้วหยิบแท็บเล็ตขึ้นมา “แต่เจ๊ช่วยถนอมของหน่อยสิครับ ของไม่ใช่ถูกๆ ดีนะที่มันทนทานพังยากอยู่”

“ยังจะเรียกอีก!”

 

การทะเลาะกันของทั้งสองคน ทำให้ชายผู้หนึ่งที่มีผมสั้นสีดำนัยน์ตาสีดำหน้ากึ่งทรงตัวยู ที่แก้มขวามีรอยแผลเป็นที่เหมือนรอยมีดบาดอยู่ในชุดนักเรียนดำขาวเดินเข้ามาทัก

 

“อารมณ์ร้อนเหมือนเดิมนะ คุณไลพ์ หัวหน้าการ์เดี้ยนแห่ง Area TH ที่เจ็ด”

 

ไลพ์ ผู้หญิงผมเขียวยาวปิดตาข้างขวาที่ถูกเรียกชื่อ หันไปตอบอย่างไม่สบอารมณ์

 

“ฉันจำไม่ได้ว่าให้นายออกความเห็น”

“โธ่ๆ อย่าเพิ่งอารมณ์เสียไปสิครับ วันนี้เราต้องมาร่วมงานกันนะ”

“งั้นกรุณาอย่าทำตัวสนิทชิดเชื้อกับฉันให้มากนัก คุณต้น หัวหน้าการเดี้ยน Area TH ที่หก”

 

ผู้ชายที่ถูกเรียกชื่อ จ้องมองดวงตาสีเขียวของไลพ์และเธอก็จ้องกลับเช่นกันเหมือนมีสะเก็ตไฟฟ้าจากตาทั้งสองมาปะทะ เทลที่ยืนดูคู่มวยใกล้ๆ ยิ้มแฮะๆ

 

‘เอาอีกแล้วคู่นี้’

 

แล้วเขาตัดสินใจเรียกทั้งสองคนให้มาทางนี้

 

“เอ่อ...ทั้งสองคนครับ ผมว่ามาช่วยดูอันดับสไลด์ข้อมูลก่อนดีนะครับ ว่ามีอะไรผิดจากที่สั่งหรือเปล่า?”

“อืม...” ไลพ์เดินมาหาเทลดูข้อมูลในจอมอนิเตอร์ข้างเวทีม่านสีแดง “งืม...สไลด์หลักๆ มีสามเรื่อง...ครบ”

“เพราะพวกนั้นแท้ๆ ถึงได้วุ่นวายขนาดนี้” ต้นบ่นขึ้นมา

“ไอริส?” ไลพ์พูด

“ก็ใช่อยู่ แต่เวิลด์เจเรนัลก็มาทำให้ปั่นป่วนกว่าเดิมอีก”

“อืม เพราะเหตุนี้ไง...คนของเราทั้งหมดถึงได้มาอยู่ที่นี่”

 

ไลพ์พูดแล้วหันหน้าไปมองผู้คนที่นั่งข้างหลังที่เป็นเก้าอี้เรียงกันสูงขึ้นทีล่ะชั้น มีประมาณหนึ่งร้อยคนได้กำลังพูดคุยสนทนาในระหว่างที่เวลาเปิดประชุม ส่วนใหญ่จะใส่ชุดนักเรียน ซึ่งไม่ได้มีแต่ของโรงเรียนซิสเซลที่เป็นสีเขียวขาวเท่านั้น ยังมีของโรงเรียนอื่นที่มีสีดำขาว, สีแดงขาวกับสีเหลืองขาว และชุดลำลองอีกประมาณหนึ่ง

 

“แต่ดูเหมือนว่าคนของคุณจะน้อยกว่าปกตินะครับ” ต้นทักตามที่เห็น

“ก็เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นใน Area TH ที่เจ็ด ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ พวกเราทุกคนเร่งให้ความช่วยเหลืออย่างสุดกำลังเลยติดภาระกิจอยู่ในพื้นที่ แต่ฉันให้ส่งตัวแทนแต่ล่ะเขตย่อยมาแล้ว”

“นี่ก็ใกล้เวลาแล้วสินะ...พูดถึงพวกเราแน่ใจกันแล้วหรือ ว่าจะให้คนนอกมาช่วย?”

“ป่านนี้ยังจะมากังวลอีก” ไลพ์อธิบาย “นี่ขนาดทุกโรงเรียนใน Area นี้ประกาศหยุดเป็นเดือน ทำให้การ์เดี้ยนอย่างเราๆ มีเวลาทำงานเต็มที แต่ก็ยังไม่พอ...พวกเราทุกคนตัดสินใจรับคนนอกมาแล้ว เท่าๆ ที่มองดู...มีเยอะประมาณนี้คงช่วยงานได้ส่วนหนึ่ง”

“มันจะดีกว่านี้ถ้าเวิลด์เจเรนัลไม่จี้ท้ายพวกเราและเอ็มแอลเอภายในเจ็ดวัน” ต้นส่ายหัว ”ไม่เข้าใจพวกนั้นจริงๆ ทำไมจะขนยานศูนย์บัญชาการนั่นมาทำไม?”

“หลายเรื่อง...” ไลพ์ยักไหล่ ”คงคิดว่าผู้ว่ารัฐประจำ Area TH จัดการไม่ได้แน่ๆ เลยมาคุมซะเอง ไหนจะยังพวกไอริส ไฮเทคอัพเปอร์ ไอ้คนที่เรียกว่าวีรบุรุษนั่น แถมยังมีเรื่องพลังจิตบ้าๆ นี่อีก”

“ผมก็สับรางแทบไม่ทันเหมือนกัน” ต้นเอามือซ้ายซุกไว้ในกระเป๋ากางเกง “เอ็มแอลเอยังเอาไม่อยู่ถึงขนาดขอให้การ์เดี้ยนช่วยเต็มกำลังซะขนาดนี้”

 

ไลพ์บังเอิญนึกเรื่องบางอย่างที่เกี่ยวกับคนตรงหน้าออกเลยถาม

 

“เห็นว่า Area ของนายมีเรื่องวินาศกรรมติดๆ กันนิช่วงนี้”

“ใช่ โรงงานยาผลิตใน Area ความรับผิดชอบ มีใครสักคนไล่ถล่มแทบทุกคืน ป่านนี้เอ็มแอลเอยังจับมือใครดมไม่ได้เลย พวกฉันต้องส่งคนคอยลาดตระเวนไปสนับสนุนแทบยี่สิบสี่ชั่วโมง...”

“ฉันเข้าใจนายอยู่...”

“ผมว่าของคุณหนักกว่าเยอะ...เหตุการณ์สำคัญทั้งสองอย่างเกิดขึ้นใน Area คุณนิ”

 

เทลที่อยู่ข้างๆ ฟังทั้งคู่สนทนา รู้สึกแปลกๆ

 

‘สองคนนี้เลิกกันแล้วจริงๆ เหรอเนี่ย?’

 

ครืด...

 

เสียงประตูสองบานทางซ้ายของเวทีเปิดออก เทลหันไปมองว่าใครมา เป็นกลุ่มคนประมาณห้าคน ส่วนใหญ่เป็นคนที่เขารู้จักทั้งนั้นเพราะทำงานการ์เดี้ยนอยู่สาขาเดียวกัน

 

‘เอช, นีฟ, พี่ทอมมี่, เจนนิก้า...

เจนนิก้า...แขนขวาเธอไปโดนอะไรมานะนั่น!’

 

เทลเพ่งมองที่แขนขวาของเจนนิก้าที่ใส่เฟือกห้อยมา ก่อนที่เขาจะมองเห็นอีกคนที่ไม่คุ้นหน้า น่าจะเป็นผู้หญิงผมยาวถึงต้นคอสีน้ำตาล นัยน์ตาข้างขวาสีน้ำตาล ส่วนข้างซ้ายมีผ้าปิดตาสีดำปิดไว้อยู่ ใบหน้าดูอ่อนหวานเรียว ชุดที่เธอใส่ค่อนข้างเปิดสัดส่วนเยอะพอสมควร เสื้อลอยเอวสีขาวมีเสื้อหนังสีดำคลุมทับอีกที กางเกงหนังดำสั้นโชว์ต้นขาเรียว ที่มือทั้งสองข้างมีถุงมือสีดำสวมอยู่ สีหน้าของเธอเหมือนจะตื่นกับสถานที่นี่มาก

 

“ใครนะ...สวยจัง”

 

เทลเผลอพูดหลุดปากออกมา ทำให้ทั้งไลพ์และต้นหันตามไปดก่อนทอมมี่ที่อยู่ในกลุ่มนั้นโบกมือทักทายทางนี้และเขาก็คุยอะไรสักอย่างในกลุ่มนั้น แล้วแยกตัวมาหาบนเวที ส่วนที่เหลืออีกสี่คนก็เดินไปยังที่นั่งเบื้องหน้า

 

“เฮ! เฮ! เตรียมตัวใกล้เสร็จหรือยัง?” ทอมมี่ถาม

“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ รุ่นพี่ทอมมี่” ไลพ์บอกก่อนที่จะเข้าไปกระชากชายเสื้อทอมมี่ “ว่าแต่รุ่นพี่เมื่อวานตอนบ่ายหายไปไหนมาคะ!?”

“โทษที โทษที บังเอิญว่ามีคุณย่าหลงทางเลยอาสาพาไปส่ง...แต่กว่าจะหาบ้านคุณย่าเจอก็หลายชั่วโมงอยู่” ทอมมี่เห็นว่าคนฟังทำหน้าไม่ค่อยเชื่อเลยย้ำ “จริงๆ นะครับ”

“ก็เลยไม่ได้มาช่วยงานที่ไชน่าทาวน์สินะคะ” ไลพ์ปล่อยชายเสื้อทอมมี่ลง “คราวหลังกรุณาแจ้งผ่านเครือข่ายการ์เดี้ยนมาด้วยนะคะ ฉันจะได้หาคนอื่นมาแทน”

“ครับ ครับ”

“รุ่นพี่ครับ” เทลแทรกขึ้นมา “เจนนิก้าไปโดนอะไรมาเหรอ?”

“อ๋อ...ก็พวกไอริสเมื่อวานไง” ทอมมี่บอก “ดีนะที่ไม่เป็นไร เพื่อนพี่ช่วยไว้ทัน”

“เพื่อนรุ่นพี่?” เทลทวนก่อนที่จะมองไปยังผู้หญิงชุดดำที่เขาติดใจสงสัยก่อนหน้านี้ “สาวเสื้อดำโชว์เอวคนนั้นเหรอครับ...”

“อ่า ใช่ๆ ฟะ...เพื่อนพี่เอง” ทอมมี่เกือบหลุด

“นั่นหรือ? คนนอกที่รุ่นพี่ชวนมาช่วยงานการ์เดี้ยน!?” ไลพ์พูด

“อือๆ...”  ทอมมี่เท้าเอว “เธอคนนั้นชื่อว่า พี...เฮ้ย...ไอร่า ครับ เป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่เด็กๆ เลยแหละ”

“ที่ว่าช่วยเจนนิก้า...ช่วยยังไงค่ะ?” ไลพ์ถาม

“อ้าว นี่สองคนนั้นยังไม่ได้เล่าให้ฟังเหรอครับนี่?” ทอมมี่เลิกคิ้ว “งืม...พี่ไม่ขอเล่าเองดีกว่า ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย เดี๋ยวหลังประชุมเสร็จจะพาพวกนั้นมาคุยให้เอง หัวหน้าไลพ์”

“ฝากด้วยค่ะ ฉันอยากรู้รายละเอียดของคนนอกที่จะมาช่วยสาขาของเราให้มากที่สุดพอดี”

 

ไลพ์ก้มหัวเล็กน้อย ทอมมี่ก็เช่นกัน ส่วนต้นที่อยู่ใกล้ๆ มองเขาไม่ค่อยเป็นมิตรนัก...แล้วทอมมี่ก็ขอตัวก่อนที่จะเดินกลับไปหาเพื่อนของเขาเอง

 

“งั้นพี่ขอตัวไปฟังอยู่ข้างล่างนะครับ”

“เชิญค่ะ...วันนี้ช่วยเป็นผู้ฟังที่ดีด้วยค่ะ อย่าเล่นอะไรแผลงๆ เด็ดขาด วันนี้คนเยอะ”

“ครับ ครับ ไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก”

 

พอทอมมี่เดินจากเวทีไป ต้นเข้ามาถามไลพ์

 

“เมื่อไหร่จะเลิกยุ่งกับหมอนั่นสักที?”

“แล้วเมื่อไหร่คุณต้นจะเลิกยุ่งชีวิตส่วนตัวของฉันสักทีค่ะ?”

 

ไลพ์ชักสีหน้าขึ้นปะทะกลับไป เทลเห็นท่าไม่ดีเข้ามาแยกทั้งคู่

 

“เอ่อ...อีกสิบห้านาทีจะเริ่มแล้วนะครับ เรามาเตรียมตัวหลังเวทีกันก่อนดีกว่า ขอร้องล่ะ”

 

คำพูดของเทลเหมือนจะไม่ได้เข้าหูชายหญิงตรงหน้าทั้งคู่เลย เขาคิดเหงื่อตก

 

‘ทำไมเราต้องมาเจอเรื่องแบบนี้บ่อยๆ ด้วยล่ะเนี่ย!?’

 

◊◊◊

 

[09:42] [03/01/2058]

[Area TH-7 เขตกลาง, Blue Zone, ที่นั่งแถว E หอประชุมที่สอง ณ สำนักงานหอสมุดแห่งชาติ]

 

‘รู้สึกเด่นยังไงก็ไม่รู้’

 

พีที่นั่งอยู่ข้างๆ เอช เจนนิก้า นิฟและเรสเทียร์ในร่างนางฟ้าน้อยที่ซ่อนอยู่ในกระเป๋าเสื้อ โผล่มาแค่ส่วนหัว ในหอประชุมที่สองแถวอี ณ สำนักงานหอสมุดแห่งชาติที่ว่าเป็นที่ประชุมชั่วคราวของการ์เดี้ยน มีผู้คนจำนวนมากที่นั่งรอการประชุมคุยกันอยู่และบางส่วนกำลังมองเขา

 

‘ทำไมต้องมองฉันด้วยล่ะเนี่ย

หรือว่าเป็นเพราะชุดที่เอชจัดให้ฉันล่ะเนี่ย’

 

พีก้มมองดูชุดที่วันนี้ที่เขาได้ไปช๊อปปิ้งมาตอนเช้าพร้อมกับเอช เสื้อในสีขาวแล้วมีเสื้อหนังสีดำมันวาวสวมทับอีกที แต่มันไม่ได้ปิดช่วงสะดือไว้เลย แล้วกางเกงขาสั้นก็เป็นหนังมันวาวสีดำเหมือนกัน ยังไม่รวมผ้าปิดตาข้างขวาอีกและตาข้างซ้ายที่ใส่คอนแทคเลนส์ใสที่หลอกเครื่องแสกนม่านตาที่ได้มาจากทอมมี่ ซึ่งเขาไม่รู้ว่ามันเอาของแบบนี้มาจากไหน แต่ก็ต้องขอบคุณมากจริงๆ เพราะหลังจากการถูกมือสังหารที่ชื่อเซย์จูโร่ตามตัวได้เพราะม่านตาถึงแม้เหม่ยซิงปลอมแปลงข้อมูลตัวเขาก็ตาม แสดงว่าคนที่จ้างมือสังหารต้องมีข้อมูลม่านตาอันเก่าของพีแน่ๆ

 

‘ไอเดียชุดพวกนี้ต้องโทษเจ้าทอมมี่คนเดียว’

 

แล้วพีก็นึกถึงการสนทนาเมื่อคืน ที่ทอมมี่ เอชและเรสเทียร์เปิดประเด็นคุยเรื่องการปลอมตัวของเขา จนได้ข้อสรุปโดยไม่ขอความเห็นจากเจ้าตัวสักนิด ว่าให้หาชุดที่เล็ก กระชับ และหาอะไรปิดตาสีแดงข้างขวาไว้ด้วย เพราะมันเป็นจุดเดียวที่เหมือนกับตัวเขาในคลิปที่เผยแพร่ทั่วโลก

 

‘แต่ชุดที่ใส่เนี่ย มันสั้นไปไหม? ถึงสามคนนั้นจะบอกว่าใส่เพื่อจะได้ใช้พลังจิตของเขาได้สะดวกก็ตาม...แต่มันก็ทำให้ความมั่นใจของเขาหายไปเยอะเหมือนกัน ตอนที่ใส่ชุดเสร็จแล้ว ส่องกระจก...ถึงจะดูดีก็เหอะ...แต่มันไม่ค่อยชินแฮะ ไม่ได้ใส่อะไรแบบนี้นานแล้ว แถมไม่คิดว่าตัวเองจะได้กลับมามีรูปลักษณ์เล็กๆ หน้าคล้ายผู้หญิงแบบนี้อีก’

 

พอพีคิด เขาก็เห็นแต่ภาพตัวเองในกระจกในร้านขายเสื้อผ้าตอนเช้าอีกครั้ง

 

‘ถ้าเมื่อก่อนฉันแต่งแบบนั้นแล้วบริการ เห็นลูกค้ามองมาที่ฉันแล้วยิ้ม แล้วชื่นชมตัวฉัน---

เฮ้ยๆๆๆๆ ไม่ได้ ไม่ได้ ฉันคิดอะไรเนี่ย!’

 

พีรีบสลัดเรื่องอดีตทิ้งออกไป มองไปข้างหน้าเห็นเป็นเวทีสีน้ำตาลอ่อนๆ มีม่านสีแดงปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง เห็นทอมมี่ที่กำลังเดินลงจากเวที แล้วเอชที่อยู่ข้างๆ ชวนคุย

 

“ตื่นเต้นจังเลยฮะ” เอชพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง “การ์เดี้ยนไม่ได้ประชุมใหญ่แบบนี้มานานแล้ว”

“พูดอย่างกับรุ่นน้องเข้าประชุมสาขาย่อยบ่อยๆ นะคะ” เจนนิก้าที่อยู่อีกข้างๆ เอชอีกทีพูด

“ก็มันน่าเบื่อนี่ฮ่ะ ฮ่าๆๆๆ” เอชตอบ

“ไม่ได้ ไม่ได้ พวกเราเป็นการ์เดี้ยนนะคะ มีหน้าที่ต้องดูแลช่วยเหลือผู้คน...โอ้ย!”

 

เจนนิก้าพูดอย่างมั่นใจก่อนที่จะทำท่ายื่นมือไปข้างหน้า แต่เผลอใช้แขนข้างขวาที่ใส่เฟือกอยู่ เลยทำให้เจ็บตัว

 

“เจนนิก้า เจียมตัวเองหน่อยสิ” นิฟที่อยู่ข้างๆ เจนนิก้าบอก

“รู้แล้วค่ะ...ถ้าเจอพวกไอริสอีกล่ะก็ แม่จะอัดคืนให้เละเลย!”

“มันผิดกฎหมายนะ” นิฟเตือน

“ทราบแล้วค่ะ เพื่อนรัก” เจนนิก้าเสียงแผ่วลง

 

‘เด็กๆ การ์เดี้ยนนี่เฮฮากันดีเนอะ’

 

พีที่นั่งฟังอยู่ข้างๆ แอบขำอยู่ในลำคอ ก่อนที่จะเห็นใครบางคนที่กำลังเดินแทรกตัวคนอื่นเข้ามานั่งข้างเขาอีกฝั่ง

 

“มาแล้ว มาแล้วครับ” ทอมมี่ที่เพิ่งเดินมาถึงยกก้นลงนั่ง “ไปทักทายหัวหน้าไลพ์มา”

“ได้ยินว่าหัวหน้าการ์เดี้ยน Area TH ที่หกมาแล้วใช่ไหมค่ะ?” เจนนิก้าถาม

“ใช่ครับ เมื่อกี้ยังเจอกันอยู่ แต่เหมือนว่าเขาไม่ค่อยชอบผมสักเท่าไหร่นะ”

“ว้าวๆ พี่ต้นมาด้วยเหรอฮะ?” ตาเอชเป็นประกาย

“รุ่นน้องค่ะ เคยรู้เรื่องอะไรมั้งไหมค่ะเนี่ย?” เจนนิก้าใช้มือซ้ายกุมหน้าผาก

“แหมๆ ก็เอชไม่รู้จริงๆ นี่ฮะ” เอชยังคงทำเป็นร่าเริงไม่รู้สึกตัว

“อย่างที่บอก หัดเข้าประชุมบ้าง ไม่ก็อ่านบอร์ดในสำนักงานย่อย” เจนนิก้าถอนหายใจอย่างแรง “...คุณทอมมี่ก็ช่วยดูแลให้สมเป็นพี่เลี้ยงเธอหน่อยสิค่ะ”

“ผมไว้ใจเจนนิก้าหน่า...”

“แต่หน้าที่ก็ต้องเป็นหน้าที่สิค่ะ หรืออยากให้ฉันรายงานกับพี่ไลพ์ว่าคุณบกพร่องต่อหน้าที่ละคะ?”

“อย่าดีกว่าครับ แค่เมื่อกี้โดนกระชากเสื้อไปแล้วรอบหนึ่ง” ทอมมี่พูดกัดฟัน

“โดนกระชาก?” พีพูดทวนด้วยความสงสัย

“ไม่มีอะไรหรอกครับ พี...ไอจัง ฮ่าๆๆ”

 

ทอมมี่เกือบจะพูดชื่อจริงของเขาออกมา

 

‘ไอ้นี่ ตกลงกันเมื่อวานแล้วไม่ใช่เหรอไง ว่าจะเรียกว่า ไอร่า...’

 

พีส่งสายตาดุเตือนเพื่อนของเขาเองให้รู้ตัวว่า อย่าเผลอเรียกชื่อผิดให้มากนัก ก่อนที่จะมีเสียงไมค์ผู้ชายดังขึ้นทั่วหอประชุม

 

“เทสๆ หนึ่ง สอง สาม...แจ้งผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่านให้ทราบนะครับ อีกห้านาทีจะเริ่มการประชุมสถานการณ์ฉุกเฉินการ์เดี้ยนโดย Area TH ที่หกและที่เจ็ด ทุกท่านโปรดเตรียมตัวให้พร้อมนั่งประจำที่ให้เรียบร้อยครับ”

“นั่นมันเสียงเจ้าเทลนี่ฮ่ะ” เอชเอ่ย “พักนี้ไม่ค่อยได้เห็นหน้าเลย”

“โดนหัวหน้าไลพ์ใช้งานเป็นทาสไปแล้วครับ ฮ่าๆๆ” ทอมมี่แซว

 

บทสนทนาหลังจากนี้ พีเริ่มจับต้นชนปลายไม่ถูก เพราะเขาไม่ได้ทำงานด้วยกันกับพวกเขาตั้งแต่ทีแรก

 

‘ทอมมี่มีเพื่อนทำงานแบบนี้ ดีแล้วล่ะ...ยิ่งเป็นงานที่ต้องทุ่มอุดมการณ์ทั้งแรงกายแรงใจแบบนี้แล้วด้วย

ใช่ การ์เดี้ยนเป็นองค์กรจิตอาสาขนาดใหญ่ที่ก่อตั้งโดยเอ็มแอลเอ มีปณิธานง่ายๆ ก็คือช่วยเหลือผู้คน แรกเริ่มเห็นว่ายังเป็นองค์กรขนาดเล็กดูแลเฉพาะ Area เล็กๆ ที่เดียว แต่เวลาผ่านไปสักพักมีการขยายเติบโตมากเพราะเวิลด์เจเรนัลเข้ามาช่วยจัดสรรบริหารเรื่องประชาสัมพันธ์และงบประมาณบางส่วนให้ ทำให้การ์เดี้ยนมีระบบการจัดการที่ดีมากขึ้น เป็นที่ยอมรับ อันที่จริงเหตุผลที่เวิลด์เจเรนัลเข้ามาเอี่ยวก็คือ ใช้การ์เดี้ยนเป็นหน้าด่านในการเชิญชวนสร้างภาพลักษณ์เข้าร่วมกองทัพของพวกเขานั่นเอง

ยังไงซะ ก็ต้องขอบคุณคนที่มีแนวความคิดนี้และร่วมสร้างองค์กรที่ทำให้โลกนี้น่าอยู่ยิ่งขึ้นล่ะนะ’

‘-พี่หญิงค่ะ-’

 

เสียงของเรสเทียร์ดังก้องหัว พีก้มลงไปมองตัวเธอที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อ เรสเทียร์เงยหน้ามองที่เขาอยู่เช่นกัน แล้วเธอก็สื่อสารผ่านทางจิตต่อ

 

‘-เมื่อกี้เรสเทียร์ฟังความคิดของพี่หญิงอยู่...ทำไมพี่หญิงไม่สมัครเป็นการ์เดี้ยนถาวรไปเลยล่ะคะ?-’

‘ถาวรงั้นเหรอ...งานที่มีอุดมการณ์แบบนี้ฉันก็ชอบอยู่นะ...แต่เราคงต้องเคลียร์เรียกของตัวฉันเองและเรื่องของเธอก่อน...นี่ฉันยังไม่ได้ถามเธอละเอียดเลยว่า เธอความจำเสื่อมได้ยังไง? พอจำอะไรได้ไหม? หลังความจำเสื่อมใหม่ๆ’

 

พีถามเรสเทียร์เป็นชุด เรสเทียร์นิ่งไปชั่วครู่ก่อนที่จะตอบ

 

‘-ถ้าจำอะไรได้ขึ้นมา เรสเทียร์จะบอกเองค่ะ...แต่พี่หญิง เรสเทียร์ขอถามอะไรหน่อย...พี่หญิงได้แผ่นกระจกนั่นติดมือมาได้ยังไงค่ะ?-’

‘แผ่นกระจกในมืองั้นเหรอ?’

 

เรสเทียร์แสร้งทำเป็นถามเรื่องที่เธอรู้อยู่แล้ว พีขยับมือขวาที่ใส่ถุงมือสีดำอยู่ขึ้นมา พีบอกตามเท่าที่รู้ ณ ตอนนี้

 

‘ได้มาจากผู้หญิงชุดดำคนหนึ่งนะ ที่พยายามจะฆ่าฉัน’

‘-ผู้หญิงชุดดำ? พยายามฆ่า?-’

‘จะบอกว่ายังไงดีล่ะ...มันเป็นเรื่องแปลกๆ อยู่นะ ฉันดันไปช่วยชีวิตคนนั้น แล้วรู้สึกว่าจะให้เจ้านี่เป็นการตอบแทน’

‘-พอจำหน้าได้หรือเปล่าคะ?-’

‘...เห็นหน้าไม่ค่อยชัดนะ...แต่ฉันพลาดเองที่ไม่ดูหน้าคนนั้นให้ดีๆ เออ! จริงสิ มันยังมีอีกคนนี่หว่า เป็นผู้ชายชุดดำ’

‘-หา!?-’

 

พีเอามือขวาทุบเข้าที่จับเก้าอี้หนึ่งครั้ง เอชที่อยู่ข้างๆ เห็นปฏิกิริยาแปลกๆ ก็เลยถาม

 

“เป็นอะไรหรือเปล่าฮะ?”

“อ๋อ...เปล่าๆ ไม่มีอะไรหรอก” พีโกหกไป “งืม...เอช พอจำวันแรกที่เราพบกันได้หรือเปล่า?”

“จำได้ฮะ”

“ตอนที่เธอเดินตามฉันมา...ไม่เห็นคนอื่นที่อยู่แถวๆ นั้นเลยเหรอ? แบบว่าใส่ชุดผ้าคลุมดำๆ ทั้งตัวอะไรประมาณนั้น”

“ชุดดำๆ ทั้งตัวเหรอฮะ!?” เอชหลับตานึก ก่อนที่จะส่ายหัว “ไม่เห็นมีคนใส่ชุดแบบนั้นอยู่เลยนะฮ่ะ”

“งั้นเหรอ...”

 

พีที่ถามหาความหวังสุดท้ายในการหาคนประหลาดคนนั้น พอไม่ได้รับคำตอบแล้วก็ถอนหายใจทิ้ง

 

‘เรสเทียร์...มีอะไรที่ฉันยังไม่รู้อีกไหม? ตอนนี้ฉันงงไปหมดล่ะ’

‘-เรสเทียร์ก็เช่นกันค่ะ ตอนนี้สับสนกับตัวเองมาก-’

 

“ขะขอโทษนะครับ”

 

เสียงทักของผู้ชายคนหนึ่งที่เดินเข้ามาใกล้ๆ พีทางซ้าย เขาหันไปมองเป็นผู้ชายผมสั้นสีทองนักเรียนมอปลายที่ใส่ชุดสีเขียวขาว

 

‘นั่นมันชุดโรงเรียนซิสเซลที่ฉันเคยเรียนนี่หน่า’

 

“ผมชื่อซิกม่าครับ ยินดีที่ได้รู้จัก ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงคนสวยชื่ออะไรครับ?”

 

ผู้ชายผมทองแนะนำตัวเองสับเสร็จ ยื่นมาขวามาจับเช็คแฮนด์

 

‘โห้ยๆ...นี่ฉัน...กำลังโดนผู้ชายจีบอยู่เหรอ?’

 

พีมัวตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา ทอมมี่ที่อยู่ข้างๆ เอื้อมมือซ้ายมากอดคอพี แล้วใช้มือขวาเช็คแฮนด์ผู้ชายผมทองแทน

 

“แหม ยินดีที่ได้รู้จักครับ แต่แฟนผมคงไม่จำเป็นต้องบอกชื่อให้นายรู้นะครับ”

 

ผู้ชายผมทองที่เข้ามาหวังอยากจะได้เบอร์ของพี หน้าแตกยับเยินก่อนที่จะเดินกลับไปอย่างไม่สบอารมณ์ พีที่รู้สึกว่ามือของทอมมี่ยังไม่ยอมปล่อยลงจากไหล่เขาสักทีเลยหันไปบอก

 

“พอได้แล้วมั้ง”

“พออะไรครับ เราเป็นแฟนกัน อุ๊ก!!!”

 

กำปั้นมือขวาลอยเข้าท้องของทอมมี่เต็มแรงจนเจ้าตัวขดตัวลงไปบนเก้าอี้

 

‘เหอะๆ สมน้ำหน้ามัน’

 

สามสาวการ์เดี้ยนที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่ข้างๆ แอบหัวเราะคิกคัก ก่อนที่จะมีเสียงไมค์ประกาศทั่วหอประชุมอีกครั้ง

“กำลังจะเริ่มการประชุมในอีกหนึ่งนาที”

 

“ใกล้แล้ว! ใกล้แล้ว!” เอชออกอาการตื่นเต้นเวอร์เกินเหตุ

“โอเวอร์ไปแล้วค่ะ”

 

เจนนิก้าว่าเช่นนั้น พีหันกลับไปยังหน้าเวทีและแล้วมีคนเดินเข้ามาทักอีกทางซ้ายมือ

 

“รุ่นพี่ไอร่า รุ่นพี่ทอมมี่”

 

เจ้าของเสียงเป็นเด็กน้อยผมยาวมัดรวบสีส้มนัยน์ตาสีเหลืองอยู่ในชุดนักเรียนสีเหลืองขาว มีปลอกข้อมือการ์เดี้ยนอันเก่าอยู่ที่แขนขวา ซึ่งทุกคนที่นั่งอยู่ต่างรู้จักเธอ พีทักก่อน

 

“อ้าวมิส มาได้ไงเนี่ย”

“อาสามาช่วยการ์เดี้ยนเขตเหนือค่ะ” มิสชี้ไปกลุ่มคนหนึ่งที่ใส่ชุดเหลืองขาวทางข้างหลังเธอ “รุ่นพี่ทอมมี่! เป็นไงค่ะ หนูได้เป็นการ์เดี้ยนอีกครั้งแล้ว”

“ก็แค่ชั่วคราวนะครับ ไม่ใช่ของจริงสักหน่อย”

“ง่ะ!” มิสชักสีหน้างอนใส่แล้วทำสีหน้าปกติมาทางพี “แล้วรุ่นพี่ไอร่าอาสามาเหมือนกันเหรอคะ”

 

พีพยักหน้าตอบ เจนนิก้ามีเรื่องถามถึงมิส

 

“แล้วพี่สาวเธอล่ะ”

“พี่คานะเหรอคะ ยังไม่ได้ข่าวเลยค่ะ เห็นยุ่งๆ กับงานที่พี่เขาไปอ่ะค่ะ”

“หว่า เสียดายจัง” เอชทำหน้างอ

“เจนนิก้าว่ามันดีซะกว่าอีกนะคะ ที่รุ่นพี่คนนั้นไม่อยู่แถวๆ นี้”

“ฮ่าๆ มิสเข้าใจความรู้สึกพวกพี่ดีค่ะ” มิสก้มหัวราวกับว่าเธอกำลังขอโทษอยู่และเธอเหมือนจะรู้ว่าพีสับสนอยู่เพราะพีทูของเธอเอง “อ๋อ รุ่นพี่ไอร่า...รู้สึกสับสนอีกแล้วนะคะ”

“ก็ฉันคนนอกนี่น่า”

 

พีว่าตามนั้น ลำโพงรอบหอประชุมดังขึ้น

 

“กำลังจะเริ่มการประชุมในอีกสิบวินาที”

“อุ้ย ใกล้จะเริ่มแล้ว มิสขอตัวก่อนนะคะ”

 

มิสบอกลาแล้วเดินกลับเข้ากลุ่มของเธอไป ผู้คนที่ยืนเม้าท์คุยกันเริ่มกระจายตัวนั่งตามเก้าอี้ต่างๆ เอชเงยหน้ามองข้างบนแล้วถามบางเรื่อง

 

“เขาไม่ปิดไฟกันเหรอฮะ?”

“รุ่นน้องค่ะ...นี่มันที่ประชุมนะคะ ไม่ใช่ละครเวที” เจนนิก้าตอบ

“แฮะๆ ขอโทษด้วยฮะที่ไม่ทราบ” เอชเอ่ย

 

พีมองไปบนเวที มีสองคนที่กำลังเดินมาอยู่ตรงกลางเวที ม่านสีแดงที่ถูกปิดไว้แค่ครึ่งหนึ่งค่อยๆ เปิดออก เผยให้เห็นเสาสีขาวผอมๆ ที่อยู่ริมซ้ายและขวาเวทีข้างล่ะตัว ก่อนที่เสาทั้งสองนั้นจะเปล่งแสงสีเขียวมารวมกันตรงกลางขนาดใหญ่มากๆ เท่าตึกสามชั้นเป็นรูปสัญลักษณ์การ์เดี้ยนอยู่ข้างหลังชายหญิงทั้งสอง ฝ่ายหญิงที่อยู่ในชุดนักเรียนของโรงเรียนซิสเซลที่ถือแท็บแล็ตขนาดใหญ่เป็นฝ่ายกล่าวก่อนผ่านไมค์ที่ติดอยู่หูขวาของเธอ

 

“สวัสดีค่ะ ทุกๆ ท่าน ดิฉัน มีนามว่า ไลพ์ หัวหน้าการ์เดี้ยนประจำ Area TH ที่เจ็ด”

“ผม ต้น หัวหน้าการ์เดี้ยนประจำ Area TH ที่หกครับ” ผู้ชายอีกคนที่อยุ่ในชุดนักเรียนดำขาวที่พีไม่เคยเห็นพูดผ่านไมค์

“ต่อไปนี้ขอเริ่มการประชุมฉุกเฉินของการ์เดี้ยนใน Area TH ที่เจ็ด ณ บัดนี้ค่ะ”

 

พอไลพ์พูดจบ มีเสียงตบมือดังทั่วหอประชุม ซึ่งพีไม่รู้ว่าจะตบมือกันทำไมเพราะไม่ใช่การแสดง เมื่อเสียงปรบมือเบาลง เธอกล่าวเริ่มเรื่องทันที

 

“ก่อนอื่น ต้องขอขอบคุณความช่วยเหลือจากการ์เดี้ยนสาขา Area TH ที่หกในวันนี้ด้วยค่ะ รายละเอียดต่างๆ ถูกส่งเข้าในการ์เดี้ยนเน็ตเวิร์คแล้ว ทุกท่านที่เป็นการ์เดี้ยนประจำ Area TH ที่หก สามารถตรวจเช็คได้ตลอดเวลา พร้อมทั้งทางเรามีหน่วยซัพพอร์ตค่อยบริการเรื่องข้อมูลยี่สิบสี่ชั่วโมง...และต้องขอกล่าวขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับอาสาสมัครชั่วคราวทุกๆ ท่านที่มาในวันนี้ด้วยค่ะ สำหรับท่านที่อาสาช่วยงานการ์เดี้ยน ต้องอยู่กับการ์เดี้ยนหัวงานของท่านตลอดเวลา เพื่อกันความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น เดี๋ยวหลังการประชุมจะมีการแจกอุปกรณ์สื่อสารให้ทุกๆ ท่านและต่อไปนี้มีเรื่องแรกที่ดิฉันอยากแจ้งให้ทราบกันก่อน”

 

เมื่อไลพ์พูดถึงตรงนี้ เธอยกแท็บแล็ตขึ้นมากด แสงเลเซอร์สีเขียวที่ถูกฉายออกมาเป็นภาพโลโก้การ์เดี้ยนนั่นถูกเปลี่ยนเป็นภาพถ่ายสีขนาดใหญ่ ในภาพนั้นมีวิวทัศน์พื้นราบและภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ แต่มีบางสิ่งในภาพที่ทำให้เกือบทุกคนในหอประชุมมีเสียงอือซ่าขึ้นมา ก็คือยานขนาดยักษ์สีฟ้าเหลืองที่ลอยอยู่บนฟากฟ้าที่มีตราของเวิลด์เจเรนัลอยู่...ไลพ์รอเสียงเงียบลงแล้วกล่าวสาเหตุที่เอารูปนี้ขึ้น

 

“ทุกท่านค่ะ เมื่อสิบชั่วโมงที่ผ่านมา เราได้รับการยืนยันจากเวิลด์เจเรนัลแล้วว่า ภายในเจ็ดวัน ศูนย์บัญชาการใหญ่ ยานแม่มอชชินนี่ (Moshchnyy Mothership) จะบินมาประจำการเหนือสนามบินดอนเมืองใน Area TH ที่เจ็ดแห่งนี้ค่ะ”

 

◊◊◊

 

คุยกับคนเขียนกันหน่อยนะจ๊ะ

จบลงไปแล้วอีกตอนหน่า

พีได้เข้ามาร่วมงานกับทางการ์เดี้ยนเพื่อนของเขาแล้ว

กับภาพลักษณ์ใหม่ในนามว่า “ไอร่า” หรือ “วินด์พันเชอร์”

เรื่องแรกในประชุมที่เขาเห็นมันคืออะไร?

และทำไมเวิลด์เจเรนัลต้องขนศูนย์บัญชาการใหญ่มาใน Area TH-7 ด้วย?

แล้วยังมีเรื่องที่ชวนตะลึงอีกหรือไม่?

โปรดติดตามตอนต่อไปที่มีชื่อว่า เมื่อพลังจิตผงาด บทที่ 12 [วุ่น]

ถ้าชอบก็ Comment ให้กำลังใจกันบ้างเน้อ ฮ่าๆ

By Spy442299 & Nattanan Srising

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา