P.P.Rising The Bullet Time อภินิหารพลังจิตเหนือโลก

8.1

เขียนโดย Spy442299

วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 10.54 น.

  46 chapter
  28 วิจารณ์
  42.04K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2557 17.28 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

32) อิลลูชั่น (illusion) บทที่ 5 [เบาะแส]

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

P.P. Rising: The Bullet Time

เดอะบูลเลตไทม์ อภินิหารพลังจิตเหนือโลก

  1. Ch.28 อิลลูชั่น (illusion) บทที่ 5 [เบาะแส]

Rewrite V.3

 

◊◊◊

 

เมื่อพีเห็นว่าต้นกำลังจะมีอันตรายจากคนที่ชื่อว่า ‘พีช’ ที่เอามีดปอกผลไม้ยกขึ้นมา เขาทำท่าจะพุ่งตัวออกไปขวาง แต่โดนไลพ์ห้ามไว้ เขาเลยกระซิบถาม

 

“ห้ามทำไม?”

“รอดูต่อไปก่อน”

 

ทางต้นที่เห็นท่าทางของลูกน้องตัวเองแบบนั่นแล้วก็ถอนหายใจ

 

“เป็นนายจริงๆ ด้วยที่แอบลอบทำร้าย พีช”

“หือ? พูดอย่างกับรู้มาก่อนว่า ผมเป็นคนทำมาตลอด?”

“ก็เพราะรู้ว่าเป็นนายไง ถึงไม่ได้ทำอะไรเลย”

“หา!? พูดแบบนี้กะจะให้ผมสับสนหรอครับ? มันไม่ได้ผลหรอก”

“ผมพูดจริง...นายนะ อยากเป็นหัวหน้าการ์เดี้ยนมากถึงขนาดทำเรื่องแบบนี้เลยงั้นหรือ?”

“คุณพูดอะไรครับ? คุณยังไม่ตอบคำถามผมเลยว่า รู้ได้ยังไงว่าผมแอบตามคุณ?”

 

จังหวะนี้ไลพ์เดินออกไปอธิบายให้กระจ่าง

 

“เพราะพีทูของเขาไง ถึงรู้ได้ว่านายตามเขาอยู่”

“หือ! หัวหน้าการ์เดี้ยน Area TH ที่เจ็ด” พีชตกใจ “นี่คุณยังอยู่ที่นี่---“

“เป็นนายนี่เองสินะ...ที่ลอบทำร้ายต้นอยู่บ่อยๆ ขี้ขลาดซะจริงๆ”

 

ไลพ์เอาไฟแช็คมาจุดเล่น เพื่อเตือนพีชว่าห้ามเล่นอะไรตุกติก

 

“เปล่าขี้ขลาดสักหน่อย!”

“แล้วทำไมถึงแบบนี้ล่ะ? อ๋อจริงสิ ยังบอกไม่หมดเลยว่า ต้นนะ มีพลังจิตที่เรียกว่า เอ็มพาธี (Empathy)”

“เอ็มพาธี...ที่ว่ารับรู้ถึงตัวตนของคนอื่นได้ในระยะไกลงั้นเหรอ?”

“ใช่” ต้นตอบ “ถ้าผมได้สัมผัสใครแล้ว แล้วคนๆ นั้นอยู่ในระยะร้อยเมตรล่ะก็ จะรู้ได้เลยว่าคนๆ นั้นอยู่ตรงไหนนะ”

“เดี๋ยวนะก่อน...ถ้าแบบนั้นก็หมายความว่ารู้ว่าฉันทำแบบนี้มาตลอด แต่ก็ยังทำเป็นไม่รู้---”

“ก็ใช่นะสิ ผมหวังว่านายจะล้มเลิกความตั้งใจไปเอง แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล” ต้นว่า “ยิ่งนายมีพลังจิตแบบไซโคคิเนซิส (Psychokinesis) ยิ่งทำให้นายได้ใจไปใหญ่”

 

เมื่อพีได้ยินประโยคหลังแล้วถึงกับบางอ้อ

 

‘ไซโคคิเนซิส!? ไอ้ที่ว่าควบคุมสิ่งของได้ระยะไกลงั้นเหรอ? งั้นก็หมายความว่าไอ้โคมไฟ สปอตไลท์และแผ่นไม้เมื่อวานนี่ ฝืมือหมอนี่!?’

 

“อ๋อ นายเป็นคนทำมันสินะ”

 

พีเดินออกมาจากหลังม่าน ทำให้พีชผงะถอยหลัง แต่แล้วไลพ์ก็ห้ามเขาไว้ เมื่อต้นเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดี เลยยื่นข้อเสนอที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจ

 

“พีช...ถ้าอยากเป็นหัวหน้าขนาดนั้น ก็เป็นซะสิ เอาตราที่อยู่บนโต๊ะเอาไปเลย”

“หา!?” สายตาของผู้ถูกยื่นข้อเสนอมีแววประหลาดใจ

“พูดอะไร? ต้น?” ไลพ์ถาม

“ก็กำลังแต่งตัวพีชเป็นหัวหน้าแทนผมไง”

“บ้าน่า! เรื่องอะไรที่คุณมายกตำแหน่งให้ง่ายๆ แบบนี้”

“ก็เพราะเหนื่อยแล้วไงล่ะ งานการ์เดี้ยนนะ ผมไม่อยากจะเป็นอีกต่อไปแล้ว...หยิบไปซะสิ แล้วทำหน้าที่ให้สมเป็นหัวหน้าด้วยล่ะ เรื่องคราวนี้และคราวก่อนๆ ผมจะทำเป็นลืมๆ มันไป”

“แล้วหัวหน้าละ?”

“ลาออกถาวร” ต้นพูด “เห็นสภาพตอนนี้ไหม? เจ็บอยู่แบบนี้ อีกทั้งมีหลายคนที่ไม่เห็นว่าผมเป็นหัวหน้าที่ดี เพราะฉะนั้นรีบๆ หยิบตราการ์เดี้ยนไปซะ ก่อนที่จะเปลี่ยนใจ”

 

ข้อเสนอหวานหมูที่ถูกยื่นให้พีช ผู้ที่ลอบทำร้ายหัวหน้าของตนเองหลายครั้ง ทำท่าหนักใจ แต่แล้วในที่สุด เขาก็หยิบปลอกข้อมือการ์เดี้ยนที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ๆ แล้วรีบออกจากห้องนั้นทันที ทางไลพ์ต่อว่าที่ไม่พอใจกับสิ่งที่ต้นได้ทำลงไป

 

“นี่ ต้น นายคิดอะไรกันอยู่!? ไปมอบตำแหน่งสำคัญแบบนั้นให้คนที่มันทำร้ายนาย---“

“ผมคิดดีแล้ว คิดมาตลอด คิดอยากจะพักหน้าที่นี่ด้วย” ต้นถอนหายใจ “เจ้านั่นนะ มีทั้งอุดมการณ์และความสามารถที่เหมาะกับตำแหน่งหัวหน้าอยู่ เพียงแต่มันทะเยอทะยานสูงจนชอบเล่นวิธีสกปรก”

“รู้ว่าเป็นแบบนั้น แล้วยังจะ---“

“ผมจะคอยติดตามดูเขาเรื่อยๆ ถ้าทำให้ทุกคนการ์เดี้ยนต้องเดือดร้อนหรือหม่นหมองไปล่ะกัน ถึงเวลานั้นผมจัดการเอง...อีกอย่างอยากให้เขาได้ประสบการณ์โดยตรงด้วย”

“โอ้ย! ยอมนายเลย จะทำอะไรก็เรื่องของนายล่ะ” ไลพ์ที่ไม่รู้ว่าจะเถียงอะไรต่อแล้วพูดเชิงยอมแพ้ “อย่างน้อยตอนนี้ก็วางใจได้ระดับหนึ่งล่ะนะ แล้วหลังจากนี้นายจะทำอะไรต่อละ? จะออกจากการ์เดี้ยนจริงๆ เหรอ?”

“ออกจริงสิ ผมไม่เคยพูดเล่นนะ ช่วงหลังๆ มานี่รู้สึกว่าตัวเองทำหน้าที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ เหมือนไฟทำงานจะหมดลง ที่จริง...ผมไม่ได้อยากเป็นการ์เดี้ยนนั่นหรอก”

“หือ!? งั้นนายเข้ามาเป็นทำไม? แถมได้เป็นถึงระดับหัวหน้า?”

“เพราะเธอไง ลิซ” ต้นเอื้อมมือขวามาจับมือของไลพ์ “ก็ที่สวนสาธารณะคริสนั่น จำไม่ได้หรอ?”

“สวนสาธารณะนั่น มันทำไม?” ไลพ์ที่ถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งหน้าแดง แต่ก็ไม่ยอมปล่อยมือ “อย่าบอกนะ เพราะชอบ...ฉัน เลยเข้า...ตามมาเป็น...การ์เดี้ยน”

“ก็...แบบว่าอะไรประมาณนั้นล่ะ ลิซ”

“แต่เรื่องคราวนั้น...ฉันไม่ยกโทษให้นายง่ายๆ นะ”

“ก็ไม่ได้หวังให้ยกโทษง่ายๆ สักหน่อยครับ”

 

พีที่รู้สึกว่าเป็นส่วนเกินในห้องพักผู้ป่วยนี่ ค่อยๆ เดินย่องจะออกจากห้องไป แต่พอเปิดประตู ไลพ์ที่ได้ยินเสียงเลยถาม

 

“คุณไอร่า!? จะไปไหนคะ?”

“ไปเดินเล่นแถวนี้สักหน่อย ไม่อยากเป็นกอขอคอคู่รักรีเทิร์นค่ะ!”

 

พีที่ได้บอกคำตอบแล้วเห็นหน้าแดงร้อนฉาวของไลพ์ เขารีบปิดประตูทันทีและแอบหัวเราะจนกั้นแทบไม่ไหว

 

‘นี่ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย เป็นเด็กๆ ไปได้ ฮ่าๆๆๆๆ

นึกถึงวีรกรรมสมัยมอปลายเลยแฮะ ที่ฉันชอบเป็นกามเทพให้คนอื่นไปทั่ว ตอนนั้นนิสัยฉันยังไม่เข้าทีเข้าทางสักเท่าไรด้วยสิ’

‘-จะดีกว่านี่ถ้าพี่หญิงเป็นผู้หญิงจริงๆ นะคะ-’ เรสเทียร์ออกความเห็นในใจ

‘เรสเทียร์...ไม่ต้องเลย’

 

“เฮ่ะ!? ไอจัง!”

 

เสียงเรียกของทอมมี่ที่เดินคู่มากับเทล พอพีเห็นแล้วก็ทัก

 

“อ้าว ทั้งสองคน”

“มาทำอะไรข้างนอกครับนิ?” ทอมมี่ถาม

“อะอ๋อ...ว่าจะไปเดินเล่นข้างนอกสักหน่อยนะ ฮ่าๆ”

“งั้นผมไปรออยู่ข้างในห้องนะครับ”

 

เทลที่พูดแล้วมุ่งเดินไปจะเปิดประตู พีที่รู้ดีว่าในห้องนั่นกำลังเกิดอะไรขึ้นภายในบ้าง รีบลากเทลออกมาทันที

“อย่าเพิ่งเข้าไป! ไปเดินเล่นเป็นเพื่อนฉันก่อน!”

“ทะทะทำไมครับ?” เทลถามด้วยความงง

“เถอะหน่า...” พีที่พยายามลากเทลออกห่างห้องไป เห็นทอมมี่ยังยืนอยู่เฉยๆ “เฮ้ย ทอมมี่ นายก็มาด้วยสิ!”

“อ่า...ครับๆ” ทอมมี่ก็ตามไปแบบงงๆ เช่นกัน

“นี่มันเรื่องอะไรกันครับเนี่ย!? ทำไมผมต้อง---“ เทลยังตื้อที่จะรู้ให้ได้

“น่าๆๆๆๆๆ ตอนนี้ยังเข้าห้องไม่ได้!”

“ทำไมล่ะครับ?”

“บอกไม่ได้! ก็ไม่ได้สิ!”

 

และแล้วทั้งสามคนก็เดินพ้นหน้าประตูห้องพักหมายเลข 304 ไป ปล่อยให้ทั้งสองคนที่อยู่ในห้องนั่งหน้าแดงกุมมือพูดคุยสานสัมพันธ์เก่ากันไปเรื่อยๆ

 

◊◊◊

 

[17:01] [05/01/2058]

[Area TH-7 เขตกลาง, Blue Zone, สำนักงานการ์เดี้ยน Area TH ที่เจ็ดเขตกลาง]

 

“เทล!”

 

เสียงตะโกนเรียกของเอชที่เพิ่งกลับมาหลังปฏิบัติงานข้างนอก ตามหลังมาด้วยนิฟและเจนนิก้าที่ยังใส่เฝือกแขนขวาอยู่และเพราะเสียงเรียกของเอชนั่น ทำให้เจ้าของชื่อที่กำลังนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์หลายจอรู้สึกสยองขนลุกไปทั้งตัวชั่วขณะ

 

“เอช!”

“ฉันมาแล้ว!” เอชวิ่งเข้าไปหา

“อย่า!”

 

โครม!

 

เสียงเก้าอี้ที่เทลใช้นั่งพิงหลังอยู่ล้มลงกระแทกพื้น เพราะเอชกระโดดลอยเข้ากอดเทลแบบไม่คิดชีวิตและทรัพย์สินโดยรอบ ทั้งคู่นอนกอดกลิ้งอยู่บนพื้นจนไลพ์ที่ยืนน้ำส้มกระป๋องซันชายน์อยู่ต่อว่า

 

“พวกเธอสองคน! เล่นกันอีกแล้วนะ! เดี๋ยวของพังอีกรอบหรอก! ฉันไม่มีเงินจ่ายนะย่ะ!”

“ผมไม่ได้เล่นนะเจ๊!” เทลร้องขอความช่วยเหลือ “ช่วยลากยัยนี่ออกจากตัวผมที!”

“ทำไมฮะ? เทลรังเกียจเพื่อนสนิทอย่างฉันเหรอ?” เอชทำหน้าตาบ๋องแบ๋ว

“ก็...เปล่าสักหน่อย”

“งั้นขอกอดให้หายคิดถึงหน่อยล่ะกัน!”

“กอดแรงไปแล้ว! แอ่ก!”

 

‘เหอะๆ สองคนนั้นเล่นอะไรกันเนี่ย’

 

พีที่นั่งอยู่บนโซฟาสีดำดูหนึ่งในกิจวัตรประจำวันในสำนักงานการ์เดี้ยน AreaTH ที่เจ็ดเขตกลาง ซึ่งตอนนี้ก็มี เอช เจนนิก้าและนิฟที่เพิ่งกลับมาจากงานด่วนแถวๆ นี้ และก็มีเทลที่ลงไปนอนกลิ้งกับพื้นเป็นเพื่อนเล่นเอช แล้วก็หัวหน้าไลพ์ที่กำลังยืนต่อว่าคนอยู่ สุดท้ายก็ทอมมี่ที่นั่งอยู่ข้างๆ เขา

ส่วนต้นนั้น ตอนนี้ยังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลทางเหนืออยู่ หมอบอกว่าพรุ่งนี้ออกจากโรงพยาบาลได้ ซึ่งไลพ์จะอยู่เฝ้า แต่โดนไล่กลับมาเขตกลางกันหมด เพราะเห็นว่าพวกเรายังมีงานอีกเยอะ อีกทั้งฝากเรื่องไลพ์จัดการเรื่องคนของการ์เดี้ยน Area TH ที่หก ที่มาพักอาศัยและปฏิบัติการณ์ช่วยเหลือพิเศษอยู่โรงแรมใกล้ๆ อีกด้วย เพราะเรื่องที่ต้นออกจากการเป็นหัวหน้ากระทันหันนั้น สร้างความวุ่นวายอลหม่านให้แก่ลูกน้องในสายงานของเขามากและยังตะลึงไม่หายกับหัวหน้าคนใหม่ ซึ่งคนในสายงานส่วนใหญ่จะเรียกว่า ‘หัวหน้าชั่วคราว’ หรือ ‘รักษาการณ์แทน’ คือพีช แน่นอนว่าเรื่องต้นฝากไลพ์มา คือดูการทำงานของพีช ซึ่งเท่าที่เธอบอกมา ยังไม่ค่อยมีปัญหาอะไรมากนักและเรื่องโรงงานระเบิดนั้น...ทางการ์เดี้ยน Area TH ที่หกและเจ็ดได้ตัดใจจากเรื่องนี้แล้วเรียบร้อย เนื่องจากเห็นว่ามันเสี่ยงอันตรายและก้าวก่ายงานของเอ็มแอลเอมากไป

 

‘เฮ้อ แค่เจอกับเจ้าหุ่นกับกรงขังนั่น ก็อันตรายมากพอแล้ว แต่ยังสงสัยไม่หายว่า ทำไมโรงงานผลิตยาถึงกลายเป็นโกดังร้าง และมีกรงไว้ขัง มันเหมือนกับว่าจะดัก...

หือ ดัก...กับดัก...อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้ ถ้ามาคิดดูดีๆ แล้ว เริ่มแรกหลายโรงงานใน Area TH ที่หกถูกเผาทำลายด้วยฝีมือใครก็ไม่รู้ แล้วมันเริ่มลามมา Area TH ที่เจ็ด ไฮเทคอัพเปอร์ บริษัทที่รับผิดชอบการดูแลโรงงานพวกนั้น ก็น่าจะหาทางทำอะไรสักอย่างบ้าง อย่างเช่นดักจับคนร้ายซะเอง

ใช่! ถ้าคิดแบบนั้นมันจะลงล็อคเข้าเรื่องมาก เพราะที่ตัวหุ่นพวกนั้นมีโลโก้ของไฮเทคอัพเปอร์อยู่ แต่ปัญหาก็คือสิ่งที่ฉันสันนิฐานนี้ มันจะจริงหรือเปล่า?

คงต้องเช็ดดูจากเจ้านี่เท่านั้น ถ้าแจ็คพอตเจอข้อมูลของไฮเทคอัพเปอร์ล่ะก็ มันก็น่าจะมีข้อมูลเกี่ยวกับเมงุมิบ้าง ไม่ก็เครื่องเทเลพอต’

 

พีขยับมือซ้ายที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงที่มีเมมโมรี่ที่ได้จากตัวหุ่นที่เข้ามาทำร้ายพวกเขา คลำไปมาเพื่อเช็คให้แน่ใจว่ายังอยู่ดี ก่อนที่จะถามเรสเทียร์ที่นั่งอยู่บนบ่าเขาผ่านในใจ

 

‘นี่ เรสเทียร์’

‘-ค่ะ พี่หญิง-’

‘เมื่อกี้ได้ยินที่ฉันคิดทั้งหมดแล้วใช่ไหม?’

‘-ใช่แล้วค่ะ พี่หญิงอยากจะรู้ข้อมูลที่อยู่ในนั้นสินะคะ-’

‘อือๆ มีอะไรที่ใช้อ่านเจ้านี่ได้บ้าง?’

‘-งืม...ตามการวิเคราะห์ของเรสเทียร์แล้ว ก็เป็นคอมพิวเตอร์ที่อยู่ใกล้ๆ นี่ค่ะ-’

 

เรสเทียร์ชี้ไปทางคอมพิวเตอร์ที่มีหลายจอที่เทลใช้นั่งทำงานของการ์เดี้ยนดู ซึ่งบนจอนั่น มีข้อมูลมากมายและภาพกล้องวงจรปิดบางส่วน

 

‘โห้ยๆ แล้วจะให้ฉันเข้าไปใช้ตรงๆ เลยมันไม่ง่ายขนาดนั้นมั้ง...ไปใช้คอมตามร้านเน็ตคาเฟ่ได้หรือเปล่า? เอ๊ะ!? เดี๋ยวก่อนสิ มันต่อผ่านมือถือฉันก็ได้ไม่ใช่เหรอ?’

‘-แต่เครื่องของพี่หญิงมันเสียบเมมโมรี่อันนั้นไม่ได้นะคะ-’

‘เอ่อ นั่นสิ อันมันใหญ่พอสมควรแฮะ ขนาดประมาณหนึ่งนิ้วได้แฮะ’

 

“เอช! เราต้องไปได้แล้วนะคะ!”

 

เสียงเจนนิก้าเรียกหาเอชที่นอนเล่นอยู่กับเทลที่พยายามตะเกียดตะกายลุกให้ได้

 

“แปปหนึ่งฮะ ยังไม่หายคิดถึงเทลเลย”

“ยัยบ้า! ปล่อยฉันนะ!” เทลร้อง

“นิฟค่ะ” เจนนิก้าเอ่ยแล้วใช้สายตาชี้ไปทางเอช

“รับทราบ”

 

นิฟเดินตรงเข้ามาจับชายเสื้อนักเรียนของเอชแล้วลากออกมา ซึ่งเอชไม่ยอมลุก นิฟเห็นเป็นแบบนั้นแล้ว เลยทำการลากต่อจนออกจากห้องไป เจนนิก้ามองด้วยสายตาอันเบื่อหน่าย ก่อนที่ไลพ์จะถาม

 

“พวกเธอจะไปไหนกัน?”

“คือว่าพวกเราทั้งสามคนมีนัดว่าจะไปส่งเด็กที่พลัดหลงจากพ่อแม่ทางเขตใต้ล่ะค่ะ”

“หา!? เขตใต้?”

“คือว่าเด็กคนนี้หลงมาตั้งแต่ช่วงก่อการร้ายของพวกไอริสแล้วค่ะ สัปดาห์กว่าๆ แล้วที่เด็กคนนั้นหายตัวไป แล้ววันนี้พวกดิฉันไปเจอเข้าแถวๆ นี้พอดี เลยติดต่อทางพ่อแม่และอาสาไปส่งเด็กกลับไปถึงมือพวกเขาเลยค่ะ”

“งืม ดีมาก งั้นก็รีบไปเถอะ”

 

เจนนิก้าก้มหัวเล็กน้อย ก่อนที่จะตามสองคนที่ออกไปก่อน

 

“งานเลี้ยงเด็ก สามคนนั้นถนัดดีนะครับ” ทอมมี่ว่า “ผมนี่สิ เจอแต่คนแก่ๆ”

“ฮ่าๆ คุณพี่ทอมมี่คงถูกโฉลกกับผู้สูงอายุล่ะมั้ง” ไลพ์แซว

“เหรอครับ? อย่านึกว่าผมไม่รู้นะ ว่าวันนี้คุณหัวหน้ากับต้นคนนั้น---”

“หยุดพูดเดี๋ยวนะ!” ไลพ์สั่งหน้าแดง “เอ๊ะ? เดี๋ยวก่อน รู้เรื่องนี้ได้ยังไง?”

“ก็แค่พูดส่งๆ ล่ะครับ ไม่คิดว่าจะถูกเป๊ะ”

“หน่อยๆ ถ้าไม่ติดว่าเป็นรุ่นพี่แล้วล่ะก็...”

 

กริ๊งๆ

 

จู่ๆ ก็มีเสียงมือถือดังขึ้น เป็นของไลพ์ ซึ่งมือถือเธอเป็นสีชมพูแบบพับ ไลพ์ยกขึ้นมารับ

 

“ฮัลโหล ไลพ์พูดสายอยู่ค่ะ...หือ? อือๆ หือ? จริงดิ...งืม...ตอนนี้เลยเหรอ? อือๆ เดี๋ยวออกไป รอสักสิบห้านาที...แค่นี้นะ” ไลพ์วางมือถือลงก่อนที่จะถอนหายใจ “เฮ้อ มีงานเข้าจนได้”

“มีอะไรเหรอครับ?” ทอมมี่ถาม

“ก็นิดๆ หน่อยๆ ล่ะนะ...คุณพี่ทอมมี่มากับฉันหน่อย”

“หา!? ไปไหนครับ?”

“เหอะหน่า ตามมาเหอะ แค่อยากให้ช่วยงานเล็กหน่อยเท่านั้นเอง”

“ก็ได้ ก็ได้ครับ” ทอมมี่บ่นแล้วลุกขึ้น “เอาพี...ไอจังไปด้วยได้หรือเปล่าครับ?”

“ไม่ต้อง!” ไลพ์ทำเสียงดุก่อนที่จะเดินออกจากห้องไปก่อน “นายต้องไปกับฉัน แค่สองคนเท่านั้น”

“เฮ้อ เอาแต่ใจซะจริงๆ หัวหน้า”

“เอาน่าๆ นายรีบไปเหอะ ฉันอยู่ได้” พีบอก

“อย่าหนีไปไหนนะครับ”

“จะหนีไปไหนได้เล่า”

“งั้นก่อนไป...”

 

จู่ๆ ทอมมี่ยื่นหน้ามาจะหอมแก้มพี เขาเลยส่งลูกถีบเท้าขวาพิฆาตเข้าเต็มหน้าเพื่อนรักจนกระเด็นออกจากห้องไปแทน ซึ่งพีไม่แน่ใจว่าเผลอใช้พลังจิตควบคุมลมส่งแรงถีบไปด้วยหรือไม่

 

“ง่ะ! ใจร้าย! ทำกับคนรักได้ลงคอ!!”

“ใครเป็นคนรักของแกว่ะห๊ะ!?” พีตวาดใส่

“ฮ่าๆๆๆ” เรสเทียร์และเทลหัวเราะผสมโรง

“ก็เป็นคนรักจริงๆ นี่ครับ” ทอมมี่ทำเสียงกวนประสาท

“แกนี่มันกวนส้น---“

“จะไปได้หรือยัง!!! คุณ...พี่...ทอม...มี่!” ไลพ์ที่อยู่ข้างนอกตะโกนเรียก

“ครับ! ไปก่อนนะ..ที่รัก”

“แก!”

 

และแล้วทอมมี่ก็ออกตามไลพ์ไป

 

‘ไอ้เพื่อนบ้า! ก็รู้อยู่ว่ามันชอบแกล้งเล่นแบบนี้ประจำ แต่คนมันไม่ชอบโว้ย!’

 

พีนั่งลงบนโซฟาอย่างเหนื่อยใจ ตอนนี้ในสำนักงานเหลือแต่พี เรสเทียร์และเทลที่อยู่

 

‘งืม...เอาไงดี...ลองถามเทลงั้นเหรอ? แต่จะถามอีท่าไหนดี ถึงจะยอมฉันง่ายๆ’

 

แล้วเจ้าตัวก็พาลนึกถึงเรื่องในสมัยมอปลายที่เขาเคยเป็นพนักงานพิเศษในร้านเมดคาเฟ่

 

‘เหอะๆ จำคำพูดท่าทางอ้อนลูกค้าไม่ค่อยได้แล้วสิ แต่ก็เอาวะ!’

 

พีเดินเข้าไปใกล้ๆ เทลที่กลับไปนั่งบนเก้าอี้ใกล้คอมพิวเตอร์ เขาสะกิดเรียก แล้วเอียงตัวโน้มลำตัวลงทางข้างหน้าเล็กน้อย เอามือทั้งสองข้างประสานไว้ข้างหน้าราวกับว่ากำลังเขินอายอยู่ ทำหน้าตาอ้อนวอนสุดฤทธิ์และบีบเสียงให้เล็ก

 

“นี่เทล”

 

เมื่อเทลหันมาตามเสียง ถึงกับผงะ เพราะเจอลูกไม้สาวมาส่งสายหวานๆ มาให้...ซึ่งเขาไม่รู้ว่าไม่ใช่สาวแท้ๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์

 

“คะคะครับ!?”

“ไหนๆ เราก็อยู่กันแค่สองคนแล้ว...มีเรื่องอยากจะให้ช่วยหน่อยนะ” พีค่อยๆ ใช้มือซ้ายจับที่ไหล่ของเทลข้างขวา

“อะอะไรเหรอครับ?”

“ก็เรื่องเล็กน้อยนะ แต่บอกมาก่อนได้ไหม ว่าจะช่วยพี่” พีเริ่มขยับมือซ้ายลูบวนไปมาที่ต้นแขนเทล

“ชะชะชะชะช่วยเรื่องอะไรครับ!?” เทลเริ่มเหงื่อแตก

“บอกมาก่อนสิ” พียกนิ้วชี้ขวาประทับริมฝีปากตัวเองไว้เชิงยั่วยวน “สัญญาว่าจะช่วย”

“กะกะกะก็ได้ครับ”

“พูดว่าสัญญาสิ”

“สะสะสะสายัน เฮ้ย! สัญญาครับ!”

“ว้าว! ใจดีจัง”

 

พีผงะถอยออกมา พร้อมใช้มือทั้งสองตบหนึ่งครั้ง เทลที่เห็นท่าทางแปลกๆ ของเขาเลยถาม

 

“เอ่อ...คือว่า ที่จะให้ช่วย---“

“อันนี้จ๊ะ!” พียื่นเมมโมรี่ที่ซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมา “ช่วยหาตัวแปลงย้ายข้อมูลจากเมมโมรี่ลงมือถือพี่ให้หน่อย”

“หือ?” เทลทำหน้าตะลึงปนผิดหวังเล็กน้อย ก่อนที่จะพิจารณาดูของที่พีให้มา “อ๋อ นึกว่ามีเรื่องอะไร...แปปนะครับ”

 

เทลดันตัวพร้อมกับเก้าอี้ที่มีล้อไปอีกทางหนึ่งที่มีกล่องเยอะๆ เห็นเขาก้มรื้อหาอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะหาเจอแล้วยื่นให้พี เป็นสายไฟที่มีสองหัว อีกด้านหนึ่งเป็นรูแบนๆ ที่เสียบกับมือถือของพีได้ ส่วนอีกด้าน เป็นช่องว่างที่กว้างพอดีกับเมมโมรี่

 

“ขอบใจจ้า!” พีพูดกล่าวขอบใจแล้วหยิบสายเส้นนั้นมา

“ให้ผมย้ายข้อมูลให้ไหมครับ?”

“อ่า ไม่เป็นไรจ๊ะ เดี๋ยวพี่ย้ายเอง”

“ย้ายเป็นเหรอครับ?”

 

คำถามจากเทลที่เหมือนดูถูกสติปัญญาของพีเป็นอย่างมาก แต่เขาก็อดทนไว้และในขณะเดียวกันไม่ต้องการให้เทลเห็นข้อมูลในเมมโมรี่ด้วย พีเลยโกหกไป

 

“คือว่า มันเป็นเรื่องส่วนตัวของผู้หญิงจ๊ะ อยากจะเห็นหรอ?”

“อ่า ไม่ล่ะครับ”

 

เทลปฏิเสธ พีเลยเดินกลับไปนั่งบนโซฟาแล้วเริ่มทำการเสียบสายและต่อเมมโมรี่เข้ากับช่องเสียบ

 

“เดี๋ยวเรสเทียร์ช่วยดูให้นะคะ” เรสเทียร์ค่อยๆ ลอยตัวมาอยู่ข้างๆ มือถือแล้วใช้มือข้างหนึ่งแตะ “งืม...ข้อมูลใหญ่เอาเรื่อง”

“ข้อมูล?” พีกระซิบ

“เหมือนจะเป็นซอร์ฟแวร์ที่ใช้ควบคุมหุ่นยนต์ที่เจอกันเมื่อวานนี่ล่ะค่ะ” เรสเทียร์หลับตาพูด “งืม...เหมือนจะไม่มีอะไรเลยนะคะ...เอ๊ะ?”

“หือ เจออะไร เรสเทียร์?”

“ตำแหน่งปลายทางค่ะ เป็นพิกัดต้นทางที่ใช้ควบคุมหุ่นยนต์พวกนั้นค่ะ”

“จริงดิ? งั้นเอาขึ้นแผนที่ในมือถือฉันเลย”

“ได้ค่ะ พี่หญิง รอสักครู่นะคะ”

 

 ผ่านไปสามวินาที หน้าจอมือถือก็เด้งเข้าสู่แผ่นที่โดยอัตโนมัติ และขึ้นตำแหน่งสีแดงพิกัดไว้ที่ๆ หนึ่ง ซึ่งพีเห็นข้อมูลสถานที่นั่น โรงงานอุตสาหกรรมผลิตยานยนต์ ‘เบรกชิฟ’, เขตใต้,Blue Zone, Area TH-7

 

“เขตใต้!”

 

พีเผลออุทานออกมา เทลหูผึ่งเลยถาม

 

“เขตใต้? มีอะไรเหรอครับ?”

“เปล่าๆ ไม่มีอะไร”

 

พีว่าอย่างงั้น ก่อนที่จะคุยกับเรสเทียร์ในใจ

 

‘เอาไงดีล่ะ เรสเทียร์ ได้ตำแหน่งมาแล้ว จะไปตอนนี้เลยดีไหม?’

‘-เรสเทียร์ว่ารีบไปเลยดีกว่าค่ะ เพราะไม่รู้ว่าคนที่คุมหุ่นยนต์พวกนั้นจะอยู่หรือหนีกันไปหรือยัง?-’

‘นั่นสิ ยังไงก็ต้องรีบไปสินะ’

 

พีถอดอุปกรณ์ที่เสียบอยู่ออกจากมือถือ แล้วเก็บเมมโมรี่เข้ามในกระเป๋าเสื้อ เรสเทียร์ก็บินเข้าไปอยู่ในนั่น และเขาก็ลุกขึ้นยืนตรงจะเดินออกจากห้อง แต่ก่อนไปเขาฝากบางเรื่องให้เทล

 

“เทล! ฉันไปธุระข้างนอกนะ ถ้าทอมมี่มาก็บอกให้มันกลับบ้านก่อนได้เลย”

“อ่า ครับๆ”

 

เทลที่รับปากโบกมือลาพีจนเขาออกจากห้องไป เทลถอนหายใจแล้วมองบรรยากาศรอบๆ ในห้องบ่นพึมพำ

 

“อยู่คนเดียวอีกแล้ว...หาอะไรกินในตู้เย็นดีกว่า”

 

พอบ่นเสร็จก็ลุกขึ้นไปยังตู้เย็นที่อยู่ใกล้ๆ โซฟา บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ทางซ้ายสุด มีภาพยานแม่ลอยฟ้า ‘มอชชินนี่’ (Moshchnyy Mothership) พร้อมกับยานบินขนาดเล็กหลายลำของเวิลด์เจเรนัลที่กำลังบินผ่านภูมิประเทศกึ่งทะเลทราย พร้อมเสียงผู้บรรยายข่าว

 

“เป็นเวลากว่าสามวันแล้ว ที่ศูนย์บัญชาการใหญ่เวิลด์เจเรนัล ยานแม่มอชชินนี่เคลื่อนทัพจาก Area RU เพื่อมุ่งตรงไปยัง Area TH ที่เจ็ด ณ ขณะนี้พวกเขาได้ถึง Area CH ที่สี่ที่เป็นทางผ่าน ซึ่งอยู่ติดกับ Area LDR และช่วงนี้ได้รับข่าวลือจากวงในที่มีความน่าเชื่อถือสูงว่า จะมีการจัดตั้ง Area WG แทน Area TH ที่เจ็ดอีกด้วยสนธิสัญญาเวิลด์เจเนรัล ซึ่งจะเป็นจริงอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นหรือไม่ อีกสี่วันได้รู้แน่นอนค่ะ!”

 

◊◊◊

 

คุยกับคนเขียนกันนะ >_<

จบลงไปแล้วสำหรับบท ‘อิลลูชั่น (illusion) บทที่ 4 [เบาะแส]’ นะจ๊ะ

ตอนนี้กล่าวถึง การตัดสินใจของอดีตหัวหน้าการ์เดี้ยน Area TH ที่หกที่สร้างความแปลกใจ?

และในที่สุดพีก็ตัดสินใจออกไปยังเขตใต้ตามเรื่องของเมงุมิด้วยตัวคนเดียว (ถ้าไม่นับเรสเทียร์)

แล้วยานแม่ของเวิลด์เจเรนัลที่กำลังมาเยือน Area TH ที่เจ็ดภายในสี่วัน จะสร้างความเปลี่ยนแปลงตามข่าวลือหรือไม่?

โปรดติดตามตอนต่อไปที่มีชื่อว่า อิลลูชั่น (illusion) บทที่ 5 [เมื่อเส้นทางทั้งสามมาบรรจบ]

เป็นตอนสำคัญของตัวละครหลักทั้งสามคนสามเรื่องมาเจอกัน!

เมื่อพลังจิตผงาดทั่วโลก เรื่องราวผจญภัยอันมหัศจรรย์จึงบังเกิดขึ้น!

ถ้าชอบก็ Comment ให้กำลังใจกันบ้างเน้อ 1 Comment เท่ากับล้านกำลังใจเลย ฮ่าๆ

By Spy442299 & Nattanan Srising

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา