P.P.Rising The Bullet Time อภินิหารพลังจิตเหนือโลก

8.1

เขียนโดย Spy442299

วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 10.54 น.

  46 chapter
  28 วิจารณ์
  42.01K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2557 17.28 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

46) New World บทที่ 1 [เปลี่ยนอีกครั้ง]

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

P.P. Rising: The Bullet Time

เดอะบูลเลตไทม์ อภินิหารพลังจิตเหนือโลก

  1. Ch.40 New World บทที่ 1 [เปลี่ยนอีกครั้ง]

 

◊◊◊

 

[17:10] [10/01/2058]

[Area TH-7 เขตกลาง, War Zone, ป้อมปราการลอยฟ้า ‘ชินโคเซ็น’ จุดศูนย์กลาง ชั้น A3, พิพิธพันธ์นิวไลพ์ (Museum Of New Life)]

 

“ข้ามาช้าไป”

 

ผอ. แดเนียล ยืนเซ็งอยู่หน้าทางเข้าปราสาทที่เละไม่เป็นท่าโดยมีชายผมสีส้มยาวถึงต้นคอใส่ต่างหูสีทอง นัยน์ตาสีเขียวที่กำลังสำรวจเศษซากรอบกายแล้วเขาก็เดาถึงสาเหตุที่ทำให้สถานนี้พังพินาศ

 

“ลำแสงสีแดงนั้นของ...อ่า...นกหรือนางฟ้าล่ะมั้ง”

“หือ? รัมเบิล เจ้าหมายถึงอะไร?” แดเนียลถาม

“ท่านก็น่าจะเห็นด้วยกันไม่ใช่หรือไงครับ”

“ข้า...เอ่อ...สายตาไม่ดี”

“อือ เป็นงี้เอง มิน่าเวลาคุยผ่านข้อความถึงมีคำผิดอยู่บ่อยๆ” รัมเบิลส่ายหัว “ตอนแรกไม่คิดว่าจะได้มีวันที่ได้เจอนายจ้างปริศนาที่แบล็คเมล์ผม”

“เจ้าพูดแบบนั้นไม่ถูก เธอคิดหนี้ข้าไว้ต่างหาก”

“โอเค โอเค จะให้คิดแบบนั้นก็ได้ครับ” รัมเบิลเดินสำรวจต่อ “ว่าแต่ทำไมถึงให้ตามมาที่นี่ล่ะครับ เห็นว่าเป็นเขตหวงห้ามไม่ใช่เหรอ”

“ดิออล์โนว์อยู่ที่นี่”

“หือ? อ๋อ...ข่าวลือที่ว่ามีเอไอ (AI) สมองกลอัจริยะที่สุดในโลกอยู่ที่ชินโคเซ็นนี่...อย่าบอกนะว่าเอไอนั้นกำลังจะครองโลกด้วยการก่อกบฏ บรือ...เหมือนในหนังเป๊ะ”

“นี่เจ้าไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยหรือไง” แดเนียลอธิบาย “ด็อกเตอร์ลากัซประกาศทั่วโลกอยู่ว่าเป็นคนทำ”

“แล้วทำไมไม่ไปตามล่าเขาต่อล่ะครับ จะลากผมมาที่นี่ทำไม”

“หนีไปแล้ว ข้าไม่รู้จะตามที่ไหน”

“อ๋อเหรอครับ...ให้ตายสิ ตอนแรกผมก็ตกใจ อยู่ดีๆ ก็มีแสงฟ้าๆ คุมทั้งท้องฟ้าที่นี่ แล้วทั้งเมืองก็วาปมาอยู่บน Area TH-7 ที่ผมเพิ่งกลับมาแท้ๆ...”

 

รัมเบิลพูดถึงตรงนี้เขาก็นึกถึงซิสเซอร์เทเรซ่าที่เขาเพิ่งฝังศพให้เธอเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา การตายของเธอนั้นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดใน Area TH-7 เลยทำให้เขาฝังใจบ้าง

 

“ข้าเสียใจด้วย” แดเนียลว่าตามมารยาท “แต่ขอทำความเข้าใจให้ชัดเจนบางอย่าง...ข้าไม่ใช่ต้นเหตุที่ทำให้เธอคนนั้นต้องตาย”

“ผมทราบดีครับ” รัมเบิลยิ้ม “ยัยซิสเซอร์นั่นชอบทำอะไรโง่ๆ จนหาเรื่องตายเอง”

“เข้าใจก็ดี...งั้นเจ้าก็กลับได้แล้ว”

“หา? ให้ผมมาแค่เนี่ย?” รัมเบิลชี้ตัวเอง “นึกว่ามีเรื่องที่ทำให้ท่านต้องติดหนี้ผม”

“ข้าไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นหรอก”

“โอเคครับ งั้นผมขอตัว...” รัมเบิลเดินไปทางสะพานแก้วทรงกระบอก แต่แล้วก็หันกลับมาบอกบางเรื่อง “ดีใจนะครับ ที่ได้พบตัวเป็นๆ วันหลังเกิดอยากแก้แค้นเรื่องโดนแบล็คเมลเมื่อไร จะได้เล็งถูกตัว ไปล่ะ!”

 

เมื่อรัมเบิลเดินลงจะสะพานจนหายไป ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งสวมผ้าคลุมสีดำที่มีก้อนสีแดงแปะอยู่หน้าผากซ่อนตัวอยู่กำแพงทางขวาเดินออกมาหาแดเนียล

 

“ดีนะที่ฉันไม่รีบเข้ามาหา ไม่งั้นมีเลือดตกยางออกแน่ๆ”

“นั่นเป็นสิ่งที่เธอทำไว้ไม่ใช่หรือ เรด”

 

แดเนียลหมายถึงเรื่องที่เรดทำไว้ ก็คือยิงกระสุนติดคริสตัลชายน์อาบยาพิษใส่ซิสเซอร์เทเรซ่านัมเบอร์ไฟว์ เพื่อนของรัมเบิลที่เพิ่งกลับไป เรดเริ่มบ่ายเบี่ยง

 

“เลิกพูดถึงเรื่องนั้นเถอะ ช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่าพามาที่นี่ทำไม”

“อย่างที่พูดไปก่อนหน้านี่ มาหาดิออล์โนว์” แดเนียลยืนยันเรื่องเดิม “เธอเคยพบตัวเป็นๆ ไหม?”

“มีตัวเป็นๆ เหรอ เห็นว่าเป็นเอไอนิ”

“ข้าหมายถึงตัวตนที่แท้จริงของดิออล์โนว์”

 

เรดขมวดคิ้วกับเรื่องที่แดเนียลเพิ่งพูดเมื่อครู่

 

“ตัวตนที่แท้จริง? อะไร? ที่จะสื่อถึงอะไร? จะบอกว่าเจ้านั้นเป็นพระเจ้าอย่างงั้นเหรอ...แต่คงจะใช่ละมั้ง สองคนนั้นชอบเก็บความลับไว้ไม่แบ่งให้ฉันรู้”

 

แดเนียลเอามือกุมขมับอย่างเหนื่อยใจ เรดเห็นท่าทีแบบนั้นเกิดรู้สึกว่ามีบางเรื่องไม่ถูกต้อง

 

“เฮๆ มีอะไรก็บอกมา”

“นี่เจ้า...ไม่รู้เรื่องจริงๆ หรือ?”

“รู้เรื่อง? อะไร?”

 

แดเนียลเอามือกุมขมับอีกรอบ ก่อนที่เขาจะคว้าลูกบอลเหล็กสีเงินขึ้นมากดปุ่มตรงหน้าแล้วมีภาพจอฉายเล็กๆ ที่กดได้ เขาหาข้อมูลเกี่ยวกับเรดในปี ค.ศ. 2058 แล้วเห็นข้อมูลที่ทำให้เขาเข้าใจว่าทำไมคนตรงหน้าถึงไม่รู้เรื่อง แต่กระนั้นเรดเข้าไปกระชากเสื้อแดเนียลพอดี

 

“มีอะไรก็รีบพูดๆ มา!”

“ปล่อยข้าลงก่อนสิ”

 

เรดหรี่ตาลงก่อนที่จะปล่อยโดยไม่ค่อยเต็มใจนัก แดเนียลบอกเรื่องของดิออล์โนว์

 

“ดิออล์โนว์ก็คือท่านมอชชินนี่”

 

คำตอบนั่นทำให้เรดอ้าปากค้าง เดินถอยหลัง

 

“ห๊ะๆๆๆๆ หา! เมื่อกี้ว่าอะไรนะ ช่วยบอกให้ชัดๆ และเข้าใจด้วย!”

 

แดเนียลเห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของเรดแล้วถอนหายใจ ก่อนที่จะอธิบาย

 

“ดิออล์โนว์เป็นแค่ชื่อโปรแกรมที่ถูกตั้งขึ้นใหม่หลังจากที่ร่างของท่านมอชชินนี่เสื่อมสภาพ เธอถูกโอนถ่ายแกนกลางสู่ที่ใจกลางชินโคเซ็นแห่งนี้...ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือเธอกลายเป็นจิตวิญญาณที่สิงสถิตอยู่ที่นี่ คอยเป็นแบล็คอัพ (Backup) การวิเคราะห์ข้อมูลแก่เวิลด์เจเนอรัล”

 

เรดได้ฟังแดเนียลแบบนั้นถึงกับเข่าอ่อนลง ก่อนที่จะถามที่ไปที่มาของเรื่องนี้

 

“แล้วรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง?”

“ข้าต้องถามกลับก่อนว่า เธอเป็นหนึ่งในสามผู้ก่อตั้งเวิลด์เจเนอรัลอีท่าไหนถึงไม่รู้เรื่อง?”

“ก็...ฉันคิดว่าเธอตายไปแล้วเมื่อหลายสิบปีก่อนนิ” เรดเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยดี “แล้วจะบอกได้หรือยังว่าคุณรู้เรื่องนี้ได้ยังไง...เอาตามตรงนะ ฉันยังไม่เชื่อเต็มร้อยที่นายมาจากอนาคตอีกไทม์ไลน์หนึ่ง”

 

แดเนียลเห็นสีหน้าของเรดแล้วยิ้ม

 

“เหมือนที่ท่านมอชชินนี่บอกไว้จริงๆ ด้วยว่าสนิทกับเธอมาก...ข้าคือผู้นำความหวังสุดท้ายของเวิลด์เจเนอรัลในไทม์ไลน์ล่าสุดอีกห้าสิบปีข้างหน้า ได้รับคำสั่งโดยตรงจากท่านมอชชินนี่ในอนาคตให้ย้อนเวลามาช่วงยี่สิบปีก่อนเพื่อเปลี่ยนแปลงอนาคตไม่ให้โลกล่มสลาย”

“แดเนียล!”

 

จู่ๆ รัมเบิลที่ควรจะไปแล้วกลับเดินกลับมาหา เรดตกใจรีบหันหน้าเบืองหนีเอาผ้าฮูดคลุมหัวไว้ แดเนียลที่ตกใจเล็กน้อยถาม

 

“นี่เจ้า...มีเรื่องอะไรอีก”

“เห็นว่าท่านมีสายสืบอยู่ทั่วโลกเลยใช่ไหม?”

“ก็ใช่อยู่”

“งั้นขอให้ผมติดหนี้ท่านอีกครั้งหนึ่งได้ไหม”

 

สีหน้ากังวลของรัมเบิลเผยออกมาชัดเจน อันที่จริงแดเนียลสังเกตเห็นก่อนหน้านี่นานแล้วว่าเขาต้องมีเรื่องทุกข์อยู่แน่ๆ

 

“ว่ามา”

“ช่วยตามหาเฟียน่าที”

“เฟียน่า?” แดเนียลใช้เวลานึกอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะเดาถูกคน “อิลลูชั่นเฟียน่านัมเบอร์เซเว่นใช่ไหม”

“ครับ...”

 

รัมเบิลยืนยันโดยไม่กล้าสบตาตรงๆ นั่นเป็นเพราะเขายังไม่ไว้ใจแดเนียลมากนัก แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว เขาติดต่ออิลลูชั่นเฟียน่าไม่ได้หลายวันนับตั้งแต่คุยกับเธอผ่านมือถือที่เธอกำลังขึ้นเครื่องบินมาชินโคเซ็น แดเนียลกดปุ่มที่ลูกบอลแล้วใช้นิ้วกดหาข้อมูลของอิลลูชั่นเฟียน่าเพื่อหาตำแหน่งล่าสุด ภายขึ้นมาเป็นคลิปวิดีโอภายในเครื่องบิน ซึ่งแดเนียลขมวดคิ้วกับภาพที่เห็นก่อนที่จะให้รัมเบิลดู

 

“อย่างที่เห็น...”

 

นัยน์ตาสีเขียวมรกตของรัมเบิลเบิกโตขึ้นกับภาพที่เล่นอยู่อย่างไม่น่าเชื่อ ก่อนที่จะกดส่งข้อมูลนั้นลงในมือถือของรัมเบิล

 

“ข้าโอนข้อมูลทั้งหมดของอิลลูชั่นไว้ในมือถือเจ้าแล้ว...เท่าที่ดูข้อมูลคร่าวๆ จะทำอะไรก็รีบทำ เปอร์เซ็นต์รอดชีวิตของผู้หญิงคนนั้นจะได้มากขึ้น”

 

รัมเบิลได้ยินเช่นนั้นก้มหัวขอบคุณก่อนที่จะวิ่งหายไป เรดมองลูกบอลเหล็กลูกนั้น

 

“เจ้านั่นมันคืออะไร?”

 

แดเนียลหรี่ตาลงกำลังคิดบางอย่างแล้วกดลูกบอลให้ปรากฏภาพรูปร่างของใครบางคนขนาดเล็กที่เรดมองไม่ค่อยเห็น แดเนียลพูดกับสิ่งนั้น

 

“จะให้บอกหรือเปล่าครับ”

“เดี๋ยวฉันบอกเอง”

 

เสียงเด็กใสที่แสนคุ้นหูของเรด แดเนียลหันลูกบอลที่มีจอฉายอยู่ไปทางเรด มันทำให้เรดผงะ ในจอภาพนั้นเป็นเด็กน้อยที่ดูเหมือนจะมีอายุประมาณสิบสองปี เพียงแต่ถูกย่อส่วนเหลือเท่าฝ่ามือ ไว้ผมสีขาวยาวเกือบถึงเท้า อยู่ชุดขาวบริสุทธิ์ไปทั้งตัวราวกับนางฟ้า ซึ่งมีปีกน้อยๆ สีขาวงอกออกมาจากหลังด้วย เธอใช้นัยน์ตาสีเหลืองมองเรดที่ซ่อนไปด้วยความซุนซน

 

“ฉัน...มอชชินนี่ที่เธอชอบไง”

“ห๊ะ!? อ่า...ทำไม...เดี๋ยว...เดี๋ยวๆ แดเนียล...ไหนบอกว่าท่านมอชชินนี่ไม่ได้อยู่ที่นี่ไง”

 

เรดสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้นตรงหน้า ถึงแม้ว่าเธอจะจำมอชชินนี่ได้แต่มีบางอย่างที่ผิดปกติ มอชชินนี่ที่อยู่ฉายภาพออกมาจากลูกบอลเหล็กส่ายหัว

 

“เธอนี่หัดคิดหน่อยซี่...ฉันอยู่กับแดเนียลมาตลอดหลังย้อนเวลามา ‘อีกครั้ง’ นะ”

 

มอชชินนี่บอกเชิงใบ้ไป...เรดขมวดคิ้วนึกสักพักก่อนที่จะนึกออกถึงกับคุกเข่าเคารพ

 

“เข้าใจล่ะค่ะ ท่านคือมอชชินนี่อีกไทม์ไลน์หนึ่ง ข้าน้อยยินดีรับใช้ท่าน”

“เฮๆ เคยบอกแล้วไงว่าอย่าทำแบบนี้กับฉันนะ” มอชชินนี่ทำเสียงไม่พอใจเล็กน้อย แต่พอเห็นสีหน้าที่งุนงงของเรดเลยแก้ตัว “เอ่อ...ลืมไป ฉันบอกกับเธอหลังจากนี้อีกสิบปีนี่หว่า”

“จะให้ทำอะไรก็รับสั่งมาเลยคะ ก่อนหน้านี้ต้องขออภัยที่เสียมารยาทกับท่านแดเนียลด้วย”

 

เรดพูดขอโทษ แดเนียลไม่ได้ตอบรับอะไร มอชชินนี่ผู้ที่ย้อนเวลามาพร้อมกับแดเนียลเอ่ยคำพูดประจำ

 

“ออล์ไฮล์ฟิวเจอร์ (All Hail Future) ปฏิบัติของเรายังคงเดิม...เปลี่ยนทุกสิ่งอีกครั้ง เพียงแต่ฉันรู้หนทางที่ชัดเจนกว่าเดิมแล้ว”

“เชิญรับสั่งมาเลยคะ”

“เธอจงตามหาผู้ใช้พลังจิตพีทูเกี่ยวข้องกับกาลเวลา อนาคต ทำนาย แล้วจัดการพวกเขาให้หายจากโลกนี้ให้หมดซะ!”

 

เรดน้อมรับคำสั่ง แต่มีบางอย่างที่เธออย่างรบกวนคนตรงหน้า

 

“รับทราบค่ะ! อ่า...แต่ช่วยเอาไอ้ก้อนแดงๆ บนหน้าผากฉันออกไปก่อนได้ไหม? ฉันใช้พีทูไม่ได้”

 

◊◊◊

 

[17:21] [10/01/2058]

[Area TH-7 เขตกลาง, War Zone, ลานจอดเครื่องบิน Blackbird ข้างๆ สถานตรวจสอบคลังและของกลาง MLA]

 

“รัมเบิล! ขอบใจมากที่ส่งไฟล์วิดีโอนั้น...เดี๋ยวฉันจะไปเอง...แอลเจียร์! ช่วยฝากทางนี้หน่อยนะ”

“อ่า...ครับ เจ๊”

 

เฟลิกซ์คุยมือถือกับใครบางคนก่อนที่จะวางแล้วหันมาฝากงานดูแลความปลอดภัยแถวๆ นี้กับแอลเจียร์ก่อนที่จะวิ่งไปขึ้นยาน Blackbird ที่จอดอยู่ใกล้ๆ ซึ่งเขารับปากอย่างงงๆ พอดีนานามิกำลังจะวิ่งตามเฟลิกซ์ไปเลยดักถาม

 

“คุณนานามิ! มีเรื่องอะไรกันหรือครับ?”

“เห็นว่าอิลลูชั่นเฟียน่าถูกลอบสังหารนะ เลยจะตามไปเช็คที่ Area LDR ให้แน่ใจ”

 

และแล้วนานามิก็ตามหลังเฟลิกซ์ขึ้นไป ยาน Blackbird ออกตัวแนวดิ่งก่อนที่จะพับเก็บล้อแล้วบินมุ่งไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ เดซี่เดินตามหลังมาตบไหล่แอลเจียร์

 

“มีเรื่องให้ยุ่งอีกแล้ว”

“เดซี่!? มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับ? ทำไมสองคนนั้นรีบขนาดนั้น”

“เห็นว่าลูกสาวสุดที่รักของเฟลิกซ์ อิลลูชั่นเฟียน่านัมเบอร์เซเว่นที่กำลังนั่งเครื่องบินกลับไปชินโคเซ็นหลายวันก่อนถูกคนของลากัซเล่นงาน”

 

‘อิลลูชั่น?’

 

แอลเจียร์ทวนชื่อนั้นในใจเพราะรู้สึกคุ้นหูมาก แล้วถามถึงสาเหตุ

 

“แล้วเธอคนนั้นโดนอะไรครับ”

“คาร์บอม เฮ้ย...ไม่ใช่สิจะเรียกว่าคาร์แอร์เหรอ? แปลกๆ แฮะ อ่า...เอาง่ายๆ นะ เครื่องบินที่เฟียน่านั่งไปถูกระเบิดทิ้งกลางอากาศ สองคนนั้นก็เลยออกตามหาที่ Area LDR จุดที่เครื่องบินตก”

“อ๋อ...”

 

แอลเจียร์ทำหน้าเข้าใจ แล้วก็มีคนวิ่งเข้ามาจากข้างหลังอย่างเหนื่อยหอบก็คือเรลี่สาวน้อยที่อยู่ภายใต้การดูแลของเฟลิกซ์ ยืนกุมหัวเข่าก่อนที่จะตะโกนไล่หลังยาน Blackbird

 

“ทิ้งเรลี่ไว้อีกแล้วนะ! คุณพี่!”

 

◊◊◊

 

[17:57] [10/01/2058]

[Area TH-7 เขตกลาง, War Zone, ยานแม่มอชชินนี่เทียบท่าที่ชินโคเซ็น, ห้องบัญชาการหลัก]

 

“ตามนั้น...จะมีการจัดประชุมเร่งด่วนผ่านระบบเครือข่ายของเรา อีกสองวันเวลาบ่ายโมง ขอให้แจ้งผู้ว่าการทุก Area ให้เข้ามาประชุมออนไลน์นี้ด้วย”

 

วิคตอเรียกล่าวให้สภาโลกทั้งห้าท่านผ่านจอยักษ์ที่ฉายอยู่บนกระจกที่มีเทวรูปนางฟ้าอยู่ข้างหลัง ก่อนที่ทหารลูกน้องข้างหลังจะปิดการสื่อสารให้ เธอเอาศอกยันแผงควบคุมและมือเกยคางอย่างเคร่งเครียด

 

‘ทำไมสถานการณ์ถึงได้วุ่นวายขนาดนี้’

 

การที่เธอคิดแบบนั้นนับว่าไม่แปลกเพราะถ้าให้เรียบเรียงกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดภายในวันนี้ นับเป็นสงครามย่อยๆ เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการก่อกบฏของลากัซที่...ล้มเหลว ถึงกระนั้นก็ทิ้งระเบิดนิวตรอนจนเกือบหาทางป้องกันไม่ทัน แต่ต้องแลกกับคริสตัลชายน์ขนาดยักษ์ที่เวิลด์เจเนอรัลตั้งใจแต่แรกว่าจะกอบโกยมาเป็นตนเพื่อใช้เป็นพลังงานและวิจัยพีทู ซึ่งันก็ระเบิดกลายเป็นชิ้นเล็กน้อยกระจายไปทั่ว เท่าที่ได้ข้อมูลได้...เศษคริสตัลชายน์นี้กระจายไปกว่าครึ่งโลก และที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือ เพียงแค่เศษคริสตัลชายน์เท่าด้ามปากกาก็สามารถเพิ่มพลังจิตหรือพีทูได้ในระดับหนึ่งแล้ว แน่นอนว่ากฎหมายที่จะควบคุมพลังจิตจะถูกเร่งรัดให้รีบนำมาใช้มากขึ้น ซึ่งมันยังไม่สมบูรณ์นัก อีกทั้งเดิมทีแค่ไม่มีคริสตัลชายน์ก็มีคนใช้พลังจิตในทางที่ผิดจำนวนมากอยู่ แล้วนี่ยังมีคริสตัลชายน์ที่เสริมอนุภาคพีทูเข้าไปอีก สถานการณ์ทั่วโลกต้องวุ่นวายแน่ๆ หากสนธิสัญญาเวิลด์เจเนอรัลผ่านที่ประชุมคงจะช่วยสถานการณ์ได้บ้าง

เรื่องที่สอง การบุกโจมตีสายฟ้าแลปของพวกไอริส ตอนแรกเธอหนึ่งว่าพวกนั้นจะหลบหนีเข้ารังกลบดาลสักปีสองปี แต่ที่ไหนได้กลับส่งเนโอไททันสไปเดอร์อีกตัวด้วยการเจาะพื้นดินขึ้นมาเพื่อที่จะชิงคริสตัลชายน์ที่ลากัซกำลังจะเอาไป...แต่แล้วสถานการณ์พลิกผันจนทำให้พวกนั้นต้องรีบถอนตัวไปทันที และตอนนี้ได้ส่งกองกำลังทหารจำนวนหนึ่งไปตามหาฐานลับใต้ดินผ่านอุโมงค์ที่พวกนั้นขุดไว้แล้ว

เรื่องที่สาม การปรากฎตัวของมอชชินนี่นอกปราสาทนิวไลพ์นั่น...

 

“อ๊าก!”

 

จู่ๆ วิคตอเรียร้องลั่นห้องบัญชาการเอามือกุมหน้าอก ทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องต่างหันมามองด้วยความสงสัย ยูริที่เพิ่งเดินเข้ามาห้องนี้พอดีเดินเข้ามากระซิบถาม

 

“เป็นอะไร? หรือว่า...เริ่มเสื่อมสภาพอีกแล้ว”

“คงงั้น...รู้สึกแปลกๆ มาสองสามวันละ” วิคตอเรียสูดหายใจเข้าก่อนที่จะออกคำสั่งกับทหารคนหนึ่ง “เตรียมยานบินเล็กให้ฉันลำหนึ่งด้วย!”

“รับทราบคะ!”

“เธอจะไป...หาคนนั้น?” ยูริถาม

“ก็ใช้นะสิ ไปให้ปรับสภาพหน่อย...ไปชวนเขากลับที่นี่ด้วยนะ จะได้ไม่ต้องไปๆ มาๆ บ่อยๆ”

“งั้นเหรอ...” ยูริทำหน้าเหมือนจะดีใจ “เดี๋ยวทางนี้ฉันจัดการเอง”

“ขอบใจ...ฉันไปแค่วันเดียวเดี๋ยวมา” วิคตอเรียกำลังจะเดินออกจากห้อง แต่กลับหยุดแล้วหันมาพูดกับยูริด้วยเสียงเบา “นี่...ฉันไม่คิดว่าไทม์ไลน์ของเราจะเกิดเรื่องบ้าๆ ได้ขนาดนี้เลย”

“อนาคตมันเป็นของไม่แน่นอนไม่ใช่หรือไงครับ อย่างน้อยก็ดีกว่าช่วงเวลาที่เรามา”

“หึ...นั่นสินะ ฉันคงต้องอยู่กับโลกนี่ให้นานมากพอจนแน่ใจว่าโลกใบนี้จะไม่เดินไปเส้นทางนรก”

 

หลังจากที่วิคตอเรียบ่นเสร็จก็เดินออกจากห้องไป ยูริส่งซิกให้ทหารนายหนึ่งที่นั่งอยู่ข้างล่างริมขวาสิให้ตามวิคตอเรียไป ระหว่างนั้นแดเนียลเดินสวนเข้ามาในห้องพอดี ได้คุยกับวิคตอเรียชั่วครู่ก่อนที่จะเดินเข้าห้องมา พอที่จะสังเกตเห็นความผิดปกติของคนที่เดินตามหลังวิคตอเรียไป เขาจำได้ว่าเป็นลิวล้อของยูริ แต่ก็ทำตัวปกติเดินเข้าหาคนตรงหน้า

 

“ท่านเลขาธิการจะออกไปไหน?”

“ก็...หาหมอคนนั้นแหละ” ยูริแบมือ “แล้วนี่ท่านหายไปไหนมา? เห็นว่าหลังเทเลพอร์ตเข้าชินโคเซ็นก็หายเงียบไปเลย”

“เจอกับดงศัตรูนั่นสิ เกือบไม่รอด ดีนะที่เรียกพรรคพวกมาเสริม”

“อ๋อ...เหล่าคนที่คุณไปแบล็คเมล์ไปเยอะแยะนั่นหรือ แล้วเห็นตัวจริงของท่านแล้วมันไม่เป็นการเสี่ยงไปหน่อยหรือ”

“สถานการณ์มันบังคับ ช่วยไม่ได้” แดเนียลทำเสียงเหนื่อย

“งืม...งั้นเรามาเคลียร์เรื่องตอนบ่าย...”

 

ยูริตั้งใจจะสะสางเรื่องที่เขาทั้งสองเถียงกันก่อนหน้านี่ แต่อีกคนตัดบท

 

“อ่า ขอเป็นพรุ่งนี้ ข้ายังรู้สึกเจ็บระบมอยู่ ขอตัวกลับยานตัวเองก่อนละกัน”

 

แดเนียลเดินออกจากห้องมาก่อนที่จะตามทางที่วิคตอเรียเดินไป

 

◊◊◊

 

[ในความฝัน]

 

“ทำไมมันกลายเป็นแบบนี้...”

 

เสียงของผู้หญิงที่คุ้นหูคนหนึ่งดังขึ้น เรียกสติเขาที่นอนอยู่กับพื้นลุกขึ้นมาสำรวจรอบตัวว่าอยู่ที่ไหน แต่ทว่าสายตากับพร่าเบลอไปหมดจนไม่แน่ใจว่าอยู่ที่ไหน แต่พอเดาได้ว่าเขาอยู่ท่ามกลางคนใส่เสื้อกราวน์จำนวนมากที่ไม่มีใครเห็นตัวตนของเขา ทุกคนกำลังจ้องมองไปทางเดียวกันที่มีแสงสีฟ้าผสมเขียวที่เปล่งออกมาจากแท่งทรงกระบอกที่เต็มที่ไปน้ำและสายยางที่คุ้นตาเหมือนกับฝันคราวก่อนที่มีเรสเทียร์อยู่ในนั้น แต่คราวนี้เขายังมองไม่ออกว่าเป็นใครที่อยู่ข้างใน

 

‘ที่นี่อีกแล้วเหรอ...’

 

พีเอามือกุมหัวเข่าพยายามตั้งหลักให้ได้ แต่แล้วก็ยังทรงตัวไม่ไหวล้มลงพื้นไปอีกครั้ง ตอนนี้เขาอยู่ใกล้ๆ ขาสองคู่ของชายหญิงที่ยืนดูบางสิ่ง พีเงยหน้าขึ้นแล้วเพ่งมองใบหน้าทั้งสองคนที่คุ้นตาให้ชัดจนมากพอที่จะทำให้เขาตกใจ นัยน์ตาสีดำของผู้ชายผมสั้นสีดำ ใบหน้าเหลี่ยมที่ดูแล้วอบอุ่นและผู้หญิงผมยาวสีน้ำตาลที่มีนัยน์ตาสีน้ำตาลเช่นกัน ใบหน้าของหล่อนที่ใครๆ ต่างก็อดชมไม่ได้ว่าน่ารัก

 

‘พ่อ...แม่...’

 

“เป็นความผิดของผม...ไม่น่าพาลูกมาที่นี่เลย” คนเป็นพ่อสารภาพผิด

“ฉันเองก็ผิดเหมือนกัน” คนเป็นแม่ว่า “ไม่น่าละหลวมกับระบบเปิดปิดเจ้านั่นเลย จนทำให้ลูกเราต้องมาเป็น...”

“เราผิดทั้งคู่นั่นแหละ ที่รัก”

 

และแล้วทั้งคู่ก็โอบกอดกันแล้วมองไปยังแท่งแก้วข้างหน้า พีหันไปจ้องสิ่งที่อยู่ในข้างในนั้นดีๆ อีกครั้ง...มันทำให้เขาตะลึง

 

‘นั่นมัน...ฉัน?’

 

ร่างของตนเองที่เขาเห็น เป็นตัวเขาในวัยสิบสามปีซึ่งเป็นช่วงที่พ่อแม่ของหายไปพอดีเพราะเขาเห็นรอยแผลที่แขนข้างซ้ายที่เผลอหกล้มได้ แต่ตรงกลางหน้าอกเป็นช่องว่างขนาดเท่ากำปัดมือเขา

 

‘ทำไม...หน้าอกฉันถึงเป็นรูโบ๋ขนาดนั้น?’

 

และแล้วก็มีผลึกแก้วสีฟ้าที่เพิ่งถูกจุ่มลงน้ำจากข้างบนที่ใช้แขนจักรกลคนบังคับ ลงมาสู่ด้านหน้าอกเข้าก่อนที่จะยัดผลึกแก้วสีฟ้านั้นลงช่องว่างตัวเขาได้พอดี และนั่นทำให้เขารู้สึกแน่นหน้าอกอย่างแรงจนฟุบลงไปกับพื้น

 

◊◊◊

 

[18:46] [10/01/2058]

[Area SP-2, BlueZone, เกาะเซนัง, บ้านพักตากอากาศของหมอ]

 

“ต้องขอขอบคุณคุณหมอมากจริงๆ ที่ช่วยฉันไว้”

 

เมงุมิกล่าวขอบคุณกับหมอที่มอชชินนี่ที่สิงสถิตอยู่ในจักรกลที่ติดอยู่กับเธอพามาชาร์จพลังงานและช่วยให้แอนตี้พีทูที่อยู่บนหัวกลายเป็นคริสตัลชายน์เช่นเดิม ณ บ้านตากอากาศบนเกาะเซนัง Area SP-2 ที่เพิ่งบินถึงเมื่อชั่วโมงก่อน ซึ่งเธอเพิ่งรู้ว่าก้อนผลึกสีแดงนี้เกิดจากการทำสสารบางอย่างกับคริสตัลชายน์ทำให้กลายเป็นสีแดงและได้ผลตรงข้ามก็คือยับยั้งพีทู ซึ่งวิธีแก้ก็แสนง่าย ก็คือเอาคริสตัลชายน์ที่ยังบริสุทธิ์มาแตะที่แอนตี้พีทูก็จะถูกชำระล้างแล้ว ดังนั้นทำให้ตอนนี้เธอใช้พีทูโทรจิตได้อย่างสบายมาก แม้จะสงสัยว่าผู้เป็นหมอมีแท่งคริสตัลชายน์ได้ยังไงก็ตาม

 

“หน้าที่หมอ...ที่จริงฉันจะไม่รับคนไข้แล้ว ถ้าไม่ใช่คนที่รู้จักหรือถูกขอร้องจากคนใกล้ตัวมานะ”

“ฉันก็ยังตกใจอยู่นะคะ ว่าคุณหมอเจสันผู้โด่งดังแห่งเวิลด์เจเนอรัลจะมาอยู่แถวนี้”

“ชมเกินไปแล้ว...ถ้าไม่ได้มอชชินนี่ค่อยควบคุมการไหลเวียนของเลือดเธอตลอดคงช่วยไม่ได้หรอก”

 

หมอเจสันหมายถึงตอนที่กำลังต่อสายชาร์จเข้ากับส่วนที่เป็นจักรกลของเมงุมิ ร่างกายของเธอเกิดช็อคขึ้นมาเลยต้องให้มอชชินนี่ที่มีความสามารถพิเศษมากมายช่วยเขารักษาเธอ และตอนนี้มอชชินนี่ที่ถูกหมอเจสันดึงตัวออกมาสร้างร่างแอนดรอยด์น้อยใหม่เป็นผู้หญิงผมยาวขาวใส่ชุดหลากสีมีปีกสีขาวในขนาดย่อส่วนพอๆ กับกำปั้นมือบินตามอยู่ข้างหลัง ซึ่งเธอแทรกบทขึ้นมาพอดี

 

“หมอ! ไม่นึกเลยว่าจะสร้างร่างแบบนี้ไว้ให้ฉันด้วย”

“จำไม่ได้แล้วหรือว่าเคยบอกให้สร้างไว้” หมอเจสันว่า

“อ้าว...อุตส่าห์หาเรื่องยกความดีความชอบให้นะ” มอชชินนี่ในร่างแอนดรอย์นางฟ้ามีปกทำแก้มพอง

“ฉันตัวคนเดียวแล้ว ไม่ได้อยู่ใต้คำสั่งใคร กรุณาทำตัวให้เหมาะสมหน่อย”

“ข๊าาาาาาาาาาาาา” มอชชินนี่ลากเสียงยาว

“แล้วถ้ามันเกิดขึ้นอีก...” เมงุมิพูดถึงเรื่องอาการกำเริบก่อนหน้านี้

“มันจะไม่เกิดอีกแล้ว ฉันให้สัญญา”

 

หมอเจสันกล่าวด้วยความมั่นใจ แต่เจ้าตัวยังไม่แน่ใจอยู่ดีจนมอชชินนี่บินเข้ามาใกล้ๆ มาคอมเฟิร์ม สะบัดมั่นใจขึ้นฟ้า

 

“เชื่อหมอเจสันเลยได้! เขาเป็นหมอเทวดาเลยล่ะ!”

“หึๆ ฮ่าๆ”

 

เมงุมิเห็นท่าทางของมอชชินนี่แล้วอดหัวเราะไม่ได้ มอชชินนี่ทำสีหน้าไม่พอใจถามใส่

 

“มีอะไรน่าขำ?”

“คือ...ดิฉันไม่คิดว่า คนที่เป็นผู้นำสูงสุดอย่างท่านมอชชินนี่จะเป็นกันเองขนาดนี้อ่ะค่ะ”

“อ๋อ...ดีว่างั้น” มอชชินนี่ว่า

“ใช่ค่ะ คุยง่ายดีออกน่ะค่ะ”

“อย่างเป็นแบบนั้น มอชชินนี่ก็ไม่ใช่มนุษย์อยู่ดี” หมอเจสันขัด “เธอเป็นเรพลอยด์นะ”

“อัลติเมทเรพลอยด์! หมอพูดให้ครบๆ หน่อยสิ”

“อ๋อ เรพลอยด์” เมงุมินึกถึงบางเรื่อง “พาลให้คิดถึงเรื่องเมื่อสองปีก่อนเลยค่ะ ที่เกาะดิไวน์”

 

ชื่อสถานที่นั้นทำให้หมอเจสันหน้าเสีย

 

“นี่เธอ...รู้เรื่องนั้นด้วยหรือ?”

“ก็ดิฉันเป็นคนนำทัพบุกที่นั้นน่ะค่ะ” เมงุมิกล่าว “แต่ก็เป็นงานแนวหน้าสุดท้ายที่ฉันออก เพราะล้มเหลวช่วยคนได้แค่สามคนจากเป็นหมื่น...คุณหมอเกี่ยวข้องอะไรกับเหตุการณ์ครั้งนั้นเหรอคะ?”

“เปล่าหรอก แค่คนที่อยู่เบื้องหลังความเลวร้ายที่คิดจะสร้างเรพลอยด์ขึ้นมาแบบผิดๆ เป็นคนรู้จักเท่านั้นเอง”

 

ทั้งสามคนเดินถึงประตูบานคู่ชั้นใต้ดินพอดี เมงุมิเอ่ย

 

“ของในห้องนี้เหรอคะ ที่จะให้ช่วยยก”

“ใช่ ขอโทษทีที่ต้องยืมมือเธอนะ พอดีตัวช่วยผ่อนแรงขนของมันพังอยู่ ยังไม่ได้ซ่อมซะทีนะ”

“ไม่เป็นไรคะ หมอช่วยดิฉันไว้ ฉันก็จะช่วยหมอเต็มที่คะ” เมงุมิบิดแขนข้างที่จักรกลเพื่อเช็คว่ายังใช้งานได้ “ฉันมีเจ้านี้คงทำได้สบายล่ะค่ะ”

 

และแล้วทั้งสามคนก็เดินเปิดเข้าไปพบกับห้องโถ่งเหลี่ยใขนาดห้าคูณหกเมตรที่ปลายสุดของห้อง มีเรสเทียร์ที่ยืนเฝ้าหลอดแก้วขนาดยักษ์ที่บรรจุน้ำสีเขียวมีร่างของพีที่หลับไหลไม่ได้สติอยู่ในนั้น ขาทั้งสองของพีที่หายไปถูกแทนที่ด้วยโครงเหล็ก เมงุมิแทบวิ่งเข้าไปหา

 

“พีคุง!”

“คุณเมงุมิ?”

 

เรสเทียร์หันกลับมาดูต้นเสียง ทั้งคู่ต่างตกใจที่ได้พบคนที่ไม่คาดฝัน หมอเจสันถาม

 

“นี่...รู้จักกันหรือ?”

“ค่ะ” เรสเทียร์ตอบสั้นๆ

“ทำไมเธอกับพีคุงอยู่ที่นี่? เกิดอะไรขึ้นกับพีคุง...ทำไมเขาถึง...”

 

เมงุมิเพิ่งสังเกตร่างกายที่บอบช้ำไปทั้งตัวของพีและขาทั้งสองที่หายไปถึงกับโซเซ มอชชินนี่ในร่างแอนดรอย์น้อยบินไปอยู่หน้าหลอดแก้วยักษ์จ้องมองร่างกายของพี ก่อนที่จะหันกลับมาถามหมอเจสัน

 

“นี่มันเมนไรซิ่งแมน (Main Risingman) ลูกของดูโอ้ไทม์นิ? (Duo-Time)”

 

◊◊◊

 

[21:11] [10/01/2058]

[Area CH-1, Yellow Zone, บาร์แห่งหนึ่ง]

 

“อีกแก้ว!”

 

ด็อกเตอร์ลากัซยกแก้วให้บาร์เทนเนอร์เติมเหล้า ตอนนี้เขาหลบหนีจากสิ่งที่ตนเองกระทำไว้ทั้งหมดใน Area TH-7 ด้วยการเทเลพอร์ตมา Area CH ที่แผ่นดินนี้เคยมีประเทศที่ชื่อว่า ‘สาธารณรัฐประชาชนจีน’ มาก่อน ซึ่งมันเป็นแผนสำรองฉุกเฉินที่ไม่คิดว่าจะได้ใช้ เขามากับลูกน้องอีกสองคนมาดื่มเหล้าแก้เซ็งโดยไม่ปิดตัวตนเพราะใน Area CH แทบจะไม่มีคนของ MLA หรือ World Generals เลย (ยกเว้นนอกเครื่องแบบหรือสายสืบ) และแถวนี้เป็นถิ่นของเขาเองด้วย

 

‘ไม่น่าปล่อยเจ้าเคนชิโร่ไว้เป็นเสี้ยนหนามเลย! แล้วนี่พวกมันทำได้ยังไง? เอาระเบิดไฮนิวตรอนยัดไว้ในคริสตัลชายน์ด้วยวิธีไหนกัน?’

 

 ด้วยความที่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ เขาซัดเหล้าที่บาร์เทนเดอร์เพิ่งเติมให้หมดแก้วทันที

 

‘แทนที่จะได้คริสซัสชายน์ทั้งหมดนั้น เจ้าพวกนั้นกลับทำมันแตกเป็นเสี่ยงๆ ซะอย่างงั้น...แถมยังไม่ได้เจ้าหนูพีที่เป็นตัวแกนกลางพีทูไรซิ่งนั่นอีก...

เพราะพวกเวิลด์เจเนอรัลตัดหน้าแท้ๆ!’

 

“เติมอีก!”

“เวลาคุณอารมณ์เสีย ชอบดื่มเหล้าเหรอครับ?”

 

คำถามของชายหนุ่มผมทองยาวคนหนึ่งที่แขนซ้ายด้วน นัยน์ตาสีฟ้าอยู่ในชุดสูทแดงทั้งตัวเข้ามานั่งข้างๆ ลากัซยกนิ้วขอเหล้ากับบาร์เทนเดอร์ เขามองด้วยหางตาก่อนที่จะทักชื่อคนที่เข้ามาทักทาย

 

“นาธาน...นึกว่าตายไปแล้วซะอีก”

“แหม แช่งผมอยู่ใช่ไหมครับ” นาธานจิมเหล้า “ที่ผมหายไปนานก็แค่โดนนายใหญ่ลงโทษเท่านั้นเองครับ นี่ผมก็เพิ่งไปฆ่าเจ้าตาลุงริชาร์ลที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้”

“มาหาข้ามีเรื่องอะไร จำได้ว่าเคยปฏิเสธเรื่องนั้นไปแล้ว”

“แล้วถ้าผมเสนออีกครั้ง คุณจะปฏิเสธอีกไหม?”

 

มือของลากัซหยุดนิ่งลง ก่อนที่จะดื่มเหล้าหมดเหล้าแล้วบอกด้วยเสียงแผ่วเบา

 

“ข้าทำพลาดไปหมดแล้ว...ไม่เหลืออะไรให้พวกเจ้าหรอก”

“แล้วไม้ตายของท่าน...แร็คนาร็อคล่ะครับ”

 

การทักกลับของนาธาน ทำให้ลากัซหยุดนิ่งไปทั้งตัวก่อนที่จะถาม

 

“รู้เรื่องนี้...มากแค่ไหน”

“ผมไม่ค่อยรู้ล่ะครับ” นาธานว่าตามนั้น “แต่นายใหญ่สั่งให้ผมพูดแบบนี้กับท่าน”

 

ทันใดนั้นก็มีลูกน้องไอริสเดินเข้ามาเต็มร้านจนทุกคนที่ดื่มเหล้าอยู่ต่างตกใจ ลากัซถอนหายใจกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดก่อนที่จะโดนลูกน้องไอริสคนหนึ่งช็อคไฟฟ้าข้างลำตัวจนสลบไปและใช้มือจี้ลูกน้องของลากัซอีกสองคน นาธานลุกขึ้นหยิบแบงค์หนึ่งพันชิฟสิบใบให้บาร์เทนเดอร์

 

“นี่ค่าทำเรื่องวุ่นวาย...หวังว่าคงพอนะ”

“ค่ะๆๆๆๆๆ คะ!”

 

นาธานและพรรคพวกเอาตัวลากัซกับลูกน้องของเขาออกจากร้านไป ชายผมสั้นดำที่สวมแว่นตาดำนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ข้างในร้านสุด ดึงปกเสื้อที่มีไมค์ซ่อนอยู่รายงานความเคลื่อนไหว

 

“นี่เดลต้าสอง...พวกไอริสเอาตัวลากัซไปแล้ว...ขอย้ำ พวกไอริสเอาตัวลากัซไปแล้ว”

 

◊◊◊

 

คุยกับคนเขียนกันนะ >_<

เอ๋! เรื่องมันชักยังไงยังไงแล้ว!

จู่ๆ ก็มีการปรากฏตัวของมอชชินนี่ผู้นำสูงสุดของเวิลด์เจเนอรัล

ยิ่งไปกว่านั้นก็มีมอชชินนี่อีกคนที่อ้างว่ามาจากอนาคตอีกที?

และในที่สุดเมงุมิก็มาเจอพีจนได้! (แม้สภาพไม่สมบูรณ์ทั้งคู่ก็เหอะ)

สถานการณ์ทั่วโลกเริ่มย่ำแย่ลง ลากัซผู้ที่หลบหนีถูกพวกไอริสจับตัวไป

แล้ว ‘แร็คนาร็อค’ ไม้ตายที่พูดถึงคืออะไรกันแน่

โปรดติดตามตอนต่อไปที่มีชื่อว่า New World บทที่ 2 [ความบังเอิญที่น่ากลัว]

เมื่อพลังจิตผงาดทั่วโลก การผจญภัยอันแสนวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น!

ถ้าชอบก็ Comment ให้กำลังใจกันบ้างเน้อ 1 Comment เท่ากับล้านกำลังใจเลย ฮ่าๆ

By Spy442299 & Nattanan Srising

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา