ภารกิจพิชิตหัวใจยัยเทพเจ้าแห่งดอกไม้

9.3

เขียนโดย khanom_thai

วันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 04.35 น.

  16 ตอน
  36 วิจารณ์
  16.32K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 20.26 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Chapter 4

 

  ฉันลงจากบันไดของวังด้วยความเขินอายและสายตาก็เหลือบไปเห็นผลสีม่วงน้ำเงินของใครคนหนึ่งแน่นอนว่าจะเป็นใครไม่ได้เลยนอกเสียจากเรเทล ฉันตะโกนออกไป

 "เรเทล!!!!!!!" และเธอก็หันมาพร้อมกับทุกคน นัยน์ตาสีม่วงน้ำเงินสบตาฉัน และเราก็โผเข้ากอดกัน

 "เคเคียว" เสียงของเธอคือสิ่งที่ยืนยันว่าไม่ใช่ความเรเทลมาหาฉันแล้ว

 "เรเทลเธอจริงๆด้วย" ฉันยิ้มอย่างดีใจที่นี่ไม่ใช่ความฝัน

 "เฮ้ยนั่นคู่หมั้นฉัน /เฮ้ยนี่แฟนฉัน" เสียงประสานกันของ โอเซียและพี่เซนอนดังขึ้น แน่นอนที่สองคือคำพูดของโอเซียจังแต่เดี๋ยวก่อนคู่หมั้นงั้นหรอ ฉันค่อยดันตัวเรเทลออก และเรเทลก็ยิ้มแหยๆให้ฉันสรุปคืออย่าบอกนะว่าท่านพี่เซนอนหมั้นกับเรเทลทำไมฉันไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย

 "เรเทลเป็นคู่หมั้นพี่เซนอนหรอ!!!!!!!!" ฉันอุทานดังลั่นจนทำให้แวร์วูฟล์ทุกตัวหันมามอง รวมถึงทุกคนด้วยฉันมองเรเทลด้วยสีหน้าตะลึง

 "แฮะๆ จ๊ะ ฉันเป็นคู่หมั้นของเซนอนเอง" เรเทลยืนยันพร้อมยิ้มให้ฉันอีกรอบไม่จริงใช่ไหมยัยเพื่อนคนนี้ แม่เจ้าจะแต่งงานกับแวร์วูฟล์จริงๆหรอเพื่อนฉัน

 "ทำไมไม่ใครบอกฉันอ่ะ" ฉันถามทุกคน

 "เออคือพวกเราก็พึ่งรู้เมื่อวันก่อนเนี่ยแหละ" พี่ออนไลน์เอ่ยขึ้น

 "เข้าไปในปราสาทกันก่อนไหมค่ะทุกคน ฉันสั่งให้คนของพวกเราเตรียมอาหารให้แล้ว" สมายด์เดินมายืนยิ้มให้กับทุกคน

 "เข้าไปกันเถอะทุกคน" ฉันเอ่ยปากชวนอีกรอบและทุกคนก็พยักหน้า ส่วนเรเทลก็ไม่ยอมห่างจากฉันเลยเราทั้งสองจูงมือกันเข้าปราสาท ไม่รู้ว่าพี่เซนอนจะมาฆ่า ฉันไหมเนี่ย

 "ใครหรอเคเคียว" สมายด์ถามฉันแล้วลดตามองมือของฉันกับเรเทลที่กุมกันอยู่

  "เพื่อนคนสำคัญในชีวิตไง" ฉันตอบยิ้มๆแล้วหันไปสบตาสีม่วงน้ำเงินของเรเทลเธอยังงดงามอยู่เสมอ จนฉันอดแปลกใจไม่ได้ว่าเธอจะมีอายุกี่ปี

 "ฉันชอบมองตาเคเคียงจัง ตาสีขาวที่แสนบริสุทธิ์" เรเทลเอ่ยยิ้มๆ แล้วสบตาสีขาวของฉัน มันน่าแปลกนะที่ดวงตาของฉันเป็นสีขาวแบบที่คนอื่นไม่มี แล้วก็คงจะแปลกอีกด้วยเวลาที่คนอื่นชอบสบตาฉัน แล้วบอกว่ามันให้ความรู้สึกคิดถึงใครคนหนึ่ง

 "ตาฉันก็ไม่เห็นจะสวยเลยนี่นา มีแต่สีขาว" ฉันยิ้มแล้วหลับตาลงแล้วครุ่นคิดถึงที่มาของดวงตาสีขาวบริสุทธิ์ของฉันทำไมกันนะมันถึงเป็นสีขาว

 "เคเคียวแปลกนะที่มีดวงตาสีแบบนี้" สมายด์จังเอ่ยขึ้นแล้วก้มมองฉัน

 "มนุษย์ธรรมดาคงไม่มีดวงตาแบบนี้หรอก" พี่เซนอนเอ่ยขึ้นทำให้ทุกคนหันขวับไปมองกันเป็นตาเดียว แล้วทุกคนก็ขมวดคิ้วมองฉัน

 "เคเคียวเคยถูกล้างความทรงจำหรือเปล่า" โอเซียจังเอ่ยขึ้น อยากทราบว่ามากันจากทางไหนค่ะเมื่อกี๊ยังอยู่ที่หน้าปราสาทเลย

 "ฮึ!!!!!" พี่เซนอนสบถ ทำเอาพวกเราทั้งหมดหันไปมองพี่เซนอนเป็นบ้าอะไรหรือเปล่าเนี่ยทำไมพี่เขาถึงมองฉันด้วยสายตาแบบนั้นสยองสุดๆ

 "เซนอน โอเซีย สมายด์ ฉันจะไม่อ้อมค้อมแล้วนะ" เรเทลที่เงียบจู่ๆก็โพล่งขึ้นมาแล้วกวาดตามองทุกคน และเชิดหน้าขึ้นมองทั้งสามอีกครั้ง

 "หืม" พี่เซนอนตอบด้วยเสียงสบายๆ ฉันรู้สึกงงกับกิริยาของทุกคน

 "พวกเราทั้งหมดขอตัวเคเคียวคืน" เรเทลพูดชัดถ้อยชัดคำแล้วตวัดหางตาไปมองโอเซียจังจนฉันกลัวว่าโอซียจังจะตายเพราะสายตาของเรเทลก็เป็นด้ายยยย

 "ไม่เด็ดขาด!!!!!/ไม่ยอมค่ะ" เสียงโอเซียจังและสมายด์เอ่ยพร้อมกัน

 "ทำไมล่ะรู้ตัวไหมว่าพรากคนเขามาจากบ้านเกิดน่ะมันบาปนะ" เรเทลยกคำขึ้นมาขู่แล้วตวัดดวงตามองทั้งสองอยางขวางๆ

 "พวกเราไม่เคยเกรงกลัวบาป" เสียงของเซนอนทำให้เรเทลชะงักแล้วตวัดตาไปมองอีกครั้ง อ่ะ เออเรเทลฉันกลัวดวงตาเธอจะหลุดออกมาอ่ะ

 "เซนอน" เรเทลหันไปแล้วพูดออกมาอย่างอ่อนแรงแต่ก็ยังทำตาแข็งมองใส่ทำไมเรเทลถึงมีดวงตาที่สุดแสนจะสยองแบบนี้นะ

 "ในเมื่อมีความรักก็จงรักษารักไว้" พี่เซนอนเอ่ยแล้วเดินไปหาเรเทล

 "เซนอน พูดอะไร" เรเทลเอ่ยถามแล้วลดสายตาลง

 "ความรักน่ะ แค่วินาทีเดียวมันก็เกิด มันเลือกไม่ได้หรอกที่จะรัก" พี่เซนอนประคองหน้าเรเทลขึ้นมา และทุกคนก็พูดคำแก้ตัวต่างๆนาๆเพื่อจะหลบไปอยู่ที่อื่นรวมถึงฉันด้วย

 "ป่ะเราไปกันเถอะ" ว่าแต่โอเซียจังและสมายด์จังก็ใช้วิชาหายตัวพาเราทั้งหมดมายังสวนดอกไม้ที่หนึ่ง

 "เรเทลมาทีไรพี่เซนอนต้องเปลี่ยนไปทุกที" สมายด์จังพูดแบบเอือมๆ แล้วส่ายหน้าจนผมสีครีมของเธอกระจาย ทำให้ผมดูฟูๆแต่ก็น่ารักดี

 "เรเทล ยัยผีซาซิกิวาราชินั่นน่ะหรอ คู่หมั้นพี่เซนอน" โอเซียจังทำหน้าสยองแล้วลูบแขนของตัวเองฉันจึงตีแขนของโอเซียดังเพี๊ยะแล้วมองค้อน

 "ใช่เลยคนนี้แหละ แต่คิดถึงไม่เลยนะว่าจะเป็นเพื่อนกับเคเคียวจังน่ะ" สมายด์หันมามองหน้าฉันแล้วยิ้มให้ ทำไมเธอสวยอย่างงี้

 "เคเคียวจะกลับไปโลกมนุษย์ไหม" พี่ออนไลน์ถามฉันฉันจึงหันไปมองแล้วจ้องพี่ออนไลน์ด้วยแววตาที่อ่นไม่ออก ไอ้อยากกลับก็อยากนะแต่ก็อยากอยู่ต่อเหมือนกัน

 "เคียว" ฉันพูดได้แค่นั้นความรู้สึกสับสนก็เข้ามาในสมอง

 "ความรักมันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ" พี่ริกะเอ่ยขึ้นแล้วหันมาสบตาฉันทำไมหรอหรือว่าฉันมีความรักโอ้ไม่จริงใช่ไหมทำไมถึงเป็นแบบนี้

 "พี่ริกะ" ฉันสบตาสีแดงเพลิงของเธอ

 "ถ้ารักก็อยู่ต่อสิ" พี่ริกะยิ้มให้ฉัน แต่รอยยิ้มนั่นมันดูสยดสยองแบบที่ใครไมมองก็ยังต้องหลบหน้ากันทุกคนคนอะไรจะน่ากลัวปานนั้น

 "เคียวงงเคียวไม่เข้าใจ" ฉันเอ่ยขึ้นแล้วกวาดมองทุกคนอย่างขอความเห็น

 "เคเคียวเธอบอกฉันหน่อยสิว่าเธอรักฉันหรือเปล่า" โอเซียจังเอ่ยถามแล้วสบตาฉันนิ่ง ดวงตาสีอเมทิสต์ที่ทำเอาฉันหวั่นไหวตลอดเวลาที่ผ่านมา

 "เออคือ" ฉันอึกอักเพราะพูดไม่ออก เขาเรียกว่ารักหรือไปเปล่ากับไอ้การที่ไม่อยากแยกจากกันเนี่ย

 "ฉันให้เวลาเคเคียวนะ" เสียงของโอเซียจังทำให้ฉันตื่นจากภวังค์ความคิด

 "ความรักมันเป็นยังไงหรอ" ฉันเงยหน้าถามในสิ่งที่ฉันต้องการรู้คำตอบมากที่สุด

 "เคเคียว" โอเซียจังมองหน้าฉัน และลูบหัวของฉันอย่างอ่อนโยน

 "ความรักคืออะไร" น้ำตาฉันรินไหลลงมาอีกครั้ง ชีวิตของฉันเคยมีไหมคำว่ารัก

 "โธ่ๆๆ อย่าร้องไห้สิจ๊ะสาวน้อย" พี่ฟ้าเดินมาปลอบฉัน แล้วโอบกอดฉัน ความรู้สึกอบอุ่นแผ่เข้ามาในหัวใจของฉัน

 "ความรักมันเกิดขึ้นมาได้ยังไง" ฉันเอ่ยถามพี่ฟ้าทั้งน้ำตา เด็กที่ไม่มีพ่อแม่อย่างฉันจะเข้าใจไหมคำว่ารัก รักแท้ รักแบบไม่มีข้อแม้ น้ำตาฉันร่วงลงไม่รู้จักกี่ครั้งกี่หน

 "มันอยู่ที่ใจ ไม่มีใครบังคับมันได้หรอกคำว่ารัก" พี่ฟ้าเอ่ยปลอบแล้วลูบหัวฉัน

 "เคเคียว ฉันจะทำให้เธอรู้จักความรักเอง" โอเซียจังเดินมาจับไหล่ฉัน

 "โอเซียจัง" ฉันเอ่ยชื่อของโอเซียจังออกมา พี่ฟ้าจึงปล่อยตัวฉันและยิ้มให้กับฉัน

 "รักแท้อยู่ในใจ ถึงเขาจะเป็นแบบไหนเราก็รัก" พี่ฟ้าบอกฉันแล้วส่งตัวฉันคืนให้กับโอเซียจัง

 "ฉันรักเธอนะเคเคียว แล้วฉันจะทำให้เธอหันมารักฉันให้ได้" โอเซียจังโอบกอดฉันอย่างอ่อนโยน แล้วเสียงทุกคนก็แว่วเข้ามาในหู

 "วันนี้หิมะจะตกหรือเปล่านะ"  →พี่ยูกิ

 "บางทีบนหุบเขาก็น่าจะดีกว่า" →พี่ไมตะ พี่คามะ พี่ทะจิ

 "หว้า น้องเคเคียวของฉัน" →พี่ชิเมะ

 "เลี่ยน" →พี่ริกะ

 "ให้มันได้อย่างงี้สิค่ะ" →พี่ฟ้า

 "ออนงง" →พี่ออนไลน์

 "เราเป็น ก.ข.ค. หรือเปล่า" →พี่นากาเสะ

 "มีถังไหม" →พี่เซเลน

 "มดจะขึ้นไหมเนี่ย" →พี่คุชิโกะ

 "อุต๊ะ!!!" →พี่เรมิ

 "อยากมีแฟน ><" →พี่น้ำ

 "คิดถึงเจ้านาย" →พี่แฟรงก์

 "ควรอยู่ต่อไหม" →พี่เรน

 "เราไปกันเถอะปล่อยให้เขาสวีทกัน" →สมายด์จัง

 สิ้นเสียงของสมายด์จังทุกคนก็หายวับไปทันที สร้างความงุนงงให้ฉันมากๆ ฉันค่อยๆยกมือปาดน้ำตาแล้วเงยหน้ามองโอเซียจัง

 "รู้สึกว่าพวกนั้นมุกจะฝืดนะ" โอเซียจังเอ่ยยิ้มๆแล้วหันมายิ้มให้กับฉันอย่างอ่อนโยน

 "งงอ่ะ" ฉันเอียงคอมองโอเซียจังอย่างสงสัยแต่ก็เรียกเสียงฮาจากโอเซียจังได้เป็นอย่างดีเออคือหน้าฉันมันมีอะไรติดอยู่หรอถึงได้หัวเราะซะขนาดนั้น

 "5555555" อยู่โอเซียจังก็หัวเราะ

 "5555555555555555555555555555" เอาด้วยคนสิ เห็นว่ากวนตีนดีเฮอะๆ

 "เคเคียว" อยู่ๆโอเซียจังก็หยุดหัวเราะแล้วก้มหน้ามองฉัน

 "จ๊ะว่าไง โอเซียจัง" ฉันยิ้มตอบไป

 "ฉันรักเคเคียวนะ" โอเซียจังลูบหัวฉันอีกครั้ง

 "เคเคียว ไม่รู้ว่า รักโอเซียจังหรือเปล่า" ฉันก้มหน้าลงไม่กล้าสบตาโอเซียจัง

 "ไม่เป็นไรเคเคียวสักวันฉันจะทำให้เธอหันมารักฉันให้ได้" โอเซียยิ้มให้ฉันแล้วก็ค่อยคลายอ้อมกอดออกและหันมาจูงมือฉันแทน

 "โอเซียจังจะพาฉันไปไหนหรอ" ฉันเอียงคอมองโอเซียจังที่พาฉันเดินไปตามทางที่มีแต่ดอกไม้หน้าตาประหลาดๆ

 "สวยไหม" โอเซียจังหยุดเดินทำให้ฉันหยุดตามไปด้วยแล้วฉันก็เงยหน้าขึ้นมองดอกไม้สีอเมทิสต์ มันดูสวยมากราวกับเพรช

 "สวยสิ สวยมากๆเลย" ฉันมองดอกไม้นั้นด้วยแววตาชื่นชม

 "เคเคียว เจ้ารู้หรือเปล่าว่าที่ตรงนี้ทำไมดอกไม้ถึงขึ้นที่เดียว" ฉันส่ายหัวแทนคำตอบ

 "ที่ตรงนี้เป็นหลุมฝังแม่ข้าเอง" โอเซียจังเอ่ยขึ้น

 "หลุมฝังศพหรอ" ฉันทวนคำเบาๆ

 "ใช่ แม่ของฉันมีดวงตาสีอเมทิสต์เหมือนฉันไง" โอเซียจังก้มลงมองดอกไม้นั้น

 "แล้วดอกไม้นี่มันเกิดขึ้นมาได้ยังไงหรอ" ฉันก้มลงมองดอกไม้นั้นอย่างพิจารณา

 "ไม่รู้สิตั้งแต่เอาศพของแม่มาฝังไว้มันก็ออกน่ะ" โอเซียจังนั่งลง ฉันจึงนั่งลงตาม

 "สวยดีนะอาจจะเป็นดอกไม้ที่แม่ของโอเซียจังสร้างขึ้นก็ได้" ฉันพูดยิ้มๆแล้วมองดอกไม้สีอเมทิสต์นั่น

 "ทาลิบฟิน  ทีพีส ดราเวลล่า" ฉันอ่านตัวอักษรอังกฤษที่สลักติดตรงแผ่นป้ายนั้น

 "แม่ข้าชื่อเวลล่าน่ะ" โอเซียจังลูบแผ่นป้ายนั่นอย่างเบามือ

 "เคเคียว" เสียงใครบางคนเรียกฉัน

 "เคเคียว" และอีกครั้ง เสียงมันช่างคุ้นหูเหลือเกิน

 "แม่เจ้า" ฉันพยายามเพ่งสมาธิเพื่อฟังเสียงแต่มันเบาจนน่าใจหาย

 "เคเคียวเป็นอะไรหรือเปล่า" เสียงของโอเซียจังทำให้สะดุ้ง

 "ห๊ะ หา จ๊ะ" ฉันตอบแล้วกวาดตามองรอบๆ

 "เป็นอะไรหรือเปล่า" โอเซียจังเอามือมาทาบหน้าผากของฉัน

 "ฉันได้ยินเสียง ใครบางคนเรียกชื่อ และบอกว่า แม่เจ้า ได้ยินแค่นี้เสียงเบามากๆเลยโอเซียจัง" ฉันก้มลงมองดอกไม้สีอเมทิสต์

 "เคเคียว" ฉันลุกยืนขึ้นแล้วมองหาที่มาของเสียง

 "ก้มลงนั่งลง" เสียงดังขึ้นอีกทำให้ฉันรู้สึกสับสนมากๆๆๆๆ

 "เคียวข้าว่าไปทานข้าวกันเถอะป่านนี้พวกนั้นคงรอแย่แล้ว" เสียงโอเซียจังทำให้ฉันหลุดออกจากภวังค์ความคิดแล้วหันมองหน้าโอเซีย

 "จ๊ะ" ฉันหันมามองหลุมฝังศพของแม่โอเซียจังอีกครั้งคุ้นเคยจัง

 "ป่ะ" โอเซียจังจับมือฉันแล้วจากนั้นทุกอย่างก็มืดสนิท

 "อ้าวมาแล้วหรอ" พอพวกเราโผล่มาที่ห้องอาหารสมายด์ก็ทักเราทั้งสองด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อะไรกันน่ะทำไมต้องมองฉันด้วยสายตาแบบนั้นด้วย

 "เคเคียว" เรเทลกระโดดกอดฉันทันทีทำเอาฉันเกือบล้มลงกับพื้นเลย

 "เรเทล" ฉันกอดเธอตอบ

 "เป็นห่วงนะแล้วไปไหนกันมาหรอ หายกันไปทั้งโขยงพอกลับมา เคเคียวก็ยังไม่กลับ" เรเทลเอ่ยถามฉันแล้วมองไปยังโอเซียจัง

 "โดนทิ้งจ๊ะ" ฉันมองค่อนทุกคนอย่างหมั้นไส้ทำหันไปมองโอเซียจังที่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ เป็นอะไรของเขานะไม่เข้าใจเลยจริงๆ

 "555ใครทิ้งหรอ" พี่ฟ้าเอ่ยขึ้นแล้วขำอยากจะบอกเหลือเกิ๊นว่าพี่เสแสร้งได้ใจหนูมากๆ555+

 "พวกพี่น่ะแหละ" ฉันแลบลิ้นให้

 "แล้วรู้จักความรักหรือยัง อิอิ" พี่ออนไลน์แซว แล้วตามด้วยเสียงหัวเราะของทุกคนฉันก็อายเป็นนะย่ะทำงี้ก็เขินแย่สิทำตัวไม่ถูกเลยจริงๆ

 "พอเลยๆๆ หิวข้าวแล้วทำกับข้าวกันไหมทุกคน" ฉันเอ่ยชวนเพื่อเปลี่ยนเรื่องมีหวังคุยกันนานๆหน้าฉันจะกลายเป็นลูกมะเขือเทศพอดี

 "ไม่ต้องทำหรอกจะเคเคียวจัง" สมายด์จังยิ้มแปร่ออกมาพร้อมกับอะไรสักอย่างบนมือ

 "หืม นี่ยังไม่เลิกกินอีกหรอๆไอ้อาหารสุนัขรสนมเนี่ย" โอเซียมองสิ่งที่อยู่ในมือของสมายด์จังแล้วเอ่ยแซว

 "คราวหน้าเอายาถ่ายไปผสมด้วยนะยัยสมายด์จะได้ขยาด" พี่เซนอนเอ่ยหลังจากที่เงียบมานาน

 "ไม่แน่ๆค่ะ พอดีจมูกมายด์พิสูจน์กลิ่นได้ค่ะอิอิ" สมายด์จังทำหน้าภาคภูมิใจที่สุด

 "อ้อหรอ" โอเซียจังพูดแล้วทุกคนก็ยิ้มขำกับครอบครัวนี้

 "สรุปว่าเราจะทานข้าวกันได้ยัง" พี่ริกะเอ่ยถาม

 "ได้แล้วค่ะ" เสียงใสๆของใครสักคนดังมาจากในห้องที่คาดว่าเป็นห้องครัว และพวกเขาก็นำอาหารออกมาซึ่งก็เป็นเมนูเนื้อๆทั้งนั้น

 "ว้าว" พี่ชิเมะเอ่ยแล้วมองตามไป

 "พอเลย เห็นเนื้อเป็นไม่ได้ไอ้จิ้งจอกตะกละเอ๊ย" เรเทลเอ่ยด่าแบบไม่จริงจังนัก

 "ทานข้าวกันเถอะทุกคน" สมายด์จังเอ่ยชวนแล้วพวกเราก็ไปทานอาหาร

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา