รักกูหน่อยนะครับ กูไม่อยากร้าย 1

-

เขียนโดย Jido

วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 01.22 น.

  10 chapter
  0 วิจารณ์
  13.08K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 01.28 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

9)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“ ไอ้มิ้นเร็วๆ ผัวมึงโทรมาสองสายแล้วเนี่ย ”

ผมที่เพิ่งกลับมาจากซื้อน้ำกับไอ้เรนวางขวดน้ำลงบนโต๊ะอย่างงงๆ แล้วหยิบโทรศัพท์ของผมจากไอ้ตีมที่ยื่นมาให้

“ ทำไมไม่รับให้กู ”

“ ไม่อ่ะ เรื่องผัวเมียไม่อยากยุ่ง ”

“ ไอ้ควาย! ”

ผมด่าไอ้ตีมแล้วกดรับสายก่อนที่สายจะตัดไปอีกรอบเพราะเดี๋ยวจะทำให้คนที่โทรมาอารมณ์เสียแล้วมาอาระวาดผม

 “ ฮัลโหล ”

[กูโทรไปกี่สายทำไมเพิ่งมารับ มึงมัวทำเหี้ยไรอยู่!]

“ ไปซื้อน้ำมาเอาโทรศัพท์ไว้โต๊ะ ”

ผมบอกไปตามความจริงโกหกไปก็เท่านั้นเดี๋ยวโมโหผมกว่าเดิมกูก็เจ็บตัวอีก

[เออ! แล้วไป ... แล้วกินข้าวยัง]

“ กำลังกินเนี่ย แล้วเพิ่งเลิกเหรอ ” ผมตอบและถามคำถามกลับไปพลางตักข้าวเข้าปาก

[อืม เพิ่งสอบก่อนเรียนเสร็จกำลังจะไปกินข้าวเนี่ย]

“ รีบกินล่ะเดี๋ยวเป็นกระเพาะ ” ประโยคนี้ผมพูดเบาๆ ไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะได้ยินมั้ย

กูอายเพื่อนกูอ่ะ >///<

[ห่วงอ่ะดิ]

“ หลงตัวเองว่ะ แค่นี้แหละจะกินข้าว ” ผมรีบพูดเสียงดังกลบเกลื่อนและตัดบทด้วยการขอวางสาย

[แล้วห่วงป่ะล่ะ] โว๊ะ! ไอ้นี่นี้ กูอายสัสกูอาย

“ อืม ”

[ไม่เข้าใจอืมคืออะไร หึๆ] แกล้งกูได้แกล้งกูไปเด็กหื่น ฮึ่ย!

“ ไม่ ... ห่วง! ”

[หึๆ ได้ยินอย่างนี้เริ่มหายปวดสะโพกซะแล้วดิ]

“ แค่นี้นะ! ” ผมกระแทกเสียงตอบแล้วกดวางสาย ไอ้บ้า! ไอ้หื่น!

“ หน้าแดงว่ะไอ้มิ้น ”

“ จริงดิ! ”

“ เออ ”

ผมเอามือลูบแก้มตัวเองเพราะไอ้เด็กหื่นนั้นแท้ๆ ที่ทำให้ผมนึกไปถึงเรื่องอย่างว่า >< ผมตบหน้าตัวเองสองสามทีก่อนจะลงมือกินข้าวต่อพลางเม้ามอยกับพวกเพื่อน

“ มิ้น ”

“ มีอะไร ”

ผมถามหลังจากที่นั่งกินนั่งเม้าไปได้สักพักแล้วใครสักคนก็เดินเข้ามาหาผม ใครสักคนที่ผมจำชื่อไม่ได้จำได้แค่ว่ามันจีบผมอยู่

“ ฉันให้นาย ”

ดอกกุหลาบช่อใหญ่ถูกยื่นมาตรงหน้าผมนั้นเรียกสายตาสนใจของผู้คนรอบข้างให้มองมาเป็นอย่างดี

“ ขอโทษนะ ... แต่กูไม่ใช่ผู้หญิงที่จะต้องมาทำอะไรแบบนี้ให้ ”

“ ฉันก็แค่อยากอยากให้นายรับไว้ ”

“ แต่กูมีแฟนแล้ว ”

เห็นอย่างนี้กูก็ซื่อสัตย์กับแฟนนะครับ แล้วคบใครคบทีละคนนะครัชถึงจะยังไม่ได้รักก็เหอะ

“ ตั้งแต่เมื่อไร ”

“ ตั้งแต่เปิดเทอมแล้วครับคนเขารู้เรื่องเพื่อนกูกันทั้งคณะมึงไปมุดอยู่รูไหนครับ ”

ไอ้แพรปากหมาจอมเสือกพูดแทรก แต่ก็สมควรที่มันจะไม่รู้เพราะไอ้คนนี้มันไม่ได้เรียนคณะผม

“ ช่างเถอะ! แต่ยังไงฉันก็อยากให้นายรับไว้ ”

“ ทำไมกูต้องรับ ”

“ ก็ไม่ทำไมแค่ขอให้นายรับมันแค่นั้นไม่ได้เหรอ? แล้วหลังจากนั้นนายจะเอาไปทิ้งหรือทำอะไรกับมันฉันก็ไม่ว่าแต่ช่วยรับมันเถอะนะ ”

ผมมองหน้ามันสลับกับดอกไม้อย่างชั่งใจและพาลนึกถึงหน้าของใครอีกคนที่คงไม่สบอารมณ์เท่าไรถ้ารู้เรื่องนี้ เอาไงว่ะกู

“ ถ้านายไม่รับฉันก็จะตื้อจนกว่านายจะรับมัน ” ก็เหี้ยดิถ้าเป็นแบบนั้น

“ เออๆ ไปได้แล้วกูจะกินข้าว ”

ผมยื่นมือไปรับดอกกุหลาบจากมันก่อนจะโบกมือไล่

“ ขอบคุณนะที่รับมัน ”

มึงไม่ต้องมายิ้มกว้างได้ข่าวว่ามึงกดดันกู ไอ้สัส!

แล้วมันก็เดินออกไปจากโรงอาหารเพราะที่นั่งผมอยู่ใกล้ประตูกลาง

“ เฮ้ย! ไอ้เรย์! ”

เสียงเรียกชื่อรีเรย์ทำให้ผมหันไปมองด้านหลังและเห็นว่ารีเรย์กำลังวิ่งตรงไปยังไอ้คนที่ให้ดอกไม้ผมเมื่อกี้โดยมีเพื่อนๆ ของรีเรย์วิ่งตาม ชิบหาย! ผมลุกออกจากโต๊ะเพื่อวิ่งไปดักหน้าเด็กมันแบบไม่ต้องคิดเพราะหน้าตาร่างสูงตอนนี้แทบฆ่าคนได้

“ น้องเรย์อย่า! ”

ผมรีบคว้ามือทั้งสองข้างของรีเรย์ไว้หลังจากแทรกตัวมายืนตรงหน้ารีเรย์และมีเพื่อนของเด็กมันช่วยจับไหล่ทั้งสองข้างไว้ ... เกือบไปแล้ว

เกือบแล้วจริงๆ ดีที่ผมคว้ามือไว้ทันไม่งั้นรีเรย์ได้คว้าไหล่ไอ้คนนั้นให้มันหันมารับหมัดหนักๆ จากร่างแกร่งแล้วแน่ๆ และตอนนี้ไอ้คนนั้นก็หันมาทำหน้าหน้างุนงงใส่พวกผมก่อนที่ผมจะเปิดปากไล่อีกรอบ

“ รีบไปดิไม่มีไรหรอก ”

ไอ้คนนั้นพยักหน้าก่อนจะเดินขึ้นรถตัวเองแล้วขับออกไป ผมจึงหันมามองร่างสูงที่ยังคงมองตามรถคันนั้นอย่างไม่ละสายตา

สองมือที่กำแน่นและร่างกายที่สั่นทิ่มทำให้ผมรู้ว่ารีเรย์โกรธมากแค่ไหนแถมยังไม่มองหน้าผมสักนิด

“ ปล่อย! ”

เสียงนิ่งและแรงสะบัดตัวทำให้พวกผมปล่อยรีเรย์ทันที ร่างสูงเหลือบตามองผมนิดหน่อยแล้วหันหน้าไปพูดกับเพื่อน

“ กูไม่เข้าตอนบ่าย ”

จากนั้นก็คว้าเอากระเป๋าตัวเองจากน้องบีนแล้วเดินตรงไปที่รถ ผมมองตามหลังคนตัวสูงก่อนจะตัดสินใจหันไปบอกเพื่อนว่าผมไม่เข้าเรียนตอนบ่ายและรีบวิ่งผ่านหน้ารีเรย์ไปขึ้นรถทันทีที่เด็กมันปลดล็อกรถ

เว้ยยยย! อะไรว่ะเนี่ยทำตัวนิ่งแบบนี้กูรับมือไม่ถูก -_-!

เด็กมันมองหน้าผมนิดหน่อยหลังจากขึ้นรถก่อนจะออกตัวอย่างแรงจนหน้าผมแทบคะมำไปกับคอนโซนรถดีที่ผมคาดเข็มขัดนิรภัยแล้ว

บอกตรงๆ ไม่ชินว่ะที่เด็กมันเป็นแบบนี้ปกติมันต้องโวยวายอาระวาดแต่นี้กลับเงียบไม่ปริปากอะไรสักคำเอาแต่เหยียบมันอย่างเดียว เหยียบจนมิดไมล์แล้วเนี่ย

“ เรย์จะไปไหน ” ผมถามเสียงสั่น

“ เงียบซะ! ” ยกมือปิดปากตัวเองอย่างไว้เลยสิครับ

RrrRrr  RrrRrr  RrrRrr

“ เรย์โทรศัพท์ ”

“ เว้ยยยยยยยยย! ”

ผมสะดุ้งโหยงเมื่ออยู่ดีๆ เด็กมันก็ตะโกนออกมาก่อนจะดึงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงจากนั้นก็กดรับและกดเปิดลำโพง

“ เออ! ”

[เรย์มึงใจเย็นๆ นะเว้ยเรื่องนี้ไอ้มิ้นไม่ผิดมันบอกไอ้หมอนั่นแล้วว่ามีแฟนอยู่แต่ไอ้หมอนั่นมันไม่ฟังเอง มึงอย่าทำร้ายไอ้มิ้นมันนะเว้ย]

“ พล่ามจบยัง? เพราะมึงเป็นพี่กูหรอกนะกูถึงรับสายมาฟังมึงพล่ามเนี่ย ”

[ไอ้เรย์มึงใจเย็นหน่อยได้มั้ย]

“ แล้วตอนนี้กูไม่เย็นตรงไหน ห๊ะ! ” เสียงตะคอกของรีเรย์ทำให้ผมสะดุ้งอีกครั้ง

[แล้วมึงตะคอกใส่กูทำหอกอะไรไอ้น้องเวร! ไม่รู้ล่ะถ้าเพื่อนกูมีรอยฟกช้ำกูจะฟ้องพ่อกับแม่]

“ กูไม่เหี้ยขนาดฆ่าเมียตัวเองหรอกไอ้สัส! ”

รีเรย์ตะโกนใส่โทรศัพท์อย่างเดือดดาลจนผมต้องกุมมือตัวเองไว้แน่นด้วยความกลัวแต่ผมควรดีใจใช่ป่ะที่เด็กมันจะไม่ฆ่าผม(?)

[กูขอคุยกับไอ้มิ้นหน่อย]

ผมรับโทรศัพท์จากเด็กมันและกำลังจะกดปิดลำโพงแต่เด็กมันก็คว้ามือผมไว้แล้วส่งสายตาประมาณว่า ‘มึงปิดลำโพงมึงตายแน่ TT’

“ วะ ว่าไงไอ้เรน ”

[มึงไม่เป็นไรใช่ป่ะ? น้องกูไม่ทำร้ายมึงใช่ป่ะ?]

“ มะ ไม่ ” ตอนนี้ไม่แต่หลังจากนี้กูไม่รู้

[เออๆ งั้นกูก็ค่อยหายห่วงหน่อยส่วนกระเป๋ามึงเดี๋ยวกูเอากลับไปให้แต่ดอกไม้มึงจะให้กูทำยังไง]

“ ทิ้ง! … ทิ้งไปเลย ”

ผมรีบบอกคนปลายสายและเหมือนร่างสูงข้างๆ จะพอใจเพราะผมได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของรีเรย์

[เออๆ ... ]

ติ๊ด!  

ไอ้เรนพูดยังไม่จบรีเรย์ก็ชิ่งกดตัดสายทิ้งและกดปิดเครื่องก่อนจะโยนโทรศัพท์ไปที่เบาะหลัง

“ แล้วไม่ต้องพูดอะไรออกมา กูไม่อยากโมโหมึงไปมากกว่านี้ ”

ผมกอดอกทำหน้ายู่อย่างขัดใจเมื่อโดนคนข้างๆ พูดดักคอผมไว้ ชิๆ กูไม่ถามก็ได้

# Reray Talks #

ผมนั่งพิงหน้ารถเพราะกระโปรงรถมันร้อน(?) มองทะเลยามค่ำคืนภายใต้ความมืดมิดคนเดียวเพราะตรงนี้ห่างไกลจากผู้คนและเงียบสงบ โดยที่มือนึงถือกระป๋องเบียร์ซึ่งเป็นกระป๋องที่เท่าไรไม่รู้ ส่วนอีกมือก็ถือบุหรี่มวนที่เท่าไรก็ไม่รู้อีกเหมือนกันขึ้นมาดูดแล้วพ่นควันสีขาวคลุ้งออกมาเพื่อระงับอารมณ์ของตัวเอง แม้ว่าผมจะขับรถมาถึงหัวหินก็ไม่ได้ทำให้ผมใจเย็นลงสักนิดเพราะมีตัวต้นเหตุนั่งรถมากับผมด้วยและตอนนี้ตัวต้นเหตุกำลังนอนหลับสบายอยู่ในรถเพราะผมพาขับรถอ้อมไปอ้อมมาจนค่ำมืด

ปึง! ปัง!

เสียงเปิดปิดประตูไม่ได้ทำให้ผมละสายตาจากทะเลยามค่ำคืนเพราะรู้ว่าใครกำลังเดินมาหาผม ผมโยนบุหรี่ที่หมดมวนทิ้งก่อนจะหยิบมวนใหม่และเป็นมวนสุดท้ายในกล่องขึ้นมาจุดสูบอีก

“ เราอยู่ไหนอ่ะ ”

เสียงถามที่มาพร้อมกับแรงเบียดข้างๆ ไม่ได้เรียกความสนใจผมได้สักนิดแต่ผมกลับเลือกยกเบียร์ขึ้นดื่มแทน

“ มึงอย่าเงียบแบบนี้ดิเรย์ ”

“ อยากให้กูอาระวาดใส่มึงหรือไง ”

ผมถามแล้วยกบุหรี่ขึ้นดูดจนสุดลมหายใจก่อนจะโยนบุหรี่ทิ้งแล้วพ่นควันเป็นวงกลม ร่างเล็กคว้ามือข้างที่ผมเพิ่งทิ้งบุหรี่ไปกุมไว้และผมก็ไม่ได้สะบัดออกแต่ก็ไม่กุมมือเล็กตอบกลับเหมือนกัน

“ มึงจะไม่ถามกูหน่อยหรอว่าเรื่องมันเป็นยังไง ”

“ ไม่ล่ะ ... เดี๋ยวก็หาว่ากูหึงไร้สาระอีก ”

“ เรย์ ”

“ อืม ”

“ กูบอกมันแล้วว่ากูมีแฟนแล้วแต่มันกดดันให้กูรับดอกไม้จากมันไม่งั้นมันก็จะตื้อกูอยู่อย่างนั้น กูรำคาญกูก็เลยรับไว้เพื่อตัดปัญหาเพราะกูก็ตั้งใจไว้อยู่แล้วว่าจะเอาทิ้ง ”

“ อืม ”

“ มึงอย่าเมินกูสิเรย์ ”

“ กูเมินมึงไม่ได้หรอกก็กูรักมึงจะตายห่า ... หึๆ เป็นกูคนเดียวที่รักมึงแทบบ้าแค่เห็นใครเข้าใกล้มึงกูก็อยากจะเข้าไปกระทืบพวกแม่งให้ตายคาตีนแล้ว แต่มึง ... มึงก็ไม่เคยคิดจะเปิดใจรับกูเต็มร้อยจนบางครั้งกูก็กลัวว่ามึงคงพูดหลอกกูให้ดีใจเล่นที่ว่ามึงจะเปิดใจให้กู ”

“ ... ”

“ ทั้งที่กูโมโหมึงจนบ้า ... แต่เพราะมึงบอกกูว่าไม่ชอบให้กูทำร้ายมึงเหมือนวันนั้นกูเลยต้องพยายามระงับอารมณ์ตัวเองจนต้องขับรถหนีออกมา ”

“ ถึงกูจะยังไม่ได้รักมึงแต่ตอนนี้กูก็มีแค่มึง ”

พี่มิ้นที่ย้ายตัวเองขึ้นมานั่งคร่อมตักผมจับใบหน้าผมไว้และพูดออกมาก่อนจะจูบเข้าที่ปลายคางของผม เหอะ! แค่นี้กูก็หายโกรธพี่มันแหละนี่พูดจริงเลยครับ

“ แต่ถ้ามึงเจอคนที่มึงชอบมึงก็จะไม่ได้มีแค่กู ”

ผมยังคงพูดประชดพี่มันแต่สองมือนี้เลื่อนไปกอดเอวบางรั้งให้คนตัวเล็กเข้ามาใกล้กว่าเดิมจนแม้แต่มดก็ยังผ่านไม่ได้อ่ะ

“ ชิๆ พอหายโกรธก็ประชดกู ”

พี่มิ้นพูดติดตลกพลางยกมือขึ้นโอบรอบคอผม

“ แล้วมันจริงมั้ยล่ะพอมึงเจอคนที่มึงชอบมึงก็จะนอกใจกู ”

“ มึงก็ทำให้กูรักมึงดิถ้าไม่อยากให้นอกใจอ่ะ ไม่เห็นจะยากเลย ”

 “ มึงก็อย่าเล่นตัวมากนักดิ ”

“ ทำไม? ขี้เกียจจีบแล้วไง๊? ”

“ เปล่าสักหน่อย โด่วว -3- ”

“ กูก็จะเล่นตัวแบบนี้ไปเรื่อยๆ แหละมึงทนได้ป่ะล่ะ ”

“ เล่นตัวไปเหอะมึง กูรอให้มึงรักกูตอบไม่ไหวกูฉุดมึงแน่ ”

“ รอไม่ไหวก็ไสหัวไปไกลๆ ไม่ต้องเสือกมาฉุดกูไปด้วย ”

พี่มิ้นพูดจบก็ทำปากยื่น ผมเลยแกล้งเลื่อนหน้าไปจุ๊บปากพี่มันแรงๆ สองที หึๆ กูอารมณ์ดีสิบเท่าเลยว่ะ

“ มึงแม่งชอบหื่นใส่กู ”

“ ก็หื่นกับเมียคนเดียว ”

“ ตลอดๆ ”

“ ไหนๆ ก็หื่นแล้วขอเอาหน่อยมึงนั่งทับมันจนน้องกูตื่นเนี่ย ”

“ ไอ้เหี้ย! ไอ้หื่น! ”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา