The last Blood.สายเลือด นิทรา [BL , Yaoi]

9.0

เขียนโดย เฟรล่าฟลอเร

วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 18.47 น.

  24 ตอน
  0 วิจารณ์
  22.02K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557 19.00 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

16)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เมอยาสก้าก้าวออกมาจากฝั่งผู้โดยสารขาออก พลางกวาดสายตาไปรอบๆ พวกลูกน้องตามได้แค่ว่าฮิโรมิเดินทางมาลงที่นี่ แต่ในประเทศที่แสนจะกว้างใหญ่แห่งนี้ เด็กผู้หญิงคนนั้นจะอยู่ที่ไหนกัน

 

     เธอกลอกตาเบาๆ ‘งานนี้ไม่ง่ายแน่ๆ’

 

     เธอกระทำกิริยานั้นโดยไม่สังเกตเลยว่านัยน์ตาสีเลือดคู่หนึ่งจ้องมองอยู่ ทริสทรี่ที่มีตั๋วเครื่องบินสำหรับกลับบ้านด้วยความอนุเคราะห์ของฮิโรมิ ซึ่งตอนนี้ลากพี่ชายออกไปพร้อมใช้กำลังเล็กน้อยในการทำให้เขาสลบ เพื่อให้ชุดคุ้มกันที่สองหิ้วเขาไป ชุดคุ้มกันจะเคร่งครัดในเจ้านายในการดูแลเป็นสำคัญ คำสั่งของเธอจึงมีอำนาจมากกว่าฮิโรชิผู้เป็นพี่ชาย

 

     วาเลนเซียไม่เข้าใจว่าทำไมตนถึงถูกดึงให้หลบด้วยอาการร้อนรนถึงเพียงนี้ แต่เมื่อมองตามสายตาเขาไป เธอเห็นเด็กสาวหน้าตาคุ้นๆ คนหนึ่ง พอลองนึกดูก็พบว่าอีกฝ่ายคือคนในรูปที่ฮิโรมิบังคับให้เธอดูคราวก่อน เธอคิดว่าเด็กหญิงคิดมากไปเองเสียอีก ดูท่าว่าเมอยาสก้าคงตั้งใจไล่ตามเธอจริงๆ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น วาเลนเซียก็ใจแข็งพอจะตัดบทสั้นๆ ว่ามันไม่เกี่ยวกับเธอเหมือนเดิม

 

     “เด็กผู้หญิงคนนั้น คนที่ตามหาฮิโรมิอยู่”

 

     วาเลนเซียขมวดคิ้ว “นายท่านรู้จักด้วยหรือ”

 

     ทริสทรี่พยักหน้ารับ พลางแอบมองอากัปกิริยายุ่งยากของเด็กสาวต่อไปจากมุมอับสายตา ณ หลังเสาต้นใหญ่

 

     วาเลนเซียเหลือบมองตามอีกเล็กน้อย ทีแรกเธอก็นึกฉงนอยู่ว่าเจ้านายจะหลบหน้าเด็กสาวคนนั้นทำไม เธอเป็นแวมไพร์เหมือนกับเขา ถึงจะสู้กันจริงๆ ก็ใช่ว่าจะเพลี่ยงพล้ำเพราะทางนี้ก็มีกำลังคนมากกว่า แต่เมื่อคิดดูอีกที เจ้าหล่อนตามหาฮิโรมิอยู่ ดูมีทีท่าไม่น่าไว้ใจเสียด้วย การไม่ออกไปเสี่ยงสู้คือความคิดที่ถูกต้องแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเธอมีกับดักอะไรวางไว้แล้วใช้มันบังคับให้พาไปยังที่อยู่ของฮิโรมิ เรื่องคงไม่สวยแน่ๆ

 

     เธอกอดอก “ไม่รู้ว่าฮิโรมิไปก่อกวนอะไรแวมไพร์นักหนา ถึงคนที่ชื่อเมอยาสก้านั่นตามล่าขนาดนี้ แต่หวังว่านางคงไม่หาเรื่องเดือดร้อนมาให้เราหรอกนะ”

 

     ทริสทรี่ตรึกตรองคำพูดนั้นอยู่ในใจ เขารู้แต่ว่าเมอยาสก้าหน้าตาอย่างไรเพราะรูปถ่ายกับข้อมูลจากเดวิดว่าเธอกำลังตามหาฮิโรมิอยู่ คนที่วาเลนเซียรู้จัก เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ในร้อยเขาก็รู้จักเช่นกัน เพราะคนที่เคยพบนางตอนเป็นมนุษย์น่าจะสิ้นชีวิตกันไปหมดแล้ว ส่วนคนอื่นในหลายร้อยปีถัดมาก็เป็นกลุ่มคนที่เขามักจะพบพร้อมๆ กับนาง ซึ่งรับใช้อยู่ข้างกายเกือบตลอดเวลา

 

     ไม่ผิดแน่ เมอยาสก้าไม่ได้มาตามพวกเขา เธอกำลังตามฮิโรมิอยู่ แต่ด้วยเหตุผลอันใดกันเล่า

 

     “เจ้ารู้ไหมว่านางมีจุดประสงค์อะไร”

 

     ทั้งสองพลิกตัวหลบไปอีกด้านของเสาเมื่อเมอยาสก้าเดินผ่าน

 

     วาเลนเซียสั่นศีรษะ “ข้าไม่แน่ใจ แต่ดูเหมือนนางจะพยายามตามหาตัวฮิโรมิถึงขั้นใช้พลังสะกดจิตคนรู้จักในการสะกดรอย ที่สำคัญ ฮิโรมิเคยใช้คนคุ้มกันของตนไปดักรอแล้ว แต่พวกนั้นทำพลาด”

 

     หากตลอดการเดินทาง ทริสทรี่ตัวชิดติดอยู่กับฮิโรชิ เธอเองก็ติดชิดติดกับฮิโรมิเหมือนกัน แต่ยังไม่มีเสียงตอบรับใดๆ จากทีมคุ้มกัน

 

     “เพราะพวกเขาติดต่อไม่ได้หรือเปล่า” ทริสทรี่สบตาผู้ดูแลตื่นๆ “ฮิโรชิเคยเล่าว่าการอยู่บนเครื่องบินก็เหมือนการเหมือนไม่มีกุญแจกรงพิราบสื่อสาร ต่อให้มีอยู่ในมือก็ติดต่อใครไม่ได้”

 

     วาเลนเซียบังเกิดความกังวลขึ้นมาในฉับพลัน “ไม่...ไม่แน่นะ พวกเขาอาจติดต่อกันแล้วก็ได้ นางถึงเดินทางตามมาได้ไวถึงเพียงนี้ไงล่ะ!”

 

     นั่นย่อมเป็นคำโกหกร้อยเปอร์เซ็นต์

 

     “ไม่ใช่! สหายของฮิโรชิเป็นคนบอกที่อยู่ของนาง” ทริสทรี่นึกถึงข้อมูลในบทสนาของเดวิด “ไปกันเถอะ”

 

     วาเลนเซียเสียงสูง “ที่ใดกันหรือ!”

 

     “ฮิโรมิ” เขาเอ่ยชื่อนั้น “ไปหานาง ต้องบอกเรื่องเมอยาสก้าให้นางรู้”

 

    

 

     “พวกนายเข้าใจใช่ไหมว่าฉันไม่มีเวลามาก” เมอยาสก้ามองเวลาที่ชื่อเลขบ่ายสามกว่า “อืม ไม่สิ ฉันกำลังจะมีเวลาเหลือเฟือสำหรับการดำรงชีวิต แต่นั่นหมายความว่าเหยื่อของฉันอาจเผ่นออกนอกเมืองไปแล้ว กริ๊งๆ คำถาม ผู้โดยสารเด็กผู้หญิงที่ชื่อฮิโรมิกับวาเลนเซีย คนสวมชุดคลุมปกปิดร่างกายคนนั้นอยู่ที่ไหน”

 

     เจ้าหน้าที่ที่โดนสะกดจิตสั่นศีรษะ ถึงจะเป็นเจ้าหน้าที่กราวด์ แต่ใช่ว่าเขาจะทราบไปหมดว่าอะไรที่อยู่ที่ไหน หรือใครทำอะไร โดยเฉพาะ รายชื่อของผู้โดยสาร วันวันหนึ่งมีคนเข้าออกนับพันรายเห็นจะได้ คนที่สวมชุดคลุมปกปิดร่างกายก็ไม่ได้มีวาเลนเซีย และคนเหล่านั้นอาจจะเดินทางกับเด็กผู้หญิงที่ไม่ใช่ฮิโรมิ

 

     เมอยาสก้าจ้องเขาเขม็ง “งั้นนายไม่คิดจะทำอะไรสักอย่างเลยเหรอยะ!”

 

     เจ้าหน้าที่กราวด์คนดังกล่าวจึงเริ่มเข้าใจจุดประสงค์เจ้านาย เขาเดินไปติดต่อแผนกประชาสัมพันธ์เพื่อประกาศตามหาตัวฮิโรมิ แต่ผ่านไปนานหลายนาที ยังไม่มีวี่แววของใครปรากฏตัวขึ้นมาเลย นั่นเพราะตอนนี้ตัวเด็กหญิงเองกำลังเดินชิมช็อปอยู่ในห้างสรรพสินค้ายอดฮิตประจำเมืองหลวง ส่วนตัววาเลนเซียก็ไม่คิดจะโผล่หน้าออกไปจากจุดแอบมองด้วยความเข้าใจว่าไม่ใช่เรื่องของตน

 

     วาเลนเซียที่กำลังแอบมองอยู่พึมพำขึ้นเบาๆ “นางใช้วิชาสะกดจิตเสียด้วย แถมยังใช้ข้าเป็นจุดเด่นอีก”

 

     วาเลนเซียถอดชุดคลุมออกเรียบร้อย เมอยาสก้าคงคาดไม่ถึงว่าตอนนี้ลักษณะบุคคลที่เธอกำลังตามหาได้เปลี่ยนไปแล้ว และคนที่อยู่ข้างกายวาเลนเซียในปัจจุบันก็ไม่ใช่เด็กผู้หญิงอายุประมาณแปดปีอย่างในประกาศอีกต่อไป

 

     “ทำไมนางถึงรู้จักเจ้า”

 

     วาเลนเซียชะงัก “ท่านหมายความว่าอย่างไรหรือ?”

 

     วินาทีต่อมา หญิงสาวมีสีหน้าอึ้งขึ้นมาทันใด

 

     ตั้งแต่คฤหาสน์มาจนถึงสนามบินแห่งนี้ พวกเธอทั้งสองมีภารกิจเดียวคือการไล่ตามฮิโรชิ ไม่ได้แวะไปก่อกวนแวมไพร์ตนใดเข้าแน่ๆ แล้วทำไมเมอยาสก้าถึงสามารถเจาะจงได้ว่าคนที่อยู่กับฮิโรมิชื่ออะไร รู้รูปพรรณสัณฐานของเธอ ทั้งที่กับลี่อินหรือเดวิดเองก็ไม่ได้แจ้งชื่อให้ทราบ ในเมื่อเธอมองมนุษย์ไร้ค่าออกขนาดนั้น

 

     ในตำนานหมู่บ้านแสดงนามของทั้งคู่ไว้อย่างชัดเจน ถ้าไม่ใช่ว่าเมอยาสก้าเคยได้ยินตำนาน เธอก็ต้องไปคาดคั้นเอาจากใครสักคนที่รู้เรื่องระหว่างแกะรอยฮิโรมิ

 

     วาเลนเซียสั่นศีรษะปฏิเสธโดยเร็ว “ข้าไม่รู้จักนาง”

 

     แต่เธอก็รู้ว่าฮิโรมิไม่รู้จักเช่นกัน

 

     “หรือบางที นางอาจมีเหตุผลเดียวกับเจ้า ตามหาฮิโรมิเพราะต้องการพบฮิโรชิ เขาเคยนำรูปนางมาให้ข้าดู อาจเพราะเข้าใจว่าแวมไพร์เหมือนกันอาจรู้จักกันก็ได้” ทริสทรี่เคร่งเครียด “เจ้าว่า...”

 

     “ไม่!” วาเลนเซียปฏิเสธเสียงแข็ง “นายท่าน ด้วยความชั่วร้ายของเจ้าโจรนั่น ข้าไม่อาจปล่อยให้นายท่านพบกับเขาได้อีกต่อไป”

 

     ร่างงามเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตานัยน์ตาเลือด

 

     “เจ้าพูดเองว่าคนคุ้มกันของฮิโรมิทำอะไรนางไม่ได้ ถ้าเราไม่บอกให้พวกเขาเตรียมรับมือ พวกเขาอาจจะตายก็ได้”

 

     วาเลนเซียจับแขนเขาไว้ด้วยสีหน้าจริงจัง “เรากินชีวิตมนุษย์มานับร้อยนับพันครั้ง ฆ่าคนไปมากเกินกว่าจะจดจำได้ ชีวิตของคนเพียงคนเดียวไม่จำเป็นต้องเข้าไปยุ่ง!”

 

     “ข้าปล่อยเขาไปไม่ได้” ทริสทรี่แกะมือของเธอออก “ข้าเคยปล่อยให้เขาตายมาแล้วครั้งหนึ่ง อย่างน้อย...ในชาติใหม่ ข้าอยากช่วยเขาไว้ได้สักครั้ง”

 

     วาเลนเซียมองตามแผ่นหลังที่วิ่งห่างจากตนไปด้วยอาการช็อกอย่างรุนแรง

 

     เธอไม่เข้าใจ คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจมาตลอด คอยแต่จะหาเหตุผลที่ทริสทรี่ยอมเดินทางไปกับมนุษย์คนหนึ่ง ทั้งความคิดที่ว่าเขาถูกบังคับ หรือต้องการจะหนีจากการถูกกักอยู่ในคฤหาสน์เพื่อความปลอดภัย แต่ทั้งหมดนั่นถูกปัดตกไปทั้งหมดด้วยคำพูดนั้นเพียงคำพูดเดียว

 

     ‘อายาซาชิ!’

 

     แรงแค้นความกริ้วโกรธแล่นไปสายสายเลือดเสมือนได้รับแรงขับเคลื่อนอันมหาศาล

 

     แม้แต่ร้อยปีถัดมา มันผู้นั้นยังต้องการพรากนายท่านอันเป็นที่รักไปจากเธอ!

 

    

 

     “คุณครับ! ส่วนนี้เข้าไม่ได้...”

 

     คำพูดปฏิเสธทั้งมวลถูกบัตรผ่านสีโลหิตสะกดให้ยุติลง เมอยาสก้าเดินตามเจ้าหน้าที่ที่เธอสะกดจิตมาตั้งแต่มายังห้องสังเกตการณ์ ภายในนี้มีหน้าจอที่เชื่อมกับกล้องวงจรปิดที่ฉายภาพบริเวณโดยรอบของสนามบิน ทั้งส่วนขาเข้าขาออก บริเวณสำหรับผู้โดยสารที่นั่งรอเครื่อง หรือรอบนอก

 

     เจ้าหน้าที่ทุกท่านบัดนี้ยืนทำความเคารพเมอยาสก้าเสมือนผู้บัญชาการ เธอออกคำสั่งให้พวกเขาตามรอยฮิโรมิที่น่าจะเดินทางมาถึงตั้งแต่เมื่อหลายชั่วโมงก่อน เพื่อแกะรอยวาเลนเซียที่ร่วมเดินทางมาด้วยกัน

 

     “พบแล้วครับ!”

 

     เมอยาสก้าก้าวเท้าเร็วๆ ไปยังหน้าจอของเจ้าหน้าที่ที่ร้องขึ้นเมื่อครู่ เธอมองดูเด็กหญิงในภาพด้วยความพึงพอใจ แต่สิ่งที่ทำให้พึงพอใจยิ่งกว่าคือร่างหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างกัน “ใช่! นั่นแหละ ดูซิว่าผู้หญิงสองคนนี้ไปทางไหน”

 

     จอภาพเริ่มเคลื่อนฉายอีกครั้ง เมอยาสก้ามองภาพเหตุการณ์ทั้งตอนที่ฮิโรชิถูกวาเลนเซียจัดการ และเรื่องที่เขาถูกนำตัวออกไปทั้งที่ยังสลบ แต่วาเลนเซียยังคงอยู่ในสนามบินเพื่อรอเครื่องสำหรับบินกลับประเทศ

 

     “นั่นเอง คนที่เธอตามหาอยู่” เด็กสาวกัดปากแรงๆ ด้วยความไม่พอใจ “คนที่ทำให้เธอลงมือฆ่าคนเกือบค่อนหมู่บ้านเพื่อหาร่องรอย!”

 

     เมอยาสก้ามองภาพของตัวเองที่ไม่ทันสังเกตหลังเสาอย่างเจ็บใจ ก่อนจะพบว่าเหตุการณ์เมื่อหลายนาทีก่อนคือการที่พวกเขาทั้งคู่กำลังรีบร้อนวิ่งออกจากสนามบิน ดูเหมือนต้นเหตุของการวิ่งออกไปคงเป็นเธอไม่ผิดแน่ เพราะเมื่อครู่ ทั้งสองจับตามองเธอมาตลอด

 

     เธอนึกถึงชุดคุ้มกันที่เตรียมต้อนรับ นั่นไม่ใช่ความบังเอิญจริงๆ คนพวกนั้นถูกส่งมาเพื่อต้อนรับเธอโดยเฉพาะ เด็กสาวนึกขันทันทีที่คิดได้ว่าทั้งคู่คงตั้งใจจะเตือนพี่น้องฮิโรเรื่องการมาเยือนของเธอ

 

     “ลบหลักฐานเรื่องฉัน อย่าให้ใครจับได้ เข้าใจใช่ไหม”

 

     เมอยาสก้าเดินออกมาโดยมีเสียงตอบรับคำสั่งดังอยู่เบื้องหลัง สีหน้าของเธอเปี่ยมด้วยความยินดีเมื่อรู้ว่าภารกิจค้นหานี้กำลังจะยุติลง ก้าวย่างของเธอมั่นคง ขณะเสียงท่อนส้นสูงกระทบพื้นดังหนักๆ ในความรู้สึกของผู้คนที่ผ่านเธอไปคนแล้วคนเล่า

 

     “รอฉันก่อนนะ...วาเลนเซีย!”

 

    

 

To be continue.

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา