Before I die ขอเเค่นายอยู่เคียงข้างผม

9.3

เขียนโดย เต่า

วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 22.49 น.

  3 ตอน
  2 วิจารณ์
  4,968 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 มกราคม พ.ศ. 2558 22.50 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) ตัวเเปลกๆที่ปรากฏบนดาดฟ้าของโรงเรียน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

ผมไม่เข้าใจว่าทำไมสิ่งที่ผมชอบทำมักโดนสั่งห้ามเสมอ

 

...ผมชอบเตะบอล ผมก็โดนห้าม
ผมชอบอ่านการ์ตูน ผมก็โดนห้าม
ผมชอบวาดรูป ผมก็โดนห้าม
ผมชอบเเต่งนิยาย ผมก็โดนห้าม...

 

ก็นะ สำหรับบางคนเเล้วมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร คิดว่าเลิกก็เลิก เเต่คนเเบบผมที่ทำมันจนกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เเล้วมันคือการฆ่าผมทั้งเป็น ผมเป็นคนที่ไม่มีอะไร เเต่ทั้งหมดที่กล่าวถึงมานั้นเป็นสิ่งที่คอยทำให้ชีวิตของผมนั้นกลายเป็นสิ่งที่ "พิเศษ" หากผมไม่มีมันผมก็เป็นได้เเค่ก้อนกรวดเท่านั้น

 

เรื่องมีอยู่ว่าปีนี้ผลการเรียนของผมตกลง ส่วนตัวเเล้วผมไม่ใช่คนที่เรียนเก่ง เเต่เกรดก็ไม่ได้ถึงกับเเย่เสียทีเดียว เเต่ทว่าลูกพี่ลูกน้องของผมเขาสอบเข้าโรงเรียนสาธิตที่มีชื่อเสียงได้เเถมอยู่ห้องคิง
พ่อกับเเม่ผมจึงได้เรื่องที่ใช้สำหรับตอกย้ำผมได้พอดิบพอดี

 

"พวกที่เก่งกีฬาเเต่สมองฝ่อก็เป็นได้เเค่พวกใช้เเรงงานนั่นเเหละ"

 

"อยากเป็นหรอนักเขียนไส้เเห้งน่ะ เสียเวลาอ่านหนังสือซะเปล่า"

 

"เปิดประตูออกมาทีไรเห็นเเต่อ่านการ์ตูน อ่านหนังสือเรียนให้เป็นเเบบนีได้มั้ยห้ะ"

 

"เเกน่ะ ช่วงนี้พยายามหน่อยได้มั้ย วาดรูปน่ะเอาไว้เเกเข้ามหาลัยเเล้วเเกอยากทำอะไรก็ทำ"

 

พ่อกับเเม่มักพูดกับผมเเบบนี้เสมอ ไม่เคยรับฟังความเห็นของลูกตัวเอง ทำไมต้องรอเวลาถึงตอนที่เข้ามหาลัยด้วย? ผมอดคิดว่าตอนนั้นผมอาจจะไม่ได้ชอบมันเเล้วไม่ได้

 

ผมทำมันพร้อมกันไม่ได้หรอ สิ่งที่พ่อเเม่คาดหวังเเละสิ่งที่ผมอยากทำน่ะ

 

..ถึงตอนนั้นผมจะเขียนนิยายได้มั้ย วาดรูปยังได้อยู่หรือเปล่า เตะบอลได้มั้ย ความห่างของระยะเวลาจากปีนี้จนถึงมหาวิทยาลัยนี่มันยาวนานเหลือเกิน..

 

เเต่ไม่เป็นไร ผมจะไม่รอจนถึงตอนนั้นหรอก
ผมตัดสินใจเเล้วว่าผมจะไม่ทำมันอีกเเล้ว
เมื่อวานผมได้บอกเพื่อนผมว่าผมจะไม่มาเพราะไปต่างจังหวัด ดังนั้นคงไม่เป็นปัญหาอะไรถ้าพวกเขาจะไม่เห็นผมในเวลาเรียน

 

 

 

ผมจะได้มีเวลาเขียนจดหมายนี่

 

 

 

พ่อ เเม่ ผมรักพ่อกับเเม่นะ ขอโทษด้วยที่ทำให้เสียใจเเละทุกข์ใจตลอด

 

เเจน อย่าก้มหน้าเล่นโทรศัพท์บ่อยมากเเละดูเเลคุณพ่อคุณเเม่ด้วยนะ พี่ขอโทษที่เป็นพี่ที่เเย่มากมาตลอด อย่าทำให้ท่านลำบากใจล่ะ อย่าเอาอย่างพี่เเย่ๆคนนี้เด็ดขาด

 

เอ็ม ขอโทษที่เคยโดดซ้อมเเละคอยเป็นตัวถ่วงให้ทีมของนายนะ ขอบคุณสำหรับโอวันตินที่เเกเลี้ยงฉันเมื่อตอนนั้น จนถึงตอนนี้ฉันจ่ายคืนนายเเล้วอยู่ในเก๊ะ ทำความสะอาดโต๊ะบ้าง

 

พี ขอบคุณที่ติวฉันเเละให้ฉันลอกการบ้านมาตลอด ฉันคงซ้ำชั้นไปเเล้วถ้าไม่มีนาย

 

ถึงทุกๆคนที่ผมไม่ได้เอ่ยถึง ขอบคุณมากที่เป็นกำลังใจให้ผมมาตลอด ขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง ผมขอบคุณทุกคนมากจากใจจริง ขอโทษมากๆครับ ไว้พบกันใหม่ถ้ามีโอกาส


.
.
.
.

ผมพับจดหมายของผมใส่ไว้ในกระเป๋า มองตึกทั้งหลายที่ตั้งอยู่บนพื้นดินผ่านทางดาดฟ้าบนตึกประถม ผู้คนเเละรถหลากหลายคันที่วิ่งไปมาตอกย้ำว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะยังคงดำเนินต่อไปเเม้จะไม่มีผมอยู่บนโลกนี้เเล้ว

 

จับขอบราวบนดาดฟ้าให้มั่น ก่อนจะยกขาข้ามราวไป เท้าเหยียบกับขอบปูน

 

 

 

เบื้องล่างคือถนน ทางเท้าเเละตัวอาคารที่รออยู่ ความสูงขนาดนี้คงสูงพอที่จะทำให้ศพไม่สวยหรืออาจให้ตายก่อนที่จะรู้สึกว่าตัวกระเเทกพื้นเสียอีก 

 

 


 ความเจ็บเเละทรมาณก่อนที่จะตายมันก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่เเล้วไม่ใช่หรอสำหรับที่จะตายน่ะ ได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้เเล้ว เเค่ปล่อยมือตอนนี้ก็มีเเค่ตายกับตายเเน่นอน เเต่เเค่ปล่อยมือเท่านั้นผลลัพธ์มันต่างกันจังเเฮะ...

 

 

 

เอาล่ะ จะปล่อยล่ะนะ 1 2... ไม่ ไม่ดีกว่า เเบบนี้ก็เท่ากับว่าลังเลที่จะตายสิ มันต้องปล่อยเเบบให้รู้เเล้วรู้รอดไปเลย อุตส่าห์เขียนจดหมายเเล้วทั้งทีก็ต้องทำให้มันสำเร็จสิ...

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ผมข้ามราวกลับมาเเละหยิบสมุดในกระเป๋าออกมาเเละนั่งอ่านมันฆ่าเวลา

 

 

 

 

มีบางเรื่องที่เเต่งจบ บางเรื่องที่ยังเเต่งไม่จบ ส่วนใหญ่เรื่องที่เเต่งจบจะเป็น one shot เสียส่วนใหญ่ หลากหลายเเนวคละกันไปเเล้วเเต่อยากเขียนเเนวไหน นานๆทีจะได้เเต่งมันต่อสักครั้งจึงทำให้สำนวนการเขียนเเข็งทื่อ สมุดวาดรูปใช้วาดเเฟนอาร์ตจากการ์ตูนเรื่องที่ชอบหรือวาดตัวละครในนิยายที่เเต่ง ฝีมือวาดรูปอยู่ในระดับกากมากเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ ต่างจากรูปตัวจริงพวกเขาที่นึกไว้ในหัวมากนั้น เเต่ถึงอย่างนั้น

 

 

มีเเต่ผมเท่านั้นที่รู้จักพวกเขา ชาติหน้าผมจะจำพวกเขาได้มั้ย

 

เเล้วถ้าผมเกิดตายไปเเล้วพวกเขาล่ะ

 

พวกเขาจะถูกลืมไปตลอดกาล

 

ใช่เเล้วผมควรจะมีชีวิตอยู่ต่ออีกหน่อย ผมยังตายไม่ได้จนกว่าจะมีใครที่ได้จดจำพวกเขาเเละรู้จักพวกเขาก่อนที่ผมจะตาย

 

 

 

 

...บนดาดฟ้าตึกประถมที่ไม่มีใครเข้าเเละเป็นวันที่ขาดเรียน ผมหยิบดินสอเเละเริ่มเขียนบทต่อไป...

 

 

 

 

 

ที่เมืองอันไกลโพ้นเป็นเมืองอาณาจักรสุนัข พวกเขาอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขจนกระทั่งวันหนึ่งพวกลูกสุนัขบางตัวได้หายไปจากหมู่บ้านเเม้จะมีการจัดเวรยามเฝ้ากลางดึกเเล้วก็ตาม ไม่มีใครรู้ว่าเพราะเหตุใด พระราชาได้รู้สึกกังวลมาก ในขณะนั้นเองหมาในชุดมีอัศวินก็ได้พูดกับพระราชาว่า

"ข้าจะตามหาพวกสุนัขที่หายไปกลับมาให้ท่านเอง..."

อัศวินตัวนั้นชื่อว่าอัศวินโจ
.
.
.
.


เอาล่ะที่จริงเเล้วมันไม่ใช่สุนัขเเต่เป็นตุ๊กตาสุนัขขนสีน้ำตาลที่หายสาบสูญต่างหาก ตอนเด็กๆผมเคยคิดพล็อตให้มันเล่นๆ เเน่นอนว่าในตอนนั้นผมคิดอะไรไม่ออกประกอบกับโดนบังคบให้เล่นตุ๊กตากับน้องสาวเลยให้มันเป็นอัศวินซึ่งเเน่นอนว่าผมไม่ได้คิดจริงจังอะไร สุดท้ายผมทำให้น้องผมร้องไห้เพราะให้มันโดนจระเข้งาบไปตอนจบ เเต่พอผมโตขึ้นผมกลับอยากใช้มันเป็นตัวเอกในนิยายผม โดยผมต้องปรับเนื้อเรื่องใหม่ทั้งหมด เเละเเน่นอนว่าผมอยากเปลี่ยนตอนจบด้วยเเต่ไม่รู้จะทำอย่างไร

 

 

พล็อตอัศวินผู้เก่งกาจปราบมารอธรรมพาเด็กๆที่หายไปกลับคืนสู่อ้อมกอดครอบครัวเเละจบอย่างเเฮปปี้อินดิ้ง? มันธรรมดาเกินไป ควรจะเรียกว่าเป็นนิทานก่อนนอนมากกว่านิยาย

 

 

เอาไงล่ะ สุดท้ายมันกับจระเข้ก็กลายมาเป็นเพื่อนกันเเละอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข? โลกถูกยึดครอง? กำเนิดตูบเชอร์ล็อกกับไอ้เข้วัตสัน?

 

 

ผมทิ้งตัวลงนอนกับพื้น หวังให้พล็อตเจ๋งๆได้ผุดขึ้นมาบ้างเเต่หัวกลับโล่งเเละว่างเปล่า ความสิ้นหวังจากอาการเขียนไม่ออกเริ่มไซโคผมจนหลับ
.
.
.
.
.

 

 

ได้ยินเสียงใครคนหนึ่งพูดออกมา

 

"..ทำอะไรอยู่น่ะ?..."

 

 

ผ่านไปนานเท่าไรก็ไม่รู้ เเต่พอรู้ตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงที่ทำให้ผมาสว่างขึ้นทันใด ผมรีบลุกขึ้นมาเเละเช็ดน้ำลายที่ริมฝีปาก ซวยชิบ! โดนครูจับได้ว่าไม่ยอมเข้าเรียนเเละมานอนอยู่ตรงนี้ เรื่องถึงพ่อเเม่ชีวิตหมดสิ้น!

 

 

เเต่เมื่อผมตั้งสติได้ผมก็ระลึกขึ้นได้ว่าเสียงไม่ใช่เสียงของครู เเต่เป็นเสียงของเด็กผู้ชายคนหนึ่ง

 

 

เมื่อผมตั้งสติได้ก็สังเกตเห็นว่ามีร่างๆหนึ่งที่กำลังนั่งขัดสมาธิเเละจ้องมาที่ผม เป็นเด็กผู้ชายผิวสีขาวยุโรป ผมสีน้ำตาลอ่อน ตาสีฟ้า ดูเเล้วน่าจะมาจากเมืองนอก ที่น่าเเปลกคือหมอนี่ใส่เสื้อเกราะสีทองเเละนผ้าพันคอสีเเดงอีกทั้งมีดาบสะพายไว้ข้างเอว

 

 

 

มองเพินๆเเล้วก็คงจะเป็นเด็กที่ชอบเเต่งคอสเพลย์

 

 

เเต่ไอ้หูสีน้ำตาลที่เหมือนกับหูหมาที่กระดิกอยู่กับหางสีน้ำตาลที่ส่ายไปมองที่ข้างหลังนี่มัน....?

 

"หน้าฉันมีอะไรติดอยู่หรอ?"


หมอนี่เลิกคิ้ว ตาสีฟ้าของเขาเบิกกว้าง มือขวาของเขายกขึ้นมาเกาเเก้ม ขณะที่ผมกำลังอึ้งขณะมองหน้าเขาตั้งเเต่หัวจรดเท้ารวมถึงสิ่งที่น่าจะเป็นหูกับหางที่กำลังขยับไปมา เหมือน....เหมือนกับปฎิกิริยาที่ใครๆเป็นเมื่อไม่เเน่ใจว่าทำอะไรผิดไป

 

ผมรีบถอยเขยิบออกมา กระพริบตาหรือขยี้ตาไปสักเท่าไรเเต่ก็ยังเห็นเหมือนเดิม อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลย เเม้เเต่ไอ้หูกับหางเเปลกๆมันก็ไม่ยอมหายไปด้วย

 

 

 

 

 

 

 

 


....นี่มันตัวอะไร?

 

 

 

 

 

-----------

 

สวัสดีขอรับ ข้าน้อยมีนามว่าเต่า พึ่งจะมาสมัครสมาชิก พึ่งจะหัดเเต่งนิยายเเละยังเป็นมือใหม่อยู่น้อมรับคำติชมขอรับ 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา