YOU CAN TRUST ME ไว้ใจฉันได้

-

เขียนโดย MO_MAY

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 เวลา 13.47 น.

  2 ตอน
  4 วิจารณ์
  4,367 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 14.16 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) โบย่า

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     แอ๊ดดดดดด…เมื่อประตูห้องของฉันเปิดออก ก็เผยให้เห็นกับคนที่น่าตกใจ

     “ไทเป” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

     “ทานข้าวเช้ายัง…ไปทานข้าวด้วยกันไหม” ไทเปเอ่ยถามฉันที่ยืนนิ่งเงียบ

     “ฉันไม่ค่อยหิวเท่าไหร่…เชิญนายเลย” ฉันตอบไปแบบไร้เยื่อใย และกำลังจะปิดประตู แต่ไทเป กลับมาจับข้อมือฉัน

     “เดี๋ยวสิคริส…ฉันอยากคุยกับเธอนะ เธอคือคนที่ฉันคิดถึงตลอดเวลาที่ฉันไม่ได้อยู่ที่ไทยนะคริส” ไทเปพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง

     “ขอโทษนะ…นายไม่ใช่คนที่ฉันรู้จักอีกต่อไป ตั้งแต่วันนั้น ฉันทำใจไม่ได้สักวินาทีเดียวที่จะต้องยืนหายใจร่วมกับนาย ปล่อยมือฉันเถอะ” แล้วฉันก็สลัดมือออกทันที แต่ไม่ทันที่ฉันจะปิดประตู ไทเปดึงตัวฉันเข้าไปกอดรัดอย่างแนบแน่น ฉันพยายามจะดันออก แต่ก็ไม่เป็นผล

     “นี่…ไทเป  ปล่อยฉันนะ ฉันบอกให้ปล่อยไง  ปล่อย!!!” ไม่ทันที่ฉันจะได้ทำอะไรอีก ร่างของไทเปก็กระเด็นออกไปอีกทาง  ส่วนฉันกลับไปอยู่ในอ้อมกอดของใครอีกคน เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก ฉันได้แต่มึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วก็เงยหน้ามองผู้มาใหม่ที่กำลังโอบเอวฉันอยู่

     “คริส…หมอนี่ใคร?” ไทเปถาม ไม่ทันที่ฉันจะเอ่ยปาก

     “ผม…ออร์กัส เป็นที่รักของคริสตัล ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะครับ คุณไทเป” เอ๊ะเด็กนี่รู้จักไทเปได้ยังไง เท่าที่จำได้ ฉันไม่เคยเล่าหรือพูดถึงเลยนะ ออร์กัส  นายเป็นใครกัน

     “จริงหรอคริส…ทำไมเธอมีแฟนฉันถึงไม่รู้มาก่อน” ด้วยความที่ฉันอยากตัดปัญหานี้

     “ใช่…ออร์กัสเป็นแฟนฉัน” ฉันตอบไปแบบนั้น ไทเปทำหน้าเศร้า จะเศร้าทำไม นายเป็นคนทิ้งฉันไม่ใช่หรอไทเป ก็สมควรแล้วนี่

     “ที่รักไม่เป็นไรใช่ไหม…เดี๋ยวคืนนี้กัสจะจูบปลอบทั้งคืนเลยนะครับ” ออร์กัสพูดแบบยิ้มๆพร้อมกับโน้มหน้าลงมาจูบที่หน้าผากฉันโดยที่ฉันไม่ทันตั้งตัว  แต่ฉันก็ไม่ได้โวยวายออกไปกลัวความจะแตกต่อหน้าไทเป

     “เข้าห้องกันเถอะ” ฉันพูดกับกัสเบาๆ ไทเปยังคงยืนมองฉันและออร์กัสอยู่ตรงนั้น

     “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว…ขอตัวนะครับ” แล้วออร์กัสก็โอบไหล่ฉันเดินเข้าไปในห้อง  พอประตูห้องปิดลง ฉันก็ทำการชกท้องนายออร์กัสทันที

     “โอ้ยยยยยย…ป้า มาต่อยผมทำไม เจ็บนะเนี่ย ต่อยทีเผลอเกร็งหน้าท้องไม่ทันเลย”แล้วออร์กัสก็ยืนตัวงอ คงจะเจ็บจริงๆที่โดนฉันต่อย  

     “สมน้ำหน้า นายถือดียังไงถึงมา มา…” ฉันยังพูดไม่จบ

     “ที่ผมจูบหน้าผากป้าเหรอ…ฮ่าๆๆๆ  ทำอย่างกับไม่เคย โธ่ๆๆ”

     “ก็ไม่คะ…ไม่ใช่ไม่เคย แต่ใครอนุญาตนายไม่ทราบ” ฉันมองค้อนกลับไป เกือบหลุดแล้วว่าไม่เคย

     “ผมอนุญาตตัวเอง…โอเคไหมป้าคริสคนสวย จุ๊บ”แล้วหมอนั่นก็ขโมยหอมแก้มฉันอีกแล้วค่ะ ไอเด็กบ้า ฉวยโอกาสจริงๆ

     “แล้วนายมานี่ได้ยังไง… นายเป็นใครกันแน่ นายเป็นโรคจิตใช่ไหม  แล้วนายรู้จักกับไทเปได้ยังไง นายตามสืบเรื่องฉันเหรอ?” ฉันถามไปด้วยความสงสัย

     “ป้า…ถามเยอะขนาดนี้ผมตอบไม่ถูกหรอกนะ” แล้วนายนั่นก็ยิ้มกวนๆส่งมาให้ฉัน

     “ตอบ ฉัน มา ทุก คำ ถาม เดี๋ยว นี้” ฉันเน้นเสียงทุกคำ อย่างจริงจัง

     “ป้าถามผมทั้งหมด ห้าคำถามใช่ไหม”ออร์กัสพูดพร้อมกับเดินผ่านหน้าฉันไปนั่งที่โซฟา

     “ใช่…”

     “เอางี้…ถ้าอยากได้คำตอบ มันก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน”ออร์กัสพูดพร้อมกับยิ้ม

     “ข้อแลกเปลี่ยนอะไร?” ฉันถามกลับไป

     “เอางี้ ผมมีพรจากป้าห้าข้อ ในแต่ละครั้งที่ผมขอพรจากป้า ป้าจะได้คำตอบของผมทีละข้อ…ตกลงตามนี้นะครับ”

     “ทำไมฉันต้องทำตามที่นายขอด้วย?” ฉันถามพร้อมกับมองหน้าออร์กัส ทำให้ออร์กัสลุกขึ้นจากโซฟาแล้วย่างสามขุมมาที่ฉัน ฉันก้าวเท้าถอยหลังแต่ก็ไม่ทัน ออร์กัสรวบตัวฉันเข้าหาตัวเขาหน้าของเราอยู่ใกล้กันไม่กี่เซน ใจฉันเต้นแรงมาก หน้าฉันก็ร้อนผ่าว ตาสบตา เพียงไม่นานริมฝีปากของออร์กัสก็ขยับ

     “เพราะผมคือ…ที่รักของป้าไง ฮ่าๆๆๆๆ” ได้ยินแบบนั้นสติที่หลุดลอยของฉันก็กลับมา แล้วฉันก็รวบรวมพลังอันน้อยนิดผลักออร์กัสออกจากตัว  ทำให้ฉันหลุดจากพันธนาการเมื่อครู่

     “ฝันไปเถอะย่ะ…นายไม่มีทางได้เป็นแฟนของฉันแน่ ต่อให้เหลือนายคนเดียวบนโลกใบนี้ฉันก็จะขออยู่คนเดียว”ฉันตะโกนออกไปสุดเสียง  ฉันสังเกตเห็นหน้าของนายออร์กัสเศร้าไปเพียงแว๊บเดียว ก็กลับมายิ้มแบบเดิมแล้วก็พูดบางอย่างออกมาทำให้ฉันต้องรีบวิ่งไปคว้ามือเขาไว้

     “ก็ดี…งั้นผมจะไปบอกนายไทเปว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน เชิญมันมาวุ่นวายกับป้าต่อแล้วกัน”

     “โอเค…ฉันยอมแล้ว อย่าทำแบบนั้นเลยนะ”ฉันมองหน้าเค้าอย่างอ้อนวอนสุดๆ

     “วันนี้เรามีนัดกันนะครับ ลืมไปรึยัง…ไม่ต้องทำหน้าเศร้านะป้าคริสของผม”แล้วออร์กัสก็ยกมืออีกข้างมาลูบผมฉันเบาๆ เหมือนเป็นการปลอบโยน

     “ไม่ไปได้ไหม…?” ฉันถามออกไปแบบนั้นเพราะรู้สึกไม่ค่อยดีที่วันนี้ได้เจอกับไทเป ฉันเห็นหน้าเขาแล้วเหมือนกับเห็นเหตุการณ์วันนั้น มันตามมาหลอกหลอนฉัน

     “ไม่ได้…ผมขอใช้พรข้อแรกเลยแล้วกัน ไปเดทกับผมวันนี้และเดี๋ยวนี้” ออร์กัสยื่นคำขาด ด้วยสีหน้าจริงจัง

     “โอเค…ก็ได้ๆ ขอเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าแปปนึง”แล้วฉันก็หมุนตัวไปในห้องนอน นายออร์กัสก็เดินไปนั่งรอที่โซฟาพรอ้มกับตะโกนไล่หลังมา

     “แต่งตัวสวยๆนะป้าอย่านานด้วยล่ะ…ไม่งั้นจะเข้าไปช่วยแต่ง ฮ่าๆๆ”ไอเด็กบ้านี่  อย่าให้ถึงทีฉันนะ  จะเอาให้เจ็บไปถึงทรวงเลย คอยดู  พอแต่งตัวเสร็จฉันก็เดินออกมาจากห้องนอน นายออร์กัสที่นั่งดูทีวีอยู่กันหันหน้ามามองฉันที่เพิ่งเดินออกมา ออร์กัสมองฉันนานและดูลึกซึ้งจนฉันต้องเดินไปใกล้ๆแล้วโบกมือไปมาตรงหน้าเขา จนเขาสะดุ้งแล้วพูดว่า

     “แต่งตัวแบบนี้…น่ารักกว่าปกติอีกนะป้า” แล้วหมอนั่นก็ยิ้มกวนๆให้ฉัน

     “ฉันน่ารักอยู่แล้ว…นายไม่สังเกตุเห็นเอง หุหุ” วันนี้ฉันเลือกใส่ชุดกระโปรงสายเดี่ยวสีชมพู เว้าที่บริเวณด้านหลังเล็กน้อย ตรงเอวเป็นสม็อค ทำให้ดูเข้ารูปยิ่งขึ้น  ทำผมลอนเล็กน้อยแล้วก็มัดไว้ครึ่งหัวให้คลอเคลียกับใบหน้า แต่งหน้าโทนสีหวานๆให้เข้ากับชุด

     “ผมหมายถึง…ป้าแอ๊บเด็กต่างหาก ฮ่าๆๆๆ  อย่างว่าควงหนุ่มน้อยแบบผมก็ต้องแอ๊บเด็กเป็นธรรมดา*-*”

     “นี่…จะไปป่ะตกลง  เดี๋ยวฉันเปลี่ยนใจเดินเข้าห้องนอนเลย” ฉันพูดพร้อมกับส่งค้อนวงใหญ่ไปที่ออร์กัส

     “โอ๋ๆๆ ไปครับที่รักของผม” แล้วหมอนั่นก็เดินมาจับมือฉันให้ก้าวตามเขาไป ตอนเดินไปที่ลิฟท์ ฉันก็รู้สึกเหมือนมีใครมองตามฉันกับออร์กัสอยู่ข้างหลัง เมื่อฉันหันหลังไปมองก็ไม่มีใคร  จึงเดินตามออร์กัสไปที่ลิฟท์

ณ ลานจอดรถของคอนโด

     “จะพาฉันไปไหน”ฉันถามไปด้วยความสงสัย

     “เดี๋ยวป้าก็รู้เองแหละ…อย่าดื้อ อย่าซน เชื่อฟังผมก็พอ โอเค๊?” แล้วออร์กัสก็พาฉันเดินมาหยุดที่ พอร์ชคันสีดำ เอ๊ะ หมอนี่มีรถราคาแพงขนาดนี้เลยหรอ เป็นไปได้ไง

     “นี่…รถนายหรอ?”

     “ขึ้นไปสิป้า…ถามแปลกๆ ถ้าไม่ใช่รถผมแล้วผมจะมีกุญแจรถได้ยังไง” ออร์กัสเปิดประตูรถแล้วดันฉันเข้าไปข้างในด้านข้างคนขับ แล้วก็เดินมาขึ้นรถด้านคนขับ

     “นายนี่…ความลับเยอะเนอะ”ฉันหันไปมองคนข้างๆ ออร์กัสหันมาโน้มตัวเข้าหาฉันอย่างรวดเร็วทำให้ฉันตกใจแล้วหลับตาปี๋ แต่ก็ไม่มีอะไรแบบที่ฉันกลัวเกิดขึ้น ฉันจึงลืมตาขึ้น ก็เห็นออร์กัสรัดเข็มขัดนิรภัยให้ฉันอยู่ ฉันจึงนั่งตัวแข็งไม่กล้าขยับเขยื้อน ได้แต่มองหน้านายออร์กัส มองนานๆแล้วก็รู้สึกว่าเด็กนี่หน้าเนียนใสกริ้ง จนผู้หญิงบางคนต้องอายเลยค่ะเหมือนเจ้าตัวจะรู้ว่าถูกฉันแอบมอง

     “แอบมองผมแบบนี้…ชอบผมแล้วใช่ไหมป้าคริสคนสวย ฮ่าๆๆ” ถามฉันอย่างยียวน

     “ชอบกับผีสิ…จะไปได้ยัง ลีลาจริงๆ” ฉันก็ดันหมอนั่นออกไป

     “ครับๆ…ไปแล้วครับ” แล้วออร์กัสก็ออกรถทันที ไม่นานก็มาถึงจุดหมาย

ณ ร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง 11.00 น

     ฉันมองดูร้านอาหารที่ออร์กัสพามา เป็นร้านอาหารอิตาเลี่ยน ด้านนอกตกแต่งอย่างมีสีสัน  แต่ดูเรียบหรู โซนด้านในที่นั่งเป็นระเบียงทางยาวรูปวงกลม  มีลานน้ำพุอยู่ตรงกลางตึก ตรงกลางเปิดโล่งไม่มีหลังคา ทำให้ดูคลาสสิคมากยิ่งขึ้น ให้บรรยากาศดูโรแมนติก ซึ่งสถานที่นี้เป็นที่ที่ฉันคุ้นเคยเป็นอย่างดี ใช่แล้วร้านอาหารที่นี่ฉันเคยมากินกับไทเปบ่อยๆ

     “ป้า…ยืนทำไรครับ ไม่เข้าข้างในหรอ” ออร์กัสเอ่ยถาม พร้อมกับมองด้วยความสงสัย

     “พาฉันมาที่นี่ทำไม?” ฉันรู้สึก เหมือนกับนายออร์กัสมีจุดประสงค์อะไรสักอย่าง ซึ่งฉันเองก็ไม่รู้ว่าคืออะไร

     “พอมากินข้าวไงครับ^^” ตอบพร้อมกับยิ้มกวนๆมาที่ฉัน แล้วก็เดินมาดึงมือฉันไปคล้องที่แขนเขา ฉันไม่พูดอะไรได้แต่เดินตามไป เพราะขี้เกียจจะต่อปากต่อคำ พอเดินเข้ามาด้านใน พนักงานต้อนรับก็นำฉันกับออร์กัสไปที่โต๊ะอาหารที่วิวดีที่สุด  ดียังไงหรอคะ คือโต๊ะที่ฉันได้นั่งมองเห็นวิวของแม่น้ำ และเห็นลานน้ำพุที่จัดตกแต่งด้วยดอกไม้อย่างชัดเจน นี่ขนาดตอนกลางวันนะ ถ้าตอนกลางคืนคงจะโรแมนติกน่าดูเลยค่ะ

ไม่นานเด็กรับออร์เดอร์ก็เดินมาที่โต๊ะพร้อมกับส่งเมนูมาที่ฉันและออร์กัส

     “เอ่อออออ…ขอเป็น…..” ฉันยังไม่ทันที่จะได้พูด นายออร์กัสก็พูดตัดหน้าขึ้นมาทันทีค่ะ

     “พาสต้ากุ้งซอสอัลเฟรโด สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า มันบด ซุปผัก แล้วก็เครื่องดื่มขอเป็นน้ำส้มคั้นสด กับ คาปูชิโน่นะครับ”พูดพร้อมกับยิ้ม พนักงานโค้งตัวเล็กน้อยแล้วก็เดินออกไป แล้วนายออร์กัสก็หันหน้ามายิ้มให้ฉันแบบหน้าบานสุดๆ

     “นี่…นายรู้ได้ไงว่าอาหารพวกนั้นคือของโปรดฉัน” ฉันถามออกไปด้วยความอยากรู้

     “อ่าว…ของโปรดของป้าหรอ ผมไม่รู้หรอก แต่มันเป็นของที่ผมชอบกินมานานแล้ว ฮ่าๆๆ”

     “ใช่หรอ…นายมันน่าสงสัยที่สุดในสามโลกเลยยยยย” ฉันพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิกจมูกของออร์กัสแล้วก็ดึงไปซ้ายที  ขวาที ก็มันน่าหมั่นเขี้ยว

     “โอ้ยยยยยย…ป้า  ผมเจ็บนะ เดี๋ยวจมูกโด่งๆของผมก็แดงหมด”พอฉันปล่อยออร์กัสก็ลูบจมูกตัวเองไปมา แล้วมองฉันแบบงอนๆ

     “ฝากไว้ก่อนนะป้า…เดี๋ยวจะคิดค่าเสียหายทบต้นทบดอกเลย” พูดด้วยสายตาหื่นสุดๆค่ะท่านผู้อ่าน เด็กอะไร ทะลึ่งลามกที่สุด

     “มาสิ  ฉันจะชกให้ดั้งนายหักเลย” ฉันก็ทำท่าทางยกกำปั้นขึ้น  ไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟที่โต๊ะ ฉันก็ก้มหน้าก้มตากินอย่างเดียว ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดกับเด็กบ้า ออร์กัสเองก็พยายามยั่วโมโหฉันสุดๆเลยค่ะเมื่อเห็นว่าฉันไม่สนใจเลยนั่งหน้าหงอยกินข้าวไปอย่างเดียว ฮ่าๆๆ สมหน้า โดนเอาคืนซะบ้าง พอทานอาหารเสร็จ ฉันและออร์กัสก็เดินมาที่รถ และฉันรู้สึกเหมือนมีคนแอบมองจากข้างหลังอีกแล้ว แต่พอหันไปก็ไม่มีอะไร เอ๊ะ นี่ฉันคิดไปเองเหรอนี่ แล้วฉันก็เดินขึ้นรถโดยมีออร์กัสเปิดประตูรถให้กับฉัน พอรถออก

     “นี่ป้าคริสครับ…ป้าจะไม่พูดกับผมจริงๆเหรอ?” ออร์กัสเอ่ยถาม

     “………………….” ฉันไม่ตอบ 

     “สรุปจะไม่ตอบ?” เขาย้ำอีกครั้ง

     “………………….”ฉันก็เงียบอีก  พอเห็นฉันไม่ตอบ อยู่ดีดีนายออร์กัสก็หักรถเข้าข้างทาง ฉันแอบตกใจเล็กน้อยแต่ก็พยายามคุมสีหน้าให้ปกติที่สุด แล้วนายออร์กัสก็เดินลงไปจากรถ แล้วเดินวนมาทางฉันพร้อมกับเปิดประตูรถของฉันแล้วดึงฉันลงไป ฉันก็ต้องตกใจสุดๆ  เพราะเขาปิดประตูรถ  พร้อมกับดันร่างฉันให้ติดกับรถแล้วก็ล็อคตัวฉันไว้ในวงแขนแข็งแรงนั่น

     “นายจะทำอะไร….บ้าไปแล้วหรอ?” ฉันถามคนตรงหน้า

     “………………..” เงียบ ไม่ตอบ เอ๊ะ จะเล่นสงครามประสาทกับฉันใช่มั้ย

     “นี่…ฉันถามก็ตอบสิ เด็กบ้า ทำอะไรเนี่ย ฉันมะ……” แล้วเสียงฉันก็ขาดหาย ออร์กัสใช้ริมฝีปากของเขาประกบริมฝีปากของฉัน เขาครอบครองริมฝีปากของฉันอย่างเร่าร้อน แล้วเปลี่ยนมาอ่อนโยน ฉันใช้มือดันอกเขา ทั้งทุบ ทั้งหยิก  แต่ก็ไม่เป็นผล เขายังจูบฉันแบบนั้น ทั้งๆที่ฉันโดนขโมยจูบ แต่ทำไมใจฉันถึงเต้นแรงและรู้สึกดีกับสัมผัสนี้กันนะ มันเหมือนกับเขากำลังจูบปลอบฉันในเรื่องร้ายๆที่ฉันเคยเจอ แต่เมื่อสติกลับมา ฉันก็ใช้เท้าของฉันกระทืบเท้าออร์กัสอย่างแรง ทำให้เขาปล่อยตัวฉันอย่างง่ายดาย แต่ยังไม่จบแค่นั้น ฉันยกมือขึ้นกำหมัด แล้วปล่อยออกไป เต็มเบ้าหน้าของออร์กัสเลยค่ะ ไม่ทันที่ออร์กัสจะได้พูดอะไร ก็มีเลือดไหลออกมาจากจมูก แล้วเขาก็ใช้มือจับที่เลือดตรงรูจมูกที่มันไหลออกมา

     “เฮ้ยยยยยย…เลือดดดดดด” ออร์กัสพูดบวกกับสีหน้าตกใจ

     “ฉะ…ฉันขอโทษ  ฉันไม่ได้ตั้งใจ  ก็นายมาจูบฉันทำไมเล่า” ฉันแสดงสีหน้าแบบรู้สึกผิด  แต่คิดในใจก็ขำๆนะ สมน้ำหน้า จอมฉวยโอกาส

     “เล่นแรงนะป้า…เดี๋ยวเถอะ ขึ้นรถเลย แผลนี้ป้าต้องรับผิดชอบ”แล้วหมอนั่นก็ทำหน้าตาอำมหิตพิศวาส

     “โอเคๆ…ขึ้นแล้วๆ” แล้วฉันก็ขึ้นไปนั่งบนรถ ไม่นานออร์กัสก็ออกรถ ฉันเองเงียบมาตลอดทาง ไม่กล้าพูดอะไร กลัวนายนั่นจะคาดโทษฉันรุนแรงกว่านี้

ณ ร้านขนมเค้ก 15.00 น.

ทันทีที่ถึงร้าน ฉันก็เดินเข้าไปหลังร้านเพื่อจะไปหยิบกล่องปฐมพยาบาล

     “ป้าจะเดินไปไหน…จะไม่ทำแผลให้ผมหน่อยหรอ?” ฉันแกล้งไม่ตอบแล้วเดินไปต่อ  แล้วก็เดินกลับมาพร้อมกับกล่องปฐมพยาบาล

     “พูดมากทำเองเลยไป” แล้วฉันก็ยื่นกล่องปฐมพยาบาลไปให้ออร์กัส

     “ป้าคริสคนสวยยยยยยย…ทำแผลให้ผมหน่อยนะครับ  นะๆๆๆๆ”

     “อ่ะๆๆ…ก็ได้ เพราะฉันเป็นคนทำให้นายเป็นแผลหรอกนะ  ไม่งั้นอย่าหวัง”ฉันตอบกลับไปทำให้ออร์กัสยิ้มร่า เหมือนกับเด็กได้ของเล่นที่พ่อแม่ซื้อให้

     “ขอบคุณครับผม” แล้วหมอนั่นก็ดึงมือฉันให้ไปนั่งข้างๆ ฉันก็ยอมนั่งแต่โดยดี

     “แต่…มีข้อแม้ นายจะต้องตอบคำถามที่ฉันเคยถามตามสัญญา ตกลงนะ”

     “คร๊าบบบบบบบบบบบ…ป้า ฮ่าๆๆๆๆ” นายออร์กัสเน้นเสียงแบบกวนๆ ทำให้ฉันหมั่นไส้ กดไปที่แผลมหอนั่นแรงๆ

     “โอ๊ยยยยยยยยยย…..ผมเจ็บนะป้า ผู้หญิงอะไร มือหนักเป็นบ้า” พอหมอนั่นพูดจบ ฉันก็เอามือตีปากทันที

     “นี่…ปากไม่ดีเลยนะนายเนี่ย เดี๋ยวให้ทำเองเลย”แล้วฉันก็จ้องหน้าออร์กัส

     “ครับๆๆ…เค้าจะทำตัวเงียบๆนะที่รัก  โอเคไหม?” แล้วก็ทำหน้าออดอ้อนใส่ฉัน

     “ก็  ดี” ฉันเน้นเสียงทีละคำ แล้วก็ลงมือทำแผลให้ออร์กัส จนเสร็จ

     “อ่ะ  เสร็จแล้ว  จะตอบคำถามได้รึยัง”

     “อ่ะ…คำถามแรก  ที่ผมรู้ว่าป้าอยู่คอนโดไหน  ก็พะ….”

     “ขอโทษนะคะ…เปิดร้านหรือยังคะ?” เสียงจากหญิงสาวคนนึงที่เป็นผู้มาเยือนใหม่  ทำให้เราทั้งสองที่นั่งอยู่หันไปมองพร้อมๆกัน

     “โบย่า….”ฉันเรียกชื่อของผู้มาเยือนใหม่ เธอเป็นผู้หญิงร่างเล็กพอๆกับฉัน ต่างกันที่สีผมของเธอเป็นสีแดงอมม่วง ยาวสวยเป็นเส้นตรง ผิวขาว ดวงตากลมโต จมูกโด่งเล็กน้อย จัดเป็นผู้หญิงที่น่ารักคนหนึ่งเลยแหละเธอคนนี้เป็นเพื่อนสนิทสาวของฉันสมัยตอนเรียนมหาวิทยาลัย แต่ช่วงปีสุดท้ายอยู่ดีดี โบย่าก็ขาดการติดต่อไป  แต่ฉันก็ได้ยินข่าวจากอาจารย์ที่ปรึกษาว่าเธอไปเรียนต่อที่อเมริกา เราไม่ได้ติดต่อกันเลยตั้งแต่ตอนนั้น

     “สวัสดี…คริสตัล ไม่ได้เจอกันนานสบายดีนะ” เธอถามด้วยรอยยิ้มบางๆ

     “สบายดีจ่ะ…ย่าล่ะ ทำไมขาดการติดต่อไปเลย ไปเรียนต่อเมืองนอกก็ไม่บอกฉัน”ฉันถามกลับ

     “พอดีตอนนั้นที่บ้านฉันมีปัญหาทางธุรกิจนิดหน่อย…ทุกอย่างมันรวดเร็วไปหมด  เลยไม่ได้บอกลาเธอก่อนไปเรียนต่อเมืองนอก ไม่โกรธฉันนะเพื่อนรัก” เธอพูดด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มแล้วเดินเข้ามากอดฉัน

     “ไม่โกรธหรอก…ฉันเข้าใจ ได้เจอกันอีกครั้งก็โอเคแล้วจ้า^^” ฉันตอบไปแบบนั้นพรอ้มกับยิ้มให้โบย่า แล้วเธอก็เอียงคอไปทางนายออร์กัส

     “คริส…นี่เด็กหนุ่มที่ไหน  น่ากินจัง” โบย่าพูดพร้อมกับส่งสายตาหวานๆไปทางออร์กัส ไม่ทันที่ฉันจะได้ตอบ ก็มีมารมาขัดอีกแล้วค่ะ

     “ผม…ออร์กัสครับ  เป็นที่รักของคริส^_______^” ยิ้มหน้าบานโชว์ฟันสวยอีกด้วยค่ะ

     “หืมมมมมมม…คริสเธอมีแฟนหล่อแบบนี้ ไม่บอกเพื่อนสักคำ  ต้องให้เพื่อนถามตลอด” แล้วโบย่าก็ยิ้มขำ

     “แฟนเฟิน อะไร นายนั่นเพ้อเจ้อ  เธอไม่ต้องไปฟังเลยนะย่า” ฉันพูดแล้วทำส่งสายตาค้อนไปทางออร์กัส  นายนั่นก็ส่งยิ้มกวนๆให้ฉันกลับ

     “โอเคจ้าๆ…ฮ่าๆๆๆ  วันนี้ฉันมีธุระต้องไปทำก่อน  เดี๋ยววันหลังจะแวะมาหาใหม่นะคริส” โบย่าพูด

     “อ๋ออออออ…โอเคจ้า ไว้วันหลังมาชิมเค้กร้านฉันนะย่า”

     “จ้า…เราต้องได้เจอกันอีกแน่นอน  ค ริ ส” โบย่าพูดพรอ้มกับรอยยิ้ม 

     “จ้า…เดินทางปลอดภัย  แล้วเจอกันจ้า” แล้วฉันกับโบย่าก็โบกมือลา โบย่าเดินออกไปแล้วก็ขึ้นรถของเธอขับออกไป ส่วนฉันก็หันกลับไปมองหน้าออร์กัส แล้วก็เห็นเขามองตามรถของโบย่าไปจนลับสายตา

     “นี่….มองตามเพื่อนฉัน ชอบเหรอ?” ฉันแกล้งถาม ออร์กัส ทำสีหน้าจริงจัง  เดินมาทางฉันทำให้ฉันต้องเดินถอยหลังจนหลังของฉันติดกับกำแพง แล้วเขาก็เอามือมาวางไว้บนกำแพงทั้งสองข้าง  ทำให้ฉันตกอยู่ในวงแขนของเขาอีกครั้ง ฉันยกมือทั้งสองข้างดันอกของเขาไว้ ใจฉันเต้นแรง หน้าแดงขึ้นมาทันที แล้วเขาก็โน้มตัวลงมาใกล้ฉัน หน้าเราใกล้กันมาก

     “นี่…จะทำอะไรฉัน ยังไม่เข็ดใช่ไหมตาบ้า ครั้งนี้ฉันไม่ออมมือแน่” ฉันพูดออกไป แต่น้ำเสียงดันสั่นๆ ออร์กัสไม่พูดอะไร  แต่นายนั่นเอียงหน้าไปทางขวาลมหายใจของเขาลดลงมาที่ต้นคอของฉัน รู้สึกจั๊กจี้แปลกๆ แล้ว  ไม่ทันที่ฉันจะพูดอะไรอีก นายออร์กัสก็กระซิบเบาๆที่ข้างหูของฉัน

     “หัวใจของผม…เป็นของคุณคนเดียว” แล้วนายนั่นก็เอาหน้าออกไป  แล้วก็ปล่อยตัวฉันเมื่อพูดจบ ฉันรีบเดินหนีมาหลังร้าน แล้วเอามือจับที่หัวใจของตัวเองที่ตอนนี้เต้นแรง จนหยุดไม่อยู่

     “ไม่นะ…คริสตัล นายนั่นก็แค่แกล้งพูดไปแบบนั้น  ไม่ได้คิดอะไรจริงจังหรอก” ฉันพูดกับตัวเองแบบนั้น ฉันกลัวการที่จะรักใคร  หรือไว้ใจใครจริงๆ ฉันไม่กล้าที่จะเริ่มต้นใหม่กับใครทั้งนั้น เมื่อคิดได้แบบนั้นฉันก็เดินไปเปลี่ยนชุด เตรียมทำงานต่อ

--------อีกด้านหนึ่ง ภายในรถคันหรูสีขาวบนถนน---------

“แก เตรียมตัว เตรียมใจไว้ได้เลยคริส ฉันจะกลับมาทวงของๆฉันคืน!!!!!”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา