รักนะติวเตอร์

9.5

เขียนโดย ธาริน

วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 12.12 น.

  7 ตอน
  0 วิจารณ์
  8,157 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 มีนาคม พ.ศ. 2558 12.20 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ช่วยหน่อยนะ ขอร้องล่ะ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                กลับจากโรงเรียนฉันก็มานอนแผ่หลาอยู่บนเตียง คิดหาวิธีที่จะทำให้ฉันได้ไปแลกเปลี่ยน แต่ก็นะลำพังสมองอันน้อยนิดที่มีคงไม่มีทาง เพราะส่วนมากเรื่องวางแผนหาวิธีต่างๆนี่ก็มีแต่เซน่าทั้งนั้นแหละ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ฉันขอความช่วยเหลือจากเซน่าไง ส่วนภูผาฉันก็พูดไปงั้นแหละ ไม่ได้หวังอะไรมากมาย แต่ถ้าได้ก็ดีนะ ฉันมองไปที่นาฬิกาบนหัวเตียงที่กำลังบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่ม ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเวลาที่รอคอยมาถึงแล้ว

                "ได้เวลาแล้วสินะ" ฉันพูดกับตัวเองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาเซน่า                 "ฮัลโหล เซน่าาา" ฉันกรอกเสียงใสๆลงไปยังโทรศัพท์ เมื่อปลายสายกดรับ                 [ไง?] เห? ฉันอุตส่าห์ทำเสียงสดใสสุดๆแล้วนะ แล้วดูสิ่งที่ได้กลับมาสิ !                 "เลิกเรียนยัง?" ถามไปงั้นแหละ จริงๆแล้วฉันจำได้ดีกว่าคนที่เรียนเองซะอีก                 [ไม่ต้องอ้อมค้อมมีอะไรก็ว่ามา ฉันรู้ว่าแกรู้น่ะรู้ตารางเวลาของฉันดีซะยิ่งกว่าแม่ฉันซะอีก]                

                "ก็...แค่จะโทรมาถามว่าคิดออกยัง"                

               [ยัง!!]                

               "ได้ไงอ่ะ นี่ฉันให้เวลาเธอคิดตั้งแต่บ่ายจนถึงสามทุ่มนี่ไม่พอเหรอ?"                                [พอบ้าอะไรล่ะ บ่ายที่ว่านั่นก็เวลาเรียนในโรงเรียน หลังจากนั้นฉันก็ต้องมาเรียนพิเศษนี่ก็พึ่งจะได้เลิก เธอต่างหากล่ะที่ว่างเพราะฉะนั้นก็ควรจะคิดได้แล้วนะ]                

               "เธอก็รู้นิ ว่าเรื่องพวกนี้ฉันไม่ถนัดนี่"                

               [จ้าาา อย่างเธอนี่คงถนัดแต่เรื่องใช้กำลังสินะ]                

               "บ้าสิ!?"ฉันเบ้ปากใส่โทรศัพท์                

               [ฮ่าาา ล้อเล่นน่า ฉันคิดออกแล้ว]                

               "จริงป้ะ? นี่ดีใจนะ "                

               [จริง! แต่ไม่บอกตอนนี้หรอก ฮ้าววว! ง่วงละ บาย]                

               "เฮ้ย!? อย่าพึ่งวางดิ!!!" ไม่ทันละ วางไปแล้ววว เฮ้ออออ เซ็งเลยนี่ฉันรอมาตั้งนานนะ! แต่รอต่อก็ได้วะ อีกวันเดียววว เย่!

               

               ฉันฮัมเพลงอย่างมีความสุขขณะที่กำลังเดินไปห้องเรียน ไม่สนด้วยว่าใครจะหาว่าฉันบ้า ก็คนมีความสุขนิ ฉันสอดส่ายสายตาหาคนที่ฉันตั้งตารอจะเจอทั้งคืน และตอนนี้ฉันก็เจอแล้วด้วย                

               "เซน่าาาาา" ฉันแทบจะถลาเข้าไปกอด แต่เพราะสายตาคนรอบข้าง ฉันจึงไม่กล้า                 "ว่าไง มาเช้านะวันนี้"                

               "เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับอ่ะ"                

               "ไม่ทักทายเพื่อนข้างโต๊ะหน่อยเหรอ" เซน่าพูดขึ้น ฉันเลยหันกลับไปมองคนข้างๆพร้อมกับ...                

               "หวัดดีภูผา " ฉันส่งยิ้มพิมพ์ใจไปให้                

               "หวัดดี" อืม...ดี ฉันอุตส่าห์ส่งยิ้มไปให้ หน้านิ่งมาเชียว แหม...ทีตอนแรกนี่ยิ้มให้จนเหงือกจะแห้ง ฉันแค่บังคับนิดเดียวเอง !                

               "ว่าไงเซน่า คิดออกยัง?" ฉันหันไปหาเซน่าต่อ หลังจากที่คู่สนทนาทำเหมือนไม่อยากคุยกับฉัน                

               "นี่คือเหตุผลที่มาเช้า?"                

               "เยสสสส!...ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นเลย บอกมา"                

               "เออๆ แกรู้จักรุ่นพี่ที่ไปแลกเปลี่ยนปีที่แล้วมั้ย?"                

               "ใครรร"                

               "แก!!!" เซน่ากุมขมับในความทึ่มของฉัน ที่ไม่ค่อยจะรู้จักใครบ้างเลย                                "ก็ไม่รู้จริงนิ"                

               "อือ นั่นแหละ! งั้นก็รู้จักซะนะ ฟินิกซ์ ประธานสภานักเรียน" ฉันสตั้นไปห้าวิ ฟินิกซ์งั้นเหรอ?? "เนี่ยเก่งมากนะ ถ้าเธอไปขอให้เขาช่วยได้ เธอได้ชัวร์" จะได้ไหมไม่รู้ เมื่อวานเกือบด่าไปแล้ว                

               "ถ้าไม่ได้ล่ะ"                

               "นั่นมันก็เรื่องของแก ฉันช่วยได้แค่นี้แหละ แต่ถ้าอยากได้ความเห็นเพิ่มนั่นไงข้างๆแก"                

               "เหอะ ขนาดหน้านี่ยังไม่อยากจะมอง"                

               "ฮ่าๆ ใครใช้ให้แกไปบังคับเขาแบบนั้นล่ะ เพราะฉะนั้นก็มีแค่ทางเดียวคือเชื่อฉัน!"                 "ก็คงเป็นแบบนั้น " เฮ้อออ จะรอดมั้ยวะ                

               "เออ ก่อนไปก็หาประวัติเขาหน่อยล่ะ จะได้รู้ว่าเขาชอบไม่ชอบอะไร เป็นคนแบบไหนไม่ใช่อยู่ดีๆ ทะเล่อทะล่าไปเลย ถ้าเป็นแบบนั้นนะ ฟันธงได้เลยว่าแกได้กินแห้วแทนข้าวเที่ยงชัวร์"

                ตอนนี้เป็นเวลาพักเที่ยงแต่ฉันกำลังเดินไปที่ห้องของสภานักเรียน ที่อยู่ถัดจากตึกที่ฉันเรียนอยู่ ส่วนเรื่องข้าวกลางวันฉันฝากให้เซน่าซื้อนมกับขนมปังมาให้แทน เพราะกว่าฉันจะเดินไปตึกที่ว่านั่น กว่าจะเจรจาเสร็จแล้วกว่าจะเดินไปโรงอาหาร คงหมดเวลาพักเที่ยงก่อนพอดี ฉะนั้นข้าวกลางวันมื้อนี้ฉันก็เลยต้องกลายเป็นนมกับขนมปังแทน ...ก๊อกๆๆ ฉันเคาะประตูห้องที่ติดป้ายหน้าห้องไว้ว่า 'สภานักเรียน' ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป

                "ขิง มีธุระอะไรเหรอ?" เพื่อนร่วมห้องฉันที่เป็นหนึ่งในสภานักเรียนทักขึ้น เมื่อฉันก้าวเข้าไปยืนในห้องเรียบร้อยแล้ว                              

               "ฉันมีธุระกับฟิ...เอ่อ รุ่นพี่ฟินิกซ์นิดหน่อยน่ะ ว่าแต่เขาอยู่ไหม?" ฉันถามเพื่อนคนนั้นพร้อมกับมองหาบุคคลที่ฉันกำลังตามหา...                

               "อยู่ในห้องน่ะ" เพื่อนคนนั้นชี้ไปตรงประตูที่อยู่ด้านหลัง เป็นประธานสภานักเรียนมันดีแบบนี้แฮะ มีห้องส่วนตัวด้วย                

               "ขอบใจจ้ะ " ฉันยิ้มให้เพื่อนคนนั้นก่อนจะเดินไปที่หน้าประตูและเคาะประตูอีกครั้งก่อนจะเดินเข้าไป

                รุ่นพี่ฟินิกซ์ อ่า...ไม่สิ! เขาเกิดก่อนฉันแค่เดือนเดียวเอง เพราะฉะนั้นก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเรียกพี่จริงมั้ย? แต่ต่อหน้าคนอื่นฉันก็ต้องรักษามารยาทไว้บ้าง... ฟินิกซ์เงยหน้าขึ้นจากโต๊ะ มองหน้าฉันงงๆก่อนจะเชิญให้ฉันนั่ง                

               "น้องมีธุระอะไรหรือเปล่า?" ฉันงงๆนิดหน่อยที่ฟินิกซ์เรียกฉันว่า'น้อง' ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเขาคงเห็นตัวเลขที่ปักอยู่บนปกเสื้อเพื่อบ่งบอกระดับชั้น แต่ความจริงแล้วฉันกับเขาห่างกันแค่เดือนเดียวเองนะ ดังนั้นฉันควรจะบอกความจริงข้อนี้เพราะฉันไม่อยากให้เขาเรียกฉันว่าน้อง และฉันก็ไม่ได้อยากนับเขาเป็นพี่เหมือนกัน                

               "จริงๆแล้วนายไม่ต้องเรียกฉันว่าน้องก็ได้นะ เราห่างกันแค่เดือนเดียวเอง"                 "งั้นเหรอ? เธอรู้ได้ไงว่าเราห่างกันแค่เดือนเดียว"                

               "ประวัติของสภานักเรียนเด่นหราในเว็บไซต์โรงเรียนขนาดนั้น"                

               "แต่ถ้าคนที่เขาไม่'สนใจ'เขาก็ไม่เปิดเข้าไปอ่านมั้ย?"                

               "นี่อย่าบอกว่านายคิดว่าฉันกำลังสนใจนายอยู่!" เฮอะ !! หมอนี่นี่หลงตัวเองจริงๆ                 "ก็ถ้าไม่สนใจจะไปหาประวัติทำไมล่ะ จริงมั้ย?" เกิดมาพึ่งเคยเจอลูกพี่ลูกน้องที่กวนโอ้ยได้เหมือนกันขนาดนี้ แถมยังหล่อเหมือนกันอีก                

               "ฉันว่าบางทีเหตุผลมันก็ไม่ได้มีข้อเดียวหรอกนะ บางคนที่เข้าไปดูประวัตินายอาจจะกำลังต้องการข้อมูลของนายเพื่อเอามาแก้แค้นนายก็ได้ "                

               "...แต่ฉันว่าฉันไม่มีศัตรูที่ไหนนะ"                

               "หึ ฉันก็ไม่ได้ว่านายมีศัตรูนิ ฉันก็แค่ยกตัวอย่างประกอบว่าบางทีเหตุผลมันไม่ได้มีข้อเดียวแบบที่นายคิดก็แค่เท่านั้นเอง^^" ฉันยิ้มบางๆกลับไปให้ฟินิกซ์                

               "สรุปว่า...นี่คือธุระที่เธอมาหาฉัน?"                

               "เปล่าสักหน่อย คือ...ฉันจะมาขอความช่วยเหลืออะไรบางอย่างน่ะ"                 "ช่วยเหลือ? ฮะๆ วิธีการขอความช่วยเหลือเธอนี่แปลกดีนะ"                

               "ใช่! ช่วยเหลือ นายเป็นประธานสภานักเรียนไม่ใช่เหรอ? นี่ก็ถือเป็นหนึ่งในหน้าที่ของนาย แล้ววิธีการของฉันมันแปลกตรงไหนฮะ เวลาขอความช่วยเกลือบ้านนายส่งทูตมาเจริญสัมพันธไมตรีหรือยังไงกัน"                

               "ได้ก็ดีนะ ดูยิ่งใหญ่ดี"                

               เชื่อเขาเลย นี่เหรอประธานสภานักเรียนผู้น่าเกรงขาม ฉันเหลือบไปมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังขืนฉันยังต่อปากต่อคำกับหมอนี่ คงไม่ได้เรื่องแน่                

               "ฉันจะขอให้นายช่วยติวสอบทุนให้น่ะ"                

               "ฉันเหรอ?"                

               "อะ...อืม คือฉันไม่ค่อยเก่งภาษาเท่าไหร่น่ะ ก็เลยอยากจะให้นายช่วยติวให้"                 "แล้วทำไมถึงต้องเป็นฉันล่ะ"                

               "ก็...เพราะนายเรียนสายศิลป์ภาษา แล้วก็ผลการเรียนของนายเป็นที่หนึ่งของสาย อีกอย่างปีที่แล้วนายเป็นคนที่ได้ทุนนี้!ฉันเลยคิดว่านายน่าจะช่วยฉันได้" ฉันอธิบายเหตุผลยาวเหยียดให้ฟินิกซ์ฟัง                

               "แล้วถ้าฉันบอกว่าฉันไม่ช่วยล่ะ เธอเองก็น่าจะรู้นะว่างานที่สภานักเรียนน่ะเยอะมาก แค่นี้ฉันก็แทบจะไม่มีเวลาว่างแล้ว" ฟินิกซ์เองก็ร่ายเหตุผลกลับมาซะยาวเหมือนกัน แต่ที่ไม่เหมือนกันคือนี่เป็นเหตุผลที่กำลังจะบอกว่าเขาจะปฏิเสธคำขอฉันน่ะสิ                

               "ฉันขอร้องล่ะนะ ถ้านายไม่ช่วยฉันก็ไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้วจริงๆ วันละชั่วโมงก็ได้ นะๆ" ให้ตายสิเกิดมาฉันไม่เคยต้องมานั่งขอร้องใครแบบนี้เลยนะ                

               "อืม...ขอคิดดูก่อน"                

               "เฮ้!!ได้ไงกัน..." ฟินิกซ์มองหน้าฉันอย่างผู้ที่ถือไพ่เหนือกว่า ฉันเลยต้องรีบเปลี่ยนคำพูด "เอ่อ...ฉันหมายถึงว่าถ้านายคิดนานๆ มันจะทำให้ทุกอย่างล่าช้านะ"                

               "งั้นเหรอ..."                

               ฉันพยักหน้าให้ฟินิกซ์เบาๆ เป็นการสนับสนุนประโยคที่ฉันพูดเมื่อกี้อีกครั้ง แต่อีกฝ่ายกลับส่ายหัวเบาๆ นี่อย่าบอกว่าเขากำลังปฏิเสธฉันนะ                

               "ตามนั้นแหละ"                

               "ตามนั้น? ตามไหนอ่ะ?" ฉันงงเป็นไก่ตาแตก                

               "ก็ขอคิดดูก่อนไง ไว้คิดได้เมื่อไหร่จะบอกละกัน หมดธุระของเธอแล้วใช่มั้ย งั้นก็เชิญ" หมดบ้าอะไรล่ะ! ธุระของฉันคือมาคุยกับนายแล้วนายตกลง แต่นี่นายยังไม่ตกลงมันก็ยังไม่จบสิ ฉันจึงยังคงนั่งอยู่ที่เดิม                

               "นี่เธอฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง"                

               "รู้เรื่องสิ!"                

               "แล้วทำไมไม่ออกไปล่ะ"                

               "ฉันจะยอมออกไปก็ต่อเมื่อนายยอมช่วยฉัน" ฟินิกซ์ถอนหายใจยาวพรืด                 "ก็ฉันบอกแล้วไงว่าขอคิดดูก่อน ฉันยังไม่ได้ปฏิเสธเธอนิ"                

               "ก็นั่นแหละ ขอคิดดูก่อน มันก็เหมือนนายกำลังปฏิเสธเป็นนัยๆนั่นแหละ"                 "ทำไมเธอถึงได้ดื้อด้านแบบนี้นะ"                

               "ตกลงนายจะไม่ช่วยฉันใช่มั้ย ทำไมนายถึงแล้งน้ำใจแบบนี้นะหน้าตาก็ดีอยู่หรอกทำไม..."                

               "หยุด!! ฉันบอกแล้วไงว่าขอคิดดูก่อน นั่นก็แปลได้สองอย่างคือฉันอาจจะตกลงหรือปฏิเสธ แต่ถ้าเธอยังดื้อด้านอยู่แบบนี้ฉันอาจจะปฏิเสธก็ได้ เพราะฉะนั้นถ้าเธอไม่อยากผิดหวัง ตอนนี้เธอก็ควรจะออกไปก่อน ฉันพูดขนาดนี้แล้วหวังว่าเธอจะเข้าใจนะ เชิญ!" สีหน้าของฟินิกซ์ตอนนี้ดูนิ่งมาก ฉันเลยไม่กล้าเถียงอะไรกลับไปเพราะถ้าพูดอะไรไปตอนนี้คงไม่ดีแน่                 "โอเคๆ นายได้คำตอบวันไหนก็บอกฉันละกัน แต่อย่าให้นานนักล่ะ" ฉันลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะเดินไปที่ประตู                

               "เดี๋ยว!...เอาโทรศัพท์เธอมา"                

               "โทรศัพท์?ฉัน? นายจะเอาไปทำอะไร?"                

               "เมมเบอร์เธอไว้ไง ถ้าเธอไม่ให้เบอร์ฉันไว้แล้วฉันจะติดต่อกับเธอได้ไง หรือจะให้ฉันส่งนกพิราบไปบอกกัน" นี่คงไม่ใช่การหลอกขอเบอร์หรอกนะ แต่คงไม่ใช่หรอกถ้าเขาพิศวาสฉันจริง คงจะรีบตกลงแต่แรกแล้วล่ะ - -"                

               "โอเคๆ" ฉันยื่นโทรศัพท์ให้ฟินิกซ์ ก่อนที่เขาจะรับไปแล้วกดอะไรบางๆ แล้วยื่นกลับมาให้ฉัน                

               "ไม่มีอะไรอีกแล้วนะ"                

               "อืม"

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา