หวานรัก ยอดยาหยี 18+

-

เขียนโดย เพลงดาว

วันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 00.05 น.

  3 ตอน
  3 วิจารณ์
  6,759 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 18.46 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) เผชิญหน้านางมารร้าย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

ห้อง 614

         ห้องพักขนาดกลาง ตกแต่งด้วยโทนสีฟ้าสดใส เมื่อเปิดประตูห้องจะเจอกับห้องนั่งเล่นเป็นอันดับแรก มีมุมโซฟาตัวใหญ่ โทรทัศน์จอแบน เครื่องเสียงครบชุด ซ้ายมือติดผนังห้องคือมุมครัวมีอุปกรณ์ทำครัวเช่นกาต้มน้ำร้อน เตาอบไมโครเวฟ แก้วน้ำจานชาม และตู้เย็นซึ่งเต็มไปด้วยเครื่องดื่มหลากหลาย ส่วนขนมขบเคี้ยวและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปวางอยู่บนชั้นวางข้างเครื่องครัว

         กระจกโมเสคบานใหญ่ลวดลายดอกไม้กั้นกลางระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอนเอาไว้ เตียงขนาดหกฟุตปูด้วยผ้าคลุมสีเขียวอ่อนดูสบายตาสบายใจ

         เลโอวัติเดินเข้ามาภายในห้องพร้อมกับณัฐธีรา โดยมีรูมเซอร์วิสขนกระเป๋าใบใหญ่สองใบมาให้ เมื่อรูมเซอร์วิสออกจากห้องไปแล้วชายหนุ่มจึงเอ่ยถาม

         “จำห้องนี้ได้ไหม ผม เอ่อ อาเคยสัญญาว่าจะเก็บห้องนี้ไว้รอทาร่ากลับมา” เขารู้สึกแปลกๆที่ต้องแทนตัวเองว่าอา แม้เมื่อสิบกว่าปีก่อนเธอจะใช้สรรพนามนี้กับเขา แต่ตอนนั้นเธอยังเด็กมาก ต่างกับตอนนี้ที่โตเป็นสาวแล้ว

         “จำได้สิคะ จำได้ไม่เคยลืมเลย” หญิงสาวเดินเข้าไปในห้องนอน ทรุดกายนั่งลงบนเตียง เอียงคอมองใบหน้าหล่อเหลา

         “คืนนี้คุณอานอนเป็นเพื่อนทาร่าในห้องนี้นะ จะได้เล่านิทานให้ทาร่าฟังไงคะ”

         “เราโตแล้วนะไม่ใช่เด็กๆ ที่จะให้อาเล่านิทานให้ฟังก่อนนอน” เสียงขรึมปฏิเสธ

         ตอนนั้นเธอยังเด็กอายุเพียงเจ็ดขวบ ส่วนเขาอายุยี่สิบปี เขารับอุปการะและพาเด็กหญิงมาดูแลที่นี่ ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันเพียงแค่สามเดือน เขาดูแลเธออย่างใกล้ชิด เล่านิทานก่อนนอนให้ฟังทุกคืน

         “ทาร่าเหงา”

         “แล้วทำไมไม่ชวนเพื่อนมาด้วยล่ะ”

         “เอ่อ” เรียวปากจิ้มลิ้มระบายยิ้มบาง ความจริงแล้วเธอก็มีคนมาด้วย นั่นก็คือบอดี้การ์ดส่วนตัว เพียงแต่เธอให้เขาพักอยู่อีกโรงแรมหนึ่ง เพราะกลัวว่าเขาจะตามติดจนเธอไม่เป็นอันทำอะไร

         “นะคะคุณอา มาอยู่เป็นเพื่อนทาร่า ไม่ต้องนอนค้างด้วยกันก็ได้ แต่ดึกๆค่อยกลับ รอให้ทาร่านอนหลับก่อน” ร่างอรชรลุกขึ้น เอื้อมมือมาจับมือใหญ่เอาไว้แล้วเขย่าอย่างอ้อนวอนขอ

         “ก็ได้ แล้วนี่จะเริ่มงานเมื่อไหร่” เลโอวัติก้มหน้ามองดวงหน้ากระจ่างสดใสแล้วเอ่ยถาม ทำไม เหมือนมีกระจกกั้นเอาไว้ระหว่างเขาและเธอ อาจเป็นเพราะต่างคนต่างเติบโตขึ้น และช่วงเวลาที่ไม่ได้เจอ มันนานเกินกว่าจะความใกล้ชิดสนิทสนมจะกลับคืนมา คงต้องใช้เวลาอีกสักนิด

         “ยังไม่แน่ใจเลยค่ะ อยากเที่ยวก่อน”

         “แล้วนี่หิวหรือเปล่า อาจะได้สั่งอะไรมาให้ทาน”

         “หิวสิคะ หิวมากเลย คุณอาจำได้ไหมคะ ว่าทาร่าชอบอะไร”

         “ส้มตำปูปลาร้า ข้าวเหนียว ไก่ย่างและหมูปิ้ง” ชายหนุ่มตอบทันทีเพราะนี่คือเมนูที่เขามักจะทานกับเธอเสมอ นานแล้วที่เขาไม่ได้ทานของพวกนี้ เพราะมาดนักธุรกิจหมื่นล้าน คงไม่น่าดูนักหากจะมานั่งกินส้มตำปูปลาร้า

         “งั้นสั่งมาทานด้วยกันนะคะ เราไม่ได้กินข้าวด้วยกันมา อืม ตั้งสิบสองปีแล้ว”

         “ครับ” ชายหนุ่มพยักหน้าก่อนจะก้าวห่างออกจากเตียงนอน ออกมาที่ห้องนั่งเล่น ร่างเล็กบอบบางเดินตามมา กอดแขนล่ำเอาไว้อย่างรักใคร่

         “ไม่ต้องเดินตามอาทุกฝีก้าวก็ได้มั้ง”

         “ก็ทาร่าคิดถึงคุณอานี่คะ”

         “คิดถึงแล้วทำไมไม่กลับมาหาอา และพออาแวะไปเยี่ยมที่ญี่ปุ่นก็หลบหน้าอาทุกครั้ง”

         “เอ่อ” ดวงหน้าสวยก้มหน้างุด อยากจะบอกเหตุผล หากแต่กลัวเจ้าของร่างสูงใหญ่จะรู้ความจริงที่ซ่อนอยู่ภายในหัวใจ

         เธอแอบรักผู้ชายคนนี้มานานแล้ว อยากตัดใจจึงต้องหลบหน้า เพราะตอนที่เขาไปเยี่ยมเธอที่ญี่ปุ่น ได้พาอดีตแฟนสาวของเขาไปด้วย เธอไม่กล้าพบหน้าเพราะหัวใจได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว จากผู้มีบุญคุณ กลายมาเป็นเจ้าของหัวใจ

         ถ้าเลโอวัติรู้คงไม่ยอมให้เธออยู่ใกล้ชิดอีก

         “เอาล่ะ ถ้ายังไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร” ชายหนุ่มยกหูโทรศัพท์ขึ้นมา สั่งอาหารตามที่หญิงสาวต้องการ

 

 

         กระจกเงาสะท้อนภาพหญิงสาววัยสามสิบสามปีที่ยังดูงามสะพรั่งออกมา ดวงหน้าสวยเฉี่ยวถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางโทนสีน้ำตาล ติดขนตายาวเป็นแพหนา ระบายเรียวปากอิ่มด้วยลิปสติกสีแดงอมชมพูประกายมุก ผมยาวสยายม้วนเป็นลอนใหญ่ ปล่อยตัวยาวลงมาอยู่กับแผ่นหลัง

         เรือนร่างสูงโปร่งอยู่ในชุดราตรีสั้นสีน้ำเงินเข้มเข้ารูป ขับผิวขาวดังหยวกกล้วยให้ดูผุดผาดเหมือนสาวแรกแย้ม สวมเพียงเครื่องประดับชิ้นเดียวซึ่งก็คือสร้อยคอไข่มุกสีขาวนวลตา เป็นของขวัญชิ้นแรกที่ได้รับจาก เลโอวัติ ราชาเตชะวรรณ ว่าที่สามีคนใหม่ของเธอ

         นภัสดาวมองตัวเองในกระจกอย่างพึงพอใจ ค่ำคืนนี้เธอนัดเลโอวัติเจอที่โรงแรมของเขา เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดของเธอ

         “สวยจังเลยค่ะคุณผู้หญิง” สาวใช้ชื่อสร้อยทองเอ่ยชม

         “หุบปากของแกเดี๋ยวนี้นะ อย่าเรียกฉันว่าคุณผู้หญิงอีกเป็นอันขาดเพราะคุณผู้ชายของแกตายไปแล้ว ให้เรียกฉันว่าคุณนภัสดาว จำใส่สมองโง่ๆของแกไว้ด้วย” นิ้วเรียวจิ้มลงบนหน้าผากของสาวใช้จนหน้าหงาย

         นับตั้งแต่สามีของเธอตายจากไป บ้านหลังใหญ่ร่วมสามสิบล้านบาทหลังนี้ก็ตกเป็นของเธอ รวมทั้งสมบัติทั้งหมดของเขา แม้อดีตจะเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่เธอไม่ชอบให้ใครมาเรียกเธอว่าคุณผู้หญิง เพราะมันหมายถึงผู้หญิงที่ผ่านการมีสามีมาแล้ว

         ตอนนี้เธอกำลังคบหาอยู่กับเลโอวัติ ชายหนุ่มผู้เพียบพร้อม ร่ำรวย เธอไม่อยากให้เขามาได้ยินใครเรียกเธอแบบนี้ แม้เขาจะไม่เคยแสดงท่าทีรังเกียจความเป็นหญิงหม้ายของเธอก็ตาม

         “ขอโทษค่ะคุณนภัสดาว แต่คุณสวยมากเลยนะคะ” สร้อยทองพูดอย่างเอาใจ แม้เธอจะไม่ชอบนภัสดาวเลย ไม่ชอบตั้งแต่ผู้หญิงคนนี้ก้าวเข้ามาอยู่ในบ้านในฐานะคุณผู้หญิงคนใหม่ แต่ก็ต้องจำใจรับใช้ เพราะเห็นแก่เงินและความอยู่รอดของตัวเอง

         นภัสดาวเป็นคนสวย เซ็กซี่ ดูภายนอกมองเห็นแต่ความงดงาม น้อยคนที่จะรู้ว่าเบื้องหลังหญิงสาวร้ายกาจมากเพียงใด ขัดขวางลูกสาวของคุณผู้ชายของบ้านนี้ที่เพิ่งตายจากไป ไม่ได้มรดกแม้แต่บาทเดียว ใช้แผนสกปรกเอาบ้านหลังนี้มาเป็นของตัวเอง อีกเหตุผลที่เธอยังอยู่ที่นี่ก็เพราะเผื่อว่า จะสามารถช่วยให้คุณหนูของเธอเอาบ้านกลับคืนมาได้

         “ฉันต้องสวยเป็นพิเศษสิ เพราะคืนนี้ เป็นคืนที่จะโรแมนติกที่สุด แกไม่ต้องรอเปิดประตูให้ฉันนะนังสร้อยทอง เพราะฉันจะนอนค้างที่ห้องคุณเลโอวัติ”

         “น่าอิจฉาจังเลยนะคะ”

         “แกไม่ต้องอิจฉาฉันหรอก ถ้าฉันได้ดิบได้ดีเป็นภรรยาของคุณเลโอวัติเมื่อไหร่ แกจะสุขสบาย ฉันจะขึ้นเงินเดือนให้”

         “ขอบคุณล่วงหน้านะคะคุณผู้ เอ่อคุณนภัสดาว”

         “แกรีบลงไปเตรียมร้องเท้าให้ฉัน เอาสีทองที่เพิ่งซื้อมานะ”

         “ค่ะ” สาวใช้ก้าวออกจากห้อง

         นภัสดาวยิ้มให้กับตัวเองในกระจก ใจเต้นระทึกเมื่อนึกถึงอ้อมกอดแข็งแกร่ง ความร้อนแรงที่ถาโถมเข้าใส่เธอเหมือนปีศาจ แต่เป็นปีศาจที่ทำให้เธอกรีดร้องทั้งคืนด้วยความซ่านสยิวตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้า

         “เลโอวัติ คืนนี้ ฉันจะทำให้คุณสำลักความสุข ลืมฉันไม่ลงไปจนตาย”

 

 

         ณ ห้องอาหารบนดาดฟ้า นภัสดาวกำลังมีความสุขอยู่กับเลโอวัติ คืนนี้เขาเอาอกเอาใจเธอเป็นพิเศษ สุภาพอ่อนโยน น่ารัก เธอไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมเขา ถึงยังครองตัวโสดมาได้จนถึงป่านนี้

         อาหารกำลังทยอยมาเสิร์ฟบนโต๊ะ มีทั้ง เนื้อโกเบ ปูอลาสก้า ล็อบเตอร์โรลล์ คาเวีย เห็ดทรัฟเฟิล ที่ถูกปรุงมาในเมนูต่างๆ จัดวางบนจานแก้วสวยหรู ส่วนเครื่องดื่มก็คือน้ำเปล่า ไวน์และแชมเปญราคาแพง

         “สุขสันต์วันเกิดนะครับคุณนภัสดาว” ดวงตาหวานระยับจ้องมองดวงหน้าสวย ผู้หญิงคนนี้ สวย สง่างาม ราวกับพญาหงส์ เขาแอบชอบเธอ หากแต่ในตอนนั้นสามีของเธอยังมีชีวิตอยู่ เขาจึงได้แต่เก็บงำความรู้สึกเอาไว้ จนในวันนี้ ที่เธอกลับมาโสดอีกครั้ง เพราะสามีของเธอ ตายจากไปแล้วเมื่อปีก่อน

         ความสำพันธ์ของเขาและนภัสดาวใกล้ชิดแนบสนิทมากขึ้นเรื่อยๆ เธอถูกใจเขาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาที่สวยงาม ชื่อเสียง ฐานะทางการเงิน เซ็กส์เร่าร้อนที่เข้าขากันได้เป็นอย่างดี เขาไม่สนใจหรอกว่าเธอจะเคยเป็นภรรยาของใครมาก่อนหรือเปล่า เพราะคนเรามันก็ต่างมีอดีตด้วยกันทั้งนั้น

         “อะไรคะเนี่ย” หญิงสาวมองดูกล่องกำมะหยี่สีแดงสดที่ถูกมือใหญ่เลื่อนออกมาข้างหน้า

         “เปิดดูสิครับ”

         “ค่ะ” นภัสดาวยิ้มเย้ายวน ก่อนจะค่อยๆเปิดกล่องกำมะหยี่เล็ก ดวงตาเฉี่ยวเบิกกว้างเมื่อพบว่าในนั้นมีสร้อยข้อมือเพชรวางอยู่ แสงเพชรแวววาวระยิบระยับบาดตา บ่งบอกถึงมูลค่าของมันว่ามากมายเพียงใด

         “สวยเหลือเกินค่ะ”

         “ผมดีใจนะครับที่คุณชอบ”

         “ช่วยใส่ให้ดาวหน่อยสิคะคุณเลโอ”

         เลโอวัติพยักหน้าก่อนจะรับสร้อยมาจากมือของหญิงสาว จากนั้นก็บรรจงสวมสร้อยให้ด้วยกิริยาอ่อนโยน

         “ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ ทั้งในวันคล้ายวันเกิดนี้และทุกวัน ตลอดไป” ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงจะจุมพิตมือขาวสะอาด หากแต่เสียงหนึ่งดึงขึ้นมาเสียก่อน จึงชะงัก

         “คุณอา คุณอาขา” ณัฐธีราเดินเข้ามาใกล้ หญิงสาวสวมเสื้อยืดเอวลอย อวดเอวคอดกิ่วดังทรวดทรงของนาฬิกาทราย กางเกงยีนส์ขาสั้น แต่งหน้าด้วยโทนสีดำเช่นเคย

         “ตามหาตั้งนาน อยู่นี่เอง”

         นภัสดาวจิกตามองผู้ที่เข้ามาขัดจังหวะอย่างไม่พอใจ เขากำลังจะจูบมือเธอ แต่นังเด็กสก๊อยนี่ดันเข้ามากวน มันเป็นใครกันนะทำไมถึงทำท่าทางสนิทสนมกับเลโอวัติมากขนาดนี้ ดูท่าทางเหมือนเด็กใจแตกที่ชอบซ้อนมอเตอร์ไซด์พวกนังเลง ไม่ได้ดูดีมีชาติตระกูลสักนิด

         “อาบอกแล้วไงว่าคืนนี้อามีธุระ ไปหาไม่ได้” ชายหนุ่มบอกเสียงขรึม นี่เป็นคืนที่สองแล้ว ที่เธอตามติดเขาแจ ทั้งกลางวันและกลางคืน

         “ก็ทาร่าคิดถึงนี่คะ”

         “จะคิดถึงได้ยังไง เราเพิ่งห่างกันแค่สองชั่วโมงเองนะ”

         “ไม่รู้ล่ะ คิดถึงก็คือคิดถึง”

         “อะแฮ่ม” นภัสดาวแกล้งกระแอมกระไอ

         “ขอโทษนะครับคุณนภัสดาว ที่หลานสาวของผมทำตัววุ่นวาย”

         “ดาวเพิ่งรู้ว่าคุณเลโอมีหลานสาวด้วย”

         “เธอเป็นลูกสาวบุญธรรมของพี่ชายคนหนึ่งที่ผมเคารพน่ะครับ คุณพ่อของเธอส่งเธอมาจากญี่ปุ่น ให้มาฝึกงานกับผม”

         “แสดงว่า ไม่ใช่หลานแท้ๆ”

         “ใช่ค่ะ เราสองคนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทางสายเลือดเลย ฉันชื่อณัฐธีรา ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะคะคุณนภัสดาว” ร่างอรชรนั่งลงบนเก้าอี้ พร้อมกับเอ่ยคำทักทาย

         “ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้ง พูดอย่างกับว่าเคยรู้จักคุณนภัสดาวมาก่อนอย่างนั้นแหละ หรือว่ายังไงครับคุณดาว รู้จักทาร่าหรือเปล่า”

         “คิดว่าไม่นะคะ” หญิงสาวมองเจ้าของดวงหน้าเรียวสวยนั้นอย่างพิจารณา เด็กสาวที่แต่งหน้าแต่งตัวเหมือนพวกพังค์ เธอเพิ่งเคยเจอและรู้จักนี่แหละ

         “กำลังทานอะไรอยู่คะเนี่ย น่าทานจัง อุ้ย ของโปรดทาร่าตั้งหลายอย่าง” ณัฐธีรากวาดตามองดูอาหารบนโต๊ะอย่างสนใจ เธอจะยังไม่บอกหรอกว่า เธอคือเพื่อนสนิทของลูกสาว ของคนที่ผู้หญิงคนนี้เคยหลอกจนหมดเนื้อหมดตัวล้มละลาย

         “ถ้าทาร่าอยากทาน กลับไปทานที่ห้องไหม อาจะสั่งให้”

         “ทานข้าวคนเดียวเหงาจะตาย ทานด้วยกันหลายๆคนสนุกดี จริงไหมคะคุณนภัสดาว”

         “ค่ะ” นภัสดาวเค้นเสียงตอบ

         “เห็นไหมคะว่าคุณนภัสดาวเธอนุญาติแล้ว” สาวสวยจากญี่ปุ่นเลื่อนเก้าอี้ของตนมาชิดกับเลโอวัติ สอดแขนเข้าคล้องแขนล่ำ

         “คุณอาขา ทาร่าอยากทานสลัดผักราดครีมมัสตาร์ดน้ำผึ้งจังค่ะ”

         “แต่อาว่า เท่านี้ก็เยอะพออยู่แล้ว”

         “ช่างเถอะค่ะคุณเลโอ ถ้าเธอยากทานก็สั่งให้เธออีกจาน ดาวสั่งให้เองนะคะ” นภัสดาวยิ้มทั้งที่ในใจกำลังเดือดราวกับน้ำร้อน นังเด็กจอมสาระแน ดูก็รู้ว่ามันจงใจมาขัดขวางความโรแมนติกในค่ำคืนนี้ของเธอกับเขา ญาติพี่น้องก็ไม่ใช่ อะไรก็ไม่ใช่แค่ลูกสาวของคนรู้จัก แต่กลับทำตัวสนิมสนม ออดอ้อนออเซาะอย่างกับเป็นเมียของเขา

         “ช่วยจัดสลัดผักราดครีมมัสตาร์ดน้ำผึ้งมาให้คุณณัฐธีราอีกจาน”

         “ครับ” บริกรที่นำอาหารมาเสิร์ฟพยักหน้ารับคำสั่ง ด้วยกิริยานอบน้อม

         “ทานข้าวเสร็จแล้ว พาทาร่าไปเต้นรำต่อนะคะ”

         “ไม่ได้ วันนี้เป็นวันสำคัญของคุณนภัสดาว อาต้องอยู่กับเธอ ส่วนเราทานข้าวเสร็จให้รีบกลับห้อง ถ้าดื้อและไม่เชื่อฟังอาจะฟ้องคุณพ่อคุณแม่ของเรา”

         ริมฝีปากจิ้มลิ้มที่ถูกทาด้วยสีดำเม้มเข้าหากันเมื่อถูกขัดใจ แอบแลมองใบหน้าสวยเจิดจรัสแล้วอดน้อยใจในความสวยของตัวเองไม่ได้ เรียกได้ว่าเธอนั้นทั้งกะโปโลและห่างไหลจากความสวยงามของนภัสดาวอย่างลิบลับเลยทีเดียว

         “ทานอาหารกันเถอะค่ะ เดี๋ยวสลัดก็คงตามมา”

         นภัสดาวซ่อนความสะใจไว้ใต้สีหน้าเรียบเฉย ไม่กี่นาทีที่ได้เจอ เธอก็รู้สึกไม่ถูกชะตากับเด็กสาวคนนี้เหมือนเป็นศัตรูกันมาแต่ชาติปางก่อน ขออย่าให้มันเข้ามาขัดขวางความรักระหว่างเธอกับเลโอวัติเลย เพราะไม่อย่างนั้นชีวิตของมันได้รู้จักนรกก่อนที่จะตายแน่

        

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา