อารยธรรมที่หายไป

-

เขียนโดย new235

วันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 15.12 น.

  3 ตอน
  1 วิจารณ์
  5,212 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 16.52 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) เดินทางขึ้นเกาะ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 "นาย ๆ นายคนนั้นนะพอจะรู้จักคนนำทางเก่งๆ แถวนี้สักคนไม"  ศร ตะโกนเรียกชายชาวพื้นเมืองที่เดินผ่านหน้าที่พัก เขาตื่นแต่เช้าเพื่อจะหาคนนำทางให้ได้ภายในเช้าวันนี้

"คุณต้องการคนนำทางหรอคับ ตอนนี้คงจะยากหน่อยนะในฤดูฝนแบบนี้ คงไม่มีใครที่ไหนเข้าป่ากันหรอกคับ" ชายชาวพื้นเมืองตอบ

"อ๋อๆ แล้วผมจะทำอย่างไงดีละ"  ศรถามต่อ

"แต่ก็พอจะมีคน คนหนึงอยู่นะ แต่คุณต้องจ่ายหนักหน่อย"

"เรื่องเงินผมไม่มีปัญหา ของแค่ได้คนนำทางและลูกหามสักคน"

"ถ้าคุณไม่มีปัญหา ผมก็จะพาไปหาเขา"  

ชายชาวพื้นเมืองเดินนำผมไป มีกระท่อมเล็กๆอยู่หลังหนึ่งสร้างหลบอยู่ในป่าระเมาะไม่ไกลจากสนามบิน

" โตบา โตบา นายอยู่ไม ๆ"  ชายชาวพื้นเมืองเรียกเพื่อนขอตนอยู่พักหนึ่งจึงมีเสียงตอบกลับมา

"ใครนะ นาขิ หรอฉันจำเสียงนายได้นายต้องการอะไร" เขาพูดพร้อมกับเปิดประตูกระท่อมออกมา เขาเป็นคนรูปร่างกำยำ หนวดคราวรุงรังไม่สวมเสื้อ

"ฉันมีงานมาให้นาย คุณคนนี้เขาต้องการคนนำทางฉันเลยแนะนำนาย"

"อ๋อหรอ แล้วนายบอกเขาหรือยังว่าฤดูนี้ไม่มีใครเขาเข้าป่ากัน" โตบา ถาม

"ฉันบอกแล้ว ฉันบอกแล้ว " นาขิ ตอบ

"งันก็เข้าใจแล้วไม่ใช่หรือ แล้วทำไมยังมาเรียกฉันอีก" โตบา ทำท่าจะปิดประตูกลับเข้าไป

"เดียวก่อน นายโตบา โตบาใช่ไมถ้าฉันเรียกผิดก็ขอโทษด้วย นายต้องการเท่าไร"

เมื่อได้ยิน ศร พูดแบบนั้น โตบาก็หันกลับมา

"มันเป็นราคาที่สูงนะ ถ้าคุณจ่ายไหวคุณคงไม่ใช่นักท่องเทียวสินะ ไม่งันไม่มากันในฤดูแบบนี้แน่"  

"พวกเราเป็นนักโบราณคดี" ศร ตอบ

"กะแล้วเชียว พวกคุณจะไปเกาะไหนกันละ ฉันเป็นพรานอันดับหนึ่งนะ บอกมาเลยพวกคุณจะไปไหนบอก โตบา คนนี้มาเลย" โตบา ยืนกอดอกท่าทางภูมิใจ

"เกาะ มากิรา"

"อ๋อ มาริกา มันไกลนะคุณ  และไปได้เฉพาะทางเรือ คนมีเรือหรือยังละถ้ายังไม่มี ผมมีให้บริการ"

"ยังเลย ฉันยังไม่มี ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีเลยและอีกอย่างลูกหาม"ศร พูดยังไม่ทันจบ นาขิ ก็ยกมือขวาขึ้น "ผมนี่ไง นาขิ เป็นลูกหาม" ยินดีที่ได้ร่วมงานนะคับ นาขิ ยิ้มๆและจับมือเทคแคร์ผมเป็นการใหญ่

เราตกลงกันเรื่องค่าจ้างและนัดเจอกันที่ท่าเรือ ตอน 7.00 โมง ผมเดินกลับไปที่พักเพื่อจะแจ้งข่าวให้ทุกคนเตรียมตัวออกเดินทาง แต่ทุกคนออกมายืนรอผมอยู่ที่หน้าร้านพร้อมสัมภาระสำหรับเดินทางแล้ว

"นายคงไม่ทำให้พวกเราผิดหวังนะ ศร ฉันเตรียมของเรียบร้อยหมดแล้วพร้อมที่จะออกเดินทาง"

ยานพูดขึ้นพร้อมกับกระดกกาแฟกระป๋องที่เอามาจากเมื่อไทย

"ฉันได้เรือคนนำทางพร้อมลูกหาม เขานัดให้พวกเราไปรอที่ท่าเรือตอน 7โมง"

"เยี่ยมเลย ศร" ผมมองนาฬิกาข้อมือของตัวเอง "นี่ก็เหลืออีกครึ่งชั่วโมง พวกเราทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วเหลือแต่นาย ศร"

"หวังว่าอากาศวันนี้จะดีตลอดทางนะ" ยาน แหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า “เป็นอย่างที่นายพูดนะ ชล อาการวันนี้ดีไม่มีเมฆฝนเลยแม้แต่น้อย สมแล้วที่นายเรียนด้าน อุตุนิยมวิทยา มา"

หลังจากนั้นอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงพวกเราก็มารอที่ท่าเรือเล็กๆแห่งหนึ่งมันอยู่ห่างจากสนามบินประมาณ 10 นาทีเป็นท่าเรือที่สร้างขึ้นแบบง่ายๆบนทางน้ำทะเลที่ไหลเข้ามาหาเกาะคล้ายกับร่องน้ำของป่าชาดแลน

"สวัสดี ทุกคนคงพร้อมแล้วสินะ" โตบา ตะโกนมาแต่ไกลเขาขับเรือลักษณะเป็นเรือประมงลำไม่ใหญ่มากสภาพเก่าๆข้างเรือเขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า โตบาจอมพลัง เข้าจอดเทียบท่าพร้อมกับนาขิก็ลงมาขนกระเป๋าพวกเราขนเรือ

ทุกคนหันมองหน้ามอง ศร เมื่อเห็นสภาพเรือของ โตบา

"เอาน่า" ศร ตอบแล้วหัวเราะร่า

พวกเราขึ้นเรือพร้อมออกเดินทาง

"เมื่อพ้นจากป่าชาดแลนนี่ไป จะเจอกับทะเลเปิด" โตบาเหยียบคันเร่งเรือหมุนพังงามุ่งหน้าสู่ทะเลเปิด

เรือของโตบาแล่นไปได้อย่างราบลื่น มันทำความเร็วได้อย่างไม่หน้าเชื่อว่าจะแล่นได้แบบนี้

เราใช้เวลาเกือบ 7 ชั่วโมงกว่าจะเข้าถึงชายฝั่ง เราส่งให้โตบาเทียบฝั่งทางด้านตะวันตกของเกาะ

"พวกคุณมาทำอะไรกันฝั่งตะวันตก ที่นี่เต็มไปด้วยป่าดงดิบนะ" โตบาทำคิ้วขมวดด้วยความสงสัย

"อย่าถามเลย โตบา แค่ทำตามที่พวกเราบอกก็พอ" ศร ยกกล้องส่องทางไกลขึ้นส่อง "หน้าจะเป็นจุดนี่นะจากแผนที่ เธอว่าไง เมล์"

"ไม่แน่ใจนะต้องเสี่ยงดวงเอา บอกโตบาเทียมฝั่งเลย” เมล์บอกกับศร

ศรให้สัญญาณมือกับโตบาให้เทียมฝั่ง

"หินโสโครก เต็มเลยบริเวณนี้ ดีนะที่เรือ โตบา เป็นเรือเล็กไม่งันคงเข้าไม่ถึงฝั่ง" ผมพูด

เราลงจากเรือและเดินเข้าฝั่ง หาดทรายที่นี่ทอดเป็นแนวยาวไปตลอดฝั่งมันขาวบริสุทธิ์ เหมือนกับใครเอาผ้าสีขาวมาปูไว้

"ธรรมชาติของที่นี้คง ไม่ค่อยได้ถูกรบกวนโดนมนุษย์ จึงยังคงความสวยงามไว้แบบนี้" ยานพูดแล้วเขาก็ก้มลงกอบเอาทรายของชาดหาดใส่กระปุกเล็กๆที่เขาเตรียมมา ยานเป็นนักธรณีวิทยาเขาชอบเก็บสะสมดินและหินต่างๆ ในสถานที่ ที่เขาไป  

ตูม !!! เสียงระเบิดตูมใหญ่ดังสนั่นหวั่นไหวมองเห็นกลุ่มควันขนาดใหญ่ลอยขึ้นกลางป่า ทุกคนหมอบลงด้วยความตกใจและเสียงกรี๊ด ร้องขอ เมล์ ดังลั่น

"นั่นมันเกิดบ้าอะไรขึ้น" ยาน นอนหมอบกับพื้นทราย

"ทุกคน ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บนะ" ผมพูดพร้อมกับชี้มือไปที่กลุ่มควันขนาดใหญ่กลางป่า

"มันระเบิดอยู่ตรงนั่น แล้วระเบิดอะไรมาระเบิดกลางป่ากลางเขาแบบนี้"

"คงมีวัว หรืออะไรบางอย่างไปเหยียบกับระเบิดเข้า" โตบาพูดขึ้น

"กับระเบิด"ยานถามต่อ

"ใช่คับ กับระเบิด มันเป็นกับระเบิดตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั่วทั้งเกาะของที่นี่เคยถูกกองทัพญี่ปุ่นใช้เป็นฐานทัพ และพวกเขาก็ฝังกับระเบิดเอาไว้ทั่วไปหมด” โตบาอธิบาย

"ฉันก็เคยอ่านเจอในหนังสือนะ แต่มันก็ตั้ง 70 กว่าปีมาแล้วนี่กับระเบิดพวกนี้ยังทำงานอยู่อีกหรอ" เมล์ตั้งคำถาม

"ใช่คับมันยังใช้ได้ แต่ละเกาะของที่นี่ จะถูกแบ่งเขตเอาไว้ซึ่งเมื่อกี้คงมีตัวอะไรเข้าไปในเขตอันตราย โชคไม่ดีเลยไปโดนระเบิดเข้า แต่ถึงแม้จะแบ่งเขตเอาไว้ ก็ไม่ ร้อยเปอร์เซ็น ที่ที่เรายืนอยู่นี่ก็อาจจะมีกับระเบิดฝังอยู่ก็เป็นได้"  พอโตบาอธิบายจบ ทุกคนก็ก้มลงมองเท้าของตัวเอง

"คงไม่โชคร้ายแบบนั้นนะเรา" ยานทำท่าทางย่อกๆ บนพื้นทรายที่เขายืนอยู่

ระเบิดเมื่อสักครู่นี้ ทำเอาทุกคนสีหน้าไม่ค่อยดี

"เราจะเลี่ยงเส้นทางอันตรายให้มากที่สุด"  ศร กลางแผนที่ขึ้นบนพื้นทรายและเรียกพวกเรามารวมตัวกัน

"พวกนายคงจะตกใจกับระเบิดเมื่อสักครู่นี้"  ศรหันมาถามพวกเรา เราพงึกหน้ารับพร้อมๆกัน

"จุดมุ่งหมายของเราคงไม่เปลื่ยนเพราะความกลัวนะ" ศรถามอีกครั้ง

ไม่มีใครตอบ คำถามของ ศร ได้แต่มองหน้ากัน

"ไม่ต้องกังวลหรอก ศร พวกเราไม่มีใครถอดใจตั้งแต่เริ่มต้นหรอก จริงไม่พวกเรา"  ผมเอามือโอบไหล่ของ ยานและเมล์

"อึม" ยานและเมล์ตอบสั้นๆ

"ตกลงถ้าเป็นแบบนั้น ฉันแค่เป็นห่วงพวกนาย ไม่ได้กังวลอะไร งันคงจะต้องตั้งแค้ปม์กันที่ชาดหาดนี่ละ ถ้าเดินเข้าไปในป่าคงมืดก่อนและหาที่ตั้งแค้มปม์ลำบาก" ศรปลดเป้ของตัวเองวางลง

"ถ้าพวกคุณ ตัดสินใจกันแล้วผมกับนาขิ ก็ไม่มีปัญหาอะไร เรื่องอาหารคืนนี้ผมขอเป็นคนจัดการให้ละกัน ถือเป็นการปลอบใจสำหรับผม ไป ๆ นาขิ อย่ามัวยืนงงอยู่รีบไปเอาปลาที่ฉันขังไว้ใต้ท้องเรือมา"  โตบายิ้มเห็นฟันขาวตัดกับสีผิวของเขาที่ดำสนิทความใจดีของ โตบา เรียกรอยยิ้มของพวกเรากลับคืนมา เราตั้งแค้มป์และเอร็ดอร่อยกับอาหารของโตบาที่ทำจากปลารดชาติออกเค็มๆ แต่ก็พอกินได้

"พรุ่งนี้เราจะออกเดินทาง แต่เช้า จากแผนที่เราต้องเดินไปทางตะวันตกของเกาะและเลี่ยงเขตอันตราย ซึ่งต้องพึ่งนายละนะ โตบา" ศรหันหน้ามองโตบา

"ได้คุณ ถ้าต้องการแบบนั้น ผมของพูดตรงๆนะผมก็ไม่เคยมาจุดนี้ของเกาะแต่พอเดาออกอยู่บางว่าจะเดินไปทางไหน" โตบาตอบ

"ขอให้นายเป็นคนที่โชคดีก็แล้วกัน โตบา" ยานพูด

"คงไม่มีใคร มีปัญหาอะไรเกี่ยวกับการเข้าป่าพรุ่งนี้นะ ถ้างันก็แยกย้ายกันพักผ่อนเถอะ"

ทุกคนแยกย้ายกันเข้าเต้นท์ของตัวเอง มีเพียง โตบากับนาขิ ที่นอนข้างนอกพวกเขาบอกว่าไม่เคยนอนเต้นท์ขอนอนกับพื้นดินดีกว่า  ผมนอนไม่ค่อยหลับเพราะความวิตกกังวลเล็กน้อยเพราะสภาพป่าของที่นี่มันไม่หน้าไว้ว่างใจ และทั้งคืนก็มีเสียงแมลง และสัตว์ป่าที่ออกหากินในตอนกลางคืน ร้องกันให้ระงม แต่มันก็เป็นแค่คืนแรกของเกาะนี้ พรุ่งนี้เราต้องเดินเข้าไปในป่าและจะต้องเจอกับอะไรบ้างไม่มีใครรู้

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา