อำมหิต...สั่งตาย

-

เขียนโดย SunSand_AB

วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.36 น.

  17 ตอน
  4 วิจารณ์
  17.32K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 23.32 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) การกลับมาของ กิตติ์ดนัย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     ภายในห้องเรียนที่แสนคึกคัก บวกกับความวุ่นวาย ของนักเรียนในห้องที่พากันพูดคุย สนุกสนานเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวในห้องเรียน หลังจากที่ยืนตากแดดหน้าเคารพธงหลังจากเคารพธงชาติเสร็จ แต่วันนี้กลับแปลกกว่าทุกวัน เพราะมีบุคคลคนนึงหายไป.. ซึ่งปกติเขาจะมาเรียนทุกวัน ไม่มีขาด นอกจากป่วยจริงๆ เขาถึงจะลาไม่มาเรียน แต่วันนี้ทำไม.. ทำไมเขาถึงไม่มาเรียน

"แปลกว่ะ ทำไมวันนี้ไอ้กิตไม่มาเรียนว่ะ"อาร์มเอ่ยขึ้น สายตาก็มองไปยังโต๊ะเรียนของกิตติ์ดนัย

"แหม เมื่อวานเราจัดเต็มซะขนาดนั้น ถ้ามันมาเรียนก็แปลกแล้วล่ะมึง"หมอกพูด

"นั่นสิ โดนยำซะขนาดนั้น ถ้ามันยังทนได้ ถึงขั้นมาเรียนปกติได้ก็ไม่ธรรมดา ป่านนี้คงนอนหยอดน้ำข้าวต้มอยู่โรงบาลล่ะมั้ง ฮ่าๆๆ"วินหัวเราะอย่างสะใจ

"เออ จริงด้วยว่ะ.. เผลอๆ มันกลับมาคราวนี้อาจจะยอมสละทุนให้นนท์มันด้วยนะ ฮ่าๆๆ"อาร์มหัวเราะชอบใจ

"ว่าแต่เมื่อวาน นนท์มึงก็ทำเกินไปนะ ไม่สงสารมันบ้างหรอ"มอสพูดบ้างหลังจากที่นั่งฟังเพื่อนๆ มานาน

นนท์ที่กำลังเล่นโทรศัพท์ถึงกับวางโทรศัพท์ลง และมองมอสอย่างไม่พอใจ

"มึงเป็นไรกับมันว่ะ ตั้งแต่เมื่อวานล่ะ มึงเห็นใจมันมากขนาดนั้นเลยว่ะ"นนท์ถาม

"ปะ..ปะ เปล่า... คือก็...กูเห็นมึงทำกับขนาดนั้น กูก็เลย.."มอสพยายามพูดไม่ให้ทุกคนรู้ว่าเขาเห็นใจกิต

"เฮ้อ ไอ้มอส..ถ้ามึงยังเห็นใจมัน มึงโดนดีแน่"วินพูดขู่พร้อมชี้หน้ามอส จนเด็กหนุ่มต้องก้มหน้าอย่างกลัวเกรง

ตลอดการสนทนาของพวกเขา ไม่รู้เลยว่าจริงๆ แล้วกิตติ์ดนัยยืนฟังอยู่ห่างๆ ฟังอย่างเครียดแค้น ยิ่งเขาเห็นหน้าของพวกสารเลวตรงหน้า ยิ่งจะฆ่าพวกมันให้ตายๆ ไปจากโลกใบนี้ซะด้วยซ้ำ

"สนุกกันมากสินะพวกมึง...รอให้ถึงเวลาก่อนเถอะ จะเป็นทีของกูบ้าง"พูดจบหน้าต่างของเรียยทุกบาน ก็ปิดพน้อมกัน

'ปั่ง!!'นักเรียนทุกคนในห้องสะดุ้งโหยง

ในขณะที่ทุกคนกำลังตกใจ ก็มีเพื่อนนักเรียนที่นั่งใกล้หน้าต่าง พยายามจะเปิดมันออก... แต่กลับทำไมได้

"เฮ้ย เปิดไปดิว่ะห้องมันมืดนะเนี่ย"นักเรียนชายคนนึงพูด

ในขณะที่นักเรียนหญิงอีกคนพยายามจะเปิดหน้าต่าง หันกลับมาตอง

"มันเปิดไม่ออกว่ะ"นักเรียนหญิงตอบ

ในขณะที่ทุกคนกำลังสงสัยเรื่องหน้าต่างที่เปิดไม่ออก ก็มีนักเรียนชายคนนึงเดินเข้ามาในห้องเรียน จนทำให้ทุกสายตาต้องหันมามองที่เขาเป็นตาเดียว

เด็กหนุ่มที่เรียบร้อย พูดน้อย และขยันเรียน เป็นมิตรกับทุกคน อยู่ในชุดนักเรียนกับกระเป๋าสะพาย และใบหน้าที่เกลี้ยงเกลาไร้ซึ่งบาดแผล เขาเป็นอดีตเพื่อนรักของชานนท์...นั่นคือ กิตติ์ดนัย

"สวัสดียามเช้า ทุกคน.."กิตติ์ดนัยทักทายด้วยเสียงเรียบ ดูเย็นชา ราวกับไม่ใช่เขาคนเดิม

กิตติ์ดนัยเดินตรงมาที่โต๊ะเรียน พร้อมกับมองพวกวินและชานนท์ด้วยสายตาเยือกเย็น และทันที่กิตนั่งลง หน้าต่างก็ถูกกระแทกเปิดออกจากห้องทันที!

ทิ้งคำถามให้พวกวินและชานนท์สงสัย ทำไมกิตถึงไม่มีบาดแผลจากการทำร้าย!!

บรรยากาศในห้องเรียนวันนี้ดูสงบผิดปกติ วิชาภาษาไทย ปกติแล้วจะเป็นวิชาเดียวที่นักเรียนในห้องจะพากันพูดคุยเสียงดัง จนไม่เป็นอันเรียน แต่วันนี้กลับไม่เหมือนกับทุกวัน

"เอาล่ะ ใครที่จนเสร็จแล้วเดี๋ยวเอามาส่ง และทำแบบฝึกหัดในหนังสือหน้าสามสิบนะคะ"ครูสาวสั่งงาน ก่อนที่จะนำหนังสือในมือวางลงบนโต๊ะตัวใหญ่ ที่ใช้สำหรับคุณครูเท่านั้นที่นั่งได้ 

ครูสาวนั่งลงพร้อมกับนั่งเล่นโทรศัพท์ เช็คข่าวสารในโลกโซเชี่ยล จนเจอกับข่าว ข่าวนึงที่ทำให้เธอตกใจ

'พบศพนักเรียนชายในตึกร้าง'

เธออ่านเนื้อหาข่าวยิ่งทำให้เธอช็อคกว่าเดิม นักเรียนชายคนนั้นกำลังนั่งเรียนอยู่ในห้อง 

'ซึ่งพบว่าสภาพศพ มีบาดแผลถูกบริเวณหน้าที่ถูกกรีดลากมาถึงแก้ม บริเวณแผลเปิดกว้างจนแทบจะเห็นเนื้อใน'

ในขณะที่ครูสาวกำลังนั่งอ่านข่าวก็เสียงลอยตามมา...

"รวมทั้งบาดแผลบนใบหน้า ที่ถูกหินทุบจนเสียโฉม คาดว่าผู้ตายถูกฆ่าตายเพราะเพื่อนชั่ว ครูว่างั้นมั้ยครับ"เสียงของกิตดังเข้ามาในหัวของเธอ 

ครูสาวหันไปมองกิตติ์ดนัย ที่นั่งจ้องมาที่เธอ สภาพน่ากลัว เสื้อนักเรียนที่ขาวบริสุทธิ์กลับมีคราบเลือดติดเต็มเสื้อ ใบหน้าที่เคยเกลี้ยงเกลากลับมีแผลเต็มใบหน้า ดวงตาที่กลมโตมีตาดำมีประกายนัยต์ตาชวนมอง กลับเป็นสีขาวโผลน และมีเลือดเดือดอาบ สีผิวที่ขาวอมชมพู กลับขาวซีดจนเห็นเส้นเลือด

ครูสาวนั่งจ้องมองจนตัวสั่นระริก ด้วยความกลัว

"ครูคะ!! ครู.. เป็นอะไรไปคะ"นักเรียนหญิงคนนึงเดินเข้ามาส่งงาน รีบเอ่ยถาม

"กะ..กะ..กิต กิตติ์ดนัย"ครูสาวชี้ไปที่กิตติ์ดนัย จนทุกคนหันไปมองตาม 

แต่สิ่งที่ทุกคนเห็นคือ กิตติ์ดนัยยังนั่งตั้งอกตั้งใจจดงานบนกระดาษ ก่อนที่จะวางปากกา และหยิบสมุดลุกขึ้นมาหาเธอ เพียงแค่เด็กหนุ่มลุกขึ้นมา เธอก็ตัวสั่นระริก อย่างหวาดกลัว เพราะกิตติ์ดนัยที่เธอเห็นตอนนี้ คือผีดีๆ นี่เองไม่ใช่คน แบบที่นักเรียนในห้องเห็น

"ผมจดงานเสร็จแล้วครับ.."กิตติ์ดนัยยิ้มมุมปากเดินเข้ามาหาเธอ

"อย่า...อย่าเข้ามา อย่านะ.. ออกไป ออกไป กรี๊ดดดดดดดดด"ครูสาวกรีดร้องและวิ่งออกจากห้องไป

ทิ้งให้นักเรียนในห้อง นั่งงุนงงอย่างสงสัย

"ครูเป็นไรอ่ะ ทำไมทำท่าอย่างกับเจอผี"นักเรียนหญิงที่ตั้งใจจะเดินมาส่งงาน เอ่ยถามอย่างสงสัย

ในขณะที่ฟ้าใส กำลังนั่งตัวสั่นระริก ไม่ต่างกับครูสาวเมื่อครู่ เธอเห็นข่าวที่แชร์ในโลกโซเชี่ยล ซึ่งเธอกำลังนั่งอ่านข่าวที่มีภาพศพของกิตติ์ดนัยนอนตายในอนาถในภาพ

"กะ...กิตตายแล้ว !!"ฟ้าใสพูดจนทำให้ทุกคนในห้องหันมามองเธอ

กิตติ์ดนัยปล่อยสมุดลง ยืนหัวในลำคออย่างเยือกเย็น เขาก้มหน้าลงหัวเราะในลำคอชวนสยอง เพื่อนๆ ในห้องพากันมองมาที่เขาเป็นตาเดียว นักเรียนหญิงที่ยืนข้างๆ เขาถึงกับผงะเดินหนีไปหลังห้อง

"ใช่...ใช่แล้ว.."กิตติ์ดนัยพูด ทุกคนถึงกับหน้าถอดสีไปตามๆ กัน

ชานนท์นั่งมองด้วยความอึ้ง เมื่อกิตติ์ดนัยกลายสภาพเป็นผีต่อหน้าทุกคน จากกิตติ์ดนัยใส่ชุกนักเรียนร้อย ใบหย้าเกลี้ยงเกลา กลับกลายเป็นผีเด็กนักเรียนชายเสื้อนักเรียนเปื้อนเลือด ใบหน้ามีบาดแผลเน่าเฟะ เลือดสดๆ ไหลกองเต็มพื้น 

ทุกคนในห้องเรียนเห็นดังนั้นจึงพากัน กรีดร้อง โวยวาย หน้าต่างและประตู ปิดล็อกพร้อมกันอย่าไม่ทราบสาเหตุ ยิ่งไปกว่านั้น ไฟในห้องดับลง ทุกคนพากันวิ่งหนีไปอยู่หลังห้องอย่างหวาดกลัว

"กูตายแล้ว!!"กิตติ์ดนัยพูด พร้อมกับกระโดดขึ้นมาโต๊ะเรียนกลางห้อง ชี้หน้าทุกคน

"กูจะกลับมาเอาคืนพวกมึง!!"

สิ้นเสียงกิตติ์ดนัย ทุกคนพากันร้องแหกปากอย่างหวาดกลัว กิตติ์ดนัยหันมามองชานนท์ น้ำตาลินไหลเป็นสายเลือด ก่อนที่จะหายไปกับสายลม 

และในเวลาไม่นานครูจากห้องข้างๆ ก็เปิดประตูเข้ามาในห้องเรียน

"เกิดอะไรขึ้น!!"ครูเอ่ยถาม โดยที่ไม่รู้เลยว่าก่อนหน้าที่เขาจะเข้ามา ทุกคนในห้องต้องเจอกับอะไร..

ชานนท์ยืนขาสั่น เพราะเขา กิตติ์ดนัยถึงต้องตาย...

 

ศพของกิตติ์ดนัยถูกหามขึ้นบนรถร่วมกตัญญู วิญญาณของกิรตติ์ดนัยมาปรากฎอยู่ในสถานที่ตึกร้าง บัดนี้ตำรวจและรถปอเต๋งตึ๋งขับเข้ามาจอด รวมทั้งนักข่าวอีกหลายสำนัก และแม่ของเขากับคนในครอบครัว..

"ไม่นะกิต ฮือๆๆ กิตลูกแม่....ทำไม ทำไมต้องมาเจอจุดจบแบบนี้"แม่ของกิตร้องไห้ ปล่อยโฮออกมาด้วยความเสียใจ

ภาพศพขอลูกชายที่ถูกหามส่งเข้าไปวางในรถร่วมกัตญญูยิ่งทำให้เธอจะขาดใจเสียตรงนั้น

"แม่...กิตคิดถึงแม่"กิตติ์ดนัยยืนโอบกอดแม่ของเขาจากด้านหลัง ถึงจะรู้อยู่เต็มอกว่าไม่สามารถสัมผัสกับมารดาเหมือนตอนมีชีวิตก็ตาม

รถร่วมกตัญญูขับออกไป กิตติ์ดนัยมองตาม มันยังไม่ถึงเวลาที่ต้องการไปเกิด กิตติ์ดนัยมองไปที่ร่วมกตัญญูคันดังกล่าว

"ยัง...มันยังไม่ใช่เวลาที่สมควร"กิตติ์ดนัยพูด

รถร่วมกตัญญูขับไปตามเส้นทางมาได้ไกลพอสมควร ในขณะนั้นเองคนขับก็สังเกตุเห็นเด็กหนุ่มคนนึง กำลังนั่งยองๆ บนถนน ก้มหน้าร้องไห้อย่างน่าเวทนา

"เฮ้ย ใครมานั่งกลางถนนแบบนี้เนี่ย"คนขับพยายามบีบแตรไล่

แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่สนใจ รถค่อยๆ ขับรถเข้าใกล้เรื่อยๆ

คนขณะที่คนขับตัดสินจะขับหลบ อยู่ๆ เด็กหนุ่มก็ลุกขึ้นยืน ชี้หน้าคนขับ

"ห้ามเอาศพกูไป!!"

"เฮ้ยยยย"คนขับตกใจเผลอหันรถหลบจนพลาดไปชนกับต้นไม้ข้างทาง

พนักงานที่รับอาสาดูแลศพท้ายรถ ถูกกระแทกกับรถอย่างแรงจนหมดสติไป

เมื่อพวกเขาตื่นขึ้นก็พบว่าศพของกิตติ์ดนัยหายไป เหลือเพียงแต่ผ้าห่อศพ...เท่านั้น

กิตติ์ดนัยพาศพของตนมาไว้ในตึกร้างเช่นเดิม 

"ตอนนี้มันยังไม่ใช่เวลาที่กิตต้องไปเกิด กิตขอตามจองเวรพวกมันก่อน"

ศพของกิตติ์ดนัยค่อยๆ หายเข้าไปในกำแพง รอเวลาที่เขาต้องการเขาจะๆปตามคนในครอบครัวให้มานำศพของเขาไปทำพิธีตามศาสนาเอง.. แต่ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องการคือกำจัดเพื่อนสารเลว..

"ถ้ากูจะลงนรก พวกมึงก็ต้องไปอยู่กับกู" พูดจบกิตติ์ดนัยก็หายไปกับสายลม

เรื่องของกิตติ์ดนัยถูกเล่าจากปากนักเรียนทุกคนในห้อง ที่พยายามจะเล่าให้กับครูฝ่ายปกครองฟัง แต่แน่นอนว่ามันเป็นเพียงลมปากที่ครูเขาไม่สนใจ

"นี่พวกเธอ เลิกหลอกครูได้แล้ว เป็นอะไรกันไปหมด ไม่อยากเรียนกันขนาดต้องสร้างเรื่องขึ้นมาเลยหรอ ไม่น่าเชื่อเลยว่าเป็นกันทั้งห้อง"ครูพลครูฝ่ายปกครองพูด

"พวกเราทุกคนพูดความจริงนะคะ กิตมาหาพวกเรา มาหลอกพวกเราจริงๆ กิตตายแล้วคะ"ฟ้าใสบอก

"ไหนล่ะหลักฐาน"ครูพลพูดจบ ฟ้าใสก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เพือจะเปิดข่าวที่เธออ่านให้ครูพลอ่าน

แต่เธอกลับมามันไม่เจอ แม้ว่าเธอจะลองพิมพ์หัวข้อข่าวนั่นก็ไม่พบ มันหายไปราวกับข่าวนี้ไม่เคยถูกพูดถึงในโลหโซเชี่ยล กระทู้ที่คนตั้งแชร์หายไปอย่างปริศนา

"หาย..."ฟ้าใสพูด

"เห็นมะ ไม้มีหลักฐาน ถ้าคราวหน้าพวกเธอสร้างเรื่องกันแบบนี้อีก ครูจะหักคะแนนจิตพิสัยทุกคน"

ได้ยินแค่นั้น ทำเอาทุกคนหน้าเสีย ก่อนที่ครูพลจะพูดต่อ

"เอาล่ะกลับห้องไปเรียนวิชาต่อไปได้ ส่วนครูปริม... เย็นนี้ผมขอคุยด้วยนะ ไป..ไปเรียนได้"

ครูพลพูดจบนักเรียนทุกคนก็พากันขึ้นห้องเรียน โดยมีครูปริมครูประจำชั้นเดิมตามไป

ครูพลส่ายหัวก่อนที่จะกลับห้องพักของเขาไป ซึ่งภายในห้องพักของเรายังมีโต๊ะครูคนอื่นๆ วางตั้งอยู่ด้วย รครูพลนั่งลงบนโต๊ะของเขา ก่อนที่จะหยิบกาแฟมาขึ้นจิบ

แต่กาแฟกลับมีรสชาติแปลกไป.. ครูพลมองกาแฟในแก้วของเขา แทนที่มันจะกาแฟกลับเป็นเลืดสดๆ ของกิตติ์ดนัย

"เฮ้ย!!"ครูพลโยนแก้วกาแฟทิ้ง กาแฟนั่นโดดโยนจนมาแตก ซึ่งมีกิตติ์ดนัยยืนอยู่ ครูพลไล่สายตาจากเท้าขึ้นไปเรื่อยๆ จนเห็นใบหน้าของกิตติ์ดนัย ที่ยืนมองเขา

"กิตติ์ดนัย เธอเข้ามาตั้งแต่เมื่อไร"ครูพลเอ่นถามอย่างแปลกใจ

กิตติ์ดนัยฉีกยิ้มให้ครูพล ก่อนที่เขาจะตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ

"ก็ตั้งแต่ที่ครู ดื่มเลือดของผมนั่นแหละครับ...รสชาติถูกปากมั้ย"กิตติ์ดนัยฉีกยิ้ม มองมามี่ครูพลอย่างน่ากลัว

"นี่เธอ หมายความว่าไง..."ครูพลเริ่มหวาดกลัว แต่ก็พยายามข่มความกลัวของตน

"เรื่องที่ทุกคนเล่าว่าผมตาย มันเป็นเรื่องจริง..."กิตติ์ดนัยจ้องมาที่ครูพล ก่อนที่จะพูดต่อ"จำได้มั้ยครับ ว่าครูเคยทำโทษอะไรผมไว้"

ภาพในหัวของครูพลย้อนกลับเข้ามาอีกครั้ง วันนั้นเป็นที่ซ้อมถือพานไหว้ครู กิตติ์ดนัย กับ ลดา ถูกเลือกให้เป็นตัวแทนถือพานไหว้ครู ซึ่งวันนั้นเป็นวันซ้อมใหญ่ นักเรียนห้องอื่นซ้อมดี และผ่านมันไปได้อย่างง่ายดาย แต่กอตติ์ดนัยกลับเป็นคนเดียวที่โดนตำหนิมากที่สุด

ครูพลรับอาสามาดูแลและอบรม เพื่อภาพโดยในงานที่จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ดูดีในสายตาของผู้ปกครอง และมันยังเป็นพิธีที่สำคัญของวันไหว้ครู

"กิตติ์ดนัย ยิ้มหน่อยสิเวลาถือมาวางตรงหน้าครู"ครูพลพูดจบกิตติ์ดนัยก็นำพานมาวางตรงหน้าครู ก่อนที่จะยิ้มให้ครูเล็กน้อย ครูพลที่ยืนมองอยู่กลับใช้ไม้ฟาดเขา พร้อมกับตะคอกใส่

"บอกว่าให้ยิ้มไง ยิ้มสิ ยิ้มให้มันดูน่ามองหน่อย"ครูพลตะคอกใส่ ลดาทำได้แค่มองและให้กำลังใจกิตติ์ดนัยข้างๆ

แต่ไม่ว่ากิตติ์ดนัยจะพยายามยิ้มยังไง ก็ไม่พอใจครูพล สุดท้ายกิตติ์ดนัยก็ถูกเชิญให้มาพบ และถูกสั่งให้ยืนฉีกยิ้มจนเจ้าตัวแทบจะไม่ได้กลับบ้าน กว่าจะพอใจครูพลก็ทำเอากิตติ์ดนัยเหนื่อย จนต้องกลับบ้านช้ากว่าคนอื่นๆ

"ครูรู้มั้ยครับ วันนั้นที่ผมพยายามฝืนยิ้มเพราะอะไร"กิตติ์ดนัยพูด ครูพลได้แต่นั่งฟัง 

กิตติ์ดนัยเดินเข้ามาหาเขา ใบหน้าค่อยๆ เละ มีบาดแผลเน่าเฟะขึ้นมา

"วันนั้นแม่ผมป่วย ผมเป็นห่วงแม่มาก ไม่ว่าจะขอกลับบ้านยังไง ก็ไม่มีใครอนุญาติ แม่ผมป่วยหนักมาก ผมกลุ้มใจ จะให้มายิ้มแบบมีความสุขผมคงไม่ได้...แต่ตอนนี้ ผมมีความสุขมาก...สุขมากที่จะได้กลับมาแก้แค้น ฮึๆๆ"กิตติ์ดนัยค่อยๆ ฉีกยิ้มกว้าง กว้างขึ้น กว้างขึ้น จนฉีกถึงใบหู เลือดของกิตไหลออกมาจากบ้านปากสดๆ

ครูพลเห็นภาพเด็กหนุ่มปากฉีกตรงหน้า แถมจะช็อคตาย มันเป็นภาพน่าสยดสยองที่เขาไม่เคยเห็น

"ยิ้มแบบนี้ สวยพอมั้ยครับ ครูพล"กิตติ์ดนัยเอื้อมมือสองข้างจับที่ปากของครูพล ให้ฉีกยิ้มให้กับเขาบ้าง"ไม่เอาน่ะครู อย่าทำหน้ากลัวผมสิ ยิ้มสิครับ ยิ้มอีก ยิ้มอีกสิ"กิตพยายามฉีกยิ้มครูพล

แต่ครูพลกลับพยายามเม้มปาก ตัวสั่นระริกด้วยความกลัว

"ยิ้มสิ!! กูบอกให้มึงยิ้มไง!!"กิตติ์ดนัยใช้เล็บฉีกเข้าไปในปากครูพล และพยายามแหวกมันให้อ้าออกกว้างขึ้น

"โอ๊ะ โอ๊ยยยยย โอ๊ยยยยย"ครูพลพยายามจะหุบยิ้ม เม้มปากแต่ทำไม่ได้

"มันยากมากใช่มั้ยถ้าจะยิ้มให้กู งั้นก็ไม่ต้องมีปากไว้ยิ้มอีกต่อไป"กิตติ์ดนัยยิ้มด้ายและเข็มขึ้นมา 

ทำให้ครูพลตาโต ตัวสั่น เขาอยากจะลุกหนีออกไปจากตรงนี้แต่ทำไม่ได้ ตัวเขากลับแข็งเหมือนหินขยับไม่ได้ เขาได้แต่มองกิตติ์ดนัยรอยด้ายเข้ากับเข็ม

"เห็นเงินเป็นพระเจ้า นักเรียนหยิบยื่นมาให้ก็รับเอาไว้ดื้อๆ และมาทำร้ายกู.."กิตติ์ดนัยพูดไปก็รอยด้ายเข้าไปเข็มพร้อมกับจับปากครู

ทำให้ครูพลนึกถึงภาพวันนั้นได้ดี วันนั้นชานนท์เข้ามาเขา พร้อมกับยื่นเงินใหจำนวนมาก เขาต้องการจ้างครูพลให้ดุกิตติ์ดนัย ดุยังไงก็ได้ให้กิตเจ็บมากที่สุด จำนวนเงินช่างล่อตาล่อใจ ครูพลจึงยอมทำตาม

"ครูที่นี่ถ้าเด็กก็ไม่เห็นหัวมันหรอก ตายโหง ตายห่าก็ไม่สนใจ ดูแลแต่ลูกคนรวยอาศัยเงินจากพวกมัน มึงก็เหมือนกันเป็นครูฝ่ายปกครอง แต่ยอมให้ไอ้ชาติชั่วนั่นมาจ้างมึงให้ดุด่ากู ทำโทษกู จนกูแถมจะกลับไปดูแลแม่ปทบไม่ทัน มีปากไว้สั่งอย่างเดียวใช่มั้ย ถึงไม่ปฏิเสธเงินจากมัน กูจะทำให้มึงพูดไม่ได้ไปอีกนาน"กิตติ์ดนัยนำเข็มจิ้มแทงเข้าไปในปาก

"โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยย"ครูพลร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

กิตติ์ดนัยดึงเข็มออกจากปากครูพล ก่อนที่จะหายไปกับสายลม

ครูสาวคนนึงวิ่งเข้ามาหาครูพล เธอตกใจที่เห็นครูพลเลือดเต็มปาก ร้องโอดโอยอย่างทรมาน

"ครูพลคะ ครูพลเป็นไรคะ"ครูสาววิ่งเข้ามาหาอย่างร้อนใจ

กิตติ์ดนัยยืนอยู่หน้าห้อง เขายืนดูผลงานของตัวอย่างพึงพอใจ

"พอกันที หวังว่าครูโรงเรียนจะเห็นใจนักเรียนๆ คนอื่นๆ บ้าง"กิตติ์ดนัยชี้ครูพล"กูให้โอกาสมึงแก้ตัว แล้วอย่าทำอีก"

ครูพลได้ยินทุกอย่าง เขามองมาที่กิตติ์ดนัยที่ยืนอยู่หน้าห้อง ทั้งเจ็บ ทั้งทรมาน มันคงเป็นบทลงโทษที่ครูพลต้องจดจำไปอีกนาน สิ่งที่สำคัญกว่าเงิน คือใจคนที่บริสุทธิ์ ครูที่ดีต้องไม่อยู่ใต้อำนาจของเงิน.

"ตาพวกมึงแล้ว..."กิตติ์ดนัยพูด

ถึงเวลาแก้แค้นจริงๆ จังๆ กันเสียที

ในขณะที่มอสกำลังยืนล้างมือในห้องน้ำเพียงลำพัง ในหัวเขาก็คิดถึงกิต ถ้าเมื่อวานเขสยอมช่วยกิต ป่านนี้กิตก็คงไม่ตายและรอดชีวิต ไม่ต้องเป็นผีแบบนี้

"ยืนคิดอะไรอยู่หรอ"กิตติ์ดนัยโผล่เข้ามาในกระจกเงา จนมอสตกใจสะดุ้ง

"เฮ้ย!! กิต...ยะ ยะ อย่าทำไรเรานะ เรากลัว อย่านะกิต.."มอสยกมือไหว้ แต่คำขอร้องมันไม่มีประโยชน์

"แล้วตอนที่กูขอร้องให้มึงช่วย ทำไมมึงไม่ช่วยกู"กิตติ์ดนัยยื่นมือทะลุออกมาจากกระจก สายตาอาฆาตร

"ระ....ระ....เราขอโทษ ปล่อยเราไปเถอะ"มอสพยายามขอร้อง แต่ไม้มีประโยชน์

กิตติ์ดนัยยื่นมือมาบีบคอมอสอย่างแรง แรงขึ้น แรงขึ้นเรื่อยๆ

"กูจะทำให้มึงรู้ ว่าเฮือกสุดท้ายก่อนตาย มันเป็นยังไง!!!"กิตติ์ดนัยบีบคอมอสแรงขึ้น แรงขึ้น

มอสเริ่มหายใจไม่ออก พยายามดิ้นรนเอาตัวรอด มันทรมานราวกับจะขาดใจตายเสียตรงนั้น

"ชะ...ชะ..ช่วยด้วย...ชะ...ชะ...ช่วยด้วย"มอสพยายามร้องให้คนช่วย

"ร้องเข้าไป ร้องเข้าไป ไม่มีใครมาช่วยมึงหรอก เป็นไงล่ะเฮือกสุดท้ายมันทรมานมากมั้ย!!"กิตติ์ดนัยปล่อยมือ และหายไป

มอสพยายามสูดอากาศเข้าไปในปอดให้มากที่สุด แต่ใช่ว่ากิตจะหยุดแค่นั้น

กิตติ์ดนัยยืนอยู่ตรงหน้าเข้า พร้อมกับจิกหัวมอสขึ้นมาเหนือพื้น 

"ใช้ช่วงที่เหลืออยู่ของพวกมึงให้มีความสุข กูให้สัญญาว่าพวกมึงจะต้องไม่ตายดี"กิตติ์ดนัยดึงผมมอสจนหลุดเป็นกำมือ

"โอ๊ย...โอ๊ยยย"มอสรีบวิ่งหนีออกจากห้องน้ำ

ผีกิตติ์ดนัยยืนมองมอสอย่างสะใจ ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วพวกมันก็ต้องตายอยู่ดี...

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา