Prediction , Texts & Paper วุ่นรักนักข่าว

-

เขียนโดย Littlepeacee

วันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 23.11 น.

  5 ตอน
  2 วิจารณ์
  6,561 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2558 23.27 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) บทที่สอง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

2

‘พวกเธอมีแผนอะไรกันแน่

-แม็กซ์’

ฉันได้รับข้อความเพียงหนึ่งข้อความหลังจากเมื่อเย็นวานนี้ ยอมรับเลยก็ได้ว่า ฉันแอบหวังลึกๆ ว่านั่นจะเป็นข้อความจากโจหลังจากที่ฉันได้ปฏิเสธเขาไปแบบหนักแน่น ใช่ว่าฉันแคร์ความรู้สึกของเขาหรอกนะ เพราะถ้าหากว่าเป็นแบบนั้นจริง ฉันคงไม่เลือกที่จะปฏิเสธเขาตั้งแต่แรก แต่อย่างน้อยฉันก็ยังอยากจะมั่นใจว่า เขายังยินยอมให้ฉันร่วมเป็นหนึ่งในขบวนการอนุรักษ์ชมรมเก่าแก่ที่ใกล้จะสูญพันธุ์อย่างแคทส์ อายอยู่

จะให้ทำอย่างไรได้ในเมื่อฉันส่งไปหาโจแล้วถึงแปดข้อความ แต่สิ่งที่ฉันได้รับกลับมาคือหนึ่งข้อความในตอนเช้าของอีกวัน และที่น่าเศร้าก็คือมันถูกส่งมาจากแม็กซ์ ไม่ใช่โจ

ฉันไม่ใช่พวกหูตาเป็นสับปะรดขนาดลอนดอนหรือแม็กซ์ ฉะนั้นแล้วถ้าแม็กซ์ยังส่งข้อความมาหาฉันได้โดยที่ลงชื่อตัวเองว่า ‘แม็กซ์’ แทนที่จะเป็นรหัสมอสหรือชื่อลับๆ ของเขา ก็แปลว่า ลอนดอนยังไว้ใจให้ฉันใช้โทรศัพท์มือถือของตัวเองได้อย่างเสรี

ถ้าคุณเป็นหนึ่งในวงการนักข่าวของโรงเรียนมัธยมปลายแสตนเบิร์กละก็ คุณคงรู้ดีว่า แม็กซ์ สเตียร์เป็นหนึ่งในนักข่าวมือดีของแคทส์ อาย โจยอมรับและภาคภูมิใจในตัวสมาชิกชมรมคนนี้มากพอที่จะมอบคอลัมน์ให้เขาหนึ่งคอลัมน์เต็มๆ (ในขณะที่ฉันมีแค่ช่องข่าวแคบๆ ที่ใส่ตัวอักษรได้ไม่เกินหนึ่งร้อยตัวเท่านั้น) เมื่อต้นภาคเรียนที่ผ่านมาแม็กซ์ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในตัวเต็งของการเลือกตั้งรองประธานชมรมแคทส์ อายเลยด้วยซ้ำ แต่น่าเสียดายที่จู่ๆ เขาก็ส่งใบลาออกให้โจอย่างกะทันหัน

กลายเป็นที่วิพากษ์กันไปทั่ว ถึงสาเหตุที่ว่าทำไมแม็กซ์จึงลาออกทั้งๆ ที่ตอนนั้นหน้าที่ในวงการนักข่าวของเขากำลังไปได้สวย บ้างก็ว่าแม็กซ์ไม่พอใจที่โจได้เป็นประธานชมรม แต่ขอโทษเถอะนะ แม็กซ์นี่แหละที่เป็นตัวตั้งตัวตีเสนอชื่อโจให้รับตำแหน่งนี้ ฉะนั้น ไม่มีทางที่เขาจะไม่ยอมรับความจริงข้อนี้ อีกแหล่งข่าวบอกว่าแม็กซ์ไม่พอใจที่ได้รับเลือกเป็นแค่รองประธานผู้ไม่มีสิทธิ์มีปากมีเสียงทั้งๆ ที่เขาหวังจะควบคุมตำแหน่งที่ใหญ่กว่า ซึ่งฉันเองก็ขอโต้แย้งอีกสักหน่อย ทุกคนอยากก้าวหน้าในด้านการงานก็จริง แต่แม็กซ์จะอยากเป็นประธานชมรมไปทำไมในเมื่อสิ่งที่เขาอยากเป็นจริงๆ คือผู้สื่อข่าวที่อยู่หน้ากล้อง ไม่ใช่บรรณาธิการหนังสือพิมพ์

ข่าวลือที่ร้ายที่สุดของเรื่องนี้ก็คือ ลอนดอนหนึ่งในรายชื่อว่าที่รองประธานชมรมแอบขู่แม็กซ์หลังไมค์ว่า ‘ให้รีบถอนตัวซะ ถ้าขืนยังจะดันทุรังต่อไปล่ะก็ เรื่องนี้จบไม่สวยแน่’ แต่แม็กซ์คงคิดว่าการที่ลอนดอนทำแบบนี้ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย เขาจึงเลือกที่จะลาออกดีกว่าที่จะต้องมาทนทำงานร่วมกับคนอย่างลอนดอน...อืมม์ ถ้าถามความเห็นฉันนะ เท่าที่ฉันรู้จักลอนดอนมา ฉันว่าข่าวลือนี้มีโอกาสเป็นไปได้มากที่สุดเลยล่ะ

ยอมรับซะเถอะว่านั่นมันก็แค่ข่าวลือที่ไร้มูล ถึงแม้ว่าห้องประชุมของชมรมจะเก็บเสียงได้ดีขนาดไหน แต่ท้ายที่สุดเราก็ได้คำตอบว่า สาเหตุที่เขาลาออกก็เพราะครูใหญ่โฮซี่มีโครงการจะเปิดช่องโทรทัศน์ท้องถิ่นสำหรับโรงเรียนของเราหนึ่งช่อง และหนึ่งในรายการในช่องนั้นได้แก่รายการข่าวของแสตนเบิร์กเจอร์นัล!

เมื่อแสตนเบิร์กเจอร์นัลมีรายการข่าวเป็นของตัวเอง พวกเขาย่อมต้องการผู้ประกาศข่าวประจำสถานี และคุณจำที่ฉันบอกได้ใช่ไหมว่าแม็กซ์อยากเป็นผู้ประกาศที่อยู่หน้าไมค์ไม่ใช่นักข่าวที่อยู่หลังม่าน ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะกลับไปเป็นเพียงสมาชิกธรรมดาๆ คนหนึ่งของอีกชมรมแต่มีความก้าวหน้าทางอาชีพที่เขาใฝ่ฝัน ดีกว่ามาจมปลักเป็นถึงรองประธานชมรมแต่ไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองต้องการ

ถ้าฉันเป็นแม็กซ์ฉันก็คงจะทำแบบเดียวกับเขา แต่น่าเสียดายที่ดูเหมือนว่าเขาจะเลือกเวลาออกจากชมรมได้ผิดไปหน่อย เพราะโจเข้าใจเหตุผลทั้งหมดของแม็กซ์ก็จริง แต่คนอย่างลอนดอนย่อมไม่เข้าใจ! เธอไม่คิดว่าเขาออกไปเพื่อแค่จะได้เป็นผู้ประกาศข่าว ตรงกันข้าม เธอกลับคิดว่าเขาหักหลังพวกเราและจ้องจะทำลายแคทส์ อาย มิตรภาพระหว่างเพื่อนร่วมชมรมของทั้งสองได้พังทลายลงอย่างยากจะต่อติด หลังจากที่คู่ต่อสู้คนสำคัญลาออกไปแล้วลอนดอนจึงได้รับเลือกให้เป็นรองประธานอย่างเป็นทางการ และกฎข้อแรกของรองประธานชมรมคนใหม่ก็คือ ‘ห้ามยุ่งเกี่ยวกับคนของแสตนเบิร์กเจอร์นัลอย่างเด็ดขาด’

โจไม่ค่อยเห็นด้วยกับกฎข้อนี้ก็จริง หรือต่อให้มันไม่ใช่กฎจริงๆ ที่ถูกบันทึกเป็นลายลักอักษร แต่ทุกคนก็รู้และทำตามอย่างที่ลอนดอนว่า ที่ว่ากลัวลอนดอนจะจับได้ว่าเราแอบไปยุ่งเกี่ยวกับคนของฝั่งนู้นก็นับถูก แต่เหตุผลส่วนใหญ่มาจากในใจลึกๆ แล้วพวกเราต่างไม่พอใจในการก่อตั้งชมรมของพวกนั้นเองต่างหาก ด้วยเหตุผลทั้งปวงนี้ทำให้คนในชมรมไม่มีใครเคยฝ่าฝืนกฎอย่างไม่เป็นทางการข้อนี้เลยแม้แต่คนเดียว...เว้นก็แต่ฉัน

จะทำอย่างไรได้ในเมื่อฉันรู้จักกับแม็กซ์ก่อนที่จะรู้จักกับลอนดอนเสียอีก บ้านเราสองคนก็อยู่ถนนสายเดียวกัน แม่ของเขาเองก็ชอบมาซื้อแซนด์วิชสำหรับมังสวิรัติกับไดเอทโค้กที่ร้านพ่อฉันบ่อยๆ แถมดีวีดีหนังที่ฉันดูทุกคืนวันศุกร์กับนิคในห้องนั่งเล่นที่บ้านของพ่อก็เป็นดีวีดีที่ฉันยืมเขามาเสียเกือบหมด (ก็แหม แม็กซ์เป็นยอดนักอัพเดทหนังนี่นา) และที่สำคัญก็คือ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะลอนดอนคิดไปเอง ฉันหมายถึงที่แม็กซ์เป็นพวกจอมทรยศน่ะนะ เพราะจริงๆ เขาไม่ได้ทรยศแคทส์ อายเลยแม้แต่น้อย ถ้าลอนดอนจะโกรธก็ควรจะโกรธพวกแสตนเบิร์กเจอร์นัล ไม่ใช่แม็กซ์!

“ลีอาห์! มัวแต่เล่นโทรศัพท์อยู่ได้รู้ไหมว่าฉันรอเธอตั้งนานแล้วนะ” แอลลี่ขมวดคิ้วเป็นปมให้ฉันตั้งแต่ฉันเดินอยู่ที่ล็อกเกอร์ถัดจากเธอไปประมาณห้าถึงหกตู้

“ฉันไม่เข้าใจว่าเธอจะรีบทำไมนักหนา ไหนว่าไม่สนใจ ‘เขา’ ไง”

แอลลี่กลอกตาไปมาก่อนจะตอบ “แล้วใครบอกว่าสนกัน ฉันก็แค่จะต้อนรับน้องใหม่ก็เท่านั้น”

ฉันยังไม่ได้ตอบข้อความของแม็กซ์ และฉันก็รู้ดีว่าแม็กซ์กำลังรอให้ฉันตอบกลับอยู่ การไม่ตอบข้อความกลับในกรณีที่คุณอ่านแล้วหรือแค่เปิดแต่ยังไม่ได้อ่านนั่นนับว่าเลวร้ายมาก ฉันรู้ได้จากการที่โจไม่ตอบข้อความฉันแม้แต่ฉบับเดียว มันอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก เหมือนกับว่าคุณเดินเข้าไปหาเพื่อนสนิทของคุณ พูดคุยกับเธอ แต่เธอกลับนิ่ง จนคุณต้องโพล่งออกมาว่า ‘เฮ้! นี่ฉันพูดกับเธออยู่นะ’ แล้วหลังจากนั้นคุณจะไม่ได้รับข้อความใดๆ จากเพื่อนของคุณอีกเลย

แต่จะให้ฉันทำอย่างไรได้ล่ะ ในเมื่อฉันไม่รู้จะตอบอะไร ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าแอลลี่กำลังคิดจะทำอะไรอยู่ เธอแค่ ‘ดูเหมือน’ ว่าจะมีแผน และนั่นก็ดูจะเป็นแผนที่ไม่ดีเอาเสียเลย ถ้าคุณสนิทกับแอลลี่มากพอคุณจะรู้ว่าเธอร้ายพอที่จะเป็นน้องๆ ลอนดอนได้เลยล่ะ และการหยุดยั้งไม่ให้แอลลี่ทำในสิ่งที่เธอเตรียมการมาเป็นอย่างดีเป็นความคิดที่งี่เง่าที่สุดเท่าที่ฉันเคยได้ยินมา

“เธอกำลังจะทำอะไรแอลลี่” ฉันถามและนั่นก็เป็นจังหวะเดียวกับที่เสียงกรี๊ดดังขึ้นมาจากประตูหน้าของอาคารเรียน

ทุกคนในทางโถงเริ่มหันมามองหน้าซึ่งกันและกัน รอยยิ้มปรากฏขึ้น ดวงตาลุกวาวอย่างเป็นประกาย ก่อนที่ฝีเท่านับร้อยคู่ออกวิ่งไปยังที่มาของเสียงกรี๊ดนั้น

มาแล้วสินะ

หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างฉันยกมุมปากขึ้นอย่างมีเลศนัยที่ดูร้ายกาจก่อนที่เรียวปากนั้นจะขยับพูด “ก็ทำอย่างนี้ไง”

แอลลี่ไม่อยู่เฉย เธอไม่ได้ออกวิ่งตามนักเรียนคนอื่นหรอกนะ บอกได้เลยว่าตรงกันข้าม เธอเปิดประตูล็อกเกอร์ของตัวเองก่อนจะหยิบเอา…เอ่อ แผงไข่ แผงไข่จริงๆ นะ เป็นแผงพลาสติกเล็กๆ ขนาดสำหรับวางไข่ได้สี่ฟองที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อ แต่ขอโทษเถอะ เธอจะเอาไข่มาทำไม? เราไม่ได้เรียนทำอาหารหรืออะไรทำนองนั้นเสียหน่อย แต่ก่อนที่ฉันจะได้อ้าปากถาม แอลลี่กลับวิ่งไปอีกฝั่งของทางโถงตรงข้ามกลับเด็กทุกคนที่กำลังวิ่งสวนมา

ฉันได้แต่วิ่งตามพลางตะโกนเรียกชื่อเธอ ก่อนที่จะแอลลี่จะมาหยุดอยู่ตรงมุมมุมหนึ่งของอาคารที่มีประตูบานเล็กเหนือพื้นขึ้นไปสักสี่ฟุตได้ล่ะมั้งแต่คนสามารถเข้าไปได้ คือฉันไม่เคยสังเกตว่าตรงนี้มีประตูแอบอยู่ และถึงรู้ฉันก็คงไม่คิดอยู่ดีว่าคนสามารถลอดผ่านประตูบานเล็กนั่นได้จนกระทั่งแอลลี่เปิดมันออกแล้วปีนเข้าไป!

“แอลลี่ เธอทำบ้าอะไรน่ะ?!” ฉันร้องอย่างตกใจให้กับสิ่งที่เพื่อนคนนี้กำลังทำ ฉันไม่คิดว่าภารโรงจะรู้สึกดีใจแน่ๆ ถ้าเขาจะต้องปีนผ่านประตูแคบๆ นี่เพื่อลากแอลลี่ที่ติดอยู่ด้านในออกมาในกรณีที่ข้างในประตูบานนี้มันเล็กกว่าที่เห็นภายนอก

“ตามฉันมาเงียบๆ เถอะน่า”

ฉันมั่นใจว่าการปีนประตูบานนี้ตามแอลลี่เข้าไปไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก และรู้ดีด้วยว่าหลังประตูบานนี้คงไม่ใช่แดนมหัศจรรย์อย่างที่อลิซเข้าไป แต่ฉันอยากรู้จริงๆ นี่นาว่าแอลลี่คิดจะทำอะไรกันแน่ ฉันแค่พอจะเดาได้ว่ามันจะต้องเกี่ยวข้องกับบุคคลที่เพิ่งมาถึงคนนั้นและอะไรสักอย่างกับไข่แผงนั่น เพื่อคำตอบที่แน่ชัดฉันจึงเลือกที่จะปีนตามแอลลี่ไป ก่อนที่จะรู้ว่า เอ่อ...ข้างในนี้มันแคบกว่าที่เห็นเยอะเลยล่ะ

ฉันมักจะบอกตัวเองเสมอว่าฉันอยู่ในวัยกำลังโต (ถึงแม้ว่านิคจะเถียงว่า ฉันเลยวัยกำลังโตมาแล้วก็เถอะ) แต่ขอโทษ ฉันเพิ่งสิบหก (ปลายๆ) นั่นก็ยังถือว่าอยู่ในช่วงกำลังโตไม่ใช่เหรอ ฉันจึงเลือกที่จะกินอะไรก็ตามที่ฉันอยากกิน และไม่กินอะไรก็ตามที่ฉันไม่ชอบ ต่อให้ทุกอย่างที่ฉันไม่ชอบจะเป็นสิ่งที่แม่ให้คำนิยามว่า ‘มีประโยชน์’ ก็เถอะจนถึงตอนนี้ตอนที่ฉันรู้สึกว่าช่องลมนี่น่าอึดอัดเป็นบ้า ฉันแทบจะขยับตัวไปไหนไม่ได้เลย ในขณะที่แอลลี่คลานไปตามทางได้อย่างสบายๆ ฉันก็เพิ่งจะรู้ว่าตัวเองควรงดอาหารจำพวกจังก์ฟู้ดบ้างซะแล้ว

“แอลลี่เธอขึ้นมาทำอะไรกันแน่—โอ๊ย!” ฉันร้องเสียงดังทันทีที่ศีรษะตัวเองกระแทกเข้ากับเพดานดัง โป๊ก!

บ้าเอ๊ย! ฉันเข้ามาทำอะไรในนี้เนี่ย!

“ชู่! เบาๆ หน่อยลีอาห์” แอลลี่กล่าวก่อนจะหยุดคลานแล้วก้มลงมองช่องเล็กๆ ที่ส่องให้เห็นพื้นด้านล่าง

ฉันไม่รู้หรอกนะว่า แอลลี่รู้เรื่องทั้งหมดนี่ได้อย่างไร แต่มันน่าทึ่งมากๆ ที่เธอสามารถหาช่องทางพาเรามาโผล่ที่เหนือทางเข้าอาคารเรียนได้ ด้านล่างเป็นจุดที่ทุกคนในโรงเรียนกำลังรวมตัวกันอยู่อย่างหนาแน่น ทั้งครู นักเรียน บุคลากรอื่นๆ และนักข่าว แสงแฟลชมากมายถูกสาดใส่ผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังยืนอยู่ข้างครูใหญ่เอช และนับต่อจากนี้ฉันขอพูดในฐานะเด็กสาวอายุสิบหกคนหนึ่งที่ไม่ได้เป็นแฟนคลับของใครเป็นพิเศษเลยว่า เขาช่างดูดีเสียเหลือเกิน!!!

ยูจีน โคลแมน ซูเปอร์สตาร์หนุ่มวัยสิบเจ็ดปีที่ทุกคนต่างรู้จักเขาดีในฐานะของคลื่นลูกใหม่มาแรง ฉันคิดว่าคุณเองก็น่าจะรู้จักเขาด้วยเหมือนกัน เพราะถ้าไม่ นั่นก็แปลว่าคุณไม่ได้เปิดโทรทัศน์ อินเทอร์เน็ตหรือแม้แต่เดินออกไปตามแผงหนังสือเลยสักครั้งตลอดระยะเวลาปีถึงสองปีที่ผ่านมา

เมื่อหนึ่งอาทิตย์ก่อนนับว่าเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์กันเลยทีเดียวที่ยูจีนตัดสินใจประกาศอำลาวงการบันเทิงเพื่อกลับมาเรียนหนังสืออีกครั้ง เขาให้เหตุผลสั้นๆ ง่ายๆ กับนักข่าวว่า เขาคิดว่าการเรียนหนังสือกับคอมพิวเตอร์แบบที่ตัวเองเคยเรียนหรือการจ้างครูพิเศษมาสอนแบบตัวต่อตัวช่างไม่ใช่วิถีของเขาเอาเสียเลย เขาอยากจะใช้ชีวิตแบบที่วัยรุ่นธรรมดาๆ ดูบ้าง มันคงจะน่าตื่นเต้นและพิสดารกว่าที่เคยเลยตัดสินใจทำแบบนั้น โดยที่ผู้จัดการส่วนตัวของเขาหรือพูดง่ายๆ ก็พ่อกับแม่เขานั่นแหละ ไม่ได้ห้ามอะไรกับความคิดนี้

ฉันไม่แน่ใจว่าผู้ชายคนนี้เล่นละครจนบ้าไปแล้วหรือเป็นอะไรกันแน่ เพราะถ้าเป็นฉันนะ ฉันคงเลือกที่จะเรียนกับครูส่วนตัวที่จะเรียนเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่มีการบ้านก็ย่อมได้ ถึงเวลาก็มาสอบ หรือบางทีซูเปอร์สตาร์ชื่อดังขนาดนั้นอาจจะไม่จำเป็นต้องสอบเลยด้วยซ้ำ!

ด้วยความสามารถแห่งการเดาระดับสิบฉันว่า หมอนี่จะต้องเพี้ยนไม่ก็กำลังคิดจะเรียกกระแสให้ตัวเองด้วยการสร้างภาพว่าตัวเองเป็นคนติดดินแหงๆ

ทุกคนดูตื่นเต้นมากเป็นพิเศษกับการกลับมาเรียนของยูจีน โดยเฉพาะครูใหญ่เอช ฉันคิดว่าน่าจะเป็นความผิดพลาดอะไรสักอย่างที่ทำให้ยูจีนเลือกที่จะมาเรียนที่โรงเรียนของเรา ไม่ใช่ฉันว่าโรงเรียนของเราไม่ดีหรอกนะ เพียงแต่ถ้าฉันเป็นคนที่มีโอกาสสำหรับการเลือกได้มากขนาดเขาฉันคิดว่าโรงเรียนที่ดีกว่านี้ยังมีอีกเยอะให้เขาเลือก ครูใหญ่คิดว่านี่เป็นเกียรติอันใหญ่หลวงที่ยูจีนเลือกโรงเรียนนี้ บางทีนะบางที ครูแกอาจจะติดสินบนเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเรียกตัวยูจีนมาเรียนที่นี่ก็เป็นได้ เพราะคุณคิดดูสิว่า รุ่นต่อไปเด็กในละแวกใกล้เคียงจะอยากมาเรียนโรงเรียนนี้มากแค่ไหนเมื่อป้ายหน้าโรงเรียนแปะไว้ตัวเบ้อเริ่มว่า ‘ซูเปอร์สตาร์เรียนอยู่ที่นี่จ้า!’

คนที่ตื่นเต้นกับเรื่องนี้อันดับสองรองจากครูใหญ่ฉันก็ยกให้โจเลยล่ะ นับว่าโจฉลาดมากที่รู้จักใช้โอกาสให้เป็นโอกาสยิ่งกว่า ในขณะที่ทุกคนกำลังเคลือบแคลงใจในสาเหตุของการกลับมาเรียนของยูจีน พวกเขาต่างต้องอยากให้นิตยสารหรือหนังสือพิมพ์ดีๆ สักฉบับไปสัมภาษณ์เค้นเอาความจริงจากยูจีนถึงเหตุผลทั้งหมด และนิตยสารหรือหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นจะได้เงินเป็นกอบเป็นกำจากการขายสิ่งพิมพ์ที่อุดมไปด้วยบทสัมภาษณ์ของดาราหนุ่ม โจเลยคิดว่ากำไรจะเพิ่มพูนยิ่งกว่าหากแคทส์ อายเป็นเพียงหนังสือพิมพ์เจ้าเดียวที่ได้สัมภาษณ์ยูจีน โคลแมน!

เขาตัดสินใจเดินเข้าห้องพักครูใหญ่ก่อนจะยื่นข้อเสนอที่ครูใหญ่เอชต้องรีบตอบตกลงอย่างแน่นอนนั่นคือ การที่แคทส์ อายยินดีที่จะดูแลยูจีนให้เรียนอยู่ในโรงเรียนนี้ได้อย่างมีความสุขราวกับว่าเขากำลังอยู่บ้านของตัวเอง แน่นอนว่าถ้าโรงเรียนดีต่อยูจีนเขาย่อมให้สัมภาษณ์ในแง่ดีๆ แก่สาธารณชนและเมื่อเป็นเช่นนั้นครูใหญ่ก็จะได้หน้าไปเต็มๆ แคทส์ อายจึงเป็นชมรมหนังสือพิมพ์เพียงเจ้าเดียวในโรงเรียนที่ได้รับอนุญาตให้สัมภาษณ์ยูจีน ส่วนแสตนเบิร์กเจอร์นัลก็นั่งร้องไห้กอดเงินสนับสนุนก้อนเก่าไปก่อนเถอะ

ฉันยอมรับว่านั่นเป็นแผนการที่เจ๋งใช้ได้เลยทีเดียว แต่ที่ใช้ไม่ได้อยู่อย่างเดียวของแผนนี้ก็คือ ใครกันล่ะที่ต้องคอยดูแลยูจีนให้ดีประหนึ่งว่าเขาเป็นเจ้าชายมาจากแดนอันไกลโพ้น ถ้าไม่ใช่คนที่โจใช้เวลาเกือบตลอดทั้งวันของเมื่อวานในการตามตื้ออย่างฉัน...เจ๋งเป็นบ้า

“ตรงนี้วิวชัดแจ๋วชะมัด” ฉันเอ่ยปากชม

“ฉันไม่ได้จะขึ้นมาดูหมอนี่เสียหน่อย” แอลลี่เบ้ปาก พร้อมกับเปิดฝาแผงไข่ออกอย่างเบามือ

“แล้วเธอจะขึ้นมาทำอะไร รู้ไหมตอนแรกฉันคิดเธอจะนั่งอยู่ในห้องเรียนไม่สนใจเรื่องพวกนี้เสียอีก” ฉันพูดไปพลางมองยูจีนที่ดูดีสมคำล่ำลือสลับกับแอลลี่ที่กำลังหยิบไข่ออกมาไว้ในมือทั้งหมด ก่อนที่เธอง้างแขนไปสุดแล้วก็... “อย่าบอกนะว่า…!!!”

 …ปามันออกไปสุดแรง!

แผละ! แผละ! แผละ! แผละ!

“หนีเร็วลีอาห์!”

อะ...อะไรนะ? แอลลี่ที่ตัวเล็กกว่าพุ่งตัวมาทางฉันอย่างรวดเร็วจนฉันเสียหลักล้มลงไปบนพื้นช่องลม เธอพยายามดันตัวเองให้พ้นช่องแคบๆ ระหว่างฉันกับผนังช่องลมนี่ ก่อนจะแทรกตัวเองให้หลุดออกมาได้ในที่สุด แอลลี่คลานออกไปอย่างรวดเร็วทั้งๆ ที่ยังทิ้งแผงพลาสติกเอาไว้กับพื้น เสียงร้องโวยวายจากด้านล่างดังขึ้นกว่าเดิม มันไม่ใช่เสียงกรีดร้องอย่างดีใจที่ได้เจอดาราหนุ่มในฝัน หากแต่เป็นเสียร้องด้วยความตกใจก่อนจะตามมาด้วยสิ่งตะคอกของชายวัยกลางคนที่ฉันจำเสียงของเขาได้แม่น

“ใครอยู่บนนั้นน่ะ! ลงมาข้างล่างเดี๋ยวนี้!!!”

 โอ๊ย ตายแล้ว! โค้ชปีเตอร์สันที่ทำงานควบสองตำแหน่งทั้งเป็นที่ปรึกษาให้แก่ครูใหญ่โฮซี่และยังเป็นครูพละของฉันกำลังมองมาทางนี้ด้วยสีหน้าที่เรียกได้ว่าน่ากลัวเสียยิ่งกว่าตอนลอนดอนรู้ว่าแม็กซ์ลาออกจากชมรม ทุกสายตาจ้องมาทางช่องลมที่ฉันนั่งอยู่ แสงแฟลชต่างรัวมาทางนี้ และเป็นนาทีเดียวกับที่ฉันตัดสินใจว่า ถ้าขืนยังนั่งอยู่ตรงนี้ต่อไปฉันได้โดนโค้ชพีลากไปทำโทษแน่ๆ

ถามจริงเถอะนะ ใครเป็นคนคิดไอ้ช่องลมบ้าๆ นี่ขึ้นมากัน เพราะถ้าเป็นฉันละก็ ฉันจะสร้างให้มันใหญ่พอที่สาวไซส์สิบหกคนหนึ่งจะเดินผ่านได้ไม่ใช่เล็กจนแมวตัวหนึ่งยังผ่านได้อย่างยากลำบากแบบนี้!

ฉันเห็นแสงสว่างอยู่ใกล้ๆ ตรงประตูทางเข้ามีมือคู่หนึ่งยื่นเข้ามาด้านในช่องลมราวกับพร้อมที่จะให้ฉันส่งมือกลับไปเพื่อที่จะออกได้ง่ายขึ้น ฉันส่งมือไปให้อีกฝ่ายอย่างไม่ได้คิดอะไรทั้งสิ้น เพราะมั่นใจมากว่านั่นจะต้องเป็นแอลลี่ที่ถึงแม้เธอจะรีบหนีหลังจากที่ทิ้งระเบิดไว้กลางงานต้อนรับยูจีนแต่ก็ยังไม่ลืมที่จะกลับมารับเพื่อนรักอย่างฉันคนนี้ให้ออกจากช่องลมได้อย่างปลอดภัย

“ขอบคุณนะแอล...” ลำคอฉันแห้งผากไปหมด เสียงที่เคยมีกลับสลายไปทันทีที่เห็นว่าเจ้าของมือคู่นั้นไม่ใช่แอลลี่!

“ไง”

“เอ่อ...” ฉันได้แต่อำอึ้งพูดอะไรไม่ออก

“ปาไข่ใส่ยูจีนอย่างนั้นเหรอ? ไม่ฉลาดเลยนะ ลีอาห์” โจออกแรงที่ข้อมือของตัวเองดึงฉันออกมาจากประตูก่อนจะมองด้วยสายตาที่ฉันเดาไม่ออก

“ฉันเปล่าเสียหน่อย” ฉันปฏิเสธ

“งั้นเหรอ” โจถามพลางเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย

ฉันได้แต่เงียบ แล้วก้มมองมือของตัวที่อีกฝ่ายยังกุมเอาไว้อยู่

“เธอรู้ไหมว่า เรื่องที่ยูจีนถูกปาไข่ใส่ตั้งแต่วันแรกที่มาเรียนจะต้องข่าวใหญ่แน่ๆ” ทำไมฉันจะไม่รู้ แค่พวกเอลิสต์ของโรงเรียนทำเรื่องหน้าขายหน้าเล็กๆ น้อยๆ อย่างตอนที่โอลิเวีย ซิมป์สันเดินตกจากส้นสูงขนาดสามนิ้วของเธอจนหน้าหงายยังเป็นที่พูดถึงนานเกือบทั้งอาทิตย์ แล้วนี่ยูจีน โคลแมนโดนปาไข่เชียวนะ! “แล้วเธอรู้หรือเปล่าว่า ครูใหญ่จะทำอย่างไรกับคนที่ทำเรื่องแบบนี้น่ะ?”

“ขอโทษนะโจ แต่ฉันไม่ได้ทำ หรือต่อให้ฉันทำ นายก็ไม่มีหลักฐานอยู่ดี” ฉันพยายามจะหนีจากเขาให้เร็วที่สุด จริงอยู่ที่ว่าหนีอย่างไรก็หนีไม่พ้นแน่ แต่อย่างน้อยฉันก็มั่นใจว่าโค้ชพีกำลังมาที่นี่และการเผชิญหน้ากับโจในภายหลังย่อมดีกว่าตกเป็นเป้าของโค้ชพี

“ฉันอาจจะไม่มี แต่ครูใหญ่จะต้องอยากรู้แน่ๆ ว่าเธอมาทำอะไรที่นี่เวลานี้” โจว่าพลางพยักพเยิดหน้าไปด้านหลังฉัน เสียงฝีเท้าหลายคู่กำลังวิ่งตรงมาทางนี้!

“นายต้องการอะไร” ฉันถามอย่างร้อนรนราวกับคนกำลังโดนไฟรน

มุมปากของโจโค้งขึ้น “ข้อเสนอเดิมของเรา”

“ไม่มีทาง!”

“ถ้าอย่างนั้น...ฉันคงจะต้องบอกครูใหญ่ว่าเธอเกลียดยูจีนมากขนาดไหน” ฉันรู้ว่าโจพูดจริง เขากล้า และเขาก็จะทำแน่ตราบใดที่เขายังไม่ได้สิ่งที่ต้องการ

 “ฉันว่าครูใหญ่เองก็ต้องอยากรู้เหมือนกันว่า นายมาทำอะไรที่นี่!” ฉันพูดออกไปทั้งๆ ที่ไม่ได้คิดล่วงหน้าเลยสักนิดว่า อีกฝ่ายอาจจะตอบกลับมาแบบไหน เพียงแต่แค่อยากให้เขาสะอึกสักนิดและหาช่องทางในการหลบหนี

 “แล้วเธอคิดหรือว่า ครูใหญ่จะเชื่อว่าคนที่ยื่นข้อเสนอว่าจะดูแลยูจีนให้ดีที่สุดอย่างฉัน จะเป็นคนทำเรื่องงามหน้าแบบนี้น่ะ”

 กะ…ก็…ก็ถูกของเขา แต่คุณพระคุณเจ้า! ทำไมโจจะต้องมาอยู่ตรงนี้ในเวลานี้ด้วย คิ้วของโจเลิกสูงขึ้นทันทีที่เสียงเคลื่อนย้ายของฝูงชนดังขึ้นเรื่อยๆ เป็นเชิงเร่งรัดเอาคำตอบจากฉันที่หัวใจเต้นรัวอย่างบีบคั้นจนมันแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว “สาบานเลยก็ได้ว่าฉันไม่ได้ทำ!”

 “ก็ได้ ก็ได้ เธอเปล่าทำ” โจเดินวนรอบตัวฉันอย่างช้าๆ ฉันไม่แน่ใจว่านั่นเป็นจิตวิทยาอะไรสักอย่างที่จะทำให้ฉันหลงกลแล้วตอบตกลงเขาเร็วขึ้นหรือเปล่า แต่ถ้าใช่ล่ะก็ ฉันว่ามันใช้ได้ผล “ถ้าอย่างนั้น บอกฉันสิว่าใครเป็นคนทำ”

เลือกคำถามได้ดี เพราะฉันไม่มีทางบอกเขาแน่ว่าคนที่ทำคือแอลลี่ ตามหลักแล้วฉันจะทำแบบนั้นก็ได้ แต่คุณจะให้ฉันสลัดความผิดออกจากตัวแล้วชี้ไปทางที่เพื่อนรักของตัวเองอย่างนั้นเหรอ (แม้ว่าเธอจะวิ่งหนีความผิดของตัวเองไปไหนแล้วก็เถอะ) จริงอยู่ที่เธอเป็นคนทำ แต่ฉันก็พูดแบบนั้นไม่ได้! เพื่อนกันไม่ควรทำแบบนั้น!

แต่ถ้าฉันไม่ทำ ฉันก็คงไม่ต่างอะไรกับแพะโง่ๆ ที่ยอมรับบาปของคนอื่น

“ถ้าตกลง...ฉันต้องรอด!”

ริมฝีปากของอีกฝ่ายโค้งขึ้นเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวอย่างสวยงาม ซึ่งตรงข้ามกับฉันโดยสิ้นเชิง

“ยินดีต้อนรับเข้าสู่ ลา ลา แลนด์ ชเลนเดอร์”

ฉันนี่แหละ...แพะของจริง!

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา