Higher Classes <ขโมยหัวใจนายรุ่นพี่>

9.6

วันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 22.07 น.

  49 chapter
  24 วิจารณ์
  42.09K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 มีนาคม พ.ศ. 2559 00.16 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

14) ยัยเปอร์เซียร์กับคำด่าทอที่เจ็บในใจ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

    วันเวลาผ่านไปเร็วเมื่อตอนเที่ยงพึ่งทีกิอิจฉาว่ะ แถมเกือบมีการฉะกันขอคิดว่ามันเป็นการที่จะพัฒนาควาทสัมพันธ์ได้เร็ว ขึ้น เพราะเหมือนตอนนี้ มันก็เริ่ม จะ ดีขึ้นแล้ว 

 

 

"วันนี้แทบไม่ได้เรียนเลยห้องชั้นเนี่ย" 

สองสาวพูดคุยกันขณะลงจากอาคารเรียน

"หึยยย อิจฉาว่ะห้องชั้นเนี่ย การบ้านแน่นมาก" อลิซพูดพลางเบ้ปากเอือมระอากับการบ้านของเจ้วัฒนธรรม

"ฮ่าๆๆ สมแล้ว วันนี้ชั้นไม่มีเรียนไงเลยรอด "

"แหม่...ถ้าแกมีแกก็บ่นอย่างชั้นเนี่ยแหละ ไอเบล"อลิซค่อนชอดเพื่อนรัก 

เมเบลไหวไหล่แบบกวนๆ 

"เนี่ย เวลาผ่านไปเร็วมากเลยอ่ะ เดือนนึงแล้วนะที่อยู่ที่นี่"

"ใช่ เร็วโคตรๆเลย ยังไม่ได้ทำอะไรที่สำเร็จสักอย่าง''

''เร็วๆนี่แหละน่า ใจเย็นๆ" เมเบลพูดให้กำลังใจทั้งตัวเองและเพื่อนรัก 

"เออนี่..." 

"อ้าว อยู่ที่นี่กันเอง นี่เมเบล ใช่มั้ย เรานาบีน้า เป็นเพื่อนอลิซในห้องน่ะ นี่อลิซ วันนี้ขอเดินกลับด้วยนะพอดัวันนี้จะไปบ้านพี่โฮวอน คิดถึงคุณป้า"(หึ เอาแม่เค้ามาอ้าง) อลิซหันหลังเบ้ปากอย่างหมั่นไส้"เราเลยโทรบอกคุณแม่ว่าไม่ต้องมารับน่ะ แต่เราว่าน่าจะสนุกดีนะ เดินกลับกัน 3 คน ได้ไม่เงียบไง" นาบีจงใจเน้นคำว่า3คน ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่รู้ว่า ในสายตาโลกสวยของนาบีก็มีวูบไหวเป็นนางร้ายนะ อลิซดูออก รู้จักน้อยไปแล้วนะ 

 

ส่วนเมเบลส่งยิ้มแหยๆมาให้ เพราะพอจะตอบยัยนาบีก็พูดแทรกราวกับกลัวว่าใครจะแย่งพูดงั้นแหละ รู้สึกถึงรังสีบางอย่างที่แผ่ออกมาจากเพื่อนรัก 

พอถึงโอกาสจึงเอ่ยตอบ นาบีเป็นมารยาทก่อน

"อื้มๆๆ เราเมเบล รู้จักกันไว้เยอะๆ "

คนที่เงียบสุดก็เอ่ยขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

"อืม เอาสิ หลายคนก็หนุกดีนะ ถ้าเธอคิดว่างั้น" น้านมีเอียงคอตาจิกใส่เข้าอีก 

"ใช่ เราว่าหนุก  แล้วนี่จะไปหาพี่โฮวอนเลยมั้ย จะได้ไปพร้อมกัน " นาบีก็ร้ายนะ เมเบลก็ดูเป็นนะเห้ย 

อลิซหันมาพูดกับเมเบลก่อนจะเดินจากไป

"ยัยนี้รู้จักชั้นน้อยไปแล้วนะ แล้วเดี๋ยวเราเจอกันที่บ้าน"

เราก็พยักหน้ารับ...

"ไปสิ"

 

 

 

จบจากเรื่องอลิซก็มาถึงเรื่องของเราบ้าง 

 

"เฮ้อออ ถ้าของเรามีตัวร้ายมาเกี่ยวด้วยจะลำบากแค่ไหนนะ" เมเบลเดินพูดงึมงำไปคนเดียว แต่แล้วก็ต้องหยุดเดินเมื่อมีตนมาต่อบทสนทนาให้

 

"ก็คงสนุกน่ะสิ " น้ำเสียงดุดันดังมาจากข้างหลังเมเบล 

เมเบลรู้สึกว่าได้ยินเสียงชัดมากแต่ก็ยังไม่กล้าหันไปแต่รับรู้ได้ว่าไม่ใช่ฮันบยอลแน่ๆ แต่น้ำเหมือนเคยได้ยินที่ไหนเลย ที่รู้ๆคือน้ำเสียงไม่เป็นมิตรเอาซะเลย

"อะ...เอ่อ...นายเป็นใครนะ คือชั้นไม่รู้อ่ะ" คำถามแสนติ๊งต๊องของเมเบล ทำเอาคนที่ยืนอยู่ข้างหลังถึงกลับกลั้วหัวเราะ 

"หึๆๆ...ชั้นน่ะหรอ จองเบไง นี่สาวน้อยจำเสียงชั้นไม่ได้หรอกหรอ หืมม" 

พอเมเบลได้ยินชื่อถึงกับสะดุ้ง หึ้ยยย ที่แท้ก็หมอนี่เอง 

"นายเองหรอกหรอ หึ้ย!ทำอย่างกับ น้ำเสียงนายน่าจำมากนักหนิ" เมเบลรีบถอยหลังแล้วหันหน้ามาประจันหน้าทันที ไม่กลัวหรอก เห้ย

"ทำไม!!! แล้วมันไม่น่าจำตรงไหน ห้ะ!! " พอถูกกวนประสาทหน่อยจองเบก็ตะคอกเสียงใส่เมเบลทันที

"ก็ทุกตรงอ่ะ แต่เดี๋ยว.. แล้วนี่นายมาตะคอกเสียงใส่ชั้นทำไมเนี่ย" เมเบลลอยหน้าลอยตาตอบกลับไป 

เมเบลไม่ได้เกรงกลัวจองเบเลยสักนิด เมื่อจองเบเห็นอย่างงั้นกลับยิ่งโมโหเมเบลที่กล้ามากที่มาเถียงตน ใน ร.ร นี้ไม่เคยมี ผญ.คนไหน กล้ามากวนประสาทหรือทำอะไรแบบผญ.คนนี้เลยสักคน 

"นี่!!!!.......เฮ้ออออเอาเถอะ เธอนี่ มันน่าค้นหาจริงๆ ชั้นชักจะสนใจเธอมากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยนะ หรืออาจจะมากกว่านั้นอีก เตรียมตัวตั้งรับชั้นไว้ให้ดีล่ะ" 

จองเบมาคิดๆดูแล้วผญ.คนนี้ดูน่าค้นหาดูไม่เหมือนผญ.คนอื่นๆทั่วบางคนแค่กระดิกนิ้วก็มาหาแต่เหมือนคนนี้ถ้าทางจะยาก นี่ถึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จองเบถูกใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเมเบล ตอนแรกกะว่าจะตะคอกกลับไป แต่เห็นสีหน้าท่าทางแมวขู่แล้วเลยเปลี่ยนเป็นถอนหายใจแล้วพูดน้ำเสียงเรียบๆก็พอ 

 

"หาาาาา......นะ...นายว่าไงนะ" เมเบลถึงกับตาโตอ้าปากค้างอะไรนะ สนใจงั้นหรอ 

"ชั้นบอกว่า ชั้นสนใจในตัวเธอ เตรียมตัวรับมือกับตัวร้ายอย่างชั้นได้เลย หึ!! " 

"เห้ยยย....ไม่ได้นะชั้นไม่สนเว้ย อย่ามาป่วนชั้นเด็ดขาด เห้ยๆๆ กลับมาก่อนเซ้" เมื่อพูดไม่จบประโยคไอจองเบก็เดินเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงไปพร้อมลูกน้องหน้าห่วยที่โผล่ทาตอนไหนไม่รู้เดินตามหลัง...

 

"อะไรว่ะเนี่ย...ให้ตายสิ.."เมเบลยืนยีหัวตัวเองอย่างคนเสียสติ จนคนเดินผ่านไปต่างมองมา 

"เป็นบ้า! ไรของเธอเนี่ย มายืนพูดคนเดียวอยู่ได้" แล้วเสียงที่แสนคุ้นเคยก็ลอยผ่านมาพร้อมร่างสูงของฮันบยอลเดินตัดหน้าไป เมื่อได้สติเมเบลรีบจ้ำอ้าวเดินตามทันที 

"ไม่ได้บ้า แต่ก็ใกล้แล้วล่ะ " เมเบลยังหงุดหงิดเรื่องเมิ่อกี้ไม่หาย 

"แล้วบอกทำไม ใครคนถามหรอ" ฮันบยอลถามหน้าตาย

"โอ้ยยย.....เมื่อไหร่นายจะพูดกับชั้นเยอะๆ ดีๆ บ้างเนี่ย" 

"ทำไม เธออยากจะพูดกับชั้นนักหรอไง..." ฮันบยอลพูดขึ้นน้ำเสียงเรียบๆ

"เอ่อออ.....ก็...อยากนะ." พอเจอคำถามตรงๆใของฮันบยอลทำเอาเมเบลตอบเสียงกุกกัก

"หึ...แต่ชั้นยังไม่อยากอ่ะ" 

"เห้ย...นายนี่!!! "

"........" ตามแบบแผนใส่ไอ้เบ้าทแดงอีกแล้ว 

เมเบลได้แต่เดินกระฟัดกระเฟียกไป แต่เมื่อนึกคำถามบางอย่างได้จึงรีบเอ่ยถาม 

"เอ้อ....วันนี้นายไม่ได้ซ้อมบาสหรอไง"

"......"

"นี่!!!! ได้ยินประเนี่ยยยย "แต่ใสเบ้าทแต่ไม่ได้หูหนวก แกล้งใช่มั้ย 

"......"

ได้เลย...คิดว่าไม่กล้าหรอไง

เมเบลกนะโดดอย่างเต็มแรงอยู่ข้างหลังฮันบยอลแล้วรีบเอามือถอดเบ้าทออกจากหูฮันบยอลอย่างไว...

ฮันบยอลได้แต่ยืนนิ่งๆระงับอารมณ์ ไม่เคยมีใครกล้ามากขึ้นขนาดมาถอดของรักของเขาออกโดยไม่ได้รับอนุญาติ ขนาดโฮวอนยนับครั้งได้เลย...

เมื่อเห็นฮันบยอลยืนนิ่งเมเบลก็ค่อยเดินไปอยู่ข้างหน้าฮันบยอล ถึงกับสะดุ้งหัวหดเมื่อเห็สายตาคมๆของฮันบยอลมองมาอน่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ...

"อุ่ยยย....โกรธขนาดนี้เลยหรอ" เมเบลพูดเสียงอ้อมแอ้มไม่กล้าสบตาเลย หือออ ยอมรับเลยตอนนี้กลัว 

"......"ฮันบยอลยืนนิ่งสงบสติอารมณ์ 

".....นี่นายจะไม่พูดกับชั้นจริงๆหรอไง"

"......."

เมเบลค่อยเงยหน้าขึ้นมามองฮันบยอลก็ยเจอสาสตาโหดมองมาจึงรีบเสมองไปทางอื่น

"นี่ ชั้นถามไรหน่อยสิ ทำไมเธอถึงได้หน้าด้านหน้าทนอย่างงี้ล่ะ คนเค้าไม่อยากพูดด้วยยังตามมาวุ่นวาย คอยพูดนู้นพูดนี้ตลอดเลย ตลอดเวลาการที่เธอได้อยู่ที่บ้านชั้นชั้นว่าชั้นจะบอกเธอบ่อยอยู่นะว่าชั้นไม่อยากพูดกับเธอ เธอก็ไม่เข้าใจ เราพูดภาษาเดียวกันนี่ ชั้นขอพูดเลยนะชั้นเบื่อ รำคานเธอมากแค่กลับบ้านด้วยกันมันก็มากเกินพอ แล้วนี่เธอยังมายุ่งกับของสำคัญของชั้นอีก มันเกินไป!! "

 

ฮันบยอลพรั่งพรูความรู้สึกทุกอย่างออกมาหมด ในแต่ล่ะประโยคฮันบยอลจะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่มันก็ยังมีความโกรธเกรี้ยวแฝงอยู่ คนฟังอย่างเมเบลถึงกับตัวชาดิก ขยับขาแข้งไปไหนไม่ได้ รู้สึกเจ็บในอกข้างซ้ายเจ็บจนหายใจแทบไม่ออก ความรู้สึกมันบอกไม่ถูกรู้สึกจุกจุก มาก จนมันอยากระบายเป็นน้ำตา แล้วตอนนี้น้ำตามันกำลังเนิ่มเอ่อล้นตรงขอบตาแต่เมเบลก็พยายามสกัดกั้นอารมณ์ อย่างสุดความสามารถ...

'นี่เราหน้าด้านขนาดนี้หรอชั้นมันวุ่นวายน่าเบื่อน่ารำคานขนาดนั้นเลยดิ' 

 "แต่ชั้นแค่จับเองนะ."เมเบลก้มหน้าตอบรู้สึกหน่วงไปหมดเลย

"ไม่ได้!!! พอสักที เลิกวุ่นวายกับชั้นได้แล้ว!! เบื่อ!!! รำคาน!!"ฮันบยอลขึ้นเสียงใส่เมเบล อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เมเบลรวบรวมน้ำเสียงที่ขาดหายไปก่อนจะค่อยๆเค้นคำพูดออกมาตอบเพื่อแสดงว่าตนไม่เป็นไร

"งะ...งั้นหรอ ชั้นคงเป็นตัวน่ารำคานมากเลยเนาะ ฮ่าๆๆ ขอโทษนะ ที่ทำให้นายรำคานขนาดนี้ " เมเบลพยายามกลั้นก้อนสะอื้นเค้นหัวเราะอย่างยากลำบาก  

หลังจากพูดจบประโยค เมเบลก็หันหลังเดินย้อนไปอีกทางทันที ตลอดการเดินเมเบลได้แต่พูดปนเสียงสะอื้นไปคนเดียวตลอดทาง..

 "ฮือออออ....ไอบ้า...ชั้นไม่น่ายอมนายเลย..ฮึกกก"

"ฮือออ...ฮึกก...ทำไมมันเจ็บอย่างนี้"

ฟืดดดด~~~เสียงสู้ดน้ำมูกเป็นเด็ก

"ฮึก...ชั้นมันน่ารำคานมากเลยรึไง..ฮึก...ฮือออ"

"ใช่เซ่...ฮึกกก....ชั้นไม่ใช่รักแรกของนายนี่...ฮืออออ"

"ชั้นจะไม่ทนแล้ว ฮึก...ฮืออออออ ไม่รักก็ไม่ต้องรัก"

เมเบลเดินสะอึกสอื้นร้องไห้จนตัวโยนไม่สนคนรอบข้างที่มองมา มีบ้างยกมือเช็ดมั่วซั่วไปหมด ไม่เคยเลย ไม่เคยมีใครมาว่าตนขนาดนี้จนาดแม่แท้ๆยังไม่เคยเเล้วนายเป็นใคร.....ทำไมต้องทน ทำไมต้องยอม...

 

ติ้งต่องงงง~~~

เมเบลยืนกดออดหน้าหอพักสุดดูดีของ นร.ทุน รอสักพักก็มีคนมาเปิดประตู 

 

"ครับ.มาแล้วๆ..เห้ยย...ไอเบลเป็นไร ว่ะ มาๆเข้ามาก่อนๆ" คอปเตอร์เมื่อเปิดประตูออกมาเจอใบหน้าเพื่อนรักที่ตอนนี้มีน้ำตาล้นขอบตาจึงรีบเรียกให้เข้ามาก่อน..เมเบลก็ว่าง่ายเดินตามเข้ามา

 

"เป็นอะไรของแก...ไหนบอกมาสิ" คอปเตอร์พาเมเบลมานั่งในส่วนของห้องนั่งเล่น ตนแบ่งสัดส่วนเอง..

ที่เมเบลรู้ที่อยู่ของหอคอปเตอร์เพราะไอ้เจ้าของห้องเคยจดแผนที่ไว้ให้ โดยให้เหตุผลว่า'ถ้ามีปัญหาเดือดร้อนอะไรหรือทนอยู่ที่นั่นไม่ได้ให้มาหาชั้น' ซึ้งสิค่ะ 

"ห้องแกก็โอเครนะ" หลังจากเช็ดหน้าเช็ดตาแล้วก็เริ่มเบี่ยงประเด็น 

"เมเบล....อย่าเปลี่ยนเรื่อง"ตอปเตอร์กดน้ำเสียงลงต่ำ

หลังจากเริ่มถูกสายตาคาดคั้นก็ทนไม่ได้จึงค่อยๆเริ่มเล่า

"ชั้นมันโง่เองว้ะ คอปเตอร์" เมเบลก็ได้แต่คิดว่าจะปิดบังทำไมเพื่อนกันหมดแล้วอีกอย่างนี่ก็เพื่อนรักด้วย 

"เล่ามา..."

เมเบลเริ่มเล่าตั้งแต่การคิดแผนการเล่ามาเรื่อยๆจนมาถึงจุดพีคของตัวเองน้ำตาเจ้ากรรมก็พางจะไหลเอาให้ได้ แต่มันก็ห้ามไม่อยู่ก็ปล่อยเลยแล้วกัน แต่จะว่าไปตั้งแต่เล่าจบไปฮันบยอลไม่เคยพูดดีๆด้วยเลยเอาแต่ด่าว่าเย็นชา อย่างเดียวมานั่งคิดดูแล้ว เราทนได้ไง ก็ทนมาแล้วนี่นา แต่นี่มันพีคสุดว่าเราหน้าด้านเลยอ่ะ ฮืออออออ แล้วไม่น่าจะไปคิดเลนว่าไอ้บ้าฮันบยอลคือพี่เจ้าชาย 

"เออๆ ไม่เป็นไรนะเว้ย ยังไงแกก็ยังมีชั้น" คอปเตอร์ดึงต้วเพื่อารักเข้ามากอดปลอบใจ ตั้งแต่คบกันก็จะมีแต่ครั้งนี้ที่มันร้องไห้หนักสุด แต่จะว่าไปเมเบลแทบไม่เคยร้องไห้เลยนี่นา

"ขอบใจนะไอ้เตอร์....ชั้นไม่เป็นไรแล้วล่ะ โห่...ไอเบลซะอย่าง"

"ยังมาเก่ง.....แล้วนี่จะกลับบ้านนั่นมั้ย"

"เอ้ากลับสิ ถึงชั้นจะโดนว่าแต่ยังไงชั้นก็ยังมีเพื่อนรักอยู่อีกคนนะเว้ย"

"ไอ้เพื่อนรักที่ว่าเนี่ย.....ใช่คนตรงประตูป้ะว่ะ" คอปเตอร์เอ่ยพลางส่งสายตาไปที่ประตู 

"ไอลิซซซซซซซ....มาได้ไงเนี่ย"

"ตอปเตอร์ส่งข้อความมาบอกว่าแกร้องไห้โฮมาเลย....ชั้นเลยวิ่งสี่คูณร้อยมาหาแกทั้งๆที่ตอยนั้นชั้นกำลังจะฉะกับยัยนาบีพอดีแต่พอรู้เรื่องแกก็มาทันทีเลยเนี่ย ได้ยินหมดเเล้วไม่ต้องเล่าซ้ำ" อลิซร่ายยาวโดยไม่ต้องถามพร้อมสาวเท้ามานั่งขนานคู่เมเบลเท่ากับตอนนี้เมเบลอยู่ตรงกลางระหว่างไอเตอร์กับไอลิซ

"ขอโทษนะเว้ย ขัดจังหวะแกพอดี แล้วไอเตอร์ส่งไปหามันทำไมเนี่ย" เมเบลเอ่ยเสียงเบาขโทษอลิซก่อนจะหันไปถลึงตามส่คอปเตอร์ 

"ไม่เอาน่า....เพื่อนกันทั้งนั้น คิดมาก เป็นไงเจ็บมั้ยคุณเมเบล" อลิซเอ่ยขัดแล้วหันไปถามเมเบล

"อืมมม เจ็บดิไม่คิดว่าร้องไห้ด้วย แย่ชะมัด"

"เฮ้ออออ แล้วไงจะหยุดแค่นี้หรอ"

"พักก่อนแล้วกัน ไม่ไหวว่ะ จุก"เมเบลเอ่ยเสียงอ่อยใบหน้าซึมๆแบบที่สองเพื่อนไม่เคยเห็น 

"แต่แก ห้ามหยุดนะ ต้องไปต่อ เข้าใจป่ะ"

"ยังเป็นห่วงคนอื่นอีกนะ แกเนี่ย.."

"แล้วนี่จะกลับบ้านมั้ยป่านี้ยัยนาบีทำคะแนนแซงหน้าชั้นไปแล้วแน่เลย"

"อลิซ แกนี่ก็น้า"คอปเตอร์เอ่ยปรามต่อให้ชอบอลิซถ้าเค้าไม่ชอบเราก็เป็นเพื่อนกันนี่แหละยาวนานสุดแล้ว

"ไม่เป็นไรๆ ชั้นไม่หนีหรอก ไปกลับเถอะ ชั้นเก่งและ" เมเบลพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด 

"แกโอเครนะ ไอเบล" อลิซถามด้วยความเป็นห่วง

"อืมมโอเครที่สุด ขอบใจนะเตอร์ "

คอปเตอร์พยักหน้ารับพลางส่งยิ้มอบอุ่นไปให้ 

"เอ้อ พน.ไป ร.รด้วยล่ะ"

"คร้าบบบบบ"

"ไปก่อนนะ "

ร่ำลากันเสร็จก็มุ่งหน้าสู่บ้านพัก เอาเข้าจริงเมเบลก็ยังทำตัวไม่ถูกอยู่ดี เอาจริงๆเลยคือ ไม่อยากมองหน้าไม่อยากเจอไม่อยากคุยจะว่าโกรธก็ได้แต่มาคิดอีกที เราไม่มีสิทธิโกรธเค้าเลยสักนิด 

 

 

 

 

 

เมื่อเมเบลเดินหน้าหงอยผ่านหน้าฮันบยอลไป ทำให้ฮันบยอลรู้สึกแปลกๆ เห็นหน้าตาโตๆนั่นหมองลงทำให้ใบหน้าน้องเจ้าหญิงในอดีตตัดเข้ามาในหัวงงอสู่เหมือนกันทำไมเวลามองหน้ายัยบื่อยั่นทีไรภาพน้องเจ้าหญิงชอบแทรกซ้อนเข้ามาทุกที  แต่นั่นก็ทำให้ได้สติว่าเมื่อกี้เราว่าแรงไปรึเปล่า รู้สึกกไม่ดีเหมือนกัน แต่อีกใจกับผลักดันเรื่องของเมเบลให้ออกจากหัว ที้ตนไม่อยากพูดไม่อยากรู้จักเพราะไม่อยากสร้างความผูกพันธ์กับผญ. คนไหนอีกไม่ว่าจะเข้ามาโดยฐานะอะไรก็ตามไม่อยากเลย..... 

ส่วนเบ๊าทแดงนั่นมันเป็ของรักของฮันบยอลจริงๆ เพราะเป็นของชิ้นสุดท้ายที่เค้าคนนั้นซื้อไว้ให้ในวันเกิด และมันคงเป็นครั้งสุดท้ายมันทำให้ฮันบยอลรักและหวงมาก...

ฮันบยอลเหลียวหันกลับไปมองก็เพราะว่าว่างเปล่าจึงเดินกลับบ้านโดยไร้เงาเมเบล...

 

 

 

 

 

 

 

เมื่อกลับมาถึงบ้าน ฮันบยอลคิดว่าเมบลจะมาถึงแล้วแต่กลับไม่มี ตอนนี้ที่บ้านทีเพียง แม่ โฮวอน และ นาบี แต่ไร้เงาสองสาว

 

"อ้าวว ฮันบยอล หนูเมเบลล่ะลูก" โซวอนเอ่ยถามลูกชาย ที้ปกติเข้าบ้านมาจะเห็นหนูเมเบลเดินคู่มาตลอด 

"ไม่รู้ครับ" ฮันบยอลตอบตามความจริง

"เอ๋....อะไรกันเนี่ย หนูอลิซก็ยังไม่กลับพอถาม โฮวอน ก็บอกไม่รู้" โซวอนเริ่มกังวลใจ ที่สองสาวยังไม่กลับบ้าน

 

"พี่ฮันบยอลสวัสดีค่ะ"

เสียงใสๆจากนาบีเอ่ยทัก ฮันบยอลส่งยิ้มบางๆ ก่อนจะขอตัวขึ้นห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า....แต่เราตัวปัญหาที่ทุกคนต่างไม่รู้ว่าไปไหนก็เดินเข้ามา

"กลับมากันแล้ว ไปไหนกันมาจ้ะ วันนี้ถึงกลับกันช้าเชียว" โซวอนเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง 

นาบีได้แต่ยืนหงุดหงิดที่คุณแม่ของ พี่โฮวอนดูจะใส่ใจยัยพวกนี้เป็นพิเศษ

"อ๋อ...แวะไปหาคอปเตอร์มาค่ะ คือเพื่อนอีกคนน่ะค่ะ มันไม่สบาย" อลิซรีบแถ

"อ้ออออ แล้วหนูเมเบลล่ะจ้ะ"

"นี่ไง...อ้าวไปไหนเนี่ย แป้ปนึงนะค่ะ" อลิซหันไปถึงกับเหวอที่เพื่อนหาย เมเบลยิ่งร้องไห้แล้วเอ๋อๆอยู่ 

"จะไปไหนอยู่นี่....."เมเบลส่งเสียงบอกก่อนจะเดินเข้ามาเมื่อมองไปตรงบันไดก็เจอสายตาของคนปากร้ายใจร้ายมองมาจึงรีบหลบสายตา

"หนูเมเบล ทำไมตาแดงๆ เหมือนร้องไห้เลยลูก เป็นอะไรบอกแม่มาซิ"

"อ๋อ คือมัน..."

"ฝุ่น...ฝุ่นเข้าตาค่ะ ไม่ได้ร้องไห้ค่ะ",เมเบลรีบพูดแทรกอลิซ รีบโบกไม้โบกมือทันที 

" ดีแล้วจ้ะ แม่ก็นึกว่าเป็นอะไรงั้นรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงมาทานข้าวเถอะ วันนี้หนูนาบีก็มาด้วยนะ เอ้อ อลิซแม่วานเรียกโฮวอนด้วยนะลูก"

อลิซพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินนำหน้าไปขึ้นบันได พอเห็น ฮันบยอลยืนอยู่อดไม่ได้ที่จะเหน็บแนมเบาๆ 

"แย่ ไม่น่าเลย!! "แลิซพูดพลางส่ายหน้าก่อนจะเดินขึ้นไป 

ฮันบยอลได้แต่ยืนนิ่งๆก่อนจะก้าวบันได้ขึ้นห้อง 

 

เมื่อเห็นคนตรงบันไดขึ้นไปแล้วเมเบลจึงค่อยขึ้นไป

 

นาบีรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกินยังไงไม่รู้ ไม่ได้ล่ะต้องรีบดำเนินแผนไม่งั้นเสียคะแนนหลังอย่างคุณแม่ไปแน่ๆ

 

 

เมื่ออลิซเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ...เดินไปเคาะห้องเมเบล เมเบลก็ตอบมาว่าเดี๋ยวลงไป จึงเดินไปห้องตรงข้าม เคาะห้องเพื่อเรียก แต่ก็ไร้เสียงตอบรับ.....จึงลองจับที่ลูกบิดประตูปรากฎว่าไม่ได้ล๊อค....จึงขออนุญาติเดินเข้าไป

 

อลิซมองไปรอบห้องโฮวอน อย่างชื่นชม ห้องกว้างมากเหมือนกัน ในห้องนี้มีทั้งกลองชุดของโปรดของโฮวอน กีตาร์โปร่ง กีตาร์ไฟฟ้า อาคูเลล่ โห อย่างกะห้องซ้อม ไหนจะโมเดลหุ่นยนต์อีกนับไม่ถ้วน จะว่าไปก็เด็กเหมือนกันนะเนี่ย แต่ทำไงก็รักไปแล้วอ่ะนะ 

 

อลิซเดินที่เตียงขนาด5ฟุต ที่เป็นธีมน้ำเงินขาว สบายตาดี 

"นาย...ตื่นไปกินข้าวได้แล้ว"

"......."

"เห้....ตื่นได้แล้วอย่าขี้เซาได้มั้ย" อลิซค่อยๆใช้มือกระชากผ้าห่มออก 

"อืม..."โฮวอนครางออกมาเมื่อถูกรบกวน 

"โหยยยย.....ทำไมตื่นยากนักนะ"

อลิซเดินออกจากห้องไปหยิบฟ๊อกซี่สำหรับฉีดรีดผ้าในห้องนอนตนเองออกมา ดีนะที่ยังไม่คืนแม่บ้านไป 

 

"โฮวอนอ่าาา.....นายจะไม่ตื่นใช่มั้ย" อลิซลองใช้มือตัวเองสกิดเบาๆที่แขนโฮวอน 

แต่โฮวอนกลับสะบัดแขนหนี....

"โอเคร...ได้..." 

ฟึบๆ~~ฟึบๆ~~

เสียงกดของที่ฉีดน้ำดังเบาๆพร้อมสายน้ำที่กระเซ็นเต็มหน้าโฮวอน....

"ย่าห์!!!! ใครฉีดน้ำอะไรเนี้ย..."โฮวอาตื่นเต็มตาพร้อมกระเด้วตัวลุกจากที่นอนแล้วรีบเช็ดหน้าเช็ดตาตัวเองทันที

อลิซรีบก้าวถอนหลังพร้อมเอามือปิดปากกลั้นขำ

"ยัย..ยัยอลิซ...เธอเล่นบ้าอะไรของเธอห้ะ!!"โฮวอนกดน้ำเสียงลงต่ำด้วยความโมโห 

"ใครเล่น ชั้นไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย"

"งั้นหรอ...ไม่ได้เล่นใช่มั้ย" โฮวอนแกล้งพูดเสียงกวนๆและสอดสายตามองหาสิ่งของแก้แค้นอลิซ...

"ใช่...." ยังแก้ตัวต่อไป 

"ก็ดี..."โฮวอนพูดพร้อมสาวเท้าเข้ามาใกล้ 

อลิซเริ่มหวั่นๆเหมือนเริ่มรู้ชะตากรรมจึงถอยหลังทันที 

"เห้ย....จะทำอะไร...ก็นายตื่นยากเองนี่นา....ออกไปสิจะเข้ามาทำไมเล่า" อลิซเริ่มรนรานเมื่อถอนหลังไปก็ชนโต๊ะเขียนหนังสือ 

"อ้าวว ตกลงเธอทำหรอ...หึหึหึ แต่ยอมรับตอนนี้มันสายไปแล้ว " 

"หลับตาลงซะสิ"โฮวอนแสร้งพูดเสียงนุ่ม 

"หาาาาาา....ชั้นไม่ตลกนะ" อลิซใจเต้นแรงแทบทะลุออกมาเมิ่อโฮวอนยิ่งเดินเข้ามาใกล้ใบหน้าร้อนผ่าว อย่างกับตัวจะระเบิด 

"ชั้นบอกให้ หลับตา อยากเจอดีใช่มั้ย" โฮวอนแสร้งทำเสียงดุ 

นั่นจึง ทำให้อลิซหลับตาอย่างไว ไม่รู้ว่าจะเจออะไรแต่ที่แน่ๆมันต้องไม่ใช่เรื่องดี....ไม่น่าแกล้งเลย 

 

พออลิซหลับตาลง ทำให้โฮวอนได้มองหน้าอลิซชัดๆ ดวงตาโตสวย ขนตายาวงอน จมูกโด่งรั้น รับกับริมฝีปากสวย จะว่าไปก็น่ารักนะ แต่ตอนลืมตาเราไม่มีโอกาสได้มองดห็นความน่ารักบนหน้ายัยนี้เลยมีแต่ความ......เห้ย!!!!!! 

 

 เห้ยยยย!!!!!!!!! นี่เราชมยัยนี่ว่าน่ารักงั้นหรอ นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นแล้ว บ้าบอๆ 

โฮวอนรีบสะบัดหัวไล่ความคิด ก่อนจะลงมือแก้แค้น...

อลิซทำจมูกฟุตฟิต...

"กลิ่นมันเหมือนปากกาเคมี.......เห้ยยยย เคมี....ย่าห์!!!!  เอามืออกจากหัวชั้นเดี๋ยวนี้นะ" อลิซแหกปากโวยวายพอจะขืนก็มีมือคลีมล๊อคหัวไว้แล้ว...

"อยู่เฉยๆ จะเสร็จแล้ว อย่าดิ้นสิโว้ย..เธอ นี่ความรู้สึกช้าชะมัด "

อลิซจึงจำใจยอมอยู่เฉยๆ  หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ

"อ่ะ เสร็จล่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ แมวเปอร์เซียร์ นี่เพื่อน แดบักป่ะเนี่ย"

"นายขำทำไม มันน่าตลกมากรึไงเล่า"

"มากกกกก ไปเหอะกินข้าว"

"ไหน มันตลกมากรึไง"อลิซเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของโฮวอนที่เป็นกระจกยาว 

"เห้ยยย เขียนเยอะงี้เลยหรอ มันล้างยากกกก นายย!!! "อลิซโวยวายใหญ่ 

"แค่นี้ยังน้อย ชั้นยังไม่ได้ชำระอีกคดี ที่เข้ามาโดยไม่ขออนุญาติ ไว้ครั้งหน้า แต่ตอนนี้ไปกินข้าวได้แล้ว ส่วนเธอจะลงไปสภาพนี้ก็เชิญ" โฮวอนพูดยาวก่อนจะเดินผ่านหน้าไป ก่อนผ่านไปยังหยุดหันมาเขกหัวอลิซหนึ่งทีเป็นรางวัล

"นายนี่แม่งงง ชอบมาเพิ่มโมเม้นให้จัง><" อลิซยืนบ่นงึมงำก่อนจะเดินเข้าห้องตัวเองไปเพิ่อล้างหน้าก่อนล้างก็เซลฟี่ซะหน่อย....เจอกันไอจี.......อร้ายยยยย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา