แม้ชีวิตฉันก็จะให้นาย

10.0

เขียนโดย ภาพงับ

วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 03.03 น.

  5 บท
  0 วิจารณ์
  7,258 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558 03.09 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) ฉันจะไม่มีวันเสียใจภายหลังแน่นอน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          “ห่าวววว!” ฮิโรโตะห่าวอย่างง่วงนอนในห้องเรียน หลังจากเกิดเหตุการณ์เมื่อวานนี้ วันนี้เราก็มาโรงเรียนตามปกติ แต่เหมือนว่า ฮิโรโตะจะไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น

                “เมื่อคืนนี้อ่ะ เราต้องไปโรงพยาบาล แล้วก็ต้องพบตำรวจด้วย เห็นหมอบอกว่าเป็นวิตกจริตหมู่นะ เห้อ…. ยุ่งยากจังเลย เห็นว่าวันนี้ให้ไปเช็คอีกที” ฮิโรโตะพลางถอนหายใจกับพวกผม

                “เออ… น่าจะหยุดเรียนเลยก็ดีนะ” โซมะว่า

                “ไม่ได้หรอก จะทำให้คนที่บ้านเป็นห่วงเอาน่ะ”

                “สมกับเป็นนักเรียนตัวอย่างเลย 55+” โซมะพูดติดตลก

หลังเลิกเรียนผมกับโซมะไปนั่งเล่นกันที่สวนสาธารณะ

                “สบายใจจังเลยว่ะ …. นี่สินะ ความรู้สึกที่ได้ช่วยคนอื่น” โซมะว่า

                “ไม่…..กลัว….ไม่คิดเสียใจเลยหรอ” ผมพูดแล้วก้มหน้า

                “เพราะกูเจอเหตุผลแล้วน่ะ กูพบความปรารถนาที่แม้ต้องแลกด้วยชีวิตก็ทำให้เป็นจริงขึ้นมา ตอนเนี่ยมีเรื่องที่ทำให้กูเสียใจก็คือ หากตอนนั้นกูเป็นจอมเวทย์แล้วล่ะก็อาจจบลงที่คุณยูริไม่ต้องตายก็ได้ เพราะอย่างนั้นมรึงไม่ต้องคิดมากหรอก มันก็จบลงด้วยที่มรึงไม่ต้องเป็นจอมเวทย์น่ะนะ  พอดีกูมีธุระนิดหน่อยขอตัวก่อนนะ ” โซมะว่าพร้อมกับเดินออกไป

[ZOMA PART]

[  หลังจากแยกกับคาสึเกะผมก็มาหาโมโมกะจังที่โรงพยาบาล

                “ห๊า ยังออกจากโรงพยาบาลไม่ได้หรอ” ผมถาม

                “อือ เห็นหมอบอกว่ามันแปลกมากเลย ข้ามคืนเพียงแค่คืนเดียว ขาก็กลับมาเดินตามปกติ หมอก็เลยจะขอตรวจให้ละเอียดอีกทีน่ะ แต่ว่าน่ะ ปาติหารย์ที่โซมะเคยพูดน่ะ มันมีจริงๆด้วยสินะ” โมโมกะพูด

                “อือ ดีจังเลยนะ แค่นี้โมโมกะก็กลับไปเล่นเทควันโดได้เหมือนเดิมแล้วสินะ ” ผมพูดพร้อมกับยิ้มด้วยความดีใจ

                “โซมะ ขอบใจนะ ที่ไม่ลืมกัน มีแค่นายคนเดียวที่ยังมาหาฉันอยู่บ่อย คอยให้กำลังใจฉันมาตลอด แต่บางครั้งบางที ฉันก็ทำไม่ดีกับนาย พูดไม่ดีกับนาย แต่นายก็ยังดีกับฉัน ขอบใจจริงๆนะ นายน่ะเป็นเพื่อนที่ดีมากของฉันจริงๆ” โมโมกะพูด แต่คำพูดนั้นมันทำให้ผมจุกข้างใน เพื่อนหรอ ! แค่เพื่อนงันหรอ! ผมรักเค้ามาก รักมากจริงๆ แต่ก็ไม่กล้าบอกความรู้สึกที่แท้จริงออกไป มันทำให้ผมกลัว กลัวว่าเธอจะรังเกียจ ผมรู้ว่าตัวเองขี้ขลาด วันนึงสักวันนึง ผมจะบอกกับเธอว่าผมรักเธอมากขนาดไหน

]

หลังจากแยกกับโซมะแล้วผมก็ไปหามินาโตะ เพื่อพูดให้เขาเป็นมิตรกับโซมะเพื่อจะได้ไม่ต้องมีเหตุการณ์แบบคุณยูริอีกมีมิตรมากไว้จะดีกว่า ณ ร้านกาแฟ ผมชวนมินาโตะมาทานขนมปังด้วยกัน

                “ที่ว่ามีเรื่องจะคุยด้วยน่ะอะไรหรอ” มินาโตะว่า

                “เอ…เอ่อ คือว่า เรื่องโซมะนั่นน่ะนะ คืมมันมักเป็นคนอารมณ์ร้อน เลยทำให้ทะเลาะกับคนอื่นได้ง่ายๆ แล้วก็ชอบหาเรื่องแต่ว่าจริงๆแล้วหมอนั่นนิสัยดีมากจริงๆนะ ทั้งรักเพื่อน พวกพ้อง” ผมพูดหวังว่ามินาโตะจะเห็นใจ

                “จอมเวทย์แบบนั้นน่ะ เอาตัวไม่รอดหรอก พอใจดีเข้าหน่อยก็จะทำให้ตัวเองอ่อนหัด พอจะบ้าบิ่นก็กลายเป็นประมาท แล้วก็การอุทิศตัวน่ะ จะไม่ได้รับอะไรตอบแทน ถ้าไม่จำข้อนี้ให้ขึ้นใจ ก็เป็นจอมเวทย์ไม่ได้หรอก ซากุระ ยูริ ถึงจบชีวิตแบบนั้นไงล่ะ” มินาโตะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

                “เลิกพูดด้วยน้ำเสียงแบบนั้นสักทีเถอะ!!! …..  มันก็ใช่ โซมะถึงพูดว่าไม่มีอะไรก็จริง ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบคุณยูริ….. ฉันควรจะทำอย่างไรดี”

                “เป็นห่วง อาโออิ โซมะสินะ” มินาโตะพูด

                “อือ ถ้าทุกคนร่วมช่วยกันต่อสู้มันจะอุ่นใจกว่าไม่ใช่หรอไง” ผมพูด

                “ฉันเองก็ไม่อยากโกหกหรอกนะ และก็ไม่อยากจะสัญญากับสิ่งที่ทำไม่ได้ด้วย นายคนนั้นไม่น่าต้องมาทำสัญญาเลย ไม่ใช่ นายคนเดียวคาสึเกะ แต่ฉันควรจะดูแลนายคนนั้นด้วย ฉันไม่ขอปฏิเสธความผิดนั่นหรอกน่ะ แต่ว่า เมื่อทำสัญญาเป็นจอมเวทย์ไปแล้วก็จะกลับไปเป็นคนธรรมดาอีกไม่ได้ ก็เหมือนกับคนที่ตายไปแล้วนั่นล่ะ เพราะฉะนั้นยอมแพ้เรื่อง อาโออิ โซมะไปซะเถอะ” มินาโตะพูด

                “เพราะงันนายเองก็เลยยอมแพ้สินะ ทั้งเรื่องของตัวเองและเรื่องของคนอื่นด้วย” ผมพูด ทำไมกันนะ เพราะอะไรกันมินาโตะถึงต้องพูดขนาดนั้นด้วย

                “ใช่ ฉันไม่พูดแก้ตัวเพื่อชดเชยความผิดหรอกนะต่อให้ฉันต้องแบกรับความผิดไปอีกมากเท่าไหร่ ฉันก็จะสู้ต่อไป ขอโทษนะที่ทำให้เสียเวลา” มินาโตะพูดแล้วเดินจากไป

เมื่อถึงตอนค่ำ ผมแน่ใจว่า โซมะต้องไปกำจัด despond แน่เลย ผมจึงไปหาโซมะที่บ้าน

                “โซมะ ตอนนี้มรึงจะไปล่า despond งันหรอ” ผมพูด

                “อือ ก็ต้องไปทำน่ะนะ เพราะหากไม่ทำคนอื่นอาจต้องได้รับอันตราย คุณยูริเองก็ทำแบบนี้นิ” โซมะว่า

                “งัน….เอ…เอ่อ กูขอตามไปด้วยได้มั้ย… ” ถึงผมจะกลัวแต่ก็ไม่อยากให้โซมะไปคนเดียว

                “มรึงเกร็งมากไปหรือเปล่า ..” โซมะว่า

                “งันหรอ… กูคงเกะกะมรึงสินะ ไม่เป็นไร” ผมพูด

                “ไม่หรอกกูดีใจนะ ที่มรึงไม่ทิ้งกู จริงๆแล้วกูน่ะกลัวมากเลย แต่ถ้ามรึงไปด้วยล่ะก็กูก็มีกำลังใจขึ้นเป็นร้อยคนเลยล่ะ ! ขอร้องเถอะไปกับกูเถอะนะ” โซมะพูด ผมดีใจนะที่โซมะไม่รังเกียจผม แค่ที่ที่นึง ที่ที่ผมไม่เกะกะ เพราะผมไม่อยากให้เพื่อนไปเสี่ยงอันตรายคนเดียว

                >>>ผมเข้าใจความรู้สึกลึกของนายนะ คาสึเกะ หากเกิดเหตุร้ายขึ้นจริงๆ เราก็ยังมีไพ่ตายใบสุดท้ายอยู่นั่นก็คือนายยังไงล่ะ<<<  คีโบส่งเทเลพาทีมาหาผม ตอนนี้เขาเกาะอยู่ที่ไหร่ โซมะ

                >>>เอ…เอ่ออ..<<< จากนั้นเราก็เดินไปตามแสงของ Soul Marble

……   “ที่นี่ล่ะ!! ” โซมะว่า พลันมิติของ despond ก็ปรากฏขึ้นมา

                “มิติแบบนี้น่ะ เหมือนจะไม่ใช่ despond นะ เป็นภูตรับใช้มากกว่า” คีโบว่า

                “อย่าประมาทไปน่ะ ถึงแค่ภูตรับใช้มันก็ฆ่าคนได้นะ” โซมะว่า

จู่ก็มีภูตรับใช้ตนนึง บินหนีไป “แฮ่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   แหว็กๆๆๆ” มันหนีไปอย่างรวดเร็ว

                “จะหนีไปแล้ว!” ผมพูด

                “เชื่อมือเถอะ ” โซมะว่างพลางหยิบ Soul Marble ออกมา พลันโซมะก็อยู่ในร่างจอมเวทย์ โซมะดีดนิ้วหนึ่งที พลันดาบเวทย์มนต์มากมายก็ปรากฏขึ้น โซมะขว้างดาบนั่นไปหาเจ้าภูตรับใช้ตัวนั้น

                “แหว๊กๆๆๆๆ” มันร้องดัง เพราะดาบเวทย์มนต์มาปักขวางทางมันไว้ ในขณะที่ดาบอีกเล่มจะมาปักลงที่กลางตัวมัน ฉึ่บ! ๆๆ ในตอนนั้นเอง ก็มีหอกที่ไหนไม่รู้ยืดยาวออกมา ปัดดาบของโซมะที่กำลังจะแทง ภูตรับใช้ล่วงทันที!

                “เอ๊ะ!” โซมะตกใจ

                “เดี่ยวก่อนสิ มรึงคิดจะทำอะไรห๊ะ!!” คนที่มาขัดขวางปรากฏตัวขึ้น

                “มันหนีไปแล้ว !” ผมพูด โซมะวิ่งตามไป แต่ …. หอกของนายคนนั้น มาจี้อยู่ที่คอของโซมะ

                “นายจะทำอะไรกัน !” โซมะว่าแล้วก็หยุดอยู่กับที่

                “มรึงไม่เห็นหรือไง ! นั่นไม่ใช่ despond แค่มองก็น่าจะรู้แล้วมันไม่มี Seed of sorrow ให้หรอก” นายคนนั้นพูด

                “แต่…แต่ มันจะไปฆ่าคนอีกนะ” โซมะว่า

                “ก็ใช่ไง ถึงรอให้มันกินคนไปสักสองสามคนแล้วค่อยกลายเป็น despond ก่อนไง” เขาพูด

                “นี่นาย!   ” โซมะว่าพลางเอาดาบจะฟันไปที่ชายคนนั้น แต่ชายคนนั้นกลับเอาหอกของเขาขวางไว้

เหงื่อของโซมะตกที่พื้น มากมาย ในขณะที่นายคนนั้น ยังยืนอยู่ที่เดิมเหมือนไม่สะทกสะท้าน ตอนนี้เองมีบาเรียตาข่ายสีแดงโผล่ขึ้นมากั้นผมออกจากตรงนั้น

                “นี่มรึงน่ะ ที่มาทำสัญญากับเจ้านั้นเพราะอยากเล่นเป็นฮีโร่ ที่คอยช่วยเหลือชาวบ้าน อะไรแบบนั้นน่ะหรอ ” พูดจบหมอนั่นก็เอาหอกดันกลับไป มันแรงเสียจนโซมะกระเด็นไปติดกำแพง

                “โอ๊ยย! ” โซมะว่า

                “โซมะ!!” ผมพูดแต่ก็เข้าไปไม่ได้

                “เด็กน้อยน่ะ ทำหัวให้เย็นลงหน่อยจะดีกว่ามั้ง” เขาพูดแล้วก็กำลังจะเดินจากไป แต่ว่า โซมะยันตัวขึ้นมา

                “แปลกจังเลยนะ ทั้งๆที่ลงมือไปอาจจะต้องเข้าโรงพยาบาลถึง สาม เดือน” นายคนนั้นพูด

                “โซมะไม่เป็นไรเลยงันหรอ” ผมถามคีโบ

                “โซมะน่ะ เป็นจอมเวทย์ด้วยคำขอเกี่ยวกับการรักษาน่ะ เลยฟื้นตัวไวเป็นพิเศษ” คีโบว่า

                “ใคร…ใครจะไปยอมคนอย่างมรึงกัน เพราะมีคนอย่างมรึงนี่ล่ะ คุณยูริถึงได้” โซมะพูด

                “หนวกหู คนบ้าที่เจ็บตัวแล้วก็ยังไม่เข้าใจน่ะ ต้องฆ่าอย่างเดียวแล้วสิมั้งนะ” นายคนนั้นพูด

                “ไอ้สัส หุบปากเดี่ยวนี้นะ ” โซมะว่าพลางพุ่งเข้าไปฟันนายคนนั้นแต่กลับถูกนายคนนั้นไล่ฟันกลับมา

                “ไอ้ควายเอ้ย… อืดอาดฉะมัด… มัวแต่เต้นวางท่าอะไรอยู่เล่า” พูดจบนายคนนั้นก็พุ่งเข้าโจมตีอย่างรวดเร็ว   ฉึบ!   ปลายดาบของโซมะจรดกับปลายหอกของนายคนนั้น

                “ใคร..มันจะไปยอมแพ้กันเล่า” โซมะพูดจบก็ฟันนายคนนั้นแต่นายคนนั้นหลบได้แล้วม้วนตัวขึ้นข้างบน พุ่งหอกมาแทงอย่างรวดเร็ว แต่โซมะหลบได้ หอกที่พุ่งมานั้น ทำให้พื้นแตกกระจายเป็นเสี่ยง

แล้วทั้งสองก็ฟาดฟันกันอย่างดุเดือด

                “ทำไมกัน นี่ทำไมล่ะ ไม่ใช่ despond สักหน่อย ทำไมต้องมาสู้กันเองด้วย” ผมพูดกับคีโบ

                “มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้หรอก ทั้งสองคนน่ะ ไม่ยอมลดราวาศอกกันเลย แต่ว่านะก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีทาง หากเป็นการต่อสู่ของจอมเวทย์ด้วยกันแล้วคนที่จะห้ามได้ก็คงจะมีแต่จอมเวทย์ด้วยกันล่ะมั้งนะ” คีโบพูด   ในขณะนั้นเอง  “มันจบแล้วล่ะ !!!”  นายคนนั้นพุ่งตัวอย่างรวดเร็วเพื่อจะมาแทงโซมะที่ล้มลงอยู่ที่พื้นใกล้ๆแล้วปลายดาบก็อีกไม่ไกล

                โซมะ!!“  ฉันจะเป็น….” ผมพูด   แต่ทันใดนั้น  >>> ไม่มีความจำเป็นต้องทำอย่างนั้นหรอก<<< เสียงหนึ่งดังก้องเข้ามาในหู  นายคนนั้นที่กำลังจะแทงโซมะ หายวับไปอยู่อีกที่นึงแล้วพุ่งลงแทงที่พื้นแทน

ตูม!! พื้นแตกเป็นเสี่ยง   คนที่มาหยุดไว้ มินาโตะ !!!

                “นี่แก!!” นายคนนั้นพูดพร้อมหันหน้ามาทางมินาโตะแต่มินาโตะกลับหายวับไปอยู่หลังนายคนนั้น

                “อย่างนี้นี่เอง !  นายสินะ จอมเวทย์ลึกลับที่ไอ้คีโบมันบอก แกน่ะเป็นมิตรฝั่งไหนกันแน่” นายคนนั้นพูด

                “ฉันเป็นมิตรกับคนที่ใจเย็น เป็นศัตรูกับพวกที่บ้าพลังสู้กันอย่างไร้สาระ แล้วนายล่ะเป็นแบบไหน คุโรมิ  เคียวยะ!!” มินาโตะพูด

                “เราเคยรู้จักกันหรอไง” เคียวยะว่า

                “ไม่รู้สิ! เคยรู้จักหรือเปล่านะ” มินาโตะว่า

                “ไพ่ไม่ครบขาก็ช่วยไม่ได้นะ วันนี้จะถอยก่อนก็แล้วกัน” เคียวยะว่าแล้วกระโดดข้ามตึกจากไป

                “เอ…เอ่ออ  มาช่วยงันหรอ…” ผมพูด

                “นี่นายจะโง่เง่าไปถึงไหนกันยังจะต้องให้ฉันบอกกี่ครั้งว่านายน่ะ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ หากคนฟังโง่เง่านักฉันก็จะไม่เลือกวิธีการเช่นกัน ” มินาโตะพูดพร้อมกับเดินจากไป

                “ทำไมล่ะ … ทำไมกัน” ผมพูดคนเดียว

                “นายคนนั้นน่ะ ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่ามีแผนอะไรไว้แต่ที่แน่ๆ คงจะอันตราย คาสึเกะนายต้องระวังตัวให้ดีนะ  มินาโตะหรือว่า นาย……” คีโบว่า

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา