ทายาท อันดับห้า แห่งฉางเมือง

-

เขียนโดย หกแสบ

วันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 22.27 น.

  4 ตอน
  0 วิจารณ์
  5,703 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 22.40 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) ตอนที่ 4 เมืองแห่งการศึกษา part 1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ทายาท อันดับห้า แห่งฉางเมือง

                                     ตอนที่ 4 เมืองแห่งการศึกษา  part 1

โดย หกแสบ

 

**+++***+++***+++***+++***+++***+++***+++***+++***++

 

เมืองแห่งการศึกษา

 

 

            “ช่วยด้วย   ใครก็ได้ช่วยด้วย ช่วยผมด้วย  มึงจะตามกูมาทำเชียไรเนี่ย  กูไปทำอะไรให้มึงถึงอยากจะกินกูเนี่ย” ร่างผอมวิ่งหนีปีศาจที่มีรูปร่างหน้าเกียดหน้ากลัวปากใหญ่ฟันแหลมคมบนลำตัวมีปุ่มขรุขระเหมือนผิวหนังของคางคกมีหลายขาในตาโตแดงกล่ำมันพยายามที่จะงับเขาแต่เมื่อมันอ้าปากงับเขาก็กระโดดหลบได้ทุกครั้งไปเขาวิ่งหนีไปได้สักพัก  แรงที่มีเริ่มน้อยลงเกิดจากความเนตเหนื่อยที่เขาวิงหนีปีศาจทำให้เขาสะดุดขาตัวเองล้มลงไปนอนกับพื้นเมือเขาพยายามที่จะประคลองตัวเองขึ้นก็ต้องประจันหน้ากับปีศาจเขาพยายามที่จะกระเสือกกะสนคลานหนีแต่ปีศาจนั้นก็เดิมตามเขามาราวกับว่าเห็นเขาเป็นของเล่นก่อนที่มันจะกินเขาในภายหลัง   ร่างผอมหลับตาปลีพร้อมใช้มือปัดป้องเมือปีศาจนั้นอ้าปากพร้อมกับน้ำรายที่ไหลหยดลงมาโดนตัวเขา ในใจเขาคิดแค่เพียงว่า “กูตายแน่พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกช้างด้วยลูกช้างยังไม่อยากตายอยากได้อะไรลูกให้หมดเลย”ในขณะเดียวกันที่ปีศาจจะอ้าปากงับเขา   ก็มีดาบที่ถูกปามากจากไหนสักแห่งปักเข้ากลางหัวของเจ้าปีศาจส่งผลทำให้มันหยุดหายใจในทันที่แล้วมันก็ล้มทับตัวเขา “พ่อแก้วแม่แก้วส่งเทพบุตรมาช่วยกูแล้วหล่อสาสๆอ่ะแมร่ง” เทพบุตรที่เขาพูดถึงเดินเข้ามาใกล้ๆเขาแล้วยกมือขึ้นและฟาดลงมาที่หัวของเขาอย่างแรง

“โอ๊ย  ไอ้สัตเทพบุตรตบหัวกุหาพ่องหลา”

“ ตื่น ตื่น ตื่นได้แล้วไอ้ เอ็ม ตื่นถ้ามึงยังไม่ตื่นนะกูจะถีบมึงให้ตกโต๊ะเลย”

“เทพบุตรกุใจร้ายจังวะ ถึงกับจะถีบกุเลยเหลอ  โหดไปปะ เฮ้ย!”เมือเขาลืมตาขึ้นมาก็ต้องตกใจเมือเพื่อนรักของเขายกขาขึ้นตั่งถ้าที่จะถีบเขา

“เฮ้ยมึงจะถีบกุจริงดิ” ฝันเหลอเนี่ย ฝันได้ไงวะกลางวันแสกๆ 

“มึงฝันอีกแล้วเหลอ กูถามจริงคนที่มาช่วยมึงในตอนนั้นอ่ะเป็นใครถ้าไม่ได้เขากูว่ามึงเป็นอาหารมือกลางวันไอ้ปีศาจนั้นไปแล้วแน่ๆ และไอ้ปีศาจนั้นก็ต้องขอบใจพ่อเทบุตรของมึงนั้นด้วยนะที่ทำให้มันไม่กินอาหารที่เป็นพิษอย่างมึงเขาไป 55555”

“ สัส กูก็ไม่รู้เหมือนกันพอกูจะขอบคุณเขา เขาก็ไม่อยู่ให้กูขอบคุณละ แล้วกูก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย เสียดายว่ะ ยังไม่รู้ชื่อเลย

“แล้วเนี่ยมึงหลับไปเนี่ย มึงไม่รู้ตัวเลยเหลอว่าหม้อยาที่มึงต้มไว้เนี่ยมันโดดไอ้เชียนั้นขโมยไปส่งแล้ว แล้วมึงจะเอาคะแนนที่ไหนวะคะแนนที่ผ่านมาก็หวยสัตๆ อ่ะ"

“เชีย! จริงดิ แมร่งต้มกันเองไม่เป็นรึไงวะ สาสอย่าให้รู้นะว่าไอ้เชียนั้นเป็นใครพ่อจะเอายาพิษกอกปากให้สาสสส”

“แม้วมึงจะเอาอะไรไปส่งยายแมวโหดนั้น”

“เออว่ะ” ยังพูดไม่ทันจบเลยยายแมวโหดก็เดินมา “อคิรุธ ไหนละข้อสอบของฉัน อย่าบอกนะว่าหลับในระหว่างการปรุงยารักษาไขหวัดใหญ่  เธอนี่มันจริงๆเลย ฉันบอกได้เลยว่าไม่ผ่าน” “แต่วา.......” “ไม่มีข้อแก่ตัวอะไรทั่งนั้น”    และยายแมวโหดก็เดินก้นบิดไปตรวจหมอยาของคนอื่นๆ ใช้แล้วครับผมเรียนเอกพฤกษาศาสตร์เป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยพืชที่ใช้ในการรักษาและพืชที่ใช้ในการปรุงพิษ ชั้นปีที่สอง ผมชื่อนายอคิรุธ รามาจากัว จริงๆแล้ววงศ์ตระกูลผมไม่รู้หลอกครับและผมมาจากไหนก็ไม่รู้  มานี้ได้ยังไงก็ไม่ทราบใช้แล้วครับผมความจำเสื่อม และไอ้คนที่มันปลุกผมมันเป็นคนไปเจอผมที่กองขยะทางทิศใต้ของเมืองซากะ(อนาถจริงกุ)และมันก็หลากผมออกมาจากกองขยะ(ขอบคุณ)และมันก็ปลุกผมเหมือนที่มันปลุกผมเมือกี่นี้ครับและมันก็ช่วยผมโดยการถีบผมตกสระน้ำก็สระแถวนั้นและครับ(ไอ้สัส)มันบอกให้ผมล้างตัวเพราะมันเหม็นมากและตัวก็สกปกและมันก็พาผมไปบ้านมันบ้านมันใหญ่มากยังกะวังแนะผมถามมันว่ามันไปเจอผมได้ยังไงมันบอกว่ามันหนีพ่อมันไปมันไม่อยากเรียนการต่อสู่   มันรู้ตัวอีกทีก็มาเจอผมนี้และครับ ผมจำอะไรไม่ได้เลยแม้ชื่อของตัวเองก็จำไม่ได้ แล้วพ่อมันก็ส่งมันไปเรียนรู้ศาสตร์วิชาต่างๆที่เมืองแห่งการศึกษามันไม่มีเพื่อนมันก็เลยขอให้พ่อมันเอาผมไปเรียนด้วยพ่อมันก็ใจดีนะครับจักการเอกสารต่างๆให้ผมจากไม่มีตัวตนก็เมคขึ้นมาว่าผมเป็นเด็กที่เขารับเลี้ยงผมมาตั้งแต่เด็กหลังจากพ่อแม่ผมตายในสงคราบกลางเมืองเมื่อสิบปีก่อนให้ผมใช้น้ำสกุลเขา ก็และตั่งชื่อให้ผมก็เลยมีชื่อใหม่ว่า  อคิรุธ รามาจากัว ชื่อเล่น เอ็ม และลูกชายของเขาก็ชื่อว่า รัศวุธ รามากัว ชื่อเล่นชื่อวุธ ที่มาจากอาวุธ ตกูลของมันมีชื่อเสียมากทางด้านใช้วงแหวนเวทย์พ่อของมันเป็นนักวงแหวนแวทย์ที่เก่งมากและยังเป็นอะไรอีกนะผมก็ลืมไประและดูเหมือนว่าจะมีอำนาจมากในระดับในเมืองซากะ นับจากวันนั้นมาวันนี้ก็สองปีได้แล้วครับ ผมเรียนทั้งสองวิชานี้ได้คะแนนหวยมาก เพราะนั้นเองที่ทำให้ไอ้วุธมันต้องเรียนศาสตร์การใช้วงแหวนทุกแขนง ทำไมมันมาเรียนเอกพฤกษาศาสตร์ด้วยใช้ไมครับก็เพราะว่าผมก็ต้องไปเรียนศาสตร์วงแหวนเวทย์เหมือนกันไงครับ  และเมืองแห่งนี้ก็เป็นเมืองแห่งการศึกษาแห่งเดียวในโลกนี้ที่ทุกเมืองจะส่งองค์ชายของแต่ละเมืองมาเรียนศาสตร์ที่ต้องการที่นี้ รวมไปถึงเหล่าคนมีเงินและมีฐานะและยศ อาจารที่สอนที่จะเป็นนักรบแถวหน้าทั้งหมดของแต่ระเมืองที่ผัดกันเข้าเวนมาสอนนักศึกษาศาสตร์ที่นี่ (ไม่ใช้หารายเสริมนะแต่เป็นเพราะวัตถุประสงที่ว่า สร้างคนสร้างชาติ เหลอ)รวมไปถึงพ่อของไอ้วุธด้วยที่มาสอนวิชาวงแหวนเวทยี่นี้ และยังมีเหล่าจอมพลของฉางเมืองที่นานทีจะโผมาสอนศาสตร์การต่อสู่ในแขนงต่างๆเพราะฉางเมืองเป็นเมืองปิด ที่เมืองแห่งการศึกษานี่เกิดขึ้นมาก็เพราะสงคราบระหว่างปีศาจกับนักเวทเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อนเมือสงคราบจบลงนักเวทเหลืออยู่น้อยมากไม่ถึงหนึ่งร้อยคน นักเวทกลุ่มนั่นจึงสร้างเมืองแห่งนี้ขึ้นมาเป็นที่รวบรวมศาสตร์ทุกแขนงไว้ที่นี้เมืองแห่งนี่เป็นกลางและมีกฎระเบียบเป็นของตนเองอาจารใหญ่ที่นี้ก็คือ วาติกัน โฮเซส เป็นนักเวทย์ที่แข็งแกรงที่สุดในไม่ก็คนที่ยังมีชีวิตอยู่ และลอดจากมหาสงคราบโลกปีศาจเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน

“เอ็ม เอ็ม เอ็ม ไอ้เชียเอ็ม”

“อะไรมึงหูกูเกือบแตก”

“พักนี้เป็นเชียไรเนี่ยชอบเหม่อ”

“ชั่วโมงต่อไปมึงมีเรียนเวทย์วงแหวนกับกู”

“เออ แล้วไง”

“มึงจะนั่งทำดอยไรละ มันได้เวลาเรียนแล้ว มัวนั่งหน้าโง่อยู่ได้ หน้าไม่หล่อพ่อไม่รวย แถบความจำเสื่อมอีกตั่งหาก ไอ้เจ๋อเอ่ยแถมซุ่มซ่ามอีกตางหาก ให้มันได้ยังงี่ดิเพื่อนกู กูเอามึงมาช่วยหรือเอามึงมาลำบากกูว่ะเนี่ย”

“ได้ทีดากูใหญ่เลยนะกูถามจริงกูหน้าตาไม่หล่อสู่มึงไม่ได้เลยเหรอวะ”

“เออไอ้ขี้เหล่”

“เจ็บสัตๆอ่ะ ที่หลังไม่ต้องเอาความจริงมาพูดก็ได้นะ เออชั่วโมงต่อไปพ่อมึงมาทดสอบเองนิ กูตายแน่เลยว่ะกูยังเรียกวงแหวนไม่ได้เลย ทำไงดีว่ะ มึงต้องช่วยกูนะไม่นั้นกูโดนพ่อมึงเล่นแน่” ผมไม่หล่อตรงไหนแค่ตัวผอมๆผิวเหลืองหน้าก็โออยู่นะแค่เทียบกับมันไม่ติดเองมันดูดีสูงมีกล้ามเนื้อหน้าหล่อสาวติดกูละหมาไม่มองชิอย่าให้กูหล่อบางละกัน

“เออเดียวกูช่วย มึงรีบไปเร็ว กูไม่อยากโดดทำโทษที่เขาสายโดยการวิ่งรอบหมาอีกว่ะกูจำไม่ลืมเลย”

“เออว่ะกูด้วยกูก็ไม่อยากโดด กูอาย5555”คิดดูชิครับวิ่งรอบหมาแล้วหมามันจะอยู่กับที่ให้เราวิ่งลอบเหรอครับ

เมื่อเป็นเช่นนั้นเราสองคนก็เดินออกมาจากห้องปรุงยาเราสองคนสนิทกันมากขึ้นจนกายเป็นมากกว่าเพื่อน(อย่าคิดไปไกลครับพี่น้องครับ)เรารักกันเหมือนพี่น้องไปไหนไปด้วยกันกินด้วยกันแล้วก็นอนคนละห้องครับไม่หน้าเชื่อสองปีที่ผ่านมามันไวมากแล้วเราก็สนิทกันไวมากเรียกได้ว่าตายแทนกันได้เลย มีเหตุการณ์ครั้งหนึ่งวันนั้นเราหนีไปเที่ยวกันที่นอกเขตแห่งการศึกษาอยากรู้ว่ามันมีอะไร ไม่คิดว่าแจกผอดจะแตก เจอปีศาจเข้าพวกเราสองคนวิ่งหนีผมคิดว่าเราคงไม่หลอดแล้วเพราะเราเป็นแค่นักศึกษาศาสตร์ปีหนึ่งเข้าใหม่และมันเสือไม่ตั่งใจเรียนวงแหวนเวทย์จากพ่อมันอีกมันเลยใช้วงแหวนไม่เป็นการต่อสู่มันก็เสือกหนีเรียนเลยก็ต้องวิ่งหนีปีศาจกันตับแลบผมเห็นว่าไม่ดีแน่ผมเลยผักมันเข้าพุ่มไม้ข้างทางแล้วผมก็วิ่งร่อปีศาจไปอีกทางคิดว่าจะตายพร้อมกันไม่ได้อย่างน้อยมันต้องรอดเพราะมันมีครอบครัวส่วนผมไม่มีใครและอีกอย่างมันช่วยชีวิตผมไว้ผมต้องตอบแทนมันผมสะดุดขาตัวเองล้มและปีศาจนั้นมันกำลังจะกินผมแต่ก็มีเทพบุตรมาช่วยผมไว้ไม่หน้าเชื่อจะบอกว่าดวงชวย หรือดวงดี คนที่มาช่วยผมโคตรหล่อดูดีมาก  เขาเอือมมือมาช่วยดึงผมออกจากเจ้าปีศาจที่มันตายแล้วยังเสือทับกูอีกและก็พูดว่า “ไม่รู้หรือไงว่าที่นี้มันอันตราย  มันเอาให้จอมเวทย์ฝึกทักษะการต่อสู่กับปีศาจดูจากชุดแล้วปีหนึ่งระชินะ ไปได้แล้วยืนหน้าโง่อยู่ทำไม” “เอ็มมึงไม่เป็นไรใช้ไหม” ผมหันหน้าไปหาเสียงของไอ้วุธในขณะเดียวกันวุธก็วิ่งมาพร้อมกับทหารที่มาช่วยพอผมหันกับมาเทพบุตรของผมก็ไม่อยู่เสียแล้วทิ้งไว้แค่เพียงดาบสันที่ปักหัวเจ้าปีศาจอยู่ ผมจึงถึงมันออกมาแล้วทำความสะอาดมันแล้วเก็บมันไว้เป็นอย่างดีเพื่อรอคืนเจ้าของและจากนั่นมาพอมีเวลาว่างหน่อยไม่ใช่ชิพอผมหลับผมก็จะฝันถึงเหตุการณ์นั้นตลอดทำไมกันนะ

“เอ็มระวัง”เมื่อสินเสียงผมก็ชนเขากับสิ่งมีชีวิตผมก้มหน้าก้มตาเก็บหนังสือเล่มใหญ่ทั้งของผมและของคนที่ผมชนพร้องบอกขอโทษ ผมเอาหนังสือคืนเขาคนนั้นพร้อมก้มหัวขอโทษ “ผมขอโทษครับผมไม่ได้ตั่งใจชนจริงๆนะครับผมขอโทษ” เมือผมเงยหน้าขึ้นมามองเพราะเขายังไม่ได้รับหนังสือที่ผมส่งให้ก็ต้องตกใจ “เทพบุตรที่ช่วยกูนิหว่า” เขามองผมด้วยสายตาที่เย็นชาและดูเหมือนว่าจะโกรดด้วย “ของกูไม่ใช้เล่มนี้อีกเล่มหนึ่งที่มึงถืออยู่” ด้วยความตกใจผมจึงส่งเล่มผิดไปให้เขา ผมจึงเปลี่ยนเอาอีกเล่มหนึ่งมาให้เขา เขายืนมากระชากมันออกไปจากมือผมและเดินชนไหล่ผมผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นผมหนังหลังมองตามแผ่นหลังนั้นจนเลียวหายไปในห้องๆหนึ่ง

“เฮ้ยเอ็มมึงเป็นไรป่าวว่ะ”มันเดินไปแล้วและเดินกับมาตบหัวผมให้ออกจากความคิด

“เชียสมองแทบหลุดมึงตบหัวกูนิไงคือสาเหตุที่กูเรียกวงแหวนไม่ได้สักที กูไม่เป็นไร”

“เออ ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว รีบเลยมึงสายมากแล้วเดียวพ่อกูดาเอา”

ผมสองคนเดินเขามาในห้องที่มีคนมากมายนั่งอยู่ประจำโต๊ะของตัวเองจนคบขาดก็แต่โต๊ะของผมทั้งสองคนที่ยังว่างอยู่

 

“เธอทั้งสองคนมาช้านะเธอไม่รู้หรือไงว่าวันนี้มีการทดสอบวงแหวนเวทย์”อาจารย์คนหนึ่งที่ไม่ใช้พ่อของไอ้วุธเป็นผู้ช่วยมัง ยังไม่ทันพูดจบพ่อของไอ้วุธก็พูดขึ้น “เธอสองคนไปที่โต๊ะของตัวเองได้แล้ว”ไอ้อาจารย์นักเวทย์หน้าลิง(ทำไมถึงเรียกเขาว่าหน้าลิงก็หน้าเขาไว้นวดไว้เคราดูแล้วเหมือนลิงชัดๆ)นั้นก็เงียบและยอมให้ผมทั้งสองคนไปนั่งที่โต๊ะ เมื่อผมทั่งสองคนมานั่งที่โต๊ะพ่อของไอ้วุธก็เริ่มพูดเงื่องไขในการทดสอบวงแหวนเวทย์  “เงื่องไขก็ไม่มีไรมากแค่ทำให้ปรากฏวงแหวนเวทย์ขึ้นมาแค่นั้นเพราะวงแหวนเวทย์คือหัวใจหลักที่จะต่อยอดไปยังแขนงอื่นๆ เช่น วงแหวนรักษา วงแหวนอัญเชิญ วงแหวนผนึก” พ่อของไอ้วุธพูดจบก็มีเสียงหนึ่งถามขึ้น “การผนึกนอกจากใช้วงแหวนผนึกแล้ว ยังมีวิธีไหนที่เป็นการผนึกอีกค่ะ” ใช้แล้วเธอคือคนที่มีโต๊ะอยู่ข้างๆผมนี้เองเธอยกมือขึ้นและก็ถามในสิ่งที่ผมไม่ต้องการจะรู้แม้แต่นิดเดียว และเพื่อให้คายความสงสัยของเธอ พ่อของไอ้วุธจึงตอบเธอว่า "การผนึกมีหลายรูปแบบ นอกจากใช้

                                                                                                                      to be continued

***++++***++++****++++****+++****+++

ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ต้องอ่านใหม่อีกรอบ

ติชมคอมเม้นกันเพื่อเป็นกำลังใจกันนะครับ

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา