เมื่อความรักเบิ่งบานอีกครั้ง

-

เขียนโดย Thadsuya

วันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 20.07 น.

  3 ตอน
  0 วิจารณ์
  4,570 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 21.40 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) หวั่นไหว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          บทที่3

หลังจากที่เขาพาฉันมาหาแม่ของเขา เขาก็เปลี่ยนไปอย่างเหลือเชื่ออ่ะ แบบว่าเขาอ่อนโยนขึ้นและแม่ของเขาก็ใจดีมากด้วยดูเหมือนท่านจะรักฉันเหมือนลูกสาวคนหนึ่งของท่านฉันอยู่กับแม่ของเขาส่วนใหญ่ท่านมักจะชวนฉันจิบน้ำชาและพูดคุยเรื่องของมาโก้ให้ฉันฟังตอนเด็กๆและก็รูปของเขาตอนเด็กน่ารักมากเลยนะ ฉันอยู่ที่บ้านของเขามาได้ 2 อาทิตย์แล้วล่ะแต่เรื่องของลดามันยังไม่คืบหน้าไปไหนเลย ฉันพยายามที่จะถามเขาเรื่องของลดาแต่ดูเหมือนเขาจะรู้เลยเบี่ยงเบนตลอดเลยอ่ะ

วันนี้มาโก้บอกว่าจะพาฉันไปข้างนอกแต่ไม่ยอมบอกว่าจะพาฉันไปไหนพอตื่นขึ้นมาเขาก้อออกคำสั่งให้ฉันอาบน้ำแต่งตัวจะไปไหนก้อไม่รู้เอาแต่ใจชะมัดแล้วชุดเขาอะไรเนี่ยยังกับคุณป้าถึงฉันจะทำงานที่ดูทะมัดทะแมงแต่ฉันชอบแต่งตัวเปรี้ยวนะย่ะจะบอกให้ อย่างเนียไม่ใช่สไตส์ฉันสักนิด ฉันเลยเอาชุดที่ฉันจัดใส่กระเป๋าก่อนที่จะมาที่นี่มาใส่แทนเสื่อสายเดี่ยวเอวลอยกับกางเกงเอวสูงแล้วตามด้วยเสื่อโค้ดสวมด้านนอกโดยไม่ติดกระดุมเปรี้ยวชะใจ ฉันแต่งหน้าไม่หนาเท่าไรฉันไม่ค่อยชอบแต่งหน้าหนาเกินไปเพราะมันหนักหน้าเฮ้อแล้วจะพาฉันไปไหนเนี้ย  พอแต่งตัวเสร็จเขาก็พาฉันลงมาทานข้าว โดยมีแม่เขานั่งรออยู่แล้ว เขาดูจะไม่ค่อยพอใจสักเท่าไรกับการแต่งตัวของฉันตั้งแต่อยู่บนห้องเขาจะบ่นว่า ‘มันเปลือยไหลไป’ ไม่รู้ว่าเขาจะคิดอะไรนักหนานะทั้งที่ฉันใส่เสื่อโค้ดอยู่แท้ๆแต่พอเขามองไปเห็นแม่ของเขา เขาก้อหั่นมาหอมแก้มฉันปรับทำเอาฉันตกใจจนทำหน้าไม่ถูกเลยละ

จุ๊บ! (o_o)(-/////-)

“นี่! คุณมาหอมแก้มฉันทำไม”

“ก็อยากหอมจะทำไม มีปัญหารึไง หึหึหึ”

“หัวเราะอะไรย่ะ ตลกมากรึไง” ระหว่างที่ฉันพูดฉันก้อเอามือถูกแก้มไปด้วยแหวะไอ้บ้าใครเขาให้นายมาหอมฉันย่ะ

“ทำไมเขินรึไง แค่นี่ทำเป็นเขินทำยังกับไม่เคยโดนใครหอมอย่างนั้นแหละ” (o[]o) ตาบ้านี่พูดออกมาได้ไม่อายปากใครเขา ใครเขาจะใจง่ายเหมือนนายกันห่ะ ฉันก็เลยไม่ได้เถียงอะไรกับเขาต่อ เพราะกลัวว่าตัวเองจะได้อายอีก แล้วเราก็นั่งทานข้าวด้วยกันโดยที่เขานั่งข้างฉันและพูดคุยกับแม่ของเขาหลายอย่างพอทานข้าวเสร็จ เขาก็จับแขนฉันให้ลุกตามเขาไป แล้วบอกแม่เขาว่าจะพาฉันไปเที่ยวแบบคู่รัก ฉันเลยยังไม่ทันพูดอะไรก็ถูกเขาจูงแขนออกมาชะแล้ว

“นี่! นายจะพาฉันไปไหนห่ะ ”

“เดี่ยวถึงเธอก็รู้เองล่ะน่า จะถามมากทำไมยัยเบอะ ”

“ใครเบอะ พูดดีๆนะ”นั่งรถมาก็นานทำไมไม่บอกฉันนะว่าจะไปไหน มันน่าโมโหนักถ้าไม่คิดว่าฉันจะมาสืบคดี ฉันไม่อดทนขนาดนี่นะเนี่ย แต่เอะ! เขารู้แล้วนิว่าฉันเป็นCIA แล้วฉันจะปิดทำไมล่ะ เอายังไงดีว่ะเนี่ยจะหนีไปเลยไหมหรือจะตามเรื่องลดาต่อดี ไม่ได้สิฉันต้องรู้ให้ได้ก่อนว่าลดาอยู่ไหน ปลอดภัยดีหรือเปล่า ฉันต้องรู้ให้ได้ถ้ากลับไปมือเปล่าแบบนี้ คนในหน่วยต้องว่าฉันแน่ๆว่าไม่ได้เรื่อง

“คิดอะไรอยู่นะ เงียบอยู่ได้” ระหว่างที่ฉันกำลังคิดอะไรเพลินๆ เขาพูดก็ขึ้น ก็จริงของเขานะพอฉันหยุดพูดในรถก็เงียบเลย

“อะไรของนายอีกย่ะ พอฉันเงียบก็ว่าฉันอีก นายจะเอายังไงอีก”

“ก็เปล่าเห็นเงียบอยู่นาน งอนฉันรึไง”

“(-////-) ใครงอนนายกันฉันเปล่าสะหน่อย ”

“แล้วทำไมหน้าแดงล่ะ เป็นหวัดหรอ” ตาบ้านี่ ก็ได้ฉันไม่พูดด้วยแล้ว แล้วฉันก็เงียบไปจากนั้นเราเลยไม่ได้คุยอะไรกันอีกต่างคนต่างเงียบฉันก็เลยหลับไป

บันทึกพิเศษมาโก้

ผมขับรถมาเรื่อยๆ ตามถนนที่ทางขวามีต้นไม้ตามข้างตลอดทางและทางซ้ายมือเป็นทะเลสาบที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ผมกำลังจะพาเธอไปบ้านพักต่างอากาศประจำตระกลูนของผมนั้นเอง ผมเองก็เคยมาที่นี่บ่อยๆกับครอบครัวเป็นที่พักผ่อนที่ผมชอบที่สุดเพราะที่นี่สร้างขึ้นให้กลมกลืนกับธรรมชาติมากๆ  ตอนเด็กผมกับมาคัสจะชอบร่องเรือที่ทะเลสาบกันทุกครั้งที่มากับครอบครัว

 

      แต่พอโตขึ้นพวกเราจึงหาเวลาว่างมาเจอกันยากมากขึ้น เพราะต้องดูแลธุรกิจของครอบครัวผมได้รับการกิการโรงแรมต่อจากพ่อส่วนมาคัสเขารับดูแลกิจการคาร์สิโนต่อจากพ่อ ซึ่งผมก็ว่าดีเพราะผมไม่ชอบอะไรที่แบบนั้น บอกเลยว่าผมชอบอะไรที่ธรรมชาติเวลามองแล้วมันทำให้ผมปล่อยอารมณ์ได้ตามสบายไม่ต้องคิดอะไรมาก และสำหรับผู้หญิงที่อยู่ข้างๆผมนี่ก็เช่นกันเธอดูน่ารักตอนแรกผมยอมรับว่าอยากให้เธอมาเป็นแค่เมียกำมะลอ แต่ตอนนี้ผมเปลี่ยนใจแล้วล่ะเธอทำให้ผมหวั่นไหวชะแล้วสิ เธออาจจะไม่สวยมากแต่เธอก็ดูไม่จริตมารยามากมายเธอดูน่ารักเหมือนเด็ก บางครั้งก็เหมือนแม่เสือที่พร้อมจะขย่ำผมเธอไม่เหมือนผู้หญิงที่ผมเคยผ่านมาก เธอทำให้ผมรู้สึกหัวใจเต้นแรงเสมอที่ผมมองตาเธอเธอทำให้ผมมีความสุขรักอบอุ่นหัวใจและเหมือนวัยรุ่นมีรักครั้งแรกแต่พอมองจ้องลึกเขาไปในดวงตาของเธอดูเหมือนเธอจะปิดกั่นตัวเองจากผู้ชายและนั่นผมก็ไม่รู้ว่าทำไม ผมสัมผัสได้เธอรู้โดดเดี่ยว ผมขับรถเลี้ยวเข้ามาในบ้านที่นี่ปลูกดอกไม้ หลากหลายชนิด โดยเฉพาะดอกมะลิซึ่งมีทุกมุมของบ้านกลิ่นหอมของดอกมะลิส่งกลิ่นหอมอบอวล ผมอุ้มคนขี้เซ้าเข้ามาในบ้านและพาขึ้นมานอนในห้องที่สั่งให้ป้าแอนจัดไว้ให้ ป้าแอนเป็นคนดูแลบ้านและมีลุงโชนสามีของป้าแอนเป็นคนดูแลสวนให้ พอผมว่างเธอลงแล้วผมก็เข้าไปอาบน้ำหลังจากขับรถมานานแล้วเมื่ออาบน้ำเสร็จก็มานอนข้างๆเธอแล้วกอดเธอไว้หลวมๆผมอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปจุมพิตที่หน้าผากมนของเธอแล้วจึงล้มตัวลงนอนแล้วเอาจมูกซุกที่ซอกคอของเธอ ผมรู้ว่าเธอเป็นCIAเพราะให้ลูกน้องผมไปสืบประวัติเธอมาหมดแล้ว และถึงเธอจะเป็นCIA ผมก็จะไม่ปล่อยเธอไปเด็ดขาด เพราะคิดว่าผมคงตกหลุมรักยัยนี่ชะแล้วล่ะและต่อจากนี่ไปผมจะรุกเต็มที่…..จบบันทึกพิเศษ

ฉันตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่ไหนไม่รู้ พอกวาดตามองก็ไม่เห็นคนที่พาฉันมาชะแล้ว ห้องนี่กว้างมาก กว้างกว่าห้องที่บ้านฉันส่ะอีกตกแต่งให้สบายเหมือนบ้านพักต่างอากาศเลย มันสวยมากและมีกลิ่นหอมๆของดอกไม้ด้วยล่ะ ฉันก้าวขาลงจากเตียงแล้วเดินออกไปดูที่หน้าต่าง ที่มีผ้ามานสีขาวปิดแสงแดดตอนกลางวันที่ส่องเข้ามาในห้อง ห้องนอนตกแต่งด้วยอุปกรตกแต่งห้องสีขาวตัดกับสีดำนิหน่อยมองดูแล้วสบายตาทำให้รู้สึกผ่อนคลายและสดชื่นเพราะกลิ่นหอมๆของดอกมะลิระหว่างที่ฉันกำลังชื่นชมธรรมชาติข้างนอกอย่างมีความสุข อยู่ๆก็มีท่อนแขนมาโอบเอวฉันไว้ทำให้ฉันตกใจ

“ตื่นแล้วหรอ ชอบไหมที่นี่สวยละสิ” ระหว่างที่เขาพูด จมูกก็ก้มลงมาหอมแก้วฉัน ทำเอาฉันหน้าแดงเลยนะ(-///-)เป็นอะไรของเขานะ

“อื่มชอบค่ะ ที่นี่ที่ไหนหรอสวยจัง มีกลิ่นดอกมะลิด้วย”  ฉันถามแล้วหมุนตัวหันหน้าไปหาเขา ทำให้เราสองคนดูเหมือนกอดกัน แต่ฉันก็รู้สึกอุ่นใจที่ได้อยู่แบบนี่ นานแค่ไหนนะที่ฉันไม่ได้สัมผัสความรู้สึกแบบนี่

“บ้านพักต่างอากาศของตระกูลผมเองแหละ” พอเขาพูดจบฉันก็พยักหน้า แล้วฉันก็ไม่ได้ถามอะไรอีกปล่อยให้เขากอดอยู่อย่างนั้น แล้วฉันก็มองตาเขาเพราะฉันอยากรู้ว่าเขาทำแบบนี้เพื่ออะไรพาฉันมาที่นี่เพื่ออะไรแล้วเขาก็ถามขึ้น

“มีอะไรหรอ”

“คุณพาฉันมาที่นี้ทำไม”พอฉันถามเขาไป เขากับไม่ตอบแต่กับยิ้มให้ฉันและขยับใบหน้าเข้ามาใกล้ฉันสายตาของเราจ้องกันและฉันก็หลับตาลง จนริมฝีปากเขากดแนบลงกับริมฝีปากของฉันแล้วเขาก็ค่อยๆขยับริมฝีปากเขาสอดลิ้นของเขาเข้ามาในปากของฉัน มันทำให้ฉันทำอะไรไม่ถูกได้แต่ทำตามที่เขาต้องการเท่านั้น มันเป็นจูบที่ดูดดื่มและเร้าร้อน เขาทำให้ฉันละลาย ขาของฉันเหมือนจะไม่มีแรงเอาดื้อๆจนยกแขนขึ้นเพื่อโอบรอบคอเขาไว้ดูเหมือนเขาจะพอใจจนครางหึ่มในลำคอ แล้วฉันก็รู้สึกว่าตัวรอยขึ้นจากพื้นเพราะเขาอุ้มฉันขึ้น แต่ฉันก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร โดยที่ปากของเขาก็ทำหน้าที่จูบฉันอยู่อย่างนั้นและมีบ้างครั้งที่ฉันเผลอจูบตอบทำให้เขาพอใจจนครางออกมา แล้วเขาก็วางฉันลงที่เตียงและสติของของฉันก็กลับมาทำให้ฉันยกแขนขึ้นเพื่อดันตัวเขาออกห่างจากฉัน และดูเหมือนเขาจะไม่พอใจนิดหน่อยแต่ก็ยอมละริมฝีปากออก แล้วขยับใบหน้าออกหางจากฉันนิดหน่อย

“ฉะ ฉันหิวข้าว”ฉันตอบเขา และหายใจแรงๆเพื่อกับเอาอากาศเขาปอดหลังจากที่เขาจูบฉัน(-///-)

“หิวข้าวหรอกินฉันแทนก็ได้ ไม่คิดตัง” เขาตอบยิ่งทำให้ฉันเขิน ตาบ้านี่พุดออกมาได้ไม่อายปาก

“จะบ้ารึไงคุณ ฉันหิวข้าวจริงๆนะ” จากที่ว่าจะตวาดเขา ฉันเลยเปลี่ยนเป็นอ้อนแทนเพราะเห็นเขาทำสายตากลุ้มกลิ่มแล้วมันทำให้ฉันหนาวๆร้อนๆ แปลกเขาเลยเปลี่ยนจากที่นอนคล่อมร่างฉันพลิกลงมานอนตะแครงแล้วใช้แขนยกขึ้นคั้มหัวเขาแล้วมองหน้าฉัน ฉันเลยขยับเข้าไปแล้วกอดเอวเขาไว้หลวมๆ แล้วชุกหน้าลงที่อกของเขาที่มีกล้ามเป็นหมดๆเพื่อไม่ให้เขาเห็นหน้าของฉันที่ร้อนเฮ่อแล้วแน่ๆ ก็อายนะ ถึงเขาจะไม่ใช่จูบแรกแต่เขาก็ทำให้ฉันร้อนๆหนาวๆ

“เอ้า! ไหนว่าหิวข้าวแล้วมากอดผมทำไมละครับหรือว่าไม่หิวแล้วงั้น....”

“หิว! หิวสิไปกินข้าวนะ” ก่อนที่เขาจะพูดจบฉันก็ขัดขึ้นก่อน เพราะกลัวว่าเขาจะพูดอะไรที่ทำให้ฉันอายมากไปกว่านี่ หลังจากนั้นเราก็ลงมาทานเขากันโดยที่เขาจูงมือฉันลงมามันทำให้ฉันอบอุ่นระหว่างที่ทานข้าวกันฉันก็ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเขามันเลยทำให้ในระหว่างที่ทานข้าวเงียบผิดปกติ แต่มันก็ไม่อึดอัด เพราะเวลาที่ฉันเงยหน้าขึ้นมามองเขา ฉันก็เห็นเขามองฉันอยู่แล้ว แล้วตาบ้านี่ยัง ยักคิ้วหลิ่วตาให้ฉันอีกมันหน้านักตาบ้านี่ รู้ว่าฉันอายยังทำอยู่ได้อย่าให้ถึงตาฉันบ้างนะ ระหว่างที่ฉันคิดที่จะเอาคืนเขาแล้วเขาก็พูดขึ้น

“เราไปพายเรือเล่นกันไหม”

“พายเรือ” ฉันพูดออกมาเหมือนคนละเมอ

“ใช่!พายเรือไงที่ทะเลสาบหลังบ้านนะ สวยมากเลยนะ”

“ที่นี่มีทะเลสาบด้วยหรอ ”พูดถึงทะเลสาบแล้วฉันก็ต้องทำหน้าสยองถึงฉันจะว่ายน้ำเป็นแต่ฉันก็กลัว ฉันเลยส่ายหัวทันที

“ทำไมล่ะ สนุกนะสวยด้วยที่นั้นมีศาลาด้วยนะ” เขาถามแล้วทำหน้าสงสัย

“ฉันกลัวไม่ชอบ มัน... ยังไงก็ไม่นะ ”

“ลองดูหน่อยน่า แล้วเธอจะชอบ” แล้วเขาก็ลากฉันมาจนได้

“ลงมาสิไม่ต้องกลัวนะ มีผมอยู่ทั้งคนไม่ปล่อยคุณเป็นอะไรหรอกน่า”

“ไม่อ่ะ พาฉันกลับนะ” ฉันอ้อนเขาหลังจากที่เขาลงไปนั่งในเรือแล้ว โถ่ นี่ฉันจะร้องไห้แล้วนะ ให้ฉันวิ่งผ่าตงกระสุนยังจะดีกว่า

“ลงมาเถอะแล้วหันหน้ามาทางผมสิแล้วคุณก็จะไม่กลัว”

สุดท้ายฉันก็ได้พายเรือเล่นกับเขาจนได้ไม่ใช่ว่าไม่กลัวนะ จะว่ากลัวก็กลัวแต่พอมีเขาอยู่ด้วยแล้วฉันรู้สึกปลอดภัยไม่กลัวอะไร

“ไม่กลัวแล้วใช่ไหม สนุกละสิท่า”

“อืม สนุกดีสวยด้วย” ฉันตอบแล้วเขาก็ชี้ให้ฉันดูนั้นดูนี้จนผ่านไปหลายชั่วโมง ที่ทะเลสาบไม่ค่อยมีแสงแดดส่องถึงเท่าไรเพราะมีต้นไม้รอบทะเลสาบทำให้ที่นี่รมรื่นและมีสายลมเย็นๆพัดมาเป็นระยะทำให้รู้สึกผ่อนคลายและเย็นสบายดีฉันรู้สึกมีความสุขมากแล้วก็มองดูธรรมชาติไปเรื่อยๆแล้วทำให้ฉันคิดอะไรไปเพลินๆไม่ได้รู้สึกแบบนี้นานเท่าไรแล้วนะแล้วฉันก็คิดได้ว่าควรจะถามเรื่องของลดาให้รู้เรื่องให้ได้ฉันจะปล่อยให้มันคาลาคาซังอยู่แบบนี่นานม่ได้แล้วยิ่งนานฉันก็รู้สึกว่าตัวเองไม่เหมือนเดิมแล้วฉันก็จ้องหน้าเขาว่าจะถามตอนนี้ดีไหมหรือขึ้นบ้านค่อยถามดีจนรู้สึกตัวว่าฉันจ้องเขาอยู่ เขาเลยเลิกคิ้วขึ้นเป็นสัญญาณบอกว่ามีอะไร

“มีอะไรติดหน้าผมรึเปล่า หรือว่าคิดอะไรกับผมละสะ”  -_- นั้นไงพูดส่ะเขาข้างตัวเองเลยนะตาบ้านี่ “ฉันไม่ได้พิศวาสอะไรคุณสักหน่อยเชอะ” พูดเสร็จแล้วฉันก็หันหน้าไปอีกทาง ฉันนิ่งไปสักพักระหว่างที่เขาพายเรือเข้าฝังฉันเลยตัดสินใจถามเรื่องลดาออกไป

“คุณ ฉันอยากถามคุณเรื่องลดานะค่ะ” เขาทำหน้าลังเลนิดหน่อยก่อนจะเงียบฉันเลยต้องอธิบายให้เขาเข้าใจเรื่องลดา

“คุณบอกมาเถอะว่าลดาอยู่ไหน ถ้าไม่มีอะไรฉันก็ไม่ต้องสืบต่อไง”

“แล้วคุณก็จะไปจากผม...ใช่ไหม”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา