ลิขิตรักฉบับคานทอง

6.3

เขียนโดย Dashathone

วันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 23.38 น.

  14 บท
  1 วิจารณ์
  15.40K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 กันยายน พ.ศ. 2558 14.14 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) ฉบับที่ 4 ปรึกษาหา ‘ว่าที่สามี’

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

ฉบับที่ 4

ปรึกษาหา ‘ว่าที่สามี’

 

ร้านขนม  House of Choco & Bake

   เมื่อถึงเวลาเลิกงานของเหล่าพนักงานออฟฟิศทั้งหลาย สองเพื่อนสนิทต่างวัยอย่างรันดาและพิมพ์ภัทร  ต่างเร่งฝีเท้ามุ่งหน้าไปร้านขนมชื่อดังของณธิดาตามที่ได้นัดหมายกันทันที  ซึ่งเป็นเหมือนกิจวัติประจำสัปดาห์ทุกวันศุกร์ไปแล้ว ที่ทั้งสามคนจะต้องมารวมตัวกันที่ร้าน  เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนปรึกษาหารือทุกปัญหา  รวมทั้งอัพเดทความเป็นไปในชีวิตของแต่ล่ะคนเช่นกัน  แต่ถึงแม้พวกเธอจะไม่ได้เจอหน้ากันทุกวัน      ก็ยังโทรศัพท์หรือแชทพูดคุยผ่านแอพพลิเคชั่นอยู่เสมอ

“อ้าว  พี่ดา  ภัทร  มาถึงกันนานรึยังคะ” ณธิดาเดินเข้ามาส่งเสียงทักทายสองสาวสุดซี้หลังจากที่ส่งลูกค้าเสร็จแล้ว  รันดาเป็นเพื่อนรุ่นพี่คนสนิทที่ณธิดาและพิมพ์ภัทรรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาตรีปีหนึ่ง  เพราะเป็นรุ่นพี่ใจดีซึ่งคอยให้คำปรึกทุกปัญหามาโดยตลอด  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน  กิจกรรม  ปัญหาครอบครัว  หรือแม้แต่เรื่องหัวใจ  รันดาก็ยังเป็นที่ปรึกษาให้พวกเธอได้ดีเสมอ  เเม้จะแก่กว่าเธอเพียงแค่สามปีเท่านั้น

   “พี่กับภัทรเพิ่งมาถึงจ้ะ  ว่าแต่เกรซเถอะวันนี้ดูยุ่งๆนะ” รันดาเอ่ยทักเมื่อเห็นหญิงสาวทำหน้าเพลียๆ

   “ก็นิดหน่อยค่ะ  ก็วันศุกร์นี่ค่ะ” ณธิดาตอบกลับเสียงเนือยฟังดูห่อเหี่ยวชอบกล

   “มีปัญหาอะไรรึเปล่า  เกรซ” พิมพ์ภัทรสาวนักบัญชีเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย

   “เกรซอยากแต่งงาน” เธอบอกเพื่อนซี้ทั้งสองด้วยน้ำเสียงราบเรียบราวกับมันเป็นเรื่องเล็กน้อยในชีวิตลูกผู้หญิงทั่วไป

   “แต่งงาน!!!/แต่งงาน!!!” ทั้งพิมพ์ภัทรและรันดาต่างโพล่งออกมาเสียงดังลั่นด้วยความตกใจโดยพร้อมเพียงกัน ก็ใครจะไปคาดคิดว่าผู้หญิงเพียบพร้อมที่ครองตัวเป็นโสดมาตลอด ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยกิ๊ก ไม่เคยแม้กระทั่งชายตาแลชายใดอย่างณธิดา  ณราวรกาลกุณ!  แล้วอยู่ดีๆจะมาพูดคำว่าแต่งงานราวกับว่ามันเป็นเรื่องปกติธรรมดาอย่างเช่น การกินข้าว  หรือ  เข้าห้องน้ำขับถ่ายอะไรแบบนั้นได้ยังไง  ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตของลูกผู้หญิงทุกคน  ซึ่งต้องคิดแล้วคิดอีกจนมั่นใจว่าจะลงหลักปักฐานกับใครสักคน  แต่ปัญหาคือ  ณธิดา  ณราวรกาลกุณ ยังไม่มีแม้กระทั่ง ’แฟน!!!’  ไม่เคยสัมผัสผู้ชาย แล้วหญิงสาวจะไปหา  ‘สามี!!!’ มาจากที่ไหน แถมยังมีหน้ามาพูดว่าจะ  ‘แต่งงาน’  ได้หน้าตาเฉยเนี้ยะนะ  ‘ตลกเหลือร้ายจริงนะเพื่อนรัก’  พิมพ์ภัทรได้แต่ครุ่นคิดในใจ

   “จริงๆ  เกรซจะแต่งงานภายในปีนี้!!!” ณธิดาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังชัดเจน  แววตาแน่วแน่  มุ่งมั่นว่าปีนี้เธอจะสามารถหาผู้ชายดีๆสักคนมาแต่งงานด้วยให้ได้

   “คุณพระ!  เอ่อ…ว่าแต่ใครเป็นผู้ชายที่โชคดีคนนั้นจ้ะ หรือว่า

เกรซแอบคบกับใครแล้วพวกเราไม่รู้  หรือว่าเป็นหนุ่มจากเมืองผู้ดีที่ติดใจของไทยจนหอบผ้าตามกลับมาด้วย  หรือว่า…” รันดาอุทานออกมาเสียงแผ่ว  แต่ยังคงตั้งข้อสันนิษฐานต่อไปว่าณธิดาจะแต่งงานกับใคร  เพราะตั้งแต่สนิทกันมานานหลายปี  ยังไม่เคยเห็นคบกับผู้ชายคนไหนเลยสักคน  อย่าว่าแต่คบเลย  แม้แต่เพื่อนชายสักคนก็ยังไม่มีเฉียดมาใกล้เลย  แล้วณธิดาจะเอาใครมาเป็นเจ้าบ่าวกันล่ะงานนี้

   “ก็นั่นแหละค่ะคือปัญหาที่จะปรึกษาพี่ดากับภัทรวันนี้  เฮ้อ” เจ้าของร้านขนมคนสวยเอ่ยขัดจังหวะขึ้น  ก่อนที่รุ่นพี่รันดาจะสันนิษฐานไปเรื่อยเปื่อย  เพราะเธอเองตั้งแต่เกิดมาก็ยังไม่เคยมีแม้กระทั่งเพื่อนชายสักคน  แล้วจะไปเอา  ‘ว่าที่สามี’  จากที่ไหนกันเล่า

   “งั้นก็หมายความว่า……” สองสาวต่างวัยมองจ้องหน้าสวยหวานจองณธิดาอย่างรอคอยคำตอบ

   “หาว่าที่สามี!” ณธิดาพูดเสียงดังฟังชัดออกมาอย่างไม่อายเพื่อนและรุ่นพี่คนสนิท  ก็แหม…..จะมามัวอายอะไรกันเล่า เพราะเธออายุสามสิบสี่ย่างเข้าสามสิบห้าใกล้คานทองเข้าไปทุกทีแล้ว  ถ้ามัวแต่เหนียมอายก็คงจะไม่ได้แต่งงานกับเขาสักทีนะสิ

   “Oh My God! /แม่เจ้า!” แก้วช็อกโกแลตร้อนที่อยู่ในมือของรันดาซึ่งกำลังยกดื่มนั้นกระฉอกหกราดบนโต๊ะ  แล้วไหลย้อยลงมาที่ขา  ไม่ต่างจากเค้กช็อกโกแลตที่พิมพ์ภัทรกำลังจะตักเข้าปากก็กระเด็นลงในแก้วน้ำเย็นไปนอนอยู่ที่ก้นแก้วเสียอย่างนั้น สองสาวอุทานออกมาพร้อมกันดังลั่นร้าน  ทำให้ลูกค้าที่นั่งภายในร้านเริ่มหันมามองกลุ่มสามสาวสวยซึ่งนั่งมุมข้างเคาท์เตอร์ข้างประตูทางออก

   “ชู่ว์  เบาๆหน่อยสิ” ณธิดายกนิ้วชี้ที่ริมฝีปากอวบอิ่มเพื่อเป็นสัญญาณให้เพื่อนรักและพี่สาวต่างสายเลือดเบาเสียงลงหน่อย

   “ก็ใครจะไปคิดล่ะ  ว่าคนที่ไม่เคยสนใจผู้ชาย  ไม่เคยมีแฟน  ไม่เคยมีกิ๊ก  ไม่มีแม้กระทั่งเพื่อนชายที่สนิท  และที่สำคัญนะผู้ชายคนเดียวที่แกรู้จักคือพ่อบังเกิดเกล้า แล้วอยู่ดีๆก็ลุกขึ้นมาบอกว่าจะแต่งงานหน้าตาเฉย  แกจะให้ฉันกับพี่ดาเข้าใจว่าอะไรย่ะ  เฮ้อ…” พิมพ์ภัทรพรั่งพรูความสงสัยยาวเหยียดออกมาแทบหายใจหายคอไม่ทัน

   “พี่ดากับภัทรก็รู้ว่าเกรซอายุเยอะแล้ว  ถ้าเกินสามสิบห้าคงไม่เป็นผลดีต่อการตั้งครรภ์แน่ ที่สำคัญเพื่อนๆรุ่นราวคราวเดียวกันก็มีครอบครัวไปหมดแล้ว ทุกวันนี้เกรซอยู่ตัวคนเดียวพ่อแม่ท่านก็ไม่อยู่แล้ว เกรซอยากมีใครสักคนที่คบกันแล้วแต่งงานอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่าค่ะ” 

“เกรซอยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์และอบอุ่น” ณธิดาอธิบายให้สองสาวฟังด้วยเสียงเศร้า  ดวงตาวูบไหว เพื่อนสนิทต่างก็รู้ดีว่า หญิงสาวนั้นใช้ชีวิตตัวคนเดียวมาหลายปี  หลังจากสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักทั้งสองไปด้วยอุบัติเหตุเครื่องบินตก พวกเธอเข้าใจความรู้สึกของณธิดาดี  จึงเป็นเหตุให้พวกเธอพยายามหาเวลาว่างมารวมตัวกันทุกๆสัปดาห์  เพื่อจะได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความเป็นไปของชีวิตแต่ละคนให้กันและกันฟังบ้าง

“เกรซ....” รันดาเรียกชื่อหญิงสาวเสียงเบา  พลางเอื้อมมือมาลูบหลังมือของณธิดาเพื่อเป็นการให้กำลังใจ  ในขณะที่พิมพ์ภัทรส่งความห่วงใยผ่านทางดวงตากลมใสมาให้

“แล้วแกจะไปหา  เอ่อ….สามีจากที่ไหนล่ะ  ยัยเกรซ”  พิมพ์ภัทรเอ่ยกถามขึ้นเพราะอดเป็นห่วงไม่ได้

“นั่นล่ะคือปัญหาที่จะให้พี่ดากับภัทรช่วย” ณธิดาตอบด้วยน้ำเสียงเนือยๆ  เพราะเธอก็ยังมืดแปดด้านเหมือนกัน  ไม่รู้จะไปหาผู้ชายที่ไหนมาทำสามี  เอ้ย  ‘ว่าที่สามี’ ทั้งรันดาเละพิมพ์ภัทรต่างมองหน้ากันไปมาด้วยแววตาเป็นประกายสื่อความนัย  สองสาวหันมามองหน้าณธิดาด้วยใบหน้าอมยิ้มเจ้าเล่ห์  แล้วหันกลับมามองหน้ากันอีกครั้ง   และโน้มศีรษะชนกันกระซิบกระซาบใกล้กับใบหูของกันและอยู่หลายนาที  โดยมีณธิดาจ้องมองท่าทีแปลกๆของสองสาวแล้วก็ได้แต่ทำหน้างง  เพราะเธอไม่ได้ยินอะไรเล็ดลอดออกมเลยสักคำ

ปล. ติดตามพูดคุยกันได้ที่ Dashathone

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา