3 Love วุ่นวายหัวใจยัยเย็นชา

-

เขียนโดย moowan

วันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 19.09 น.

  5 chapter
  0 วิจารณ์
  6,856 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2558 17.58 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) เพื่อนใหม่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 1

เพื่อนใหม่

  เมื่อเขาเขยิบเข้ามานั่งใกล้ๆตอนที่อาจารย์แจกชีทสำหรับเรียน แถมแจกมาใบเดียวด้วย เลยทำให้ฉันกับเขาได้ใกล้กันมากขึ้นอีก อาการหน้าแดง ตัวร้อน มือชา ใจสั่น อาการแบบนี้ขอบอกเลยว่าไม่ได้เสพยาบ้านะ แต่.. มันดันเป็นกับเขาแค่คนเดียวเท่านั้นแหล่ะ ฉันนั่งเงียบอยู่นาน เพราะปกติเมื่อถึงวิชาเคมีทีไรฉันจะชอบพูด ชอบคุยกับอาจารย์ตลอด มันผิดปกติจนนายยีนส์ที่นั่งอยู่ข้างหลังฉันกับเขาต้องเอ่ยทักขึ้น

“เฮ้! เฮ้! ยัยญี่ปุ่นง๊อง เป็นอะไรเนี่ยหน้าแดงๆ”

  นายยีนส์ทำท่าจะยื่นมือมาแตะที่หน้าผากเพื่อหวัดไข้ แต่ฉันปฏิเสธเขาด้วยการปัดมือทิ้ง ก็ไม่อย่างให้เขาคนนั้นที่นั่งใกล้ๆกับฉันเข้าใจผิด คิดว่าฉันกับยีนส์เป็นแฟนกันนิ >.<

“แค่นี้แตะไม่ได้ เหอะๆถามจริง ปิดเทอมไปนี่หยิ่งขึ้นป่ะเนี่ย?”

   เอาแล้วไงยีสน์ดันโกรธฉันอีก ทำยังไงดีล่ะทีนี้ ฉันควรหันหลังกลับไปขอโทษหรืออธิบายเกี่ยวกับยีนส์ให้เขาฟังดีนะ

“ผู้ชายคนนี้เพื่อนคุณเหรอห๊ะ สวัสดีห๊ะ! ผมชื่อไตเติ้ล ลูกครึ่งไทย-อังกฤษห๊ะ”

  แต่มันไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด เขาหันไปแนะนำตัวกับยีนส์แทน แล้วดูเหมือนจะคุยกันถูกคอต่อไปเรื่อยๆ ถ้านายยีนส์ไม่พูดขัดขึ้นมา

“ใครถามนายมิทราบห๊ะ ผมชื่อไตเติ้ลห๊ะ ลูกครึ่งไทย-อังกฤษห๊ะ.. พูดอย่างกับทอมแน่ะ”

    เขาทำเสียงล้อเลียนไตเติ้ลได้อย่างแนบเนียน -_- คือฉันขออนุญาตอาจารย์แล้วเอารองเท้าฟาดหัวนายนี่ให้สลบคาโต๊ะเรียนได้มั้ย? ชักหมั่นไส้มาตะหงิดๆและนะ หึ่ย..ญี่ปุ่นเซ็ง

“ไตเติ้ลไม่ต้องสนใจนายนี่หรอก สวัสดีฉันชื่อญี่ปุ่น ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น”

  ฉันพูดแนะนำตัวกับเค้า เวลาเค้ายิ้มแล้วโลกจะละลายเลย แง่ๆ >.< แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นนั่นก็คือยัย ณิชาดันหันกลับมาเผือกด้วย U_U

“สวัสดีไตเติ้ล เราชื่อณิชา ลูกครึ่งไทย-จีน เบอร์โทร….”

“เยอะไป เยอะไป..”

  ฉันพูดขัดคอระหว่างสองคนนี้ทันทีทันใด เหอะๆการจะได้เบอร์โทรไตเติ้ลต้องเป็นฉันคนแรกเท่านั้น คนอย่างเธอต้องทีหลังย่ะ J

“ไม่เป็นไรหรอก ที่บ้านของไตเติ้ลไม่ถือเรื่องพวกนี้”

   เขายังไม่ทันจะพูดจบ นายยีนส์ก็ขัดขึ้นอีกแล้ว -_- เรื่องเยอะจังเลยนายยีนส์

“แต่บ้านฉันถือ การที่ผู้หญิงกับผู้ชายเป็นเพื่อนกันเค้าเรียกว่าแมงดา”

   ผมพูดเหมือนคนที่มีชัยชนะอยู่เหนือกว่า แบบWin Winแล้ว แต่ญี่ปุ่นดันอยู่ข้างมันอีก โอ้ย!!!ผมล่ะอยากจะบ้าตาย

“แมงดาบ้านนายสิ แมงดาคือคนที่’เกาะ’ ผู้หญิงกินต่างหาก”

   ฉันพูดแบบน้ำเสียงปนโมโหนิดๆ หึ่ย!!ไม่ไหวแล้วนะ มาสอนคนต่างชาติแบบนี้ได้ไง อิคนไม่รักชาติ นายยีนส์บ้า นายยีนส์โง่… ไอ้คนไม่มีเห็นผล!!!!!!

“ว่าแต่นายชื่อยีนส์เหรอ ยีนส์ อัครเวท โชติยางกูรน์”

   นามสกุลบ้าบอคอแตกอะไรของนายเนี่ย… ไม่รู้ว่าไตเติ้ลอ่านมันออกไปได้ยังไงกันนะ J

“รู้ได้ไง?? หรือว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อน”

   โถ่ๆ ยีนส์เอ๊ย!! บัตรนักเรียนก็มีรึเปล่า ทำไมไม่ดู ถึงผมจะดูเป็นคนเชื่อใครง่ายแต่ก็ไม่ได้โง่นะครับ

“ผมชื่อ ลภัส งามเชวง..”

   เดี๋ยวๆหน้าตาฝรั่งจ๋าขนาดนี้แต่ทำไมชื่อไทยโครต.. ทีนายยีนส์น่าตายังกับพม่าข้ามชายแดนมาอยู่ไทยขนาดนี้ ชื่อออกจะเวอร์วังอลังการซะเหลือเกิน -_-

“ส่วนฉันชื่อ ญี่ปุ่น มาริสา โยโกะมาชิกะ”

      ชื่อฉันค่อยน่าเชื่อถือหน่อยเนอะ >.< พิสูจน์ได้เลยว่าฉันน่ะ ไทย-ญี่ปุ่นของแท้ เขาค่อยๆหยิบลูกอมกลิ่นเลม่อนเข้าปาก และจดเล็คเชอร์ต่อ

“นี่แกกินขนมในห้องเรียนเหรอ..”

“….”

“ฉันพูด ฉันถาม หรือว่านายน่ะหูหนวก”

“คุณนั่นแหล่ะตาบอดรึเปล่า คุณก็เห็นว่าผมกินลูกอม ลูกอมมันก็คือขนมชนิดหนึ่ง เพราะฉะนั้นคุณจะถามผมทำไมครับ..”

    โครตแทงใจดำเลย!!! นี่แหล่ะสมควรที่จะเป็นเพื่อนฉันที่สุดและ น่าตาก็หล๊อหล่อ ดูท่าทางที่บ้านก็น่าจะรวยพอๆกัน

“นี่ๆ นายยีนส์ อย่าชวนเพื่อนคุยสิเดี๋ยวเพื่อนจะเสียการเรียนหมด”

   อาจารย์เดินเข้ามาทางโต๊ะที่ฉันนั่ง และขยับไม้เรียวนิดหน่อยก่อนจะชี้นู่นชี้นี่ให้นายไตเติ้ลอ่าน แต่อันที่จริงเขาอ่านมันมาเรียบร้อยแล้วหล่ะค่ะ อาจารย์ก็ลูบๆคลำๆแขนของเขาต่อไปเรื่อยๆจนหมดคาบ คือสรุป..ฉันจะมาโรงเรียนทำไมถ้าไม่ได้เรียน

   ถึงเวลาเสียงออดของโรงเรียนดัง นักเรียนในห้องของฉันก็ต่างรีบวิ่งลงไปทานข้าวกันหมด แม้แต่ยัยณิชาอุตส่าห์ขอร้องว่าให้อยู่เป็นเพื่อน แต่ยัยนี่ก็บ่นหิวแล้วก็ขอตัวไปกินข้าวจนได้ สุดท้ายฉันมันก็กลายเป็นเด็กไม่มีเพื่อนนี่คือส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของญี่ปุ่นผู้เดียวดายค่ะ U_U

“อ้าว! วันนี้เธอไม่ได้วิ่งคาบแซนวิชน์กับนมมาโรงเรียนเหรอ”

   ถึงมันจะเป็นประโยคที่ทักฉันได้อย่างเจ็บปวด แต่ฉันก็จะพยายามไม่ระเบิดอารมณ์ก็แล้วกัน

“วันนี้ฉันตื่นเช้า ฉันก็เลยไม่ได้พกมันมากินด้วย”

   ฉันพูดและหยิบหนังสือวิชาชีวะ มาอ่านฆ่าเวลาแต่เนื้อหาก็มีแต่… ผสมพันธุ์ นี่ก็ผสมพันธุ์ นู่นก็ผสมพันธุ์ โอ้ย!!!ญี่ปุ่นจะบ้าตาย วันนี้ต้องเรียนเนื้อหาเรื่องพวกนี้รับรองค่ะ บรรยากาศตึงเครียดเป็นแน่แท้ (เหรอ!!!)

“อ๊ะ!!”

  ยีนส์และไตเติ้ลหันหน้ามามองกันเล็กน้อย เพราะพวกเขาดันยื่นแซนวิชน์มาให้ฉันพร้อมกันแบบนี้ ฉันจะเลือกฝั่งไหนดีล่ะ???

“ฉันยื่นก่อน”

“ผมยื่นก่อน”

“ฉันยื่นก่อน นี่แกจะเอายังไงเนี่ย!!!”

“แล้วนายจะเอายังไงล่ะ!!”

   เอ้าๆ!! จะต่อยกันแล้ว ญี่ปุ่น ญี่ปุ่น ญี่ปุ่นทำอะไรซักอย่างสิ จะให้เพื่อนสองคนมาต่อยกันเพราะเรื่องแค่นี้ไม่ได้นะ

“โอเคๆ คือถ้าญี่ปุ่นกินของยีนส์ไตเติ้ลก็จะโกรธ แต่ถ้าญี่ปุ่นหันมากินของไตเติ้ลยีนส์ก็โกรธอีกอยู่ดี เพราะฉะนั้นญี่ปุ่นขอกินของทั้งสองคนเลยแล้วกัน”

    สุดท้ายฉันก็เหมือนคนตระกละอีกแล้วค่ะ ทำยังไงได้ล่ะคะท้องก็ร้อง ไม่ใช่สิ!เสียงสะเทือนจากกระเพาะอาหารก็ดังมากพอแล้ว ยังจะมาเถียงกันต่อหน้าอีก ญี่ปุ่นไม่ไปเถียงด้วยก็ดีแล้วล่ะค่ะ

“โห.. มูมมามซะเหลือเกิน”

    ยีนส์พูดประชดเอาไว้ก่อนจะเดินลงไปข้างล่างเมื่อได้ยินเสียงคนกำลังเล่นบาสอยู่ที่โดม ตอนนี้ก็มีแต่ฉันกับไตเติ้ลกันแค่สองคน เหมือนโลกจะหยุดหมุนเลย >.<

“ชอบชีวะเหรอ คราวหน้าบอกผมก็ได้นะครับ ที่บ้านผมมีเต็มชั้นวางหนังสือเลย”

   เขาพูดยิ้มๆ อันที่จริงฉันก็ไม่ได้ชอบชีวะหรอกค่ะมันดูน่าเบื่อยังไงๆก็ไม่รู้ แต่พอเขาส่งยิ้มอันแสนสดใสแล้วก็เป็นจุดเด่นของเค้าออกมา ฉันก็ไม่อยากจะเอ่ยปากพูดอะไรต่อไป งั้นตอนนี้ญี่ปุ่นแกล้งฟลุบตรงนั้นเลยดีกว่า

“อ้าว! หลับแล้วเหรอครับ..”

     เขาเอาหน้าลงมาแหงนมองหน้าฉัน แล้วก็เอามือนุ่มๆของเขาที่เหมือนมือของผู้หญิงมากๆ.. มาลูบผมฉันเบาๆก่อนจะปิดหนังสือชีวะให้ โรแมนติกอ่ะ.. ญี่ปุ่นละลาย //>.<//

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา