I'm sorry! ขอโทษครับ สามีผมโหด

8.3

เขียนโดย LemonNest

วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 23.30 น.

  36 chapter
  30 วิจารณ์
  49.05K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558 23.40 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

23) ขอโทษครับ 23

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Chapter 23

 

 

 

ดิน

 

                ผมกับติ้วลงมาหาอะไรกินที่ในตัวเมืองห่างจากที่พักไปห้ากิโลกว่า นั่งรออาหารได้สักสามนาทีเหลือบไปเห็นฟินและพัดเดินกอดคอกันมานั่งกินร้านข้าง ๆ

 

                “นั่นมันพี่ฟินกับพี่พัดนี่ครับ” ผมพยักหน้าพูด

 

                “อืม แต่สีหน้าฟินมันไม่ค่อยดีเลยนะ” ติ้วขมวดคิ้วมองตาม

 

                “ไม่สบายรึเปล่าครับ เราเข้าไปทักดีไหม?” ติ้วมองหน้าผมขอความคิดเห็น ผมชั่งใจคิดส่ายหน้า

 

                “อย่าเลย เขาคงอยากอยู่กันแค่สองคน”

 

                “ครับ อาหารมาพอดี มา ผมแกะกุ้งให้นะ” รอยบุ๋มข้างแก้มยุบลงไป ผมยีหัวติ้วเล่นลงมือนั่งทานอาหารตรงหน้า

 

                ติ้วเป็นผู้ชายตัวโตและดูแข็งแรงเมื่อเทียบกับผม เวลาเดินไปไหนมาไหนจึงไม่แปลกที่ผู้หญิงส่วนใหญ่จะมองมาที่ติ้ว แต่กับบางกลุ่มที่ชอบผู้ชายนิ่งเงียบก็จะหันมาสนใจผมเป็นพิเศษ หน้าตาเราไม่ได้จัดว่าแย่ แต่เพราะเห็นเราเดินกอดคอและจูงมือกันจึงไม่ต้องคิดไปไกลว่าจะเป็นแค่เพื่อน

 

                ที่ผมยังกังวลคือเมื่อเปิดเทอมผมต้องไปฝึกสหกิจที่ไกลออกไปจากคอนโด และติ้วเองก็มีคนมาติดพันเยอะจนไว้ใจไม่ค่อยจะได้ ไม่ใช่ติ้วที่ผมไม่ไว้ใจ แต่เป็นคนที่เข้ามายุ่งกับเรามากกว่า ผมอดคิดไม่ได้ว่าคนบางกลุ่มที่ชอบแย่งของคนอื่นนี่ก็แปลก การเข้าไปเป็นมือที่สามมันน่าสนุกตรงไหน รู้ทั้งรู้ว่าจุดจบยังไม่สวยก็ยังจะรั้นทำต่อไป

 

                ตุบ

 

                “ขอโทษครับ” ความคิดของผมหยุดลง ติ้วกำลังประคองผู้ชายตัวเล็กที่ล้มลงไปนั่งกับพื้นหัวเข่าถลอก ผมเข้าไปดึงมือเขาช่วยอีกแรง

 

                “ไม่เป็นไรครับ พี่เป็นคนเข้ามาชนเราเอง”

 

                “หัวเข่าเลือดเลย” ติ้วสีหน้าไม่ดี แต่ผู้ชายที่อายุน่าจะพอ ๆ กับผมกลับยิ้ม

 

                “แค่นี้เอง พี่แวะร้านขายยาก็จบแล้ว แล้วมากันสองคนเหรอ?”

 

                “เปล่าครับ มากับเพื่อนอีกหลายคน” ติ้วตอบ ผมเห็นสายตาเขาแล้วเอามือไปคล้องแขนติ้วเอวไว้มือจับกุมกัน

 

                “อืม พี่ก็มากับเพื่อน แต่พี่ตามมาที่หลัง แล้วพักกันที่ไหนล่ะ พี่พัก xxx” เขาบอกสถานที่ซึ่งเป็นที่เดียวกับที่เราพักกัน อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น

 

                คุยกันไปสักพักเราก็กลับมาที่บ้านพักเพื่อพาเขามาทำแผลที่ห้อง ผมรู้เพิ่มมาคือผู้ชายคนนี้ชื่อยูตะ เป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น เขาอยู่บ้านพักหลังที่สี่ ผมอยู่หลังแรก สายตาของยูมองติ้วที่คุกเข่านั่งทำแผลให้เงียบ ๆ ผมยืนพิงประตูมองอีกฝ่ายอย่างพิจารณาเช่นกัน

 

                “เสร็จแล้วครับ” ติ้วเก็บของอุปกรณ์ทำแผลเข้ากล่อง เดินไปยังอีกห้องที่เป็นห้องนอนของเรา ผมเดินมายืนตรงหน้ายูและพูดสิ่งที่คิดออกมา

 

                “นายเป็นรึเปล่า?” ผมถามสั้น ๆ ไม่ได้เจาะจงว่าเป็นอะไร แต่คิดว่ายูคงไม่โง่

 

                “ถามทำไม จะเป็นหรือไม่เป็นมันก็ไม่เกี่ยวกับนาย” ยูยิ้มมุมปาก “ถ้าฉันอยากจะได้ ต่อให้มีแฟนฉันก็จะเอา”

 

                ชัดเจน

 

            ผมดุนลิ้นกลอกตาไปมา ไม่อยากจะสร้างศัตรู แต่บางครั้งเราก็ไม่สามารถเลี่ยงเรื่องพวกนี้ได้ ติ้วเป็นของผมและผมเชื่อใจมันมาก คงต้องคุยเรื่องนี้กันหน่อย เราก็ไม่ได้อยู่ที่นี่นาน กับยูผมก็ไม่ค่อยจะกังวลเท่าไหร่ แต่ผมไม่ชอบคนหน้าด้านนิสัยแย่ว่ะ

 

                “ก็ดี เลวดี” ผมแสยะยิ้มโต้กลับไป ยูตีหน้าเรียบคงคิดว่าผมจะกลัว แต่เปล่าเลย ผมผ่านเรื่องนี้มาเยอะพอสมควร

 

                “คิดซะว่าเป็นคำชมแล้วกัน” ติ้วเดินออกมาพอดีเราจึงหยุดไว้แค่นั้น ยูขอตัวกลับไปบ้านพักและไม่ลืมที่จะชวนทั้งผมและติ้วไปเดินตลาดนัดที่จัดขึ้นหมู่บ้านใกล้ ๆ

 

                วันนี้มีงานอะไรสักอย่างของชาวบ้านที่นี่ ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องนักแต่พอรู้ว่ามีชิงช้าสวรรค์ก็อดจะตื่นเต้นไม่ได้ ผมไม่เคยนั่งมันเลยสักครั้ง และครั้งแรกของผมก็อยากจะนั่งกับมันดู

 

                “ไม่ต้องมาง้อกู!” เสียงไอ้ตี๋มันแหกปากโวยวายอยู่ข้าง ๆ บ้านของผมติดกับมันจึงได้ยินเสียงชัดเจน

 

                “เขาก็แค่แกล้งมึงเล่น มึงจะจริงจังอะไรวะ” ตามมาด้วยเสียงไอ้ฟาง ติ้วโผล่หน้าออกไปดูเมื่อได้ยินเสียงเพื่อนตัวเอง

 

                “กูไม่ตลก” ตี๋เท้าสะเอวจ้องหน้าคนรัก “ที่มันบอกว่ามีแฟนแล้วมันพูดจริงแค่ไหนมึงก็ไม่รู้ บางทีมันอาจจะเอามาอ้างเพื่อนจีบมึงก็ได้ หอมแก้มกันกูไม่ตลก!”

 

                “บอกว่าพี่เติ้ลมันแกล้งเว้ย โดนแก้มกูจริง ๆ ที่ไหนล่ะ” ฟางจะแตะแขนคนรัก ตี๋เบี่ยงแขนหนี

 

                “กูง้อแล้วนะไอ้เหี้ย หายงอนกูดิวะ” ตี๋เหล่มองฟางที่ทำหน้าเศร้ากระพริบตาปริบ ๆ

 

                “มึงกำลังตอแหล” ฟางหายใจฟืดฟาด

 

                “มีสักวันไหมที่มึงจะไม่ด่ากู” ตี๋ส่ายหน้ายิ้มแทนคำตอบ

 

                “ก็มึงมันน่าด่า อยากง้อกูจริงก็ต้องทำตามที่กูบอก มึงตกลงไหม?” ผมใส่รองเท้าเดินออกไปหาไอ้ตี๋

 

                “ไง เสียงดังแม่งทุกวัน” ตบบ่ามันทักทาย ไอ้ฟางมันหันมามองผม

 

                “ตกลงก็ได้วะ มึงจะให้ทำอะไรล่ะ?”

 

                “มึงมาก็ดีแล้วไอ้ดิน กูยืมวิกผมของเด็มหน่อยดิ” คนที่มันพูดถึงเป็นน้องสาวของผมเองครับ เธอเอาวิกผมยัดใส่กระเป๋าผมมา บอกให้เอามาใส่ให้พี่ติ้วของมันดู มันบอกผมใส่แล้วดูสวย ผมโคตรโมโหเลยไปเล่าให้ไอ้ตี๋มันฟัง คือเด็มมันมาค้างห้องผมคืนก่อนจะมาเที่ยวไง

 

                “กูว่าไอ้ฟางใส่แล้วจะยิ่งแย่ว่ะ” ความหมายของผมคือฟางมันขาวและหน้าออกหวาน ๆ น่ารักดี ยิ่งถ้ามันใส่วิกยิ่งเหมือนผู้หญิง ผมว่าคนที่เป็นเดือดเป็นร้อนไม่ใช่คนโดนแกล้งหรอก แต่เป็นไอ้ตี๋เองมากกว่า

 

                “โห พี่ดินดูถูกว่ะ เอามาเลย ๆ ฟางจะใส่ให้ดูว่าผู้ชายแมน ๆ อย่างฟางใส่แล้วต้องน่ารักแน่” มึงพูดถูก

 

                “มึงไปเอามาไป กูจะให้ใส่เดินจนอายเลย” ผมส่ายหน้า ความคิดพวกมึงมันเด็ก

 

                “เออ งั้นรอแป๊บ” ดินเดินหายเข้าไปในบ้านพักตัวเองสวนกลับติ้วที่มองตามหลังคนรักเข้าไปในบ้านไว ๆ หันหน้ากลับมาเดินตรงมายังฟาง

 

                “อะไรกันวะ?” ติ้วถามฟาง

 

                “กูจะสวยให้ดู ฮ่า ๆ ว่าแต่คืนนี้มึงไปกับกูไหม?” ฟางซุบซิบเอามือมาบังปากพูดกับติ้ว ตี๋กอดอกมองหรี่ตาลง

 

                “ไม่เอาอะ มึงจะเอามึงก็ไปคนเดียวเลย ผีหลอกขึ้นมากูไม่ช่วยนะเว้ย”

 

                “มึงมันป๊อด” ฟางตบท้องเพื่อนยิ้มเยาะ ติ้วเดินออกมามือถือวิกผมสีน้ำตาลเข้มส่งให้เพื่อนชาย

 

                “ให้กูช่วยไหม?”

 

                “ไม่ต้อง ขอบใจมาก” ตี๋ยิ้มมีเลศนัยมึงดึงแขนฟางเข้าที่พัก ฟางตะโกนบอกเพื่อน

 

                “ถ้าเปลี่ยนใจก็บอกกูนะเว้ย”

 

                “ไม่เปลี่ยนใจเว้ย มึงเล่นไปคนเดียวเหอะ” ติ้วตะโกนกลับ ผมเอียงคอเดินมาถาม

 

                “มีอะไร?”

 

                “เปล่าครับ มันชวนไปเดินเล่นที่บ้านพักร้างท้ายหมู่บ้านอ่า มันได้ยินชาวบ้านเล่าว่ามีผี”

 

                “เดี๋ยวก็เจอดี เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง” ผมบ่น ผมเป็นคนเชื่อเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว แต่กับไอ้ตี๋มันไม่ค่อยจะเชื่อ และถ้ามันบ้าตามเมียมัน ผมว่าคงเจอทั้งคู่

 

                “นั่นสิครับ” ติ้วเท้าคางนั่งยอง ๆ กับพื้นเขี่ยดอกไม้ที่ปลูกตกแต่งอยู่หน้าบ้าน ผมหยิบโทรศัพท์ออกมา

 

                “ถ่ายรูปกัน พี่จะตั้งไว้หน้าจอ” ติ้วพยักหน้า เราจึงหามุมที่แสงเข้าพอดีเพื่อถ่ายรูปคู่

 

……………………………………………………….

 

ตี๋

 

            ผมปิดปากขำคนข้าง ๆ ที่เดินเบียดผมหน้าซุกอยู่กับอกของผมตลอดการเดินทาง เรามาตลาดนัดกันครับ ผมบีบท้ายทอยมันให้เงยหน้าขึ้น

 

                “มึงอย่ามาอาย ใส่ไปถึงเที่ยงคืน” ไอ้ฟางมันยู่ปากใส่มือตบหน้าผม

 

                “กูเมียมึงนะ แล้วดูแม่ง จะมองอะไรกันนักหนาวะ” ที่มองเพราะมึงน่ารักไง ไอ้ฟางมันคิดว่าตัวเองตลกจนน่าเกลียด ผมไปล้อมันไว้ด้วยแหละว่ามันใส่แล้วเหมือนกระเทย ทั้งที่ความเป็นจริงมันเหมือนผู้หญิงเรียบร้อย ๆ

 

                “แม่ ๆ พี่เขาสวยจัง” เด็กผู้ชายคนหนึ่งชี้มาทางไอ้ฟาง ผมตีหน้ายักษ์ใส่ มึงอย่าได้คิดไอ้เด็กเวร

 

                “ไอ้ตี๋ มึงดูขนมเหี้ยอะไรโคตรน่ากิน” ไอ้ฟางมันกระตุกเสื้อผมลากเข้าไปในร้านขายโรตี

 

                “เอาอะไรดีครับ?” ไอ้ฟางมันยืนงงเงยหน้ามองผม มึงอยากแดกแต่เสือกสั่งไม่เป็น

 

                “ใส่ไข่สองครับ และก็ใส่กล้วยอีกหนึ่ง” ข้างกันเป็นไอ้เด็กคนนั้นที่จับมือแม่มันมาเข้าร้านเดียวกับผม

 

                “น้า ๆ ผมเอาใส่ไข่สามอันนะ” สายตามันมองไอ้ฟางอมยิ้มบิดเขินอยู่คนเดียว แม่มันมองหน้าไอ้ฟางเลื่อนสายตามามองผมที่มองลูกเธอหน้าดุ

 

                “มึงฉลาดจัง” แค่สั่งโรตีมันจะไปยากอะไร ไอ้ฟางมันยิ้มชื่นชม ผมวางมือผมหัวมันยีจนวิกผมมันฟู

 

                “พี่สาว ๆ พี่ชื่ออะไรครับ?” เสียงไอ้เด็กนั่นมันดังขึ้น ตัวก็เตี้ยกว่ากูเดี๋ยวแตะลอยแม่ง ไอ้ฟางมันก้มลงมอง

 

                “ห้ะ! พี่เหรอ?” ฟางชี้ตัวเอง

 

                “ครับ พี่สวยจัง มาเป็นแฟนผมไหม ผมหล่อนะ” ผมเหล่มอง มึงมั่นหน้ามากสินะ ถ้าไม่ติดว่าแม่มึงอยู่กูลากไปแก้ผ้าจับมัดกับมะพร้าวแน่

 

                “ไม่เอาลูก ขอโทษด้วยนะคะ แกยังเด็ก” ครับ เด็กที่กวนส้นตีนด้วย ผมกอดเอวไอ้ฟางกระชากเข้าหา มันโวยวาย

 

                “มึงจะมากอดกูทำไมนักหนาวะ”

 

                “ได้แล้วครับ ทั้งหมด XX บาท” ฟางมันแบมือขอเงินผม ผมมองล้วงกระเป๋าส่งให้ มันยิ้ม

 

                “นี่ครับ” ฟางยื่นเงินให้พร้อมรับของมาถือไว้ เก็บเงินเข้ากระเป๋า เด็กน้อยมองตาปริบ ๆ ดึงแขนแม่ลงมากระซิบพูด

 

                “แม่ ๆ ทำไมพี่เขาพูดครับล่ะ” ผมอมยิ้ม แม่มันคงรู้ว่าไอ้ฟางเป็นผู้ชายเลยก้มหัวให้ผมเล็กน้อยเชิงขอโทษ มือลากไอ้เด็กนั่นออกไปเมื่อได้ของพร้อมเงินทอน

 

                “แฟนคลับกูไปไหนแล้วอะ?” ฟางมองหาเด็กผู้ชาย

 

                “ถามทำไม!?” ผมกอดอกถามเสียงโหด

 

                “อย่าบอกนะมึงหึงเด็ก” ผมเหมารวมหมดแหละ จะเด็กจะผู้ใหญ่ผมก็ไม่ชอบทั้งนั้น ผมไม่ได้ตอบแต่เงียบไม่ตอบมัน ไอ้ฟางมันจะตบหัวผมแต่พอเจอผมถลึงตาใส่ว่ามึงกล้าเหรอมันรีบลดมือลง

 

                “เชิญครับพี่ตี๋ มึงจะหึงจะทำเหี้ยอะไรก็ตามสบาย” พูดเพราะขึ้นมาเลยสัส เห็นมันเก่งแบบนี้กับผมมันก็กลัวอยู่มาก เพราะถ้าผมเอาจริงขึ้นมามันนั่นแหละจะซวย

 

                “หึ อ่อน” ผมยิ้มเยาะ

 

                “อย่าให้กูได้เสียบมึงบ้างแล้วกัน” มันบ่นเบา ๆ แต่ผมได้ยินชัดสองหู แกล้งทำเป็นถามขึ้น

 

                “มึงว่าไงนะ? อะไรเสียบ ๆ” ไอ้ฟางรีบแก้ตัว

 

                “กูอยากกินลูกชิ้นเสียบไม้ ไป ๆ ร้านนี้อร่อยมากเลยนะ” ผมส่ายหัว มึงเพิ่งมาจะไปรู้ได้ไง มือเลื่อนไปกอดคอมันเอาไว้เดินไปด้วยกัน อยู่กับมันก็ชีวิตเรื่อย ๆ ตีกันทุกวันแต่ผมก็โคตรจะรักมัน รักเหี้ย ๆ เลย

 

                ตกดึกคนยิ่งคึกคัก ผมมาปูเสื่อนั่งดูหนังกับไอ้ฟางและบังเอิญเจอพวกไอ้พัดไอ้ฟินระหว่างทาง ทำไมไม่มีหมอนให้เช่าด้วยวะ ผมกะจะนอนดูสบาย ๆ เพราะตรงนี้คนไม่เยอะเหมือนด้านใน อากาศกำลังเย็นสบายไม่มียุงมากวนใจอย่างที่คิด

 

                “เพื่อนมึงไปไหนกันวะ กูไม่ค่อยเห็นหน้าเลย” ไอ้ฟินที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ผมสะกิดถาม

 

                “ไอ้ดินมันชอบสันโดษ คงเดินเล่นแถว ๆ นี้แหละ มึงคิดถึงมันไง เกรงใจผัวบ้าง” อย่าคิดว่าผมไม่รู้นะว่ามันโดนอะไรมาเมื่อคืน ดูจากท่าเดินเมื่อเช้าก็เดาได้ไม่ยาก มีแต่ไอ้ฟางที่โง่คิดว่ามันไม่สบาย

 

                “มึงพูดอะไร กูไม่เห็นจะเข้าใจ” มันลอยหน้าลอยตาหันไปทางอื่น แก้มมันขึ้นสีนิด ๆ คนบ้านนี้แม่งขาวกันจังวะ

 

                “เมื่อคืนกูได้ยินเสียงมึงคราง” ผมลองแกล้งพูดออกไป ไอ้ฟินมันเบิกตากว้างกลืนน้ำลายมองไปทางไอ้ฟาง เมียผมมันไม่สนใจอะไรหรอกดูแต่หนังผี พอผีโผล่แม่งก็กอดแขนผมหลับตาแน่น

 

                “มึงได้ยินจริง ๆ เหรอวะ?” โง่เหมือนกันทั้งพี่ทั้งน้อง ไอ้พัดมันยิ้มรู้ว่าผมแกล้งไอ้ฟิน ได้ทีผมก็แกล้งต่อ

 

                “เออ อย่างดังเลย วันหลังเบา ๆ กันดิวะ กูนอนไม่หลับ”

 

                “มึงไม่ได้หลับ กูยังเห็นพวกมึงเอากะ…” ฟินหยุดพูดมือปิดปากตัวเอง ผมเลิกคิ้วดึงคอเสื้อมันเข้ามาถามใกล้ ๆ

 

                “มึงเห็นกูเอากันได้ยังไง หรือว่า…” ผมส่ายสายตากดดันมัน

 

                “กูไม่ได้แอบดู กูแค่บังเอิญไปเห็น” ถ้าไอ้ฟางรู้ว่าพี่มันเห็นอะไรบ้างจะอายแค่ไหนนะ แบบนี้สินะมันถึงได้กัน แอบดูจนมีอารมณ์

 

                “หึ อยากรู้อยากเห็นจนได้เรื่อง จะเอาคลิปไหมล่ะ กูจะส่งให้มึงเอาไปทำตามก็ได้นะ” ผมหยิบโทรศัพท์ออกมา ถ้าถามว่าผมมีคลิปไอ้ฟางจริงไหม ผมมีจริงครับ และก็ไม่ได้บอกมันด้วย แต่แอบเก็บไว้ในคอมล็อครหัสกันคนอื่นเปิดดู

 

                “โรคจิตไอ้สัส” ฟินหันมาทางพัด “มึงคงไม่มีใช่ไหม กูเอามึงตายแน่” พัดยิ้มไม่ตอบอะไร สันดานไอ้พัดมันก็คล้ายกับผมนั่นแหละ เดาไม่ออกเหมือนกันว่ามันจะทำแบบผมไหม เวลาผมต้องไปต่างที่แล้วไอ้ฟางติดเรียนอดจะคิดถึงมันไม่ได้ก็เปิดดูและ…นั่นแหละครับ อยากใช้คำว่าช่วยเลย พูดว่าพึ่งพาตัวเองจะดีกว่า

 

                “อ้าว ไอ้ฟาง” จบจากดูหนังก็พามันออกมาเดินหาอะไรกินต่อข้างใน ไอ้ติ้วมันทักไอ้ฟางทันทีที่เจอกัน

 

                “อะไรวะ น่ารักว่ะ กูอยากได้” ในมือไอ้ติ้วมันอุ้มตุ๊กตาเอาไว้ ฟางมองหน้าผม “กูอยากได้!” ลำบากกูจนได้

 

                “มึงอย่าไปเล่นเลย คนขายมันกวนตีน กูเกือบกระทืบหลายรอบแล้ว” ไอ้ดินมันรีบพูดขึ้น

 

                “ทำไมอะพี่ดิน มันจีบไอ้ติ้วอ่อ”

 

                “เปล่า มึงไปถึงก็รู้เอง” ผมคิดว่าไอ้ฟางมันถอดใจแล้วนะ แต่มันเงยหน้ามามองผมแล้วยิ้ม

 

                “กูอยากได้” กระทืบเมียก่อนจะเป็นอะไรไหมวะ

 

                “ฮ่า ๆ ๆ มึงแม่งสุดยอดเลย” ติ้วหัวเราะ ฟางมันก็ยังไม่หยุดพูดคำเดิมซ้ำ ๆ ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่

 

                “เออ! กูรู้แล้ว”

 

                “กูกลับบ้านพักก่อนนะ เออ เรื่องไปที่ท้ายหมู่บ้านไม่ต้องไปนะฟาง พี่พูดจริงว่าอย่าไปเลย เจ้าที่เขาแรงอย่าไปเล่นด้วย” ผมมองไอ้ฟางทันที

 

                “ครับ ๆ ฟางก็ไม่กล้าไปคนเดียวหรอก”

 

                “อืม ดีแล้ว” ไอ้ดินมันโบกมือลา “กูกลับก่อนนะ ขอให้มึงอดทนพอที่จะไม่กระทืบมัน” ผมพยักหน้ารับโบกมือลามันกลับ

 

                “ฟาง! เจอกันอีกแล้วนะ” เสียงคุ้น ๆ ผมหันไปเจอไอ้เติ้ลมันวิ่งมาทางนี้พร้อมกับกลุ่มเพื่อนมันที่เดินตามมา คิดจะเล่นกับกูใช่ไหม

 

                “ตี๋ มึงใจเย็น พี่เติ้ลไม่มีอะไร” เพราะมึงมองโลกในแง่ดีแบบนี้กูเลยต้องปกป้องไง มองก็รู้ว่าไอ้เติ้ลมันคิดอะไร

 

                “กูใจเย็นพอที่จะไม่กระทืบมันตรงนี้ แต่ถ้ามันมากกว่านั้นกลับไปกูเอามันเดี้ยง” ผมพูดเสียงเรียบมือบีบข้อมือไอ้ฟางแน่น

 

                “นึกว่าใคร ที่แท้ก็มึง” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น ผมมองเลยไปข้างหลังไอ้เติ้ล

 

                ไอ้สัสยู!!

 

 

 

 

 TBC.

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา