I'm sorry! ขอโทษครับ สามีผมโหด

8.3

เขียนโดย LemonNest

วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 23.30 น.

  36 chapter
  30 วิจารณ์
  49.81K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558 23.40 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

25) ขอโทษครับ 25

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Chapter 25

 

 

 

ตี๋

 

            พวกเราเดินทางกลับมาถึงบ้านพักก็ต้องแปลกใจเมื่อมันเงียบผิดปกติ เปิดประตูเข้าไปในบ้านไม่เจอไอ้ฟางแม้แต่ห้องน้ำ มันคิดว่าผมไปเที่ยวหรือไงวะ อย่าบอกนะว่ามันประชดผมโดยการไปกับคนอื่น ถ้าเป็นอย่างนั้นกลับมาผมฆ่ามันแน่

 

            “โอ๊ย ๆ อะไรของมึงวะฟิน!”

 

            “จะอะไร แล้วมึงไปไหนมา” ผมวิ่งไปบ้านไอ้พัดทันที มันยืนยกแขนป้องหน้าถอยเท้าหลบมือไอ้ฟินที่ชูขึ้นจะต่อยลงมาอีกรอบ

 

            “มึงฟังกูพูดก่อนสิ”

 

            “มึงจะให้กูฟังอะไร มึงไปแซ่บกันมาใช่ไหม?! พวกมึงสามตัว…” ดินที่เดินรั้งท้ายส่ายหัวรัว

 

            “เฮ้ย! มึงอย่าคิดบ้า ๆ ขนลุกเลย จัดการกันเองนะเว้ย”

 

            “มาแล้วเหรอครับ ผมนั่งรอตั้งนาน” ติ้วงัวเงียลุกมาหาดิน ดินลูบหัวหมาน้อยของเขา

 

            “ครับ กลับบ้านกัน มานั่งทำอะไรที่นี่ หืม”  

 

            “ก็มารอพี่นั่นแหละ ผมไม่อยากงี่เง่านะ ยังไงช่วยเล่าให้ฟังด้วยแล้วกัน แต่ถ้าพี่คิดจะนอกใจก็บอกกันตรง ๆ ติ้วจะได้…”

 

            “พี่ไม่เคยคิดอย่างนั้น” ดินมองติ้วหน้านิ่ง ติ้วก้มหัวสายตามองพื้น

 

            “ผมรู้” ดินถอนหายใจเฮือกใหญ่กุมมือติ้วกลับที่พัก

 

            “มึงไม่คิดจะฟังกูเลยใช่ไหมไอ้ฟิน แล้วก็นะ…กูทำขนาดนั้นยังมีแรงลุกขึ้นมาเถียงฉอด ๆ มานี่เลย มึงมาเถียงต่อในนี้เลย” พัดลากฟินเข้าไปในห้อง

 

            “มึงหลอกกู! กูจะกลับบ้าน” ผมมองหาไอ้ฟางทันที มันนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่บนเก้าอี้ โล่งอก นึกว่าแม่งหนีกูกลับบ้านไปแล้ว

 

            วันนี้ผมไปเอารถบ้านเพื่อนมาขับ เพราะเอามาทำธุระเนี่ยแหละ พรุ่งนี้เช้าต้องขับไปคืนมันอีก แล้วนี่ก็ดึกมากแล้วทั้งง่วงทั้งเหนื่อย เดินไปหาไอ้ฟางเอานิ้วดีดหน้าผากมันให้เงยหน้าขึ้นมามอง ไอ้พัดไอ้ฟินมันก็ไปทะเลาะกันในห้อง ห้องนอนเราเก็บเสียงกันไง แต่ถ้าเป็นในห้องรับแขกได้ยินกันทั่วแหละ

 

            “มานั่งทำอะไรบ้านนี้ กลับบ้านกัน” ไอ้ฟางเงยหน้ามามอง สายตามันว่างเปล่า มันลุกขึ้นและยอมกลับไปที่บ้านพักตัวเองกับผม

 

            การที่มันเงียบ คือสิ่งที่ผมกลัวที่สุด เพราะผมไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามันคิดอะไร

 

            “กูส่งข้อความบอกมึงแล้วว่าจะไปทำธุระ” ผมเริ่มพูดก่อน ถ้ายิ่งมันเงียบยิ่งต้องอธิบายให้มันเข้าใจ ไอ้ฟางมันทนความอึดอัดได้ไม่นานหรอก

 

            “อืม”

 

            “มึงไม่เชื่อ?” ผมเท้าสะเอวถาม

 

            “เปล่า กูเชื่อว่ามึงไปทำธุระ” ฟางลุกขึ้นเดินไปที่ห้องนอน “แต่กูไม่คิดว่ามึงจะใช้คำว่าธุระกับกู” มันปิดประตูล็อคห้องเสร็จสรรพ

 

…………………………………………………………….

 

ฟาง

 

                “ไอ้ฟาง แล้วกูจะนอนไหน?!” ผมกลอกตาเหลือบไปทางประตู

 

            “ก็แล้วแต่มึง หุบปาก กูจะนอน!” ตะโกนโต้กลับไปตลบผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงปิดหู ตอนนี้กูงอน กูหลับแม่ง

 

            ตื่นเช้ามาผมก็อาบน้ำอาบท่าเก็บของเตรียมกลับบ้าน เปิดประตูออกมาเจอไอ้ตี๋มันนอนขดตัวอยู่บนโซฟามีผ้าห่มผืนบางคลุมตัวมิดคอ อารมณ์ผมดีขึ้นมาหน่อยหลังจากคิดเรื่องมันไปจนหลับ

 

            “ตื่น ๆ” ผมเขย่าตัวมัน ไอ้ตี๋ลืมตาขึ้นมองผมก่อนจะกระชากเข้าไปจูบแบบดูดดื่ม เขี้ยวของมันเจาะเข้ามาที่ริมฝีปากของผมได้กลิ่นเลือดโชยมา

 

            กูนึกว่ามีผัวเป็นแวมไพร์

 

                “ใจเย็นลงยังครับ” ผมเกลียดมันที่สุด ตบหัวแล้วลูบหลัง

 

            “เออ! จะพูดเหี้ยอะไรก็พูดมา” มันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดวิดีโอให้ผมดู “กูไปอาบน้ำก่อน มึงนั่งดูไป แล้วสำนึกไว้ด้วยว่ากูทำเพื่อมึง” มันกดหัวผมลงไปหอมแรง ๆ เดินถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นเข้าห้องน้ำ ผมก็ต้องตามเก็บอีกแม่ง

 

            ดูจบก็บรรยายความรู้สึกออกมาไม่ถูกเลยครับ คือไม่คิดว่าจะมีคนแบบนี้อยู่บนโลกไง คบกันเพื่อเข้าใกล้คนอื่นมันมีด้วยเหรอวะ กูก็โง่เสือกเชื่อว่าพี่เติ้ลเป็นคนดี จากที่โกรธมันกลายเป็นตอนนี้ผมผิดเข้าเต็ม ๆ ผิดที่งี่เง่า แต่คนอย่างไอ้ฟางต้องหาทางออกให้ตัวเองถูกให้จงได้

 

            “จบแล้ว?” มันเดินเช็ดหัวออกมาพันผ้าเช็ดตัวรั้วไว้ที่สะโพกสอบ ผมกลืนน้ำลายลงคอเมื่อสายตาเผลอจ้องหน้าท้องที่เต็มไปด้วยมันกล้ามสวย

 

            “ถ้ามึงพูดง่าย ๆ กูก็เข้าใจแล้ว ไม่เห็นต้องลงทุนขนาดนี้”

 

            “หึ มึงเชื่อกูมากเลย” มันเลิกคิ้วถาม “กูชอบจัดการอะไรให้มันสิ้นซาก ทำไม่ทำแบบนี้เดี่ยวมันก็มายุ่งกับมึงอีก อย่าโง่ให้มันมาก โลกไม่ได้สวยอย่างที่มึงคิดหรอกนะ”

 

            “มึงบ่นอะไรวะตี๋ แต่งตัวเร็ว ๆ กูหิว!”

 

            “กูก็หิว…สักรอบก่อนกลับนะ เมื่อคืนก็แกล้งกูไม่ให้เข้าห้อง นะครับ” อย่ามาอ้อน ผมผลักหน้าหล่อที่ยื่นเข้ามาใกล้ออก เราทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมเองก็เลี่ยงประเด็นที่ตัวเองผิดออกไปให้พ้นตัว

 

            “ที่บ้านไม่ได้เหรอวะ กูหิว!” แล้วคิดว่าไอ้ตี๋มันฟังผมไหมล่ะ ตัวเย็น ๆ ที่เพิ่งผ่านการอาบน้ำมาทาบลงบนตัวผมที่นอนราบอยู่บนโซฟา ลิ้นร้อนสอดเข้ามาดูดกลืนเสียงของผมหายเข้าไปในปาก

 

            “อื้อ~” ผมครางอยู่ในลำคอ ไอ้ตี๋ถลกผ้าออกเหลือแต่ร่างกายที่เปลือยเปล่า มือของมันเลิกเสื้อผมขึ้นดันหลังของผมให้แอ่นรับปากร้อนที่วนเล่นอยู่กับหน้าอก เสียงดูดจ๊วบจ๊าบกับมือที่ซุกซนของมันหลอกล่อให้ผมเคลิ้มไปกับสัมผัสวาบหวิว

 

            “หอมว่ะ กูอยากกินมึงเข้าไปทั้งตัวเลยไอ้ฟาง” เสียงมันแหบพร่าดุนดันสะโพกแนบชิดส่วนล่างของผม ขาสองข้างอ้าออกโดยอัตโนมัติ ร่างกายใหญ่จึงแทรกเข้ามาอยู่ตรงกลางพอดิบพอดี

 

            “ทำไมมึงไม่บอกกูว่ามันเป็นแฟนเก่ามึง” ผมยังคาใจไม่หาย ไม่ชอบที่มันปกปิด ไม่ชอบที่ใช้คำว่าเรื่องส่วนตัวทั้งที่เราก็เหมือนคน ๆ เดียวกัน

 

            มือผมกระชากกลุ่มผมมันจับเป็นมัดให้เงยหน้าขึ้นตอบ มันแลบลิ้นออกมาหยอกล้อกับจุกนมเล็กทำผมเสียวใบหน้าเชิดขึ้นมืออ่อนขาอ่อนไปตาม ๆ กัน

 

            “แล้วถ้ากูบอกว่ากูออกไปเจอแฟนเก่ามึงจะให้กูออกไหมล่ะ? เอาก่อนค่อยถาม” มันบีบกลางกายผมวนลูบเล่นมือปัดไปปัดมา

 

            “หื่น!” ผมด่ามันกลับใบหน้าเปื้อนยิ้ม ชอบไงเวลามันต้องการมาก ๆ แล้วผมไม่ให้ หน้ามันดูทรมานเมื่อผมขัดใจเวลามันจะจับตรงไหนผมก็หลบ แล้วแม่งก็จะหงุดหงิด

 

            “มึงอยากโดนใช่ไหมไอ้ฟาง” ผมลอยหน้าลอยตายกยิ้ม ไอ้ตี๋มันลุกขึ้นยืนลากตัวผมให้นั่งพิงเบาะนิ่ม ยังไม่ทันตั้งตัวแม่งก็ดึงกางเกงผมรูดลงออกให้พ้นข้อเท้า เหลือแต่เสื้อบาง ๆ ที่ยังเหลือติดกาย

 

            ผมกัดปากส่งนิ้วเรียวเข้าไปอมในปาก รูดเข้ารูดออกมองหน้าไอ้ตี๋ไปด้วย ถ้าเป็นเมื่อก่อนให้มาทำทุเรศ ๆ แบบนี้ให้ผมไปตายยังดีกว่า แต่พอมีอะไรกับมันแล้วเจอมาทุกรูปแบบ ผมก็กล้าที่จะลองยั่วมันดูบ้าง และไอ้ตี๋มันก็ขึ้นง่ายสัส

 

            “ฮึ่ม~ มึงแม่งน่ากระแทกแรง ๆ” ร่างกายใหญ่ของมันแทรกเข้ามาที่หว่างขอของผมจับขาผมยกขึ้นพาดบ่าทั้งสองข้าง ผมตัวอ่อนหัวตกลงมาเบาะที่นั่ง คือท่าเอาท่านี้เลือดกูคงไหลหมดหัวตายห่าพอดี มันเลยอุ้มผมไปที่เตียง ผมเอาหน้าซบบ่ามันเอาไว้มือกอดคอมันกันตก

 

            ไม่ต้องพูดต้องจากันก็พลิกตัวผมคว่ำจับก้นผมลอยกระดกแอ่น มือผมจิกผ้าปูแน่นเมื่อนิ้วเรียวที่ชุ่มไปด้วยน้ำลายสอดเข้ามาทีละนิ้วให้ผมได้ปรับตัว ถึงจะคุ้นชินกับขนาดที่ใหญ่ของมันผมก็เจ็บอยู่ดี ถามว่าชอบไหมมันก็ชอบเพราะเจ็บดี แต่ไอ้ตี๋มันชอบกระแทกแรงบวกกับไอ้ตรงนั้นของมันใหญ่ด้วยผมก็โคตรเจ็บเป็นสองเท่า

 

            อุก!

 

            “สัส!” ผมหายใจหอบแรงเค้นเสียงด่ามันอย่างยากลำบาก ชอบเล่นทีเผลอให้กูจุกเล่น เอียงหน้าไปมองมันก็เสือกก้มหน้าลงมาจูบทำให้ส่วนนั้นลึกเข้าไปอีก

 

            ปั่บ ปั่บ ปั่บ

 

            มันหยัดกายเข้ามาเน้น ๆแน่นทุกจังหวะ ตัวผมสั่นคลอนตัวโยกไปข้างหน้า มือผมรูดรั้งแท่งร้อนของตัวเองจนน้ำเริ่มปริ่มที่หัว มือใหญ่ตีเข้าที่ก้อนเนื้อข้างหนึ่งของผมเต็มฝ่ามือและคิดว่าแม่งแดงแน่ ๆ

 

            ไอ้เหี้ย แล้วกูจะไปว่ายน้ำกับเพื่อนยังไงล่ะทีนี้

 

                “อะ…อร๊าง ๆ ยะ…หยุดก่อน แฮ่ก ๆ” ผมดิ้นพล่านขยับตัวหนีแต่มันเสือกดันเข้ามาโดนจุดเสียวผมถี่รัว ตอกย้ำที่จุด ๆ เดียวนานนับนาที ถ้านานกว่านี้กูได้ขาดใจตายชนิดครางลั่นโลก

 

            “ซี๊ดดด~~~ โอย ปั่บ ปั่บ” มึงชอบแต่กูจะตายเอาไง ผมกัดฟันแน่นน้ำตาซึมคลอจนไหลออกมา มันเจ็บแต่ก็เสียวสุดตีน อยากจะข่วนหน้าหล่อไอ้ยับแต่ก็ทำได้แต่ลงกับผ้าปู

 

            “หึ อยากเห็นหน้ามึงว่ะ” เสียงมันเจ้าเล่ห์สัส มันจับผมพลิกตัวทั้งที่ส่วนล่างยังซอยเข้ามายิก ๆ ขาข้างหนึ่งของผมพาดบ่ามันอีกข้างก็แยกออกกว้าง หมอนนิ่มรองสะโพกผมไว้ให้สูงขึ้นมาอีก

 

            “มึงแกล้งกู” เวลามีอะไรกันผมไม่กล้ามองหน้ามันเลยบอกตรง ๆ ทั้งเขินและอายที่จะทำอะไรแบบนี้ มันหล่อไง แล้วกูก็เขินอะไรก็ไม่รู้ ไอ้ตี๋เลียริมฝีปากจูบปากผมดึงยืดผละลงมาไซ้ซอกคอดูดเม้มแรง ๆ ผมเอามือโอบล้อมหลังสะโพกมันเอาไว้จิกเล็บกดลงไปข่วนเป็นทางยาว

 

            “ลืมตาขึ้นไอ้ฟาง” มันสั่งเสียงเข้ม ผมเม้มปากส่ายหน้า ยังไงกูก็ไม่ลืม “จะอายทำไมวะ มองหน้ากูเดี๋ยวนี้” ผมกัดปากตัวเองขัดใจสุด ๆ ชอบบังคับว่ะ

 

            “อ๊ากกก!!” ผมแหกปากลั่นน้ำตาไหลออกมา มันกดตัวเองลงมากระแทกอย่างแรง ผมลืมตาขึ้นมองมันผ่านม่านน้ำตา ไอ้ตี๋มันยิ้มนิ้วเกลี่ยแก้มผมจูบซับน้ำใสให้เบา ๆ

 

            “กูเจ็บ” ผมเสียงอ่อนมองมันเต็ม ๆ ตา

 

            “สักทีไอ้สัส ต้องให้กูโหด” ผมอมยิ้มเขิน ๆ สบตามันไม่ละไปไหน มันหล่อ มันรวย และเซ็กส์จัดมาก เป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ ผมจับหัวมันโน้มลงจนใบหน้าเราชิดกัน จมูกโด่งปัดป่ายไปมาบนแก้มของผม หอมฟอดแรง ๆ

 

            “ทำบ่อย ๆ จะได้ชิน ถ้ามึงจะอายข้างนอกกูไม่ว่า แต่บนเตียงมีแค่เรา กูอยากให้มึงเห็นกูตอนเข้าไปอยู่ตัวมึง จดจำสัมผัสจนขึ้นใจว่ากูทำกับมึงได้แค่คนเดียว กูไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร และถ้ามึงเอาตรงนี้…” ผมตัวกระตุกวาบจุกจนพูดไม่ออก “ไปอ้าให้คนอื่น กูจะเอาของเล่นที่มึงไม่ชอบใส่เข้าไปและทรมานมึงให้ตายทั้งเป็น ก่อนจะทิ้งมึงให้จมอยู่กับความทรมาน”

 

            แค่คิดตามกูก็ไม่กล้ามีใครแล้วสัส โหดไปไหน

 

……………………………………………………

 

ฟิน

 

                “ฟิน มึงยังไม่หายอีกเหรอ?” ผมเหลือบมองไอ้ฟางที่นั่งอยู่เบาะหลัง เลื่อนสายตามามองไอ้พัดที่ยิ้มกรุ่มกริ่ม

 

            “เออ!!” กูจะหายได้ยังไงเมื่อคืนเจอไปอย่างหนัก กูตื่นไหมนี่ก็บุญแล้ว

 

            “มึงไม่สบายจนเสียงหายเลยเหรอวะ กลับบ้านไปหาหมอไหม?” ผมหันมามองไอ้ฟางที่แสดงสีหน้าเป็นห่วงเป็นใย จะเอื้อมมือไปลูบหัวมันแต่เจ็บที่ช่วงล่างขยับนิดเดียวก็เสียดร้าวไปทั้งตัว

 

            “พักสักวันกูก็หายแล้ว” ผมขยับตัวมานั่งดี ๆ หันหน้ามองทางข้างหน้า

 

            “ว่าแต่พวกมึงคุยกันเข้าใจยังวะ กูขอโทษด้วยที่ทำให้มึงคิดมาก” ที่จริงเรื่องมันไม่มีอะไรเลย ผมหาเรื่องใส่ตัวชิบหาย กูรู้อยู่ว่าไอ้พัดมันไม่ชอบเที่ยว และเรื่องพาหญิงเข้าม่านรูดยิ่งแล้วใหญ่ ถ้าเป็นผมนะ ผมพาขึ้นห้องแม่งยังสบายใจกว่า

 

            “ใครซื้อสร้อยให้มึง?!” ตี๋พลิกข้อมือฟางดูถามเสียงเข้ม ผมตาปรือจะหลับอยู่รอมร่อ

 

            “กิ๊กกู” ผมได้ยินเสียงไอ้ฟางห่างออกไป ง่วงชิบหาย

 

            “ไอ้ฟาง…”

 

            “พี่กู! มึงชอบใช้กำลังจังวะ ตัวกูมีแต่รอยแดงเต็มไปหมด” เชิญมึงทะเลาะกันตามสบาย ผมเอนหลังหัวพิงกระจกหลับไม่สนใจเสียงโวยวายของไอ้ฟาง

 

            งัวเงียตื่นขึ้นมาก็เกือบจะถึงบ้านแล้วครับ ปิดปากหาวมองไปรอบรถ ไม่มีใครอยู่สักคนนอกจากกระป๋องน้ำอัดลมเย็น ๆ ที่วางอยู่บนตัก ไอ้พัดมันคงลงไปซื้อให้ก่อนจะนั่งแวะสูบบุหรี่ ผมเปิดประตูลงไปเปิดกระป๋องยกซด

 

            “หิวไหม กูจะร้านข้าวก่อนเข้าบ้านมึง หรือว่าให้กูทำให้กินที่บ้าน?” ผมส่ายหน้านั่งยอง ๆ ข้างมัน

 

            “กินที่บ้านก็ได้ ไอ้สองตัวนั้นอะ”

 

            “ขึ้นรถไปกับเพื่อนมันแล้ว มันกลับคอนโดกันแต่เรากลับบ้าน คนละเส้นทางมันเลยขอกลับกับเพื่อน” ผมพยักหน้าเข้าใจ

 

            “เรื่องเมื่อคืน…กูขอโทษ” ผมเอ่ยเสียงอ่อน ผิดที่ไม่เชื่อใจมัน โทษร้ายแรงเลยนะเว้ย

 

            “กูคบใครกูไม่เคยนอกใจ ยิ่งเป็นมึงกูยิ่งไม่มีทางทำให้มึงเสียใจ เพราะกว่าจะแย่งมาต้องเจ็บไปแล้วตั้งเท่าไหร่ กูจะทิ้งก็เสียดาย” ผมหยิกแขนมันเต็มรัก

 

            “กวนตีน”

 

            “มึงจะบอกพ่อแม่ตอนไหนเรื่องของเรา?” ผมก้มหน้าคิด แค่เรื่องไอ้ฟางดูเหมือนพ่อก็ยังยอมรับไม่ค่อยจะได้ แต่ผมอีกคนตระกูลเราคงไม่เหลืออะไรเลย สำหรับแม่แกยังไงก็ได้ แค่ผมกับไอ้ฟางเป็นคนดีก็พอ

 

            “แล้วพ่อแม่มึงล่ะ?” ผมไม่ตอบแต่ย้อนถามกลับ

 

            “ปล่อย พ่อแม่กูท่านหัวสมัยใหม่ กูเองเวลาคบใครก็ไม่เคยจะปิด ยังบอกว่าถ้าจะเอาขอเป็นมึงจะดีมาก แล้วก็ได้จริง ๆ หึ” ผมยิ้มขำ ไม่คิดว่าเราจะมาได้กันเองไง เพื่อนกันมาตั้งกี่ปีมันก็ยังไม่ค่อยชิน

 

            “ก็เหลือแต่พ่อ มึงกล้าเข้าไปคุยไหมล่ะ เดือนหน้าท่านก็กลับ” พ่อผมปล่อยให้ผมกับไอ้ฟางดูแลร้านทองที่บ้าน ส่วนตัวเองก็ไปตั้งธุรกิจที่ต่างประเทศ ทำงานหลายๆ ช่องทางช่วยกันทำมาหากินครับ ท่านยังเปรย ๆ ว่าผมจบมาจะให้ไปดูแลสาขาที่นู่น ผมบอกไปแล้วว่าผมไปแค่นาน ๆ ครั้ง หาคนไว้ใจได้สักคนไปประจำแทนก็ยังได้

 

            “ขอแค่ได้อยู่กับมึงกูก็ทำหมด ขึ้นรถเหอะว่ะ กูเริ่มหิวแล้ว” ผมลุกขึ้นยืน ไอ้พัดเขี่ยบุหรี่ทิ้งลงในที่ทิ้งบุหรี่ เรากลับขึ้นมาบนรถและตรงไปยังบ้าน ผมเอาขาพาดมันเมื่อรู้ว่ามันชอบอะไร นิดหน่อยมันก็ยิ้มครับ

 

…………………………………………………………………

 

ติ้ว

 

                เรากลับมาบ้านได้หลายวันไอ้ฟางมันก็ชวนผมออกมาดูหนังในห้างสรรพสินค้า ช่วงนี้มันดูหงุดหงิดเพราะพี่ตี๋ต้องไปหาที่ฝึกงานกับพี่ดิน ผมก็ขึ้นปีสามโตขึ้นมาอีกสักนิด

 

            “รสอะไรดีครับ?” ผมมองป๊อปคอร์นสามรสชาติในตู้ “ฟาง มึงเอาอะไร?” มันเงยหน้าจากหน้าจอมาตอบ

 

            “ชีส”

 

            “ชีสสองครับ” ยืนรอกันสักพักก็ได้ของที่ต้องการ ใครจะคิดว่าผู้ชายสองคนตัวโต ๆ จะมาดูการ์ตูนกัน ตอนไอ้ฟางมันไปซื้อบัตรผมก็ไม่ได้ดูว่ามันเลือกเรื่องไหนมา หยิบขึ้นมาดูถึงกับตบหน้าผากตัวเอง

 

            “กูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ฟางลุกขึ้นวางกระเป๋าไว้ข้างผม

 

            “อืม ให้ไวเลย” ก่อนหน้านี้ก็ไม่รู้จักเข้า ผมส่ายหัวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาพี่ดิน

 

            “พี่ติ้ว!!” เสียงใครวะ หันไปเจอน้องเด็มยืนยิ้มสวยโบกไม้โบกมือให้อยู่ฝั่งตรงข้าม ผมยิ้มตอบกลับไปเป็นช่วงเวลาที่พี่ดินกดรับพอดี

 

            “พี่ดิน ผมออกมาดูหนังกับฟางนะ…มากันสองคน…ครับ…ประมาณชั่วโมงกว่า…ได้ ๆ ครับผม เออ เมื่อกี้เจอเด็มด้วย…มากับเพื่อน…ครับ คิดถึงเหมือนกัน”

 

            “พี่ติ้ว! มาดูหนังกับพี่ดินเหรอคะ?” น้องเด็มมานั่งข้างผมตอนไหนไม่รู้ใบหน้ายิ้มแป้น ไอ้ฟางมันเช็ดมือกับกางเกงหรี่ตามองผมยิ้ม ๆ

 

            “กูจะฟ้องพี่ดิน” มันเอ่ยสั้น ๆ น้องเด็มหันไปมองไอ้ฟาง มันเองก็มองน้องเด็มตาโต

 

            “เด็ม! มาได้ไงคะ แล้ว…” มันกวาดสายตามองหาอีกคน ผมสงสัยจึงถามขึ้น

 

            “โปเต้ไปเข้าห้องน้ำค่ะ มันคงดีใจที่เจอพี่ฟางที่นี่ พี่ไม่โทรหามันเลยนะคะ ได้เพื่อนเด็มแล้วถึงรึไง” หึ มึงหาเรื่องให้ตัวเองอีกแล้วนะไอ้ฟาง

 

            “อ่าว ที่นั่งติดกันเลยพี่ติ้ว เด็มก็มาดูเรื่องนี้” เด็มโชว์บัตรสองใบให้ผมดู

 

            ซวยเช็ดแล้วไอ้ฟาง พี่ดินพี่ตี๋บอกว่าจะตามมาที่หลังด้วย

 

                “น้องโปเต้ที่ว่าเป็นเพื่อนเด็มเหรอครับ แล้วมึงไปรู้จักได้ไง?” ผมถามน้องเด็มเลยมาถามไอ้ฟาง

 

            “ก็ ก็…” ฟางอึกอัก

 

            “โปเต้เป็นผู้ชายค่ะพี่ติ้ว มันชอบพี่ฟางมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว พี่ฟางเคยคบกับมันอยู่ได้ไม่กี่วันก็หายไป”

 

            “พี่ไมได้คบนะเว้ย แต่พี่แค่สงสารเต้ที่มันอยากไปเที่ยวกับพี่สักครั้ง แล้วพี่ต้องมาเรียนต่อมหา’ลัย ปีหนึ่งงานมันก็ยุ่ง ๆ เลยไม่ได้โทรไป”

 

            “แล้วผู้หญิงที่เต้มันเจอล่ะพี่ฟาง มันเห็นพี่ฟางเดินกับผู้หญิง” ผมยกมือกางออกสองข้างไม่อยากยุ่ง

 

            “โถ น้องเด็ม พี่ก็มีแฟนบ้างสิครับ แล้วตอนนี้…”

 

            “ตอนนี้เรื่องxxxกำลังเข้าฉายที่โรง…ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับ…”

 

            “นานหน่อยว่ะ” โปเต้วิ่งมาหาเด็ม มองเห็นฟาง “พี่ฟาง!” ฉีกยิ้มกว้างกระโดดกอดทั้งตัว ผมเดินนำไปยังที่ฉีกตั๋ว ไอ้ฟางมันผละออกจากรุ่นน้องเดินมายืนข้างผม

 

            “กูว่างานนี้ยาว น้องเต้อะไรนั่นคงไม่ปล่อยให้มึงกลับบ้านได้” และมึงก็จะซวยเพราะพี่ตี๋มารอหลังหนังจบ ผมคิดในใจต่อท้าย

 

            “ก่อนกลับแวะร้านอาหารก่อนก็ได้ นาน ๆ ทีเจอ คงไม่มีอะไร” ฟางคิดปลง ๆ

 

            “ก็ขอให้เป็นแบบนั้น” ผมอวยพรให้มันโชคดี แล้วก็เป็นคราวซวยของมันอีกที่น้องเต้ดันนั่งติดกับมันพอดี ผมจึงต้องแลกที่กับไอ้ฟางกะทันหัน มันกอดแขนผมซบหน้าขอบใจด้วยความซาบซึ้ง ผมชักแขนออกส่ายหน้าขำมันในใจ

 

            หรือกูจะบอกมึงดีว่าผัวมึงมานะวันนี้ มึงคงจะกระโดดถีบแทนคำขอบคุณ

 

…………………………………………………………..

 

ตี๋

 

                ผมลงจากรถเดินเข้าห้างมาหาอะไรรองท้องกับไอ้ดินที่ชั้นล่างรอเวลาหนังฉายจบ เมื่อได้เวลาก็ขึ้นไปชั้นสี่ที่เป็นในส่วนของโรงภาพยนตร์

 

            “สนุกจังนะครับพี่ฟาง” แค่ได้ยินชื่อมันผมก็หันไปมอง มีเด็กผู้ชายน่าจะเพิ่งขึ้นปีหนึ่ง ดูจากชุดนักศึกษาแล้วผมคิดว่าคงไม่ใช่มหา’ลัยผมแน่ เดินออกมาขนาบข้างไอ้ฟางพูดคุยกันสนิทสนม  

 

            “อืม ก็สนุกมั้ง”

 

            “งั้นครั้งหน้าเรามา...”

 

            “ไอ้ฟาง! แฟนมึงเหรอ?” ผมลุกขึ้นไปถามเสียงเย็น ไอ้ฟางหน้าซีดถอยหลังไปยืนข้างไอ้ติ้ว น้องเด็มยกมือไหว้ผมก่อนจะวิ่งเข้าไปหาพี่ชายที่นั่งรออยู่บนโซฟา

 

            “คนนี้ใครเหรอครับ?” ถึงมันจะกระซิบถามกันแต่ผมก็ได้ยิน ยิ้มมุมปากมองหน้าไอ้ฟางเค้นให้ตอบ

 

            “กูเป็นใคร หืม ฟาง ตอบน้องเขาไปสิครับ”

 

            “พะ พี่…” ผมจ้องหน้ามัน “คือว่าเป็น…แฟนพี่เองแหละเต้ ขอโทษนะ” โปเต้ตาโตไม่คิดว่าฟางจะคบผู้ชายจริง ๆ มองหน้าตี๋ที่ยืนเท้าสะเอวยักคิ้วให้ พี่คนนี้น่ากลัว ถึงจะหล่อแต่ก็น่ากลัว

 

            “ผมไม่ได้คิดอะไรกับพี่ฟางแล้วนะครับ ตัดใจแล้ว ตัดใจเด็ดขาดเลย” ไม่อยากมีปัญหา ไม่อยากจะยุ่งอีกแล้ว คนอะไรแค่มองนิ่ง ๆ ยังตายทั้งเป็น

 

            “ก็ลองมึงคิดสิ หึ” ตี๋สาวเท้าเข้าไปใกล้โปเต้ ฟางเห็นท่าไม่ดีวิ่งเข้ามากอดเอวตี๋ลากไปสมทบนั่งกับดิน เด็มเองก็ไม่คิดว่าตี๋จะมีแฟนเป็นพี่ฟางของเธอ โลมมันกลมเกินไป และสงสารเพื่อนชายเธอจับใจ

 

            “พี่ไปก่อนนะเด็ม มีอะไรโทรมา” ดินให้เงินน้องสาวไว้ใช้ เด็มพยักหน้าเหลือบมองตี๋และฟางเป็นระยะ โปเต้ก้มหน้างุดเงยขึ้นมายกมือไหว้พี่ ๆ

 

            “ค่ะ พี่ดินก็กลับบ้านบ้างนะ พ่อแม่บ่นคิดถึงอยู่”

 

            “อืม ไว้ว่าง ๆ พี่จะกลับ” ดินเดินจากไปพร้อมกลุ่มเพื่อน เด็มมองตามหลังคนทั้งสี่มือสะกิดแขนเพื่อนข้าง ๆ

 

            “เด็มว่าเต้อย่าไปยุ่งกับพี่ฟางอีกเลย พี่ตี๋เท่าที่เด็มรู้จักมาเขาค่อนข้างโหดร้าย อืม น่ากลัวและหวงของมากด้วย” ฟังจากพี่ชายเธอเล่ามาก็สยองไม่หาย ถ้าเพื่อนเธอไปยุ่งกับเมียพี่เขาคงตายแหง ๆ

 

            “เต้ก็ว่าอย่างนั้นแหละ”

 

            ผมกอดเอวไอ้ฟางเดินรอบข้าง มีทั้งผู้ชายผู้หญิงมองมาที่เรา แต่ผมไม่สนและไอ้ฟางมันเองก็ดูจะไม่เดือดร้อนอะไร ผมเหลือบเห็นร้านขายตุ๊กตาและกำลังจะเดินเลี่ยงแต่ไอ้ฟางมันตาดีลากผมเข้าไปข้างใน

 

            “วันนั้นมึงไม่ได้ยิงตุ๊กตามาให้กู ฉะนั้นวันนี้ซื้อให้กูซะ” ยังจำได้อีกเหรอวะ ผมบีบขมับตัวเองนวดเบา ๆ

 

            “อืม จะเอาอะไรก็เลือกมา” ผมนั่งไขว่ห้างรอมัน ไอ้ฟางยิ้มแก้มปริหายเข้าไปในดงตุ๊กตา

 

            “กูไปดูรองเท้านะ ห้องกูมีไอ้พวกนี้เยอะแล้ว” อีกคนที่ชอบสะสมตุ๊กตาคือไอ้ดิน หน้ามันนิ่งแต่ชอบทำตัวมุ้งมิ้งสัส ผมพยักหน้ารับรู้

 

            “ตี๋ ๆ มึงว่าตัวนี้หน้าตาน่ารักเหมือนกูไหม?!” ผมดันตัวลุกขึ้นเดินเข้าไปหามัน พยักหน้าส่ง ๆ ให้มันรีบซื้อ ร้านพวกนี้กับผมมันไม่ค่อยจะถูกกันเลยให้ตาย

 

            “มึงโกหก” ผมพิจารณาอีกครั้ง

 

            “มึงน่ารักกว่ามัน” ผมชี้ไปที่ตุ๊กตาในมือไอ้ฟาง พนักงานผู้หญิงก็เขินลูบท้ายทอยเสหน้าไปทางอื่น

 

            “ไอ้เหี้ย! กูเอาตัวนี้แหละ ไป ๆ จ่ายเงินด้วย” ฟางดุนหลังตี๋ให้เดิน ผมออกมาจากร้านโยนของให้ไอ้ฟางถือ

 

            “กูไม่ใช่คนใช้ ถือเอง” ไอ้ฟางยู่ปากหน้างอ

 

            “มึงแม่งไม่มีความแมนเลย ดูไอ้ติ้วมันยังถือให้พี่ดินเลย”

 

            “มึงไม่มีแขนขาหรือไง?” ผมกอดอกยืนถามนิ่ง ๆ ไอ้ฟางก้มหน้าลงไปบ่นพึมพำ

 

            “ทะเลาะกันได้ทุกเรื่อง มึงทำอะไรมันอีกล่ะ” ดินออกมาจากร้านรองเท้า ตี๋มองของในมือติ้วที่เยอะแยะเต็มไปหมด แต่ในมือดินมีแค่ของเบา ๆ

 

            “ทำไมมึงไม่ถือเอง” ผมถามไอ้ดิน มันดึงคอผมไปกระซิบ

 

            “กูก็อยากอ้อนบ้างไอ้สัส! คนอย่างมึงไม่เข้าใจหรอก” ผมคว้าของในมือไอ้ฟางแย่งมาถือ มันเงยหน้าขึ้นมามอง

 

            “กูก็ไม่เข้าใจ แต่ถือให้ก็ได้ มองทำไม กูหิวเว้ย ไป ๆ หาไรแดก” ไอ้ฟางมันกอดแขนผมโน้มตัวเบียดกันเดิน ไอ้ดินกับไอ้ติ้วก็เดินใกล้ ๆ กันเหมือนเพื่อนปกติ มันไม่ชอบแสดงออกทางสังคม ต่างจากผมที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนไอ้ฟางคือของผม มันคือของผมแค่คนเดียว

 

            “มึงน่ารัก” ผมยิ้มกริ่มสวนมันกลับ

 

            “แต่มึงน่ารัด” ไอ้ฟางตีแขนผมเอียงหัวมาซบกับบ่าพอดี บางอย่างผมก็ไม่เข้าใจมันจริง ๆ ว่ามันต้องการอะไร แต่ถ้าอะไรที่ทำให้มันมีความสุขผมก็จะทำ

 

 

 

           

 TBC.

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา