I'm sorry! ขอโทษครับ สามีผมโหด

8.3

เขียนโดย LemonNest

วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 23.30 น.

  36 chapter
  30 วิจารณ์
  49.97K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558 23.40 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

27) ขอโทาครับ 27

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Chapter 27

 

 

 

ตี๋

 

                ผมเปิดน้ำล้างจานอยู่ภายในครัว ไอ้ฟางมันทำอะไรเหรอครับ หึ แม่งกึ่งนั่งกึ่งนอนพาดขานอนดูทีวีสบายใจเฉิบ ปล่อยให้มันสักวันครับ เพราะวันนี้มันทำตัวน่ารักไม่ขัดใจผม

 

                ออดดด ออดดด

 

                “ตี๋เปิดตูดิ ใครมา” เสียงไอ้ฟางตะโกนเรียกผม ผมตะโกนกลับไปเสียงเข้ม

 

                “กูล้างจานอยู่มึงเห็นไหม! ไปเปิดประตูเร็ว” ผมสั่ง ไอ้ฟางมันก็บ่นยื่นหน้ามามองผมในครัว

 

                “ทำดีมาก หึ” มันกวนส้นตีนไง มากวนประสาทผมเสร็จก็เดินออกไปเปิดประตูหน้าบ้าน วันนี้ผมพามันมาบ้านผมเอง มันคนแรกเลยนะที่ผมกล้าพามาบ้านนอกจากไอ้ดิน  บ้านนะครับไม่ใช่โรงฝึกอย่างวันแรก ๆ ที่มันไป

 

                “นายเป็นใคร?” เสียงคุ้นจังวะ ผมรีบล้างมือเดินออกไปดู เจอพี่พลอยยืนจ้องหน้าไอ้ฟางอยู่ เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องผมเอง แต่ไอ้ฟางคงคิดเป็นอื่น

 

                “เมีย!” อืม ตอบได้ตรงมาก ผมเขกหัวไอ้ฟางไปทีบอกให้มันหลีกทางให้พี่พลอยเข้ามา

 

                “เพื่อนตี๋ตลกดีนะ” ผมส่ายหน้ายิ้ม ๆ พี่พลอยมองไอ้ฟางก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน ผมเดินตามแต่ไอ้ฟางมันคว้าข้อมือรั้งเอาไว้

 

                “มึงบอกเธอไปสิว่ากูไม่ใช่เพื่อนมึง” ผมดึงคอมันเข้ามากอด

 

                “มึงก็บอกสิ” ผมแกล้งยีผมมันจนฟู ไอ้ฟางหน้างอปัดมือผมออก

 

                “ฮึย กูพูดไปแล้วว่าเมีย! มึงไม่อยากให้คนอื่นรู้งั้นสิ” มันเริ่มดราม่าใส่สะบัดตูดเดินไปนั่งตรงข้ามกับพี่พลอย ผมนั่งลงข้างมันแต่มันดันตัวผมออกไม่ให้นั่ง พี่พลอยมองเราทั้งคู่

 

                “จะไปนั่งเบียดกันทำไม มานั่งกับพี่มาตี๋” ผมมองหน้าไอ้ฟางก่อนจะไปนั่งติดกับพี่พลอย มึงทำตัวเองนะไอ้ฟาง

 

                “ตี๋ไปฝึกงานที่ไหน พี่คุยกับพ่อให้แล้วนะเมื่อคืน ท่านก็ว่าตี๋มาฝึกที่บริษัทเราก็ได้”

 

                “ผมเลือกที่อื่นไปแล้วครับ ขอบคุณมาก” พี่พลอยทำหน้าเสียดาย

 

                “งั้นเหรอ พี่อยากให้ตี๋มาทำงานที่เดียวกับพี่สักหน่อย” พี่พลอยแกชอบพี่ชายผมครับ ผมมีพี่ชายอยู่คนหนึ่งแต่ไม่ใช่พี่แท้ ๆ หรอก เป็นลูกชายของเพื่อนพ่อ แต่ทางพ่อแม่พี่เขาตายหมดเลยได้มาอยู่กับครอบครัวผม

 

                “จะใช้ผมเป็นเครื่องมือมันไม่ง่ายนะครับ” ผมรู้ทันหรอก เพราะถ้าผมฝึกงานที่นั่น พี่ชายผมก็จะแวะเข้ามาหาบ่อย ๆ เพราะที่นั่นติดกับคอนโดที่เขาอยู่

 

                “รู้ใจ พี่รักตายเลย” พี่พลอยยิ้มเขิน ผมก็หัวเราะไปตามเรื่องตามราว สมัยนี้ต้องให้ผู้หญิงเข้าหาแล้วสินะ

 

                “ครับ เหมือนกัน” ผมหมายถึงผมก็รักแบบพี่สาวที่สนิทด้วย พี่พลอยแกช่วยผมทุกเรื่องเลย

 

                “กูออกไปรับโทรศัพท์นะ” ไอ้ฟางมันพูดขึ้นเดินออกไปนอกบ้าน  ผมมัวแต่คุยกับพี่พลอยจนลืมมันไปเลย พี่พลอยมองตามหลังไอ้ฟางเอ่ยถาม

 

                “นอกจากดินยังมีเพื่อนสนิทอีกคนหรือไง ถึงพามาบ้านได้”

 

                “มันไม่ใช่เพื่อนนะ มันเป็นแฟนผมเองแหละ” พี่พลอยอ้าปากค้าง

 

                “จริงเหรอ! พี่นึกว่าพูดเล่น ทำไม…”

 

                “ผมก็เล่น ๆ กับมันตอนแรก แต่ไป ๆ มา ๆ มันก็ชอบขึ้นมา ผมข่มขืนมันเลยได้มาเป็นเมีย ไอ้ฟางมันดื้อจะตาย”

 

                “เพี้ยะ! ต้องรุนแรงขนาดนั้นเลย พี่สงสารเขา แต่ดูเขาเด็กมากเลยนะ อืม ชื่อฟางใช่ไหม?” ผมลูบไหล่ตัวเองข้างที่โดนพี่ลอยตี

 

                “ครับเป็นรุ่นน้องหนึ่งปี  พี่ห้ามยุ่งกับมันนะ คนนี้ผมจริงจัง” ถึงพี่พลอยจะชอบพี่ชายผมมากแค่ไหน แต่พี่พลอยก็ชอบผู้ชายขาว ๆ ปากแดงแบบไอ้ฟาง ผมก็ระแวงเป็นนะครับ

 

                “พี่ก็เห็นตี๋จริงจังทุกคน เอาเถอะ จะเป็นผู้ชายพี่ก็ไม่ได้ว่า ยังไงพ่อแม่เราก็คงชินแล้วมั้ง” พูดถึงพ่อแม่ผมแล้วยังอดยิ้มไม่ได้ แม่ผมชอบไอ้ฟางมากเลย มันกวน ๆ แถมยังชอบคุยถูกคออีก ส่วนพ่อท่านก็ไม่ได้อะไร ตามใจผมทุกเรื่อง

 

                “ให้ผมไปส่งไหม?” พี่พลอยลุกยืนขึ้น ผมจึงถามลุกขึ้นตาม

 

                “ไม่ต้องหรอก พี่ว่าตี๋เอาเวลาไปง้อน้องฟางดีกว่า หนีตามผู้ชายไปแล้วนู่น” ผมมองตามสายตาพี่พลอย ไอ้ฟางมันขึ้นรถไปกับไอ้ติ้ว ยังดียังเป็นไอ้ติ้ว ถ้าเป็นคนอื่นผมกระทืบมันแน่

 

                “เดี๋ยวผมไปส่ง” แวะส่งพี่พลอยเสร็จค่อยโทรถามไอ้ติ้วเอาว่าไปไหนกัน ผมคิดเองเสร็จสรรพเดินไปหยิบกุญแจรถขับไปส่งพี่พลอยที่บ้าน จอดรถหน้าปากซอยกดโทรหาไอ้ติ้ว

 

                “อยู่ไหนกัน?”

 

                (พี่สนใจด้วยเหรอว่าเพื่อนผมมันจะอยู่ที่ไหน?) ผมไม่คิดว่าติ้วมันจะเป็นไปตามไอ้ฟางด้วย

 

                “พี่ถามว่าอยู่ไหนกัน?” ผมเลี่ยงจะตอบ อยากรู้มากกว่าว่าตอนนี้มันไปทำอะไรที่ไหน ไอ้ติ้วมันเงียบก่อนจะตัดสายผมทิ้ง

 

                ชิบ! เป็นอะไรกันวะ

 

                “ฮัลโหล…กูเองนะ ผัวมึงอยู่ไหน…กูอธิบายได้ไอ้ดิน…อืม…เฝ้ามันเอาไว้อย่าให้เมาแล้วกัน” ผมโยนโทรศัพท์ทิ้งข้างตัว ขับรถไปผับที่อยู่ไกลออกไป

 

……………………………………………………………………

 

                ผมเดินเข้ามาก็มีผู้หญิงที่ผมเคยนอนด้วยเข้ามากอดแขนดึงเข้าไปหอมแก้มแบบไม่ทันตั้งตัว ผับนี้เป็นของรุ่นพี่ที่จบไปแล้วครับ ผมกับไอ้ดินมาบ่อยจนแทบหลับตาเดินได้

 

                “ไอ้ฟางล่ะ?” มาถึงโต๊ะก็มองหามันแต่ไม่เจอ ไอ้ดินมันชี้ไปทางห้องน้ำ ไอ้ติ้วมันนั่งกอดคอไอ้ดินเอียงซบไหล่

 

                “คุยกับมันดี ๆ ด้วยนะพี่ มันนั่งคิดมากมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว” ผมทำหน้างง ไอ้ติ้วเลยพูดต่อ

 

                “เมื่อวานมันเห็นพี่อยู่กับเพื่อนผู้หญิง มันเข้าไปเห็นตอนพี่กอดคอเธอพอดีเลย แล้วไหนยังหน้าแนบชิดกันขนาดนั้นอีก พี่ว่ามันงี่เง่า มันเลยไม่อยากจะงี่เง่าใส่พี่อีก” ถึงว่ามันเงียบแปลก ๆ เวลาผมด่า ผมพยักหน้าเข้าใจเดินไปทา

ห้องน้ำ

 

                “หนีกูมาไม่พอ เสือกมายืนดูดปากกับคนอื่นต่อหน้ากูอีก” ผมเท้าแขนกับขอบประตูมองไอ้ฟางนัยน์ตาลุกโชน ไอ้ฟางดันตัวผู้ชายตัวเล็กหลบหลังของมันอย่างปกป้อง

 

                “อย่าเสือก กูจะทำอะไรก็เรื่องของกู” ผมเดาะลิ้นตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อมันขึ้น

 

                “แต่มันก็เรื่องของกูด้วย!! มึงเป็นเมียกูแล้วยังเสือกไปเอาคนอื่น กูจะทำยังไงกับมึงดีวะ!!!” ผมโคตรโมโหมอไปทางเด็กมันตาเขียว มึงกล้ามากนะมายุ่งกับเมียกู

 

                “มึงอย่าทำมัน คนนั้นรุ่นน้องกู” มันหันไปพูดกับไอ้เด็กนั่น “พี่ว่าแค่นี้น่าจะพอแล้ว แต่ทางที่ดีพี่ว่าให้เขาสอนเองจะดีกว่า” มันพูดอะไรกันผมก็ไม่รู้เรื่อง ไอ้เด็กนั่นมันยกมือไหว้ไอ้ฟางรีบวิ่งหนีออกไป

 

                ผมลากมันออกมาที่ลานจอดรถทางด้านหลังผับ ผลักมันล้มเอนราบไปกับกระโปรงรถเอาแขนมากักตัวเอาไว้กันมันหนี ไอ้ฟางหน้าเบี้ยวคงเจ็บสะโพกที่กระแทกกับเหล็กแข็ง

 

                “อึก ปล่อยกู!!” ผมยกมือข้างขวาขึ้นบีบคอมันลมหายใจเริ่มแรงขึ้นตามอารมณ์ ไอ้ฟางใช้มองมือทุบมือผมข้างเดียวที่ไม่ยอมปล่อยง่าย ๆ

 

                “กูต้องทำยังไงวะ มึงถึงจะพอ!!” ผมเคยเจ้าชู้ ผมรู้ว่ามันหยุดยาก แต่พอมีมันผมก็ไม่เคยไปยุ่งกับใครอีก แต่ไอ้ฟางมันยังคงทำตัวเหมือนเดิม ควงสาว ดื่มเหล้า และทำตัวเจ้าชู้ไม่เปลี่ยน

 

                “…กูก็เป็นแบบนี้ รับไม่ได้ก็ไม่ต้องมาคบ” ผมจ้องตามันที่เริ่มแดง เสียงมันสั่นเสหน้าไปทางอื่น

 

                “จะร้องทำไม?” ผมเลื่อนมือมาจับไล่มันทั้งสองข้าง มันไม่ตอบผมจึงบีบไหล่มันแรงขึ้น

 

                “กูเจ็บ! จะบีบให้ตายเลยไงแม่ง” มันขมวดคิ้วยุ่งด่าผมปาว ๆ “กูไม่ได้ร้อง ผู้ชายอย่างมึงคงไม่เข้าใจผู้ชายอย่างกูหรอก หึ กับคนอื่นเข้าใจดี แต่กับกูมึงไม่เคยเข้าใจอะไรเลย ตลกว่ะ”

 

                ผมดึงมันเข้ามากอด ไอ้ฟางก็ดิ้นเหี้ยอะไรก็ไม่รู้นักหนา ผมแสบไปทั้งแผ่นท้องเมื่อมีเล็บมาข่วนเป็นทางยาว กลับบ้านไปจะจับตัดเล็บแม่งทุกนิ้ว

 

                พี่ว่ามันงี่เง่า มันเลยไม่อยากจะงี่เง่าใส่พี่อีก

 

            “กูกับพี่พลอยเป็นพี่น้องกัน มันไม่ได้มีอะไร ที่พี่พลอยเข้าอยากให้กูไปทำงานด้วยเพราะเธอชอบชายกู อยากเอากูเป็นสื่อกลาง”

 

                “แล้วมาบอกกูทำไม! กูไม่ได้อยากรู้” ไอ้ฟางมันจิกเล็บบนเอวผมซะเจ็บ แต่ผมต้องทนไปก่อนค่อยคิดบัญชีทีหลัง

 

                “คิดมากว่ะ มึงไม่เคยเป็นแบบนี้นะฟาง มึงงี่…” ผมชะงักปาก เห้อ สงสัยจะจริงที่ผมว่ามันงี่เง่าบ่อยเกินไป

 

                “จะพูดก็พูด กูชินแล้ว…”

 

                “มันไม่ใช่อย่างนั้น” ผมเสียงอ่อนลงดึงตัวไอ้ฟางออกจับหน้ามันเงยขึ้น ไอ้ฟางมันน้ำตาไหลออกมาเงียบ ๆ ผมโคตรเจ็บเมื่อเห็นมันมองผมแววตาตัดพ้อ

 

                “กูไม่ใช่คนที่จะอดทนอะไรได้นาน ๆ กูไม่ชอบเห็นมึงสนิทกับคนอื่น กูไม่ชอบที่มึงทำตัวเหมือนรู้ใจคนอื่นไปทั่ว…แต่ยกเว้นกู” ฟางสูดน้ำมูกเงยหน้าขึ้นไม่ให้น้ำหยดใสตกลงมาอีก

 

                “มันไม่ใช่…”

 

                “กูยังคิดเลยว่ากูเป็นเหี้ยอะไรนักหนา ขนาดตัวกูเองยังไม่เข้าใจตัวเอง แล้วจะให้คนอื่นมาเข้าใจกูได้ยังไง เดี๋ยวแม่งก็ร้องไห้ เดี๋ยวก็โมโห มึงคงไม่มีความสุขกับคนแบบกูหรอก…กูให้มึงคิดใหม่อีกรอบ ก่อนกูจะรักมึงไปมากกว่านี้”

 

                “ถ้าไม่ใช่มึง กูก็ไม่เอา” ผมตัดสินใจไปแล้วว่าต้องเป็นไอ้ฟางเท่านั้น ผมไม่เคยเข้าใจมันเลยว่ามันจะคิดมากขนาดนี้ ผมเห็นมันเป็นคนง่าย ๆ และไม่คิดว่าเรื่องเล็กน้อยอย่างที่ผมเอามือไปกอดคอเพื่อนผู้หญิงไอ้ฟางจะเก็บมาคิด

 

                ตัวผมเองแค่เห็นว่ามีผู้ชายมายุ่งกับมันก็แทบตายแล้ว แต่นี่มันเห็นผมสนิทกับคนอื่น ปล่อยให้คนอื่นแตะตัว มันไม่คิดอะไรเลยนี่สิแปลก เพราะถ้าเป็นผมตอนนั้น ผมคงสั่งให้มันเลิกคบกับเพื่อนไปแล้ว

 

                “มึงอายไหมที่มีแฟนเป็นผู้ชาย กูจริงจังนะตี๋ บางครั้งมึงก็ทำให้กูคิดว่ามึงรักกูจริง แต่บางครั้งมึงก็ชอบเลี่ยงที่จะบอกคนอื่นว่ากูเป็นแฟนมึง”

 

                “ถ้ากูอายจะมายืนกอดมึงทำเหี้ยอะไรให้คนอื่นเห็น บางอย่างไม่ต้องพูดคนอื่นเขาก็เข้าใจง่าย ๆ มึงจะให้กูพูดทุกรอบเลยไงว่ามึงเมียกู พอกูพูดมึงก็ห้ามกูพูด เพราะมึงอาย มึงจะเอาไงไอ้ฟาง” ผมเท้าสะเอวหาเรื่องกลับ คือถึงตากูบ้างแล้วไง เรื่องไอ้เด็กเหี้ยนั่นผมยังจำได้!!

 

                “ก็กูอายนี่หว่า กูเขินว่ะแม่ง” ไอ้ฟางมันยืนก้มหน้างุดเม้มปากแดง ๆ ผมลากมันเข้าไปในรถ คุยกันให้เข้าใจมากขึ้น

 

                “อื้ม จุ๊บ ๆ ๆ มึงจะเอากูในนี้เลยไง” ผมถอดเสื้อมันออกมือสะกิดหัวนมมันเล่น ไอ้ฟางแอ่นอกกัดริมฝีปากลมหายใจหอบ ผมก้มลงไปดูดปากมันแรง ๆ มึงเป็นของกู กูไม่ยอมให้รอยคนอื่นมาทับรอยของกู

 

                “มึงอย่าประชดกูแบบในห้องน้ำ เพราะถ้ากูเห็นอีกกูจะไม่ใจดีเหมือนครั้งนี้” ผมยังทำใจได้นะที่ไอ้นั่นมันตัวเล็กดูน่ารัก คือเหมือนไอ้ฟางจูบเด็กน้อย แต่ถ้าเป็นผู้ชายตัวโต ๆ ผมคงเข้าไปกระทืบมันจนตาย

 

                “มันมาให้กูสอนจูบ แฟนมันด่ามันห่วย” ผมเอามือมาบีบปากมันจนยู่ย่น

 

                “มึงเองก็ยังไม่เก่งยังเสือกไปสอนคนอื่น อย่าให้กูเห็นอีก กูไม่ใจดีแล้ว!!” นึกแล้วก็โมโห ปากมันเป็นของผมนะแม่ง แล้วกล้าดียังไงให้คนอื่นมาแตะต้องวะ

 

                “อืม มึงจะด่าหรือจะเอาก็เลือกสักอย่างไอ้เหี้ย!!” ผมรัวนิ้วที่อยู่ในตัวมันก้มหน้าไปกัดซอกคอมันเป็นรอยฟัน

 

                “อยากขนาดนั้นเลย กูไม่ทำมึงมานานแค่ไหนแล้ววะ” มันหน้ายุ่งกัดไหล่ผมกั้นเสียง ผมก็พูดไปนิ้วก็ขยับไป แถมมืออีกข้างยังรูดให้มันไปด้วย

 

                “พูดเหมือนนาน อ้า…”มันส่งเสียงครางออกมาซบหน้าหมดแรงกับอกผม

 

                “ขยับขาก่อน กูยังไมได้เข้าไปเลย” ผมปวดหนึบจับขามันอ้าออกกว้างมานั่งคร่อมตักเอาไว้ ตัวเองก็เลื่อนต่ำลงจนกลายเป็นนอนราบไปกับเบาะหลัง

 

                “ดะ เดี๋ยว โทรศัพท์” ไอ้ฟางยกมือดันสะโพกผมที่กระดกขึ้นสวนกับที่มันทิ้งตัวลงมาเอาไว้

 

                “ใครโทรมาวะ?!!”

 

                “เงียบ ๆ กูกดรับแล้ว…ฮัลโหลครับ…ครับ…” มันมองหน้าผม “อืม เอางั้นก็ได้ มันเหรอ…ก็คงไม่มีปัญหาอะไรมั้ง กูจัดการได้เหอะ อืม สัส! แค่นี้แหละ โอ๊ย ๆ ๆ กูจุกไอ้เหี้ยตี๋” ผมยิ้มแป้นที่แกล้งมันได้ มือบีบก้นมันเค้นเป็นรอยฝ่ามือแดง ๆ

 

                “ใคร?”

 

                “รุ่นพี่ว่ะ และก็ไอ้เพ” ที่พูดครับ ๆ นี่คงเป็นสายจากรุ่นพี่ ส่วนไอ้คนหลังที่มันคุยด้วยคงเป็นเพื่อน ผมหลับตาเมื่อมันกดสะโพกควงเป็นวงกลม เดี๋ยวนี่ท่ามากจนกูแทบตามไม่ทันแล้วนะไอ้ฟาง

 

                “อืมมมม กูชอบ มึงคงไม่ได้ไปทำกับใครมาใช่ไหม” ผมก็ถามไปอย่างนั้น

 

                “ถ้ามึงให้ทำได้กูก็ไม่ขัดอะไร หึ” ผมลืมตามันกระชากคอมันโน้มลงกัดปากแลกลิ้นกันไม่มีใครยอมใคร มันปากดีแถมกวนส้นตีนอีก ผมชอบว่ะ รู้แค่ว่าชอบมันและรักมันเหี้ย ๆ

 

…………………………………………………..

 

ฟาง

 

            ตื่นเช้ามาผมรีบย่องออกจากห้องเงียบ ๆ เรากลับมานอนคอนโดกันเมื่อวานดึก ๆ คงไม่ต้องให้บอกว่าก่อนจะนอนไอ้ตี๋มันทำอะไรผมบ้าง ต่อจากรถมามาเตียงต่อ ผมกุมสะโพกเดินกระเผลกไปหากุญแจรถที่ลิ้นชักหัวเตียง ไอ้ตี๋ยังนอนนิ่งอยู่เพราะฟ้ายังไม่สว่าง

 

                วันนี้ผมต้องลงบาสกับไอ้ฟิน ไอ้เพ ไอ้ตี๋มันก็ถามผมนะว่าคุยอะไรกันแต่ผมเบี่ยงไปเรื่องอื่น ไม่อยากโกหกแต่ถ้าขอมันก็ไม่ให้ลงแน่นอน แต่ไอ้พี่ฟินมันบังคับแถมยังมีรุ่นพี่ที่สนิทกันมาขอร้องอีก จะไม่ช่วยก็เสียน้ำใจแย่ ผมกับฟินเราเก่งพวกออกกำลังกายทั้งคู่ หึ ๆ โดยเฉพาะกีฬาในร่ม

 

                กูลงบาสนะตี๋ ห้ามโกรธกูด้วย

 

            ผมเขียนแปะเอาไว้ที่หน้ากระจกใหญ่ในห้อง มือหยิบรองเท้าผ้าใบนั่งสวมตาก็มองไปทางประตูห้องนอน หวังว่ามันคงไม่ตามไปเล่นงานผมถึงสนามนะ แค่ไม่กี่ชั่วโมงอย่างเพิ่งตื่นมานะมึง

 

                “ไอ้ฟางทางนี้” เพทายโบกมือให้ผมเมื่อเดินเมาในโรงอาหาร มันสั่งก๋วยเตี๋ยวร้อน ๆ เอาไว้ให้ ข้างกันก็มีต้นข้าวนั่งยิ้มป้อนข้าวไอ้เพอยู่

 

                “มึงเป็นง่อยเหรอ แล้วจะกลับวันไหน?” มันไปเรียนต่อที่อิตาลี กลับมาไทยก็แค่ช่วงวันหยุด ผมเลยซวยต้องมาลงบาสแทนมันเลย  เสือกรับปากกับรุ่นพี่เอาไว้ตั้งแต่ปีสองว่าจะลง

 

                “เมียกูบริการดีเว้ย คงอีกสองสามวัน ไม่อยากกลับเลย คิดถึงเมีย” ถ้าจะมองตากันเชื่อมขนาดนี้ลากกันไปเอาในห้องเหอะ ผมอิจฉาไงแม่ง

 

                “มึงอย่ามาพูดว่าคิดถึงไอ้หล่อ กูโกรธมึงอยู่นะ” ต้นข้าววางช้อนตบหลังไอ้เพทายจัง ๆ

 

                “ก็คนมันคิดถึงนี่ครับ ก็ต้องจัดหนักเป็นธรรมดา” แล้วกูล่ะ โดนจัดทุกคืน ไอ้ตี๋มันคงคิดถึงผมมากสินะ

 

                “หุบปาก! แดกเข้าไปจะได้ไม่ต้องพูดมาก”

 

                “ร้อน ๆ ๆ ไม่เป่าให้ก่อนเลยอะ ปากพองลิ้นพองเลย” เพทายถอยหน้าหนีรีบยกน้ำขึ้นดื่ม ต้นข้าวตกใจจับหน้าคนรักหันมาก้มดูมือคลำที่ปากเห่อแดง

 

                “แสบมากไหมวะ กูขอโทษ” เสียงจะน่ารักไปไหน ผมอยากจะจูบต้นข้าวสักครั้งนะให้ตาย เป็นผู้ชายที่น่าขยี้แม้อยู่เฉย ๆ

 

                “ก็แสบ มึงต้องปลอบกูเลยเมีย ขวัญกูหายหมด” ผมตบหัวมันแรง ๆ อย่างหมันไส้

 

                “อย่ามากไปกูอิจฉา แล้วไหนเสื้อผ้ากูล่ะ” ผมถามหาเสื้อผ้าที่ต้องลงแข่ง ไอ้เพทมันหิ้วถุงขนากลาง ๆ ขึ้นมาวางบนโต๊ะ

 

                “มึงคงใส่ของกูไม่ได้ เอาของเมียกูไปก่อน ไม่ต้องยิ้ม กูให้ไปเลยไม่ต้องคืน กูไม่อยากให้เมียกูติดเชื้อมึง” ไอ้เหี้ยนี่ ผมฉีกยิ้มมือยกจะฟาดมันเต็มที่

 

                “ไอ้ฟาง!!!” เสียงไอ้ตี๋ ผมหันขวับ มันเดินหน้าโหดเข้ามาทางผม ไอ้เพทายมันตาโตรีบถามผมทันที

 

                “มึงบอกพี่ตี๋ยังว่าลงแข่ง” ผมส่ายหน้า “เหี้ย!! กูว่างานนี้มีตาย” อืม คงเป็นกูนี่แหละไม่ใช่ใคร ทำไมรีบตื่นจังวะ

 

                “รีบออกมาทำไม? จะแข่งก็บอกกันดี ๆ กูไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย” หืม ผมเอี้ยวหน้ามองมันเอามือทาบหน้าผาก ไอ้ตี๋มันนั่งข้าง ๆ หยิบถุงเสื้อผ้าไปเปิดดู

 

                “ตัวก็ไม่ร้อน”

 

                “กูปกติดี แล้วนี่ชุดที่มึงต้องลงเหรอไง อืม ก็ไม่เท่าไหร่” ผมว่ามันไม่ปกตินะ แล้วกางเกงที่ผมต้องใส่ก็สั้นมากด้วย แถมยังจะเป็นเสื้อกล้ามอีก

 

                “มึงไม่ปกติ”

 

                “อ้าว ต้นข้าว แล้วไอ้เต้ยล่ะ ช่วงนี้พี่ไม่ค่อยเห็นมันเลย”

 

                “เต้ยมันติดพี่แซมจะตาย พี่ลองไปเดิน ๆ แถวตึกบีดิ เจอมันแน่นอน” ผมชอบไปเดินนะเว้ยแถวตึกนางฟ้าน่ะ แม่งมีแต่คนสวย ๆ พวกเรียนหมอเรียนพยาบาลมันอยู่กัน ผมก็แกล้งไม่สบายไปนอนให้พี่พยาบาลรักษา ฮ่า ๆ ๆ

 

                “ตึกบีที่ไอ้ฟางชอบไปสิงสินะ มันคือตึกอะไรวะ เห็นไอ้ฟางไปบ่อยมาก” ไอ้สัสเพ มึงอย่ามาเป็นเด็กขี้สงสัยตอนนี้ ไอ้ตี๋มันมองหน้าผมทันที ผมส่งยิ้มแหย ๆ ให้

 

                “กูไม่ไปแล้วว่ะ นั่นมันปีหนึ่งรึเปล่าไอ้เพ มึงจำมั่ว”

 

                “กูความจำดี ปีสองเทอมสองมึงยังชวนกูไปอยู่เลย” ตอนนั้นผมก็คบกับไอ้ตี๋พอดี มือใหญ่บีบต้นขาผมเอาไว้ใต้โต๊ะ ไหนจะอีกข้างที่ล้วงเข้ามาบีบก้นผมที่ยังระบมไม่หาย

 

                “สองเรื่องแล้วนะฟาง จะให้กูทำยังไง” ผมรีบใช้หน้าหล่อ ๆ ถูต้นแขนมันกอดเอวมันอ้อน

 

                “อย่าเพิ่งองค์ลงดิครับพี่ตี๋ ฟางมีพี่คนเดียวนะเว้ย ไอ้เพมันมั่วพี่อย่าไปฟังมัน แล้วเรื่องบาสฟางก็เขียนแปะบอกแล้วไง” เพทายมันยิ้มขำ ผมแยกเขี้ยวใส่

 

                “แล้วขอกูยัง มึงได้ขอกูยังฟาง รู้ทั้งรู้ว่ากูขี้หวงยังเสือกจะโชว์ร่างเคะ ๆ ให้ไอ้พวกนั้นมันมอง”

 

                “แล้วพี่ให้ฟางลงทำไมวะ ไหนบอกไม่ว่าอะไร”

 

                “กูพูดเหรอว่าให้มึงลง กูแค่บอกว่าจะแข่งก็บอกกันดี ๆ กูไม่ได้ว่าอะไร” งงไปอีก นิ้วยาวดีดหน้าผากผมที่มองมันอย่างหมาสงสัย

 

                “กูไม่เข้าใจ?” ผมแปลงร่างมาเป็นไอ้ฟางคนเดิมแล้วครับ มันทำตัวแปลกและไม่น่าไว้ใจ

 

                “กูไม่ให้มึงลงไง กูโทรบอกรุ่นน้องคนอื่นให้ลงแทนมึงเรียบร้อยแล้ว กูให้ไอ้พัดจัดการ ทุกกอย่างไม่มีปัญหา”

 

                “อะไรวะ!! กูบอกคนอื่นแล้วด้วยว่าจะลง มันก็จะมาเชียร์กัน ทำไมทำงี้วะตี๋”

 

                “ฟอด~ กูไม่ให้ลงจบนะ” ตีมึนมาหอมแก้มผมอีก แล้วอย่างนี้ผมจะทำยังไง ทั้งเพื่อนทั้งรุ่นน้องมันรับปากจะมาเชียร์แล้วด้วย

 

                “มึงหยุดไซ้คอกูแล้วมาพูดกันให้รู้เรื่องเลย โอ๊ย! กูเจ็บนะไอ้เหี้ย” ผมผลักมันออกตบหน้าอย่างโมโห แม่งกัดคอผมไง แล้วกลางโรงอาหารเลยนะครับ ผมไม่อายหรอกเพราะเช้า ๆ คนไม่ค่อยมี แต่ผมกำลังหงุดหงิดมาก

 

                “มึงจะโวยวายทำไมไอ้ฟาง มึงไปนั่งเชียร์พี่ฟินก็ได้ มานั่งกับพวกกูเนี่ย” เพทายพูดขึ้น

 

                “ก็กูอยากลงอ่า” จะได้โชว์สาว ๆ ด้วยครับ จุดประสงค์มีแค่นี้แหละ แต่เพราะไอ้ตี๋มันรู้มันเลยล่มไม่เป็นท่า

 

                “มึงแน่ใจว่าจะลง ก็ได้ กูให้ลง แต่ว่า…” มันเลื่อนสายตามามองที่ก้นผม “ตรงนั้นมึงจะไม่อักเสบแน่นะ กูว่าแค่เดินมึงก็ยังจะเอาตัวไม่รอด”

 

                “กูว่าแล้ว มึงเดินแปลก ๆ” เพทายพึมพำมองฟางล้อ ๆ

 

                “กูไหวน่า แต่ไม่ลงก็ได้ กูเปลี่ยนใจแล้ว” มันก็จริงอย่างที่ไอ้ตี๋พูด แค่เดินผมก็เสียดจนเจ็บ แล้วในสนามต้องวิ่งกูไม่ตายเลยไง “ที่กูยอมเพราะกลัวมึงไปต่อยคนอื่นเขาหรอกนะ กลัวมึงหวงกูจนเป็นบ้าอีก” ก็อ้างไปเรื่อย ผมเชิดหน้าพูดลอย ๆ

 

                “หลงตัวเอง กูบอกมึงยังว่ากูลงบอลกับไอ้พัด แลกกับที่กูไม่เอามึงลงบาส”

 

                “ได้ไง!! กูไม่ให้ลง” มันหล่อมันหน้าตาโคตรดี แถมหุ่นมายังดึงดูดเพศอีก ผมไม่ยอมหรอกแม่ง ยังไงก็ไม่ยอม

 

                “หวงเหรอไอ้ฟาง?” มึงอย่ามากวนตีนกูไอ้เพ ผมจักหัวมันลงมา มันร้องลั่น

 

                “โอ๊ย! เมีย ๆ ๆ ไอ้ฟางทำเค้า”

 

                “สมน้ำหน้า อยากปากดีนัก” ต้นข้าวยกนิ้วให้ผม ไอ้เพมันเลิกตอแหลหันไปชี้นิ้วคาดโทษคนรัก

 

                “หวงกูเหรอวะ โคตรน่าดีใจ” ตี๋ยิ้มลูบแก้มฟางดึงเข้าไปกอดคอ

 

                “ใครบอกกูหวงมึง กูแค่ แค่…แค่ไม่อยากให้มึงไปโชว์โง่กลางสนามแค่นั้นแหละ” เหตุผลส้นตีนมาก

 

                “กูเคยพาทีมชนะมาแล้วไอ้ฟาง สาว ๆ เพิ่มขึ้นจนกูกดรับไม่ทันเลย” มันจะอวดผมว่างั้น แต่ผมไม่ชอบเลย ไม่ได้หวงนะเว้ย แค่ไม่ชอบ

 

                “แล้วไง!! อยากลงก็ลงไอ้เหี้ย!!” ผมหงุดหงิดมากเดินหนีมันออกมาซื้อน้ำดับอารมณ์

 

                “ป้า! น้ำส้มแก้ว” คงเสียงดังมากไปหน่อยคนแม่งมองเป็นตาเดียว ผมยิ้มแหยพูดใหม่ “น้ำส้มแก้วครับ” ป้าคนขายแกก็มองยิ้ม ๆ

 

                “โมโหใครมาล่ะเจ้าฟาง” ลูกค้าประจำก็แบบนี้แหละครับ ผมยื่นมือไปรับน้ำมาดูดเอาเป็นเอาตาย

 

                “เปล่าครับ แค่วันนี้อากาศมันร้อน ๆ” ผมโบกเสื้อไปมา ก็ร้อนจริงนั่นแหละ ไอ้คนข้างหลังที่ยืนต่อผมมันยื่นหน้าผ่านคอผมไปสั่งน้ำ

 

                “น้ำแตงโมสองแก้วครับป้า” ผมย่นคอหนี หันหน้าไปมองหน้าให้ชัด ๆ

 

                เหี้ยยยย แม่งโคตรหล่อเลย

 

            “พี่มองผมทำไม?” ห้ะ ผมหน้าเหวอ มันกอดอกมองผมยิ้มมุมปาก

 

                “กูไม่ได้มองมึง” หน้าตาก็ดีเสือกกวนตีน มันเดินผ่านผมไปรับแก้วน้ำ ผมปากด่ามันขมุบขมิบท่าจะเดินกลับโต๊ะแต่ติดที่เสียงมันพูดขึ้นก่อน

 

                “ผมชอบพี่ตี๋ บอกเอาไวเผื่อไม่รู้”

 

                “มึงไม่มีทางได้มัน มันเป็นของกู” ผมหันหลับไปพูดเสียงเรียบ ความรู้สึกเกลียดจู่โจมเข้าทันที

 

                “ผมไม่สน พี่มันก็แค่ตัวเลือก ผมไปถามรุ่นพี่มาบ้าง เขาก็ว่าพี่ตี๋เจ้าชู้”

 

                “แต่มึงก็ยังอยากได้มัน มึงคิดว่ามันจะชอบมึง? ไม่มีทาง มันรักกูคนเดียว” ผมพูดอย่างมั่นใจ ถึงไอ้ตี๋จะเหี้ยแต่มันรักผม

 

                “มายืนจีบอะไรเมียกูไอ้ต้น ถ้าไม่เห็นมึงเป็นน้องนี้โดนกระทืบแล้วนะ” ไอ้ตี๋มันเข้ามาแย่งน้ำผมไปดูด

 

                “ใครจะกล้ายุ่งกับเมียพี่ล่ะครับ ไปดีกว่าเดี๋ยวเจอตีน เย็นนี้เจอกันนะพี่” เจออะไรวะ ผมเครียดเลย

 

                “เออ จะไปไหนก็ไป” มันแสยะยิ้มให้ผมแต่เงยหน้ายิ้มทะเล้นให้ไอ้ตี๋ มึงมันร้ายลึก กูเกลียดคนประเภทนี้ที่สุด

 

                “มันชอบมึง ไอ้เหี้ยนั่นบอกกู” ผมรีบพูดขึ้น ไอ้ตี๋ส่ายหน้าลูบหัวผมเล่น

 

                “มันก็แกล้งมึงเล่น ไอ้ต้นมันน้องกู”

 

                “กูพูดจริง กูรู้สึกได้ว่าไอ้เหี้ยนั่นจะแย่งมึงไปจากกู” ผมทำเสียงจริงจังไม่ได้ยิ้มขำสักนิด ไอ้ตี๋มันถอนหายใจ

 

                “กูสนแค่มึงคนเดียว กูไม่ได้โง่ให้ใครมาหลอกง่าย ๆ เชื่อใจกูไอ้ฟาง” ผมพยักหน้า

 

                “อืม กูเชื่อมึง” เมื่อมองแก้วน้ำตัวเอง “เหี้ยตี๋!! ไปซื้อให้กูใหม่เลย กูจะเอาสองแก้วด้วย” ผมโวยวายชี้ไปทางร้านน้ำ ดูดได้อึกเดียวแม่งแย่งไปกระดกหมดแก้ว

 

                “ครับ ๆ มึงแม่งขี้โวยวายชิบหาย เมื่อกี้กูเห็นมึงมองไอ้ต้น อย่าไปหลงชอบมันล่ะ กับน้องกูก็ไม่เว้น” จากที่ผมเครียดเริ่มบ้าบอไปตามมัน

 

                “ส้นตีนเหอะ กูมากกว่าที่ต้องพูดคำนั้น”

 

                “ก็ไม่นะ…อ่าวเฮ้ย! มึงเป็นอะไรลากกันมาเลย” ตี๋ร้องทักพัดกับฟินที่มือพัดกระชากคอเสื้อฟินเดินเข้ามาหาฟาง

 

                “มึงหัดสั่งสอนพี่มึงบ้างนะว่าอย่าแรด!” พัดผลักฟินเข้ามาหาฟาง ฟินมองค้อน ๆ

 

                “ทีมึงยังนั่งคุยกับคนอื่นได้เลย ทำไมกูจะทำไม่ได้”

 

                “กูคุยกับเพื่อนเรื่องบอลพรุ่งนี้ “

 

                “แต่มึงยิ้ม” ผมเกาหัวตัวเอง ยืนมองฟินมันเถียงกับพี่พัด

 

                “เอ้า จะให้กูหน้าบึ้งทั้งวันไงวะ” พัดพูดออกมา

 

                “มึงผิด ไม่รู้แหละ มึงต้องง้อกูโดยการให้กูแข่งรอบต่อไป” แสดงว่าพี่ฟินมันชนะ ผมก็อยากลงบ้างนะแต่สังขารไม่ให้

 

                “มึงอยากให้กูกระทืบให้เหี้ยนั่นใช่ไหมวะ?!!” พี่พัดแม่งหน้าอย่างโหด ผมจับมือพี่ฟินมากุมไว้

 

                “กลับไปคุยกันที่ห้อง วันนี้อยู่กับกูนะไอ้พัด แดกเหล้าสักวันคงไม่มีใครว่า” ตี๋ปรายตามองฟิน

 

                “กูง่วง! เหนื่อยด้วย จะแดกก็แดก”

 

                “ตามนั้น แล้วเจอกันที่ห้องมึง” ก็ดีนะ ผมจะได้นอนกับฟินคุยเรื่องไอ้ตี๋กับไอ้เด็กต้นพอดี สงสัยเราต้องรวมหัวกันทำอะไรสักอย่าง

 

 

                               

   

 

 TBC.

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา