I'm sorry! ขอโทษครับ สามีผมโหด

8.3

เขียนโดย LemonNest

วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 23.30 น.

  36 chapter
  30 วิจารณ์
  49.03K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558 23.40 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

36) ขอโทษครับ 35 The End

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Chapter 35 The End

 

 

 

ตี๋

 

หมาน้อยตัวอ้วนกลมวิ่งเล่นอยู่หน้าบ้านของฟาง เมื่อมันเห็นเจ้าของเปิดประตูรั้วเข้ามาเห่าร้องเสียงดังตะกุยหน้าขาของตี๋ให้รู้ตัว

               

“ครับ ๆ พ่อรู้แล้ว “ ผมลูบหัวไอ้ฟี่ลุกขึ้นเดินไปหาแม่ของมัน ไอ้ฟางเห็นไอ้ฟี่ลูกรักก็ย่อตัวลงไปอุ้มมาฟัดจนลืมผัว ซึ่งก็คือผมนี่แหละ!

 

“ซนไหมครับลูกชาย” ฟางใช้จมูกเขี่ย ๆ ขนนุ่มปากยื่นทำท่าหมันเขี้ยว ผมยืนกอดอกมอง

 

“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนค่อยลงมาเล่น” ผมว่าเสียงเข้ม มีเหรอมันจะฟัง ไอ้ฟางมันอุ้มท๊อฟฟี่เข้าบ้านโยนกระเป๋าทิ้งให้ผมตามเก็บ ผมก็ก้มลงเก็บไปแขวนไว้ที่เดิม

 

“หิวว่ะ ตี๋ทำอะไรให้กินหน่อย”

 

“ไปอาบน้ำก่อนไอ้ฟาง เดี๋ยวกูทำให้ วันนี้กูไปซื้อไอศกรีมมาไว้ให้ด้วย อยู่ในตู้เย็น”

 

“งั้นกูขอ…” ผมชี้นิ้วทำหน้าโหด

 

“ไม่! ไปอาบน้ำแล้วลงมากิน พรุ่งนี้พ่อแม่มาด้วย กูลืมบอก” ผมยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของมัน ระหว่างที่ไอ้ฟางกำลังจะฝึกงาน ผมก็กำลังจบพอดี เรามักจะไป ๆ มา ๆ บ้านผม คอนโด บ้านไอ้ฟาง และวันนี้ไม่มีใครอยู่บ้าน เลยตัดสินใจมานอนเฝ้าบ้านให้เอง บ้านมันน่าอยู่นะครับ เงียบดี

 

“พ่อแม่มึง? ไอ้สัส! แล้วมึงเพิ่งจะบอกกู” ฟางลุกพรวดเดินวนไปวนมา

 

“จะกลัวอะไรวะ มึงก็เคยเจอ” ผมเลี่ยงไปทางห้องครัว โน้มเปิดตู้เย็นหยิบของมาเตรียมทำอาหาร ไอ้ฟางเดินตามเข้ามาพร้อมลูกรักของมัน

 

“กูไม่ชินไอ้สัส แล้วยังไง พรุ่งนี้เราต้องไปหาท่านใช่ไหม ไหนมึงว่าท่านจะอยู่เที่ยวต่ออีกหลายวันไง”

 

 พ่อแม่ผมไปต่างจังหวัดกันครับ ไปเที่ยวกันหลังจากทำงานเหนื่อยมาหลายปี พวกลูกน้องก็พลอยได้หยุดไปด้วย ผมโทรไปหาท่านและปรึกษาเรื่องไอ้ฟาง ไอ้ฟินไอ้ไอ้พัดมันหมั้นกันแล้วครับ เพราะไอ้พัดมันไปเร่งทางผู้ใหญ่ด้วยเลยหมั้นไว ไอ้ดินมันก็หมั้นไปกับไอ้ติ้วเรียบร้อย ผมเลยคิดว่าจบแล้วจะหมั้นไอ้ฟางไว้ก่อน ความจริงมีหลายคู่ที่อยู่กินกันโดยไม่จำเป็นต้องหมั้นหรือแต่ง แต่ผมไม่ว่ะ ผมอยากมีความทรงจำดี ๆ ว่าอย่างน้อยไอ้ฟางก็ได้แต่งงานเหมือนคนอื่นเขา

 

“มึงกลัวอะไร หรือมึงไปรู้อะไรมา” เรื่องนี้มีผมกับพ่อแม่และไอ้ฟินที่รู้โดยบังเอิญ อย่าบอกนะว่ามันบอกไอ้ฟาง

 

“กูเปล่า กูไม่ได้ยินอะไรเลย” แม่งมีพิรุธ ผมวางมีดที่หั่นหมูลงไปจับบ่ามันสองข้าง

 

“ไอ้ฟาง”

               

“กะ ก็…นิดหน่อย กูออกมาเข้าห้องน้ำ ได้ยินมึงคุยกับพ่อแม่ แฮ่ ๆ กูไม่ได้ตั้งใจนะเว้ย” ผมกลับไปทำอาหารต่อ ไอ้ฟางคิดว่าผมโกรธ แต่เปล่าเลย ผมก็กำลังคิดว่าจะบอกมันยังไงดี

 

“หึ กอดกูทำไม” ไม่ค่อยชินว่ะ กับการที่ไอ้ฟางมันมากอดข้างหลังแล้วซบหน้าอ้อน นับวันแม่งทำตัวน่ารัก กับเพื่อนแม่งทำโหดใส่ ขู่ผมสารพัด พออยู่กันสองคนโคตรเอาแต่ใจ ขี้อ้อน และขี้เอามาก

 

“กูไม่ตั้งใจอะแม่ง มึงไม่ไปคุยไกล ๆ เอง” มันพูดอู้อี้ ผมออกมาคุยนอกบ้านเลยนะเว้ย มันคงเห็นและเข้าใจว่าผมคุยกับคนอื่นเลยมาแอบฟัง เป็นไงล่ะ ได้เรื่องเลย

 

“รู้แล้วก็ดีไง มึงจะได้เลิกบ่นสักที” มันชอบพูดว่าทำไมผมไม่ขอมันแต่งงานบ้าง คนนั้นก็แต่ง คนนี้ก็หมั้น รู้ว่ามันพูดเล่น ๆ แต่ผมคิดจริง

 

“แต่กูยังเรียนไม่จบเลยนะ มึงก็อีกตั้งหลายเดือน”

 

“แค่หมั้นไอ้ฟาง รอมึงจบก่อนค่อยแต่ง หรือมึงไม่อยากแต่ง อั๊ก! กูเจ็บ” ผมพูดนิดหน่อยแม่งทุบหลังเต็มแรง

 

“ดูพ่อมึงนะไอ้ฟี่ ชอบกวนตีนว่ะ ไปหาอะไรเล่นดีกว่าฟี่” มันดีดนิ้วเรียกลูกมันไปห้องนั่งเล่น สรุปมันก็ไม่ยอมไปอาบน้ำ ผมกำลังจะเปิดฝาหม้อดูน้ำที่เดือด ไอ้ฟางตะโกนมาอีก

 

“ขอสิบนาที กูไปอาบแล้ว ทำเร็ว ๆ นะสามี กูหิว” เอากับมันสิ สิบนาทีของมันเชื่อเหอะว่ามากกว่านั้น อยู่กับไอ้ฟี่เล่นเกินเวลาทุกรอบ ผมลืมบอกใช่ไหมว่าผมมีสุนัขอยู่สองตัว ตัวหนึ่งเคยเลี้ยงที่คอนโดแต่ไม่มีใครดูมันเลยไปฝากไว้กับพี่ที่ค่าย ส่วนไอ้ฟี่เป็นสุนัขของเพื่อน แต่ตอนนี้มันย้ายไปเรียนที่อื่นผมเลยขอมาเลี้ยง

 

แรก ๆ ไอ้ฟางมันกัดกับท๊อฟฟี่ทุกวัน เพราะแม่งนิสัยเหมือนกันไง หลัง ๆ ผมฝึกมันให้เชื่องจนเริ่มเข้ากับไอ้ฟางได้

 

“ฟางกินข้าว” กลิ่นอาหารลอยหอมฉุย ผมตะโกนเรียกมันที่ขึ้นไปอาบน้ำเมื่อสักพัก ไอ้ฟี่วิ่งมากระดิกหางรอ ผมเดินไปเอาหารมันมาวางให้ข้างล่างใกล้ ๆ ที่นั่งแม่มัน

 

“ไม่กินวะฟี่ รอแม่มึงเหรอ” ผมโคตรรักมันเลย อยู่กันมาได้หลายเดือนแล้วครับ

 

โฮ่ง!

 

โคตรน่ารัก เสือกแสนรู้อีก ไอ้ฟางเปลี่ยนเป็นชุดใหม่ที่ดูสบายขึ้น หัวมันมีน้ำหยดแหมะ ๆ ไหลตามทาง ผมขึ้นไปเอาผ้าลงมาเช็ดหัวให้มัน

 

“กูไม่ได้รีบขนาดนั้น วันหลังก็เช็ดให้แห้งก่อนค่อยลงมา” สงสัยหิวจริง มันนั่งได้ก็คว้าช้อนมาตักไก่ทอดเข้าปากเลย ลูกมันเห็นแม่มันกินก็กินตาม ผมส่ายหน้าอมยิ้ม

 

“ตี๋ กูตื่นเต้นอะ มึงจะขอกูหมั้นจริง ๆ นะ” มันถามย้ำ ผมขยับมือเช็ดหัวให้มันพลางพูดไปด้วย

 

“เออ มึงไม่มั่นใจหรืออะไรวะ”

 

“คือกูไม่คิดว่ามึงจะเอาจริงไง แล้วมึงจะขอยังไง พากูไปร้านหรู ๆ มีช่อดอกไม้ มีแหวนอะไรอย่างนี้ป่ะ” ผมไม่เห็นหน้ามันตอนพูดแต่เสียงมันโคตรตื่นเต้น

 

“มึงชอบแบบนั้นเหรอ”

 

“ก็…”มันเงียบไปแป๊บ “ฮ่า ๆ ๆ มันไม่เข้ากับมึงเลยว่าไหม อย่างมึงต้องเถื่อน ๆ อย่างลากไปปล้ำแล้วสวนแหวนที่นิ้ว กูว่า…อื้อ ๆ ๆ” ไอ้ฟางดิ้นพล่าน ผมจับมันเงยหน้ามาจูบ ก่อนจะปล่อยให้มันนั่งหอบ

 

“ผมแห้งแล้ว” เดินไปโยนผ้าใส่ตะกร้ามานั่งเก้าอี้ตรงข้าม ฟางมันมองผมตาค้อน

 

“กูเกือบติดคอตายแม่ง”

 

“กูเห็นหรอกน่าว่ามึงเคี้ยวหมดแล้ว ลูกมึงจะเอาอะไรสะกิดใหญ่เลย” ท๊อฟฟี่มันเอาขามาก่ายเท้าไอ้ฟาง ฟางก้มหน้าลงไปหาเดินไปหยิบอาหารมาเติมให้

 

“มึงอ้วนแล้วนะฟี่ ถ้าว่างจะพาไปออกกำลังกาย” ฟางลูบขนนิ่ม

 

“อ้วนเหมือนแม่มันนั่นแหละ” ผมก็แกล้งมันเล่น ไอ้ฟางมันไม่ค่อยจะซีเรียสแล้วครับ เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น ผมเดินสวมรองเท้าออกไปดู ให้ไอ้ฟางมันกินให้อิ่มก่อน

 

“มาหาใครครับ” เด็กผู้ชายตัวสูงหน้าตาดียืนงงมองผมก่นจะถอยหลังไปดูบ้านเลขที่และเดินมาใหม่

 

“บ้านฟางใช่ไหมครับ ฟางอะ”  ผมสำรวจคนตรงหน้า คงเป็นเพื่อนไหม แต่ทำไมไม่เห็นหน้าวะ

 

“เพื่อนมันเหรอ”

 

“ก็ไม่เชิง ฟางอยู่ไหน” มันตอบกวน ๆ ยักคิ้วให้อีกสัส! ผมยกนิ้วโป้งชี้ไปในบ้าน แม่งก็มารยาทดีจังเดินเข้าไปก่อนกูอีก อย่าให้รู้ว่าชอบไอ้ฟาง กูปิดบ้านกระทืบแม่ง

 

“คิดถึงงงง เราคิดว่าจะไม่ได้เจอฟางแล้วนะ ทำไมไม่ค่อยกลับบ้านเลย” มันวิ่งเข้าไปกอดคอไอ้ฟางจากด้านหลังผ่านเก้าอี้ไม้ หอมแก้มมันทั้งสองข้าง ผมยืนกำมือแน่น ไอ้ฟางไอออกมาทุบอกตัวเองมือคว้าน้ำ

 

“แค่ก ๆ ปล่อยกูก่อนไอ้เหี้ยนาว เลิกตอแหลแกล้งกูได้แล้ว เกรงใจผัวกูด้วย” ผมได้ยินแบบนั้นก็สบายใจขึ้นมาหน่อย แต่แม่งก็น่ากระทืบอยู่ดี ทำไมต้องหอมแก้มวะ!

 

“ชิ มึงหายหัวไอ้สัส แล้วคนนี้ไงสามีสุดที่รักที่มึงบอก ตัวจริงก็งั้น ๆ สู้ผัวกูไมได้”

 

“แล้วมาทำไม คิดถึงกู” ผมปล่อยให้มันคุยกับเพื่อนไป มีคนโทรเข้ามาเป็นเบอร์แปลก ผมขมวดคิ้วกดรับ

 

“ครับ”

 

(มีความสุขจังนะ ลืมกูไปแล้วมั้งพวกมึง)

 

“ใคร” ผมออกมาคุยข้างนอก เสียงมันคุ้นหูมาก

 

(ไอ้ดินมันยังอยู่ดีไหมวะ ได้ข่าวมีผัวแล้ว หึ กูนึกว่ามึงสองตัวจะแดกกันเองซะอีก เข้าเรื่องเลย ตอนนี้กูต้องการเงิน มาเจอกูที่ XXX กูไม่ได้โทรมาเล่น ๆ ถ้ามึงไม่เอาเงินมาให้กูภายในสองทุ่ม คลิปที่พวกมึงเอากันถึงมือคนรักพวกมึงแน่ ไม่ใช่แค่นั้นนะ ไม่แน่มึงอาจจะดังชั่วข้ามคืนก็ได้) มันตัดสายทิ้งไป ผมไม่รู้มันคือใคร แต่คงเป็นคู่อริเก่า  ๆ ที่จ้องเล่นงานผมกับไอ้ดินอยู่ อย่างที่ว่าเมื่อก่อนผมเล่นไว้เยอะ ส่วนเรื่องที่ผมเคยกับไอ้ดินครั้งนึงมีไม่กี่คนที่รู้ และคนในกลุ่มนั้นก็มีแต่พวกเพื่อนกัน

 

ไม่คิดว่าเพื่อนจะกลายเป็นศัตรูที่น่ากลัวได้ขนาดนี้

 

“มันอาจจะเป็นแผน” ผมพึมพำไม่คิดว่ามันจะมีคลิปจริง ไม่นานไฟล์วิดีโอก็ส่งเข้าเครื่องผม สัส! ผมฆ่าแม่งแน่

 

“ฮัลโหลไอ้ดิน กูมีเรื่องจะบอก…” ตี๋ยืนคุยสายกับดิน มะนาวที่เดินมาเข้าห้องน้ำได้ยินโดยบังเอิญ ก่อนจะรับรู้ข้อมูลสำคัญ

………………………………………………..

 

ฟาง

 

เพล้ง!

 

ผมมือสั่นทำแก้วตกแตกเสียงดัง ไอ้ตี๋มันออกจากบ้านไปได้สักพัก บอกมีเรื่องจะคุยกับพี่ดิน ผมอยู่กับไอ้นาวสองคน มันมองหน้าผมในขณะที่ช่วยเก็บเศษแก้วตามพื้น

 

“ฟาง…ไม่มีอะไร” ไอ้สัสนี่ มันเรียกชื่อผมแล้วบอกไม่มีอะไร เหมือนมันจะพูดอะไรแต่เสือกลังเล

 

“พูดมามีอะไร”

 

“ไม่มีเว้ย จนได้! เอามือมาดู เลือดเลยไหมมึงมัวแต่มองกู” ไอ้นาวมันดุจับมือผมไปเช็ดกับเสื้อตัวเอง เลือดไหลออกมาตามปลายนิ้ว ผมสะดุ้งรู้สึกแสบ

 

“นาว…กูใจไม่ดีเลยว่ะ อยู่ ๆ กูวูบใจหายขึ้นมา” ผมยกมือทาบหน้าอกตัวเอง ลมข้างนอกพัดเอามาแรงมาคล้ายฝนจะตก  ไอ้ฟี่มันส่ายก้นมานอนหมอบข้างขาผม ผมดันมันออกกลัวเศษแก้วจะบาด

 

 “รอก่อน จะไปเอาที่นอนมาให้” ผมบอกไอ้ฟี่ มันเห่าวิ่งไปนอนใต้ขาเก้าอี้

 

“เลือดหยุดไหลแล้ว มึงไปหาพลาสเตอร์มาแปะซะ” ไอ้นาวมันนั่งเก้าอี้ที่ไอ้ฟี่มันนอน ผมเดินขึ้นห้องไปทำแผล เดินลงมาพร้อมที่นอนไอ้ฟี่ ระหว่างทางก็น้ำตาหยดลงพื้น ใจไม่ดีจริง ๆว่ะ

 

“ฮึก…นาว ช่วยกูด้วย กูเป็นอะไรไม่รู้ กูอยากเจอตี๋ อยากเจอตอนนี้ เดี๋ยวนี้” ผมร้องออกมาทั้งที่มันไม่มีอะไรเลย มือกดโทรออกยิก ไอ้ตี๋ไม่รับสาย ผมยิ่งร้องหนัก

 

  “มึงอย่าร้องดิวะ ใจกูเสียไปด้วยเลย” นาวกอดปลอบผม มีสายจากไอ้ติ้วโทรเข้ามา ฝนข้างนอกเริ่มตก ผมกดรับ

 

 (ฟาง!! พี่ดินอยู่ที่นั่นไหม) น้ำเสียงไอ้ติ้วร้อนรน ผมใจหล่นฮวบ

 

 “มะ ไม่ ไอ้ตี๋ก็ไม่อยู่ ฮึก ไอ้เหี้ย! กลับมากูจะกระทืบแม่ง”

 

“ฟาง…กูขอโทษ กูรู้ว่าผัวมึงไปไหน แต่…กูคิดว่าถ้าเขาอยากบอกมึงเขาก็บอก แต่ที่ไม่บอกเพราะเขารักมึง เขากลัวมึงมีอันตรายไปด้วย กูขอโทษ ขอโทษว่ะฟาง” ไอ้นาวมันกอดผมแน่น ผมไม่สนใจห่าอะไรแล้วกระชากคอเสื้อมันขึ้นมา

 

 “นาวบอกกูมา มันอยู่ไหน!! ถ้ามึงรักกูมึงต้องบอกกู!!!”

 

(เกิดอะไรขึ้นวะ!)

 

 “กูรู้แล้วมันไปไหนกัน รอไอ้เหี้ยนาวง้างปากอยู่ มึงมาหากูที่บ้านเลยไอ้ติ้ว เอาพวกไอ้เพมาด้วย กูว่าเรามีเรื่องต้องทำว่ะ” ผมกดตัดสายทิ้ง ไอ้นาวมันจะร้องแต่ผมแม่งร้องหนักแล้วไง

 

“กูขอร้อง บอกกู…กูจะปล่อยให้มันเป็นอะไรไม่ได้มึงได้ยินไหม!! กูขาดมันไม่ได้ว่ะนาว ต่อให้อันตรายแค่ไหนก็ต้องได้เจอมัน บอกกูมานาว บอกกูเถอะนะ”

 

 “ฮึก ก็ได้ กูจะไปกับมึงด้วย” ก็แค่นั้น ผมกอดมันร้องไห้กันไป คือแม่งไม่รู้ว่าไปแล้วจะเจออะไรไง อาจจะมีคนบาดเจ็บ หรืออาจจะรอดทั้งหมด ผมอยากจะลุยแม่งคนเดียว แต่ไอ้นาวมันไม่ยอม ไอ้ติ้วมันพาไอ้เพมาที่บ้านคนเดียว ไอ้เพก็ห่วงเมียมันเลยไม่พามา ไอ้สองสาวปล่อยมันไปเหอะ

 

 สรุปไอ้เพไปไม่ได้ แม่มันอยู่โรงพยาบาล พวกเราสามคนเอารถมาคนละคัน ฝนยังตกไม่หยุดและดูท่าจะหนักขึ้นเรื่อย ๆ ทางที่เราไปมันค่อนข้างจะลำบาก เมื่อขับมาถึงที่หมายก็แอบรถไว้ข้าง ๆ ต้นไม้ต้นใหญ่ มือถือปืนคนละกระบอก ผมมีติดตัวไว้ตลอดแหละ แต่แค่ไม่อยากให้ตี๋มันรู้

 

“นั่น ๆ พวกมันอยู่นั่น” ไอ้นาวพูดขึ้น เรานั่งยอง ๆ สังเกตการณ์อยู่รอบนอก

 

“สัส! มันตบพี่ดิน” ไอ้ติ้วทำท่าจะพุ่งเข้าไปแต่พวกผมดึงตัวมันไว้ได้ทัน

 

“ใจเย็นก่อนไอ้เหี้ย กูรู้มึงเป็นห่วง แต่มึงไม่แปลกใจไงที่พี่ดินยิ้มอะ กูว่าพี่เขามีแผน” ผมโง่ก็จริงนะเว้ย แต่ผมก็ไม่อยากวู่วามเป็นหนที่สอง เรื่องที่ร้านอาหารวันนั้นผมยังจำได้ดี เราต้องตั้งสติและคิดทวนซ้ำหลาย ๆรอบ

 

“เฮ้ย ๆ ตรงนั้นเหมือนมีคนอยู่ กูเห็นพุ่มไม้ขยับ” นาวมันเป็นคนสายตาดีมาก ตอนกลางคืนมันยังเห็น ผมหรี่ตามองตาม

 

กึก

 

“พวกมึงเป็นใคร” ผมตัวชานิ่งวัตถุที่เหมือนกับที่ผมถืออยู่มันจ่อมาทางเราสามคนจากด้านหลัง ไอ้ติ้วมันมองหน้าผมก่อนจะสบตากันสื่อสาร ไอ้นาวมันเม้มปากขัดใจอยากจะเอาเท้าเสยตามฉบับไอ้คนใจร้อน

 

“มีอะไรวะ อ้าว เฮ้ย! พี่ครับ มีคนบุกรุก” ชิบแล้วไง ผมสบถเมื่อเรื่องมันยุ่งยากไปกันใหญ่ ตั้งใจจะจัดการไอ้คนข้างหลังแต่เสือกมีพวกมาเพิ่ม

 

“จับมันไป” คนที่เพิ่งมาใหม่มันวิ่งกลับมาจากการไปบอกรุ่นพี่มัน พวกผมสามคนยกมือขึ้นเหนือหัว มันยึดปืนเราไปหมด ดันตัวเราให้เดินไปสมทบกับพวกไอ้ตี๋ พอมันเห็นผมเท่านั้นแหละนัยน์ตาแววโรจน์ขึ้นมาทันที

 

“ไอ้ฟาง!!”

 

“ขอโทษ…กูห่วงมึง” ผมถูกมัดรวมกับไอ้ติ้วไอ้นาว ตัวนั่งติดกับไอ้ตี๋เลย พี่ดินมองหน้าไอ้ติ้วก่อนจะหันไปทางอื่น เพื่อนผมมันอยากจะร้องไห้เลยเจอแบบนี้ ไอ้นาวเป็นเพียงคนเดียวที่ยังคงใช้สายตาสอดส่องไปทั่ว

 

“มึงทำเรื่องให้ยุ่งรู้ตัวไหม” มันพูดกับผมเบา ๆ

 

“ขอโทษ กูปล่อยมึงให้เป็นอะไรไปไม่ได้เหมือนกัน”

 

“แล้วมึงมามันช่วยได้ไหม กูยังเอาตัวรอดกันได้เมื่อมีโอกาส แต่ตอนนี้กูต้องมาห่วงมึงไปด้วย กูรักมึงแค่ไหนมึงน่าจะรู้นะฟาง”

 

“แล้ว…จะให้กูอยู่เฉย…กูทำไม่ได้” เสียงผมขาด ๆ หาย ๆ กว่าจะเค้นตำพูดออกมาได้ต้องกลั้นสะอื้นเอาไว้ มันดุผมจริงจังเพราะครั้งนี้มันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ

 

เราต่างก็เงียบ มีเพียงเสียงฝนโปรยปรายที่สร้างบรรยากาศให้ชวนอึดอัด ครั้งนั้นตอนที่เราติดอยู่ในถ้ำ เรายังพอมีที่กำบังและรอเพียงเวลากลับที่พัก แต่ตอนนี้เราต้องช่วยกันหาทางรอดชีวิต ผมก็ไม่เคยคิดว่านิยายน้ำเน่ามันจะเกิดขึ้นกับตัว คนธรรมดาที่แม่งไม่ค่อยจะยุ่งกับใครเสือกต้องมาถูกจับ มาเสี่ยงตายอะไรแบบนี้

 

“ฟาง…ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กูบอกให้ทำอะไรก็ต้องทำ มึงต้องรอดเข้าใจไหม” มันพูดเสียงเข้มหลังจากเงียบกันพักใหญ่ พวกไอ้เหี้ยนั่นมันคุยแข่งกับฝนมันไม่ยินที่ผมคุยกันหรอกครับ

 

“ไม่ เราทั้งหมดต้องกลับไปพร้อมกัน”

 

“อย่าเพิ่งดื้อฟาง กูก็ต้องการแบบนั้น แต่ถ้ามันไม่ใช่อย่างที่เราคิด สิ่งที่กูเลือกคือมึง มึงต้องกลับไปให้ได้” ผมสบตากับมันน้ำตาไหลลงมาเนียนกับหยดฝนที่ตกกระทบใบหน้า

 

“ถ้าไม่มีมึง…ฮึก…กูก็อยู่ไม่ได้”

 

…สัญญา ว่ากูจะรักแค่มึง กู…”

 

ปัง!!

 

เสียงปืนนัดแรกยิงสวนกลับไปทางพุ่มไม้ที่เริ่มเคลื่อนไหว ตำรวจหลายสิบนายยืนจ่อปืนมาทางพวกเรา พ่อผมและพ่อไอ้ตี๋ รวมถึงผู้ใหญ่อีกหลายคนยืนถืออาวุธอยู่ห่าง ๆ ผมมองเห็นพี่พัดกับพี่ฟินอยู่ข้าง ๆ พ่อ ฟินมันมองผมสายตาเจ็บปวด

 

“มึงหักหลังกู!!!” ไอ้หน้าเหี้ยที่เหมือนจะเป็นหัวหน้าหันกระบอกปืนมาทางไอ้ตี๋ ผมเอนตัวไปบังมันเอาไว้หลับตาแน่น เสี้ยววินาทีสัมผัสได้ถึงความเจ็บที่ไหล่ขวา ไอ้ตี๋เบิกตากว้างร้องเรียกชื่อผมเสียงสั่น

 

เสียงปืนยังคงดังไม่หยุด ดูเหมือนครั้งนี้จะจับตายกัน ไอ้หัวหน้ามันร้องเสียงดังก่อนจะได้ยินเสียงฝีเท้าลูกน้องมันกระจายไปคนละที่ พ่อผมเข้ามาดูไอ้เหี้ยที่โดนยิง เท้าเขี่ย ๆ มันก่อนจะบอกมันไม่รอด ก็ดี ตายง่ายดีนะไอ้สัส ผมโคตรแค้น

 

ปัง ปัง ปัง!!

 

ร่างผมถูกใครบางคนลากไป ไอ้ตี๋มันดิ้นเมื่อเชือกยังไม่ถูกคลายออก เหตุการณ์มันไวเกินจะตั้งรับ มันลากผมเข้าไปในป่าทึบที่ชื้นแฉะ ยกมือขึ้นหันออกขู่ไม่ให้เข้ามา ผมทั้งเจ็บแผลและใจสั่น บอกตัวเองว่าต้องรอด

 

“กูคิดไว้แล้วว่าพวกมึงมันไว้ใจไม่ได้ มึงสินะไอ้ฟาง หึ กูชื่อคิน เป็นคนที่โทรหาผัวมึงเองแหละ กูเดาถูกจริง ๆ คิดไม่ผิดที่หลบอยู่ในนี้” มันลากผมมาถึงทางน้ำตก มองลงไปโคตรน่ากลัว มือมันหิ้วกระเป๋าดำหนึ่งใบ

 

“มองทำไม เงินแค่นี้คงไม่ทำให้ไอ้ตี๋มันจนหรอก ถ้ามันยอมให้เงินกูดี ๆ แล้วจบ กูจะไม่ทำอะไรเลย แต่พวกมึงมันเล่นตุกติก” ไม่มีสัจจะในหมู่โจร ถ้ามันขู่ครั้งแรกได้ ครั้งต่อไปมันก็ทำได้

 

“อ๊ากกก เจ็บ!” ผมร้องออกมา มือมันกดโดนแผลผมเต็ม ๆ เลือดสีแดงไหลออกมาเพิ่มมากขึ้น ผมเริ่มหายใจถี่

 

“กูจะบอกอะไรให้นะ คนที่ตี๋มันรักมีแค่คนเดียว คือไอ้ดิน พวกมันกินกันเองมึงไม่รู้สินะ”

 

“ไม่ มันรักกู!!” ผมเถียงออกมา คินยิ้มร้ายบีบแผลผมแรงขึ้น

 

“โง่ มึงก็โง่เหมือนคนอื่น ๆ มึงรู้ไหมทำไมกูไม่ทำร้ายไอ้ตี๋กับไอ้ดิน เพราะมันเป็นเพื่อนกู แต่กับมึง” คินกระชากหัวผมแหงนขึ้น “มึงทำให้ไอ้ตี๋สนใจ ทำให้มันตกหลุมพรางตุ๊ดอย่างมึงจนโงหัวไม่ขึ้น กูยังพอทำใจได้ที่คนนั้นเป็นไอ้ดิน แต่พอเป็นคนอื่นกูก็อยากจะฆ่าให้หมด”

 

“มะ…มึงชอบมัน” ผมกันฟันแน่นเริ่มลุกไม่ไหว เรี่ยวแรงมันหายไปหมด

 

“ใช่! กูรักไอ้ตี๋ แต่มันไม่รักกู มันแคร์แค่ไอ้ดิน กูคิดว่ามันเล่น ๆ กับมึง แต่ที่ไหนได้ หึ กูแทบจะฆ่ามึงตอนนั้น แต่เพราะโอกาสไง ไม่เคยสักครั้งที่กูจะมีโอกาสได้ทำ! ไอ้ตี๋มันตามมึงตลอดเวลา กูเจ็บ…กูไม่เคยได้รับความรู้สึกนั้นเลย” เสียงมันอ่อนลงก่อนจะดวงตาแข็งกร้าว จับผมยืนอยู่ชิดขอบทางลงน้ำตก

 

“ยังไงชีวิตกูก็ไม่เคยมีอะไรดีอยู่แล้ว เราก็มาตายพร้อมกันเป็นไง ฮ่า ๆ ๆ”

 

“ฟาง!! แฮ่ก ๆ ๆ” เสียงไอ้ตี๋ดังขึ้น ผมหันหลังไปมองทำท่าจะวิ่งเข้าไปหา ไอ้คินมันกระชากผมกลับไปก่อนจะ…

 

ตู้ม!!

 

สีหน้าตกใจของมันผมยังจำได้ติดตา ก่อนที่ร่างกายของผมมันชาและไร้เรี่ยวแรงจะว่ายขึ้นไปหามัน ยิ้มที่กำลังแย้มอยู่นี้มันทั้งเศร้าและอาลัยอาวรณ์ อยากจะอยู่ด้วยกัน แต่ก็ทำไม่ได้…ขอโทษที่ผิดสัญญา แต่กูไม่ไม่แรงเหลือจะฝืนไหว ใจที่กำลังสู้อย่างเดียวมันไม่ทำให้ผมลอยขึ้นไปหายใจบนผิวน้ำได้

 

ภาพของเรามันไม่จางไปไหน มึงยิ้ม มึงหัวเราะ มึงร้องไห้ มึงด่ากู หึงกู ฮึก…พูดถูกที่เราไม่จำเป็นต้องถ่ายรูปกันบ่อย ๆ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันอยู่ในนี้หมดแล้ว ในความทรงจำและในใจกู

 

ผมหลับตาลงปล่อยร่างกายให้เป็นไปตามธรรมชาติ คำพูดของมันที่บอกให้ผมต้องรอดผุดขึ้นมาย้ำในหัว แขนของผมสะบัดไปมาไม่รู้สึกเจ็บที่หัวไหล่เหมือนตอนแรก เหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังพาผมลอยขึ้นไปบนฟ้า ผมยิ้มรับและภาพทุกอย่างก็เป็นสีขาวสว่างจ้าจนแสบตา

 

“แค่ก ๆ ๆ” ผมสำลักน้ำออกมาใจแทบขาด สูดอากาศหายใจเข้าปอดลึก ๆ ใบหน้าชามีแรงตบที่แก้มทั้งสองข้าง

 

“ฟื้นแล้วพ่อใหญ่ หนูตัวขาวฟื้นแล้ว!” เสียงใคร ผมหลับตาคิ้วขมวดส่ายหน้าไปมา

 

“ช่วยกันอุ้มไปไว้บ้านข้าเลย แม่ไปทำอาหารไว้รอเลยก็ได้จ๊ะ”

 

“คุณพระคุณเจ้าช่วยนะลูก เอ้า ๆ แยกย้ายกันกลับบ้านได้ทุกคน ขอบใจมากนะจ๊ะ”

 

ชาวบ้านที่มานั่งเฝ้าฟางแต่เช้าตรู่พากันกลับเมื่อเห็นว่าร่างกายขาวฟื้นแล้ว พ่อใหญ่ของหมู่บ้านสั่งเด็กรับใช้ให้หาผ้ามาเช็ดตัวก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าและทำแผลให้ กระสุนถูกผ่าสดรู้สึกเจ็บจนคนโดนร้องลั่นลืมตาตื่นขึ้นมา

 

สิ่งแรกที่ผมเห็นคือกระท่อมหลังเล็กที่มิดชิด มีลุงแก่นั่งเย็บแผลที่ไหล่ขวาให้ผมอย่างใจเย็น แกยิ้มให้ผมไม่ได้พูดอะไรออกมา เสียงของผมแหบพร่าจะถามอะไรก็ไม่ได้

 

“ตื่นแล้วเหรอวะ เป็นไงบ้างไอ้ภพ เรียบร้อยดีนะ” ลุงคนนั้นหยักหน้าส่งภาษามือให้ลุงอีกคนที่มาใหม่ ผมนอนมองสองคนนึกอยากขอบคุณแต่เสียงไม่มี

 

“ไอ้ภพมันโดนพวกตัดไม้มันตัดลิ้นเอา คนดีก็แบบนี้แหละ ต่างจากไอ้คนชั่วที่ได้ดีเอา ๆ แต่ข้าส่งมันเข้าคุกหมดแล้วแหละ กรรมมันตามทันนะเว้ย” ลุงภพออกไป ลุงอีกคนเดินเข้ามานั่งคุยกับผมแทน

 

…” น่าสงสารจัง สักวันผลนั้นจะทำให้ลุงภพได้ดีครับ

 

“แล้วเหตุการณ์มันเป็นยังไง เมื่อเช้าข้าเจอเอ็งนอนสลบอยู่บนโขดหิน คิดว่าจะตายเอายังดีมีลมหายใจ”

 

“ผม…แค่ก ๆ”

 

“เอาเถอะ ค่อยเล่า ได้ยาดรจากเมียข้าคงพูดได้บ้าง ไม่ต้องเกรงใจหรอกนะ ข้าช่วยได้ก็เท่าที่พอช่วยได้ พักผ่อนไป อีกเดี๋ยวจะให้เด็กยกข้าวมาให้กิน เอ็งก็ฝืนกินเข้าไปหน่อย ช่วงนี้คงขม ๆ ฝืดคอ”

 

ผมยกมือไหว้ แต่ก่อนลุงแกจะไปไหนก็พูดขึ้นว่า “เกือบลืม ไอ้หนุ่มอีกคนมันเพื่อนเอ็งใช่ไหม เห็นนอนสลบข้างกัน มันตัวร้อนคงไม่สบาย แม่กำลังป้อนยาอยู่ไม่ต้องห่วงนะ”

 

“ไป…ไปหามัน” ผมเค้นเสียงพยุงร่างกายตัวเองล้มลุกคลุกคลานไปหาลุงแก

 

“เฮ้ย ๆ ไม่ได้นะเว้ย ร่างกายเอ็งมันแย่อยู่ หายก่อนข้าจะพาไป มันอยู่บนบ้านข้านั่นแหละ รอเอ็งกินข้าวกินยาพอเดินไหวจะพาขึ้นไปบนบ้าน ตอนนี้นอนอุ่น ๆ อยู่ในนี้ให้แผลหายก่อน ข้างบนมันอากาศเย็นกว่าในนี้”

 

“ไหว้ล่ะครับ” ผมยกมือไหว้ขอบตารื้นน้ำหยดใส พ่อใหญ่ถอนหายใจยาวส่ายหน้าเดินนำไป

 

“พ่อ!! พาหนูตัวขาวขึ้นมาทำไม แผลหายแล้วเหรอจ๊ะ” แม่ใหญ่ถามขึ้นเสียงดุ ผมยกมือไหว้ก่อนมองเห็นร่างใหญ่ที่นอนซมอยู่

 

“กำลังจะพาลงจ๊ะแม่ เขาอยากมาเจอเพื่อนเขา” ผมโดนพ่อใหญ่ดึงลงมาข้างล่าง

 

มันปลอดภัย แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว เหมือนได้ตายแล้วเกิดใหม่

 

“นอนอยู่ในนี้อย่าดื้อแอบขึ้นไปหาเพื่อนเอ็งล่ะ” ผมพยักหน้า พ่อใหญ่เดินออกไปสวนกับเด็กตัวน้อยที่หิ้วข้าวปลาอาหารมาวางให้กินพร้อมยาอีกหลายรูปแบบ ทั้งเม็ดทั้งสมุนไพร  ทั้งหม้อดินที่บรรจุน้ำรสขมชวนอ้วก

 

…………………………………………………………..

 

[หลายวันผ่านไป]

 

ผมอาการดีขึ้นมากเลยครับ เสียงกลับมาเป็นปกติพร้อมกับร่างกายที่แข็งแรงกว่าเดิม ไอ้ตี๋มันเป็นไข้หนักไม่หายสักที พ่อใหญ่พามันไปให้ลุงแก่เป่าอะไรให้สักอย่างหายเลย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ ผมนั่งอึ้งมือสั่นตัวสั่นไม่เคยเห็นกับตามาก่อน ตอนนี้เรากำลังแต่งตัวด้วยชุดชาวบ้านธรรมดา ไอ้นาวมันเก่งครับ ตามกลิ่นผมจนเจอ ผมกระโดดกอดมันเมื่อรู้มันเดินหลงป่ามั่ว ๆ มาเจอเรา คือทางเข้าหมู่บ้านนี้ซับซ้อนมาก ออกยากเข้ายาก ไม่แปลกที่ใคร ๆ ก็หาไม่เจอ

 

“กูกระโดดถีบมันก่อนเราจะแย่งปืนกัน เสียงปืนดังขึ้นกูนึกว่ากูโดนยิงแล้ว ที่ไหนได้ ไอ้เหี้ยนั่นมันโดนเอง มันร่วงตกลงไปข้างล่าง เจอโขดหินใหญ่ไม่รอดว่ะ ตายห่าได้ก็ดี ถ้ามันยังอยู่กูก็ไม่สบายใจ ว่าแต่ผัวมึงโคตรใจเด็ดเลย กระโดดตามมึงลงไปแบบไม่คิดห่าอะไรเลย กูวิ่งตามมาเห็นแต่หลังไว ๆ โดดลงไปแล้ว ฝนก็เสือกตกอีก น้ำเน่าโคตร” ไอ้นาวพ่นไม่หยุด ผมทั้งหัวเราะทั้งรู้สึกเป็นห่วงทุกคนขึ้นมา

 

“พ่อกำลังจะมานะ เราไปหาผู้ใหญ่กัน” ตี๋ที่เดินไปไกลเพื่อหาสัญญาณติดต่อพ่อของมัน ไอ้นาวมันเอากระเป๋าไอ้ตี๋แบกมาด้วยเผื่อมีประโยชน์ และแม่งก็มีจริง ๆ ในนั้นมีโทรศัพท์มันไง

 

 “ไป ๆ กูจะขอบคุณด้วยที่ช่วยกูไว้ ไม่งั้นกูคงตายคาป่าว่ะ ตั้งใจจะตามหามึงแต่เสือกมาหลงเอง” นาวลุกขึ้นปัดฝุ่นที่ก้น ผมกอดคอมันแน่น

 

“รักมึงว่ะนาว มึงมันพระเอกเลยนะ”

 

“มึงอย่ามาเพ้อ กูให้ผัวกูรักได้คนเดียว กลับไปครั้งนี้คงโดนด่าไม่น้อย เล่นหายหัวไปหลายวันแม่งยิงกูทิ้งแน่”

 

“เดี๋ยวกูช่วยพูดให้”

 

“ไม่ต้องเว้ย ด่ามากูด่ากลับอ่าจริง ๆ จะตบหัวหลุดให้ถ้าแม่งบ่น กูไปผจญภัยมาแทนที่จะปลอบเสือกด่า ปล่อยมันไป เดี๋ยวถึงเวลาเจอหน้าก็รู้เอง”

 

“เพื่อนกูโหด แต่ก็ขอบใจว่ะ ไอ้ติ้วมันเป็นไงบ้าง” ระหว่างทางเดินไปบ้านพ่อใหญ่ผมก็ถามถึงคนอื่น ๆ พบว่าปลอดภัยดี ทุกคนห่วงเรามากแต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ไอ้นาวมันจุดธูปไหว้เจ้าป่าเจ้าเขาแล้วเดินมั่ว ๆ มาคนเดียว จนมาเจอพ่อใหญ่เข้าให้

 

“ผมลาล่ะครับ ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง” เราสามคนยกมือไหว้ พ่อใหญ่ แม่ใหญ่ยิ้ม

 

“ข้าไม่ไปส่งนะ พวกเอ็งเดินไปตามทางที่ข้าบอกเดี๋ยวก็เจอพวกของเอ็ง”

 

“ไม่เป็นไรครับ แค่นี้ก็ถือว่าช่วยชีวิตพวกผมมากแล้ว ไว้จะกลับมาหานะครับ” ตี๋พูดขึ้น

 

“หวังว่าจะกลับมาถูกนะ พระคุ้มครองพวกเอ็ง ต่อไปนี้ก็จะเจอแต่ความสุข กรรมเอ็งหมดกันแล้วนะ” พ่อใหญ่พูดจากแปลก ๆ ผมมองหน้าไอ้นาวเมื่อมันก็คิดแบบเดียวกัน

 

เราสามคนเดินออกมาตามทางที่พ่อใหญ่บอก เมื่อเห็นร่างพ่อเดินมาทางนี้ผมวิ่งเข้าไปกอดร้องไห้เลย พรานที่เดินนำทางมาเหลือบมองไปทางด้านหลังพวกผมลูบแขนตัวเองขนลุกซู่

 

“มีอะไรหรือเปล่าพราน” พ่อพี่ตี๋ถาม ผมยังกอดพ่อแน่นไม่ปล่อย

 

“เขามาส่งถึงที่เลยนะ สงสัยจะห่วง”

 

“ครับ?” อะไรวะ ผมหน้าเหวอกันทุกคน

 

“เราออกจากที่นี่กันเถอะคุณ แล้วผมจะเล่าให้ฟัง”

 

เราทั้งหมดเดินตามพรานออกมาจากป่าจนได้ ทางลึกลับซับซ้อนมากครับ ไอ้นาวมันบอกว่าตอนเข้ามามันดูสั้น ๆ ทำไมตอนออกมันยาวนานจัง คือมันเดินมั่วมากจริง ๆ มาถึงที่พักก็พากันหลับเป็นตายกองรวมกันอยู่ในห้อง ตกเย็นออกมาหาอะไรกินกันที่ในตัวเมือง พรุ่งนี้เข้าค่อยกลับครับ

 

“พ่อ ตกลงพรานเขาเล่าไรให้พ่อฟังอ่า” ผมที่นั่งข้างคนครับหันมาถามที่นั่งอยู่เบาะหลังกับไอ้พี่ฟิน พี่พัดมันอาสาขับรถให้ครับ

 

“พ่อกลัวแกนอนไม่หลับล่ะสิ ไว้กลับถึงบ้านก็ไปถามเอาจากแฟนแกแล้วกันนะ ใช่ไหมฟิน” พ่อหันไปทางพี่ฟิน ฟินมันไหวไหล่ทำหน้าสยอง

 

“ดีแล้วมึงหลับไอ้ฟาง อยากรู้เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังตอนถึงบ้าน อย่าสงสัยเลย เข้าใจไหมไอ้น้อง” ฟินมันเอื้อมมือมายีหัวผมจนยุ่ง

 

“อะไรวะ พี่ฟินขี้งก”

 

“กูงกอะไร แม่โทรมาด้วยเมื่อคืน วันนี้ก็โทรกลับด้วยล่ะ” ผมลืมเลย หยิบโทรศัพท์ต่อสายหาแม่ที่อยู่บ้านไอ้พี่ตี๋กับแม่ไอ้ฟางและลูกน้องอีกเพียบ

 

………………………………………………………….

 

ฟิน

 

ผมเหม่อมองไปข้างหน้าเห็นเพียงหลังไอ้ฟางที่โผล่พ้นออกมาจากเบาะรถ กลัวแค่ไหนตอนเห็นมันโดนยิง เจ็บแค่ไหนที่รู้มันล่วงลงไปจากผาน้ำตก ไม่อยากบ่นไม่อยากดุเหมือนตอนมันทำผิด เพราะครั้งนี้ไอ้ฟางมันเจ็บและจำได้ดี เข้าใจความรู้สึกของมันทุกอย่าง เพราะถ้าเป็นผม

 

ผมก็ไม่ยอมให้คนที่รักเป็นอะไรไป

 

“น้องโตขึ้นมากแล้วนะฟิน” พ่อรู้ผมคิดอะไร ฟินเอนหัวซบไหล่พ่อ

 

“แต่ฟินยังห่วง น้องชอบทำอะไรไม่คิด” พูดเสียงเบากลัวมันจะได้ยิน ดีที่ไอ้พัดมันเปิดเพลงคลอ ไอ้ตีวดีก็โยกหัวเข้าจังหวะไม่ได้สนใจอะไร

 

“เราคอยนำทางอยู่ตลอดเวลาไม่ได้หรอกลูก ให้น้องหัดเดินเองบ้าง จะได้เรียนรู้ว่าสิ่งไหนที่น้องควรทำ สิ่งไหนควรจะแก้ไข อย่าคิดมาก” พ่อยังคงใจดีเสมอ ผมนอนซบอยู่แบบนั้นจนไอ้พัดเหลือบมองผ่านกระจกทำหน้าดุ กับพ่อมึงก็ยังไม่เว้นนะ ผมแลบลิ้นให้ มันพยักหน้าน้อย ๆ เหมือนว่ากลับไปผมเจอมันจัดการแน่

 

………………………………………………………….

 

ดิน

 

พรุ่งนี้เรากำลังจะเดินทางกลับบ้านกัน เรื่องที่พ่อไอ้ตี๋เล่าให้ฟังมันโคตรจะน่ากลัว ผมนอดกอดติ้วไม่ยอมปล่อย ตอนนี้ติ้วจะไปเข้าห้องน้ำไปก็ขอเข้าไปด้วยอย่างที่ไม่เคยจะเป็น

 

“พี่ดินครับ พี่เข้ามาแล้วผมจะกล้าฉี่ได้ยังไง” ติ้วแกะมือผมที่พันรอกเอวออก ตรงนั้นโป่งพองจะออกเต็มที่

 

“งั้นขอยืนอยู่ตรงนี้ได้ไหม” ผมต่อรอง

 

“พี่ไม่น่าจะเป็นคนกลัวผีนะ”

 

“ว่าพี่! คนเรามันก็กลัวไม่เหมือนกันป่ะ ไม่รู้ล่ะ ติ้วไปไหนพี่ไปด้วย” ผมกอดอกยืนกรานไม่ไปไหน ติ้วหันหน้าไปธุระ ผมหันหลังให้ไม่อยากจะมอง เดี๋ยวเกิดไปเห็นอะไรเข้าเขินอีก

 

หมับ

 

“น้องผมมันไม่ได้เจอพี่นานแล้วนะ ขอนะ นะครับ” แขนติ้วโอบรอบเอาของผมดึงไปหลังประชิดแผ่นอกกว้าง ส่วนแข็งขืนดุนดันบั้นท้ายผมส่ายไปมา ผมพลิกตัวมาวาดแขนไว้บนคอติ้ว

 

“อุ้มดินสิติ้ว ดินชอบที่นิ่ม ๆ ในนี้มันแข็งไป” ติ้วเจอโหมดดินน้อยเข้าไปยิ้มแป้น ได้เวลาที่เขาจะเป็นเสือร้ายบ้างแล้ว เวลาเงินเวลาทองเลยตอนนี้

 

ติ้วยกผมตัวลอย ผมเห็นสายตาหื่นจ้องมาก็อ่อนเองไปตามนิสัย คือเวลามีอารมณ์ทั้งคำพูดและการกระทำของผมมันจะไปในทิศทางตรงข้ามกับแบบทั่วไปเลย แต่ก็เป็นเฉพาะกับติ้วครับ เหมือนอยากอ้อนอยากเอาใจน้องมัน อยากให้มันรักเราแค่คนเดียว

 

“อื้อ~ แรงไป โอ๊ย!! อดอยากมาจากไหนติ้ว ฮึก อ้า อ้า…” ติ้วเคลื่อนไหวร่างกายคร่อมร่างผมไม่บันยะบันยัง ทั้งร้องไห้ทั้งเสียวปะปนกันไป น้ำตาเล็ดออกมาเมื่อเราจบกิจกรรมสำหรับคืนนี้ ติ้วพาผมไปอาบน้ำก่อนจะพากันเข้านอน

 

……………………………………………………………………………………

 

ตี๋

 

ผมกลับมาคอนโดตอนสายของวัน รับรู้ข่าวเรื่องครอบครัวไอ้เพก็พากันใจหาย ชีวิตคนเรามันไม่แน่ไม่นอนจริงครับ ถ้าไม่ได้ลุงผู้ใหญ่กับชาวบ้านพวกผมก็คงตายกัน ถึงแกจะไม่ใช่คนก็ตาม

 

“ฟาง เลิกกลัวได้แล้ว ลงจากรถครับ แล้วช่วยพี่ขนของขึ้นห้อง” ไอ้ฟางสะดุ้งเมื่อผมเอามือไปแตะตัวมัน

 

“ห่าตี๋กูตกใจหมด เออ ๆ ลงแล้ว” ปากมันแม่ง พูดดี ๆ ไม่เคยจะได้

 

“ตี๋ เราไปทำบุญกันไหม” ฟางถามระหว่างทางเดินไปห้อง ผมเหล่มอง

 

“เข้าวัดจะไม่ร้อนเหรอ โอ๊ะ เจ็บนะเว้ย”

 

“ชอบกวนตีน กูหาผัวใหม่แม่ง” ไอ้ฟางมันจับลูกบิดเปิดประตูเข้าไป ผมวางของลงถีบไอ้ฟางกลิ้งไปนอนบนโซฟา ไอ้ฟางมันเบิกตาจ้องผมหาเรื่อง

 

“อ้อนมืออ้อนเท้ากูตลอด ไหนขอดูหน้าเมียแรด ๆ หน่อยสิครับ” ผมบีบคางมันแน่นจนมันเบ้หน้าจะหนี

 

“อูเอ็บ” ฟางเค้นเสียงพูดอู้อี้

 

“มึงไปหาคนอื่นไม่ได้หรอกไอ้ฟาง ขืนมึงทำกูจะลากมึงกลับมา จับมึงขังแล้วจะเอาจนกว่ามึงจะไม่มีแรงหนี หืม มึงว่าดีไหม” ฟางส่ายหน้า ผมยิ้มเยาะแค่แกล้งขู่มันเล่น ๆ

 

“โรคจิต ผัวโหดแบบมึงหายากชิบหาย รักนะไอ้สัส เข้าใจป่ะ” ตกลงมันด่าหรือบอกรักผมวะ ไอ้เมียเหี้ยก็ชอบทำกูไปไม่เป็นตลอด

 

ผมลูบหัวมันอุ้มแม่งมาวางบนตัก ตัวก็หนักนะแต่ผมอุ้มไหวอยู่ ก็ไอ้ฟางมันผู้ชายตัวเล็ก ๆ ที่ไหน มันสูงโปร่งมีกล้ามกำลังพอดี ทุกวันนี้สาว ๆ ก็ยังคงมองมันอยู่ ทำผมขึ้นทุกรอบแม่ง

 

“มึงทำยังไงวะ กูถึงทั้งรักทั้งหลง” ผมงับหูมันเลียเบา ๆ ฟางย่นคอเอนหลังมาพิงอกผม

 

“ทำขนาดนี้ก็เอากูเหอะ”

 

“แล้วก็ไม่บอก” ผมล้วงมือเข้าไปในกางเกงขาสามส่วนของมันกอบกุมก้อนนิ่มสองข้างบีบเต็งฝ่ามือ รู้สึกจะเลี้ยงดีไปมาก เดี๋ยวนี้จะจับตรงไหนก็ล้นมือ ทำเอาเวลาขย้ำรู้สึกสนุกเข้าไปใหญ่

 

ผมตื่นขึ้นมาอีกทีก็ตกห้าโมงเย็นสิบกว่านาที ตบข้างเตียงไม่เจอไอ้ฟางลุกพรวดหาเสื้อมาคลุมตัวเดินออกไปข้างนอกห้องนอน มีโน้ตแปะอยู่ว่าลงไปร้านค้าข้างล่าง เปิดตู้เย็นมาก็เข้าใจว่าขนมมันหมด กลับเข้าไปในห้องอาบน้ำรอมันกลับขึ้นมา

 

“นานไปไหมวะ คงไม่ไปจีบใครอยู่นะไอ้สัส” ผมองเวลาที่ข้อมือทนไม่ไหวหยิบกระเป๋าเงินกับโทรศัพท์และคีย์การ์ดลงไปร้านค้าข้างล่าง เจอไอ้เมียตัวแสบยืนหล่อม่อสาวอยู่

 

“ต้องทาก่อนนอนใช่ไหมครับตัวนี้” เสียงฟางถามพนักงานสาวหน้าตาจริงจัง มือหยิบกล่องครีมที่เพิ่งคิดเงินขึ้นมา ตอนนี้ลูกค้าไม่ค่อยมีเธอจึงยืนตอบข้อสงสัยของฟางได้ แต่ตี๋เข้าใจไปอีกอย่างน่ะสิ ไม่รู้เลยว่าที่ฟางสนใจคือใบหน้าของสาวสวยพนักงานที่เนียนจนต้องเอ่ยถามเคล็ดลับ

 

“ใช่ค่ะ ตัวนี้….”

 

“เสร็จรึยัง!! จะยืนคุยกันอีกนานไหม” ผมเดินมายืนซ้อนหลังมันใบหน้าเหี้ยม ไอ้ฟางสะดุ้งไหล่โยกของในมือแทบร่วง มันหันมามองค้อน

 

“หลายรอบแล้วนะมึง” ฟางบ่นหันไปกลับไปทางพนักงานต่อ “แล้วยังไงต่อครับ” พนักงานสาวสีหน้าไม่ดี เจอสายตานิ่งดุของตี๋เข้าไป

 

“คือว่าข้างกล่องมีอธิบายอยู่ค่ะ ไม่เข้าใจอะไรไว้มาถามใหม่นะคะ” ฟางพอเข้าใจว่าเธอเป็นอะไร พยักหน้ากล่าวขอบคุณก่อนจะเดินหนีตี๋ออกมา ตี๋บิดหูฟางเมื่อพ้นประตูร้านค้า

 

“มันเป็นยังไงวะชอบขัดใจกูเนี่ย มึงอยากตายใช่ไหมไอ้เมียเหี้ย กูจะได้เอาให้ตาย” ฟางหน้าไม่ดี อายก็อาย มีคนไม่น้อยที่มองมาทางเขาแล้วยิ้ม ๆ แต่กับบางคนก็มองสงสัยคิดว่ามีเรื่องกัน

 

“เจ็บครับเจ็บ ฟางไม่ได้นอกใจเลย ฟางแค่ถามว่าใช้ครีมอะไรถึงหน้าเนียนใส สาบานเลย! ไม่ได้นอกใจครับ” ต้องพูเสียงอ่อนเสียงหวานสยบมารอย่างตี๋

 

“ครั้งนี้รอดไปนะ รออยู่ตรงนี้จะไปเอารถมารับ กูหิวจนจะแดกมึงได้แล้วเมีย” ที่แท้ก็โมโหหิว ฟางคิดในใจทำปากขมุบขมิบ ตี๋เดินหายไปทางลานจอดรถ มีผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่ชั้นเดียวกับห้องตี๋เดินมาคุยกับฟาง คิดว่าตี๋เป็นเพียงพี่ที่หวงน้องชาย เมื่อได้โอกาสจึงใจกล้ามาคุยด้วย

 

“เราอินนะ อยู่ห้องxxx วันนี้ไม่ไปไหนกับพี่ชายเหรอครับ” ฟางทำหน้างงคิดว่าถามถึงฟิน

 

“ฟินมันก็อยู่บ้าน นายรู้จักเราด้วยเหรอ”

 

“อืม ฟางน่ารัก อินจำได้ ถ้าไม่รังเกียจอินขอเลี้ยงข้าว…”

 

“ขึ้นรถ!!” เสียงตี๋ตะโกนดังมาจากในรถที่จอดรอเมื่อกี้ ฟางหน้าซีดก้มหัวขอโทษอิน

 

“พี่โหดจังเลยนะ” อินยังไม่รู้ตัวยืนเกาท้ายทอยเก้อ

 

“หา ไม่ใช่พี่ นั่น…” ฟางกำลังจะตอบตี๋ก้าวลงมาจากรถกำข้อมือฟางเอาไว้บีบเบา ๆ

 

“ผัวมารับแล้วยังยืนคุยอะไรกันอีกครับ พี่ไม่ชอบรอนาน ๆ ไม่รู้เหรอฟาง หืม” อินอ้าปากค้าง ฟางก้มหน้างุดอาย

 

“อืม ตามนั้นนะ ไม่ใช่พี่แต่เป็นผัวอะครับ แฮ่ ๆ”

 

“ขะ ขอโทษครับ ผมไม่รู้” อินรีบก้มหัวเอ่ยขอโทษ ตี๋มองอินนิ่งพูดเสียงเรียบ

 

“ตอนนี้ก็รู้แล้วนะ ถ้ามีอีกเราคงไม่ต้องพูดกันให้มากความ ไป! ชอบทำให้กูหึงนะมึง” ตี๋บ่นลากฟางไปขึ้นรถก่อนจะขับออกไป

 

“ยิ้มได้แล้วตี๋น้อย ยิ้มมม” ฟางจับแก้มของตี๋ฉีกยิ้ม ตอนนี้เราอยู่ที่ร้านอาหารในห้าง นาน ๆ พามันมากินที

 

“มีคนมาจีบเมียกู จะให้กูยิ้มไงวะ” ผมคีบอาหารเข้าปากหน้างอ

 

“ไม่เอาน่า ฟางรักตี๋คนเดียวนะ ไม่งอนดิ ยิ้มเร็ว” ฟางยิ้มกว้างแล้วให้ผมทำตาม ผมเกือบขำออกมาแกล้งงอนมันต่ออีกหน่อย ชอบเวลามันง้อ น่ารักและปัญาอ่อนดี

 

“ถ้ามีคนมาจีบมึงอีก มึงต้องพูดว่าอะไร แล้วบอกรักพี่ต้องทำไงครับฟาง” ผมทวนถาม ไอ้ฟางมันเขินกัดริมฝีปากพูดอู้อี้

 

#$%$^&^%”

 

“พูดดี ๆ ฟาง ถ้าไม่อยากให้พี่โกรธ”

 

“ก็มันอายอ่ะแม่ง” ผมนั่งเท้าคางกดดันมัน ไอ้ฟางแม่งน่ารักชิบหาย

 

….ครับ ….#$%$^%” ฟางมันพูดอู้อี้ ผมถอนหายใจทำท่าจะลุก

 

“เดี๋ยวดิแม่ง ตี๋ ๆ เออ! ยอมแล้ว ๆ” ผมเดินมาได้ก้าวเดียวไอ้ฟางก็พูดเรียกไว้ ผมหมุนกลับมานั่งที่เดิม ไอ้เหี้ยที่จ้องขาอ่อนเมียผมก็ยังคงมองอยู่เช่นกัน

 

“พูดมากูจะเก็บไว้ดู” ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาตั้งกล้องเตรียมถ่าย ไอ้ฟางหน้าบึ้งปนเขิน มันสูดหายใจลึก ๆ บีบมือกุมแน่น

 

“ฮึบ สู้เว้ย…พี่ตี๋ครับฟางรักพี่ตี๋นะ จะไม่ดื้อไม่ซนอีกแล้ว จะยอมเชื่อฟังทุกอย่างและไม่มองไม่สนใจใครอีก ถ้าฟางทำให้พี่ตี๋หึงอีกฟางจะ…เออ…จะยอมให้พี่อึ๊บกี่ทีก็ได้ ฮือ กูไม่เอาแล้ว ไม่พูดแล้ว”

 

“ฟาง”

 

“จะ จะ…จะรักพี่ตี๋มากกว่าไอ้ท๊อฟฟี๊ ถ้าใครมาจีบจะบอกว่าผัวโหดมาก หึงแรงมาก ห้ามจีบ พอแล้วๆ กูอายเหอะตี๋ เลิกถ่าย ห้ามเอาลงด้วย กูจะตบมึงเลยอะ” ผมหัวเราะไม่คิดจะเอาให้ใครดูอยู่แล้ว ตอนมันพูดไปเขินไปโคตรน่ารัก ผมหลงจนหาทางออกไม่เจอแล้วครับ

 

“ยื่นมือมา เร็ว ๆ” ผมขู่เสียงเข้ม ไอ้ฟางทำหน้าระแวงแต่ก็ยื่นมา ผมหามุมตั้งกล้องเอาไว้ให้เห็นมือเราสองคน หยิบแหวนเกลี้ยงสองวงขึ้นมา หนึ่งวงสวมให้ไอ้ฟางที่ทำท่าจะร้องไห้ อีกวงยื่นให้มันสวมให้ผม

 

“กูเกินคำว่ารักมึงไปแล้วไอ้แสบ น่ารักให้น้อย ๆ หน่อย กูจะได้ไม่หึงบ่อยนะครับ ตี๋รักฟางนะ” ผมจับมือเราข้างที่สวมแหวนยืนไปทางกล้องให้เห็นชัด ๆ กดหยุดเก็บใส่กระเป๋าบันทึกเรียบร้อย

 

“หมั้นแล้วนะไอ้เมียแสบ มึงแรดไม่ได้แล้วรู้ตัวด้วย แค่นี้พอใจไหม กูอยากรีบหมั้นไม่มีเวลาเตรียมงานว่ะ ไว้จะไปขอต่อหน้าพ่อแม่อีกที”

 

“พอแล้วครับ แค่นี้ฟางก็ดีใจแล้ว รักตี๋นะ” เราต่างก็เข้าใจว่าหลังจากเกิดเรื่องเวลาของพวกเราก็ไม่ค่อยจะว่างกันเลย ผมว่าวันนี้เป็นวันดีมากด้วย เพราะเป็นวันเกิดไอ้ฟางมัน ก็บอกมันตรง ๆ นั่นแหละว่าจะซื้อเค้กให้ และพามันไปซื้อของที่อยากได้ มันเล่นผมเกือบหมดตัว ก่อนจะแอบกดเงินคืนผม แต่ผมไม่เอาหรอก อยากเลี้ยงมันมากกว่า

 

ชีวิตพวกผมแม่งไม่มีห่าอะไรเลยนะให้ตาย วัน ๆ ไม่กัดกันก็หวานซะจนห้องข้าง ๆ แซว คือรักกันแรงไปหน่อยครับ วันนั้นเล่นหน้าประตูเลยไงเสียงเลยออกไปข้างนอก ไอ้ฟางมันก็กวนตีนขึ้นทุกวัน ผมถีบมันไม่รู้วันละกี่รอบ แค่ถีบเล่น ๆ ไม่ถึงจริงจัง เราจะไม่ทำร้ายร่างกายกันครับ ยกเว้นตอนชูปี้ชูปี้ เจ็บแค่ไหนไอ้ฟางก็ยอม มันพูดนะเว้ยผมเปล่า ส่วนไอ้ฟินไอ้พัดมันก็ยังเหมือนเดิม ไอ้พัดยอมเมียมันเหมือนเดิม ไอ้ดินมันก็ยังคงโหดกับผัวเด็กมันทุกวัน แต่ได้ยินไอ้ติ้วมันแอบกระซิบว่าพี่ดินขี้อ่อย อยู่บนเตียงน่ารักอย่างกับแมว ผมนึกภาพไม่ออกว่ะ

 

“ตี๋นอน กูง่วง!!!” ต้องรีบพับโน้ตบุ๊กคอย่างไว ไอ้ฟางเวลางอแงแม่งสุดตีน งานไม่สำคัญเท่าเมีย ผมใช้เวลาว่างที่เหลืออยู่กับไอ้ฟางไม่ห่าง ให้ตายยังไงผมก็ไม่ไปไหน มีงานไปต่างประเทศผมเลี่ยงหมด เข้าขั้นติดเมียอย่างที่พ่อบอกนั่นแหละ ตัวผม ชีวิตของผม ทำอะไรที่สบายใจก็ทำ ไม่แคร์ไม่สนอะไรทั้งสิ้น

 

กูติดเมียใครจะทำไม ฮ่า ๆ เพื่อนผมมันรู้กันทั่วเลยไม่ค่อยจะชวนผมไปไหนไง เพราะรู้ว่าไปไหนผมหิ้วไอ้ฟางไปด้วยตลอด แม่งก็โหดพอกับผมแหละ หึงขึ้นมากระทืบผมยับ

 

“กูเรียกเป็นรอบที่สองแล้วนะ!!”

 

“ไปแล้วนี่ไง เก็บของเข้าที่ก่อน” ผมตะโกนกลับไป หน้าเริ่มเหวี่ยงมือเริ่มเท้าสะเอวจ้องหน้าผม

 

“เร็ว ๆ กูง่วงนะแม่ง ง่วงเนี่ย!!”

 

“ครับ ๆ มาแล้ว ๆ นอนกัน” ผมโอบไหล่มันเดินเข้าห้องนอน ไอ้ฟางจุ๊บปากผมก่อนจะซุกเข้ากอดผมหลับตานอน

 

“ฝันดีเมีย” ผมจุ๊บผมนิ่มของมันกอดเอวมันรั้งเข้าหาตัวให้ชิดมาขึ้น ก่อนเราทั้งคู่จะหลับไป

 

 

 

TBC.

 

ม่อนติดสอบยาวมาก ยังสอบไม่เสร้จนะจ๊ะ นี่เอาเวลาอ่านหนังสือมาปั่นนิยาย 5555 

ขอลงตอนนี้เลยนะ ม่อนจะกลับบ้านจ้า รอสอบเสร็จจะปั่นยาว ๆ ให้อีก 

ง่วงมากกกกแก ใครบ่นจะทุบให้ ม่อนไม่ได้นอนมาหลายคืนเลยนะเฮ้ย 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา