จำนนเสน่หาแบดบอย

3.7

เขียนโดย ศิริพารา

วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 21.04 น.

  21 ตอน
  0 วิจารณ์
  19.00K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 22.11 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) จำนนเสน่หาแบดบอย ตอนที่ 3 100%

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บนเกาะส่วนตัวแห่งหนึ่งของหมู่เกาะสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน

ปราสาทสไตล์บาร็อกสีเขียวอมฟ้าเฉดที่อ่อนที่สุดตัดกับหลังคาสีเขียวขี้ม้า สูงเพียงสองชั้นหากไม่นับรวมชั้นใต้ดินอีกชั้นหนึ่ง ล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่ด้านหลังตัวปราสาท ด้านหน้าเป็นสวมหย่อมไม้ประดับตัดเป็นรูปทรงต่างๆอย่างสวยงาม เป็นระเบียบ หากมองออกไปในระดับสายตาเวิ้งทะเลสาบซึ่งมีเรือยอร์ชจอดลอยลำถัดจากสวนหย่อมไปนั้น แท้จริงแล้วเวิ้งทะเลสาบนั้นคือด้านหน้าของเกาะที่ตั้งอยู่ในทะเลสาบแมลาเริน2

การแล่นเรือยอร์ช ตกปลาเฮริงเป็นกิจกรรมยามว่างที่เจ้าของเกาะแห่งนี้โปรดปราน หากเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงของเขาดูเหมือนจะน้อยนิดหากต้องเจียดไปทำกิจกรรมโปรดเพราะต้องใช้เวลาอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เฝ้ามอง วิเคราะห์ และสั่งการให้ทีมโบรกเกอร์ช้อนซื้อหุ้นที่น่าสนใจหรือเทขายหุ้นที่จะทำกำไรให้เขาอย่างมหาศาล เขาแม่นยำในการวิเคราะห์ ดุดัน กระหายในชัยชนะไม่ต่างจากไฮยีน่าล่าเนื้อ

แน่นอนว่าฉายา ‘พ่อมดทางการเงิน’ ที่สื่อทั่วโลกกล่าวอ้างถึงเขานั้นไม่ได้ได้มาเพราะการล็อบบี้หรือใช้เงินตราบันดาลมาแต่อย่างใด หากเขาคือนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ มั่งคั่งที่สุดจนติดหนึ่งในห้ามหาเศรษฐีโลก นักลงทุนหรือผู้ที่คร่ำหวอดในวงธุรกิจ ตลาดหลักทรัพย์ ทั้งทีมวางแผนเศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจยังต้องหยุดแล้วรอดูท่าทีของเขา การวิเคราะห์ดัชนีแต่ละตัวอย่างถึงแก่น มันสมองอัจฉริยะนั้นทำให้เขากลายเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลต่อแวดวงธุรกิจโลกคนหนึ่ง

เจ้าของรองเท้าหนังมันวาวที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้านี้ทำให้โยวันละสายตาจากหนังสือพิมพ์รายวันท้องถิ่นแล้วมองเจ้านายด้วยความประหลาดใจ เพราะคิดว่าลินเนอุสควรจะต้องพักผ่อนหลังจากที่เพิ่งเดินทางข้ามโลกมาถึงปราสาทหลังงามไม่เต็มชั่วโมง หรือไม่เจ้านายก็น่าจะรอคอยการมาเยือนของผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่ใช่แต่งตัวเนี้ยบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเตรียมตัวที่จะออกไปข้างนอกเช่นภาพที่เห็นตรงหน้านี้

สีหน้าประหลาดใจของโยวันทำให้เขาสอดมือเข้าไปในกางเกงสแล็ก มองหน้ากลับอย่างไม่ชอบใจนัก “นายควรจำใส่ใจไว้ว่าอย่าใช้สายตาแบบนี้กับฉันบ่อยนัก มันทำให้ฉันอารมณ์เสีย”

“ก็ผมแปลกใจจริงๆ” โยวันบอกด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ รู้ว่าคำพูดนั้นเป็นการเตือนของเพื่อนเสียมากกว่าเจ้านายกำลังตำหนิลูกน้อง “ผมนึกว่าคุณหลับไปแล้วหรือไม่ก็...”

ลินเนอุสยกนิ้วชี้แล้วส่ายไปมาเป็นเชิงห้ามแล้วลดลงกลับมาสอดไว้ในกระเป๋ากางเกงเช่นเดิม รู้ล่ะว่าโยวันคิดว่าเขาต้องรอพบพิลาสินีอย่างใจจดใจจ่อ แต่สิ่งแรกที่เขาจะสอนเธอให้รู้ซึ้งก็คือการรอคอยใครสักคนนั้นมันทรมานแสนสาหัส!

“ฉันมีนัดทานมื้อเย็นกับโดโรเธีย” ลินเนอุสบอกด้วยสีหน้าราบเรียบ ขณะที่คนฟังกลับเบิกตากว้าง ผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว

“ทั้งที่เธอกำลังจะมาถึงในอีกไม่เกินสองชั่วโมงนี้น่ะเหรอครับ?!” โยวันถามเร็ว แต่เมื่อเห็นท่าทางของเจ้านายก็เริ่มเข้าใจในทันที

ลินเนอุสไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ เธอเป็นคนที่ต้องการความช่วยเหลือก็ควรจะเป็นคนที่รอเขาด้วยเช่นกัน หากคนมองกลับอมยิ้มอย่างรู้ทัน ทั้งไม่คิดว่าผู้ชายที่ไม่ใส่ใจกับเรื่องความรู้สึกของผู้คนรอบกายนักจะคิดอยากเอาคืนกับเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ ยังจำรอยยิ้มพรายอย่างพึงใจ เมื่อเข้าไปรายงานว่าพิลาสินีกำลังเดินทางมาที่นี่ คนที่กำลังงัวเงียเพราะนอนน้อยกลับหูตาสว่าง เปิดยิ้มพึงใจที่ไม่เคยได้เห็นมาตลอดระยะเวลาห้าปีแม้ว่าหลังจากนั้นจะทำเป็นไม่สนใจ หยิบนิตยสารที่วางอยู่ใกล้มือขึ้นมาอ่านก็ตามที

“ถ้าเธอไม่รอหรืออาจรอไม่ไหว กลับประเทศไทยไปก่อน ผมคงรั้งเอาไว้ไม่ได้นะครับ อีกอย่างผมทราบมาว่าเธอซื้อตั๋วขากลับกลางดึกของวันนี้ด้วย” สาบานว่าเขาเห็นสีหน้าตกใจของเจ้านายแวบหนึ่ง จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นราบเรียบราวกับไม่ใส่ใจเช่นเดิม

“ตามใจสิ ถ้ารอไม่ได้จะปล่อยให้บริษัทล้ม ฉันก็ช่วยไม่ได้” แม้ในใจจะนึกตำหนิตัวเองว่าน่าจะส่งตั๋วทั้งไปและกลับให้เธอได้อยู่ที่นี่สักสัปดาห์ แต่กลับเลือกพูดในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับใจ

“เฮ้อ... เขาว่ากันว่าจิตใจของผู้หญิงลึกล้ำกว่ามหาสมุทร ถึงแม้ผมจะไม่เห็นด้วยสักเท่าไหร่แต่ก็คิดว่าหุ้นบางตัวยังเดาทางได้ง่ายกว่าหัวใจผู้หญิงบางคน”

ยอมรับล่ะว่าคำพูดของโยวันทำให้หัวใจกระตุกวาบ การคาดเดาจิตใจของพิลาสินีนั้นเป็นสิ่งเขาพลาดไปถนัดตา และหลังจากครั้งนั้นก็ไม่เคยคิดจะใส่ใจกับความรู้สึกของผู้หญิงหน้าไหนอีก แต่ตอนนี้ถึงเวลาที่เขาจะได้สอนให้เธอเรียนรู้กับความรู้สึกทรมานที่เกาะกินหัวใจมาตลอดเวลาห้าปี คำเตือนของโยวันจึงไม่อาจเปลี่ยนการตัดสินใจได้ “ฉันควรเชื่อคนกลัวเมีย?”

โยวันเบิกตากว้างมองแผ่นหลังกว้างของเจ้านายที่เดินห่างออกไป แต่ก็หยุดชะงักด้วยคำพูดประโยคเด็ด “อย่างน้อยผมก็มีผู้หญิงคนหนึ่งหลงรักหัวปักหัวปำ ไม่ต้องครองตัวเป็นโสดให้เปล่าเปลี่ยวหัวใจเหมือน...”

“พูดจาเลอะเทอะเข้าทุกวัน” โต้กลับโดยไม่หันกลับมาสบสายตาคนข้างหลัง จากนั้นก็เดินออกมาจากปราสาทหลังใหญ่ที่เขาสร้างขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรง สวนหย่อมที่จัดด้วยพันธุ์ไม้ชนิดต่างๆถูกตัดกิ่งก้านอย่างเรียบร้อย หากเป็นฤดูใบไม้ผลิเขาจะได้เดินผ่านทุ่งดอกบลูเบลล์ สีม่วงกลิ่นหอมที่ทำให้นึกถึงเธอทุกครั้ง แต่ตอนนี้ข่าวการมาเยือนของเธอก็ทำให้เขาสำราญอารมณ์ได้เป็นอย่างดี

ลินเนอุสเดินตรงไปยังด้านหน้าของเกาะซึ่งมีเรือเฟอร์รี่ส่วนตัวจอดเทียบท่ารออยู่ก่อนแล้ว อากาศราวสิบสององศาเซลเซียสในฤดูใบไม้ร่วงเป็นอุณหภูมิที่พอเหมาะสำหรับร่างกาย เขาหลับตารับเอาความรู้สึกในยามที่สายลมปะทะเข้ามาในขณะที่เรือลอยเหนือพื้นทะเลสาบ วันดีๆที่ได้ละสายตาจากกระดานหุ้น แม้ว่าทั้งวันจะไม่มีเม็ดเงินจำนวนมหาศาลไหลเข้าในบัญชีแต่จิตใจของเขากลับเป็นสุขได้อย่างไม่น่าเชื่อ

‘ผมรอคุณมาเกือบสองพันวัน ให้มันรู้กันไปว่าคุณจะรอผมไม่ได้แค่ครึ่งวัน’ ลินเนอุสคิดในใจและหมุนตัวเดินไปยังซูเปอร์คาร์สุดหรูที่จอดสนิทอยู่บนเรือ

พ่อมดทางการเงินสอดตัวเข้าไปประจำที่นั่งคนขับและบังคับมันให้เคลื่อนที่ออกไปเมื่อเรือเฟอร์รี่จอดเทียบท่า มีผู้คนมากมายที่ต้องใช้บริการของบริษัทเดินเรือเอกชนจากสตอกโฮล์มไปยังหมู่เกาะต่างๆในทะเลสาบแมลาเริน หากนั่นไม่ใช่การดำเนินชีวิตของมหาเศรษฐีติดอันดับโลกอย่างลินเนอุส คอนราดสัน

 

 

ในขณะที่คนหนึ่งนึกสนุกกับเกมแห่งความทรมานใจ อีกคนกลับว้าวุ่นใจเมื่อก้าวเดินอยู่ในสนามบิน คพิลาสินีก้าวตามผู้ชายที่ยืนถือป้ายชื่อของตนตรงหน้าประตูทางออกและแนะนำว่าชื่อโยวัน เป็นคนสนิทคนเดียวกับที่ส่งตั๋วเครื่องบินให้เมื่อหลายวันก่อน

อุณหภูมิสิบสององศาเซลเซียสด้านนอกอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศของสนามบินสตอกโฮล์ม-อาลันดานั้นโหดร้ายเป็นอย่างมากสำหรับคนขี้หนาวทั้งอาศัยอยู่ในเขตภูมิอากาศร้อนจนเคยชิน หญิงสาวกระชับเสื้อโค้ชตัวยาวและผ้าพันคอผืนหนา ฝืนตัวก้าวเดินตามชายร่างใหญ่ที่เปิดประตูรถยนต์คันใหญ่ออกกว้าง

        “เชิญครับ” โยวันเอ่ยและปฏิบัติต่อเธอด้วยความสุภาพ

พิลาสินียิ้มรับและก้าวเข้าไปในนั่งในรถคันหรูแบรนด์สวีเดนที่ขึ้นชื่อในด้านความปลอดภัยที่สุดในโลก อดชื่นชมความงดงามของมันไม่ได้ หากเสียงห้าวที่ดังขึ้นทำให้ละสายตาจากเบาะหนังที่ตัดเย็บอย่างประณีต

“ดีใจที่คุณไม่ปฏิเสธคำเชิญของเรานะครับ เดี๋ยวผมจะพาไปรอที่เกาะส่วนตัวของท่าน” เมื่อรถยนต์เคลื่อนตัวไปได้สักระยะหนึ่ง โยวันจึงเอ่ยทักทายหญิงสาวที่นั่งเงียบอยู่ด้านหลังด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงไม่ต่างจากเจ้าของภาษา

“ดิฉันมากกว่าที่ต้องขอบคุณสำหรับโอกาสในครั้งนี้ เอ่อ...” พิลาสินีลังเลใจอยู่ชั่วครู่เมื่อได้ยินคำพูดประโยคหลัง “มิสเตอร์คอนราดสันรออยู่ที่นั่นเหรอคะ”

“ตอนนี้ท่านเข้ามาทำธุระส่วนตัวนิดหน่อยครับ คิดว่าไม่นานคงกลับไปที่เกาะ” โยวันบอกโดยไม่ลงรายละเอียดนักและถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อหญิงสาวที่นั่งอยู่ด้านหลังรับคำสั้นๆ และหันออกไปมองสิ่งแวดล้อมข้างทางด้วยความสนใจ

สภาพแวดล้อม บ้านเรือนแปลกตา ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยสร้างความเพลิดเพลินให้พิลาสินีได้ไม่น้อย ระยะทางจากสนามบินสตอกโฮล์ม-อาลันดาถึงท่าเทียบเรือเฟอร์รี่จึงรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อรถยนต์คันใหญ่แล่นเข้ามาจอดในเรือเฟอร์รี่โดยไม่ต้องใช้บริการเดินเรือหรือกระทั่งท่าเทียบเรือของเอกชน เธอจึงตระหนักถึงความร่ำรวยของผู้ชายที่ชื่อลินเนอุส คอนราดสัน

เกาะส่วนตัว เครื่องบินเจ็ท เรือยอร์ชหรือกระทั่งเรือเฟอร์รี่ลำนี้ก็คงเป็นสิ่งของในครอบครองของเขา แน่นอนว่าทุกวินาทีของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จสูงสุดต้องมีค่ามหาศาล หากเธอไม่อาจรู้ได้ว่า... การที่เดินทางมาพบเขาในครั้งนี้ สิริแอทเซทจะมีแรงดึงดูดความสนใจของเขาในด้านใด หรือพูดอีกที หากการเจรจาในครั้งนี้ไม่สัมฤทธิ์ผล เขายังมองไม่เห็นผลกำไรแล้วเธอจะเอาอะไรไปต่อรองกับพ่อมดทางการเงินแห่งยุโรปให้ปล่อยกู้เงินจำนวนไม่น้อยที่ในตอนนี้เธอต้องการเป็นอย่างมาก

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา