นักเขียนสาว หัวใจ บ.ก.

-

เขียนโดย Dashathone

วันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 23.19 น.

  10 ตอน
  1 วิจารณ์
  11.67K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558 23.27 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) ครอบครัว 100%

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

บทที่ 4

ครอบครัว

“ไปกินอะไรมา ถึงได้อารมณ์ดีเดินผิวปากเข้าบ้านได้แต่หัววันอย่างนี้” เสียงทักทายจากชายเลยวัยหกสิบทักทายลูกชายคนเดียว ทำให้คนเป่าปากเป็นจังหวะขณะเดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่กลางเมืองหยุดลง ปรารภเดินไปนั่งลงบนโซฟาตัวตรงข้ามบิดา ก่อนจะเอนกายพิงพนักด้วยท่าทีผ่อนคลาย ไม่เหมือนหมดแรงเหมือนกับเพิ่งกลับจากที่ทำงานสักนิด แถมใบหน้าที่เคยเรียบตึงอยู่ตลอดเวลา กลายเป็นอิ่มเอมอมยิ้มจนคนเป็นพ่ออดหมั่นไส้ไม่ได้

“แล้วนี่เมียสุดที่รักของพ่อไปไหนเสียล่ะครับ” ปรารภก็ไม่ยอมน้อยหน้าบิดา เอ่ยถามถึงมารดาบังเกิดเกล้าคล้ายอิจฉานิดๆ เพราะคุณปรารันย์ผู้เป็นพ่อของเขามักหวงผู้เป็นมารดาออกนอกหน้าเกินกว่าเหตุเสมอ ทุกครั้งที่เขาจะกอดหรือแสดงความรักกับคุณปราณีมารดาสุดที่รักนั้น จะต้องขออนุญาตก่อนเสมอทั้งที่ไม่จำเป็น แต่พ่อก็ให้เหตุเดียวกันทุกครั้งว่า ‘อย่ายุ่งกับเมียฉัน แกมันเจ้าชู้  และฉันไม่อนุญาต’  แล้วจะไม่ให้หนุ่มโสดอย่างเขาอิจฉาได้อย่างไร

“แม่แกเขาไปทำบุญวัดต่างจังหวัดกับคณะ พ่อรออยู่คุยกับแกเรื่องสำคัญก่อนค่อยตามไป” คุณปรารันย์เอ่ยขึ้นขณะวางหนังสือในมือลงบนโต๊ะตัวเตี้ยด้านหน้า เงยใบหน้าเต็มริ้วรอยทว่าภูมิฐานสบเข้ากับดวงตาผู้เป็นลูกชายเพียงคนเดียวตรงๆ

“เรื่องอะไรหรือครับ”

“ถ้าแกคิดจะหลอกฟันหนูรัน ก็เลิกคิดซะ ผู้ชายเจ้าชู้อย่างแกไม่ขาดคู่นอนหรอก” คำพูดไม่อ้อมค้อมของบิดาเรียกให้คนเป็นบุตรมองมาอย่างสงสัย พ่อเขารู้ได้อย่างไรและที่สำคัญคือใครเป็นคนบอก!

“ข่าวเร็วจังนะครับ ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย” ปรารภกล่าวเสียงเรียบ แต่มุมปากหยักสวยกลับยกยิ้มนิดๆ ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับตัวเขาจะรอดหูรอดตาเสือเฒ่าอย่างคุณปรารันย์ได้สักครั้ง ไม่ว่าเขาจะทำอะไรอยู่ที่ไหนกับใครหรือเวลาไหน พ่อของเขารู้หมด แต่เขาก็ชินเสียแล้วเพราะถูกสอดแนมมาตั้งแต่เด็ก ด้วยข้ออ้างของพ่อว่า ‘ความปลอดภัย’ แต่เขาคิดว่าบิดาต้องการสอดส่องพฤติกรรมากกว่า

“แกรู้ไหมว่าดอกไม้บางดอกก็บอบบางน่าทะนุถนอมเกินกว่าจะถูกเด็ดมาดอมดมแล้วโยนทิ้งข้างทางนะ และหนูรันเป็นแบบนั้น” แววตาคุณปรารันย์อ่อนโยนยามเอ่ยถึงจิดารัน เพราะท่านรับรู้เรื่องชะตาชีวิตของหญิงสาวมาตลอดหลายปีหลังจากมารดาของเธอเสีย

“อะไรทำให้พ่อคิดแบบนั้นล่ะครับ” ปรารภไม่ค่อยรู้เรื่องของนักเขียนสาวมากนัก เพราะเพิ่งเจอกันแค่สองครั้ง แม้จะเคยเข้าออกบ้านนั้นเป็นว่าเล่นสมัยเรียนที่เมืองไทย หากไม่เคยได้พบหญิงสาวเลยสักครั้ง คิดว่าคงถูกส่งไปอยู่โรงเรียนประจำตามคำบอกเล่าของปรัชญาเพื่อนรัก เห็นว่าเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาบางอย่างในบ้าน

“แม่หนูรันเสียตั้งแต่ยังเด็ก แต่ก็ยังดีที่ได้นมพร้อมคอยอบรมบ่มนิสัย ส่วนคนเป็นพ่อก็เอาแต่ทำงานหวังลืมอดีตจนพลั้งเผลอเสียท่าให้กับภรรยาคนใหม่ เป็นเหตุให้เกิดประเด็นแม่เลี้ยงใจร้ายกับลูกเลี้ยงหัวแข็ง จนต้องหาทางออกไปใช้ชีวิตในโรงเรียนประจำ เพิ่งจะมีอิสระนอกบ้านตอนเข้ามหาวิทยาลัยนี่เอง แล้วแกคิดว่าคนที่ขาดความอบอุ่นจากทั้งพ่อและแม่มานานแบบหนูรันจะน่าสงสารแค่ไหน หากโดนผู้ชายเจ้าชู้หลอกเอาอีก มันไม่โหดร้ายไปหน่อยหรือสำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆที่พยายามแสดงออกว่าเข้มแข็ง แต่จริงๆแล้วข้างในอ่อนแอและพร้อมจะแตกสลายได้ทุกเมื่อ”

“ครับ ผมเข้าใจแล้ว” เขาเองก็เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เอง ว่าจิดารันเป็นคนประเภทแสร้งทำเป็นแข็งแกร่ง แต่ข้างในกลับเจ็บปวดช้ำจากอดีตมาตั้งนานเท่าไหร่แล้ว

“การเลือกคู่ชีวิตก็เหมือนกับเลือกรองเท้าที่พอดีกับเรา ไม่หลวมและไม่คับจนเกินไป ถ้าแกคิดแค่จะลองสวมแต่ไม่คิดจะซื้อมาครอบครองอย่างถูกต้อง ก็ไม่ควรลองตั้งแต่แรก ปล่อยให้หนูรันไปเจอคนที่ดีกว่าเถอะ อ่อ ที่สำคัญคือพ่ออยากอุ้มหลานแล้ว แม่แกจะได้อยู่ติดบ้านเลี้ยงหลานๆ พ่อขี้เกียจตามแม่แกไปเที่ยวด้วยบ่อยๆ เข้าใจไหม” คุณปรารันย์หวังว่าลูกชายสุดที่รักจะฉุกคิดขึ้นมาได้บ้าง ไม่งั้นล่ะก็เรื่องคงบานปลายไม่ถึงเป้าหมายเสียที

“ครับ ผมจะลองคิดดู” เขารู้ว่าจิดารันเป็นของต้องห้ามที่สุด ทว่าเสน่ห์สดใสหวานซ่าของสาวแรกแย้มไม่เคยต้องมือชายใด ก็ท้าทายให้เข้าไปชิดใกล้อยู่ไม่น้อย แต่พอคิดตามบิดาแล้วก็อดไตร่ตรองไม่ได้

“พ่อไปล่ะ ว่างๆก็ชวนหนูรันมากินข้าวบ้านเราบ้างนะ พ่อก็ช่วยได้เท่านี้” แม้ปากจะบอกว่าขี้เกียจตามภรรยาสุดที่รัก แต่คุณปรารันย์ก็เร่งฝีเท้าแล้วขับรออกไปอย่างรวดเร็ว ราวกับคนหนุ่มใจร้อนจนคนมองตามหลังอดยิ้มออกมาให้กับการกระทำสวนทางกับคำพูดของบิดาไม่ได้ เขารู้ว่าพ่อรักแม่มากแค่ไหน ไม่เคยขัดใจกันเลยสักครั้งถ้านั่นเป็นความสุขของคุณนายปราณี ยิ่งรู้ว่าจิดารันเป็นที่รักใครหวงแหนของคนรอบตัวเขามากแค่ไหน ยิ่งกระตุ้นอยากให้เขาสรรหาวิธีเด็ดมาครอบครองเป็นเจ้าของมากเท่านั้น แม้จะรู้ว่าเธอคือ ‘ของต้องห้าม’ สำหรับเขาก็ตาม!

ว่าแต่เขาควรใช้วิธีไหนถึงจะ ‘จีบเด็ก’ อย่างไม่ให้เสียเชิงคาสโนว่าตัวพ่อที่รักชีวิตโสดและความเพอร์เฟ็คเป็นที่สุดกัน เห็นทีคงต้องวางแผนให้แนบเนียนเสียก่อนค่อย ‘ลงมือ’ ริจะเป็นสมภารทั้งที จะให้เสียเหลี่ยมได้อย่างไร ฮึ!

“วันนี้เมียบ้าอำนาจของพ่อไม่อยู่หรือคะ ถึงมาหารันถึงนี่ได้” แม้เสียงทักทายจากลูกสาวคนเดียวจะฟังดูเย็นชาเรียบนิ่ง ทว่าคนเป็นพ่อกลับสัมผัสได้ถึงความน้อยใจ โดดเดี่ยว เหงาและ....เจ็บปวด หากแต่จิดารันเลือกที่จะปกปิดด้วยท่าทางเย่อหยิ่งสีหน้าและแววตานิ่งสนิท คล้ายไม่ทุกข์ไม่ร้อนรับรู้ใดจากคนเป็นพ่อทั้งนั้น

“หนูรัน พ่อ....” คำว่า ‘ขอโทษ’ ไม่ทันได้เปล่งออกมาจากริมฝีปีคุณจิดาวัตฒ์ เพราะคนเป็นลูกตัดสินใจขัดขึ้นก่อนที่จะเจ็บปวดไปมากกว่านี้

“พอเถอะคะ ว่าแต่มาถึงนี่มีธุระอะไรคะ” จิดารันเลือกที่จะเย็นชาใส่บิดาเพื่อกลบเกลื่อนความเจ็บปวดอีกครั้ง เธอเบื่อที่จะได้ยินคำว่า ‘ขอโทษ’ จากปากท่านแล้ว เพราะมันไม่มีอะไรดีขึ้น มีแต่เพียงคำพูดเท่านั้นที่แสดงออกว่าท่านรู้สึกผิดกับการปล่อยปละละเลยในฐานะผู้นำครอบครัวและฐานะคนเป็นพ่อบังเกิดเกล้า ทุกครั้งที่คิดถึงคำว่า ‘ครอบครัว’ เธอก็ยิ่งเจ็บปวดมากเท่านั้น ลูกเลี้ยงคนอื่นอาจจะเข้ากับแม่เลี้ยงแสนดีได้ แต่สำหรับเด็กหญิงจิดารันแล้ว ภรรยาใหม่ของพ่อคือแม่มดร้ายในคราบนางฟ้าดีๆนี่เอง หลังจากคุณนารามารดาของเธอเสียชีวิตลงไม่นาน บิดาก็แต่งงานกับหญิงสาวสังคมนามสกุลดังคนหนึ่ง และพากันย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันในคฤหาสน์ที่เธอเรียกมันว่าบ้าน โดยท่านอ้างว่าจำต้องทำเพราะลงทุนเป็นหุ้นส่วนทางธรกิจกัน ไม่ใช้เพราะความรักแบบแม่ของเธอ

แต่แล้วหนึ่งเดือนต่อมาเรื่องราวสงครามโกลาหลระหว่างแม่เลี้ยงใจร้ายกับลูกเลี้ยงก็เกิดขึ้นเป็นรายวัน เพราะยัยแม่มดนั่นพยายามทำตัวราวกับเป็นแม่บังเกิดเกล้าของเธอเสียเอง ไม่ว่าจะเป็นการชอบละเมิดความเป็นส่วนตัวของเธอด้วยการเปลี่ยนแปลงการจัดห้องนอนของเธอเสียใหม่ โดยอ้างว่ามันดูรกรุงรังไม่สบายตา รวมถึงเปลี่ยนเสื้อผ้าเครื่องแต่งตัวและเครื่องประดับของเธอยกตู้ เพียงเพราะมันไม่สมฐานะลูกสาวคนเดียวและลูกเลี้ยงของนักธุรกิจชื่อดัง

พอนานวันเข้าผู้หญิงคนนั้นก็เริ่มแทรกแซงการใช้ชีวิตประจำวันของเธอมากขึ้นแม้กระทั่งเรื่องเรียน จากที่เคยได้รับอิสระและความไว้วางใจจากผู้เป็นพ่อให้เลือกเรียนตามความชอบหรือถนัด กลับต้องมาฟังว่าแม่เลี้ยงอยากให้เรียนโน่นนี่นั่นที่สนับสนุนธุรกิจของเธอในอนาคต และจุดที่ทำให้ความอดทนอกกลั้นตลอดหนึ่งปีตั้งแต่ยัยแม่มดย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนั้นหมดลง คือการที่หล่อนเห็นว่าลูกเลี้ยงอย่างเธอควรตอบแทนบุญคุณบิดาด้วยการหมั้นหมายกับลูกชายนักธุรกิจแวดวงเดียวกันเพื่อการร่วมธุรกิจกันเท่านั้น ทั้งๆที่ตอนนั้นเธอเพิ่งจะฉลองวันเกิดครบรอบสิบหกปีเพียงแค่สามวัน ด้วยการนัดแนะให้มาดูตัวเธอถึงที่บ้านอย่างเปิดเผยจนเป็นข่าวดังในวงสังคมมาแล้ว จนทำให้นางสาวจิดารันในวันนั้นหมดความอดทน และร้องขอให้คุณจิดาวัตฒ์ส่งไปอยู่โรงเรียนประจำเป็นเวลาสามปี โดยที่เธอปฏิเสธการกลับคฤหาสน์ที่เธอเคยเรียกว่าบ้านทุกครั้ง

แต่หากมีครั้งไหนที่นมพร้อมไปรับที่โรงเรียน เธอจะขอมาหลบภัยอยู่ที่บ้านตึกแถวหลังนี้ หลังที่ครั้งหนึ่งเคยเก็บความทรงจำงามระหว่างพ่อและแม่ของเธอ เพราะมันเป็นบ้านหลังแรกที่ท่านทั้งสองเก็บออมช่วยกันสร้างขึ้นมา ก่อนที่ธุรกิจจะรุ่งเรื่องจนได้ซื้อคฤหาสน์หลังงามซึ่งใหญ่กว่าหลายสิบเท่า แต่มันจะมีคุณค่าอันใดเล่าเพราะมันถูกทำลายด้วยฝีมือแม่เลี้ยงบ้าอำนาจคนนั้นไปแล้ว ไม่เหลือแม้กระทั่งความไว้ใจและเทิดทูนที่ผู้เป็นพ่อเคยมีให้กับลูกสาวสุดที่รักอย่างเธอ

“พ่อแค่อยากมาดูให้เห็นกับตาว่าลูกอยู่ดีมีสุขอย่างไรบ้าง” คุณจิดาวัตฒ์ถามลูกสาวคนเดียวอย่างเป็นห่วงปนสมเพชตัวเอง ที่ไม่สามารถปกป้องผู้เป็นลูกจากแม่ภรรยาใหม่ได้  ท่านรู้สึกผิดมากนักที่ปล่อยปละละเลยให้นลินดาเข้ามาวุ่นวายกับชีวิตส่วนตัวของจิดารันจนหาความสงบไม่ได้ แล้วต้องย้ายออกมาอยู่ข้างนอกแบบนี้ ทั้งๆที่คฤหาสน์หลังนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของลูกสาวอย่างถูกต้อง แต่อีกนัยหนึ่งท่านก็หมดห่วงที่เห็นลูกมีชีวิตที่สงบสุข ไม่ต้องทนทุกข์ใจกับพ่อไม่เอาไหนอย่างท่านเหมือนหลายปีก่อน ทุกอย่างที่นี่ยังเหมือนเดิม เหมือนตอนที่ภรรยาคนแรกยังอยู่ เป็นช่วงที่พวกเราพ่อแม่ลูกมีความสุขกับชีวิตสมถะธรรมดา พอมีพอกินไม่เดือดร้อน ช่วยกันเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนลูก ช่วยกันทำงานบ้านและกินข้าวพร้อมหน้ากันทุกเย็น ทุกครั้งที่เห็นหน้าลูกสาวและภรรยายิ้มได้ ท่านก็พลอยอมยิ้มไปด้วย

แต่พอธุรกิจเริ่มรุ่งเรื่องมากขึ้นจนมีเงินเหลือกินเหลือใช้มากมาย เวลาส่วนใหญ่กลับทุ่มให้กับงานและการเข้าสังคมเพื่อเครื่อขายธุรกิจจนดึกดื่นทุกวัน และทุกครั้งที่กลับมาก็พบว่าภรรยาและลูกเข้านอนเรียบร้อยแล้ว ทำให้ความอบอุ่นเริ่มห่างเหินมากขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นเย็นชาใส่กัน แล้วความเหงาความเจ็บปวดเริ่มทำงานแทนที ก่อนจะรู้ตัวอีกทีก็เมื่อครั้งสูญเสียภรรยาและลูกสาวใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนประจำไปเรียบร้อยแล้ว

“รันสบายดีค่ะ นมพร้อมก็มาเยี่ยมทุกวัน ไม่ได้ขัดสนอะไร” จิดารันตอบบิดาด้วยรอยยิ้มอ่อน หากแต่ก็ขมขื่นเต็มทน จนคนเป็นพ่อรู้สึกระอายใจตัวเองไม่ได้ ก่อนจะหยิบบางอย่างออกมาวางใส่มือลูกสาว

“พ่ออยากให้รัน จะได้เอาไว้ใช้ยามลำบาก” คุณจิดาวัตฒ์วางเช็คเงินสดไม่ระบุจำนวนเงินลงบนฝ่ามือจิดารันด้วยอาการสั่นเทา ท่านยอมรับผิดหากใครจะว่าเอาเงินฟาดหัวลูกหรือแก้ปัญหาด้วยเงิน เพียงแต่ท่านอยากชดเชยให้กับลูกสาวเพียงคนเดียวบ้าง อย่างน้อยก็เจ็ดปีก่อนที่ส่งลูกสาวไปอยู่หอพักโรงเรียนประจำ ท่านรับรู้ว่าลูกเหงาและพยายามแอบไปเยี่ยมบ่อยครั้ง แต่ก็ถูกปฏิเสธจากผู้เป็นลูกทุกครั้ง แต่มันเพียงหนทางเดียวที่จะกันไม่ให้นลินดาเข้าถึงตัวบุตรสาวได้

“พ่อขอโทษจริงๆหนูรัน แต่มันอาจเป็นสิ่งเดียวที่พ่อแย่ๆไม่เอาไหนจะชดเชยให้ลูกสาวคนเดียวของพ่อได้” ไม่เพียงแต่น้ำเสียงที่สั่นเครือ แต่น้ำตาที่กำลังไหลอาบแก้มของท่านกลับตอกย้ำความรู้สึกให้คนเป็นลูกได้รู้ ว่าบิดาก็เจ็บปวดไม่ต่างไปจากเธอนัก จิดารันอดไม่ได้ที่จะใช้นิ้วมือเรียวสวยค่อยๆปาดมันทิ้งไปในอากาศ ราวกับจะบอกกล่าวดวงวิญญาณของมารดา ว่าพ่อได้สำนึกผิดและเสียใจกับการกระทำของตัวเองแล้ว

“ไม่เป็นไรค่ะ รันให้อภัยพ่อ” จิดารันกล่าวทิ้งท้าย ก่อนจะเดินหันหลังจากไปด้วยน้ำตาคลอหน่วยไม่ต่างกัน ทิ้งให้คุณจิดาวัตฒ์ได้ปลดปล่อยความรู้สึกผิดทั้งหมดในใจตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมา เพียงเพราะคำว่า ‘ให้อภัย’ ของเด็กสาวอายุ 21 ปี ผู้ที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของท่านและภรรยาผู้ล่วงลับ

ปล. เพิ่งสังเกตว่าชื่อเรื่องเชยมากกกก ผู้อ่านที่รักเสนอชื่อใหม่ได้นะคะไรท์ยินดี 

ปล.2 ผลงานใหม่ออกเเล้วนะจ้ะ พิมพ์ลิขิตเเอบรัก ใครอยากฟินอมยิ้มกดด้านล่างเลยค่ะ

ปล.3 มีรีดเดอร์ท่านหนึ่งทักว่าชื่อบิดาของพี่ปราภความหมายไม่ดี ไรท์เลยเปลี่ยนเป็น ปรารันย์=ไม่มีความหมายตรงตัวอะไรคะ หากมีข้อผิดพลาดอื่นๆที่รีดเดอร์ได้อ่านจากนิยายของไรท์ เม้นท์ติชมด้านล่างค่ะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา