3Kill ฆ่า ฆ่า ฆ่า

9.8

เขียนโดย ชิโร่

วันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 20.04 น.

  26 ตอน
  31 วิจารณ์
  27.41K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558 22.57 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

10) ตอนที่ 10 เรื่องราวเมื่อ 9 ปีที่แล้ว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ


          เวลานี้ ราวๆ 4 ทุ่ม ทุกบ้านต่างพากันเข้านอนไปหมด ในเมืองแห่งนี้มันเงียบงันไปด้วยแสงจันทร์ไม่เต็มดวง แต่ถึงในแถวที่อยู่อาศัยจะเงียบ แต่ก็ได้ยินเสียงหวอตำรวจมาจากถนนใหญ่หลายที่ บางทีก็คิดว่าพวกตำรวจคงจะตามล่าผมอยู่แน่ๆ แต่ว่าพวกไร้น้ำยามันจะหาผมเจอะเรอะ อย่าดีครับ พวกคุณตำรวจควรเอาเวลาไปจับอย่างอื่น.. 

 
          ผมเองก็อยากจะฆ่าคุณครูซะหน่อย ก็เลยมาฆ่า ถึงเหตุผลการฆ่าในครั้งนี้จะไม่ได้สนองความแค้นอย่างเดียวก็ตาม... ส่วนทางไปบ้านอาจารย์ที่ปรึกษาก็ไม่ได้ไกลจากบ้านผมมากนัก เพราะอาจารย์ส่วนใหญ่ต่างเช่าหอพัก หรือพักในโรงเรียนบ้างก็มี ส่วนอาจารย์ที่ปรึกษาของผม พักอยู่ในระแวกหมู่บ้านแถวๆหน้าโรงเรียน
 
          ที่นั่นมีบ้านติดกันหลายหลังมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบ้านสองชั้นหรือชั้นเดียว แต่ละบ้านก็จะมีประตูเหล็กหน้าบ้าน พื้นที่สำหรับจอดรถก่อนเข้าบ้านก็มี และยังมีถนนแคบๆกั้นอยู่ตรงกลาง บ้านแต่ละบ้านล้วนมีหมาเฝ้ากันทั้งนั้น พวกมันส่งเสียงหอนหรือเห่าใส่ผมอย่างไม่ขาดสายเมื่อผมเดินไปหน้าบ้านของพวกมัน ผมรู้ดีว่า หากเทียบสัญชาติญาณสัตว์และมนุษย์ มันยังห่างไกลกันมาก เทคโนโลยีของเรามันไปไกลเกินกว่าจะใช้สัญชาติญาณ
 
ก็แค่จะบอกว่า พวกหมามันรู้ดีว่าจิตสังหารของผมคิดจะทำอะไร...
 
อา... ตรงรั้วกำแพงก็มีแมวดำด้วยนิ ดูเหมือนว่าพวกแมวจะขนลุกซู่เช่นกัน แต่พวกมันก็หนีไป แตกต่างจากหมาคิดจะปกป้องเจ้านายตัวเองจนตัวตาย...
 
          และตอนนี้ ผมเองก็มายืนอยู่ต่อหน้าประตูบ้านของอาจารย์ที่ปรึกษา นึกไม่ถึงเลยว่าหล่อนจะเลี้ยงหมาเอาไว้สองตัว ดูสิ มันเห่าผมใหญ่เลย ขนลุกซู่เหมือนกำลังป้องกันตัว
 
พวกมันกำลังเห่าด้วยแรงสุดเสียง
 
แต่เพราะหน้าบ้านของอาจารย์ใช้ประตูหน้าบ้านที่เป็นกรงเหล็ก พวกมันก็เลยออกมาไม่ได้
 
          ผมลองมองมันอยู่หลายวินาที ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปยังบ้านของอาจารย์ ขณะที่พังประตูหน้าบ้านเข้าไปด้วยแรงผลักธรรมดา พวกหมาสองตัวก็กระโดดเข้ามากัดผม จึงช่วยไม่ได้ที่จะป้องกันตัวโดยการเตะพวกมันทั้ง 2 ให้กระเด็นออกไป
 
ร่างกายของพวกมันกระเด็นออกไปอย่างรุนแรงไปกระแทกกับผนังส่วนต่างๆของบ้านจนเกิดเสียงดัง
 
          แต่ถึงจะเตะไปแล้ว มันก็ลุกขึ้นมาอีก .. ผมล่ะชอบความซื้อสัตย์ของมันจริงๆ สัตว์ประเภทนี้หาได้ไม่กี่อย่างบนโลกหรอกนะ แต่ขอโทษด้วย เจ้านายของแกมันต้องตายวันนี้ เพราะสิ่งที่ทำกับผมไว้มันเกินที่จะเรียกว่ามนุษย์แล้ว การที่คนเลวฆ่ากันเอง คงไม่มีใครว่าหรอกนะ
 
แต่ถ้าพวกแกคิดจะขัดขวางเส้นทางของผมแล้วล่ะก็ ก็มีแต่ต้องตายเท่านั้น
 
......
 
          เพราะพวกมันเตือนด้วยกำลังไม่ฟัง ผมจึงได้ฆ่าพวกมันโดยการเตะไปหัวของหมาทั้งสอง จนกระดูกที่คอของมันหักและตายคาที่ในที่สุด ไม่มีแม้กระทั้งเลือดที่ไหลออกมา
 
          เมื่อหมาเฝ้าบ้านทั้งสองตัวตายไปแล้ว ผมจึงได้เคาะประตู ถึงช่วงเวลานั้นจะได้ยินเสียงหวอของตำรวจพลุกพล่านทั่วเมืองก็ตาม แต่การจะหาตัวผมมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกนะ คุณตำรวจ
 
     ''ก็อกๆ''
ผมเริ่มด้วยการเคาะประตูแรงๆ 2 ครั้ง
 
     ''อาจารย์คร๊าบบบบบ !!! ~''
 
          ผมไม่มั่นใจว่า อาจารย์เธอจะจำเสียงฆาตกรแบบผมได้หรือเปล่า แต่ผมไปนรกเกือบ 3 เดือน ก็อาจจะมีลืมกันบ้าง และผมก็ใช้เวลาตะโกนอย่างต่อเนื่องราวๆ 5 นาที กว่าคุณเธอจะเดินมาเปิดประตู
 
น่าตกใจจริงๆที่เธองัวเงียมาก เดินมาเปิดประตูให้กับผมในสภาพชุดนอนน่ารักๆสีชมพู
 
          เธอพยายามขยี้ตาอยู่หลายครั้ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาเพื่อมองผม.. ก็นะ ความสูงของผมมันสูงกว่าคุณครูนี่นา อ๊ะ... เป็นยังไงบ้างล่ะ ตาค้างเลยใช่รึเปล่า ใบหน้าของลูกศิษย์ที่รักนักหนาน่ะ
 
ผมยิ้ม....
 
ส่วนเธอกำลังสั่นคลอน
 
          ใช่...หล่อนตาค้างไปเลย เหงื่อถึงกับไหลออกมาอย่างเห็นได้ชัด กลัวละสิ.. กลัวมันเข้าไป... ใช่.. รอยยิ้มของผมนี่แหละ ที่ทำให้เธอกลัว
 
          จังหวะนั้นเธอได้สติก็ไม่เชิง เพราะว่าเธอรีบปิดประตูหนีผมเพื่อล็อกกลอน แต่น่าเสียดายที่เธอทำไม่สำเร็จ เพราะผมเอาขาซ้ายทั้งท่อนไปกั้นประตูเอาไว้ไม่ให้ปิด ถึงแม้ว่าเธอพยายามจะออกแรงสุดขีดเพื่อปิดประตูอย่างรุนแรงก็ตาม
 
     ''อะ... แอล!!!''
เธอเอ่ยชื่อของผมออกมาอย่างกระวนกระวาย พยายามออกแรงปิดประตูแต่ไม่สำเร็จ
 
     ''ว่าไงครับ ลินดา ที่รัก ^^''
 
ปั๊งงงง !! ... หลังจากที่เธอออกแรงกระชากประตูอยู่นาน มันก็ทำให้ผมรำคาญหน่อยๆ ผมจึงได้ใช้เท้าขวา ถีบประตูอย่างรุนแรงจนพังลงมาอย่างง่ายดาย เธอถึงกับ
 
     ''กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด !!!!!!!!!!!!!!!!! ~''
 
          เมื่อประตูพังไปแล้ว เธอจึงไม่มีทางที่จะหนีออกจากบ้านได้เลย เธอจึงได้ตัดสินใจวิ่งหนีเข้าไปยังห้องนอนของตัวเองในบ้าน แต่ก็น่าเสียดายอีก เมื่อเธอที่กำลังย่างก้าวขาวิ่งหนีผม... เธอก็ถูกผมใช้มือขวา กระชากแขนของเธอมาเสียแล้ว เธอล้มลงทันทีเพราะเสียหลักจากการกระชากของผม
 
     ''อะ... อย่าทำอะไรฉันนะ !! แอล''
ร้องมันเข้าไป น้ำตาแห่งความกลัวนะ มันไม่มีวันหดหายออกไปจากนิสัยของสิ่งมีชีวิตหรอก!
 
          ขณะที่เธอล้มลงไปนอนกับพื้นในสภาพคว่ำ และพยายามลุกขึ้น พร้อมก็เอาตัวไปขึ้นค่อม ลินดา และเพื่อกันเธอกรีดร้องออกมา ผมจึงได้ฉีกเสื้อบริเวณแขนขวาออกมา จากนั้น จึงได้ใช้เศษผ้ามัดไปที่ปากของเธอ จากนั้นก็จับเธอยืนขึ้นมา พร้อมต่อยไปที่ท้องหนึ่งครั้งแบบเบาๆ เพื่อให้เธอสลบไว้ก่อน
 
          หลังจากเธอสลบแล้ว ผมจึงเดินเข้าลึกมาในบ้าน และเดินเข้าไปยังห้องนอนของเธอ เมื่อผมเข้ามาแล้วก็เปิดไฟที่ผนัง ว่าก็ว่าเถอะ สายตาแวมไพร์ในตอนกลางคืนของผมตอนนี้ ช่างเจิดจ้ายิ่งกว่ากลางวัน คงเป็นเพราะไปดูดเลือดพนักงานสาวร้านสะดวกซื้อเมื่อกี้แน่ๆ
 
          ช่างเรื่องนั้นไปก่อน ตอนนี้ผมได้ล็อกประตูห้องนอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็จับเธอโยนลงไปข้างๆเตียงนอน ส่วนตัวผมก็ไปนั่งบนเตียงช้าๆ ไม่นานผมจึงได้ฉีกเสื้อของตัวเองทั้งหมด เพื่อนำมามัดแขนและขาของอาจารย์เอาไว้
 
          นึกไม่ถึงเลยว่าผ่านไป 3 เดือนจัดผมใหม่ซะสวยเลยนะ ลินดา.. ทรงผมของเธอสั้นจนถึงต้นคอพร้อมสีน้ำตาลของการย้อมผม และเพราะคงเป็นเวลานอนเธอจึงไม่ใส่แว่น เพื่อเพื่มความน่ารักผมจึงไปหยิบแว่นสีดำในห้องของเธอมาสวมให้แบบฟรีๆ...
 
          ผมเองก็คิดว่าอยากให้เธอตื่นก่อน ค่อยลงมือข่มขืน แต่ก็เพราะแบบนั้นแหละ ผมจึงอยากสำรวจห้องของเธอก่อนจะลงมือทำอะไร
 
          ผมเดินไปยังโต๊ะข้างเตียง ซึ่งมันก็เหมือนโต๊ะทำการบ้านของผมที่บ้านเลยแฮะ ดูสิ มีโคมไฟสวยๆสีส้มอยู่ด้วย... พวกเราน่ะ ยังรสนิยมเหมือนกันไม่เปลี่ยนเลยนะ ลินดา.. ในโต๊ะทำการบ้านเองก็มีหนังสือวางอยู่หลายเล่ม ส่วนตัวผมที่ชอบอ่านหนังสืออยู่แล้วจึงช่วยไม่ได้ที่จะหยิบมันขึ้นมา
 
          เปิดไปอยู่หลายหน้าเพื่ออ่านมัน.. มันเป็นหนังสือเกี่ยวกับการเรียนการสอนสังคมศึกษา เมื่อผมได้อ่านมันอยู่หลายบท ก็ได้ปิดหนังสือลง เพราะเวลานี้ดูเหมือนว่าอาจารย์สุดที่รักของผมกำลังจะตื่นขึ้นมาจากการสลบแล้วนั่นเอง
 
     ''ไงครับ... อาจารย์ ^^''
ผมเดินเข้ามานั่งบนเตียงนอน ส่วนเธออยู่ด้านล่างของเตียง
 
          เธอตื่นมาในสภาพกระวนกระวาย พยายามกรีดร้องอยู่หลายครั้งแต่ไม่เป็นผล คงเป็นเพราะผมมัดปากเธอไว้แน่นในหลายระดับ
 
          เธอไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ เพราะแบบนั้นผมจึงทำท่าชิวๆพร้อมหยิบถุงยาง 3 สีออกมากั้นไว้ระหว่างนิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง และนิ้วก้อย รวม 3 อัน
 
     ''อาจารย์ เอาสีไหนดีครับ ?''
 
          ฮ่ะ... ฮ่าๆ เธอร้องออกมาทั้งน้ำตา น้ำเสียงมันบ่งบอกว่า อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ครูขอโทษนะ แอล...
 
     ''ผมถามว่าเอาสีไหนต่างหาก ถ้าไม่ตอบจะฆ่าแบบทรมาน แต่ถ้าตอบ ผมจะฆ่าแบบสบายให้เอง ตัวเลือกน่ะมี สองข้อเท่านั้นครับ ไม่อนุญาติให้ออกความคิดเห็นอย่างอื่นครับ...''
 
     ''ถ้าไม่เลือก ผมจะใช้ทั้ง 3 อันเลยนะครับ ?''
 
เธอเงียบ... เพราะเธอเงียบนั่นแหละ ถึงได้ทำให้ผมหงุดหงิดจริงๆ
 
     ''ถ้างั้นช่วยไม่ได้นะครับ อาจารย์''
ค่ำคืนที่แสนทรมาน ผมได้ลงมือ....
 
_______________________________________________
 
ณ บ้านของแอล
 
          ไอร่าเธอกลับมาถึงบ้าน และเปิดประตูเข้าบ้านไปแบบเงียบๆ และในบ้านของแอลมันก็มืดมากจนเธอต้องเดินไปเปิดไฟที่ผนัง ไม่นานเธอก็ได้พบกับพ่อและแม่ของแอลเดินลงมาจากบันไดชั้นที่สอง ถึงพ่อแม่ของแอลจะแปลกใจว่าไอร่าเป็นใคร แต่ในช่วงจังหวะนั้น เพียงเธอแค่มองตาพ่อและแม่ของแอลด้วยแววตาสีแดงของปีศาจ ก็กลายเป็นการสะกดจิตไปเสียแล้ว
 
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เธอจึงเดินขึ้นไปบันไดชั้นสอง เพื่อไปนอนยังห้องของแอล...
 
          เวลายังคงผ่านไปแบบเงียบๆ เมื่อเธอเดินเข้ามายังในห้องของแอลแล้วจึงได้ทรุดตัวลงไปนอนที่เตียงเบาๆในสภาพคว่ำ
 
     ''ดีแล้ว... จริงๆเหรอ''
 
เธอพลางซุกเตียงนอนนุ่มๆไป พร้อมสูดกลิ่นหมอนของแอลเบาๆ พรางหลับตาและนอนหลับลง...
 
______________________________________________________
 
          ทางด้านแอล 
 
          หลังจากที่ผมทำเรื่องแบบนั้นกับอาจารย์แล้ว เธอก็นอนหงายอยู่บนเตียงในสภาพเปลือยทั้งน้ำตา ร่างกายบอบช้ำเล็กน้อยจากการขัดขืนผม... ส่วนตัวผมในตอนนี้ก็ยืนอยู่ข้างๆเตียงนอนพร้อมมองไปยังใบหน้าอันน่าสมเพชและร่างอันสะบักสะบอมของเธอ
 
     ''ไม่ได้เรื่องเลยนะ 'ลินดา' ... แค่นี้ก็หมดก็อกแล้วเหรอ พูดอะไรบ้างสิ อย่าเอาแต่ร้องไห้''
 
     ''ท่ะ... ทำไม.. ไม่นะ ฉะ..ฉัน... T^T''
เธอร้องไห้ออกมาพร้อมเสียงคร่ำครวญ แต่ไม่ใช่ว่าผมจะเห็นใจหรอกนะ กลับสะใจซะมากกว่า
 
วินาทีนั้น ผมก็พูดขึ้นมาพร้อมกับการใส่เสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อย
 
     ''ยังจำเรื่องประมาณ 9 ปีก่อนได้หรือเปล่า ลินดา...''
 
เธอเงียบ ไม่กล้าที่จะพูดกับผมเลยแม้แต่คำเดียว ด้วยเหตุนั้นทำให้ผมพูดอยู่ฝ่ายเดียว
 
     ''พวกเราน่ะ เป็นญาติห่างๆกันสินะ งั้นก็ขอถามตรงๆนะ ทำไมถึงขับรถยนต์ชนน้องสาวของผมในวันนั้นหล่ะครับ หากนับจาก 9 ปีที่แล้ว คุณเองก็อายุ 18 ปีเองนิ.. ทำไมถึงต้องทำขนาดนั้น ?''
 
ใช่.. เธอนั่นแหละที่เป็นคนฆ่าน้องสาวของผม วันนี้จะทนเมินเฉยต่อเรื่องนี้ไม่ได้อีกแล้ว !
 
     ''เปล่านิ... ก็แค่ความแค้นส่วนตัวของฉันน่ะ''
เธอนอนตะแคงหลบหน้าของผม  หันหน้าไปคนละทิศทาง ไม่นานเธอก็หยิบผ้าห่มมาคลุมร่างกายเปลือยๆของเธอ และเธอก็คงจะช้ำใจจริงๆที่ถูกกระทำแบบนี้ ถึงไม่มองหน้าเธอก็รู้ ว่าน้ำตามันไหลออกมาไม่หยุดจริงๆ
 
     ''รู้รึเปล่าครับ ว่าตัวเองโกหกไม่เก่งน่ะ''
ลินดา... เท่านี้เหตุผลก็ครบ เธอไม่ได้ฆ่าน้องสาวของผมเพราะความแค้นหรอก
 
     ''เอาเลยสิ !! จะฆ่าฉันก็เชิญ อีกเดี๋ยวเธอก็ทำกับเพื่อนในห้องทั้งหมดใช่ไหมล่ะ !''
 
เธอตะโกนออกมาทั้งๆที่ไม่ได้มองหน้าผม... เมื่อผมเห็นเช่นนั้นจึงได้ตัดสินใจเดินไปนั่งบนเตียงช้าๆ และหันหลังให้กับเธอ บอกตรงๆว่าตอนนี้พวกเราอาจจะไม่อยากมองหน้ากันก็ได้
 
     ''นี่.. ลินดา รู้รึเปล่าว่าผมต้องทรมานแค่ไหน ที่เจอหน้าเธอที่เป็นฆาตกรฆ่าน้องสาวของผมทุกวัน พยายามแล้วพยายามอีก ในห้องเรียน.. ผมพยายามลืมเรื่องของคุณและเมินเฉย ให้สถานะของพวกเราเป็นเพียงลูกศิษย์กับอาจารย์ที่ปรึกษา สุดท้ายก็ทนต่อความแค้นไม่ไหวจริงๆ''
 
เธอเงียบ.... ผมจึงได้พูดต่อ
 
     ''คุณเองก็ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวกับพ่อเลี้ยงของผมนี่เนอะ... บอกตรงๆว่า ตอนที่คุณเรียกพ่อเลี้ยงของผมมาคุยด้วยตอนเหตุการณ์ที่สวนดอกไม้พัง ผมโกรธมากเลยนะ ลินดา แล้วก็ตอนที่พ่อของผมลุกขึ้นมาตบหน้าของผม เธอเป็นห่วงผมงั้นสินะ เพราะงั้นเธอจึงบอกให้พ่อผม ใจเย็น และฟังคำแก้ตัวของผมก่อน ''
 
     ''ถ้ารู้ว่าฉันเป็นห่วงนายถึงขนาดนั้น ทำไมถึงได้มาแก้แค้นล่ะ...''
เธอพูดออกมาแบบเศร้าๆ
 
ผมจึง...
 
     ''ผมไม่สนหรอกว่าคุณจะใส่หน้ากากเป็นตัวร้ายแต่แท้จริงแล้วเป็นห่วงผม แต่มีเพียงความจริงอย่างเดียวคือคุณ ฆ่าน้องสาวของผมไงล่ะ ''
 
     ''งั้นเหรอ...''
เธอพูดออกมาเบาๆ
 
ไม่นานหลังจากที่พวกเราเงียบได้สักพักเธอก็พูดออกมา
 
     ''ฉันเกลียดนาย... อยากให้นายตายๆไปซะ ฉันเกลียดพ่อและน้องสาวของนาย... แค่นี้แหละเหตุผล''
ดูท่าเธอจะยอมผมแล้ว ไม่คิดจะหนีไปจากความตายจริงๆงั้นสินะ แต่ว่านะ ทำไมถึงได้โกหกได้ห่วยแตกขนาดนี้กันล่ะ ลินดา....
 
     ''บอกไปแล้วนี่ ว่าตัวเองโกหกไม่เก่ง แล้วถ้าผมปล่อยให้คุณรอด คิดจะทำอะไรต่อล่ะ ?''
 
     ''ฉันไม่รู้.. บางทีอาจะฆ่าตัวตายเลยก็ได้''
เธอบอกผมแบบนั้น... คงจะเป็นความอัปยศงั้นสินะ
 
     ''ผมเองก็ไม่ชอบการแก้แค้นซักเท่าไหร่หรอกนะครับ จริงๆแล้วผมอาจจะแค่เอาความแค้นมาบังหน้าเพื่อสนองความอยากฆ่าก็ได้''
 
     ''นายมันเลวจริงๆนั่นแหละ''
เธอพูดออกมาพร้อมน้ำเสียงแห่งการเตรียมใจ
 
     ''ฮ่ะๆ พวกเรามันก็เหมือนกันทั้งคู่นั่นแหละ... ถ้างั้น ลุกขึ้นสิครับ ได้เวลาตายของเธอแล้ว''
 
          เธอเอาผ้าห่มออกไปจากร่างกาย และลุกขึ้นยืนบนเตียงเพื่อให้ผมฆ่าแบบดีๆในสภาพที่ยังเปลือยอยู่ ทางด้านผมก็ลุกขึ้นยืนบนเตียงและหันหน้าเข้าหาเธอเช่นกัน
 
แต่ทำไม เธอถึงได้ยิ้มทั้งน้ำตาให้กับผมกันนะ...
 
ผมค่อยๆใช้มือขวาบีบคอของเธอเบาๆ... จากนั้นเพียงหนึ่งวินาที.. เธอก็ตายด้วยน้ำมือของผมเสียแล้ว
 
ก่อนนะตายเธอได้พูดกับผมด้วยประโยคหนึ่ง....
 
''ขอบคุณนะ วันนี้ที่จริงแล้วฉันมีความสุขมากเลย''
 
หลังจากที่เธอตายลง ผมก็จับเธอไปนอนบนเตียงพร้อมห่มผ้าให้ และใช้ฝ่ามือขวา ปิดตาเธอเบาๆ
 
     ''น่าเสียดายนะ ถ้าคุณบอกรักผมเร็วกว่านี้ ชีวิตของพวกเราจะไม่เป็นแบบนี้หรอก...''
น่าเสียดายเช่นกัน ถ้าผมรู้ตัวเร็วกว่านี้ คงจะบอกรักกับเธอไปตั้งนานแล้ว
 
          9 ปีก่อน ในความทรงจำที่คลุมเครือ ถึงมันจะคลาดเคลื่อนจากความจริงที่ผมคิดไว้ในตอนแรก แต่เท่านี้ผมก็รู้ความจริงทั้งหมดซะที ว่าทำไมเธอถึงได้ร่วมมือกับแม่ของผมในการฆ่าพ่อและน้องสาว ทำไมตอนห้องเรียนถึงได้ทำท่าทางแสดงละครเหมือนผมเป็นเศษขยะ
 
          พวกเราเป็นญาติห่างๆในตะกูลเดียวกัน เพียงแต่ ตะกูลของพวกเราไม่ได้สนิทกันมาก พวกเราทั้งสองชอบเล่นด้วยกันอยู่บ่อยครั้ง ตอนนั้นเธออายุได้ 18 ปี ซึ่งผมอายุได้เพียง 8 ขวบ เธอเอ็นดูผมมากเหมือนน้องชายคนหนึ่ง.. ไม่สิ.. มันเกินกว่าคำว่าพี่น้องเป็นไหนๆ คอยสอนการบ้านให้กับผมเป็นประจำ รวมถึงชอบพาผมไปออกกำลังกายที่สนามเด็กเล่น รวมถึงอาบน้ำด้วยกันอีกต่างหาก...
 
          แต่ว่า... ครอบครัวของพวกเราต่างไม่ค่อยถูกกัน หลายครั้งที่เธอถูกพ่อของผมทุบตีร่างกายจนบอบช้ำ ดูเหมือนว่าพ่อของผมจะผลักใสลินดาไม่ให้เข้าใกล้ชิดผม เพียงเพราะครอบครัวไม่ถูกกันแต่ไหนแต่ไร
 
          เมื่อคุณปู่ตายลง ทรัพท์สมบัติอันมหาศาลทั้งหมด ก็ได้เกิดการทะเลาะกันในตะกูลเพื่อแช่งชิง ทำให้ความเกลียดชังต่อครอบครัวของผมและลินดาเพื่มขึ้นไปโดยปริยาย แถมคุณแม่ยังวางแผนหุบสมบัติที่พ่อได้มาอีก เรียกได้ว่าทำสงครามกับคนในตะกูลยังไม่พอ ยังถูกแม่จ้องจะฆ่าอีก
 
          พ่อของลินดาเป็นตำรวจ... เขาเองก็เกลียดขี้หน้าพ่อของผมเช่นกัน เพราะพ่อของผมชอบไปทำร้ายร่างกายของลินดา แต่ถึงจะมีอำนาจของตำรวจ แต่หากทำร้ายพ่อของผม หรือใช้กฏหมายจับพ่อของผมขึ้นมา ครอบครัวของลินดาก็อาจจะหมดสิทธิในการรับทรัพท์สมบัติของตะกูลผม
 
          และเขา ก็ต้องทนกับแรงความแค้นที่มีต่อพ่อของผม ในที่สุดเมื่อคุณปู่ตายลง ก็ได้เวลาชำระแค้นของเขา และดูท่าลินดาเองก็คงจะแค้นต่อพ่อผมมากเลยทีเดียว แต่ผมเองก็ไม่สามารถรู้ได้ว่า แม่ของผมไปทำอิท่าไหนถึงได้ไปร่วมมือกับพ่อของลินดาในการฆ่าพ่อและน้องสาวของผม
 
แต่ว่า มันก็มีคำถามที่ค้างคาในสมองของผม.. ในเมื่อพ่อกับน้องสาวตาย ทำไมผมจึงไม่ถูกฆ่าด้วย ?
 
หากจะเดาเหตุผลที่มีโอกาสมากที่สุด คงเป็นเพราะลินดาช่วยชีวิตผมไว้นั่นเอง ลินดาอาจจะไปขอร้องกับแม่ผมว่า อย่างน้อยๆก็ไว้ชีวิตผมไว้ซะหน่อย เพราะเธอรักผมมาก
 
อะไรคือข้อแลกเปลี่ยน ?
 
แน่นอนว่าการขอร้องย่อมมีการแลกเปลี่ยนกัน ข้อแลกเปลี่ยนที่แลกกับการให้ผมมีชีวิตรอด ก็คือการที่ให้การฆาตกรรมในครั้งนั้นเป็นเหมือนอุบัติเหตุมากที่สุด แน่นอนว่าตำรวจอย่างพ่อของลินดาก็ต้องให้ความร่วมมือเพราะส่วนตัวก็แค้นพ่อของผมอยู่แล้ว
 
ที่น่าเจ็บใจคือ น้องสาวก็เป็นแค่ของแถมในการฆ่าพ่อเท่านั้น ทั้งๆที่ไม่น่าจะมีเหตุผลในการฆ่าเลย
 
และเมื่อการตายของพ่อและน้องสาวจบลง ญาติๆทั้งหลายก็แตกกระเจิงกันไปหมด ต่างฝ่ายต่างรู้ว่าความจริงคืออะไร และพยายามที่จะใช้ชีวิตห่างๆกันเพราะกลัวจะถูกฆ่า
 
เพราะงั้นแม่ของผม จึงได้ทุบตีและเลี้ยงผมเป็นเหมือนหมาตัวหนึ่ง เพราะถ้าหากเธอฆ่าผมเมื่อไหร่ ลินดาก็อาจจะแฉเรื่องเมื่อ 9 ปีออกมา แม่ผมจึงเกลียดผมนักหนา เป็นเหมือนไส้ติ่งยังไงล่ะ
 
คำถามต่อมา.. เมื่อผมและลินดาต่างต้องแยกห่างกัน อะไรจะเกิดขึ้น..
 
มันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก อาจจะเป็นแค่ความบังเอิญก็ได้ เมื่อตอนผมเข้าเรียนมัธยมปลายในปีแรก ลินดาเธอก็ย้ายมาสอนที่โรงเรียนแห่งนี้ ผมเองก็ตกใจอยู่หรอกที่เธอย้ายมา ไม่สิ ต้องเรียกว่าผมต้องทรมานทุกครั้งที่เห็นคนที่ฆ่าน้องสาวตัวเองมาเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา แต่เพราะตอนนั้นผมยังเป็นมนุษย์ที่อ่อนแอ จึงทำได้เพียงเมินเฉย และทำเป็นเหมือนคนพึ่งรู้จักกัน
 
คำถามต่อมา... ทำไมถึงได้รังเกียจผมกันล่ะ ?
 
แน่นอนว่านั่นคือละครตบตา ที่จริงแล้วเธอเป็นห่วงผมมากๆที่ถูกไอ้จอร์จแกล้งอย่างหนัก เธอจึงพยายามทุกวิถีทางให้ผมออกไปจากโรงเรียนนี้ ถึงขนาดให้ผมติดศูนย์อยู่หลายครั้ง ทำตัวเกลียดผมบ้าง แกล้งผมบ้าง สรุปคือ อยากให้ผมเกลียดโรงเรียนนี้แล้วย้ายหนีไปซะ
 
เธอคงจะอยากให้ผมไม่ต้องเจอหน้าเธออีก + กับไม่เจอแกล้ง และวิธีการนี้คงได้ผลมากที่สุด
 
แต่ผมก็ไม่ยอมย้ายหนี จนการแกล้งของจอร์จทวีความรุนแรงขึ้น...
 
คำถามต่อมา.. ทำไมเธอถึงไม่ยอมมาคุยดีๆ ?
 
มันก็คงจะไม่มีไอ้บ้าตัวไหนกล้ามาคุยดีๆกับคนที่พรากชีวิตครอบครัวคนอื่นหรอก... ใช่... เพราะเธอไม่มีหน้ามาทำตัวสนิทสนมกับผมได้เหมือนเดิมแล้ว ต่างฝ่ายต่างรู้ว่าเหตุการณ์เมื่อ 9 ปีเกิดอะไรขึ้น ความสัมพันธ์จึงเป็นไปแบบครึ่งๆกลางๆ
 
     ''ลาก่อนนะ พี่ลินดา''
 
แน่นอนว่าผมก็รักเธอเช่นกัน เพียงแต่ ผมไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ความแค้นมันเยอะมากกว่าหลายเท่า 
 
ตอนนี้ซึ่งพ่อของลินดาเองก็ป่วยตายไปแล้ว เหตุผลในการแก้แค้นในเรื่องพ่อและน้องสาว ก็คงจะจบเพียงเท่านี้... ทีเหลือก็..
 
_____________________________________________
 
          เวลายังเหลืออีกหลายชั่วโมงกว่าจะเช้า ผมจะใช้เวลาทุกวินาทีให้มีค่า ต่อจากนี้จะไปฆ่ายัยเมย์ ซะหน่อย ก็นะ... บังอาจมาทำตัวตอแหลให้ผมไปโดนเพื่อนทั้งห้องรุมกระทืบซะได้ ความแค้นครั้งนี้ไม่เหมือนลินดาแน่นอน เพราะเธอจะต้องตายแบบทรมาน..
 
          ทันทีที่ผมเดินออกจากบ้านของลินดา ก็ได้เจอกับผู้หญิงปริศนา ผมไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร.. โดยเธอมีผมสีสีน้ำตาลสั้น... ใส่แว่นสีดำเพื่อประดับความงามบนใบหน้า ใส่เสื้อกล้ามตัวเดียว ส่วนท่อนล่างก็ใส่กางเกงในตัวเดียวเช่นกัน ท่าทางหน้าตาดูเย็นชา ที่สำคัญเมื่อเธออ้าปากออกมาก็เห็นเขี้ยวน้อยๆ
 
แววตาของเธอเป็นสีน้ำเงิน... สะท้อนแสงออกมาหน่อยๆ
 
     ''นายคือ แอล เหรอ ?''
เธอถามผมมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา พลางแกว่งขาทั้งสองข้างเหมือนเด็ก
 
ใช่...เธอสูงราวๆ 140 ... เด็กซะจริงนะ...
 
     ''เธอ... เป็นใคร ?''
ผมถามกลับไปแบบนั้น ถึงภายในใจจะรู้อยู่แล้วว่าเธอเป็นใครกันแน่ เห็นเขี้ยวของเธอก็รู้แล้วว่าเธอคือแวมไพร์คนแรกของเฮลไซท์แน่นอน เรื่องนี้ที่ไม่ผิด เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่ไอร่าคุยกับแมมม่อนที่หน้าประตูปราสาทนรกในวันที่ผมไปนรกครั้งแรก ผมก็ได้ยินเรื่องนี้ด้วย
 
เว็บขีดเขียน
 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา