แค่อยากให้รู้ว่ารักเธอ

8.7

เขียนโดย ลันตนา

วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 14.02 น.

  33 บท
  10 วิจารณ์
  30.73K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน พ.ศ. 2562 21.37 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

30) กำลังใจ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 30 กำลังใจ

          “พี่ก้อง!” เธอตะโกนสุดเสียงแต่คนรอบกายไม่ได้สนใจ

          เจ้าของชื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยหวังจะใช้มือเลื่อนล้อกลับรถเข็นไปหาเจ้าของด้วยความคิดคะนึงหา แต่จะให้เธอเห็นตนเองในสภาพนี้ได้อย่างไร ‘ให้เธอเห็นไม่ได้’ เขาตัดใจจากความคิดแรกแล้วหมุนล้อรถไปข้างหน้าให้เร็วตามกำลังที่มี

          ไอรินทร์เห็นดังนั้นจึงเดินฝ่าฝูงชนตามไปจนถึงตัว เรียวแขนเล็กโอบรอบลำคอชายหนุ่มจากด้านหลัง

          “รินทร์มารับพี่แล้วนะคะ” ดีใจ

          “พี่...” ก้องภพเว้นวรรค “มีเรื่องจะบอกแต่พี่ขออย่างหนึ่ง” ไอรินทร์เงียบ ตั้งใจฟัง “อย่ารังเกียจพี่ได้ไหม” ไอรินทร์ตอบค่ะแล้วพยักหน้า ก้องภพสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด “จะรับได้ไหมที่พี่ไม่เหมือนเดิม” ชายหนุ่มหลุบตาลงต่ำมองสิ่งหนึ่งที่อยู่กับเขามาตลอดยี่สิบหกปีแต่ตอนนี้ไม่อยู่แล้ว

          ไอรินทร์ยืดตัวตรง ดวงตาคู่สวยเลื่อนลงไปมองที่ตำแหน่งเขามองพบว่าขาซ้ายของก้องภพตั้งแต่หัวเข่าลงไปขาดหาย ใจเธอหายวาบ แล้วไอรินทร์ยิ้มอ่อนโยนให้เขา

          “รินทร์รักพี่นะคะไม่ว่าพี่จะเป็นอย่างไร”

 

          หนึ่งเดือนต่อมา...

          “จะทำอะไรคะ!” ไอรินทร์วางถาดอาหารลงบนโต๊ะและวิ่งถลาเข้าไปหาผู้ป่วยที่นั่งอยู่บนรถเข็น ดึงมีดออกแล้วโยนมีดไปทางอื่น เขากำลังจะกรีดข้อมือตัวเอง “อย่าทำแบบนี้อีกนะ”

          “อย่ามาเสียเวลาเพราะพี่อีกเลยนะ” นัยต์ตาชายหนุ่มเริ่มอุ่นร้อน

          หนึ่งเดือนที่ผ่านมาเวลาว่างหรือหลังเลิกงานของไอรินทร์ เธอจะมาดูแลเขาตลอดไม่ว่าจะป้อนข้าว พาออกไปเดินเล่นหรือไปโรงพยาบาล เขารู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นตัวถ่วง ผู้หญิงดีพร้อมทุกอย่างควรจะได้เจอคนที่ดีกว่านี้

          “คนไม่สมบูรณ์แบบพี่ดูแลรินทร์ไม่ได้หรอก ไปซะ” เขาสั่งเสียงแข็ง พูดว่าขอโทษในใจ เพราะรักจึงไม่อยากให้คนรักต้องมาตกระกำลำบากดูแลคนพิการ อยากให้เธอมีชีวิตที่ดีและสุขสบาย

          ไอรินทร์ทรุดร่างลงนั่งคุกเข่าข้างรถเข็น “ชีวิตของทุกคนไม่มีใครสมบูรณ์แบบหรอกค่ะ แม้แต่มหาเศรษฐีก็ไม่สามารถหาชีวิตที่สมบูรณ์แบบได้” ไอรินทร์สบตาชายหนุ่ม “อย่ากังวลไปเลยนะคะ รินทร์จะอยู่ข้างพี่” ก้องภพกดยิ้มให้หญิงสาวแทนคำขอบคุณ น้ำดีได้เข้าไปหล่อเลี้ยงให้หัวใจที่กำลังแห้งกลับมาสดชื่นอีกครั้ง

          หลังมื้ออาหารและยาหลังอาหาร ผู้ป่วยนอนหลับเพราะฤทธิ์ยาและมีพยาบาลอาสานอนเป็นเพื่อนข้างกาย ผู้ป่วยหลับไปนานแล้ว ไอรินทร์มองไปหน้าด้านข้างของผู้ป่วย  เธอสัมผัสได้ถึงความรักที่เขามีให้ เพราะไม่อยากให้เธอลำบากจึงพยายามผลักไส คิดแล้วยิ้ม ไอรินทร์ประทับลงบนริมฝีปากของชายหนุ่มบางเบาแล้วถอนออก เมื่อความไม่สมบูรณ์แบบเป็นสวนหนึ่งของชีวิต เราก็ต้องอยู่กับมันให้ได้อย่างมีความสุข

 

          หลายเดือนต่อมา...

          พิธีมงคลสมรสของก้องภพและไอรินทร์จัดที่บ้านของเจ้าสาว ในเจ็ดโมงเช้าเป็นพิธีทำบุญตักบาตรและฟังระสวดพระพุทธมนต์

          เจ้าบ่าวอยู่ในเครื่องแบบสีขาวแต่งเต็มยศ เจ้าสาวอยู่ในชุดไทยจักรีประยุกต์สีทองตัดจากผ้าไหมทั้งชุด กระโปรงปักดิ้นสีทอง มีชายเดียว ชายสไบคลุมไหล่ด้านซ้ายทิ้งยาวข้างหลัง เพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็อยู่ในชุดไทยที่ดูเรียบง่ายแต่ไม่โดดเด่นกว่าบ่าวสาว

          “ให้พี่จับมือบนสิ” เจ้าบ่าวร้องท้วงเมื่อเจ้าสาวแย่งยิงตำแหน่งมือจับบนทัพพีจนสำเร็จ

          “ไม่ได้ค่ะ ผู้หญิงต้องเป็นช้างเท้าหน้า” เธอยักคิ้วหลิ่วตาข้างหนึ่งพอเก๋ไก๋ที่สามารถชิงตำแหน่งช้างเท้าหน้าได้สำเร็จ

          “รู้อย่างนี้ตักคนละทัพพียังดีกว่า” เขาพูดลอยๆ แต่ลอยเข้าหูเจ้าสาว ใบหน้ารูปหัวใจเคลือบด้วยเครื่องสำอางจัดเต็มหยักงอเล็กน้อย

          “ไม่ทันไรทะเลาะกันเสียแล้ว แม่คงเลี้ยงหลานไม่ไหวแน่” พีรพัฒน์พูดเรียกรอยยิ้มจากผู้ร่วมพิธี

เก้าโมงเช้าพิธีรดน้ำสังข์

          “แม่ฝากน้องด้วยนะลูก ทะเลาะกันพูดกันดีนะอย่าถึงขั้นลงไม้ลงมือนะ แม่เอาน้องกลับจริงๆ” คุณวรรณวิภาเป็นผู้รดน้ำคนแรก

          “ลูกน่ะ อย่าขี้งอนมากนะรู้ไหม” คุณวิชัยอวยพรทั้งน้ำปริ่มขอบตาดีใจที่มีผู้ชายดีๆดูแลและใจหายเมื่อลูกสาวคนเล็กของบ้านต้องจากอกไปมีครอบครัวเป็นตัวเอง

          “ถึงจะแต่งงานกันแล้ว ลูกก็ต้องให้เกียรติน้องเสมอนะ” คุณเกรียงภพอวยพร

          “มีหลานให้แม่ไวๆนะ” คุณสุภาพรอวยพร ต่อจากนั้นเป็นแขกผู้ร่วมงานคนอื่นๆ

          บรรยากาศอบอวลด้วยความชื่นมื่น ใบหน้าทุกคนแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มแห่งความปิติยินดี ญาณิศาเองก็เช่นกันที่ยินดีด้วยที่เห็นเพื่อนมีความสุข แต่ในชีวิตเธอมันช่างน่าเบื่อเหลือเกินต้องอยู่กับการถูกบังคับทุกวัน จะมีสักวันไหมที่จะมีชีวิตตามแบบที่ต้องการ

          พิธีการดำเนินมาถึงตอนเย็นซึ่งจัดเป็นงานเลี้ยงในโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่ง

          “สวยจัง” เจ้าบ่าวในชุดเครื่องแบบสีขาวเอ่ยขณะมองเจ้าสาวคนสวย

          “แค่วันนี้เองเหรอ” เจ้าสาวนั่งอยู่หน้ากระจกและช่างทำผมสองคนกำลังช่วยกันจัดแต่งทรงผมให้เข้ากับชุดราตรีสีขาวสง่างามสไตล์เจ้าหญิง

          “วันนี้พี่ก็เท่สุดๆเหมือนกัน” เธอมองเขาผ่านกระจก

          ช่างทำผมหนึ่งในสองหันรีหันขวางและค้นหาอะไรบางอย่าง “นี่! ยัยเป็ดมงกุฎกับสร้อยคออยู่ไหนยะ” ช่างทำผมชื่อเป็ดหันรีหันขวาง

          “อยู่ในกล่องไงเจ๊” เป็ดซึ่งเป็นสาวประเภทสองพยักเพยิดหน้าไปทางที่เห็นกล่อง เจ๊เท้าสะเอวทำเสียงฮึดฮัด

          “ไม่มียะ ลงไปหาที่รถไป๊” เป็ดวางมือจากผมแล้วยอมไปตามคำสั่งโดยดี

          “เอิ่ม คุณเจ้าบ่าวคะฝากเจ้าสาวสักครู่นะคะ” เจ๊จีบปากจีบคอยิ้มหวานให้ชายหนุ่มแล้วขอตัวออกไป

          “วันนี้ปวดขาไหมคะ” ไอรินทร์จับมือของเขาที่วางอยู่บนลาดไหล่เปล่าของเธอ ก้องภพจับขอข้างซ้ายที่มีขาเทียม แล้วส่ายหน้าและตอบว่าไม่

          “หิวไหม” ไอรินทร์พยักหน้า ตอนนี้พยาธิในสำไส้เริ่มทำงานแล้ว ข้าวผัดแฮมมื้อเช้าเพียงมื้อเดียวที่ยื้อชีวิตเธอไว้ถึงตอนเย็น

           แล้วก้องภพออกไปจากห้อง มีเพียงไอรินทร์คนเดียวที่อยู่ในห้อง เธอลุกขึ้นหมุนซ้ายหมุนขวามองตัวเองในกระจกแล้วยิ้มให้ตัวเอง วันนี้เป็นวันที่สวยที่สวยที่สุดในชีวิต วันที่เธอใฝ่ฝันที่จะใส่ชุดราตรีสวยๆเดินควงแขนเคียงข้างกับคนรักบนพรหมสีแดงและมีเสียงปรบมือดังรอบกาย

            กริ๊งๆๆ

         “มาเร็วจัง” ริมฝีปากเคลือบลิบสติกสีชมพูสดกดยิ้มดีใจแล้วเดินไปเปิดประตู

 

 

............

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา