มาลย์มายา รีไรท์

9.8

เขียนโดย อาบตะวัน

วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 12.34 น.

  13 ตอน
  11 วิจารณ์
  13.45K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2558 13.56 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

13) มายาหลงรูป

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ชาลิดาเดินซอยเท้าถี่ ๆ ลงจากทางลงเนินที่ลาดสู่ทางน้ำตก มีธชาตามมาติด ๆ หญิงสาวหงุดหงิดงุ่นง่านใจอย่างบอกไม่ถูก เจ้าหนุ่มรุ่นน้องคนนี้คอยแต่พูดหล่อนให้เสียอารมณ์อยู่ตลอดเวลา นัยว่าจะยุให้รำตำให้รั่วเรื่องหล่อนกับนนทภัทร

“รีบเข้าพี่ รีบเข้า แฟนทั้งคนจะปล่อยให้ไปนั่งเล่นน้ำอยู่กับเด็กสาว ๆ ได้ยังไง”

ธชาพูดไล่หลังด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขามองดูร่างขาวอวบจ้ำเดินอย่างเร็วแล้วแอบอมยิ้มขำ

“อย่ามาพูดมากเลยนะ ต้น พี่ไม่ได้จะสนใจที่เธอพูดเลยสักนิด พี่มีธุระกับนนท์พอดี ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเด็กสาว ๆ หรือยายน้ำเลย”

หญิงสาวสะบัดน้ำเสียง เห็นชายหนุ่มเดินไล่หลังมาติด ๆ แต่ดูท่าทางสบายอกสบายใจ เดินผิวปากชมวิว ส่งนัยน์ตายียวนกวนโมโหมาให้เป็นระยะ

ตะวันสูงแดดแรง น้ำยิ่งทอประกายสวย เด็กนักเรียนบางคนเริ่มขึ้นจากน้ำ เสื้อยืดเปียกลู่แนบตัว เด็ก ๆ หัวเราะกันคิกคักชอบใจ ขณะที่บางคนเดินหันกลับกระโดดลงไปในน้ำอีก สายน้ำเย็นฉ่ำดูยิ่งน่าเพลิดเพลินยิ่งขึ้นเมื่อแดดกล้า ข้างบนร้อนข้างล่างเย็น เด็ก ๆ ดูเพลิดเพลินกับธารน้ำจนแทบจะไม่สนใจเวลาว่าล่วงเลยเวลามื้อเที่ยงมาแล้ว

ชาลิดากวาดตามองหา ‘เป้าหมาย’ แดดจัดจ้าจนต้องหรี่ตามอง ลมพัดมาวูบหนึ่งเย็นวาบ จนหญิงสาวสะดุ้ง ลมผ่านแดดร้อนอ้าวแท้ ๆ แต่กลับเย็นเหมือนสายลมในฤดูหนาว หล่อนหันกลับไปมองด้านหลัง ความรู้สึกเย็นยะเยือกแปลก ๆ ยังคงติดอยู่ที่ท้ายทอย หล่อนมองไปรอบ ๆ เห็นแต่ธชามองสวนกลับมาด้วยสายตางงงวย

“มีอะไรครับพี่เชอร์รี่”

หล่อนนิ่วหน้าพลางหันกลับ อะไรบางอย่างวูบไหวอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ทางทิศใต้ของน้ำตก แต่หันกลับมองอีกทีกลับมีแต่ใบไม้ไหวไกล ๆ ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเหมือนที่สายตาหล่อนเพิ่งตวัดเห็น หล่อนรู้สึกเหมือนดวงตาพร่ามัว ก่อนจะหันหน้ากลับมาทางน้ำตกมองหาแฟนหนุ่มตามเดิม

นนทภัทรอยู่ตรงนั้นเอง เขานั่งอยู่ใต้ร่มไม้ไม่ไกลจากน้ำตก เป็นมุมที่แลดูเปลี่ยว ไม่เห็นเด็กนักเรียนสักคนที่ธารน้ำบริเวณนั้น ข้าง ๆ ตัวเขา มีหญิงสาวตัวผอมขาวนั่งอยู่ประชิดติดไหล่ หญิงสาวใส่เสื้อยืดสีขาว ที่บางและเปียกแนบตัว หล่อนสวมกางเกงขาสั้นสีเขียว ร่างเล็ก ๆ นั่งชันเข่ากอดขาพูดเจื้อยแจ้วสบตานนทภัทรอยู่ตรงนั้น ปล่อยให้หยดน้ำไหลระขาเรียวเป็นทาง

ใช่ธาราจริง ๆ ด้วย

ชาลิดายืนมองจ้องทั้งคู่คล้ายถูกมนต์สะกด หล่อนรู้สึกเหมือนภาพของทั้งคู่ตรงนั้นอยู่ไม่ไกลจากที่หล่อนยืนอยู่เลย เสียงหัวเราะคิกคักของธาราดูค่อย ๆ ดังขึ้น ๆ และได้ยินชัดถนัดหูเมื่อนนทภัทรเอ่ยปาก

“กี่ปี ๆ แกก็ไม่เคยเปลี่ยนนะ ดูซิ..ยังผอมแห้งเป็นปลาแดดเดียวเหมือนเดิม”

เขาว่าแล้วหัวเราะก๊าก ๆ ธาราฟาดมือขาว ๆ ลงบนต้นแขน ไม่หนักอะไรนักแต่เมื่อฟาดไปแล้วหล่อนกลับไม่ปล่อยมือ นิ้วเรียวจิกที่กล้ามแน่นบนต้นแขนไว้มั่น เอียงหน้าเข้าใกล้ชายหนุ่ม กระซิบเสียงแผ่ว

“ฉันรู้นะ ว่าแกชอบแบบนี้แหละ”

นนทภัทรยิ้ม ยื่นจมูกเข้าใกล้หญิงสาว ปลายจมูกโด่งแทบจะชนเข้ากับจมูกเล็ก ๆ ของหล่อน ชาลิดาจ้องมองอาการของทั้งคู่นิ่งงัน ตัวแข็งชา รู้สึกเหมือนขาถูกตรึงแน่นอยู่กับที่

“ฉลาด”

นนทภัทรว่า ฟันเรียงสวยแทบจะขบที่ใบหูเรื่อแดงของหญิงสาวตรงหน้า แต่เขากลับเปลี่ยนเป็นจุ๊บเบา ๆ ที่แก้มแทน ธาราเอียงอายแค่เพียงชั่วครู่ หล่อนก็กลับประคองแก้มสากนั้นไว้ทั้งสองมือ ยืดหน้าเล็ก ๆ ของตัวเองเข้าใกล้ชายหนุ่ม สายตาฉ่ำหวานประสานกับดวงตาคมนิ่ง

“ฉลาด...แล้วชอบมั้ย”

แขนแข็งแรงของของนนทภัทรรวบกอดเอวบางมาไว้แนบตัว กดหน้าผากแนบชิดกับหน้าผากมนสวยตรงหน้า

“รักเลยล่ะ”

ฟ้าตอนเที่ยงดูมืดบดลงอย่างไม่น่าเชื่อ ชาลิดาร้อนหู ร้อนใจจนเดือดปุดไปทั่วร่าง หล่อนเคยคิดระแวงคนทั้งคู่มาก่อนก็จริง แต่ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ทั้งคู่จะโลดแล่นเริงรักกันอย่างไม่มีเกรงกลัวฟ้าดินกันถึงเพียงนี้ เมื่อความร้อนแผ่ซ่านมาถึงปลายเท้า หญิงสาวขยับตัวได้ก็กรีดเสียงเรียกชื่อนนทภัทรลั่น

“นนท์!”

ชาลิดาก้าวขาฉับ ๆ ปรี่ไปยังที่คนทั้งคู่นั่งอยู่ สายตายังจับจ้องไปที่หมวยตาสวย หล่อนเห็นธาราปล่อยแขนที่โอบคอแฟนหนุ่มของหล่อนหันกลับมาจ้องมองหล่อนอย่างท้าทาย

“นังน้ำ นังผู้หญิงหน้าด้าน”

หล่อนแผดเสียง ตรงเข้ากระชากตัวธาราออกมาจากตักของชายหนุ่ม

“กล้าดียังไงมาทำแบบนี้ ฮะ”

หญิงสาวร่างเล็กตรงหน้ายืนจ้องมองหล่อนอย่างไม่สะทกสะท้าน ใบหน้าขาวเนียนเผยอยิ้มบาง ๆ คล้ายจะเยาะหยัน ชาลิดาเงื้อมือขึ้นสุดแขน หน้าด้านหน้าทนแบบนี้คงจะอยู่เฉยไม่สั่งสอนกันบ้างไม่ได้แล้ว นี่ขนาดว่าหล่อนเป็นรุ่นพี่จากรั้วสถาบันเดียวกันยังกล้ามาเหยียบจมูกกันได้ มือแข็งแรงของใครบางคนคว้าข้อมือหล่อนไว้ในเสี้ยวนาทีที่จะตวัดลงใบหน้าของรุ่นน้องตัวดี ชาลิดาหันกลับไปมองอย่างขัดใจ

“พี่จะทำอะไรน่ะ”

ธชานั่นเอง เขาปราดมาคว้าข้อมือหล่อนไว้ หน้าคมมองหล่อนอย่างตกใจระคนประหลาดใจ ชาลิดาสะบัดข้อมือออก

“เธอมองไม่เห็นหรือไง ว่าแม่นี่มันทำอะไรอยู่ ทุเรศที่สุด ฉันจะสั่งสอนให้มันรู้สำนึกซะบ้าง”

หล่อนเอะอะเสียงดัง นนทภัทรโผล่เข้ามาสำทับด้วยอีกคน

“รี่ รี่ทำอะไรน่ะ”

เขาร้องเสียงดัง หน้าตาโมโหจริงจัง ผู้ชายหนอผู้ชาย ตัวเองมากอดนัวผู้หญิงอื่นอยู่ตำตายังมากล้าออกหน้าพูดแบบนี้กับหล่อนได้ ชาลิดาตาร้อนผ่าว อกใจสั่นรัว หล่อนร้อนรนไปหมด ไม่เคยมีใครกล้าทำแบบนี้กับผู้หญิงอย่างหล่อนมาก่อน คนอย่างหล่อนเคยแต่เป็นที่หนึ่ง ที่สองต้องไม่ใช่หล่อน หล่อนเป็นฝ่ายเลือก ผู้ชายหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์มาเลือกหรือกำหนดให้หล่อนอยู่ในตำแหน่งใดได้

“นี่มันจะมากไปแล้วนะ นนท์ นี่นนท์ทำอย่างงี้ได้ยังไง ฮะ นนท์ทำอย่างนี้กับรี่ได้ยังไง!!!”

ชาลิดากรีดร้อง เนื้อเนียนเต้นเร่า ๆตามจังหวะเท้ากระทืบปึง ๆ บนโขดหิน

“เอ่อ… พี่เชอร์รี่คะ

ธาราเปิดปากพูดเสียงแผ่ว คำสุดท้ายยังไม่ทันขาดจากปาก เจ้าของเสียงก็ต้องกรีดร้องลั่น เมื่อชาลิดาหันมาผลักผางเข้าที่อกหล่อนเต็มแรง ร่างบางปลิวหวือไถลลื่นตกก้อนหิน เสียงตูมบนผิวน้ำกับเสียงวีดร้องของธาราทำให้หน้าสวยเหยียดยิ้มออกมาอย่างสะใจ

“สมน้ำหน้า อยากหาเรื่องใส่ตัวดีนัก”

สาวรุ่นพี่ปาดน้ำตาที่แก้มเร็ว ๆ มองลงไปที่ลำธาร สายน้ำกระเพื่อมเป็นระลอก ธาราผุดขึ้นมาจากผิวน้ำ ผมเปียกระตามใบหน้าบิดเบี้ยว ครั้งนี้เองที่หล่อนเพิ่งสังเกตเห็นว่า ตามท้องธารไม่ได้ว่างเปล่าอย่างที่หล่อนเห็นในตอนแรก เด็กหนุ่มลูกครึ่งคนหนึ่งโจนเข้ามาถึงตัวหญิงสาวอย่างรวดเร็ว

“มิสน้ำ มิสน้ำ Are you OK?”

เด็กผู้หญิงจีนสองสามคนว่ายตามมาดูใกล้ ๆ ชาลิดาขมวดคิ้วมองอย่างประหลาดใจ เมื่อครู่นี้ หล่อนไม่เห็นใครอยู่บริเวณนี้เลย

“อลัน! ไม่ต้อง ๆ”

ธชาร้องเสียงหลงเมื่อเห็นเด็กหนุ่มลูกครึ่งประคองไหล่โอบเอวธารากลางลำน้ำ เขาลนลานกระโดดลงน้ำตกไปด้วยอีกคน

น้ำไม่ลึกมาก สำหรับคนตัวสูงอย่างธชาอยู่ที่ระดับอก แต่บางช่วงของร่องหิน เท้าของเขาก็แทบจะแตะไม่ถึงพื้น ธาราเป็นผู้หญิงคล่องน้ำ เขาจำได้แม่นตอนคบกัน หล่อนไม่ต่างอะไรกับนางเงือกตัวน้อย ที่เมื่อปล่อยสู่สายน้ำจะตวัดปลายขาพลิ้วลงสู่ธารน้ำใสอย่างว่องไว แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ตอนที่เธอมีแผลถลอกครูดเป็นทางทั้งแขน แผลจากการถูกผลักให้ไถลลื่นตกจากก้อนหิน .... นนทภัทรยื่นมือไปรับหญิงสาวขึ้นมาจากท่าน้ำ แต่ชาลิดาดึงมือเขาไว้เสีย ชายหนุ่มจุปากรำคาญ ให้บังเอิญเด็กนักเรียนหนุ่มอลันมารับช่วงต่อ เขาจึงได้แต่มองตามร่างผอมบางที่เปียกปอน ขาข้างหนึ่งดูเดินไม่ถนัดนัก มีธชาคอยประคองอย่างใกล้ชิด

ธาราตัวเปียกมะล่อกมะแล่ก เส้นผมที่รวบตึงเป็นหางม้าหลุดลุ่ยเปียกระตามบ่าและหลัง ชาลิดาเขม้นมองเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของธาราอย่างประหลาดใจ หล่อนสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีน้ำเงินเข้ม กางเกงยีนส์ห้าส่วน แถมด้วยรองเท้าผ้าใบ

ไม่ได้อยู่ในชุดวาบหวิวอย่างที่หล่อนเห็นเมื่อครู่

หน้าหมวยเปียกน้ำมองหล่อนตาวาว ฉายแววเคืองขุ่นอย่างเด่นชัด เลือดไหลซิบ ๆ เป็นทางตามแขนและข้อเท้าของหล่อน

“กลับไปที่เต็นท์ก่อนมั้ยน้ำ เรามีกล่องยาที่นั่นนะ”

ธชาแตะแขนหล่อนอย่างไม่รู้จะช่วยอย่างไรดี ธาราส่ายหน้า นัยน์ตาดำขลับจ้องมองชาลิดาเขม็ง

“พี่เชอร์รี่ทำแบบนี้ทำไมคะ”

หล่อนว่า ปากคอยังคงสั่น ชาลิดาแข็งคอ กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น หล่อนสบตากับหญิงสาวตรงหน้าได้อย่างไม่เต็มตา ธาราดูต่างจากภาพที่หล่อนเห็นก่อนนี้อย่างสิ้นเชิง หล่อนเป็นธาราเหมือนอย่างที่หล่อนเคยเป็น ไร้ซึ่งวี่แววของสาวขี้เล่นเริงร่าอย่างที่หล่อนเพิ่งเห็นเมื่อครู่นี้กับนนทภัทร ภาพที่หล่อนเห็นเมื่อครู่มันหายไปเหมือนหล่อนเพิ่งตื่นจากฝัน มันเป็นฝันชนิดไหนกันที่หล่อนได้ยินเสียงกระซิบของคนทั้งคู่เต็มสองหู เห็นเป็นธาราและนนทภัทรพลอดรักกันเต็มสองตา และมาตอนนี้ที่ทั้งคู่เหมือนมาจากคนละทิศทาง และสภาพเหมือนไม่อยู่ในอารมณ์ในฝันนั้นแม้สักนิด

“ก็..ฉันเห็นพวกเธอกอดกัน”

หล่อนว่าเสียงกระตุก ทุกคนในที่นั้นหันมาจ้องชาลิดาแทบจะพร้อมกัน

“ใครคะ ใครกอดกัน”

ธาราเลิกคิ้ว หน้าตาเอาเรื่อง

“ก็..ฉัน”

ชาลิดาเม้มปาก ขอบตาแดง สายตาหลายคู่จับจ้องมาที่หล่อน เด็กนักเรียนวัยรุ่น 2-3 คนบริเวณนั้นเอียงหน้าซุบซิบกันด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็น ธชาขมวดคิ้วมองหล่อน สลับสายตาเป็นระยะไล่สำรวจตามบาดแผลบนตัวของธารา แขนเสื้อเชิ้ตของธาราขาดเป็นรู เจ้าของเสื้อดูไม่สนใจกับสิ่งอื่นใดของตัวเองนอกจากส่งสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามมาที่ชาลิดา นนทภัทรหน้านิ่ง เม้มริมฝีปากเงียบ ไม่แม้แต่จะหันหน้ามาทางแฟนสาว บางจังหวะที่เขาส่ายหน้าแล้วถอนใจเหมือนอึดอัด ชาลิดามองภาพรอบตัวแล้วน้ำตาคลอ หล่อนกระพริบตาถี่ ๆ ขับไล่น้ำตาให้จนหยาดรินไหลเต็มสองแก้ม

“ฉันเห็นจริง ๆ เห็นพวกเธอทำแบบนั้น... ฉันเห็น”

หล่อนสะอื้น นนทภัทรหันกลับมามอง เขาจับไหล่แฟนสาวข้างหนึ่งบีบเบา ๆ ชาลิดาโผเข้ากอดเอวเขาร้องไห้โฮ ธารามองภาพนั้นเงียบ ๆ แขนข้างหนึ่งเจ็บจนรู้สึกชา ความเจ็บที่แผลพวกนี้หรือเปล่าที่ทำให้หล่อนรู้สึกเหมือนปากคอแห้งผาก หล่อนหันมามองผู้ชายข้างตัว มือใหญ่ยังคงเกาะกุมที่ข้างเอวของหล่อน ธาราอยากจะบอกเขาว่า หล่อนเดินเองได้ แต่ด้วยเพราะภาพของชายหนุ่มที่มองแฟนสาวของเขาด้วยสายตาห่วงใยตรงหน้านั้น ที่ทำให้หล่อนเปลี่ยนความคิด ปล่อยให้คนตัวสูงโอบเอวพาหล่อนออกจากบริเวณนั้นเงียบ ๆ เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของชาลิดาดังแทรกปนไปกับเสียงไผ่เบียดล้อลมระหว่างทาง บนท้องฟ้ายามบ่ายปรากฏเมฆทะมึนที่ด้านหลังน้ำตก ใครคนหนึ่งนั่งห้อยขาบนกิ่งไม้ใหญ่ใกล้กับน้ำตก ชายผ้าถุงดำแถบแดงกระเพื่อมน้อย ๆ ตามจังหวะของสายลม ใบหน้าสวยไร้อารมณ์นั้นจับจ้องมองตามคนกลุ่มนั้นไปอย่างไม่วางตา

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา