มาลย์มายา รีไรท์

9.8

เขียนโดย อาบตะวัน

วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 12.34 น.

  13 ตอน
  11 วิจารณ์
  13.45K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2558 13.56 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) เชอร์รี่ เซ็กซี่ตัวแม่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ธาราลากกระเป๋าเดินทางขึ้นรถเก๋งคันงามไปกับมดแดงอย่างเหนื่อยล้า หล่อนรู้สึกเหมือนพลังในตัวหมดลงเสียอย่างนั้น หล่อนควรจะโทษอะไรดี โทษฟ้าโทษดินหรือผีสางนางไม้ที่ทำให้เกิดเรื่องประหลาดแบบนั้นขึ้นกับตัวหล่อนและทุกคนรอบข้าง มดแดงอาสาพาหล่อนไปนอนที่หาดใหญ่สักคืนก่อนกลับเชียงราย

“ขึ้นเครื่องเหอะน้ำ ชีวิตจะลำบากไปเพื่อ..?? แหม...งก ลอกเตี่ยมาเลยนะแกเนี่ย”

มดแดงบ่นอุบ หล่อนมองสารรูปผอมแห้งของเพื่อนสาวแล้วส่ายหน้า

“ทั้งผอมทั้งซีด ฉันล่ะงงจริง ๆ ว่าอีก้าบมันนึกยังไงสลัดพี่เชอร์รี่แล้วมาเอาแกเป็นแฟนแทน”

ประโยคนั้นดึงความสนใจจากธาราทันที

“หะ! อะไงนะ พี่เชอร์รี่กะอีก้าบเหรอ”

“อ้าว ๆ พูดแล้วอย่าโกรธกันนะ เรื่องนี้แกก็รู้อยู่แล้วนี่ ตอนปีสองที่อีก้าบมันกิ๊กอยู่กับพี่เชอร์รี่ไง เแต่อยู่ดี ๆ มันโดดมาเป็นแฟนกะแกเฉยเลย ประหลาดมาก”

ว่าแล้วเพื่อนสาวก็ยิ้มขำ

“แต่ก็ดีนะ ฉันชอบพวกแกว่ะ น่ารักดี”

พี่เชอร์รี่กะอีก้าบชอบกัน... คำพูดนี้วนเวียนอยู่ในห้วงคิดของธารา ตอกย้ำซ้ำ ๆ ให้กระอักกระอ่วนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากเข้าไปอีก นี่หล่อนทำอะไรผิดพลาดไปหรือเปล่านี่

นนทภัทรนั่งทอดตัวอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก แขนข้างหนึ่งโอบตัวผู้หญิงขาวอวบในชุดเดรสสีดำ หล่อนซบหน้าอยู่บนอกเขา น้ำตาไหลรินอยู่อย่างนั้นมาเกือบชั่วโมงแล้ว ปากพร่ำพูดแต่คำว่ารัก แขนเนียนทั้งสองข้างโอบรัดที่เอวเขาแน่นไม่ยอมปล่อย

ชายหนุ่มถอนใจอย่างอึดอัด ชาลิดาได้เจอกับเขาในกรุงเทพเมื่อปลายปีที่แล้ว ตอนหล่อนมาทำงานร่วมกรุ๊ปวีเอสพีกับสาขาใหญ่ที่นี่ เขาจำแววตาที่เปล่งประกายในวันแรกที่ได้พบกันของหล่อนได้ดี ชาลิดาเพิ่งเลิกกับแฟน หล่อนบอกเขาในวันนั้นว่าดีใจที่เจอเขาและทำท่าเหมือนกับอยากสานต่อความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมากกว่าเป็นเพียงรุ่นพี่รุ่นน้องร่วมสถาบัน นนทภัทรจำได้ว่าเขารู้สึกขบขันกับความคิดนี้ ปั๊บปี้เลิฟตลก ๆ ของเขากับเซ็กซี่สตาร์ของมหาวิทยาลัย มันเป็นเพียงแค่ความคึกคะนองในวัยรุ่นของเขาเท่านั้น

“ใคร ๆ ก็อยากได้พี่เชอร์รี่”

คำพูดที่เพื่อน ๆ คอยป้อนให้กันฟังเสมอในวงเหล้า

“เห็นเค้าชอบอยู่กับมึง ไม่ลองดูล่ะ”

นนทภัทรยังจำได้ในวันที่เขาถูกชวนเชิญจากรุ่นพี่สาวให้ไปร่วมวงสังสรรค์ที่บ้าน ชาลิดาเช่าบ้านเป็นหลังร่วมกับเพื่อน ๆ ในกลุ่มแถว ๆ หน้ามหาวิทยาลัย แต่ระหว่างทางหล่อนชวนเขาแวะซื้อของแถวสหกรณ์ ฝนเกิดตกหนักขับมอเตอร์ไซค์กลับไม่ไหวจึงได้ติดฝนอยู่แถวนั้น

ใต้ต้นอินทนิลในฤดูฝนฉ่ำ ใบดกเขียวหนาเต็มต้น สองคนหลบฝนอยู่ที่นั่นน้ำฝนกระเซ็นเล็ดลอดเป็นละอองปรายโปรยให้ทั้งคู่อยู่ในสภาพเปียกปอน ชาลิดาในเสื้อสีดำผืนบางยืนหนาวสั่นข้าง ๆ เขา เสื้อคอคว้านลึกยามเปียกแนบเนื้อ มองเห็นเนินเนื้อร่องขาว ภาพนั้นดึงสายตาให้เด็กหนุ่มเหลือบมองเป็นระยะ เขาพยายามควบคุมสมาธิไว้ ทว่า..ร่างเล็ก ๆ ขาวอวบจะพยายามเบียดชิดเข้ามาใกล้

“หนาวจังเลยเนอะ”

คนหน้าขาวยิ้มเผยอริมฝีปากแดงเรื่อ ยามเปียกฝน ผมสีน้ำตาลแดงเป็นลอนพลอยเปียกลู่ แนบลงประบ่ารับกับใบหน้า ชาลิดาเป็นสวยชวนให้หลงใหลอย่างแท้จริง หล่อนช้อนตามองเขา ขนตาดกเป็นแพหนานั้น ฉ่ำด้วยหยดน้ำเป็นประกายยิ่งทำให้ชวนมองเข้าไปอีก นนทภัทรดื่มด่ำกับอาการนั้น เขาเผลอตัวยกมือขึ้นเกลี่ยเส้นผมออกจากใบหน้าหล่อนเบา ๆ หล่อนพริ้มตาน้อย ๆ ปล่อยให้นิ้วมือยาว ๆ ของคนตรงหน้าลูบไล้ไปตามลำคอขาวเนียนช้า ๆ หญิงสาวเอนตัวรับสัมผัสนั้นอย่างพึงพอใจ กลิ่นกายหอมอ่อน ๆ ใต้คาง เย้ายวนใจเด็กหนุ่มให้โน้มลงตัวลงไปใกล้ ปลายจมูกสัมผัสกับต้นคอเบา ๆ หากเป็นเพราะเสียงคนคุยกันดังแว่วใกล้ ๆ เขาจึงสะดุดอาการนั้น เงยหน้าขึ้นจากเนื้อหอมละมุนนุ่มนิ่ม แล้วหันมองตาม

ต้นเสียงเป็นเด็กสาวตัวเล็ก ๆ ผอม ๆ กับเด็กหนุ่มตัวสูง ผมหยิกเป็นลอน หน้าตาคมเข้ม นนทภัทรจำได้ในทันทีว่าคนทั้งคู่คือเพื่อนของเขากับน้องมาลัยคนสนิทของเจ้าหล่อน ท่าทางของคนทั้งคู่ดูสนิทสนมกันเกินงาม เขาหยุดดูทั้งสองคนนิ่ง นาน ละความสนใจจากผิวอวบอิ่มข้างตัวที่ยังคงเบียดประชิดเขา หล่อนคอยปัดผมที่ประรกต้นคอออก เผยเนื้อหนังเนินอกให้ขาวเด่นชัดยิ่งขึ้น แต่ความน่าสนใจไม่ได้อยู่ตรงนั้นอีกแล้ว... เด็กหนุ่มตรงถนนหลังป่ารกนั้น กำลังบรรจงจูบธารา นนทภัทรตัวชา เขานิ่งเหมือนถูกสะกด ในใจร้อนรุ่มขึ้นมาอย่างหาสาเหตุไม่ได้

“เอ่อ... พี่เชอร์รี่ครับ ฝนหยุดตกแล้ว พี่กลับเองได้มั้ยครับ ผมมีธุระด่วนเลย”

เขาพูดรัวเร็ว แทบไม่ได้สบตารุ่นพี่สาว ชาลิดาอ้าปากค้างน้อย ๆ กระพริบตาถี่ ๆ มองอาการร้อนรนนั้นอย่างไม่เข้าใจ

“อ้าว แล้วนนท์ไม่ไปกินเหล้ากับพวกพี่เคแล้วเหรอ เขารอกันอยู่นะ”

“ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ครับว่ามีธุระ”

นนทภัทรรีบผละออกมาจากที่นั่นโดยไม่ได้ร่ำลาอะไรหญิงสาวอีก เขามองเห็นภาพธชาจูบธาราซ้ำ ๆ ในหัวขณะบิดมอเตอร์ไซค์บึ่งตะบันกลับเข้าไปในมหาวิทยาลัย มือขาสั่นอย่างไม่รู้สาเหตุ

ที่ทางแยกถนนขึ้นเนินจากเส้นจากสหกรณ์ เขาเลือกที่จะรื้ออุปกรณ์ซ่อมรถออกมาแล้วทำการล้วงแคะเครื่องในรถตรงนั้น ที่จริง เขาแทบจะมองอะไรไม่เห็นด้วยซ้ำว่าอะไหล่ชิ้นไหนอยู่ตรงไหน ไฟบนถนนไม่สว่างพอหรือเพราะเขาไม่มีสมาธิกันแน่ เขากำลังโกรธ ใช่ ต้องโกรธสิ เด็กบ้านั่นมาทำอย่างนั้นกับเพื่อนสาวของเขาได้ยังไง ธาราก็ด้วย หล่อนคงลืมไปแล้วสินะ ว่าตัวเองมีแฟนแล้ว เขาจะต้องสะสางเรื่องนี้แทนพี่เค พี่ชายร่วมเมเจอร์ของเขา ใช่ แค่ช่วยพี่เคเท่านั้น...ไม่เกี่ยวกับใครหรืออะไรอย่างอื่นเลย

นนทภัทรหยุดคิดถึงเรื่องราวในอดีตแล้วถอนใจ เขาจ้องมองแหวนวงน้อยที่นิ้วนางแล้วสีหน้าสลดลง

แล้วทำไมเมื่อได้ยินธาราพูดว่าอยากเป็นแฟนเขา เขาถึงดีใจนัก เขาแทบจะทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างลงในวินาทีที่ได้ยินประโยคนั้นจากเพื่อนสาว

เขารักธารา

แต่ 7 ปีที่ผ่านมามันดูรางเลือนในความทรงจำ เมื่อเขากลับไปคิดถึงช่วงเวลาที่เขากับเธออยู่ด้วยกัน มันเหมือนเขากำลังดำน้ำ ทั้งภาพและเสียงดูอื้ออึงปนเป ไม่แจ่มชัด แต่กับผู้หญิงตรงหน้า ที่เพิ่งเห็นหน้าเพียงปีกว่าคนนี้ต่างหาก กลับเหมือนมีพลังกับเขามากกว่า

ชาลิดาวนเวียนอยู่ใกล้เขามาตลอด แม้ว่าจะมีผู้ชายอื่น ๆ ในออฟฟิศสนใจตามจีบ ก็ดูไม่มีความหมายกับหล่อนเลย

“นนท์หล่อกว่าตั้งเยอะ”

หล่อนเคยพูดแล้วยิ้มหวาน กลิ่นกายหล่อนหอม ผิวเนียนละเอียด คอยพาร่างขาวอวบอยู่ใกล้ ๆ เขาเสมอไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน แล้วใครมันจะอดใจได้....

หากธารารู้เข้า เรื่องระหว่างเขากับเธอคงจะจบลงแน่ ๆ....

แล้วเขาควรจะทำอย่างไรดี....

“พี่ขอคุณอิริคแล้ว ให้พี่ไปเชียงรายด้วยนะนนท์ พี่ไม่วุ่นวายหรอก”

“เชียงรายเหรอครับ พี่ก็รู้ว่าน้ำอยู่ที่นั่น ขืนพี่ไปผมกับน้ำต้องมีปัญหากันแน่”

เขารักธารา เขาบอกตัวเองซ้ำ ๆ แต่หัวใจมันอ่อนยวบไปหมดเมื่อเห็นสีหน้าของผู้หญิงคนนี้ ชาลิดาบอกกับเขาซ้ำ ๆ เสมอว่า “รัก” และคำ ๆ นี้ มันติดแน่นอยู่ในใจเขาตลอดเวลา...

 

‘หมวยผู้เปลี่ยนแปลงโลก’ นอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟาในคอนโดหรูกลางตัวเมืองหาดใหญ่ มดแดงเจ้าของห้องง่วนอยู่กับการเตรียมขนมเอาใจเพื่อนสาว ผู้ซึ่งดูไร้เรี่ยวแรง ไร้ชีวิตชีวาอย่างไม่รู้สาเหตุ ธารานอนเอาเท้าข้างหนึ่งก่ายไว้กับหมีพูร์ตัวยักษ์ หน้าซุกอยู่ระหว่างหมอนอิงใบใหญ่ ในหัวยังคงหมุนคว้าง มองหาทางออกอะไรให้กับตัวเองยังไม่เจอ

“ขี้เกียจกลับเชียงรายขนาดนั้นก็ลาออกดีมั้ยแก...แหม ทำท่ายังกะโลกจะแตกอย่างงั้นล่ะ”

มดแดงเหน็บ

เสียงมือถือดังปิ๊บสั้น ๆ บ่งบอกว่ามีข้อความเข้ามาทางใดทางหนึ่งในธาราเอื้อมหยิบเปิดดู

“พรุ่งนี้เจอกันนะจ๊ะ เดี๋ยวจะซื้อขนมไปฝาก”

หน้านนทภัทรมาพร้อมกับข้อความหวานแหวว ต่อท้ายด้วยสติ๊กเกอร์ดิ้นดุ๊กดิ๊ก ธาราถลนตา หงายหลังกลับลงไปนอนบนโซฟา เสือกตัวไปมาอย่างคลุ้มคลั่ง

อำนาจแห่งกาลเวลาช่างวิเศษแท้ ก่อนหน้านี้ หล่อนไม่เคยมีช่องทางใด ๆ ในการติดต่อกับนนทภัทรเลย แม้แต่เบอร์โทรศัพท์ก็ไม่เคยมี แต่นี่.... มีมาโดยอัตโนมัติ

ให้ตายเหอะ ...หล่อนไม่อยากนึกถึงช่วงเวลา 1 เดือนข้างหน้า ที่ผาดาวรีสอร์ทเลย คงร้อนแรงพิลึก

“ใครก็ได้ช่วยฉันที ฉันไม่อยากกลับไปเจออะไรแบบนั้นที่รีสอร์ท”

หล่อนคร่ำครวญอู้อี้อยู่ใต้หมอนใบใหญ่ มดแดงดูเพื่อนรักอยู่ในอาการจิตตกแล้วก็โคลงหัวอย่างไม่รู้จะช่วยอะไรดี หากหล่อนไม่รีบร้อนกลับญี่ปุ่นสองสามวันนี้ ก็อยากจะไปอยู่เป็นเพื่อนธาราที่เชียงรายอยู่หรอก หล่อนนึกเป็นห่วงเพื่อนสาวขึ้นมาเบา ๆ ไม่กล้าจะบอกเจ้าหล่อนให้ยิ่งเสียสติเข้าไปอีกว่า “ต้น” น้องมาลัยหนุ่ม อดีตขวัญใจสุดหล่อที่ดูเหมือนสาวหมวยจะจำฝังใจคนนั้น เขาเป็นครูสอนที่รร.ที่นนทภัทรกำลังพาเด็กนักเรียนไปเข้าค่าย และตัวเขาเองก็จะไปร่วมค่ายครั้งนี้ด้วย...

ท่าทางธาราจะต้องเจออะไรอีก ‘มาก’ ที่นั่น ...

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา