เงารักในพายุ

ทั้งสามขี่ม้ามาถึงจุดหมายเหวินจิ้งลงจากม้า            โดยประคองเหม่ยลี่อย่างอ่อนโยน   เมื่อผูกม้าของตัวเองไว้กับต้นไม้ในป่า  หย่งคังก็ลงจากหลังม้าและหาที่ผูกม้าของตนเองเช่นกัน        ยังไม่ทันไรกลุ่มมือสังหารทั้งแปดคนที่ล้วนสวมชุดดำปิดบังใบหน้าเข้าล้อมกลุ่ม    โดยเข้าไปรุมที่หย่งคังแต่เพียงผู้เดียว หย่งคังที่เตรียมพร้อมรับมือไว้อยู่แล้ว       เข้าต่อสู้ด้วยความแข็งแกร่งโดยไม่สนใจเหม่ยลี่ที่เกาะเขาอยู่ด้านหลัง   อีกด้านหนึ่งเสวี่ยไป๋ที่กำลังเก็บสมุนไพรได้ยินเสียงการต่อสู้ดังมาจากป่าอีกด้าน             ก็ใช้วิชาตัวเบาทะยานไปบนอากาศเหนือพื้นดิน             พอถึงจุดเกิดเหตุนางขึ้นไปสังเกตุการณ์นิ่งอยู่บนต้นไม้ ขมวดคิ้วเพ่งมองไปยังกลุ่มที่ต่อสู้กัน          ของกลุ่มชายแปลกหน้ากับหญิงสาวเพียงหนึ่งเดียว          ครู่หนึ่งจึงตัดสินใจกระโดดลงมาจากบนต้นไม้ ทันทีที่นางปรากฏตัว    

ถึงกลับทำให้การต่อสู้กันอย่างดุเดือดนั้นหยุดชะงักไป           เมื่อสิ่งที่ทุกคนได้เห็นคือหญิงงามดังเทพธิดา      เป็นความงามราวกับดอกเหมยยามฤดูหิมะ  แม้ใบหน้างดงามจะเย็นชา  ดวงตาแข็งกร้าว    แต่ก็ไม่อาจลดทอดความงามของนางลงได้ แม้แต่ผู้เป็นหญิงสาวด้วยกันอย่างเหม่ยลี่      ที่นางเองก็ได้ชื่อว่าเป็นหญิงงามเช่นกัน          แต่ก็ยังรู้สึกได้ว่าหญิงสาวผู้นี้งดงามกว่านางอยู่หลายส่วน             ไม่ได้งามฉูดฉาดแต่งามดั่งหยาดน้ำค้างที่แสนบริสุทธิ์ราวเทพธิดา   แน่นอนว่าสะกดใจบุรุษให้นิ่งงันไปได้                โดยเฉพาะหย่งคัง ถึงกลับตกตะลึงพร้อมกับใช้มือกดที่หัวใจของเขาเอง               ที่บัดนี้สั่นไหวราวกับกลองศึก                        เขาพบเห็นและเคยร่วมรักกับสาวงามมากมาย แต่ไม่เคยมีใครทำให้เขารู้สึกเช่นนี้ได้มาก่อน        และยิ่งเมื่อได้เห็นใบหน้าที่เย็นชาดวงตาที่แข็งกร้าวดุดันราวสัตว์ป่า                       ก็ยิ่งรู้สึกสนใจจนเผยรอยยิ้มออกมา                     การหยุดชะงักของการต่อสู้เกิดขึ้นเพียงชั่วอึดใจ ก็หันมาโรมรันกันต่อ                เสวี่ยไป๋เดินเข้ามาในกลุ่มการต่อสู้อย่างไร้แววตื่นตระหนก             เข้ามาปัดป้องเหม่ยลี่ที่เป็นหญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวเอาไว้ โดยไม่สนใจกลุ่มบุรุษที่โรมรันกันแต่อย่างใด       นางใช้กำลังภายในซัดไปที่มือสังหารคนหนึ่งอย่างแรงเพียงครั้งเดียว            ก็ทำให้มือสังหารผู้นั้นสิ้นใจทันที       ดาบประจำตัวคู่กายถูกขวัดแขว่ง             เพื่อปกป้องช่วยเหลือสตรีเพียงหนึ่งเดียว  ในขณะที่ตาของนาง          ฉายแววโรจน์มองไปที่หย่งคังอย่างชิงชังรังเกียจ      พร้อมกับคิดในใจ

เสวี่ยไป๋แค่นเสียงอย่างเย็นชา    'หึ เท่าที่สังเกตุการณ์มาชั่วครู่ก็พอจะเดาได้ว่าบุรุษกลุ่มนี้ล้วนชั่วช้าไม่มีใครดีกว่าใครเลยสักคน    กลุ่มมือสังหารกลุ่มนั้นเห็นได้ัชัดว่ามุ่งร้ายแต่เพียงชายผู้นี้เพียงคนเดียว          โดยไม่มุ่งร้ายต่อชายอีกคนทั้งที่น่าจะมาด้วยกัน และชายผู้นั้น    กลับไม่สนใจจะปัดป้องช่วยเหลือชายผู้นี้ สีหน้าแววตาดูไม่ทุกข์ร้อนที่เห็นพวกเดียวกันถูกรุม            เห็นได้ชัดว่ามือสังหารกลุ่มนี้คงเป็นคนของเขาเอง           ที่คงมีเป้าหมายจะลอบสังหารชายที่มาด้วยกัน      และดูเหมือนว่าเขาจะใส่ใจที่จะปกป้องแต่เพียงหญิงหนึ่งเดียวผู้นี้   แต่ก็ทำได้ยากลำบากเพราะหญิงสาวนางนี้             ได้แต่คอยเกาะติดอยู่กับชายผู้เป็นเป้าหมายลอบสังหารผู้นี้         แต่ที่น่าชิงชังที่สุดก็คือชายผู้นี้ ทั้งที่มีฝีมือสูงกว่ากลุ่มมือสังหารกลุ่มนี้มาก       และก็เห็นอยู่ว่ามีหญิงสาวนางนี้พัวพันอยู่กับเขา  แทนที่จะปกป้องคุ้มครองสตรี          แต่นอกจากจะไม่ปกป้องแล้วในหลายจังหวะ  ยังจงใจให้นางถูกลูกหลงอีกด้วย     บุรุษสารเลวพวกนี้จะฆ่ากันตายก็ช่าง  แต่ยังไงข้าขอช่วยสตรีด้วยกันนางนี้ก่อน    แล้วจะฆ่ากันตายก็เชิญตามสบาย'

'เห...อะไรกันเนี่ย      น่าปวดใจจริงๆ      พบกันเพียงครั้งแรกก็ถูกเทพธิดาคนงามชิงชังรังเกียจเอาแล้วหรือนี่               นอกจากความงามที่พาให้ใจสั่นแล้ว ฝีมือก็เก่งกาจและแข็งแกร่งยิ่ง              คาดการณ์ได้อย่างแม่นยำทั้งที่เพียงสังเกตุการณ์ชั่วครู่เท่านั้น ดีจริงๆเลยที่ออกมาล่าสัตว์ครั้งนี้น่ะ ฮิๆๆ'

เพียงเวลาไม่นานมือสังหารทั้งหมดก็สิ้นชีพด้วยฝีมือของหย่งคังและเสวี่ยไป๋