7Swords

9.6

เขียนโดย จิ้งจอกมายา

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 23.29 น.

  31 chapter
  3 วิจารณ์
  24.24K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 23.40 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

8) Manner

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 8 Manner

 

เสียงเป่าแตรสงครามยักษ์ดังกึกก้องไปทั่วพ็อตเทอร์รี่จากหอรบ ดังหวูดนั้นดังเสียจนกระจกบ้านใกล้ๆสั่นสะเทือนกึกๆ ชาวเมืองต่างส่งข่าวปากต่อปากว่า จิ้งจอกแห่งไวท์ฟอร์ทดูถูกชาวพ็อตเทอร์รี่และในตอนนี้ หัวหน้าองครักษ์เรคัสก็สั่งการให้เรียกประชุมทัพทั้งหมดซึ่งเกณฑ์ชายหนุ่มที่กำลังฮึกห้าวจากคำกล่าวปรามาสน้ำใจไปด้วย รวมพลโดยคร่าวๆได้หมื่นกว่าคน

เมื่อข่าวแพร่ออกไปแบบนั้นชาวเมืองต่างพากันออกไปออเตรียมดูการสู้รบระหว่างกองทัพของพ็อตเทอร์รี่กับพวกโจรสลัดที่กำลังจะปะทุในไม่ช้านี้

“แม่ทัพเจมสัน -- ” เรคัสทักเมื่อแม่ทัพตัวสูงใหญ่ใส่เกราะเหล็กหนารีบเดินมาถึง เขากระทำเคารพเรคัสก่อนจะนั่งลงที่ประชุมทัพ เรคัสพูดต่อไปว่า “อย่างที่ข้าบอก พวกโจรสลัดมีราวๆสองพันคน แต่คนของเรามากกว่า เราจะลงเรือทั้งหมดและออกโจมตีพวกมันอย่างสุดกำลังทั้งหมดที่มี” น้ำเสียงดุดันของเรคัสยังคงคุกรุ่นจากเหตุการณ์ที่โรงฝึกทหาร

“หัวหน้าองครักษ์ -- ” เรคอมป์บุตรชายของเรคัสเดินเข้ามายังที่ประชุมทัพท่าทีเขาทั้งตกใจและหน้าเสีย “ตอนนี้ใกล้จะบ่ายสี่แล้ว ขืนออกไปสู้ตอนนี้ก็คงมืดก่อนการสู้รบจะเสร็จสิ้น -- ”

“ข้าไม่สน!!” เรคัสกล่าวอย่างเกรี้ยวกราด “เรือโจรสลัดต้องจมลงที่อ่าวนี่!! คืนนี้!!”

เรคอมป์เห็นสีหน้าเอาจริงของผู้เป็นพ่อก็ไม่อาจจะเอ่ยทัดทานอะไรได้อีกต่อไป แผนการที่เขาวางไว้ให้พวกไวท์ฟอร์ทออกไปสู้รบแทนฟังลงอย่างไม่เป็นท่าเพราะเขาเสียรู้ให้กับ คาร์ลดีเซน เอเคลเซธ..... จิ้งจอกแห่งไวท์ฟอร์ทแท้ๆ

เมื่อเขาหันหน้ามามองผู้ที่เดินแหวกเข้ามายังใจกลางที่ประชุมทัพ เขาถึงกับเผลอออกมา “นี่เจ้า -- ”

เอเคลเซธหันมามองเรคอมป์ เขายกมือขึ้นสองข้างในท่ายอมแพ้ “เปล่านะ.... ข้าแค่มาที่นี่เผื่อพวกท่านต้องการความช่วยเหลืออะไร -- ”

*“Save your words, Fox!!” แม่ทัพเจมสันกล่าว เขาลุกขึ้นยืนอย่างข่มขวัญ เอเคลเซธสูงไม่ถึงไหล่ของเขาเสียด้วยซ้ำ เจมสันน่าจะสูงราว แปดหรือเก้าฟุตได้ “เซอร์โรแลนด์ ข้าขอทหารแค่สองพันนำทัพหน้าเองขอรับ!!”

“ตกลง” เรคัสเอ่ยโดยไม่วางสายตาจาก เอเคลเซธ “เชิญเซอร์คาร์ลดีเซนพักผ่อน และมองดูแม่ทัพเจมสันทุบเรือเป็นสองซีกเถอะ”

“โอ้.... ได้เลยขอรับ” เอเคลเซธทำเป็นตกใจกลัว

 

ไม่ช้า ทัพเรือยี่สิบลำของพ็อตเทอร์รี่ก็ออกจากฝั่งเข้าไปในอ่าว พวกชาวเมืองต่างโห่ร้องรับไปกับเสียงแตรสงครามอย่างอื้ออึงเมื่อมองทัพเรือออกไปขับไล่โจรสลัด เรคัสและเหล่าขุนนางและแม่ทัพอื่นๆขึ้นหอบัญชาการเพื่อมองดูการรบจากที่สูง เอเคลเซธแยกตัวออกมานั่งปะรำเล็กด้านล่างที่เรคัสสั่งให้พวกลูกน้องจัดไว้ให้อย่างลวกๆ เขานั่งลงและมองอาหารคาวหวานบนโต๊ะที่ดูหรูหราและเยอะเหลือเฟือราวกับตั้งใจจะประชด ท่ามกลางเสียงแตรรบและเสียงชาวเมืองแบบนี้ เอเคลเซธพบว่าคงยากที่จะกลืนลง

“ดูซิดูนั่นใคร” เสียงยานๆของเอริคลอยมา ก่อนที่เขาจะเดินโซซัดโซเซเข้ามาในปะรำและคว้าเหล้าที่ดูหรูเทกรอกปากตัวเอง “ฮ่าห์ห์ห์ นี่มันเหล้าจากฝั่งตะวันออกนะนี่ ดีกรีแรงสะใจสุดๆ” เอริคยิ้มหยาดเยิ้มขณะเทเหล้าใสๆใส่แก้วและส่งให้กับโคล์ดี้ที่เดินตามเข้ามา เอเคลเซธมองออกไปและเห็นทหารของไวท์ฟอร์ท ราวห้าสิบคนที่ตั้งแถวอารักขาปะรำอยู่

“แล้วลีโอล่ะ?” เอเคลเซธถามเบาๆ แต่ทหารที่อยู่ใกล้ประตูที่สุดพยักหน้า

“เราเป็นห่วงว่าพวกพ็อตเทอร์รี่จะทำร้ายท่าน -- ” เสียงของแม่ทัพโคล์ดี้เงียบหายไปและแทนที่ด้วยรอยยิ้ม

“ไม่ต้องห่วงข้าหรอก” เอเคลเซธเอ่ยอย่างสบายใจและเทเหล้าอีกขวดหนึ่งส่งให้พ่อของเขา “ที่ควรห่วงน่ะ พวกพ็อตเทอร์รี่มากกว่า” เขาบอก

“อย่างไรหรือ?” แม่ทัพโคล์ดี้ถาม

เอเคลเซธไม่ตอบ เขาพยักพเยิดให้มองไปเบื้องหน้าที่กองเรือยี่สิบลำของพ็อตเทอร์รี่เคลื่อนตัวไปช้าๆ เนื่องจากกระแสลมพัดเข้าฝั่ง พวกเขาจึงต้องเก็บใบเรือและอาศัยใบพาย พายเรือใหญ่ไปแทน

“คนพวกนี้รบทางน้ำไม่เป็นสักกะนิด” เอริคมองไปเบื้องหน้าเฉยๆ “เจ้าเตรียมขั้นต่อไปหรือยังล่ะ?” เขาหันมาถามลูกชายซึ่งพยักหน้า “แต่คราวนี้ขอให้ลดไอ้ท่าทีกวนประสาทลงหน่อยล่ะ.... หลังจากงานนี้ เราต้องคงความเป็นพันธมิตรกับพวกพ็อตเทอร์รี่อยู่..... อย่าลืมซะล่ะ”

เอเคลเซธเบ้ปาก เขากรอกตาและยอมพยักหน้าในที่สุด

 

การรบบนผืนน้ำระหว่างโจรสลัดกับทัพของของพ็อตเทอร์รี่กินเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง --

เมื่อเรือของพ็อตเทอร์รี่เข้าไปใกล้ระยะ พวกโจรสลัดก็ยิงธนูเพลิงซึ่งเหาะตามแรงลมส่งให้ลูกศรติดไฟลอยไกลกว่าปกติและเข้าปักใส่เรือลำแรกซึ่งใช้เวลาไม่กี่นาทีก็ไหม้วอดทั้งลำ ทั้งยังถูกกระแสลมตีพัดจนเรือถอยหลังมาชนเข้ากับเรือด้านหลังซึ่งพายตามมาจนไฟลุกท่วมติดๆกันไปและแตกขบวนในที่สุด.....

ทหารที่สละเรือหนีก็กระโดดลงน้ำไปทั้งชุดเกราะและจมหายไปกับกระแสคลื่นในเวลาเพียงครู่เดียว ทหารที่รู้ตัวถอดเกราะเหล็กที่จะถ่วงให้จมน้ำออกก่อนแล้วค่อยกระโจนลงทะเลก็จมหายไปไม่นานเช่นกัน เนื่องจากกระแสคลื่นน้ำสูงและเย็นจัด

เมื่อเรือแตกขบวนที่เหลืออยู่สองลำพยายามจะดึงเรือกลับ เรือโจรสลัดก็พุ่งเข้ามาราวกับรอจังหวะอยู่ก่อนแล้ว พวกโจรสลัดล้อมทหารเพื่อยึดเรือไว้และถีบส่งคนลงทะเลปล่อยให้กระเสือกกระสนว่ายน้ำกลับกันเอง ซึ่งก็ต่างจมน้ำหายไปทุกคนเพราะกระแสน้ำเย็นจัดนั้น

 

บนหอบัญชาการรบเงียบกริบ ไม่ต่างจากชาวเมืองด้านล่างที่อ้าปากค้าง แม้แต่คนเป่าแตรก็เผลอมองการรบที่จบลงอย่างรวดเร็วจนลืมทำหน้าที่

 ชาวพ็อตเทอร์รี่ไม่มีใครคาดคิดเลยว่า กองทหารสองพันคนที่แข็งแกร่งและฮึกเหิมจะถูกทำลายลงภายในเวลาชั่วพริบตาเดียว

กว่าการประชุมรอบสองจะเริ่มก็ใช้เวลานานมากพอสมควร -- เพราะราวกับต่างคนต่างลืมวิธีการพูด ในที่สุดเรคัสก็สั่งปรับแผนการต่อสู้ใหม่ และเมื่อพิจารณาถึงความได้เปรียบเสียเปรียบแบบด้านภูมิศาสตร์แล้ว ชาวพ็อตเทอร์รี่ได้แต่ต่างคนต่างเงียบ ไม่อาจคิดแผนบุกใหม่ได้

“เราจะบุกใหม่ โดยใช้เรือของเราทั้งหมด -- ” เรคัสเอ่ยขึ้นมาในที่สุด “บุกด้วยกำลังทั้งหมดที่เรามี ตีโอบโดยรูปแบบหน้ากระดาน -- ”

“และพวกท่านก็จะพาคนอีกครึ่งหมื่นไปตาย” เสียงของเอเคลเซธดังขึ้น เขาปรากฏตัวที่หอบัญชาการ “หรือท่านไม่เห็นผลลัพธ์จากการบุกของท่านเมื่อกี้นี้?”

“แล้วเจ้าจะให้เราทำยังไง!!” เรคัสระเบิดออกมาสีหน้าของเขาในยามนี้ราวกับจะฆ่าคนได้

“แล้วท่านจะเรียกเรามาทำไม ถ้าไม่คิดจะให้เกียรติเราสักนิด!!” เอเคลเซธระเบิดกลับอย่างไม่คาดคิดจนคนรอบข้างต้องมองทั้งเรคัสและเอเคลเซธอย่างตกใจและกลัวว่าจะเกิดเรื่อง “ท่านรั้งเวลาไม่จัดการพวกมัน จนมันตั้งตัวได้ พอเรามาก็สั่งให้เราออกรบทันที -- ท่าทีแบบนี้ ห่างไกลกับคำว่าบ้านพี่เมืองน้องมากนัก!!”

“ท่านคาร์ลดีเซน...... -- ” เรคอมป์เอ่ยอย่างหวาดกลัว

“แล้วพอข้าเสนอว่าจะช่วยกลับผลักไล่ไสส่งข้าครั้งแล้วครั้งเล่า..... โอ้ -- นี่หรือเมืองแห่งการค้าการแลกเปลี่ยน? ข้าไม่เห็นมารยาทของพ่อค้าสักนิดเมื่อแขกต่างเมืองมา การต้อนรับที่ได้คือความเย็นชา -- พอตอนนี้ข้ามีแผนจะมาช่วยก็ดันมาตวาดใส่ข้าเสียอีก มารยาทเมืองพ่อค้าเยี่ยมแท้ๆ”

เรคัสขบกรามแน่น เขาพูดด้วยน้ำเสียงดังว่า “นี่ไม่ใช่เวลาจะมาอ้างเรื่องมารยาท ไอ้หนู!!”

“ถูกที่สุด เรื่องมารยาทน่ะ ช่างหัวฟักเผือกมันไปเถอะ!!” หลายคนถึงกับผงะเมื่อได้ยินคำหยาบหลุดออกมา “แต่ตอนนี้ถ้าไม่อยากส่งคนไปตายอีก จงฟังแผนของข้าให้ดี....... -- ”

 

ลอร์ดเบโอวูล์ฟนั่งอยู่บนบริเวณสระน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งไวท์ฟอร์ท สระน้ำที่ไม่เคยจับเป็นน้ำแข็งเลยแม้อากาศจะหนาวแค่ไหน เขามองไปยังแท่นศิลาหินโบราณใจกลางสระน้ำที่อยู่ไกลออกไปประมาณสิบเมตร ในมือถือจดหมายจากลีโอไนดัสลูกชายของเขาไว้

“และท่านก็มาอยู่ที่นี่จริงๆสินะ” เสียงของสตรีดังขึ้น ไลโอซ่าร์เหลียวไปมองและเห็นภรรยาของเขาเดินเข้ามาใกล้ๆ

“ภรรยาของข้าหาข้าเจอเสมอสินะ เมื่อข้าต้องการนาง” ไลโอซ่าร์หยอดคำหวานให้กับภรรยาก่อนจะจุมพิตนางเบาๆ

“ท่านชอบมาที่นี่ทุกครั้งที่ไม่สบายใจ” ลิมพาเนียเอ่ย “เช่นเดียวกับพ่อของข้า.... และลอร์ดแห่งไวท์ฟอร์ทคนก่อนๆ”

“ข้าหวังว่าลูกคงสบายดี -- ” ไลโอซ่าร์เอ่ยเบาๆ

“กลับมาข้าจะตีซะให้เข็ดเลย” ผู้เป็นแม่เอ่ย “มีอย่างที่ไหนแอบตามกองทัพไปแบบนี้ เด็กคนนี้ไม่สนใจเลยใช่มั้ยว่าเราจะยุ่งวุ่นวายแค่ไหนตอนที่เขาหายไป..... ก่อนจะเจอจดหมายน่าโมโหนั่น?” นางเอ่ยด้วยสีหน้าราวกับยักษ์ แต่ไลโอซ่าร์กลับหัวเราะเบาๆ

“ข้านึกไม่ถึงเลยว่า เด็กคนนั้นจะโตเร็วถึงขนาดนี้.....” ไลโอซ่าร์เอ่ยพลางเหม่อมองลงผืนน้ำ “เขาอายุสิบหกแล้วหรือนี่? ......เท่ากับข้าตอนที่ออกรบครั้งแรกเลย......”

ลิมพาเนีย มองสามีที่หวนรำลึกถึงความหลัง จู่ๆแววตาของเขาราวกับเขากลายเป็นเด็กหนุ่มอายุสิบหกเท่านั้น

เธอเดินเข้าไปกอดเขา “ลูกจะสบายดี ข้าแน่ใจ..... ก็เขาเป็นลูกของท่าน......”

“ลูกของเรา......” ไลโอซ่าร์ยกมือข้างหนึ่งโอบภรรยา “ใช่.... ลูกของเราต้องไม่เป็นไรแน่”

“เขาอยู่กับพวกคาร์ลดีเซนด้วยนะ ถ้าหากข้ารู้แน่ๆว่าเขาอยู่กับใครแล้วจะปลอดภัย ก็ต้องเป็นพวกเขาสองพ่อลูกนี่แหละ” ลิมพาเนียเสริม

“เจ้าจำได้มั้ยว่า เอริคเคยหลอกให้ลีโอกินเบียร์ด้วย? -- ”

สองสามีภรรยาหัวเราะอย่างมีความสุข ขณะที่ยามคนหนึ่งเดินเข้ามารายงานว่า “ลอร์ดเบโอวูล์ฟขอรับ..... คนจากเบรฟเวอรี่การ์เดนเดินทางมาขอรับ”

ไลโอซ่าร์พยักหน้าให้กับภรรยา ก่อนจะปล่อยแขนข้างที่โอบนางไว้ “ให้พวกเขาเข้ามา -- ”

 

*“Save your words, Fox!!” Jameson’s Quote: “หุบปากไปเถอะ เจ้าจิ้งจอก!!”

**(Right!! F**k the manner!!) Akelzeth’s Quote: “ถูกที่สุด เรื่องมารยาทน่ะ ช่างหัวฟักเผือกมันไปเถอะ!!”

**เนื่องจากเป็นถ้อยคำรุนแรงจึงไม่อาจเอาลงในเนื้อหาได้**

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา