The Invisible : The Girls

9.7

เขียนโดย โรแลนด์

วันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 21.17 น.

  5 ตอน
  0 วิจารณ์
  6,041 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 มีนาคม พ.ศ. 2559 21.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ระเบิดลูกนี้เพื่อเธอ!

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     ท่านประธานมองออกไปยังด้่านล่างผ่านหน้าต่างในห้องนอนของตนเอง เขาเห็นชายคนหนึ่งเดินลงมาจากรถซีมูลีนคันงาม ชายคนนั้นยังคงดู

     โดดเด่นอยู่ตลอดเวลาแม้ว่านี่จะเป็นยามค่ำคืนแล้วก็ตาม เขาเป็นชายวัยกลางคน เขาคนนั้นแต่งตัวด้วยชุดสูทสีดำสนิท มีหูกระต่ายสีดำติดอยู่ที่บริเวณช่วงปกเสื้อด้านหน้าของเขา เขาเป็นคนที่มีผิวขาวอมชมพู ดวงตาตี่ ทรงผมสกินเฮด โดยรวมแล้วเขาช่างเป็นคนที่ดีพร้อมทั้งหน้าตาและบุคคลิกภาพ
     ชายคนดังกล่าวเดินมาที่ประตูหน้าบ้าน มีพ่อบ้านในชุดยูนิฟอร์มคอยเปิดประตูให้

     ท่านประธานเดินลงมาจากบันไดโค้ง เขาสวมชุดสูทสีขาวสง่างามพร้อมกับหูกระต่ายสีขาวสว่าง เหมือนกับชายคนนั้นทุกอย่างเพียงแต่เปลี่ยนแค่สีของชุดเท่านั้น จากนั้นเขาจึงเห็นว่าชายคนดังกล่าวนั่งรอเขาอยู่ที่ห้องรับรองแล้ว และชายคนนั้นยืนขึ้นเมื่อเห็นว่าท่านประธานมายืนอยู่ต่อหน้าเขาแล้ว

     "คุณดูดีมาก!" เขากล่าวขณะที่ท่านประธานกำลังยืนยิ้มนิ่งๆต่อหน้าเขา
     "คุณดูดีกว่า!" ท่านประธานกล่าวต่อชายคนนั้น
     "พร้อมไปแล้วหรือยัง?" เขาถามพร้อมกับยื่นมือมาข้างหน้า
     "ไปสิ!" ท่านประธานยิ้มแล้วจับมือเขา

     ทั้งคู่เดินตรงไปที่รถซีมูลีนคันที่เขานั่งมา โดยชายคนดังกล่าวเป็นคนเปิดประตูให้ท่านประธานขึ้นก่อนจากนั้นเขาจึงตามขึ้นไปนั่ง แล้วสารถีที่ทำหน้าที่ขับรถจึงปิดประตูแล้วเดินไปยังที่นั่งของคนขับ

     ขณะที่รถคันงามกำลังเคลื่อนออกไป ชายหนุ่มทั้งสองคนจ้องมองออกไปยังด้านนอกของรถ ท่านประธานจ้องมองดูพระจันทร์เต็มดวงที่คอยเคลื่อนตามเขาและรถที่เขานั่งมาโดยไม่สามารถรู้ได้ว่ามันจะหยุดเคลื่อนตามได้เมื่อไหร่ ทั้งคู่ยังคงนิ่งเงียบอยู่เช่นนั้น เพราะต่างคนต่างก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นบทสนทนาด้วยประเด็นใดดี

     หลังจากที่ทั้งคู่นั้นเลิกรากันมาแล้วช่วงหนึ่ง ทั้งคู่ก็จำไม่ได้ว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายกลับมาเริ่มต้นความสัมพันธ์นี้ใหม่อีกครั้งหนึ่ง
     'ทำไมคนเราจึงต้องไขว่คว้าหาความรักกันนัก เมื่อรักจางลง สิ่งที่ลงเหลืออยู่คืออะไร ความรู้สึกเหมือนถูกทรยศหักหลัง ถ้าดีหน่อยก็อาจจะเหลือมิตรภาพดีๆอยู่บ้าง' ท่านประธานตั้งคำถามขึ้นมาในใจ โดยที่ไม่มีคำตอบที่ตายตัว 'เขา' คนนี้จึงเป็นเหมือนกับคำตอบของคำถามในใทั้งหมดนี้

     เกย์เป็นมนุษย์พันธ์ใจอ่อน วูบไหว และมักสั่นคลอนอย่างรุนแรงกับเรื่องรักเรื่องใคร่ เมื่อไหร่ที่รักเกิดขึ้นในใจแล้วก็ยากที่จะลืมหรือห้ามปราม ต่อให้มีสิ่งแปดเปื้อนแปลกปลอม มีเรื่องเลวร้ายเข้ามาในความสัมพันธ์ หากรู้่สึกรักเสียแล้ว เรามักมีคำว่า 'อภัย' เสมอ คล้ายกับไม้ยืนต้นที่ต่อให้กิ่งก้านใบปลิดร่วง มันก็พร้อมจะยืนหยัดผลัดกิ่งก้านใบใหม่ขึ้นเพื่อทดแทน เป็นวัฏจักรไม้ยืนต้น แม้จะยืนโดดเดี่ยวเพียงต้นเดียวอยู่กลางทุ่ง แต่มันก็ยังรู้สึกอบอุ่น ปลอบโยนตัวเองให้เป็นสุขได้กับร่มเงากิ่งก้านใบของตัวเอง

     "ถึงเวลาแล้ว!" เขาเรียกท่านประธานเพื่อดึงสติเขาหลังจากที่ประธานเหม่่อลอยไปนาน

     ทั้งคู่ลงมาจากรถคันงาม ควงแขนกันแล้วจึงเดินเข้าไปที่งานเลี้ยงวันเกิดของท่านสมหญิง ภายในงานนั้นเต็มไปด้วยผู้คนมีฐานะโดยสังเกตุง่ายๆจากเสื้อผ้าระดับแบรนดังที่แต่ละคนใส่มาราวกับไม่มีใครยอมใคร ขณะที่ทั้งสองเดินเข้าไปที่งานนั้นก็มีหญิงสูงอายุคนหนึ่งที่แต่งตัวดูดีมีระดับคอยยืนต้อนรับอยู่ทางด้านใน

     "สุขสันต์วันเกิดครับท่านสมหญิง!" ท่านประธานกล่าวและยื่นกล่องของขวัญกล่องเล็กๆให้กับท่านสมหญิง
     "ขอบใจมากๆนะจ๊ะบุญเสริม!" ท่านรับของและกล่าวขอบคุณต่อท่านประธานหนุ่ม "ไปเรียนอยู่ต่างประเทศมาเสียตั้งนาน กลับมาคราวนี้ดูดีขึ้นมากเลยนะ... อ้อ! แล้วธุระกิจของพ่อเธอน่ะเป็นอย่างไรบ้าง?"
     "ก็เรื่อยๆครับ... ยังมีอะไรที่ต้องค้างคาอีกมาก" ท่านประธานกล่าว
     "แล้วพ่อหนุ่มนี่ล่ะ... เป็นใครกันหรอ? ฉันว่าฉันไม่เคยเห็นหน้าเธอเลยนะจ๊ะ!" ท่านสมหญิงมองหน้าชายที่มากับท่านประธานแล้วจึงถาม
     "สวัสดีครับ! ผมปริยาวัฒนานนท์ สกลชลกาลตระทานบานตระไท ครับ!" เขาแนะนำตัวอย่างสุภาพและจึงก้มลงไปจูบมือท่านสมหญิงอย่างสุภาพ
     "สวัสดีจ๊ะ ยินที่ได้รู้จักนะ พวกเธอคงจะเป็น..." ท่านสมหญิงกำลังจะกล่าวต่อ

     บึ้ม!!! เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างแรง ทุกคนในงานตกใจสุดขีดและต่างวิ่งหนีอุดตลุด

     ท่านประธานก้มลงหลบ เขาพยายามมองหาปริยาวัฒน์แต่เขาไม่ได้อยู่แถวนั้นอีกแล้ว ท่านประธานจึงมองไปรอบๆตัว แต่เขาไม่สามารถมองเห็นอะไรได้อีก เพราะควันจากระเบิดนั้นบดบังทุกสิ่งรอบกายของเขา

     "ท่านคะ! รีบมาเถอะค่ะ!" อุ๋งศรีคว้าแขนท่านประธานขึ้นมาแล้วพยุงท่านประธานออกไปจากที่เกิดเหตุทันที
     "นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันน่ะ!" ท่านประธานถามอย่างขวัญเสีย
     "มีคนรอบวางระเบิดท่านค่ะ!" อุ๋งศรีตอบแล้วจึงรีบนำตัวท่านประธานขึ้นรถแล้วเธอก็รีบขับรถออกจากที่นั่นทันที จากนั้นจึงมีกองทัพบอดี้การ์ดอีกสิบกว่าคนขับรถล้อมรอบรถคันที่ท่านประธานกำลังนั่งอยู่ เพื่อป้องกันการรอบทำร้ายท่านประธานอีกครั้ง
     "ผู้หมวดอุ๋งศรี! ผมขอสั่งใหุ้คุณกลับไปที่งาน..." ท่านประธานสั่ง
     "เรากลับไปไม่ได้แล้วค่ะ!" อุ๋งศรีตอบกลับหนักแน่น
     "แต่มีผู้ชายอีกคนหนึ่งที่มากับผม เราต้องพาเค้ากลับไปด้วย!" ท่านประธานอ้อนวอนสุดขีด
     "กับเรื่องงานทุ่มเทขนาดนี้มั้ยค่ะท่าน! ไม่มีเวลาแล้วค่ะ!!" อุ๋งศรีเพิ่มความเร็วรถที่ขับ "เอ่อ... ว่าแต่... ท่านประธานมีผู้ชายหรอคะ? แซ่บนะเนี่ย!"
     "อย่ามาล้อเล่นกับผม!" ท่านประธานเริ่มหน้าแดง
     "น่อวๆๆๆ ฮ่าๆๆ" อุ๋งศรียังคงล้อเลียนท่านประธานต่อไป

     รถที่ขับมาตลอดทางจำเป็นต้องหยุดลงทันที เพราะด้านหน้า 'มีด่าน!'
    "สวัสดีครับ! ผมจ่าทศพร ขออนุญาติตรวจวัดระดับแอลกอฮอของผู้ขับขี่ด้วยครับ เนื่องจากคุณขับขี่รถยนต์ด้วยความเร็วเกินกำหนด" ตำรวจจราจรกล่าว
     "นี่! รู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร... " ท่านประธานกล่าว
     "ผมจะไปรู้ได้ไงครับ โปรดลงมาวัดเถอะครับ จะได้ไม่เป็นภาระของตำรวจ" นายตำรวจยังยืนยันหนักแน่น
     "เฮ้! เคลีย!" ท่านประธานดีดนิ้ว จากนั้นบอดี้การ์ดอีกสิบกว่าคนก็ลงมาจากรถที่ขับต่อแถวกันมาที่ด่าน

     บอดี้การ์ดทุกคนหยิบปืนลูกซองออกมาจ่อไปที่นายตำรวจคนดังกล่าว แต่คราวนี้เขากลับยืนนิ่งๆ ดวงตาเบิกอ้าอย่างน่าตกใจ
     "เอ่อ... ดะ... เดินทางโดนสวัสดีภาพครับท่าน..." นายตำรวจกล่าว จากนั้นรถทั้งหมดจึงเคลื่อนต่อไปที่องค์กรลับของท่านประธาน


     ณ องค์กรลับ

     "มันเกิดขึ้นได้ยังไง?!" ท่านประธานถามขณะนั่งพักอยู่ในห้องทำงานของตน
     "หน่วยสืบของเราทราบมาว่า เป็นฝีมือของคนจากองค์กรมูเอยมูค่ะ" อุ๋งศรีกล่าวพร้อมกับยื่นภาพถ่ายที่หน่วยสืบไปแอบถ่ายคนนิรนามที่กำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ทางด้านหลังของงานเลี้ยงวันเกิดคุณสมหญิง
     "ต้องใช่แน่ๆ! ผมว่าเราต้องเร่งมือแล้ว ผมเกรงว่าสิ่งที่พวกเราต้องการ จะไปตกอยู่ในกำมือของมันเสียก่อน!" ท่านประธานกล่าว
     "งั้นแผนต่อไปคืออะไรค่ะท่าน?" อุ๋งศรีถาม
     "ผู้หญิงสองคนที่เราจับตัวมาน่ะ! เราจะส่งพวกเขาไปให้เร็วที่สุด" ท่านประธานกล่าว
     "รับทราบค่ะท่าน" อุ๋งศรีตอบรับแล้วเดินออกไปจากห้อง

     ท่านประธานนั่งคิดไตร่ตรองอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่เขาจะต่อสายและยกหูโทรศัพท์บนโต๊ะขึ้นมา
     "ฮัลโล๋! สะกำ ผมต้องการใหุ้คุณจัดทีมตามหาคนที่ชื่อ ปริยาวัฒนานนท์ สกลชลกาลตระทานบานตระไท ให้ผมหน่อย... ห้ะ... ไม่ๆ คุณจดสิ! จด! เอาอีกรอบนะ ... ปริ.. ยาวัฒ นานนท์ สกลชลกาลตระทานบานตระไท! นั่นแหละ ไม่ๆ ไม่ใช่ซอโซ่ มันต้องสอเสือ... ผมบอกว่าสอเสือ!! นั่นแหละ จัดการให้ผมหน่อยนะ" ท่านประธานวางสายโทรศัพท์แล้วถอนหายใจยาวๆ


     เช้าวันต่อมา

     "เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้... มันเป็นสัญญาณว่า พวกเขากำลังจะทำสงครามกับเรา!" ท่านประธานกำลังกล่าวต่อหน้าที่ประชุม "ดังนั้น เราต้องเร่งมือเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด! ตามหาเขาให้เจอ!"
     "ทราบค่ะ! ให้ดิฉันพาสองคนนั้นเข้ามาเลยไหมคะ?" อุ๋งศรีถาม
     "เอาเข้ามา" ท่านประธานตอบ

     บอดี้การ์ดสองคนเดินเข้ามาในห้องประชุม พร้อมกับเฟิร์นและนุช ทั้งสองสาวแต่งตัวด้วยชุดสีดำสนิท เนื้อผ้าหนาคลุมตั้งแต่คอจรดเท้า

     "เชิญนั่งสิ!" ท่านประธานกล่าวต่อสองสาว "ฟังนะ... ผมอยากให้พวกคุณทั้งสองคนตั้งใจทำงานนี้ให้ดีที่สุด"
     "งานอะไร?" เฟิร์นถาม

     ท่านประธานเปิดจอโปเจ็กเตอร์ขึ้นมา เผยให้เห็นภาพของชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่ง เขาใบหน้าเป็นรูปไข่ ตาโต จมูกยาว
     "นี่คือนายบุญสุโชค โสโครกประจำการ" ท่านประธานกล่าว "เขาเป็นสายลับหน่วยพิเศษที่โขมยของบางอย่างขององค์กรเราไป นั่นคือบันทึกลับขององค์กรเรา ในนั้นจะมีข้อมูลลับสุดยอดระดับโลกอยู่ เราไม่ทราบว่าเขาเอาไปทำไมหรือเอาไปให้ใคร แต่องค์กรคู่แข่งของเราก็กำลังตามหาตัวเขาและจะแย่งชิงบันทึกนั้นไป ซึ่งถ้าบันทึกถูกเปิดเผยออกล่ะก็... จะต้องเกิดเรื่องใหญ่มากขึ้นแน่ๆ"
     "แล้วทำไมต้องส่งเราสองคนไป!" นุชถาม
     "องค์กรของเราต้องการสายสืบพิเศษสองคน ที่จะต้องปลอมตัวไปเพื่อตามหาตัวเขา ถ้าเอาเข้าจริงๆ... วันนั้นเธอสองคนไปยืนขวางการยิงปะทะกันขององค์กรเรากับองค์กรคู่แข่ง ด้วยความรำคาญ เราเลยจับตัวเธอออกมาเพื่อไม่ให้เกะกะ เธอเลยติดมาถึงตอนนี้ แล้วภารกิจนี้ก็เพื่อให้เธอชดใช้ในสิ่งที่เธอทำ!" ท่านประธานอธิบาย
     "เราจะต้องทำยังไงบ้าง?" เฟิร์นถาม
     "จากข้อมูลที่เราได้มา เธอจะต้องปลอมตัวไปแถวจตุจักร เขาอยู่ที่นั่น โดยที่เธอสองคนจะต้องใส่เสื้อยืด เกงยีน รองเท้าแตะ เพื่อให้แนบเนียนกับผู้คนที่นั่นที่สุด" ท่านประธานกล่าว
     "เดี๋ยวๆ แล้วชุดดำเท่ๆที่เราใส่อยู่นี่ล่ะ?!" เฟิร์นถาม
     "ฉันให้เธอใส่เพื่อให้มันมีฟิลลิ่งยังไงล่ะ!" ท่านประธานตอบ
     "แล้วจะเริ่มกันเมื่อไหร่!" นุชถาม
     "วันนี้เลย ฉันจะให้ประสิทธิ์แต่งตัวด้วยเสื้อเชิ๊ตสีฟ้า กางเกงยีน รองเท้าแตะ แล้วขี่ตุ๊กๆไปส่งพวกเธอ" ท่านประธานบอกแผนการ

     เฟิร์นและนุชยืนอยู่ด้านหน้าตึกสูงขององค์กรลับ มีท่านประธานบุญเสริมยืนมองพวกเธออยู่ห่างๆ ส่วนประสิทธิ์กำลังเดินไปที่นั่งคนขี่ตุ๊กๆ หลังจากนั้นสองสาวจึงกระโดดขึ้นไปบนรถตุ๊กๆ
แล้วท่านประธานก็หยิบร่มออกมากางเพราะร้อน หลังจากนั้น รถตุ๊กๆก็เริ่มเคลื่อนตัวออกไป...

ขณะที่ท่านประธานกำลังนั่งมองรถตุ๊กๆเคลื่อนออกไปไกลจากสายตามากขึ้นเรื่อยๆ สะกำ เบียงเตย ก็วิ่งหน้าตื่นมาหาท่านประธาน
     "ท่านประธานฮะ!!!" สำกำวิ่งหน้าตื่นมาหาท่านประธาน
     "อะไร! มีอะไรห้ะ!" ท่านประธานกล่าว
     "ผู้ชายคนเมื่อคืนที่ท่านประธานให้ตามหาน่ะฮะ!" สะกำกล่าวอย่างเหนื่อยๆ
     "ทำไม?! เจอเขาแล้วหรอ เขาเป็นยังไงบ้าง!" ท่านประธานตื่นตัวสุดขีด
     "ใช่ฮะ เจอฮะ แต่... แต่!!" สะกำเริ่มอ้ำอึ้ง
     "แต่อะไร?!!!" ท่านประธานเขย่าตัวสะกำอย่างแรง
     "เขาเป็น... ลูกชายของประธานองค์คู่แข่งเราที่วางระเบิดท่านเมื่อคืนฮะ!" สะกำกล่าว
     "!? ... ว่าไงนะ" ท่านประธานอึ้งไปพักใหญ่ "พวกเขา... หลอกฉันอย่างนั้นหรือ?"

 

     เมื่อไหร่ที่รักเกิดขึ้นในใจแล้ว... ก็ยากที่จะลืมหรือห้ามปราม
     ต่อให้มีเรื่องเลวร้ายเข้ามาในความสัมพันธ์ หากรู้สึกรักเสียแล้ว เรามักมีคำว่า 'อภัย' เสมอ... คล้ายไม้ยืนต้น ที่ต่อให้กิ่งก้านใบปลิดร่วง มันก็พร้อมที่จะยืนหยัด ผลัดกิ่งก้านใบใหม่ขึ้นมาทดแทน เป็นวัฏจักรไม้ยืนต้น
     แต่บัดนี้... สำหรับท่านประธานแล้ว... ไม้ยืนต้นต้นนี้มันได้ถูกพายุพัดพาไปอย่างรุนแรงจนมันได้พังทลายลง เหลือเพียงเศษของกิ่งก้านที่ร่วงลงมากองอยู่บนพื้นดิน ไม่มีคำว่าอภัยอีกต่อไป...

 

โปรดติดตามตอนต่อไป

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา