Knack imagine

9.3

เขียนโดย ลอร์

วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 17.46 น.

  3 บท
  3 วิจารณ์
  4,577 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 เมษายน พ.ศ. 2559 18.19 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ตอนที่ 2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ปัง!  เสียงปืนดังขึ้นในระหว่างที่จานี่ไม่ได้ตั้งตัว  กระสุนวิ่งผ่านเข้าไปที่หัวของลอชอย่างรวดเร็ว  ความเงียบครอบงำไปทั่วพื้นที่  แต่ลอชกลับไม่มีเลือดไหลซักหยด  แถมยังนั่งอยู่ท่าเดิมได้แบบชิวๆราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

 

“อะไรวะเนี้ยยยย?”  ผู้ชายที่ยิงปืนตะโกนออกมาเสียงดัง  ท่าทางลนลานอย่างเห็นได้ชัด

“บ้าน่า….เอสเปอร์?” จานี่พูดออกมาด้วยสีหน้าที่มึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

กระสุนปืนไม่สามารถทะลวงเข้าไปยังศีรษะของลอชได้  แต่กลับมีอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็นป้องกันการทะลวงของกระสุนปืน  มีควันเล็กน้อยลอยออกมาตรงที่เขาโดนยิง  กระสุนปืนหยุดหมุนและตกลงสู่พื้นดิน ลอชได้สติก็ร้องออกมาเสียงดัง

 

ฝ่ายจานี่ที่ยังกำลังยืนอึ้งอยู่  ก็หันกลับไปมองที่สร้อยร็อคเก็ตที่ผู้ชายคนนั้นถืออยู่

“อัญมณีในนั้นเป็นของจริง.....?” จานี่นึกในใจด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด

 

ชายลึกลับกำร็อคเก็ตไว้แน่นและรีบวิ่งหนีออกมาจากสถานที่ตรงนั้น  หุ่นยนต์แมวทรงกลมขนาดเล็กของจานี่บินไปดักอยู่เบื้องหน้าของเขา  ตอนนี้สิ่งที่จานี่ต้องทำคือแย่งสร้อยนั่นมาให้ได้  ถ้าเกิดสร้อยนั่นไปตกอยู่ในมือของเจ้าพวกนั่นแล้ว  “แลมเนนท์”  ถูกสร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์ทุกอย่างก็จบกันพอดี

 

จานี่พุ่งเข้าไปหาชายที่จนมุมต่อยเสยคางขึ้นไปทำให้ชายคนนั้นลอยขึ้นและล้มลงกองกับพื้น  จานี่หยิบสร้อยเส้นนั้นขึ้นมาดู  เธอเอาไปส่องกับดวงจันทร์ก็พบกับอักขระแปลกๆที่อ่านยังไงก็ไม่เข้าใจ  ระหว่างที่กำลังเพ่งมองอักษรที่เขียนอยู่นั้น  ได้มีรถคันหนึ่งกำลังตกลงมาจากฟ้าดิ่งมาตรงที่จานี่ยืนอยู่พอดี

 

ตู้ม! รถคันนั้นดิ่งลงสู่พื้นดิน  ฮานท์ได้ปรากฏตัวขึ้นยืนอยู่บนหลังคารถกำลังยืนจ้องมองสร้อยคอที่จานี่ถืออยู่อย่างไม่ละสายตา

 

จานี่ยืนอยู่ด้านหน้าของลอช  เธอหันไปมองใบหน้าของลอชก็พบว่า  ในตอนนี้ลอชอยู่ในสภาพที่ใบหน้าซีดเผือก  เหงื่อท่วมตัว  และคงไม่มีสติจะทำอะไรอีกแล้ว

“พลังงานเหลืออีกแค่ 5% จะให้สู้กับเอสเปอร์ระดับนี้ตอนนี้คงไม่ไหวแน่ๆ  จะทำยังไงดี?”

“อีกอย่างลอชอยู่ในสภาพที่พลังกึ่งหลับกึ่งตื่น  ถ้าหากพลังตื่นขึ้นมาเต็มที่แล้วสติหลุดอยู่แบบนี้  คงเป็นปัญหาใหญ่ยิ่งกว่า  ฮานท์  ที่ยืนอยู่ตรงหน้าแน่ๆ” 

 

แคลร์ปรากฏตัวขึ้นมากลางวง  เธอหยิบหอกออกมาจากกระเป๋าด้านหลังฟาดไปที่ฮานท์อย่างเต็มแรง

“จานี่!  ชั้นจะถ่วงเวลาไว้ให้เธอเอง  รีบหนีไปซะ  เธอไม่เหลือพลังพอจะสู้กับพวกนี้อีกแล้ว”  แคลร์จับหอกไว้อยากมั่นคงเพื่อเตรียมรับการโจมตีของฮานท์ต่อจากนี้

 

จานี่จับแขนของลอชไว้แล้วรีบพาวิ่งหนีออกมาอย่างรวดเร็ว ทั้งสองวิ่งมาไม่นานเท่าไร  สถานการณ์เริ่มตรึงเครียดหนักกว่า  เพราะการปรากฏตัวของผู้มีพลังพิเศษ  เอสเปอร์สองคนยืนดักรอจานี่และลอชอยู่กลางทาง  จานี่ที่หมดหนทางที่จะช่วยเหลือลอช  ได้แต่ยืนจับมือลอชไว้อย่างแน่น

“แหมไม่ได้เจอกันนานเลยนะ  คุณหัวหน้า  CODE-D” เฟรีนสาวผมแดง  พูดกับจานี่ด้วยท่าทางที่มีความมั่นใจอย่างมาก 

“เฟรีน…บล็อคดี้ ….บ้าจริงๆทำไมต้องมาเจอเจ้าพวกนี้ด้วย?”จานี่พึมพำกับตัวเองสีหน้าเครียดอย่างเห็นได้ชัด  เหงื่อท่วมตัว  เพราะความเครียด 

 

 

ฮานท์ใช้พลังพิเศษยกถังขยะขนาดใหญ่ข้างๆทางขึ้นมาและโยนใส่แคลร์  แคลร์เทเลพอร์ตหลบได้และโจมตีกลับไปอย่างรวดเร็ว 

“เด๋วนี้ทำงานให้พวกนั้นแล้วหรอฮานท์?”

[ก็นะพวกนั้นให้เงินเยอะนี่หว่า]

ฮานท์พูดจบก็กระโดดถอยหลังออกมาจากการต่อสู้  และใช้พลังพิเศษยกรถยนต์คันเดิมให้ลอยขึ้นมาอยู่เหนือหัวของฮานท์ 

[นี่แคลร์  ระหว่างที่เธอกำลังเสียเวลาสู้กับชั้นเนี้ย  ยัยจานี่คงโดนเก็บไปแล้วละมั้ง?]

“จานี่!”  แคลร์หันหลังกลับไปมองทางที่จานี่และลอชวิ่งหนีไป  ฮานท์อาศัยช่องโหว่ใช้พลังพิเศษโยนรถใส่แคลร์  แคลร์เทเลพอร์ตรถกลับไปตกใส่ฮานท์แทน  และรีบตามจานี่ไป

 

จานี่ใส่ที่ปิดหูเอามือปิดตาไว้และปาระเบิดแสงลงพื้น  อาศัยช่วงที่  เฟรีนและบล็อคดี้  กำลังโดนเล่นงานจากระเบิดแสงพาลอชวิ่งผ่านเอสเปอร์ทั้งสองไป  จานี่พยายามนึกวิธีหนีอย่างสุดชีวิตแต่ดูเหมือนพลังงานของเธอจะเหลือไม่พอแล้ว  ทั้งสองพยายามวิ่งเลี้ยวไปมาตามทางตรอกเพื่อให้จับตัวยากขึ้น

 

“น่ารำคาญ…..บล็อคดี้!” เฟรีนสั่งให้บล็อกดี้ใช้พลังพิเศษ  บล็อกดี้ยื่นมือออกไปข้างๆลำตัว  และเกิดเป็นบาเรียแปลกๆแผ่ออกมารอบตัวของทั้งสองคน  เฟรีนนั่งย่อเข่าลงและต่อยไปที่พื้นอย่างเต็มแรงเกิดเป็นคลื่นไฟขนาดใหญ่พุ่งไปตามตรอกที่จานี่และลอชกำลังวิ่งอยู่  และไฟทั้งหมดได้เกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง

 

แคลร์มาช่วยจานี่และลอชได้ทัน  เขาใช้เทเลพอร์ตพาทั้งสองคนหนีมาได้

“พวกนั้นกำลังตามหาพวกเธออยู่น่ะ  ทางที่ดีรีบหนีมาก่อนดีกว่า”ลอยด์พูดกับทั้งสองคนผ่านวิทยุสื่อสาร

“จะเอายังไงกับลอช?” แคลร์ถามกลับทั้งสองคนและมองไปยังลอชที่กำลังนอนสลบอยู่ที่พื้นด้วยสภาพที่ไม่มีสติอีกแล้ว

“พาลอชกลับไปที่ร้านก่อน  หมอนี่เป็นเอสเปอร์ถ้าปล่อยไปเฉยๆคงมีปัญหาตามมาแน่นอน….อีกอย่างพวกเฟรีนเห็นหน้าลอชหรือยังก็ไม่รู้ถ้าเกิดเห็นแล้วหมอนี่จะมีปัญหาใหญ่ตามมาแน่ๆ”จานี่พูดขึ้นมา

“แล้วสร้อยนั่นละ  เป็นยังไงบ้าง?” ลอยด์ถามกลับไป

“เพชรมันหลุดหายไปแล้วน่ะ  ชั้นพลาดไปนิดหน่อยน่ะ….แต่ก็ดีแล้วนิ”จานี่หัวเราะแหะๆออกมา

 

 

ลอชตื่นขึ้นมาในห้อง  ห้องหนึ่ง  เขาลุกขึ้นมานั่งข้างๆเตียงและบิดขี้เกียด  เขากำลังนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน  ตอนนี้ลอชกำลังคิดว่าทุกอย่างเป็นแค่ฝันร้าย  ลอชเริ่มสงสัยว่าที่นี่คือที่ไหน  แล้วทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ 

 

เขาเดินออกมาจากห้องนั้นและเดินลงมาชั้นล่างก็พบว่าเขาอยู่ที่ร้านกาแฟของจานี่  เขาเริ่มคิดว่า  “หรือเรื่องที่เกิดขึ้นจะเป็นเรื่องจริง?”  ลอชเริ่มสังเกตตัวเองก็พบว่าสร้อยคอของเขาได้หายไปแล้ว  เขารีบเดินกลับไปที่ห้องที่เขาตื่นขึ้นมาก็พบว่าอัญมณีภายในร็อคเก็ตหายไป  สร้อยคอมีรอยเหมือนโดยไฟเผา

 

ลอชเริ่มนึกเรื่องเมื่อคืนออกเกี่ยวกับผู้มีพลังพิเศษสามคนที่มาเล่นงานเขากับจานี่  เขานั่งลงที่เตียงเอามือก่ายหน้าผาก  ด้วยสีหน้าที่ตรึงเครียดอย่างมาก

 

ตี้ดๆๆ  เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น  ลอชมองไปที่รายชื่อคนโทรเข้าก็พบว่าเป็น  เจค  นั่นเอง  เขากดรับโทรศัพท์แต่ไม่พูดอะไร  เจครัวคำถามใส่ลอชทันทีว่าทำไมไม่รับโทรศัพท์  เมื่อคืนหายไปไหนมา บลาบลา

 

แต่ไม่มีแม้แต่เสียงตอบ  อืม  เออ  จากลอชเลย  ลอชได้แต่นั่งเงียบ  ในหัวของเขามีคำถามผุดขึ้นมามากมาย  จะทำยังไงดี….เรื่องเมื่อคืนเป็นเรื่องจริงหรอ…..ชั้นจะทำยังไงต่อไปดี?  ลอชนั่งอยู่ที่เตียงด้วยใบหน้าที่ซีดเผือก

“ลอช…ลอช!  เรียกตั้งหลายรอบละตอบไรหน่อยดิวะ”  เจคพูดซ้ำๆอยู่นานพอสมควร

จนลอชเริ่มได้สติก็ตอบเจคไปว่า  “ไม่มีอะไร” 

 

เจคชวนลอชออกมาเที่ยวที่ย่านการค้าย่านหนึ่งซึ่งวัยรุ่นในเมืองนี้มักจะมารวมตัวกันที่นี่  ตั้งแต่เจอหน้ากัน  ลอช  ยังไม่เอ่ยปากพูดกับเจคเลยแม้แต่คำเดียว  เจคมองแวบเดียวก็รู้แล้วว่าเมื่อคืนลอชต้องมีปัญหาแน่ๆเขาสังเกตุอยู่พักใหญ่จนทนไม่ไหวต้องถามลอชกลับไป

“นายเป็นอะไรป่าววะ?”เจคถามลอชด้วยความเป็นห่วง

ลอชกำลังคิดว่า  จะบอกเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนกับเจคดีมั้ย  แต่ถ้าบอกไปเจคจะต้องเอาเรื่องนี้ไปบอกพ่อของเขาให้ช่วยตามจับพวกเมื่อคืนอย่างแน่นอน  แต่ว่าพวกนั้นเป็นพวกที่ไม่ธรรมดา  พวกนั้นมีพลังพิเศษ  ถ้าหากพวกนั้นรู้เรื่องเกี่ยวกับเจคขึ้นมาต้องไม่ดีแน่ๆ  ลอชจึงตัดสินปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับน่าจะดีที่สุด

“ไม่มีอะไรหรอก  แค่เครียดๆน่ะ”ลอชตอบกลับไปด้วยสีหน้าที่ฝืนยิ้ม  เขาพยายามทำตัวให้ปกติที่สุด  แต่เจคนั้นดูออกว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น

 

จานี่และแคลร์เดินเข้ามายังร้าน  D-café  ของพวกเขา  จานี่รีบเดินตรงไปยังห้องที่ลอชอยู่  แต่ก็ไม่พบกับลอช  มีเพียงสร้อยคอที่ถูกไฟเผาวางอยู่เท่านั้น  จานี่เดินไปหยิบสร้อยคอขึ้นมาดู  เขารู้สึกผิดที่ทำให้ลอชเจอปัญหาแบบนี้

“ลอชคงไม่มาที่นี่อีกแล้วละ”แคลร์พูดขณะที่กำลังก้มหน้า 

[ยังไงก็ต้องตามเจ้านั่นมาคุยกันให้ได้….ลอชเป็นเอสเปอร์….เอสเปอร์ที่ไม่มีการควบคุมพลังจะก่อปัญหาได้…..] จานี่พูดขึ้นมาและเดินออกจากห้องไป

 

ลอชและเจคเข้าไปนั่งในร้านอาหารครอบครัวร้านหนึ่ง  ลอชเริ่มจะใจเย็นลงบ้างแล้วเพราะเจคพยายามทำให้ลอชหัวเราะออกมา  พวกเขาสั่งสปาเก็ตตี้ไก่เหมือนกันคนละจาน  เจคมองไปที่หน้าของลอชและบอกกับลอชว่าเค้าหางาน  part-time  ให้ได้แล้วสนใจหรือป่าว  ลอชส่ายหน้าและบอกว่าเขาได้งานแล้ว

 

ถึงจะเกิดเรื่องเมื่อคืนขึ้นจนทำให้เขากลัวมากๆ  แต่ลอชก็อยากรู้เรื่องเกี่ยวกับพวก  CODE-D  และพวกผู้มีพลังพิเศษ  ลอชคิดว่าเขาจะกลับไปที่  D-café และถามเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดกับพวกจานี่

 

หลังจากกินข้าวเสร็จ  เจคพาลอชไปยังร้านขายอุปกรณ์ดนตรีและอัลบั้มเพลง  ลอชเป็นพวกที่ชอบฟังเพลงอยู่แล้วจึงแฮปปี้มากๆกับร้านนี้  เจคเห็นลอชหายเครียดก็โล่งใจ  และแยกกันดูของที่ตัวเองชอบ

 

ลอชเดินไปยังโซนขายเครื่องดนตรีเขาก็ต้องตกใจกับคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขา  ลอยด์กำลังยืนดูกีต้าร์ไฟฟ้าอยู่ในร้านนั้น  ลอยด์หันไปเห็นลอชก็ถอนหายใจหนึ่งครั้ง  ลอชเห็นดังนั้นก็กัดฟันเดินตรงเข้าไปหาลอยด์ทันทีทั้งๆที่กลัวมากๆ  ลอชยืนจ้องลอยด์อยู่นานพอสมควรจนลอยด์แสดงสีหน้าที่ดูหงุดหงิดออกมาเล็กน้อย

 

“มีอะไร?”ลอยด์ถามลอชและดูกีต้าร์ไฟฟ้าต่อไป

ลอชรู้สึกแปลกใจที่เห็นลอยด์ทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

“เรื่องเมื่อคืน.... มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ลอชถามออกไปอย่างกล้าๆกลัว

“ก็แบบที่เห็นนั่นแหละ  สงสัยอะไรอีก?”ลอยด์ยังคงดูกีต้าร์ไฟฟ้าต่อไป  เขาเหลือบไปเห็นรุ่นใหม่ที่เพิ่งออกวางขายมา  เขาเดินตรงไปที่กีต้าร์ตัวนั่นด้วยความรวดเร็ว  และใบหน้าที่แฮปปี้อย่างสุดๆ  ดูเหมือนลอยด์จะชอบกีต้าร์เอามากๆเขาสังเกตุทุกซอกทุกมุมของกีต้าร์อย่างชำนาญ

 

ลอชยังคง งง กับปฏิกิริยาของลอยด์ที่ทำตัวปกติมากๆ  ลอชกำลังคิดว่า  พวกนั้นลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไปหมดแล้วรึยังไง  พวกนั้นไม่สนใจว่าความลับของพวกนั้นจะถูกเปิดเผยเลยหรอ

ลอยด์ยกกีต้าร์เครื่องนั้นขึ้นและเดินผ่านไหล่ลอชไปและกระซิบที่ข้างหู ลอชว่า 

“ถ้าอยากรู้เรื่องเพิ่มเติมก็ไปเจอกันที่ร้านก็แล้วกัน” 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา