Impossible Love... รักไม่ได้ก็จะรัก

7.3

เขียนโดย maillynboony

วันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2559 เวลา 16.19 น.

  6 chapter
  0 วิจารณ์
  7,332 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2559 17.15 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) เบ๊ที่ถูกลืม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Chapter 2

 

                  หลังจากผมกลับมาถึงบ้าน ผมยอมรับนะว่าข้าวปั้นมันเปลี่ยนไปจริงๆ แต่ไม่คิดว่ามันจะลืมผมได้ลงคอ ถ้าเป็นพวกคุณ คุณจะไม่งงเลยเหรอ? … แต่ช่างมันเหอะ ไว้ถ้ามีโอกาสได้เจอกันแค่สองคน ผมอยากจะลองถามมันดูอีกซักครั้งแล้วกัน พอเข้ามาถึงห้องทานอาหาร ผมเห็นอาหารวางอยู่ที่โต๊ะพร้อมฝาชีครอบอยู่ แล้วมีกระดาษโน้ตของแม่ทีไร ผมรู้สึกว่าผมต้องอยู่คนเดียว.. อีกแล้ว

 

            เกี๊ยะน้อยของหม่ามี๊

            อาหารแม่ทำไว้แล้วก็อุ่นทานได้เลยนะค่ะลูก อีก 2 เดือนเจอกันอีกทีนะ

            แม่ขอโทษที่ไม่ได้บอกลูกเมื่อเช้า พอดีพ่อเราโดนสั่งให้ไปช่วยงานที่อิตาลีด่วน

            เกี๊ยะไม่โกรธหม่ามี๊กับป๋าใช่มั้ยลูกรัก ..  แล้วจะซื้อของมาฝากนะ

                                                                        จาก คุณนายแม่สุดสวย >.<

            ปล. ถ้าอาหารในตู้เย็นหมด ไปบ้านป้าปิ่นเลยนะลูก แต่แม่คิดว่า มันคงอยู่ได้แค่  2 วัน

 

            “เอาที่สบายใจเลยครับคุณนาย คุณป๋า เฮ้ออ”

            ผมวางโน้ตลงบนโต๊ะก่อนจะเอาจานอาหารไปอุ่นและนั่งกินอยู่ในความมืดคนเดียว ผมชินแล้วครับกับการที่ต้องอยู่คนเดียวแบบนี้ ชินกับการที่พ่อกับแม่มีงานที่อยู่ห่างไกลบ้านตลอดเวลา แต่ถามผมว่า ผมน้อยใจมั้ย ผมเฉยๆนะ ถึงจะมีแอบสงสารตัวเองไปบ้างก็เหอะ เพราะในช่วงนั้นผมไปๆมาๆบ้านป้าปิ่นและมีข้าวปั้นเนี่ยแหละที่ทำให้ผมไม่เหงากับการที่ต้องอยู่คนเดียว แต่พอข้าวปั้นมันเรียนจบม.ปลายไปแล้วไปต่อที่เชียงใหม่ มันก็ไม่เคยกลับมาบ้านอีกเลย นอกจากโทรมาหรือไม่ป้าปิ่นกับลุงชัยขึ้นไปหา หลังจากนั้นผมเลยโคตรสตรองไง อยู่ได้ตัวคนเดียวมาตลอด ชินครับ บอกได้คำเดียวว่าชิน!!

            หลังจากที่ผมทำการฟาดเรียบอาหารของแม่หมดไป… ผมว่าผมต้องไปหาป้าปิ่นซักหน่อย เพราะส่วนใหญ่แกจะอยู่คนเดียว ลุงชัยแกจะกลับไปอยู่ไร่องุ่นที่เขาใหญ่ ถึงแม้ว่าแกจะไปๆกลับๆ แต่ป้าปิ่นแกก็บอกตลอดว่าลุงแกมาไม่กี่วันและกลับไปเขาใหญ่นานเป็นเดือน และวันนี้ก็เช่นกัน ผมไม่เห็นรถลุงชัยตอนเดินเข้าบ้านมา แสดงว่าป้าปิ่นอยู่คนเดียวชัวร์ๆ … ผมนึกอะไรขึ้นมาอย่าง ไอ้ปั้นมันมาสอนที่มหาลัยผม งั้นมันต้องกลับมานอนบ้านแล้วซินะ สมองมันไวกว่าความคิด ผมมายืนอยู่หน้าบ้านของข้าวปั้นแล้ว … ไฟยังเปิด? ผมมองนาฬิกาข้อมือที่มันบอกเวลาว่าตอนนี้กำลังจะเย็นแล้วนะ รีบๆทำอะไรเข้าซักอย่างซิ… ผมเงยหน้าอีกครั้งและก็งงกับตัวเองว่า นิ้วผมมันกดอ็อดหน้าบ้านไอ้ปั้นไปนานแล้ว  …

            ติ๊งต่องงงๆๆ!

            “ครับ!!!”  เสียงทุ้มที่มาพร้อมกับร่างสูงโปร่งวิ่งออกมาจากประตูบ้านแล้วมาทางผม ถึงประตูรั้วมันสูงแล้วทึบหน่อย ผมก็รู้ทันทีว่า ใช่ เพื่อนเค้าแน่ๆ! … ซักพักประตูรั้วเหล็กก็เลื่อนเปิดและมีรอยยิ้มอ่อนๆที่เหมือนเพิ่งจะหันมาดูแขกว่าเป็นใคร

            “อ้าว! แกอยู่บ้านด้วยเหรอปั้น”

            “นิน้องตามพี่มาถึงบ้านเลยเหรอ? แล้วเป็นเด็กมาเรียกเหมือนเพื่อนเล่นแบบนี้ ไม่รู้จักความเคารพเลยนะ”

            …ตึ๊งงง!! ยกที่หนึ่ง = = ผมว่าผมจะไม่กวนตีนแล้วนะ แต่แม่งอดไม่ได้จริงๆ เมื่อก่อนใช้กูอย่างทาส ตอนนี้ทำมาเป็นลืม ไอ้สัสปั้น!! มึงแม่งสมองหนอนว่ะ! มึงอย่าคิดว่าลืมกูแล้วกูจะให้อภัยง่ายๆนะ ได้! อยากจะให้เป็นคนแปลกหน้าใช่มั้ย! ด๊ายยยยยยย!!!!

            “ผมไม่ได้มาหาจารย์ แต่มาหาป้าปิ่น แม่จารย์ชื่อปิ่นป่าวล่ะ”

            “ใช่! แต่.. ขอโทษหน่อยมั้ย พูดจาไม่สุภาพกับพี่เมื่อกี้นี้”

            “ใช่เรื่องอะไรของผมล่ะครับ ทำไมผมต้องขอโทษ จารย์มึนเองต่างหากที่จำไรไม่ได้ แต่ช่างเหอะ หลบหน่อยคร้าบบบ ผมจะเข้าไปหาป้าปิ่น … เห็นหน้าจารย์แล้วปวดไส้ติ่งตะหงิดๆ”

            “เฮ้ยยเดี๋ยวววว!! จะเข้ามาแบบนี้ได้ไงว่ะเฮ้ยย น้องงง!!”

            “เอะอะโวยวายอะไรกันเจ้าปั้น หื้มม”  ป้าปิ่นเดินออกมาตามหลังจากได้ยินเสียงดังหน้าบ้าน ผมเห็นใบหน้าหวานๆของป้าปิ่นแล้วมันรู้สึกชื่นใจ!! แม่ผมคนที่สองเลยนะครับบบบ!!

            “ก็ไอ้เด็กบ้านี้ไงครับแม่ อยู่ก็บอกมาหาแม่แล้วก็แทรกตัวเข้ามาในบ้านเรา”

            “ไอ้เด็กบ้าที่ไหนกันปั้น นิลูกจำเพื่อนสมัยเด็กไม่ได้เลยเหรอไง ไม่เจอแค่ 7 ปีนิถึงกับเบลอเลยเหรอ? เกี๊ยะไง ลูกป้าแหม่มกับลุงพาทข้างบ้านเราน่ะ”

            “เกี๊ยะ?”

            “ป้าปิ่นคร้าบบบบบบ!!! ผมหิ๊วหิวววว อยากกินกับข้าวฝีมือป้าปิ่นจะแย่อยู่แล้ว กับข้าวที่บ้านกินแล้วเบื่อๆ เหงาด้วย”

            “แสดงว่าไม่มีใครอยู่บ้านอีกแล้วใช่มั้ยเนี่ย?”

            ป้าปิ่นรู้ทันทีที่ผมพูดว่าเหงา นั่นหมายถึง ที่บ้านผมไม่มีใครซักคน แกเดินมาหาผมและยกมือลูบข้างแก้มผมเบาๆ ผมรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น รู้สึกสบายใจมากขึ้น แม้ว่าผมจะพยายามทำเหมือนว่าไม่เป็นไรกับการที่ต้องอยู่ตัวคนเดียว แต่เมื่ออยู่ตรงหน้าหญิงวัยกลางคนนี้ ผมเหมือนน้ำแข็งที่โดนละลายอย่างรวดเร็ว … ผมคิดถึงแม่กับพ่อจริงๆ

            “เดี๋ยวครับแม่ นิเพื่อนผมจริงๆเหรอ เจ้าเกี๊ยะ ไอ้หมูอ้วนข้างบ้านเราอ่ะนะ”

            “ก็เออซิครับจารย์ รูปร่างนิจำแม่นมากนะจารย์ อย่างอื่นไม่จำ ดีครับดี!”

            “ไม่จริงอ่ะ โกหก”

            “แล้วแต่ ก็แล้วแต่เลย… ป้าปิ่นครับ เราเข้าบ้านกันดีกว่า ปล่อยให้ไอ้บ้ามันยืนมึนอยู่ตรงนี้เนี่ยแหละ”

            ผมคว้ามือป้าปิ่นและโอบแกเข้าบ้านก่อนจะหันมาเกทับความสนิทสนมให้กับคนตัวสูงที่ยืนมองกลับมาด้วยสายตาแปลกๆ เหมือนไม่เคยจะเข้าใจอะไรง่ายๆเลย แต่ก็นั่นล่ะครับ ไอ้ข้าวปั้น! มันฉลาดก็จริง แต่มันฉลาดแค่บางเรื่องเท่านั้น … ผมเลิกสนใจแล้วเดินเข้าบ้านไปทันที

            “หึ! แค่ทำเป็นจำไม่ได้ นิโมโหเลยเหรอว่ะไอ้เกี๊ยะ”  รอยยิ้มมุมปากของข้าวปั้นปรากฏที่หน้าหลังจากไม่เห็นหลังเพื่อนสนิทที่หายเข้าไปพร้อมกับแม่ของเค้า

 

            “อะไรนะฮะ ผมไม่เอาด้วยหรอกป้าปิ่น ใครมันอยากจะให้ไอ้ปั้นมาดูแลผมกัน”

            “เกี๊ยะ ป้าห่วงเราจริงๆนะ อีกอย่างปั้นมันกลับมาฝึกสอนที่นี้ด้วย แถมยังเป็นที่มหาลัยเราอีก เกี๊ยะจะได้ไปเรียนพร้อมมันเลยไง”

            ป้าปิ่นบอกเหตุผลเสร็จสรรพ ไม่เปิดโอกาสให้หนุ่มร่างสูงที่นั่งถัดจากหล่อนได้แย้งอะไรในหน้าที่ที่โดนหมอบหมายมาอย่างงงๆ … ผมมองหน้าป้าปิ่นที่แฝงไปด้วยความห่วงใย แต่พอตัดมาที่หน้าไอ้หน้าขาวภายใต้แว่นตาทรงโตแบบวินเทจนั้นแล้ว ผมบอกเลยว่ามันไม่ใช่!!!

            “เกี๊ยะเข้าใจที่ป้าปิ่นพูดนะครับ แต่ทุกวันที่ผ่านมาเกี๊ยะอยู่ได้จริงๆ”

            “งั้นป้าจะปล่อยให้เราอดตายตลอดที่เรามาหิ้วท้องที่บ้านป้านะ”   เสียงเย็นๆนั้นแผ่วลงแล้วจ้องมาที่หน้าผม …… คนอะไรเลือดเย็นนนนนน!!! T^T

            “แม่ครับ ถ้าเค้าจะไม่เอาก็ปล่อยเค้าเถอะครับ ผมเองก็ไม่อยากจะไปดูแล… ไอ้อ่อน! ที่เอาแต่ร้องไห้คนเดียวเวลาอยู่บ้านหรอกครับแม่”   โฮ้!!นั่นคำพูดของคนที่ฟื้นความจำเหรอน่ะ

            “ใครอ่อน!! โฮ้!! มาเลยๆ จะทำให้ดูว่า ใครกันแน่ที่ร้องไห้น่ะ”

 

            และนั่นก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดก่อนหน้าที่ไอ้ปั้นจะมานอนเหยียดตัวอยู่ที่บ้านผม มันไม่รู้สึกผิดเลยหรือไงที่ลืมผมเนี่ย แล้วอะไรที่บอกว่ามาดูแลผม พอมันมาถึงบ้านผม มันสั่งให้ผมไปจัดห้องนอนให้ ไปรีดผ้าให้ ไปจัดแจงหาที่โต๊ะทำงานสำหรับเตรียมสอนให้มัน = = หึ! ผมบอกแล้วไง เบ๊!ยังไงมันก็เบ๊นั่นแหละ ตอนนี้ผมได้แต่นั่งมองเพื่อนสมัยเด็กนอนแผ่หลาอยู่บนโซฟาตัวเขื่องที่ก่อนหน้านี้มันคือของผม ส่วนตัวผมน่ะเหรอ นั่งเป็นอีเย็นอยู่ข้างๆมันนั่นแหละครับ ไม่ได้นั่งกับมันนะ นั่งอยู่ข้างล่าง ค่อยถือน้ำให้มันกิน

            “เดี๋ยวนะ ป้าปิ่นบอกให้แกมาดูแลฉันไม่ไช่เหรอไงว่ะ ทำไมต้องมาเป็นฉันที่ต้องนั่งปรนนิบัติแกด้วยเนี่ย”

            “โตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้ว แกจะให้ฉันดูแลอะไรอีกว่ะ นิแค่มาอยู่เป็นเพื่อนเฉยๆ”

            “ถ้าจะมาแค่นี้ กลับไปเลยไป เปลืองไฟบ้านฉันโว้ยยย”         

            “โฮ้ อย่ามางกหน่า”

            “ไม่ได้งกเว้ย แต่ไม่ต้องการ”

            ผมวางแก้วน้ำลงก่อนจะลุกขึ้นยืนมองไอ้ตัวยาวที่นอนเตรียมแผนการสอนแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรกับอาการประชดของผม ผมว่าผมแดกดันมันชัดเจนนะ แต่ที่ผมไม่เข้าใจ คือมันไม่เข้าใจหรือมันหน้าด้านกันแน่เนี่ย พอคิดได้แบบนั้นก็รู้สึกเซ็งๆ ผมเดินหนีออกมาจากมันดีกว่า ก่อนที่อารมณ์ที่เซ็งมันจะกลายเป็นหงุดหงิด แต่ไม่วายที่ผมต้องคิ้วกระตุกอีกรอบ

            “ถ้าจะไปครัว เอาขนมมาให้กินด้วยนะ ตอนนี้เริ่มหิวล่ะ”   …. พ่องงงงงงงง!!!!

 

( Khaowpan Part’s )…

            ผมเหลือบตามองหลังเพื่อนตัวเล็กกว่าอย่างนึกสนุก ปกติมันเป็นคนหัวอ่อนนะ ใครใช้ให้มันทำอะไร ก็ทำตามเค้าไปหมด มันเป็นคนขี้หงุดหงิดง่าย โกรธก็ง่าย แต่หายโคตรไวเลย ถ้าถามผมว่า ทำไมตอนแรกผมถึงจำมันไม่ได้ ตอบตามตรง ผมจำมันไม่ได้จริงๆนั่นแหละในตอนแรก แต่พอขานชื่อ ผมถึงบางอ้อ..  ใครมันจะไปนึกล่ะครับ ว่าโตมามันจะผอมและน่ารักกว่าที่คิด ตอนเด็กๆมันอ้วนตุ๊ต๊ะ เด็กแว่นที่ชอบเอาแต่เดินไม่สนโลก ชอบกินขนมเปื้อนหน้าอยู่ตลอดเวลา … เอ่อ ผมไม่ใช่เกย์นะ ชายทั้งแท่ง แต่ทำไมผมถึงได้เห็นไอ้เพื่อนบ้านนิมันน่ารักก็ไม่รู้ ผมเพี้ยนเหรอ? เหอๆ สงสัยจะจริง..

            ผมวางแท็ปเล็ตและเอกสารทั้งหมดลงข้างตัว ก่อนจะลุกไปตามหลังคนตัวเล็กอย่างเบาเท้าที่สุด คนมันน่าแกล้ง ยังไงก็ต้องแกล้งล่ะครับ .. พอมาถึงห้องครัว ผมได้ยินมันบ่น ไม่บ่นอย่างเดียว ด่ามาเป็นห่างว่าวด้วย สงสัยมันคงจะโกรธผมจริงๆน่ะนั้น เสียงเดินที่แผ่วเบาสุดๆเดินไปหยุดอยู่ด้านหลังของเกี๊ยะพอดี แต่รายนั้นก็ไม่รู้สึกอะไร ยังคงบ่นต่อไป…

            “ไม่มาดูแล มาใช้ๆกูอยู่ได้ แม่งงง แทนที่จะมาเอาของกินเอง ก็มาใช้กูอีก กูเพื่อนนะครับ ไม่ใช่เบ๊ของมึงแล้วไอ้ปั้น ใช้กูจัง นิถ้ามันอาบน้ำ คงไม่เรียกกูเข้าไปถูหลังหรอกนะ”

            “แล้วถ้าใช้จะทำมั้ยล่ะ”

            “เหี้ยยยย!!!”  ร่างเล็กที่สะดุ้งสุดตัวพร้อมกับมือที่ถือถุงขนมลอยละลิ่วเข้าหน้าเค้าพอดี … เกี๊ยะหันมามองหน้าผมที่ตอนนี้แสบเพราะปลายถุงขนมมันโดนหน้าผมพอดี ผมขยับแว่นเข้าที่พลางมองหน้าไอ้ตัวต้นเหตุที่มันยืนหน้าเหวออยู่ตรงหน้า

            “ไอ้ห่าปั้น!! ใครใช้ให้พูดข้างหูฉันว่ะ นิถ้าหัวใจวายตายห่าคาห้องไปทำไง”

            “ฉันก็ผายปอดให้ไง แกก็ไม่ตายล่ะ”

            “ตลกล่ะไอ้บ้า!”

            “ที่ถามไปน่ะ ตอบด้วยดิว่ะ ช้าจริง”

            “ตอบเชี้ยไร?”

            “ก็ถ้ากูให้มึงมาถูหลังจริงๆ มึงจะทำมั้ย”   สรรพนามที่เปลี่ยนไปของเค้าทำให้คิ้วของตัวเล็กมันขมวดเป็นปม ก่อนจะเบิกตากว้าง หูแดงใส่เค้า

            “ไอ้ปั้น!! มึงแม่งโรคจิตว่ะ กูไม่คุยด้วยแล้ว”

            “กูอยากรู้ ตอบกูหน่อยหน่า”  เสียงทุ้มของเค้า มันทำให้อีกคนชะงักไปทันที ผมชอบเห็นเวลามันหน้าแดงแบบนี้ ดูแล้วสบายตาจริงๆ

            “งั้นก่อนกูจะตอบมึง มึงต้องตอบกูมาก่อน”

            “ตอบว่า?”

            ผมมองใบหน้าชมพูก้มงุดไปก่อนจะเงยหน้ามองเค้าด้วยสีหน้าจริงจังจนเค้าแปลกใจ นัยน์ตาที่เหมือนไม่เข้าใจของเพื่อนตัวเล็กตรงหน้านี้ มันทำให้ผมอาจจะรู้คำตอบแล้วว่า มันต้องการจะถามอะไรผม

            “กูถามมึงจริงๆนะปั้น ถ้าเกิดวันนี้กูไม่ไปบ้านป้าปิ่นแล้วเจอมึง มึงจะลืมกูจริงๆใช่มั้ย”

 

 

 

**********************************************************************************************

ติชมได้น้าาา ... อยากให้เรื่องเป็นแนวไหนก็แนะนำกันมาได้ เราเอามามิกซ์แอนด์แมชชชชชกันเหอะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา