ในเรือนเบี้ย

8.0

เขียนโดย ilithyia

วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เวลา 18.43 น.

  10 ตอน
  0 วิจารณ์
  9,990 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 21.45 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) พระราชวังเดิม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          “วี ผมว่าออกบู๊ทของบริษัทเราครั้งนี้วีน่าจะไปดูสักหน่อยนะ ฝ่ายอื่นๆที่ทำงานเขาจะได้สบายใจว่าที่ลงทุนโปรโมทไปฝ่ายการเงินก็เห็นผลงานแล้ว” ประธานบริษัทที่ทุกคนเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่าบอสเรียกหัวหน้าฝ่ายแต่ละฝ่ายของบริษัทเข้ามาประชุม เพื่อคุยเรื่องการเตรียมออกบู๊ทของบริษัทที่งานประชุมวิชาการประจำปีของโรงพยาบาลที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของไทย ปกติวาดดาวที่ดูแลการเงินให้บริษัทไม่จำเป็นต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการเตรียมงานเลยสักนิด แต่เธอก็พอรู้ว่าเพราะอะไรเธอถึงต้องมานั่งตรงนี้ ก็เพราะงานนี้ใช้งบประชาสัมพันธ์ไปจำนวนไม่น้อยและเธอต้องการรู้รายละเอียดและความจำเป็นของรายจ่ายต่างๆ คงมีหัวหน้าฝ่ายสักคนในนี้ที่ไปบอกบอสว่าเธอควรลงไปดูงานด้วยตัวเอง

          “ถ้าบอสอยากให้วีไป วีไปก็ได้ค่ะ พี่ๆหัวหน้าทุกฝ่ายจะได้สบายใจในการทำงาน จริงวีเคารพการตัดสินใจของทุกคนอยู่แล้ว ยังไงวีก็ยังถือว่าเป็นรุ่นน้องของทุกคน บางครั้งวีอาจจะถามเยอะ ต้องการรายละเอียดมาก มีปัญหาบ้างนิดหน่อย แต่ก็เป็นเพราะวีอยากเข้าใจการทำงานของทุกฝ่ายนะคะ วีเข้าใจว่างานแต่ละฝ่ายก็มีส่วนคาบเกี่ยวกันบ้าง แต่หากวีทำให้พี่ๆไม่สบายใจ วีก็ขอโทษด้วย” คำอธิบายของวาดดาวทำเอาหัวหน้าฝ่ายแต่ละคนลอบถอนหายใจยาว เพราะทุกงานที่ต้องรองบจากการเงิน ก็มักจะถูกวาดดาวถามเยอะ รายละเอียดมาก แต่ปัญหาที่ต้องตอบไม่ได้น้อยอย่างที่เธอพูด

          “ในส่วนของฝ่ายช่างฯ ครั้งนี้เราใช้งบประมาณเยอะที่สุด ตั้งแต่การออกแบบตัวบู๊ทให้ดูยิ่งใหญ่ สวยงามและน่าสนใจ เรายังจะเปิดตัวเครื่องอัลตราซาวด์รุ่นใหม่ แล้วก็จัดซื้อหุ่นสาธิตการทำอัลตราซาวด์ที่เห็นอวัยวะเหมือนคนจริงด้วย ฝ่ายผมมีคุณวินเป็นคนรับผิดชอบหลัก ผมเลยจะให้คุณวินมาเป็นคนคอยประสานงานกับคุณวีไปจนกว่างานนี้จะเสร็จนะครับ” วาดดาวเห็นรอยยิ้มมุมปากจากหัวหน้าฝ่ายช่างฯ คงไม่มีใครอยากชนกับเธอตรงๆ มีแต่พิรัลเท่านั้นที่ทุกคนลงความเห็นว่าต้องเป็นผู้เสียสละ คงจะคิดว่าความเป็นเพื่อนปลอมๆ ของเธอกับเขาจะทำให้การทำงานง่ายขึ้นกระมัง

................................................................................................................

          แย่! แย่ที่สุด นี่มันคือการกลั่นแกล้งกันชัดๆ เธอเป็นหัวหน้าฝ่ายการเงินนะ ไม่ใช่เด็กในแผนกช่างฯ ทำไมเธอต้องติดตามช่างเทคนิคอุปกรณ์การแพทย์ของบริษัทออกมาดูพื้นที่จัดบู๊ทแบบนี้ด้วย วันนี้ทั้งวันเธอต้องมานั่งเฝ้าพิรัลเจรจากับฝ่ายสถานที่ของโรงพยาบาลเรื่องการจัดสรรพื้นที่ในการให้บริษัท มาช่วยเขาวัดพื้นที่ที่จะจัดบู๊ท แถมยังถูกใช้ให้ช่วยจดรายละเอียดต่างๆให้ แล้วนี่ยังต้องนั่งรถมากับเขาเพื่อออกไปสั่งวัสดุสำหรับทำบู๊ท แล้วเห็นว่าต้องไปโรงพิมพ์สั่งทำป้ายไวนิลตกแต่งบู๊ทอีก วาดดาวได้แต่มองข้างทางที่รถขับมา เธอไม่อยากมองหน้าพิรัล เธอคิดว่าเขาต้องรวมหัวกับคนอื่นมาแกล้งเธอแน่นอน

          “ถึงแล้วเหรอ” เมื่อรถจอดหลังจากขับมาได้ไม่ไกลวาดดาวจึงได้หันไปคุยกับคนข้างๆ

          “เปล่า แค่เห็นวีอารมณ์ไม่ค่อยดี เลยจะพามาแวะที่นี่ เห็นตอนขามาวีชะเง้อมอง เลยเดาเอาว่าวีอยากจะแวะ” ใช่ พิรัลเดาใจเธอถูก แต่เธอก็ไม่เห็นต้องบอกให้เขารู้ เดี๋ยวจะได้ใจ เธอจึงเพียงแค่ทำหน้านิ่งๆ ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ แต่ก็เดินตามเขาเข้ามาชมโดยรอบพระปรางค์วัดอรุณแต่โดยดี

          “สวยเนอะ ถ้ามาค่ำกว่านี้ตอนที่เขาเปิดไฟส่องรอบพระปรางค์แล้วคงสวยน่าดู” วาดดาวอารมณ์ดีขึ้นมาก หลังจากที่ได้เดินเล่นรอบๆองค์พระปรางค์

          “รออีกหน่อยไหมล่ะ นี่ก็ห้าโมงเย็นแล้ว ไม่เกินสองชั่วโมงเขาน่าจะเริ่มเปิดไฟ”

          “ไม่เอาล่ะ กว่าจะกลับถึงบ้าน ยายกับแม่รอกินข้าวอยู่” วาดดาวปฏิเสธไป แต่ก็คิดในใจว่าคงมีโอกาสหน้าที่เธอได้ชมพระปรางค์วัดอรุณยามค่ำคืน

          “เราไปกินด้วยได้ไหม” วาดดาวถึงกับหันขวับเมื่อได้ยินประโยคขอร้องของเขา

          “วันนี้วันพระเหรอ”

          “เปล่า ไม่ใช่วันพระ วินแค่อยากไปขอไปกินข้าวด้วย ได้ไหม” โอ้ย! ไม่ไหว ทำไมพิรัลต้องมาแกล้งทำน้ำเสียงและสีหน้าออดอ้อนกับเธอแบบนี้ ตาบ้าเอ๊ย เธอใช่สาวๆของเขาที่ไหน นี่เพื่อนนะ แค่เพื่อนจำไว้วาดดาว

          “อยากไปกินด้วยก็ไปสิ” แถมเธอยังหลุดปากตอบรับเขาไปด้วย

วาดดาวเดินหลบไปอีกด้าน เธอทนมองสายตาแปลกๆ แบบนั้นของพิรัลไม่ได้ ปกติเขากับเธอแทบไม่เคยพูดจาดีๆ ด้วยกัน เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นพิรัลมักจะแกล้งเธอให้โมโหทุกครั้ง และคอยต่อปากต่อคำกับเธอเสมอ เธอกับเขาไม่เคยมีเวลาแบบนี้ เวลาที่เหมือนจะสงบศึกไปชั่วคราว

          “วินเห็นอาคารนี่ไหม นี่เป็นท้องพระโรงสมัยสมเด็จพระเจ้าตากนะ” วาดดาวบอกเขาเมื่อเดินมาถึงที่อาคารทรงไทยสีขาวสองหลังเชื่อมติดกันเพื่อเปลี่ยนเรื่องคุยเลี่ยงความเคอะเขินเมื่อครู่ พิรัลไม่ขัด เขาดูสนใจมองดูบริเวณโดยรอบที่เคยเป็นอดีตราชธานีของสมัย “กรุงธนบุรี”

          วาดดาวและพิรัลเดินชมบริเวณโดยรอบพระราชวังเดิมมาเรื่อยๆ จนถึงหน้าศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วาดดาวนั่งลงกับพื้นหน้าศาลแล้วพนมมือขึ้นถวายสักการะอธิฐานในใจ พิรัลเห็นเธอทำดังนั้นก็นั่งลงและทำตามบ้าง

          “อธิฐานอะไรเหรอ” พิรัลถามเธอขณะที่ทั้งคู่เดินออกมาตรงท่าเรือข้ามฝาก วันนี้เป็นวันหยุดราชการ คนที่รอขึ้นเรือจึงไม่พลุกพล่านนัก

          “ไม่มีอะไรมาก แค่ขอให้ท่านคุ้มครอง” วาดดาวมองออกไปที่แม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตรงข้ามมองเห็นท่าเรือข้ามฟาก วัดพระแก้วและพระบรมมหาราชวังอยู่ไกลๆ

          “จะกลับเลยไหม หิวน้ำไหม เดี๋ยวเราไปซื้อมาให้นะ” พิรัลอาสาไปซื้อน้ำเย็นๆ มาให้ เพราะดูท่าทางวาดดาวคงเริ่มจะเหนื่อยเพราะเขาพาเธอตะลอนไปมาทั้งวัน

          วาดดาวยืนอยู่คนเดียวริมท่าน้ำ เธอไม่ทันสังเกตว่ามีผู้ชายคนหนึ่งเดินขยับเข้ามาใกล้เธอจากด้านหลัง ชายคนนั้นเอื้อมมือมากระชากกระเป๋าเธอที่สะพายอยู่ข้างลำตัวอย่างรวดเร็ว วาดดาวตกใจเมื่อรู้สึกถึงแรงดึงอย่างแรง เธอหันไปเจอชายคนนั้นที่พยายามดึงสายกระเป๋าของเธอให้หลุดจากมือที่เธอจับเอาไว้ได้ทัน

          “วี” พิรัลตะโกนสุดเสียง เขาเดินกลับมาทันเห็นภาพที่เกิดขึ้นแต่ตัวเขาเองอยู่ห่างกับวาดดาวสักสี่ยิบก้าวได้ พิรัลทิ้งของทั้งหมดที่ซื้อมาลงทันทีแล้วออกวิ่งเพื่อไปถึงวาดดาวให้ไวที่สุด

          เสียงตะโกนของพิรัลทำให้วาดดาวและชายคนนั้นชะงักและหันมามอง แต่เพียงครู่เดียวชายคนนั้นก็ออกแรงดึงอีกครั้งจนสายกระเป๋าหลุดและออกวิ่ง แต่วาดดาวเองยังมีลูกบ้าที่จะวิ่งตามไป เจ้าโจรจึงหันกลับมาเงื้อมีดขึ้นหมายจะทำร้าย จังหวะเดียวกันพิรัลมาถึงตัววาดดาวได้ทันเวลาและขวางตัวเธอไว้ไม่ให้ถูกโจรแทงเอาได้

          โจรคนนั้นวิ่งจากไปแล้วพร้อมชิงกระเป๋าของวาดาวได้สำเร็จ แต่เขาก็ดีใจที่เธอปลอดภัย

          “วี ไม่เป็นอะไรนะ” เขาหันกลับมาเพื่อมองหน้าเธอให้ชัด

          “วีไม่เป็นอะไร แต่วิน วิน” วาดดาวพูดจาติดขัดไม่เต็มคำ พร้อมกับมองไปที่หน้าท้องเขาที่เริ่มเห็นเลือดสีแดงสดซึมออกมา น้ำตาเธอคลอหน่วย

          พิรัลเริ่มรู้สึกจุกที่ใต้ชายโครงขวา มันค่อยๆแน่นและชาไปทั้งตัว ตาของเขามองเห็นแต่ความมืดมิด ก่อนสติจะค่อยๆดับวูบไป เมื่อเขาหมดสติลงตัวทั้งตัวของชายหนุ่มก็โถมไปข้างหน้า วาดดาวพยายามจะรับตัวเขาไว้ไม่ให้ล้มลง แต่ไม่รู้ว่าเพราะเขาตัวโตกว่าเธอมาก หรือเพราะแขนขาเธอเองที่ไม่มีแรง ทำให้ทั้งตัวเธอและร่างของเขาไถลไปด้านหลัง เธอได้ยินเสียงซ่าของน้ำที่แตกกระจาย เธอกับเขาคงตกจากท่าเรือลงมาในน้ำ มือพยายามใช้มือข้างหนึ่งกวักน้ำเพื่อให้ตัวลอยขึ้นแต่พิรัลตัวหนักเหลือเกินจนเธอไม่สามารถพาร่างของทั้งคู่ขึ้นมาบนผิวน้ำได้ หากเธอจะเอาตัวรอดเธอจะต้องปล่อยอีกมือจากตัวเขา วาดดาวทำไม่ได้ เธอไม่อยากทิ้งพิรัลที่ไม่ยอมได้สติไว้ในน้ำเพื่อให้ตัวเองรอด เธอจะไม่ปล่อยมือจากเขา วาดดาวเริ่มได้ยินเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือให้เธอทั้งคู่แว่วๆมาจากบนฝั่ง ได้ยินเสียงฝีเท้าคนวิ่งลงมาที่ท่าเรือ แต่แม่น้ำเจ้าพระยาที่ดูไหลเอื่อยใต้น้ำนี่ไหลวนรวดเร็วเลยเกิน เธอหายใจไม่ออก ไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะกวักน้ำอีกแล้ว แม่จ๋า!ยายจ๋า! ช่วยวีด้วย พระเจ้าตากสินโปรดทรงเมตตาอย่าให้เธอกับพิรัลต้องมาตายที่นี่เลย

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา