บัลลังก์ฉิมพลี

8.2

เขียนโดย กรุงสยาม

วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 12.26 น.

  59 ตอน
  1 วิจารณ์
  49.01K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 15.36 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

46) กลับไม่กลับ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          ฝ่ามือบรรเลงทรวงอกไปพร้อมกับเรียวลิ้น

ที่กำลังกวาดต้อนชิมความหวานชื่นแสนเพลิดเพลิน

ก่อนจะเอื้อมปลดตะขอบราออกจากตัวสาวน้อยอย่างเบามือ


เพชรเกล้าส่งเสียงของความเสียวซ่านตามเนื้อตัวอยู่ในลำคอ

สาวน้อยยื่นมือเข้ามาหาเนื้ออกพลางจะปลัดปล้อง

ไปตามประสาเคยชินแต่ก็ยากที่จะเข้าถึงเมื่อคนด้านบน

ดันหวงแหนมันจนคล้ายเป็นเจ้าของเสียเอง

 

" ฮืม..~ "

 

ลมหายใจแหบเบาหลุดออกจากกลีบปากบาง

เมื่อผู้รื่นเริงยอมปลดปล่อย ตรีทิพย์เคลื่อนตัวลงมา

แนบชิดลำตัวของเพชรเกล้าก่ายขาเข้าหากอดเกี่ยวพัวพัน

 

" อ๊ะ!..อื้อ!~ "

 

ร่างบางเอนกายขึ้นด้วยความเสียวซ่าน

พร้อมทั้งปล่อยครวญออกมาอย่างห้ามไม่สนิท

เมื่อความชุ่มชื้นจากแผ่นลิ้นวกลงไปหาสองเต้าอวบอิ่ม

สาวน้อยกัดริมฝีปากจิกปลายนิ้วลงกับผิวฟูกยับย่น

ยามที่ผลเม็ดชูชันถูกทักทายขยี้เล่นแสนเอาแต่ใจ

 


ตรีทิพย์ปล่อยฝ่ามือข้างหนึ่งเลื่อนลง

สอดผ่านยางยืดของขอบกางเกงชั้นนอก

เลยลึกเข้าไปยังพื้นที่ด้านในจนสาวน้อยผวา

ครางกระเส่าเอื้อมกอบกุมศีรษะผู้กระทำเป็นการผ่อนคลาย

 


อุ้งมือร้อนฉ่าขยับผ่านเนินเนื้อนุ่มขยับปลายนิ้วไปมา

เป็นการเรียกเร้าน้ำเสียงหวานๆที่เธอคลั่งไคล้

และดูเหมือนจะได้ผลเมื่อสาวน้อยแสนสับสน

กับความวาบหวามที่กำลังถูกครอบงำอยู่กับเนื้ออก

และอาณาจักเบื้องล่างจนร่างกายแทบจะบิดเร้ารนรานเสียให้ได้

 

" อ๊ะ! อื้ม!! "

 

เมื่อนิ้วเรียวยาวเริ่มสอดเข้าหาแอ่งหฤหรรษ์

จึงเรียกเสียงหวานๆที่ปนความแหบห้วง

จนตรีทิพย์ต้องวนกลับขึ้นไปประทับรอยจูบด้วยความหมันเขี้ยว.....แต่การนี้

บทรักของสองสาวกับไม่ได้รับความเป็นส่วนตัวอย่างที่คิด

เมื่อสองเท้าผิวสีแทนกำลังย่างก้าวเดินตรงมาหยุดอยู่ยังหน้าห้อง

ที่กำลังเป็นดินแดนสวรรค์สำหรับตรีทิพย์และเพชรเกล้า

ปริฉัตรจ้องตาเขม็งไปยังลูกบิดประตูเธอภาวนาขออย่าให้มันล็อค!

 

 


หญิงสาวหน้าดุค่อยๆเอื้อมมือเข้าไปยังจุดเปิด

และหมุนเบาๆ..สายตาของหล่อนสะพรึง

เมื่อกรไม่ได้ล็อคอย่างที่เธอหมายใจ ปริฉัตรค่อยๆแง้มประตูออกช้าๆ

เธอทอดสายตามองตรงไปที่เตียงเมื่อได้ยินเสียงอะไร

เล็ดรอดมาเข้าหู หญิงสาวใจเต้นระรัวปากคอสั่นด้วยแรงสะอื้น

พร้อมๆกับหยดน้ำตาที่ไหลพรากลงมาเมื่อภาพตรงหน้า

คือแผ่นหลังของน้องสาวสุดรัก

ที่กำลังดื่มด่ำอยู่กับเรือนร่างของเพชรเกล้า!

 

ปริฉัตรสะบัดหน้าออกทันทีเธอรีบวิ่งออกไปสาวเท้าก้าวเร็วๆ

ลงจากบันไดตรงออกไปนอกบ้าน ทอปัดเดินออกมาจากห้องส่วนตัว

และเห็นเข้าพอดีหันมองไปยังจุดที่พี่สาววิ่งออกมา

นั่นคือหน้าห้องนอนของเพชรเกล้า ผู้จัดการซุปตาร์นิ่งคิดสักครู่

ก่อนจะหันเดินตามคนฟูมฟายไปอย่างว่องไว

 


ปริฉัตรวิ่งห่างออกจากบ้านมาไกลเนื้อตัวเปียกเม็ดฝนนิดหน่อย

และจึงหยุดทรุดตัวลงกับพื้นเธอร้องไห้ออกมา

ราวกับหมดหวังในชีวิตจนคล้ายหญิงตัวน้อยๆในละครน้ำเน่า

ทำเอาคนที่พึ่งตามมาถึงด้วยใจที่เป็นห่วงพี่สาว

แปลกใจและมึนงงไปหมด..ทอปัดหลบอยู่กับมุมหนึ่ง

เธอคิดว่าตัวเองไม่สมควรเข้าไป

เพราะคนเป็นพี่คงไม่อยากรับการปลอบโยนจากเธอหรอก...

 


2 วันถัดมา…

 


เวลา 21:36 น.

 

บริเวณริมประตูภายในห้องนอนที่มืดสลัวแผ่นหลังชุดคลุม

ของเพชรเกล้าเสียดสีอยู่กับผนังด้วยแรงดันจากเรือนร่างตรงหน้า

ตรีทิพย์โอบกอดสะเอวคอดซุกใบหน้าอยู่กับผิวคอ

โฉลมริมฝีปากคลอเคลียอยู่นานนม

พลางปล่อยมือข้างหนึ่งลูบไล้ไปตามเรือนร่างที่เต่งตึงอย่างนุ่มนวล


ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากกลับขึ้นไปหากลีบปากบางแสนยั่วเย้า

โฉบเฉี่ยวเรียวลิ้นแสนกระหายในรสชาติคำรามลมหายใจ

ให้คนฟังได้สยิวเกร็งตัวไปหมด เพชรเกล้ารู้สึกว่าเธอ

กำลังขาสั่นร่างกายแทบจะทรุดลงเต็มทีกับความไม่รู้จักพอ

ของคนเอาแต่ใจเพราะหลังจากอาหารมื้อค่ำเสร็จสิ้นไป

ทุกคนจึงแยกย้ายเข้าห้องนอน

 

มีเพียงเธอคงจะใช่ที่ยังต้องเสียเหงื่อไปกับการละเล่นบทรัก

ครั้งแล้วครั้งเล่าจวบจนตอนนี้เสื้อคลุมที่พึ่งสวมใส่

ก็เริ่มหลุดลงมาเสียครึ่งอก ฝ่ามือของสาวน้อยวางจิกลงกับไหล่นางแบบร่างสูง

เมื่อคนตรงหน้าเลื่อยรอยจูบลงมาหาเนื้ออกเนืองแน่น

 

“ พี่เต้..ไหนจะกลับห้อง...แล้วไง ”


เสียงนิ่มถามขึ้นและเริ่มดึงเสื้อคลุมให้เข้ามาปิดทรวงอก

ตรีทิพย์จึงย้ายกลับเข้ามาหาริมฝีปากบางแต่เพชรเกล้าหันหลบ

ร่างสูงจึงคลอเคลียไปหาใบหูเธอแทน

 

“ ฮืม~..ไม่อยากไปเลย.. ”

 

เป็นอย่างนี้ในทุกๆคืนที่ผ่านมาคือตรีทิพย์

ห้ามนอนห้องเดียวกับเพชรเกล้าเพราะข้อห้ามจากปิ่นรัก

 

“ ดึกมากแล้วนะคะ รีบไปพักผ่อนเถอะ ”


สาวน้อยดันร่างตรงหน้านิดๆ

 

“ ฮือ..อย่าดัน.. ”


ใบหน้าสวยกับไม่ยอมออกห่างแม้เนื้อตัวจะถูกดันออก


“ พราวเริ่มปวดๆหัวอีกแล้ว ”

 

ตรีทิพย์ลืมไปสนิทว่าสาวน้อยของเธอมีอาการป่วยอยู่นิดหน่อย

ร่างสูงหยุดมองเอื้อมมือกอบกุมใบหน้าคนรัก ร่างบางตาปรือๆคล้ายอ่อนเพลีย

 

“ ตัวไม่ร้อน งั้นไปนอนนะคะ ”


ร่างสูงทำท่าจะพาไปส่งที่เตียง


“ ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวพราวเดินไปเองก็ได้ พี่เต้รีบกลับห้องเถอะดึกแล้ว ”

 

ตรีทิพย์ยิ้มพยักหน้า


“ ก็ได้จ้ะ พรุ่งนี้เจอกันนะ ”

 

เพชรเกล้ายิ้มหวาน นางแบบสาวจึงดึงสาวน้อยเข้ามากอดแน่นๆ

พร้อมกับจุมพิตลงกับหน้าผากมนและค่อยๆถอยออกมา

หันไปเปิดประตูบทจะว่าง่ายก็ง๊ายงาย..สองสาว

โบกมือให้กันเบาๆก่อนจะปิดประตู

 

 


ตรีทิพย์กลับมาที่ห้องนอนของเธอด้วยสีหน้าและท่าทาง

ที่เต็มไปด้วยความสุข ซุปตาร์สาวหันดึงประตูให้ปิดลงอย่างเบามือ

และเวลานั้นเองเนื้อตัวของเธอจึงถูกสวมกอดเข้าอย่างเฉียบพลัน!

 

ร่างสูงสะดุ้งตกใจพร้อมกับหันมองทันที?!


“ พี่ต้อม? ”


ริมฝีปากสวยเอ่ยเรียกชื่อของคนที่เธอหันไปเจอ


ปริฉัตรยิ้มบางๆดวงตาเศร้าสร้อย


“ ดึกแล้วยังไม่นอนอีกเหรอคะ ”


ตรีทิพย์ถามขึ้นและจะปลีกตัวออก

เพื่อหันมาหาแต่พี่สาวกับกอดเธอแน่นตึก

 

“ พี่มีเรื่องจะขอร้อง ” ปริฉัตรเสียงซึม


“ เรื่องอะไรเหรอคะ ”


ใบหน้าสวยเบี่ยงมาสนทนาด้วย


“ พี่ยังไม่อยากให้เต้กลับ.. ”


พี่สาวแนบใบหน้าลงกับแผ่นหลังของน้องเธอ

 

ตรีทิพย์นิ่งฟังเมื่อเสียงของคนด้านหลังดูไม่สดใส

แต่เธอก็ต้องกระดุกกระดิกตัวและหดเกร็งหน้าท้องในเวลาเดียวกัน

เมื่อฝ่ามือของปริฉัตรดันขยับกระชับแน่นหนึบจนน่าหวาดเสียวแปลกๆ

 

“ เอ่อ.. ”


“ นะเต้ อยุ่กับพี่ก่อนนะ ”


“ คือ...เต้มีงานค่ะอยู่ต่อไม่ได้หรอก ”


เสียงหวานเอ่ยบอกเรียบๆ

 

“ แค่วันเดียวหรือครึ่งวันก็ได้ เดี๋ยวนี้เราไม่ค่อยได้เจอกันเลยนะ ”


ปริฉัตรเกยปลายคางอยู่กับหัวไหล่น้องสาวหันมองรูปหน้าแสนสวย

เป็นครั้งแรกที่ตรีทิพย์รู้สึกแปลกๆพิกลกับอ้อมกอดของพี่เธอ

 

“ นะเต้.. ”

 

ร่างสูงผ่อนลมหายใจเริ่มหนักใจเพราะเธอได้ยืนยัน

กับเพชรเกล้าไปอย่างมั่นเหมาะว่าจะกลับพร้อมกัน

และเธอเองก็อยากให้มันเป็นเช่นนั้นด้วย

ส่วนปริฉัตรพี่สาวเธอก็เริ่มจะเกรงใจ...

 

 

เช้าตรู่ของวันใหม่.... เพชรเกล้ายืนอยู่หน้ากระจกเพื่อส่องดูรายละเอียด

ตามประสาผู้หญิงในขณะที่เธอพึ่งเกล้าผมเสร็จ..ตรีทิพย์เปิดประตูเข้ามาพอดี

ใบหน้าสวยฉีกยิ้มหวานๆเมื่อเธอได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆแล่นเข้ามาแตะจมูก

สาวน้อยหันมองและส่งยิ้มให้ก่อนจะหันมาส่องกระจกอีกรอบ

 

นางแบบสาวตรงเข้ามาหาเรือนร่างผุดผ่อง

ตรีทิพย์สวมกอดเจ้าหญิงของเธอพร้อมกับชื่นใจ

ผิวแก้มฟอดโตยิ้มมองใบหน้าคนรักในกระจก

 

“ ยิ้มอะไร.. ” ร่างบางลดสายตาลง


“ หายปวดหัวหรือยังคะ ”


ใบหน้าสวยหันถามชิดใกล้คลอเคลียปลายจมูกอยู่กับเนื้อผิว

 

“ ค่ะ ” เสียงนิ่มตอบสั้นๆ


“ ค่ะๆๆๆ ”


ตรีทิพย์กัดฟันพูดยื่นจมูกเข้าไปหอมแก้มอีกครั้งด้วยความหมันเขี้ยว


“ แล้วนี่..พี่เต้แต่งตัวเสร็จแล้วเหรอคะ ”

 

คำถามนี้ตรีทิพย์จึงเงียบไป

 

“ พี่กำลังจะมาบอกเรื่องนี้อยู่พอดีเลยค่ะ ”


“ มีอะไรเหรอคะ ” สาวน้อยหันมาหา


“ คือ... ”

 

เพชรเกล้าจ้องรอฟัง

 

“ คือว่า.. ” นางแบบสาวอ้ำอึ้ง

 

“ คืออะไรคะ? ”


“ คือ..วันนี้พี่คง....ไม่ได้กลับ.. ”

 

“ ทำไมล่ะคะ ”


“ คือ...คือพี่ต้อมเขาอยากให้พี่อยู่ด้วยวันนึงน่ะค่ะ ”

 

สีหน้าของเพชรเกล้านิ่งลงทันที..สาวน้อยลดสายตาลงสักครู่

ก่อนจะเลี่ยงตัวออกไปหากระเป๋าที่บรรจุเสื้อผ้าของเธอ ตรีทิพย์เดินตามติด

 

“ พราวไม่โกรธพี่ใช่มั้ย ”

 


สถานการณ์เงียบสงัด…

 


“ พราวเข้าใจพี่ใช่มั้ยคะ ”

 

เพชรเกล้านำสิ่งของเล็กๆน้อยๆใส่กระเป๋าเดินทางของเธอ

และรูดซิปเสร็จศัพท์พร้อมกับยกขึ้นเดินตรงไปที่ประตู

ร่างสูงรีบวิ่งไปดักหน้า

 

“ อย่าโกรธเลยนะ.. ”


ตรีทิพย์ทำตาละห้อยหวังให้สาวน้อยเข้าใจเธอ


“ หลบ ” ริมฝีปากบางเอ่ยสั้นๆ


“ บอกก่อนสิคะว่าไม่โกรธพี่เต้ ”


“ จะให้พูดแบบนั้นทั้งที่มันขัดกับหน้าตาตอนนี้น่ะเหรอ ”


ร่างบางเอ่ยบอกน้ำเสียงเริ่มแข็ง นางแบบสาวกระพริบตาปริบๆ


เพชรเกล้าดันคนตรงหน้าให้หลีกทางและเปิดประตูออกไปทันที

 

 

โถงด้านล่าง อินเกษมกำลังนั่งสนทนาอยู่กับปิ่นรักเหมือนเคย

ทอปัดเดินลงมาสมทบเพื่อรอที่จะเดินทางกลับพร้อมๆกัน

ลูกสาวคนกลางตรงเข้ามานั่งเทียบข้างบิดาของเธอ

เอื้อมมือกอดเกี่ยวแขนพร้อมกับเอนกายซบไหล่อันอบอุ่น

 

“ ถึงกรุงเทพแล้วอย่าลืมโทรหาพ่อล่ะ ”


อินเกษมลูบศีรษะลูกสาวปิ่นรักยิ้มมอง

ทอปัดพยักหน้าซึมๆเพราะยังอยากอยู่กับพ่อของเธอ

 


“ พราว.. ”


“ พราวฟังพี่ก่อนสิ ”

 


ทั้งหมดหันมองขึ้นไปยังเสียงที่แว่วมาแต่ไกล

จนถึงบันไดเรื่อยลงมานั่นคือตรีทิพย์ที่กำลังเดินเร็วๆ

ตามติดเพชรเกล้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

 

“ พราว ”

 

ร่างบางเดินเข้ามาหยุดอยู่บริเวณที่ทุกคนกำลังนั่งกันอยู่

 

“ พราวพร้อมแล้วค่ะเราจะกลับกันหรือยัง ”


“ พี่ยังไม่ให้พราวไป ”


ตรีทิพย์เอ่ยขึ้นผ่านแผ่นหลังคนรักที่ยืนอยู่ด้านหน้า..

นี่มีเธอคนเดียวใช่ไหมที่รนราน?! ปิ่นรักหันมองสองสาว


“ เรากลับกันเถอะค่ะคุณแม่ ”


มารดายิ้มอ่อนๆพยักหน้าเบาๆและทำท่าจะลุกขึ้นยืน

 

“ อย่าพึ่งค่ะ อย่าพึ่งไป ” ร่างสูงร้องห้าม


“ โอยยย จะยังไงกันแน่เนี่ย เอ้าเต้ แล้วนี่ไม่กลับหรือไงกระเป๋าล่ะ? ”

 

ทอปัดพูดขึ้นและลุกขึ้นยืนเดินเข้ามาสำรวจภาพรวม

ปิ่นรักมองลูกสาวที่นิ่งเงียบดูเหมือนจะสงบสติอารมณ์

พลางหันมองอินเกษม พ่อซุปตาร์ดังจึงยกไหล่คลี่ยิ้มนิดหน่อย

ไม่ร้อนเนื้อร้อนใจ..ดูชิวๆเหมือนใครกัน

 

“ เขาไม่กลับหรอกค่ะ ” เพชรเกล้าพูดขึ้น

 

ตรีทิพย์สีหน้าลำบากใจเพราะเธอแสนจะแคร์สาวน้อยมากกว่าใคร

 

" เอ๊า? จะไม่กลับได้ไงอ่ะมีงานนะ ลืมเหรอ " ทอปัดถามไถ่

 

" พราว.. "


ตรีทิพย์ส่งเสียง เพชรเกล้าถอนหายใจเบาๆและหันมาหา


" อย่าโกรธเลยนะคะ...นะ เดี๋ยวถ้าพี่กลับไปแล้วจะรีบไปหาพราวทันทีเลยนะ "


ร่างสูงเอื้อมจับสองมือนิ่ม


“ พราวไม่ได้โกรธถ้าพี่เต้จะอยู่ต่อ แต่พราวโกรธที่พี่ไม่รักษาสัญญา ”

 

" พราว... "


เสียงหวานเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ตรีทิพย์หน้าซึม


" ไป!! ปล่อยมันไป! ในเมื่อมันอยากจะไปนักก็อย่าไปห้ามมัน!! "


ทุกคนในที่นั้นหันมองไปยังต้นเสียงยกเว้นเพชรเกล้าเท่านั้น

ที่ยังคงปกติเพราะเธอรู้แล้วว่าใครคือเจ้าของน้ำเสียงเถื่อนภาษาแบบนี้

 

ปิ่นรักหันไปเจอกับหญิงสาวรูปร่างสูงพอตัวใบหน้านี้

เธอจำได้เป็นอย่างดีแม้ว่าบางส่วนจะดูเปลี่ยนแปลงไปบ้าง

ผู้บริหารหญิงค่อยๆลุกขึ้นยืนจ้องมองความเกรี้ยวกราด

ที่เผยแผ่ออกมาจากแววตาช่างเหมือนเดิมไม่มีผิด

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักแค่ไหน..ปริฉัตรก็ยังแตกต่างไปจากทุกคนเช่นเดิม

 


หญิงสาวเสียงดังเดินลงจากบันไดด้วยรอยยิ้มร้ายๆ

และความเกลียดชังที่เต็มอยู่ท่วมใบหน้า อินเกษมถอนหายใจหนึ่งเฮือก

ก่อนจะลุกขึ้นยืนมองสถานการณ์จากลูกสาวของเขา

เพราะกลัวจะสร้างปัญหาให้ต้องอับอายกัน

 

ปริฉัตรไม่เคยออกมาสังสรรค์และพบปะใครตลอดเวลา

ที่เพชรเกล้าและปิ่นรักอยู่ที่นี่จนกระทั่งตอนนี้เธอได้ยืนอยู่ไม่ไกลนัก

 

" ออกไปจากบ้านฉันได้ล่ะ! พวกเสนียด! "


" ต้อม! " อินเกษมตวาด


ปริฉัตรไม่สนใจเดินเข้ามาเกี่ยวแขนน้องสาวเธอ

พร้อมกับดึงให้ถอยห่างออกมาจากเพชรเกล้า

ตรีทิพย์ส่ายหัวเริ่มไม่ชอบใจนัก

 

“ ตกลงว่าไม่ได้กลับด้วยกันหรอกเหรอ ”


ปิ่นรักถามเสียงเรียบต่อนางแบบร่างสูง

ปริฉัตรหันขวับไปที่ผู้พูด!


“ ทำไม! หรือคิดจะออกคำสั่งให้น้องฉัน
ทำตามใจลูกสาวเธอ! คิดจะมาใช้อำนาจที่นี่หรือไง! ”


ปิ่นรักเหลือบมองหญิงด้านข้างตรีทิพย์นิ่งๆ

 

“ มองอะไร! เห็นหน้าฉันเหมือนแม่ใช่มั้ย!! แม่ฉันที่เธอเคย..! ”


“ หยุดพูด!! ” อินเกษมเอ่ยขึ้นตัดบท

 


“ ปิ่นผม.. ”

“ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเข้าใจ ”


ปิ่นรักหันหน้ามาทางด้านข้างเพื่อสื่อสารกับอินเกษมที่ยืนอยู่ไม่ไกล

 

“ เหอะ!! ทำเป็นแม่พระดูเข้าอกเข้าใจกันเหลือเกินนะ!! ”


ปริฉัตรยังไม่หยุดด้านตรีทิพย์ก็เริ่มดึงๆ

แขนตัวเองเพราะอยากจะออกห่าง

 

“ พี่ต้อม! ต้าว่าพี่ควรหุบปากนะรู้มั้ยว่าตัวเองน่ะ? น่ารำคาญขนาดไหน! ”


“ อีต้า!!! ”

 

ตรีทิพย์ดึงแขนของตัวออกเสียตอนนี้เธอเริ่มไม่พอใจเสียแล้ว

 

“ เต้..เต้..พี่เลิกพูดก็ได้ แต่เต้อย่ากลับนะอยู่กับพี่ก่อน ”


ปริฉัตรเข้าไปเกาะแกะน้องสาวอีกครั้ง

 

ปิ่นรักจ้องมองกิริยาลูกสาวคนโตของอินเกษม

เพชรเกล้ามองดูทั้งคู่หลังจากที่เธอเงียบอยู่นาน

ร่างบางค่อยๆย่างก้าวเดินเข้าไปหา

ใบหน้าสวยหันสนใจเมื่อเห็นว่าสาวน้อยกำลังตรงมาทางเธอ..

ปริฉัตรหันขวับส่งสายตาจิกกัดอย่างจงเกลียดจงชัง!

 

“ พราวจะไปรอที่เรือ ”


เพชรเกล้าพูดขึ้นสบตาคนรักไม่สนใจ

ว่าใครจะกำลังเขม็งแข็งกร้าวใส่เธอเพียงใด

 

“ อีกสิบนาทีถ้าพี่เต้ไม่มาก็อย่าหวังว่าจะได้ง้อพราว ”

 

สิ้นน้ำเสียงสาวน้อยจึงหันเดินออกไปทันที

และแสดงให้เห็นว่าปริฉัตรไม่ได้อยู่ในสายตาของเธอแม้แต่นิด

ตรีทิพย์มองตามแผ่นหลังยืนนิ่งไป

 


“ เออ..เอาสิๆ ” ทอปัดชอบใจจึงพูดออกมา

 

ปิ่นรักหันเดินตามออกไปพร้อมๆกับอินเกษมที่เคียงคู่กัน


“ อีแย่งผัวชาวบ้าน! ” หญิงโวกเวกตะโกนตามหลัง


“ โอ๊ย! เป็นบ้าอะไรนัก?! ” ทอปัดตะโกนใส่บ้าง

 


ตรีทิพย์หันมองนาฬิกา..

 

“ เต้!! ” ปริฉัตรดึงแขน

“ ไหนบอกว่า ”

“ เต้ต้องกลับค่ะ ” ตรีทิพย์แทรกพูดรวดเร็วและจะวิ่งไป

“ แต่เต้รับปากพี่แล้วนะ! ” พี่สาวยื้อตัวไม่เลิก

“ เต้ไม่อยากมีปัญหากับพราว ”

 

ร่างสูงดึงแขนตัวเองจนหลุดพ้น ก่อนจะรีบวิ่งกลับขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็ว

 


ปริฉัตรรีบก้าวขาตาม ทอปัดเห็นเช่นนั้นจึงวิ่งเข้าไปขวางบนบันได


“ หลีกไป!!! ”


พี่สาวรนรานหาทางขึ้นให้ได้ด้านทอปัดจึงเบียดบังหนทางเต็มที่


“ อีนี่!!! ” ปริฉัตรเงื้อมือ


“ หยุดนะ! ถ้าพี่ตบต้าถีบจริงๆด้วย!! ” ทอปัดชี้หน้ากำชับ


“ ฉันเป็นพี่แกนะ!! ”

“ ในทะเบียนบ้านเขามีเขียนไว้ด้วยเหรอว่าเกิดทีหลังและห้ามถีบพี่สาวอ่ะ..ห่ะ!! ”

 

ปริฉัตรร้องลั่นเมื่อทุกอย่างดันขัดใจเธอไปเสียหมด

 

ไม่นานนักตรีทิพย์ก็กลับออกมาจากห้องพร้อมกับกระเป๋าเดินทางของเธอ

 

“ เต้! เต้อย่าไปนะ!! ”

 

“ โห? ไวมาก?! อย่างนี้มันเก็บไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วมั้งเนี่ย ” ทอปัดหันมองผู้ที่เดินเร็วๆลงมา

 

ก่อนจะรีบดันตัวพี่สาวเธอไว้เพื่อไม่ให้มาขัดขวางตรีทิพย์

 

ร่างสูงรีบเดินออกไปทันทีปริฉัตรหันมองตามน้องสาว

ที่สวนเธอไปและไม่คิดจะหันมองกันเลยแม้แต่น้อย

 

 

 

ชายฝั่งริมทะเลอันดามันปิ่นรักและเพชรเกล้าลงเรือเรียบร้อยพร้อมจะออกเดินทาง

“ เดินทางปลอดภัยนะปิ่นขอโทษด้วยที่ผมไปส่งถึงฝั่งไม่ได้ ”


อินเกษมย่อตัวนั่งลงอยู่บนสะพานเทียบท่า

 

“ ไม่เป็นไรเลยค่ะ ฉันรู้ว่าคุณมีงาน
เดี๋ยวคุณต้องไปที่ฟาร์มแล้วไม่ใช่เหรอ ”

 

อินเกษมพยักหน้า


“ ไปเถอะค่ะ ” ปิ่นรักคลี่ยิ้ม


“ เดินทางปลอดภัยนะพราว ”


อินเกษมหันบอกเพชรเกล้าลูกสาวอีกคนในอนาคต

 

“ ค่ะ สวัสดีค่ะคุณลุง ” เพชรเกล้ายิ้มไหว้

 


“ งั้นผมขอตัวก่อนนะ ต้องไปดูงานแล้ว โชคดีนะปิ่น ”


“ คุณก็เหมือนกันค่ะ ”

 

ทั้งคู่ส่งยิ้มให้กันพอประมาณ..อินเกษมจึงเดินออกไปอย่างเร่งรีบ

เวลานั้นเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสายที่โทรเข้ามาพอดีดูยุ่งๆเหมือนเคย

 


ปิ่นรักก้มมองดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ...


“ อืม..เหลืออีกหนึ่งนาที แม่ว่าเต้คง... ”


“ มาแล้วค่ะ!! ”

 

สองแม่ลูกหันมองถึงเสียงที่ดังมาแต่ไกล

เพชรเกล้าทำหันไปทางอื่นไม่สนใจ

นางแบบผิวขาวรีบวิ่งเข้ามาหาเสียงฝีเท้าดังกระทบสะพานลั่นๆ

ด้วยแรงเร่งรีบของเธอ ตรีทิพย์เดินลงเรือที่เทียบท่ารออยู่ทันที

 

“ ขอโทษนะคะที่ทำให้รอ ”


เสียงหวานเอ่ยบอกหอบๆต่อปิ่นรัก

และเหลือบมองไปยังสาวน้อยที่หันหน้าออกมองทะเล

 

“ ไปแล้วๆๆ!! ”

 


เรื่องที่น่าปวดหัวยังไม่จบทั้งหมดหันมองตามเสียงอีกครั้ง.....

ปริฉัตรกำลังตรงมายังจุดนี้ด้วยสีหน้าหาเรื่องเหมือนทุกครั้ง!

ทอปัดตะโกนบอกเพื่อให้สัญญาณว่าเธอกันเอาไว้ไม่อยู่แล้ว

อีกทั้งกระเป๋าที่แบกมาก็ช่างเป็นอุปสรรคเสียจริง

 

เพชรเกล้าเดินออกมายืนเยื้องข้างแม่ของเธอ


เมื่อตัวการใจร้อนมาถึงก็ทำท่าจะก้าวขาลงเรือ

แต่ทอปัดรีบวิ่งแซงเข้ามาผลักให้พี่สาวหลีกหลบและโดดลงเรือเสียเอง

 

“ อี!!! ”


ปริฉัตรหยิบเศษหินบนสะพานเพื่อจะนำมาขว้าง


“ อย่าทำอะไรพราวนะ! ”


ตรีทิพย์นำตัวเข้ามาขวาง

เพชรเกล้าแอบยิ้มมองแผ่นหลังคนปกป้อง

 

“ นี่แกเห็นมันดีกว่าฉันใช่แมะ!! ”

“ เต้คิดไว้อยู่แล้ว! ว่าพี่จะดีได้สักแค่ไหน! ”


“ ออกเรือเลยค่ะ ”


ใบหน้าสวยหันบอกคนขับที่เป็นลูกน้องพ่อเธอ

 

ปริฉัตรหน้าตาเลิ่กลั่กเพราะตรีทิพย์กำลังจะไปจากเธออีกแล้ว

และเมื่อเครื่องยนต์ถูกสตาร์ทสปีดโบ๊ทลำกลางจึงแล่นออกไปจากจุดนั้นทันที

 

ปริฉัตรร้องไห้โฮทั้งเสียใจและเจ็บใจมองตามเรือเร็ว

เห็นน้องสาวเข้าไปเกาะแกะเทคแคร์เพชรเกล้าอย่างเป็นห่วงเป็นใย

หญิงสาวร่ำไห้เหม่อมองภาพนั้นจนสุดสายตา.........

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา