ชะตาป่วนมิติ

7.0

เขียนโดย gee561

วันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 11.52 น.

  3 ตอน
  0 วิจารณ์
  4,610 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2559 13.24 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เอาแล้วสิไอ้วาเอ๋ย

“เฮ้อ....”

เสียงถอนใจครั้งที่ 10 ของวันนี้ ฉันทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากนั่งนิ่งๆ เอากิ่งไม้ที่หาได้แถวๆนั่นมาจิ้มๆขีดๆเขียนๆอะไรเรื่อยเปื่อย  หลังจากเดินวนไปวนมาหาหนทางออกจากสถานที่บ้าๆนี้จนเหนื่อย  ถอนใจอีกครั้งอย่างเซ็งๆ นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่นานประมาณเมื่อวานนี้  ถ้าจำไม่ผิด 

“ฮัลโล...ยัยวาๆๆ ทำไมแกรับสายช้านักอ่ะ”  เสียงแหลมๆดังแทรกขึ้นมาทันทีที่ฉันกดปุ่มรับสายมือถือ

“......”

สมองฉันพยายามประมวลผลอยู่ว่า ครายยฟร่ะ โทรมาตอน 6 โมงเช้าเนี้ย เมื่อวานกว่าจะได้นอนปาเข้าไป ตี4 นะโว๊ย กวนรมณ์ชะมัด  อ๋อ ...ยัยเกี๋ยมอี๋  ยัยลอดช่องสิงคโปร์ในน้ำซุปเอ๋ย..

“ฮัลโหลๆๆๆ  ตกลงแกยังอยู่หรือเปล่า?”  เสียงแหลมย้ำ แหลม  แผดดังขึ้นมาอีก โอ้ย..ขี้หูฉันร่วงหมด

“ยังอยู่  ยังไม่ตาย แต่กำลังจะตายเพราะมลภาวะทางเสียงอยู่” ฉันตอบไปเรียบๆอย่างรอผล

“มลภาวะทางเสียง...บ้านแกก็ไม่ติดถนนใหญ่นี่จะมีเสียงดังได้ไง?  หรือว่าข้างบ้านเขาต่อเติมบ้าน? อ๊ะ...”

‘เสียงเหมือนไก่โดนบีบคอ    เพราะมาก’    ฉันนึกในใจ ก่อนจะรีบเหยียดแขนที่จับมือถือออกไปห่างๆทันที

“กรี๊ด !!!  ยัยบ้า  แกหาว่าเสียงชั้นเป็นมลภาวะหรอ ..กรี๊ดๆ”

เสียงสิบแปดหลอดดังขึ้นทันทีอย่างโหยหวน ฮาฮา เปล่านะฉันไม่ได้ว่าไรเธอน่ะ เกี๋ยมอี๋ เธอบรรลุเอง ฮา

ฉันรอจนมั่นใจว่าปลอดภัยแล้ว จึงหยิบมือถือมาคุยต่อทันที

“เปล่าจ้า เกี๋ยมอี๋ผู้น่ารัก...แหมๆ ใครจะกล้าว่าเธอได้ล่ะ ว่าแต่โทรมามีอะไรหรอ?”

“เชื่อตายล่ะ...ฮึ  ปากแบบนี้ถ้าแกได้เป็นทนายความสมใจสงสัยโดนดักยิงชัวร์” 

ปลายสายลงเสียงหนักแบบกระเง้ากระงอด จนฉันนึกภาพออกทีเดียว  เฮ้อ...ให้พรกันแต่เช้าเลยเว้ย..

“ฮึ ฮึ  ว่าแต่มีไร ถ้าไม่มีจะวางสายแล้วนะ  เมื่อคืนกว่าจะได้นอนตั้งตี 4 “

“ห๋า..แกไปทำไรมา อย่าบอกน่ะว่าแกไปดริ๊งหนักจนลุกไม่ไหว   ไม่ดีนะถึงเราจะเรียนมหาลัยกันแล้วแต่เพิ่งจะปีหนึ่ง แกทำตัวแบบเนี้ย ป๊ากะม๊าไม่ว่าเอาหรอ ?”

เกี๋ยมอี๋ส่งเสียงจิ๊จ๊ะมาตามสายพร้อมร่ายยาวเป็นรถไฟไม่ได้หยุด   เล่นเอาฉันชักรำคาญ   ตกลงนี้โทรมาไรฟร่ะ  ตรูจะนอน....อุตสาห์ได้หยุดหนึ่งวัน  หลังจากโหมรับงานอีเวนต์ เป็นพรีเซ็นเตอร์วันละ 3 งาน  วันนี้ฉันเลยกะว่าจะนอนให้เต็มที่ซะหน่อย

“เปล่า...งานพาร์ทไทม์นะ  ว่าแต่แกเหอะ  ตกลงมีไรกันแน่  ถ้ายังไม่บอกฉันจะวางสายแล้วน่ะ”

เสียงฉันคงบ่งบอกอารมณ์น่าดู  ยัยเกี๋ยมอี๋เลยเลิกโยกโย้ รีบตอบมาทันที

“มี มี!! บ่ายนี้พาฉันไปดูหนังสือมือสองหน่อยสิ น่ะๆๆๆน๊า.... เสร็จแล้วฉันจะเลี้ยงสุกี้  ตกลงน่ะ แค่นี้แหละเจอกันบ่าย 2 โมงน่ะฉันจะรอ”

ว่าแล้วเจ้าหล่อนก็วางสายไปดื้อๆ โดยไม่ถามฉันซักคำว่าฉันว่างหรือเปล่า?  ติดอะไรอยู่ไหม? เล่นบังคับกันทางอ้อมแบบนี่ เฮ้อ..ดีนะฉันไม่มีธุระที่ไหน  เอาเหอะ..เผื่อได้หนังสือมาอ่านเล่นสักเล่มสองเล่ม  ฉันคิดแค่นั้นจริงๆน่ะ ไม่เกี่ยวกับเจ้าสุกี้อะไรเล้ย...จริงจริ้งงงงง

บ่ายสองโมงครึ่ง...  ฉันนั่งรอยัยลอดช่องสิงคโปร์ในน้ำซุป  ตรงจุดที่ฉันโทรไปถามอีกที  คิดดู๊  นี่หล่อนเป็นคนนัดฉันนะ  ทำไมคนที่ต้องรอกลับเป็นฉันซะได้   ฉันนั่งอ่านหนังสือตัวอย่างคดีฆ่าเวลาไปอย่างเซ็งๆ  เฮ้อ...30 นาที แล้วน่ะยัยบ้า!! ถ้าจะมาช้าแบบนี้ แล้วแกนัดทำไมว๊ะ ว่าบ่ายสองโมง  ฉันนั่งถอนใจจนเซ็ง  

“หนูๆ คนโบราณเขาว่า ถอนใจหนึ่งครั้งอายุสั้นไป 1 วันนะลูก  รอเพื่อนแล้วเขาไม่มาหรอ?” 

เสียงแหบๆของหญิงสูงวัยอายุประมาณป้าของฉันได้ เอ่ยขึ้นยิ้มๆ   แกนั่งขายพวกเครื่องประดับหยก หินสีอะไรเถือกนั้น

“ค่ะ คุณป้า  เนี้ยเขาเป็นคนนัดหนูนะคะ  ยังมาช้าอีก”   

ฉันตอบแกไป  ดีเหมือนกันมีเพื่อนคุย  เห็นไม่มีใครไปยืนเลือกของของแกแล้ว ฉันเลยเดินไปดูบ้าง 

“555  ก็วันหยุดแบบนี้ รถอาจจะติดก็ได้นะลูก  ดูอะไรหน่อยมั้ย ? เครื่องประดับพวกนี้สวยๆแถมยังเป็นหินนำโชคด้วยน๊า”

ป้าแกพูดยิ้มๆ มือก็ชี้ชวนไปในกระบะเครื่องประดับของแก  ที่แยกออกเป็นสร้อยคอ  สร้อยข้อมือ  แหวน  หรือพวงกุญแจ อืมม   เยอะจริงๆแหะ  ฉันเอานิ้วเขี่ยระไปเรื่อยๆ จนสายตามาสะดุดกับแหวนหยกสีออกเขียวๆขาวๆ แกะเป็นลายเหมือนเถาวัลย์รอบวง  แต่เมื่อหยิบมาดูใกล้ๆ อ้าว.. นี่มันลายนกสยายปีกต่อๆกันหรอกหรอ  แปลกแหะ

“ลองดูได้นะลูก  ถ้าชอบป้าลดให้ ถือว่าช่วยแก้เหงาป้า”

‘มีค่าแก้เหงาด้วยหรอค่ะคุณป้า 555’  ฉันนึกขำ เลยหยิบมาสวมที่นิ้วดู เริ่มจากนิ้วนางก่อน  อ้าว  หลวมไป งั้น นิ้วกลาง  โอ๊ยได้แค่ข้อที่สอง  ไรว๊ะ สงสัยป้าแกจะไม่ขายของซะละมั้ง   ฉันเลยสวมส่งๆที่นิ้วชี้มือขวา  อ้าว พอดีเฉยเลย

“แหม..พอดีเลย ใส่แล้วสวยนะลูก เอาเลยมั้ย 350 บาท ป้าลดให้เหลือ 320” 

ป้าแกรีบพูดทันที  แหมป้าขา หนูลองตั้งสามนิ้วแนะ  กว่าจะได้ ฮา

“เอาก็เอาคะป้า  แต่ลดให้อีกได้มั้ยคะ  นี่มันยังแพงอยู่เลย แหวนวงนิดเดียว”

ฉันอ้อนต่อราคา   อืมม  จริงๆมันก็สวยดีนะ ชอบแหละ แต่ทำเฉยไว้  มันเป็นกลยุทธ์  ฮา

“ป้าขายถูกแล้วลูก    แล้วหนูจะเอาสักเท่าไหร่ล่ะ?”

5555 ป้าจ้า  เสร็จไอ้วาละ

“150 จ้ะป้า อ๊ะ นี่เงินคะป้า เอามั้ย ถ้าไม่เอาหนูก็ไม่เอาเหมือนกัน”

ฉันรีบส่งเงินให้แกทันที  ดูป้าแกนิ่งไปหลายวิทีเดียว  ก่อนจะยื่นมือมารับเงินแบบว่า งง  คงช็อกกับราคาที่ฉันต่อล่ะมั้ง    ฉันเดินออกมาเมื่อสายตาไปสะดุดกับร่างอวบๆของสาวน้อยนางหนึ่งที่กำลังวิ่งกระหืดกระหอบมาทางฉันพอดี

“วาวา  ฉันขอโทษ  รถมันติด”   ยัยเกี๋ยมอี๋ พูดไปหอบไป  โธ่..น่าสงสาร

“หรออออ รู้สึกจะติดมากเลยนะ  นัดฉันไว้บ่ายสองโมง    ตอนนี้บ่ายสามโมงเรียบร้อย  ตอบมาตามตรงแกออกจากบ้านกี่โมง”

เสียงฉันเชือดเฉือนเพื่อนตรงหน้าอย่างไร้ความปราณี ฮึมมม ต้องแกล้งซักหน่อยแล้ว

“เอ่อ...คือ  แบบว่า”  เกี๋ยมอี๋ตอบแบบตะกุกตะกักเหมือนแผ่นหนังชักกระตุก

“กี่โมง ? “

“ เที่ยงจ่ะ   จ้า”

“เอาจริง”

“แหะๆ  บ่ายสองโมง 15 จ้ะ  เค้าขอโต้ด”   เจ้าหล่อนตอบพลางเอามือป้อมๆประกบกันไหว้ประหลกๆ หึหึ

“ก็แค่นั้น” 

ฉันยังทำเสียงเรียบ ก่อนจะเดินนำหน้าหล่อนไป เพราะว่า.... ไม่ไหวเดี๋ยวหลุดขำ   เพื่อนสาวคนสวยอวบของฉันรีบวิ่งตามหลังฉันเข้าแหล่งร้านหนังสือมือสองทันที

…………………………………………………………………..

“อย่ามัวไปเพ้อฝันกับเรื่องย้อนเวลาไปอดีต หรือข้ามเวลาไปอนาคต เลย งี่เง่าจะตาย ไม่มีทางเป็นจริงหรอก นิยายประโลมโลกพรรณนั้นนะ  มีแต่ในนิยายแหละที่นางเอกพระเอกย้อนเวลาไปอดีต เจอกับฮ่องเต้สุดหล่อ ฟาโรห์สุดเท่ห์ หรือไม่ก็ได้เจอนางเอกเป็นจอมยุทธ์หญิงสุดสวย โธ่เอ๊ย...เรื่องเพ้อฝันชัดๆ”

ฉันเอ่ยอย่างหมั่นไส้ทันทีเมื่อยัยเพื่อนตัวดี เริ่มกวาดหนังสือนิยายมือสอง ที่มองปกก็รู้ว่าเป็นนิยายประเภทนางเอก พระเอกย้อนเวลาเข้าในอดีต  หรือ นางเอกทะลุมิติไปโลกอนาคต อะไรพรรณนั้น

 “แกนี่....ไร้รสนิยม   ไร้จินตนาการ    ไร้อีคิวที่พึงมี  แหม...ชั้นไม่รู้จะด่าแกไง   ยายเป็ดทอดกรอบ!!”

ยายเกี๋ยมอี๋ โต้กลับมาทันควัน ตาเขียวขุ่นเหมือนฉันบังอาจเอามีดไปปาดคอลูกรักของหล่อนประมาณนั้น

                 “ฉันรู้หรอกย่ะว่ามันไม่มีจริง  แต่ไอ้เรื่องเพ้อฝันพวกนี้ มันทำให้คนอ่านมีความสุข  มันฟิน  แกเข้าใจมั้ย  ชีวิตจริงมันโหดร้าย ขอแค่ได้ฝันหวานบ้าง  ไม่ได้หรือไง  ใครมันจะอยู่กับคดีเหมือนแกทุกวัน”

สาวอวบเพื่อนฉันร่ายยาวจนฉันหาช่องแทรกไม่ได้เลยทีเดียว  เสร็จสรรพจ่ายเงินเสร็จ   เจ้าหล่อนก็พาฉันไปเลี้ยงสุกี้ตามสัญญา แล้วก็เรียกแท็กซี่ไปส่งบ้าน โดยไปที่บ้านฉันก่อน แล้วค่อยย้อนไปบ้านเกี๋ยมอี๋ ถึงฉันจะบอกว่าไม่เป็นไร  แต่คราวนี้ไม่รู้อะไรเข้าสิงเพื่อนฉัน  หล่อนไม่ฟังแถมสั่งแท็กซี่ไปส่งฉันโดยสั่งไม่ให้ฉันแย้งหรือพูดอะไรทั้งนั้น ประมาณว่าฉันงอน ฉันโมโห   เฮ้อ..

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา