Wizard clock หอนาฬิกาต้องห้าม

7.0

เขียนโดย เจ้าแกะน้อย

วันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 19.24 น.

  2 ตอน
  0 วิจารณ์
  3,404 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2559 17.03 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) Wizard clock: ตอนที่01 เริ่มต้น

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 01 《เริ่มต้น》

 

     คุณเชื่อเรื่องเวทมนตร์หรือไม่ ถ้าหากไม่เชื่อแล้วล่ะก็ เชิญก้าวเท้าเข้ามาสู่โลกใบใหม่ ที่ชื่อว่า มอโรน่าได้เลย

     มอโรน่าเป็นโลกปกติธรรมดาที่แฝงกลิ่นเวทมนตร์ไว้เล็กๆตามชายขอบเขตของมอโรน่า เพราะมอโรน่ามีพื้นที่เพียงนิดเดียวและที่เหลือเป็นทะเลทรายที่แห้งแล้งและเวิ้งว้าง ที่มีผู้คนอาศัยอยู่เพียงหยิบมือเรียกได้ว่ามีเพียงคนที่อึดและกล้าเท่านั้นที่จะออกไปอยู่ที่ทะเลทราย

     เคยมีนักเดินทางที่ไปท่องทะเลทรายแห่งมอโรน่ากล่าวไว้ว่า 'สุดเขตแดนทะเลทรายนี้ไปมีเมืองที่อุดมไปด้วยพืชและสัตว์นานาชนิด มีผู้คนอาศัยอยู่อย่างปกติสุขอยู่มากมายเกือบเท่ากับมอโรน่าเลยทีเดียว'

     แต่นั้นเป็นเพียงคำเล่าลือเท่านั้น ไม่เคยมีใครได้ไปเห็นหรือสัมผัส แล้วกลับมาเล่าให้ฟังเลยสักคน คงจะมีเพียงนักเดินทางผู้นั้นเท่านั้นที่กลับมาได้

     มอโรน่าที่มีพื้นที่เพียงน้อยนิดถูกแบ่งออกเป็นสี่เมืองใหญ่ คือเมืองที่หนึ่ง แคนเซียส เมืองที่สอง ฟอร์เรส เมืองที่สาม แอนลอส และเมืองที่สี่คือ ดีซาร์

    ทั้งสี่เมืองมีสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นแตกต่างกัน แต่ถ้าหากพูดถึงอำนาจที่สามารถบงการมอโรน่าให้ไปทางใดก็ได้ตามใจชอบแล้วล่ะก็ เมืองนั้นคือเมืองแคนเซียส ซึ่งครอบครองปราสาทแคนซาร์ ที่เป็นที่อยู่ของราชาแห่งมอโรน่า โดยราชาแห่งมอโรน่านั้นก็เปรียบเสมือนกับหัวใจของมอโรน่า

    ต่อมาคือเมืองสีเขียวผู้ครอบครองผืนป่าที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาฟอร์เรส ฟอร์เรสเป็นเมืองแห่งผืนป่านั้นก็เพราะเมืองนี้ไม่ค่อยอยู่ติดทะเลทรายเหมือนเมืองอื่นๆ หากจะเปรียบเมืองนี้ ก็คงเปรียบได้กับอาหารล่อเลี้ยงมอโรน่าให้เติบโตแข็งแรง

    แอนลอส เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวและเป็นเมืองที่ไม่ค่อยมีอะไรเด่นมากนัก แต่ภายในก้อนหินก็ยังมีเพชร ดังนั้นแอนลอสก็เช่นกัน แอนลอสมีหอนาฬิกา หอนาฬิกาต้องห้ามที่เป็นฟันเฟืองหรือเครื่องจักรขับเคลื่อนสิ่งที่เรียกว่า เวลา สิ่งที่มอโรน่าพึ่งจะรู้จักเมื่อนานมาแล้ว

    เมืองสุดท้ายที่ทันสมัยและเจิดจรัสที่สุด คือดีซาร์ เมืองแห่งอุตสาหกรรมและการค้า ที่มีตั้งแต่ทิชชูยันบ้านเรือน ที่ดีซาร์มีทุกอย่างที่ท่านต้องการ ไม่ว่าจะเป็นแปรงสีฟัน ยาสีฟัน จดหมาย ก้อนหินธรรมดาที่เอาไว้ปาพื้นเล่น หรือแม้แต่บ้านหลังใหญ่ ของเก่าเหลือใช้ที่หานายหน้ามารับซื้อ ดีซาร์ไม่ได้มีดีแค่ของที่หลากหลาย แต่ยังมีรถไฟที่ครอบคลุมทั่วมอโรน่าผ่านทุกเมืองใหญ่ เมืองย่อย เพราะอย่างนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไม ดีซาร์จะเป็นเมืองที่เจริญที่สุด

     สกุลเงินของมอโรน่าคือ โรล ซึ่งสิ่งที่ใช้มีทั้งดินเผานั่นคือเหรียญและกระดาษที่เรียกว่าแบงค์ โดยเหรียญมีทั้ง 5 10 15 และ 20 ส่วนแบงค์นั้นมี 50 100 10,000 50,000 และแบงค์พิเศษที่มีจำนวนเงินได้ตั้งแต่ 50,001 ถึง2,000,000 ตามแต่ที่รัฐอนุญาติ

 

ปีโลกศักราชที่ 2078 

     ซ่า ซ่า ซ่า

     เสียงฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ได้บอกกล่าว ทำให้หลายคนต้องหยุดกิจกรรมหลายอย่างเพื่อหาที่หลบฝน เช่นเดียวกับชายหนุ่มคนนี้

     ชายหนุ่มที่มีเส้นผมสีแดงแปลกตา มีนัยน์ตาสีเหลืองทองสวย และตอนนี้กำลังยืนหน้าบูดบึ้งเพราะฝนที่มาโดยไม่ได้บอกกล่าว

     ความร้อนจากสิ่งที่อยู่ในประเป๋าทำให้อิลแกน มอลล์เลียสต้องละสายตาจากสายฝนที่ทำให้ภาพเบื้อหน้าดูมัวๆ

     แลทเติลหรือเครื่องส่งจดหมายเร็ว ใช้แทนการเขียนจดหมายซึ่งล่าช้ากว่า เพราะต้องนำไปส่งที่ไปรษณีย์ แถมกว่าไปรษณีย์จะนำไปให้ผู้รับก็คงปาไป 2 วัน แต่ถ้าใช้แลทเติลแค่ 2 วิก็สามารถส่งไปหาคนที่เราต้องการคุยด้วยได้เลย

     แลทเติลนั้นมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเท่าฝ่ามือ ลักษณะโปร่งใส มีสีหลายสีตามแต่ที่คุณจะเลือกซื้อ วิธีใช้แลทเติลนั้นง่ายดายมาก เพียงแค่ใช้ปากกาที่เหน็บอยู่ด้านข้างแลทเติล เขียนข้อความที่จะส่งไปให้ผู้รับ อ๋อ...อย่าลืมเขียนชื่อผู้รับด้วยล่ะ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการเขียนชื่อผู้ส่ง และกดลงบนแลทเติลสองครั้ง แค่นั้นจดหมายนั้นจะไปปรากฏอยู่บนแลทเติลของผู้รับทันที โดยมีข้อแม้ว่าผู้รับจะต้องมีแลทเติลเท่านั้น

     แลทเติลของอิลแกนในตอนนี้สว่างขึ้นจากการที่มีข้อความของใครบางคนส่งมาเตือนความจำว่าเขายังมีสิ่งที่ต้องทำ

'ถึงอิลแกน มอลล์เลียส

     สวัสดีค่ะ คุณอิลแกน ตอนนี้เลยเวลามาเกือบสิบหน้านาทีแล้ว ไม่ทราบว่าคุณยังจะมาอยู่ไหมค่ะ หากวันนี้คุณไม่มากรุณาแจ้งให้ดิฉันทราบด้วย

ขอบคุณมากค่ะ

จากร้านมอลลี่'

--------------50%--------------

ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย พอดีว่าคนเขียนคนนี้ผิดนัดค่ะ T T

อ๊ากกกก ตอนแรกกะจะมาอัพต่อจากวันนั้น 

แต่ทว่าเนื่องด้วยงานที่คนเขียนได้ลืมไป และการเปิดเรียนทำให้คนเขียนไม่ว่างจริงๆ ต้องขอโทษด้วยค่ะ 

วันนี้คนเขียนมาอัพแค่นี้ก่อนนะ อีกครึ่ง(50%)จะมาอัพวันพรุ่งนี้ วันนี้ขอตัวไปสลบก่อน

เหนื่อยมากอ่ะ ฮือๆ ใครก็ด้ายยยย ช่วยให้คนเขียนหายเหนื่อยที  

บอกตามตรงว่าอยากหยุดเรียนตั้งแต่christmas แล้ว แต่โรงเรียนไม่ให้อ่า งือ~~

-

 

     คำว่า ซวย เป็นคำแรกที่อิลแกนนึกขึ้นได้ในตอนนี้

'ถึงร้านมอลลี่

     ต้องขอโทษด้วยครับ พอดีฝนตก ก็เลยช้าไปเล็กน้อย แต่ยังไปอยู่นะครับ

อิลแกน มอลล์เลียส'

     แต่ทว่า.... น่าเสียดายที่ร้านมอลลี่เลือกที่จะปฏิเสธคำขอโทษและการรอคอยการมาของอิลแกน

"ไม่น่ะ ไม่ๆ ไม่!! บ้าจริง!" ว่าจบก็สถบไปเล็กน้อย จนกระทั่งรู้สึกถึงสายตาหลายคู่ที่จ้องมองมาทำให้อิลแกนต้องหุบปาก และบ่นในใจเงียบๆคนเดียว

     หากใครสงสัยว่าอิลแกนทำงานอะไร เราสามารถตอบคุณได้ นั่นคือ ช่างซ่อมนั่นเอง และหากสงสัยอีกว่าซ่อมอะไร คำตอบก็คือซ่อมของเล่น ไม่...ไม่เอาน่า ไม่ใช่ของเล่นแบบนั้น มันเป็นของเล่นจำพวกกล่องดนตรี หุ่นยนต์ที่เคลื่อนที่ด้วยฟั่นเฟือง ตุ๊กตาไขลาน และของเล่นที่ต้องใช้ฟันเฟืองในการใช้งาน อิลแกนไม่สามารถซ่อมของเล่นพวกตุ๊กตายัดนุ่น ซึ่งนั้นต้องใช้การเย็บปักทักร้อย หรือจุกนมของเล่นที่เด็กทารกชอบดูด อันนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะของแบบนั้นต้องทำใหม่และอิลแกนไม่ใช่คนทำของเล่นที่ไม่มีฟันเฟืองอยู่แล้ว

     อ๋อ....และอีกอย่างที่อิลแกนรับทำนั่นก็คือ การซ่อมนาฬิกา เครื่องจักรที่ใช้ในการขนส่งน้ำ ถึงแม้จะไม่ค่อยมีคนจ้างให้ทำก็เถอะ

     จบเรื่องอาชีพของอิลแกน มอลล์เลียสไป แล้วเริ่มเรื่องใหม่ ไม่สิ....กลับไปที่ปัจจุบัน

     หลังจากถูกปฏิเสธไปอิลแกนก็ยืนอยู่ตรงที่เดิมรอจนฝนเริ่มซา ตลอดเวลาในการรอ ความรู้สึกของอิลแกนยิ่งบูดลงเรื่อยๆ บรรยากาศรอบๆดูมืดมนลงเรื่อยๆเรื่อยๆ จนแล้วจนรอดบรรยากาศมืดมนนั้นก็ไม่มีที่ท่าว่าจะหายไปเลย

     อิลแกนรู้สึกเหมือนโลกจะถล่มถลาย อากาศรอบๆดูไม่มีความหมายในตอนนี้ อิลแกนรับรู้เพียงแค่ว่า

     เขาพลาดงานวำคัญที่สุดไปเสียแล้ว.....

     อิลแกนเหม่อมองฝนที่ค่อยๆซาลง ซาลง หลังจากนั้นสักพักฝนก็หยุดตก อิลแกนก้าวขาออกเดินจากที้หลบฝนของตน เพื่อไปหาอะไรสักอย่างทำ โดยที่อิลแกนอดไม่ได้ที่จะสาปส่งฝนที่ว่าไปเล็กน้อย

     อิลแกนเลือกเข้าร้านคัฟฟา* ที่คนไม่เยอะมากนัก ก่อนจะสั่งคัฟฟาผสมช็อคโกแลตมาหนึ่งแก้ว แล้วเดินไปหาที่นั่งแถวๆมุมร้าน โดยที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ....

"อ้าว.....อิล!!!"

     เสียงตะโกนดังแปดหลอด ลอดทะลุไปยันหน้าร้านทำเอาอิลแกนอยากจะมุดปูนหนีบิลลัส ควอคัส ชายหนุ่มที่เป็นเพื่อนกันมานาน แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะตอบกลับไป

"อืม ว่าไงบิล"

"ก็ดี นายทำอะไรที่นี้ ไม่ใช่ว่ามีงาน"

     อิลแกนนั่งลงตรงข้ามบิลก่อนจะตอบ

"ก็มี แต่ไปสายเลยถูกทางนั้นเค้ายกเลิกงาน" อิลแกนว่าพลางหยิบคุกกี้ ชิ้นพอดีคำน่าตาน่าทานขึ้นมาทานโดยไม่คิดจะขออนุญาต ทำให้เจ้าของอดไม่ได้ที่จะบ่นไปนิดหน่อย

"ว่าแต่นายเถอะ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี้ได้ล่ะ" อิลแกนเอ่ยปากถาม พอดีกับที่คัฟฟาผสมช็อคโกแลตมาวางอยู่ด้านหน้าพอดี

"เซนัดมา บอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย ไม่ใช่ว่า เธอนัดนายด้วยเหรอ"

"ไม่รู้สิ จำไม่ได้"

"ไม่ได้ดูน่าจะถูกกว่า" บิลแขวะ ก่อนจะหยิบแลทเติลของตัวเองขึ้นมากดอยู่สองสามทีแล้วจึงยื่นมาให้ดูว่าเซวีนส่งอะไรมา

'ถึงบิลลัส ควอคัส

     สวัสดีบิล นายพอจะว่างวันที่ 13 กรกฎาคม ปีนี้ไหม ฉันมีอะไรจะขอให้ช่วยหน่อย

จากเซวีน เชฟลอต'

"วันที่ 13 ก็พรุ่งนี้สิ ใช่ไหม"

"ใช่ เอาแลทเติลนายมานี้สิ" บิลพูดพร้อมกับแบมือขอแลทเติลของอิลแกน

"ฉันทำเอาได้"

     อิลแกนว่าพลางเช็คแลทเติลของตัวเองดูว่ามีข้อความจากเซวีนส่งมาบ้างไหม ไม่นานนักก็เจอ เป็นข้อความที่คล้ายกับของบิล ต่างตรงที่ถามว่า ว่างไหม เป็น ต้องว่าง เมื่อเห็นอย่างนั้นอิลแกนก็รับรู้ได้เลยว่า หายนะกำลังจะมาเยือน

     ให้ตายสิ....นั่นคือสิ่งที่อิลแกนกำลังคิด

----------100%---------

*ร้านคัฟฟา หรือก็คือร้านกาแฟ = คัฟฟามาจากเมืองที่พบกาแฟเป็นครั้งแรกอยู่ที่ประเทศเอธิโอเปีย

 

สวัสดีค่า~ พรุ่งนี้ก็ปีใหม่แล้วเนอะ 

สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าน่ะค่ะ new year eve

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา