ศึกมารสะท้านยุทธภพ

8.0

เขียนโดย Nj4566

วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 17.16 น.

  17 ตอน
  0 วิจารณ์
  16.16K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559 21.00 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

11) ศึกมารสะท้านยุทธภพ ตอนที่ 11

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ครั้นรับประทานอาหารเสร็จ กงจั่วจึงชักชวนฮันโซลงจากเขาพิรุณสวรรค์ สู่เมืองใกล้เคียงรอบข้าง เพื่อเยี่ยมเยือนบรรดาเจ้าเมือง แลประมุขพรรคต่างๆซึ่งเป็นพันธมิตรของพรรคพิรุณสวรรค์ บุคคลทั้งหลายเหล่านั้นล้วนเป็นสหายที่มีความสัมพันธ์อันดีกับกงจั่วทั้งสิ้น ต่างยินดีปรีดาต้อนรับขับสู้กงจั่วและฮันโวเป็นอันดี ฮันโซคิดว่า กงจั่วผู้นี้ช่างเป็นผู้องอาจกว้างขวางนัก แลนึกนิยมชมชอบอยู่ในใจ
 
บทสนทนา ระหว่างฮันโซ และกงจั่ว
 
ฮันโซ : ช่างเป็นเกียรติของผู้น้อยเช่นข้านัก ที่ได้รู้จักบรรดาท่านทั้งหลายเหล่านี้ ว่าแต่... ท่านกงจั่วเคยนำประมุขฉู่มาแนะนำแก่บุคคลเหล่านี้บ้างหรือไม่?
 
กงจั่ว : เคยบ้าง แต่มันกลับทำให้ข้าขายหน้ายิ่งนัก ข้าเลยไม่ยุ่งเกี่ยวกับมันอีก
 
ฮันโซ : เหตุใดเป็นเช่นนั้นเล่า?
 
กงจั่วจึงชี้ให้ฮันโซดูป้ายประกาศของพรรคพิรุณสวรรค์ ที่ติดอยู่ในเมือง กล่าวประกาศถึงงานเฉลิมฉลองวันเกิดของเจ้าเมืองเสวียจื่อ
 
 
กงจั่ว : เจ้าเห็นสิ่งนั้นหรือไม่ ป้ายประกาศนี้ประมุขฉู่ของเจ้าเป็นผู้ทำขึ้น เจ้าเห็นสิ่งใดผิดปกติในนั้นหรือไม่?
 
ฮันโซ : (มองแล้วพิจารณา) ประกาศนี้... ฉไนจึงติดตราของพรรคอื่น?
 
กงจั่ว : ผิดแล้ว นั่นคือตราของพรรคพิรุณสวรรค์ ประมุขฉู๋บอกว่า ตราของพรรคสกุณางามดี เลยไปเอาตราของพรรคสกุณามาปรับใหม่ให้เป็นของตน
 
ฮันโซ : ถ้าเช่นนี้ประมุขพรรคสกุณาจะมิโกรธเคืองหรือ
 
กงจั่ว : มันทะเลาะกับพรรคอื่นไปทั่วแคว้นแล้ว แม้นแต่สุราเลิศรสที่ประมุขพรรคราตรี สหายเก่าแก่ข้า ได้ส่งมาให้พรรคเราเป็นของขวัญในงานวันเกิดท่านเจ้าเมือง มันชิมดูแลกล่าวว่าเป็นสุราชั้นต่ำ มันเปลี่ยนสุราใหม่เสียสิ้น ประมุขพรรคราตรีรู้เรื่องเข้าแทบจะอยากซัดมันสักฝ่ามือ
 
ฮันโซ : ยังมีผู้ใดอีกหรือไม่ที่ประมุขฉู่ไปวิวาทด้วย?
 
กงจั่ว : ให้ข้าเล่าทั้งวันก็ไม่หมดดอก ตอนนี้แม้นแต่ผู้เฒ่าในพรรคเหมันต์เมฆาของเจ้าเมืองเสวียจื่อ มันก็ไปวิวาทด้วย ล่าสุดก่อนข้าจะมาที่นี่ มันไปประมือกับประมุขพรรคคิมหันต์สราญ แรกเริ่มมันฝากฝังพีเจี่ยว น้องชายของประมุขเจี่ยวแห่งพรรคคิมหันต์สราญ วานให้ช่วยทำการให้ พีเจี่ยวช่วยทำให้มันจนลุล่วง แต่ไม่ถูกใจมัน และมันได้กล่าวปรามาสพีเจี่ยวว่าโง่เง่า จนเกิดประมือกัน พีเจี่ยวนั้นบาดเจ็บ ประมุขเจี่ยวรู้เข้า บุกมาหามันถึงพิรุณสวรรค์ สู้กันอยู่ 40 กระบวนท่า
 
ฮันโซ : ผลเป็นเช่นไรเล่า?
 
กงจั่ว : จะเป็นเช่นไร? แล้วเจ้าเห็นมันเข้าพรรคหรือไม่? เมื่อคืนนี้มันได้พ่ายแพ้แก่ประมุขเจี่ยวพรรคคิมหันต์สราญ เลยหนีไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ข้าจึงได้มาคอยดูแลเจ้าแทนมันนี่แหละ มันทำสิ่งใดข้าก็ไม่ได้นึกรังเกียจมากมาย แต่มีเรื่องเดียวที่มันทำ แล้วข้ารู้สึกสะท้อนใจนัก วันนี้เจ้าคงได้เห็นยายเฒ่าพิการที่คอยทำความสะอาดภายในพรรค ขานางไม่ดี ซ้ำยังเป็นใบ้ ประมุขฉู่ว่าเลี้ยงนางไว้ก็ไร้ประโยชน์ ไม่เจริญหูเจริญตา สั่งคนให้ไล่นางออกไปจากพรรค ยายเฒ่านั้นไม่มีที่ไป วันวันต้องแอบเข้ามาขอข้าว กับพ่อบ้านกินประทังชีวิต ข้านั้นรับรู้เรื่องนี้โดยตลอด จึงได้สั่งพ่อบ้านจัดข้าวไว้ให้นางกินทุกวัน เจ้าดูสิ แม้นแต่คนพิการมันยังรังแก จิตใจมันทำด้วยอะไร
 
ฮันโซได้ยินเรื่องราวต่างๆของประมุขฉู่ดังนั้นก็รู้สึกลำบากใจยิ่งนัก นี่ข้าจักต้องมาเป็นดั่งมือขวาของคนเลวทรามเช่นนี้หรือ...? กงจั่วเห็นสีหน้ากลัดกลุ้มครุ่นคิดของฮันโซ จึงยิ้มอย่างมีเลสนัย แลกล่าวแก่ฮันโซว่า
 
กงจั่ว : ข้ามีคำถามจะถามเจ้า 3 สิ่ง เจ้าจงตอบข้ามาตามความคิดของเจ้า หากแม้นเจ้าตอบแล้ว ข้าจึงมีเรื่องจะบอกเจ้าหลังตอบทั้ง 3 คำถามจบ
 
ฮันโซ : ท่านจักถามสิ่งใด โปรดจงถามมาเถิด
 
กงจั่ว : ข้อ 1 ตำแหน่งประมุขนั้น แท้จริงคือผู้ใด?
 
ฮันโซนั้นคิดเพียงครู่ แล้วจึงยิ้ม แลตอบแกกงจั่วด้วยท่าทีสบายๆ ว่า
 
ฮันโซ : เรื่องนี้ง่ายมาก ประมุขคือผู้นำ ผู้นำ คือผู้ที่ต้องแบกรับภาระทุกสิ่งใหญ่น้อยเหนือกว่าผู้อื่น ต้องเหนื่อยยากกว่าผู้อื่น จะกล่าวว่าเสียสละมากกว่าผู้อื่นก็ใช่ที่ เนื่องด้วยมันเป็นหน้าที่ของตนโดยตรงอยู่แล้ว คุณลักษณะสำคัญของประมุขทุกคน ที่จำต้องมีไว้ในใจให้มั่น คือความกล้าหาญ กล้าที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง แม้นจะขัดต่อความต้องการในจิตใจตน ซื่อสัตย์แลยุติธรรมต่อผู้อื่น เสมอกับที่ยุติธรรมต่อตนเอง และที่ขาดไม่ได้คือต้องมีความเมตตากอรปด้วย
 
กงจั่วยิ้ม พอใจในคำตอบของฮันโซยิ่งนัก เขาจึงถามต่อข้อที่ 2
 
กงจั่ว : ดี... ดี คำถามข้อที่ 2 สาวกแลศิษย์ คือผู้ใด?
 
ฮันโซ : สาวกแลศิษย์... ก็เหมือนกับพี่น้อง พี่น้องคือแขนขา คือกำลัง เป็นผู้ที่ต้องเอาไว้ข้างหลัง ข้างหน้า และข้างๆ
 
กงจั่ว : (เกิดความสงสัย) ผู้ที่ต้องเอาไว้ข้างหลัง ข้างหน้า และข้างๆงั้นหรือ?... เจ้าจงอธิบายต่อเถิด ว่าความหมายมันคือสิ่งใด?
 
ฮันโซ : (ยิ้ม) ผู้ที่ต้องเอาไว้ข้างหลัง หมายถึง เมื่อเกิดเภทภัยน้อยใหญ่ประการใด ผู้ที่เป็นประมุขจะต้องออกไปเผชิญหน้า อยู่ข้างหน้าคนของตนเพื่อแก้ไขทุกสิ่งให้ลุล่วง แล้วเก็บคนของตนไว้ข้างหลัง ผู้ที่ต้องเอาไว้ข้างหน้า หมายถึง หากสาวกและศิษย์ของเราคิดทำสิ่งใหม่ สิ่งดี ประการใด เราจงเป็นผู้สนับสนุน คอยผลักดันเขาให้ประสบความสำเร็จ ส่วนผู้ที่ต้องเอาไว้ข้างๆ ก็หมายถึง ในหลายครั้งหลายครา ที่เราต้องให้ความเป็นสหาย ดังกัลญาณมิตรคอยอยู่เคียงข้างกับคนของเรามิได้ทอดทิ้ง
 
กงจั่วหัวเราะเสียงดัง พออก พอใจ กับคำตอบของฮันโซ กล่าวแก่ฮันโซว่า ...ดี ดี ดีมาก จนมาถึงคำถามข้อสุดท้าย
 
กงจั่ว : หากมีวันหนึ่ง มีคำสั่งโดยตรงอันใดจากท่านเจ้าเมืองเสวียจื่อสั่งการลงมา แลเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งยวด เจ้าจะทำตามหรือไม่?
 
ฮันโซ : ...หากเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่งยวดดังเช่นท่านว่านั้น ข้าจะรุดไปพบกับท่านเสวียจื่อ เพื่อสอบถามให้กระจ่างเสียก่อน ว่ามันคือคำสั่งอันแท้จริงจากท่านหรือไม่ แลข้าจึงจะกระทำ มิเช่นนั้น โดยคำสั่งที่เลื่อนลอย ข้าไม่อาจรู้ได้ว่ามันเป็นคำสั่งจริง หรือคำสั่งเท็จจากผู้ใด ข้าจะไม่กระทำสิ่งใดโดยเด็ดขาด
 
กงจั่วหัวเราะ ตบมือ พออก พอใจอีกครา กงจั่วคิดในใจว่า ฮันโซเอ๋ย หากเป็นผู้อื่นคงตอบคำถามข้อสุดท้ายนี้เพื่อเอาใจข้า ว่าจักกระทำตามคำสั่งโดยพลัน แต่เจ้ากลับไม่เป็นเช่นนั้น เจ้าเด็กน้อยผู้นี้มิผิดแล้ว ...เป็นนางแน่ ...เป็นแม่นมั่น 
 
คนผู้นี้แล คือประมุขพรรคพิรุณสวรรค์อันแท้จริง
 
กงจั่วนึกปรีดายิ่งอยู่ในใจ
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา