ศึกมารสะท้านยุทธภพ

8.0

เขียนโดย Nj4566

วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 17.16 น.

  17 ตอน
  0 วิจารณ์
  16.15K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559 21.00 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ศึกมารสะท้านยุทธภพ ตอนที่ 3

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
การมาถึงของบุคคลหนึ่ง จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงต่อบุคคลอีกผู้หนึ่ง
 
- --- -- --- - -
 
ณ เมืองที่อาศัยอยู่ของฮันโซ ซึ่งเป็นหัวเมืองใหญ่ ขณะนั้นฮันโซ กำลังศึกษาแลกเปลี่ยนวิทยายุทธ กับรุ่นน้อง รุ่นพี่ของตนอยู่ พลันก็ปรากฎการมาเยือน ของบุคคลผู้หนึ่ง เป็นชายท่าทางงาม อ้อนแอ้น แต่งกายด้วยเครื่องแต่งกายหรูหรา ราคาแพง ต้องการมาพูดคุย พบปะ แลกเปลี่ยนศึกษาหาความรู้กับฮันโซด้วย 
 
นางก็ต้อนรับโดยมารยาทอันดี ซึ่งภายในใจก็มิได้นึกคิดสงสัยอันใด  เนื่องด้วย มักมีผู้คนมากมาย แวะเวียนมายังเมืองแห่งนี้ และได้พบปะกับนางอยู่มิได้ขาดเป็นเรื่องปกติ
 
สอง-สามวัน ผ่านไป บุคคลผู้นี้ก็แวะเวียนกลับมาพบฮันโซอีก พร้อมของกำนัลมากมาย 
 
และอีกวันต่อมา เขาก็ได้มาเยือนอีก มาครานี้ด้วยเกี้ยวหรูหรางดงาม และคณะผู้ติดตามอย่างเอิกเริก ทั้งประกาศตนต่อหน้าทุกคน ว่าตนคือประมุขฉู่ แห่งพรรคพิรุณสวรรค์ แล้วเกิดชื่นชม ชอบพอฮันโซเป็นอันมาก ทั้งยังต้องการชักชวนนางให้ไปช่วยตนทำกิจการในพรรค
 
ฝ่ายฮันโซเมื่อได้ยินดังนั้น บังเกิดความสับสนพร้อมทั้งคำถามมากมายขึ้นในใจ ก่อนร่ำลากับประมุขฉู่ไปในวันนั้น ตนจึงได้ขอเวลากลับไปครุ่นคิดทบทวนเสียก่อน ประมุขฉู่กล่าวว่า อีก 3 วัน เขาจะกลับมาฟังคำตอบ
 
ทั่วแคว้นต่างรู้ดี ว่าเมืองที่อยู่ของฮันโซนั้นเป็นเมืองฝ่ายธรรมะ และเมืองของเจ้าเมืองเสวียจื่อ เป็นฝ่ายอธรรม เป็นคนละสายแขนงกันโดยสิ้นเชิง บัดนี้ประมุขฉู่ ญาติผู้น้องของเสวียจื่อผู้กระเดื่องเลื่องลือ กลับได้มา เพื่อชักชวนนางเข้าพรรคด้วยตนเองถึงที่ ทั้งยังประเคนทรัพย์สินของกำนัลให้ ด้วยต้องการนางไปเป็นดังมือขวาคนสนิท ฮันโซจึงได้นำเรื่องนี้ ปรึกษาแก่เจ้าเมืองของตน นามว่าเบี่ยนซื่อ ซึ่งมีความรักใคร่ชอบพออันดีแก่ฮันโซประดุจอาจารย์ผู้หนึ่งเสมอมา
 
▪ ▪ ▪ ▪ ▪ ▪ ▪ ▪
 
ณ บทสนทนาส่วนตัว ระหว่างฮันโซ กับเบี่ยนซื่อ
 
เบี่ยนซื่อ : บัดนี้ประมุขฉู่ ได้ประกาศตน และแสดงเจตจำนงค์แก่คนทั่วหล้าแล้ว ว่าต้องการตัวเจ้า เจ้าจะได้เติบโตไปอีกขั้น ข้ารู้ ว่าเจ้าอยากไป แต่ใยเจ้าจึงกังวลใจถึงเพียงนี้? น้องเรา
 
ฮันโซ : พี่ช่างรู้ใจข้ายิ่งนัก แต่เราอยู่ต่างฝ่าย ต่างแขนง แม้นจะไม่เคยมีความขัดแย้งอันใดต่อกัน แต่ทางฝ่ายเขาก็ต่างสายกับเรามาก จริง ที่ตัวข้าเองก็อยากเติบใหญ่ แต่ข้ายังไม่อาจรู้ว่า หากตัดสินใจก้าวออกไปจากจุดที่ข้ายืนอยู่นี้ ผลวันข้างหน้าจะร้ายดี ประการใด
 
เบี่ยนซื่อ : น้องเอ๋ย เจ้าเป็นคนมุ่งมั่น และมีความสามารถ หากเจ้าต้องการทำสิ่งใด ข้าเชื่อว่าเจ้าจะผ่านทุกสิ่งอย่างไปได้ เจ้ารู้หรือไม่? ว่าเบื้องใต้ความนิยมชมชอบของพี่น้องที่นี่ที่มีต่อเจ้านั้นเต็มไปด้วยความริษยา ทุกคนอยากเป็นให้ได้อย่างเจ้า แต่พวกเขาไร้สามารถ ยิ่งเวลานี้ ประมุขฉู่ให้ความเอ็นดูเจ้าออกหน้า เจ้าจะยิ่งอยู่ที่นี่ยาก 
 
(ทอดถอนใจเล็กน้อย)
 
...ทุกสิ่งนั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว หากเจ้าตกลงใจจะอยู่ที่นี่ต่อไป จริงอยู่วันหนึ่งเจ้าจักมีทางเติบใหญ่ แต่หนทางนั้นก็ยังอีกยาวไกลนัก แม้นเจ้าจะเก่งกาจสามารถเป็นดาวเด่น แต่ด้วยลำดับชั้น ด้วยวัยวุฒิ ก็ยากยิ่งที่จะสามารถข้ามขั้นผู้เฒ่าผู้แก่ของเมืองเราขึ้นมา อายุเจ้านับวันจะเพิ่มมากขึ้น เมื่อถึงเวลานั้นหากเจ้ารอคอยได้ก็อยู่ไป แต่หากรอคอยไม่ได้ เจ้าจะมิเสียเวลาโดยเปล่าหรือ เจ้าจงตรองดูให้ดี
 
ฮันโซ : (รำพึง)...ทุกคนต้องเติบโต...(คิดในใจ ข้าจะรอเวลาไม่ได้)
 
เบี่ยนซื่อ : ข้านั้นมีแต่ความหวังดีแก่เจ้า แม้นต่อหน้าผู้อื่นข้าจะต้องคงไว้ซึ่งความยุติธรรม แต่เจ้าเองรู้ดี ว่าเจ้าคือบุคคล ที่แม้แต่ตัวข้าก็ยังมิอาจปฏิเสธใจตนได้ ว่ารักและโปรดปรานเจ้ายิ่งกว่าผู้ใด บัดนี้เจ้ามีโอกาสเติบใหญ่ชั่วข้ามคืน ใยเจ้ามิรีบทดลองคว้า? แต่หากมีเภทภัยอันใด เจ้าก็ยังสามารถกลับมาที่นี่ได้เสมอ
 
ฮันโซ : สายน้ำไม่อาจหวนคืน หากข้าได้จากไป ข้าจะไม่มีวันถอยหลังกลับมา
 
เบี่ยนซื่อ : (ยิ้มเบาๆ) นี่แหละตัวเจ้า ผู้มุ่งมั่น ถ้าเช่นนั้น จงบินไปเถิดน้องน้อยของข้า
 
ฮันโซกล่าวลาแก่เบี่ยนซื่อ พลันกลับไปนอนครุ่นคิดลำพัง จากศิษย์รุ่นน้องตัวเล็กๆในเมืองตน บัดนี้กลับมีผู้ยิ่งใหญ่เดินทางมาหยิบยื่นโอกาสให้ถึงที่... นี่มันเรื่องตลกของชีวิตอันใดหนอ? 
 
มิมีผู้ใดไม่อยากเติบใหญ่ ฮันโซเป็นบุตรเพียงคนเดียวของครอบครัว บิดาเป็นแม่ทัพใหญ่ แต่ได้เสียชีวิตไปนานแล้ว เนื่องด้วยบิดา - มารดา มีบุตรยาก ครั้งที่ฮันโซถือกำเนิดเกิดขึ้น มีนิมิตประหลาดแก่ยายเฒ่าภายในหมู่บ้าน ว่ามีดวงดาวสองดวงตกลงมาจากฟากฟ้าอย่างรุนแรง เกิดเสียงดังจนปฐพีสั่นไหวไปทั่ว บ้านเรือนพังพินาศ 
 
ฝันนั้นเสมือนจริงจนยายเฒ่าตกใจสะดุ้งตื่น 
 
นับตั้งแต่เด็กมา ฮันโซมีนิสัยประหลาดต่างจากหญิงทั่วไป เพราะบิดาหวังอยากจะมีลูกชายมาก จึงได้อบรมเลี้ยงดูอย่างอย่างห้าวหาญ บิดานั้นรักฮันโซนัก จึงได้ถ่ายทอดวิชาทุกสรรพสิ่งที่ตนรู้แก่นาง เมื่อเติบใหญ่ นางจึงมีนิสัยต่างจากหญิงอื่นที่หวังเพียงจะได้ครองเรือน ใช้ชีวิตกับสามีและครอบครัว 
 
ครั้งหนึ่งเมื่อฮันโซยังเยาว์ วิ่งเล่นอยู่กับญาติพี่น้อง เด็กๆบ้างก็เก็บผลไม้ บ้างก็เก็บผัก มาให้แก่บิดา-มารดาตน แต่ฮันโซนั้นกลับมองไปยังปราสาท ซึ่งมีหอสูงบนยอดเขา แล้วชี้ให้มารดาดู พร้อมกล่าวว่า 
 
"วันข้างหน้า ข้าจะครอบครองสิ่งเหล่านั้น แล้วนำมาให้ท่านแม่"
 
- - -
 
แม้นจะยังไม่รู้ชัด ว่าประมุขฉู่นั้นต้องการสิ่งใดจากตน แต่ด้วยใจอยากท้าทาย อยากรู้ อยากทดลอง อยากเผชิญโลกกว้าง ฮันโซได้ตัดสินใจ ตบปากรับคำ ตกลงแก่ประมุขฉู่ ว่าจะเข้าร่วมแก่พรรคพิรุณสวรรค์ ไปช่วยกิจการของพรรค ในฐานะผู้ติดตามคนสนิทของประมุข 
 
ประมุขฉู่เกิดความยินดีปรีดาเป็นอย่างมาก ประกาศแก่ผู้ติดตามของตนว่า บุคคลผู้นี้ นับแต่นี้ไปจะมาเป็นรองประมุขพรรคพิรุณสวรรค์ อยู่รองเพียงจากข้า แต่อยู่เหนือพวกเจ้าทุกคน 
 
ฮันโซได้ขอเวลาแก่ประมุขฉู่อีก 3 วัน เพื่อจัดการภาระส่วนตัวให้เสร็จ ก่อนไปยังพรรคพิรุณสวรรค์ พรรคในเครือข่ายของเจ้าเมืองเสวียจื่อผู้กระเดื่องเลื่องลือว่าเป็นผู้มีใจโอบอ้อมอารีย์ยิ่งนัก และพรรคพิรุณสวรรค์เป็นดุจของรักล้ำค่าของท่านเจ้าเมือง ก็ได้ถูกสร้างขึ้นอย่างงดงามที่สุดในบรรดา 3 พรรค จนได้รับการขนานนามในแคว้น ว่า "พิรุรสวรรค์ดุจสวรรค์บนแผ่นดิน"

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา