Path to the God พลิกชะตาท้าอสูร

8.0

เขียนโดย NStill

วันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2560 เวลา 09.06 น.

  8 บท
  4 วิจารณ์
  8,312 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 เมษายน พ.ศ. 2560 16.46 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) ทะเลเพลิงมอดไหม้

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 7 ทะเลเพลิงมอดไหม้

                ท้องฟ้าสีเลือด เปลวเพลิงสีแดงฉานผสมกับกลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งน่าสะอิดสะเอียน เสียงกรีดร้องดังกู่ก้องทั่วโสตประสาท ลูเคียกำดาบสีดำในมือแน่น สายตาจับจ้องไปยังความโกลาหลเบื้องหน้าอย่างเลื่อนลอย ทันใดนั้นคิงส์โนลด์ตัวหนึ่งก็พุ่งเข้าใส่เขาอย่างบ้าคลั่ง ลูเคียเบี่ยงตัวหลบคมดาบที่รวดเร็วดุจสายฟ้าได้อย่างง่ายดายก่อนจะหันไปตวัดดาบใส่ลำคอของคิงส์โนลด์ตัวนั้นจนหัวของมันขาดสะบั้น โลหิตสีดำทมิฬสาดกระเซ็นเข้าเปรอะเปื้อนชุดเกราะสีดำสนิทของเขาราวกับเป็นเนื้อเดียวกัน เขาก้มหน้าลงมองศพของคิงส์โนลด์ตัวนั้นก่อนจะได้ยินบางอย่าง “ลูค...” เสียงอันคุ้นเคยปลุกให้ลูเคียตื่นจากภวังค์ก่อนจะมองหาต้นตอของเสียง เมื่อเขามั่นใจถึงต้นตอจีงรีบออกวิ่ง

                ลูเคียกระชาดาบสีดำออกจากฝักก่อนจะใช้มันปลิดชีวิตคิงส์โนลด์ลงตัวแล้วตัวเล่า ใบหน้าไร้อารมณ์เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบโลหิตบัดนี้เขาไม่สนใจสิ่งใดหากแต่สนเพียงเสียงที่เรียกชื่อเขาเมื่อซักครู่ ภายในใจมีเพียงความว้าวุ่น เรื่องราวมากมายไหลผ่านสมอง ก่อนที่เขาจะเผลอเอ่ยชื่อเจ้าของเสียงออกมา “อลิซ...” เขาตวัดดาบลงไปที่คอของคิงส์โนลด์ตัวสุดท้ายในทิศที่เขาวิ่งมา สายตามองไปรอบกายหวังจะหาเจ้าของเสียงให้พบ แต่เขาก็พบเพียงความว่างเปล่า

                “แกกำลังหาอะไรอยู่เหรอ?” เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้น ลูเคียรีบหันกลับไปมองก่อนที่จะตกใจอย่างสุดขีดเมื่อซากศพของคิงส์โนลด์นับร้อยที่เขาสังหารไปกำลังรวมร่างขึ้นเป็นร่างของลูคัส

                “ลูคัส!!!” ลูเคียมองไปยังร่างของชายหนุ่มผมน้ำตาลอย่างเยือกเย็น เวลานี้เขาไม่ได้กลัวหรือมีความกังวลใดๆต่อชายผู้นี้อีกแล้ว เพราะความรู้สึกเหล่านั้นหลอมรวมเป็นความแค้นจนหมดสิ้น... “วันนี้มาตัดสินให้รู้กันไปเลย....ฉันจะฆ่าแก!!!!” ลูเคียตะโกนด้วน้ำเสียงทรงพลัง แผ่นดินรอบข้างสั่นไหว เปลวเพลิงในสนามรบยังคงลุกโชนอย่างต่อเนื่อง

                ลูคัสตวัดมือเรียกหอกสีน้ำตาลคู่กายออกมาถือไว้ก่อนจะค่อยๆเดินสบตากับลูเคียอย่างเยือกเย็น ความกดดันเข้ารุมล้อมทั้งสองฝ่าย ทั้งคู่เดินคุมเชิงกันได้ประมาณสามรอบก่อนที่ลูคัสจะพุ่งเข้าไปเอาหอกแทงเข้าใส่ลูเคีย หากแต่ลูเคียสามารถกระโดดหลบมันได้พ้นก่อนจะฟาดคมดาบเข้าใส่ลูคัสอย่างรุนแรงแต่ลูคัสก็สามารถใช้หอกตั้งรับมันได้ ลูเคียใช้แรงผลักตัวเองให้กระเด็นออกมาจากหอกของลูคัสก่อนจะตวัดดาบสีดำในมือหนึ่งครั้ง คลื่นพลังสีดำพุ่งเข้าใส่ลูคัสอย่างรวดเร็ว ลูคัสจึงใช้หอกแทงเข้าที่พื้นก่อนจะงัดมันขึ้นมาอย่างเกรี้ยวกราดส่งผลให้คลื่นพลังสีแดงฉานพวยพุ่งขึ้นมาป้องกันเขาไว้ ลูเคียไม่ปล่อยให้ลูคัสหายใจเขารีบพุ่งตัวเข้าไปสาดสายพลังเข้าใส่คลื่นพลังของลูคัสอย่างบ้าคลั่งจนมันขาดสะบั้นลง ก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปหวังแทงดาบเข้าที่หน้าของลูคัส ลูคัสเบี่ยงตัวหลบก่อนจะศอกเข้าไปกลางอกของลูเคียอย่างจัง โชคดีที่ลูเคียมีเกราะป้องกันจึงไม่ทำให้เจ็บเท่าไรแต่ลูคัสก็ใช้จังหวะนั้นฟาดหอกเข้าที่กลางหลังของลูเคียอย่างรุนแรงจนเสียงโลหะแตกร้าวดังขึ้น ลูเคียรีบตั้งสติพลิกตัวอย่างรวดเร็วเขาใช้จังหวะที่ลูคัสกำลังเผลอเตะเข้ากลางหน้าของลูคัสจนลูคัสเกิดอาการเซแล้วจึงซ้ำด้วยการใช้ด้ามดาบกระแทกเข้ากระหม่อมของลูคัส ลูคัสซึ่งกำลังตกใจกับการโจมตีที่ไม่ทันตั้งตัวรีบใช้เท้ายันพื้นดีดตัวออกห่างจากลูเคียแต่พริบตานั้นลูเคียก็ตวัดมือขึ้น วัตถุสีดำก่อรูปขึ้นในอุ้งมือของลูเคียก่อนที่เขาจะเขวี้ยงมันใส่ลูคัส วัตถุรูปร่างประหลาดกลายร่างเป็นโซ่อย่างฉับพลันก่อนที่มันจะพุ่งเข้าพันธนาการบุตรแห่งพสุธาเอาไว้ ลูเคียออกแรงกระชากโซ่นั้นอย่างแรงเพื่อดึงลูคัสเข้ามาหาและในจังหวะที่กำลังดึงโซ่เขาก็เงื้อมดาบขึ้นเตรียมใช้มันปลิดชีพลูคัส ไอพลังสีดำส่งเสียงดังแสบหูก่อตัวหนาขึ้นและตอนที่ลูเคียตวัดดาบลงมันก็เปลี่ยนร่างไปเป็นใบมีดเล่มยักษ์ที่พุ่งเข้าสะบั้นคอของลูคัส!!!

                ไม่มีเสียงกรีดร้องใดในโสตประสาทของลูเคียอีกต่อไป มีเพียงความว่างเปล่าสีดำสนิทที่รายล้อมตัวเขาไว้ ไม่มีชุดเกราะสีดำซึ่งดูดุดัน ไม่มีดาบสีดำอันคมกริบ ไม่มีทะเลเพลิงอันร้อนระอุและที่สำคัญไม่มีศพของลูคัส... ลูเคียหลับตาลงก่อนจะค่อยๆถูกพื้นเบื้องล่างกลืนกินไปอย่างช้าๆเรื่องราวมากมาไหลผ่านสมอง จนกระทั่งเขาไม่รู้สึกถึงตัวตนของตัวเอง รู้สึกเพียงเหตุการณ์มากมายที่ได้ผ่านพ้นไป ไม่รู้เป็นเวลานานเท่าใด อาจจะเป็นวัน เป็นเดือน เป็นปีที่เขาตกอยู่ในภวังค์นั้นก่อนจะมีเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้น....

                “ตื่น”ชายวัยกลางคนใบหน้าดูโหดเหี้ยมมีหนวดเครารกรุงรังเต็มใบหน้าเป็นคนพูดปลุกลูเคียตื่นขึ้นจากความฝัน ลูเคียค่อยๆลืมตาขึ้นความทรงจำหลายอย่างไหลเข้าสมอง เป็นเวลาหลายนาทีกว่าเขาจะสามารถเรียบเรียงความทรงจำเหล่านั้นได้

                “ท่านเป็นใครกัน แล้วข้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”ลูเคียหันไปถามชายแปลกหน้า

                “ข้ามีนามว่าจอร์เจีย โรมันวาล์ซและที่นี่คือบ้านของข้า ข้าพบเจ้านอนบาดเจ็บอยู่กลางทะเลทรายขณะที่กำลังกลับมาจากเมืองน่ะ”ชายแปลกกน้าหรือจอร์เจียตอบ

                “ท่านช่วยรักษาข้าอย่างนั้นหรือ?”ลูเคียถามต่อ

                “ข้าเคยเป็นหมอน่ะแต่ตอนนี้ไม่ได้เป็นแล้วโรงพยาบาลที่ข้าเคยทำงานปิดตัวไปน่ะ”จอร์เจียตอบด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร

                “ข้าต้องขอบคุณท่านมากที่ช่วยชีวิตข้าท่านจอร์เจีย ข้าจะไม่มีวันลืมบุญคุณนี้แน่นอน”ลูเคียโค้งคำนับจอร์เจียอย่างสุภาพ

                “ไม่เป็นไรหรอกข้าน่ะชอบช่วยเหลือผู้อื่นอยู่แล้ว แต่บาดแผลของเจ้าฉกรรจ์มากทีเดียวกว่าจะรักษาได้ทำเอาข้าหนื่อยเชียวล่ะ”จอร์เจียตอบอย่างใจดี

                “จริงสิบาดแผลของข้า!!”ลูเคียรีบก้มลงมองบาดแผลของตนก่อนจะพบว่ามีเพียงรอยแผลเล็กน้อยเท่านั้น

                “ไม่ต้องห่วงหรอกมันใกล้จะหายดีแล้วล่ะ เจ้าสลบไปเกือบสองเดือนทีเดียวมันนานพอที่จะทำให้แผลปิดตัวน่ะ”จอร์เจียพูด

                สีหน้าของลูเคียฉายแววกังวลทันทีที่ทราบว่าตนเองหลับใหลไปถึงเกือบสองเดือน สภาพของเขาในตอนนี้ก็ยังไม่สมบูรณ์พร้อม คงไม่สามารถที่จะเดินทางไปเมืองหลวงได้ทันที

                “ไม่ต้องกังวลไปมีคนฝากนี่มาให้เจ้า”จอร์เจียเห็นสีหน้ากังวลของลูเคียจึงยื่นจดหมายฉบับหนึ่งให้ลูเคีย ลูเคียรับมันมาเปิดอ่านทันที

               

                ถึง ลูเคีย เมอร์ริเอล

                                เจ้าไม่ต้องกังวลไปพักฟื้นตัวให้พร้อมแล้วไปพบข้าที่เมืองหลวง ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่นั่นระหว่างที่เจ้าพักฟื้นข้าจะหาทางช่วยหมู่บ้านทุกวิถีทาง

                จาก ไมเนอร์ริช เคอร์เทีย

                “พี่ไมเนอร์!!”ความยินดีถาโถมเข้าสูจิตใจของลูเคีย ไมเนอร์คือพี่ชายแท้ๆของแม็กนัสพวกเขาสนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆก่อนที่พี่ไมเนอร์จะเริ่มออกเดินทางไปล่าอสูร

                “เขาเดินทางมาพบเจ้าก่อนที่ข้าจะผ่านมา เจ้าโชคดีจริงๆนะ”จอร์เจียพูดก่อนจะหันไปสบตาลูเคีย “แต่ถึงกระนั้นพิษในร่างกายของเจ้าก็ยังไม่หมดดีดังนั้นข้าขอให้เจ้าอยู่ที่นี่เพื่อรอให้พิษถูกขับออกจนหมดก่อนซักสองถึงสามวันละกันนะ”จอร์เจียพูดด้วยน้ำเสีงจริงจัง

                ลูเคียไม่มีเหตุผลที่จะปฎิเสธเขาไม่ได้อยู่อย่างสงบๆมาพักหนึ่งแล้วนี่จึงเป็นการดีที่จะพักฟื้นแรงใจของเขา อีกทั้งยังมีพี่ไมเนอร์คอยทำหน้าที่แทนเขาอยู่เขาจึงตัดสินใจอยู่ต่อ

                “อลิเซีย”ลูเคียพูดอย่างแผ่วเบาก่อนจะมองออกไปนอกหน้าต่าง...ความจริงเขาเพียงแค่ต้องการจะหาข้อมูลบางอย่างก่อนที่เขาจะออกเดินทางอีกครั้ง คำว่าพักผ่อนเป็นเพียงเหตุผลที่เขาใช้หลอกตัวเองเพื่อที่จะให้ดูไม่เป็นการตามใจตัวเองมากเกินไป ข้อมูลที่เขาต้องการหาเป็นข้อมูลของตำนานปรำปราในวัยเด็กที่เขานึกขึ้นได้ตอนฟื้นจากการหมดสติเมื่อครู่ เป็นตำนานเกี่ยวกับเส้นทางไปสู่แดนแห่งเทพเจ้าหรืออีกชื่อหนึ่งคือ แพร์ท ทู เดอะ ก็อด มันเป็นเพียงความหวังสุดท้ายของเขาที่จะได้พบอลิเซียอีกครั้ง...‘รอก่อนนะอลิเซียข้าจะไปหาเจ้า....’

 

ถ้าชอบก็ทิ้งคอมเมนต์ไว้ได้เลยครับ หรือถ้าอยากให้ปรับปรุงตรงไหนก็ทิ้งคอมเมนต์ไว้ได้เหมือนกัน ขอบคุณที่สละเวลามาอ่านครับ^^

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา